BAiJR - Flandre


東方文花帖 ~ Bohemian Archive in Japanese Red.
โทวโฮวบุนคะโฉว (บันทึกอักขระบุปผาแห่งตะวันออก) ~ บทความแหกกฎในสมุดญี่ปุ่นปกแดง


.........................................................................................................................................................................................

ฤดูกาลที่ 120 เดือนจันทรคติที่ 3 วันที่ 4

ดาวตกขนาดยักษ์ระเบิดเป็นเสี่ยงๆกลางอากาศ
รอดพ้นจากวิกฤตการณ์อุกกาบาตโหม่งโลก

เดือน ◯ วันที่ ◯ เวลาประมาณ 23 นาฬิกาได้เกิดแสงสว่างวาบและเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวเหนือน่านฟ้าเกนโซวเคียว
ตัวจริงของแสงสว่างวาบนั้นคือ การระเบิดอย่างรุนแรงของดาวตกนั่นเอง
วันต่อมาจึงได้ทราบว่า การระเบิดนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากฝีมือของคนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตกใจยิ่งนัก
ในครั้งนี้จึงอยากถ่ายทอดเรื่องราวที่น่าตื่นตะลึงและไขปริศนาการระเบิดอันนั้นไปพร้อมๆกัน

ผู้ที่ทำให้ดาวตกระเบิดเป็นจุลคือ ฟลังดร์ สคาร์เลท (ผีดูดเลือด)
น้องสาวของ เรมิเลีย สคาร์เลท ผู้เป็นเจ้าแห่งคฤหาสน์มารแดง
เกี่ยวกับเหตุผลที่ทำให้อุกกาบาตระเบิด เธอกล่าวไว้ดังนี้

「ดาวตก ? อีโธ่เอ๊ย ลองมาถึงมือฉันแล้วล่ะก็ ของระดับนั้นมันก็แค่จิ๊บจ๊อย
 ก็แค่ จึ้กจึ้กจึ้ก น่ะนะ
 ส่วนมากฉันจะพูดว่า .. อุกกาบาตก้อนนึงแล้วไง? ..
 ไม่รู้เหรอว่าพวกอุกกาบาตน่ะไม่มีความหมายสำหรับฉันเลย ?
 หอกตกลงมาใส่ยังจะน่ากลัวกว่าซะอีก
 ไม่สิ ฝนตกน่ากลัวกว่า
 อ้อ แต่ฉันไม่กลัวมันจูวนะ」

เนื้อหาไม่ปะติดปะต่อจนจับใจความไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็รู้แล้วว่าการทำให้ดาวตกระเบิดนั้นเป็นเรื่องง่ายๆ
ลองถามเธอดูดีกว่าว่าทำอย่างไรจึงสามารถระเบิดดาวตกได้

「สรรพสิ่งล้วนมีของที่คล้ายดวงตาอยู่น่ะน้า
 พอแทงจึ้กเข้าไปตรงนั้นมันก็จะตูม~เลยล่ะ
 เอ๋ ? ทำยังไงถึงเข้าไปใกล้ดาวตกแล้วแทงตามันได้น่ะเหรอ ?
 ตาของดาวตกมันอยู่ที่นี่ไงล่ะ
 บนมือของฉันนี่แหละ
 แต่จะว่าไปแล้ว ดวงตาของสรรพสิ่งมันก็อยู่บนมือขวาของฉันนี่ล่ะนะ
 เพราะงั้นเลย จึ้ก~ ได้สบายๆเลยล่ะ... ...」

ถึงแม้ความพยายามในการเก็บข้อมูลของฉันจะจบลงด้วยความสูญเปล่า แต่สุดท้ายก็ได้ฟังรายละเอียดที่น่าสนใจจากเจ้าแห่งคฤหาสน์มารแดง

เธอเล่าว่า อันที่จริงแล้วอุกกาบาตลูกนั้นมุ่งตรงมายังคฤหาสน์มารแดง
และมันก็เป็นแผนที่ถูกวางไว้ให้มาตกในวันนั้นด้วย
อุกกาบาตลูกนั้นถูกกำหนดให้มาตกที่คฤหาสน์มารแดงในวันนั้นและเวลานั้น
ถ้าหากปล่อยไว้ไม่ทำอะไรกับมันล่ะก็ คฤหาสน์มารแดงและบริเวณใกล้เคียงจะต้องได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงแน่นอน
แต่ทว่า การที่น้องสาวระเบิดอุกกาบาตทิ้งก็เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดไว้แล้วเช่นกัน
เรื่องราวจากปากของเจ้าบ้านได้จบลงแต่เพียงเท่านี้ และมันก็เป็นเรื่องที่ฟังดูแปลกพิลึกเอาการ

อากาศเริ่มร้อนขึ้น ดอกไม้ก็เริ่มบานแล้ว, รู้สึกได้ถึงการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิเลยเชียว
แต่ถึงอากาศจะอบอุ่นขึ้นก็อยากเตือนให้ระวังจะเป็นหวัดกันด้วยนะคะ
(ชาเมย์มารุ อายะ)

Tips :
- จากบทความนี้ทำให้ได้รู้วิธีการใช้ความสามารถของฟลังดร์ ซึ่งก็นับว่าน่ากลัวมากๆ
- ความสามารถของฟลังดร์นั้นดูไปก็คล้ายกับตัวเอกของเรื่อง Tsukihime แต่ท่าทางจะน่ากลัวกว่านั้นอีก
- หอกตกลงมาใส่ ... คาดว่าหมายถึงเรมิเลีย หรือเป็นการล้อการ์ตูนเรื่องอื่น จำเป็นต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมอีกหน่อย
- ฝนตก ... ของแสลงซึ่งเป็นจุดอ่อนอันร้ายแรงสำหรับแวมไพร์
- มันจูว เป็นขนมทำจากแป้งปั้นเป็นก้อนสอดไส้ ลักษณะคล้าย หมั่นโถวของจีน แต่หมั่นโถวนั้นไม่มีไส้
มันจูวจึงใกล้เคียงกับ ซาลาเปา หรือ ขนมเปี๊ยะ ในภาษาไทยมากกว่า
แต่ว่ามันจูวนั้นก็มีมากมายหลายแบบ บางชนิดนั้นคล้ายขนมเปี๊ยะ บางชนิดคล้ายซาลาเปา บางชนิดก็คล้ายเยลลี่
และเนื่องจากเราไม่อาจทราบได้ว่า มันจูว ที่ถูกพูดถึงในบทความนี้หมายถึงมันจูวชนิดใด
จึงขอเรียกรวมๆว่า มันจูว เพื่อความไม่ผิดพลาด และเพื่อถ่ายทอดวัฒนธรรมญี่ปุ่น
- มันจูว ... สาเหตุที่พูดถึงมันจูวนั้นไม่อาจทราบได้
อาจมาจากเรื่องตลกเลื่องชื่อของญี่ปุ่น "มันจูวน่ากลัว" ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการตั้งวงเล่าเรื่องน่ากลัวของคนกลุ่มหนึ่ง
แต่ละคนเล่าเรื่องที่ตัวเองกลัว มีทั้งที่เกี่ยวกับ งู แมงมุม ตะขาบ ฯลฯ แต่มีอยู่คนหนึ่งบอกว่าตนเองไม่กลัวอะไรเลย ยกเว้นแต่มันจูว
แค่พูดถึงมันจูวก็กลัวจนหนีไปนอน เพื่อนๆก็เลยแห่กันไปซื้อมันจูวจากทั่วสารทิศมาวางไว้รอบเตียงเพื่อแกล้งคนคนนี้
แต่เมื่อตื่นขึ้นมา คนคนนั้นกลับบอกว่า ตนเองกลัวจนต้องกินมันให้หมด แล้วก็นั่งกินมันจูวอย่างเอร็ดอร่อย
เพื่อนๆโกรธที่โดนหลอกจึงถามว่า ตกลงเจ้ากลัวอะไรกันแน่ ก็ได้คำตอบมาว่า ฉันกลัวน้ำชาอร่อยๆ ... จบ.
ในเรื่องโดราเอมอน มีตอนหนึ่งที่โดราเอมอนทำการเพิ่มจำนวนโดรายากิอย่างมหาศาล และเรื่องเคโระโระก็เอาไปล้อเลียนเปลี่ยนเป็นมันจูวแทน


ตามอ่านในฉบับ

หน้า   6 เจ็ดสมุนไพรใบไม้ผลิไม่ครบองค์ ? เก็บเกี่ยว โกะเกียว และ โฮะโตะเคะโนะสะ ไม่ได้

หน้า 15 ฤดูการดื่มน้ำชาฮายะซึมิเหยาะน้ำมันนาทาเนะเริ่มต้นขึ้นแล้ว

หน้า 23 หมู่ดาวจักรราศีคลาดเคลื่อนมีต้นเหตุมาจากการเล่นซนของโยวเซย์


Tips :
- เจ็ดสมุนไพร แบ่งได้เป็นสามกลุ่มคือ เจ็ดสมุนไพรในอดีต, เจ็ดสมุนไพรใบไม้ร่วง และเจ็ดสมุนไพรใบไม้ผลิ
เจ็ดสมุนไพรใบไม้ผลิประกอบด้วย(ชื่อเดิม) เซะริ, นาสึนะ, โกะเกียว, ฮาโคะเบระ, โฮะโตะเคะโนะสะ, ซึสึนะ, ซึสึชิโระ
ชื่อปัจจุบันได้แก่(เรียงตามลำดับ) เซะริ, หญ้าเพนเพน, หญ้าฮะฮะโคะกุ, ฮาโคะเบะ, โคโอนิทาบิราโคะ, คาบุ(หัวผักกาด), ไดคอน(หัวไชเท้า)
(ชื่อในการประกอบอาหารขอละเอาไว้)
เจ็ดสมุนไพรใบไม้ผลินั้นนิยมนำมาต้มรวมกับข้าวต้มกลายเป็น ข้าวต้มเจ็ดสมุนไพร แล้วทานในเช้าวันที่ 7 เดือนมกราคม(เทศกาลจินจิทสึ)ของทุกปี
ส่วนเจ็ดสมุนไพรใบไม้ร่วงนั้น มีไว้เชยชมเท่านั้น เนื่องจากมีขนาดเล็กและสีสันสวยงาม
- ฮายะซึมิ แปลตรงตัวว่า เก็บเกี่ยวเร็ว หรือก็คือ Early First Flush ซึ่งหมายถึงการเก็บเกี่ยวเร็วเป็นพิเศษ เร็วยิ่งกว่า First Flush เสียอีก
การเก็บเกี่ยวใบชา แบ่งได้ตามฤดูกาลดังนี้
Early first flush (ก่อนหรือต้นฤดูใบไม้ผลิ), First flush (ฤดูใบไม้ผลิ), Inbetween (ช่วงกลางๆ), Second flush (ฤดูร้อน), Autumnal (ฤดูใบไม้ร่วง)
ในประเทศศรีลังกาจะมีเพิ่มมาอีกสองฤดูคือ Best season และ Quality season
- น้ำมันนาทาเนะ เป็นน้ำมันพืชชนิดหนึ่งของญี่ปุ่น ใช้ในการประกอบอาหาร คนต่างประเทศมักผิดเข้าใจว่าเป็นน้ำมัน Canola (Rapeseed)
หากจะกล่าวอย่างเข้มงวดแล้วล่ะก็ น้ำมันนาทาเนะนั้นไม่เหมือนกับน้ำมัน Canola (น้ำมัน Canola มีการคัดสรรที่ดีกว่าน้ำมันนาทาเนะ)


.........................................................................................................................................................................................


ฟลังดร์ 「ตอนจบมันแปลกๆน้า」
อายะ 「เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันก็แปลกมากแต่แรกแล้วล่ะค่ะ
    อาจเป็นฝีมือของสภาพอากาศของฤดูใบไม้ผลิก็ได้นะคะ」
ฟลังดร์ 「หนังสือพิมพ์ที่เขียนเกินความจริงไม่ได้แบบนี้ เขียนไปก็ไม่เห็นได้อะไรขึ้นมาเลยนี่นา ?」
อายะ 「หนังสือพิมพ์นั้น ไม่ใช่สิ่งที่เขียนแต่เรื่องเกินความจริงหรือสิ่งที่เล่าแต่เรื่องแปลกๆที่น่าสนุกค่ะ」
ฟลังดร์ 「ฮ้าー นี่ก็เข้าฤดูใบไม้ผลิแล้วนะ
    เดี๋ยวก็จะได้ดื่มชาใหม่ๆแล้วสิ ?」 (หมายถึงใบชาที่เก็บในช่วง First Flush)
อายะ 「รู้สึกว่าถามคุณไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็จะขอถามอีกครั้งนะคะ
    คุณเป็นคนทำให้อุกกาบาตระเบิดจริงๆเหรอคะ ? เรื่องที่ว่าทำยังไงนั่นเอาไว้ก่อนก็ได้ค่ะ」
ฟลังดร์ 「จึ้กแล้วก็ตู้ม~น่ะ」
อายะ 「เรื่องที่คุณเรมิเลียพูดเป็นเรื่องจริงเหรอคะ ?」
ฟลังดร์ 「เรื่องที่ว่าอุกกาบาตเป็นแผนที่ถูกวางเอาไว้น่ะเหรอ ? เรื่องแบบนั้นมันเป็นไปไม่ได้หรอก
    นั่นมันก็แค่คำพูดติดปากของยัยนั่นน่ะ」
อายะ 「คำพูดติดปาก, เหรอคะ」
ฟลังดร์ 「ใช่แล้ว คำพูดติดปากนั่นล่ะ
    ยัยนั่นน่ะ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ชอบแสร้งทำเป็นพูดว่าตัวเองรู้มาตั้งแต่แรก
    บอกว่าตัวเองรู้ชะตาอะไรทำนองนั้นนั่นล่ะ」
เรมิเลีย 「นี่นี่, อย่าเรียกท่านพี่ว่ายัยนั่นสิ」
ฟลังดร์ 「ตายจริง, มาอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะ ? ท่านพี่」
อายะ 「อา, มาได้จังหวะพอดีเลยค่ะ
    คุยกับคุณน้องคนเดียวแล้วมัน... ...」
ฟลังดร์ 「อ้าว, คุยกันทั้งๆที่สื่อสารไม่รู้เรื่องเหรอเนี่ย ?」
อายะ 「ก็ตามนั้นล่ะค่ะ
    ขนาดตัวเองยังไม่เข้าใจเลยไม่ใช่เหรอคะ」
เรมิเลีย 「แล้ว, ที่ว่ามาพอดีน่ะ คุยกันเรื่องอะไรล่ะ ?」
อายะ 「เรื่องอุกกาบาตระเบิดเมื่อวันก่อนน่ะค่ะ... ...」
เรมิเลีย 「อ๋อ นั่นน่ะเอง
    แค่ระเบิดอุกกาบาตทิ้งไปไม่กี่ลูกนี่ไม่น่าจะมีความผิดนี่นะ」
อายะ 「... ...แล้วที่ว่าเป็นแผนที่ถูกวางไว้นี่มันหมายความว่ายังไงเหรอคะ ?」
เรมิเลีย 「เขียนบทความลงหนังสือพิมพ์แท้ๆแต่ไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นเหรอเนี่ย ?」
อายะ 「ขอประทานโทษนะคะ แต่ฉันก็อยากจะเชื่อว่าคำพูดที่พวกคุณใช้กันเป็นภาษาญี่ปุ่นค่ะ」
ฟลังดร์ 「ตั้งแต่มาที่เกนโซวเคียวนี่มันผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วน้า」
เรมิเลีย 「จะอธิบายอีกครั้งละกัน
    อุกกาบาตเป็นแผนที่ถูกวางเอาไว้ก็หมายความว่า มันถูกทำให้ตกลงมาด้วยฝีมือของใครบางคนไงล่ะ
    เล็งมาที่กลางคฤหาสน์มารแดงพอดีเป๊ะเลยด้วย」
อายะ 「นั่นเป็นภาษาญี่ปุ่นเหรอคะ ?」
เรมิเลีย 「เป็นภาษาญี่ปุ่นโบราณไม่ผิดแน่
    หลักฐานพิสูจน์ว่ามันเป็นอุกกาบาตโดยเจตนาคือนี่ไงล่ะ ลองเพ่งดูที่สะเก็ดอุกกาบาตชิ้นนี้ให้ดีสิ
    มีคำสาปอัดกันอยู่แน่นเลยเห็นมั้ย ?」
ฟลังดร์ 「คำสาปนี่น่ะไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่นสินะ」
อายะ 「... ...」
เรมิเลีย 「ไง, เห็นเจ้านี่แล้วยังไม่เข้าใจอีกเหรอว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น ?」
อายะ 「หมายความว่า ใครบางคนใช้อุกกาบาตนี่เปิดฉากโจมตีเข้าใส่ จากนั้นก็จะเปิดศึกงั้นเหรอคะ... ...」
ฟลังดร์ 「นั่นสิน้า
    จะถามอีกทีละกัน, คำสาปที่ถูกเขียนบนอุกกาบาตนี่มันไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่นสินะ」
อายะ 「อย่างน้อย ฉันก็ไม่เห็นว่าเป็นภาษาญี่ปุ่นเลยแม้แต่นิดเดียวค่ะ」
เรมิเลีย 「ไม่หรอก นี่มันเป็นภาษาญี่ปุ่นโบราณน่ะ
    เขียนว่า .. ฝนดาวตกหมู่ดาวสิงห์ .. ด้วยภาษาญี่ปุ่นที่แสนจะโบร้าณ~โบราณน่ะ」
อายะ 「... ...ให้ตายสิ, เป็นเรื่องจริงสักแค่ไหนกันแน่เนี่ย」

Tips :
- จากเนื้อหาของบทความ อาจเป็นไปได้ว่าการรับรู้ชะตาเป็นหนึ่งในวิธีการใช้ความสามารถของเรมิเลีย แต่ก็ไม่สามารถระบุได้แน่ชัด
- ฟลังดร์เห็นอักษรบนสะเก็ดอุกกาบาตด้วย แสดงว่ามัน"น่าจะ"มีอักขระอยู่จริง เพราะไม่ใช่ว่าเรมิเลียเห็นคนเดียวด้วยความสามารถของเธอ
แต่มันเป็นภาษาอะไรกันแน่นั้นก็ไม่อาจทราบได้ และมันเกิดจากความตั้งใจของใครบางคนจริงหรือไม่ก็ไม่อาจทราบได้เช่นกัน
เนื่องจากข้อมูลที่หาได้บางส่วนกล่าวว่า ฝนดาวตกนั้นบางทีก็จะมีอุกกาบาตที่พลัดออกนอกเส้นทางจนตกมายังโลกเป็นบางครั้ง
หากจะเป็นฝีมือของใครบางคนก็อาจเป็นเอย์รินและคางุยะ แต่มันอาจเกิดจากธรรมชาติก็ได้ เรื่องนี้จึงยังคงคลุมเครือต่อไป


ฟลังดร์ สคาร์เลท

น้องสาวของเรมิเลีย ผู้มีความสามารถในการทำลายล้างสรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวง
เธอควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้ โดยปกติแล้วจึงไม่ได้รับอนุญาตให้ออกมานอกตัวคฤหาสน์

ผลงานการแสดง :
『東方紅魔郷』



.........................................................................................................................................................................................

กลับไปที่สารบัญของหนังสือเล่มนี้