東方星蓮船 ～ Undefined Fantastic Object.
โทวโฮวเซย์เรนเซน (เรือบัวดาวแห่งตะวันออก) ～ วัตถุมหัศจรรย์ที่ไม่แน่ชัด
.........................................................................................................................................................................................
Main Page
| ฝูงชนลืมตาตื่นจากพิ้นปฐพีที่ปกคลุมไปด้วยดินโคลนและน้ำแข็ง หิมะอันน้อยนิดที่ปกคลุมเกนโซวเคียวนั้น มากมายเพียงพอที่จะกักขังเหล่าวิญญาณพิภพที่ลืมตาตื่นขึ้นมาในฤดูหนาวที่เพิ่งผ่านไป, และทำให้การเคลื่อนไหวของเหล่าโยวเซย์ทื่อลง ถึงเวลาแห่งการบอกลาฤดูแห่งการนอนอย่างสงบนี้เสียที ศาลเจ้าฮาคุเรย์ ศาลเจ้าซึ่งตั้งอยู่ ณ พรมแดนที่ห่างไกลจากหมู่บ้านมนุษย์ ฮาคุเรย์ เรย์มุ, มิโกะแห่งศาลเจ้าฮาคุเรย์ได้ยินข่าวลือประหลาดจากจอมเวทที่อาศัยอยู่ในป่า ข่าวลือนั้นว่า มีผู้พบเห็นเรือลึกลับกำลังบินไปบนท้องฟ้าผ่านรอยแยกของเมฆ ดูเหมือนเรือลำนั้นกำลังบินวนเวียนไปมาในหมู่เมฆเพื่อตามหาบางสิ่งบางอย่างอยู่ ตัวจริงของเรือลำนั้นคืออะไรกันแน่นะ มันมีจุดประสงค์อะไรกันแน่นะ ความสนใจของพวกเรย์มุไม่เคยหมดสิ้น เพราะได้กลิ่นของสมบัติอย่างบอกไม่ถูก 東方星蓮船 ～ Undefined Fantastic Object. |
หน้าเวบ Official หลักของภาคนี้ คือ http://www16.big.or.jp/~zun/html/th12top.html
Online Manual อยู่ที่หน้า http://www16.big.or.jp/~zun/html/th12man/index.html
โดยท่านสามารถดาวน์โหลด Demo และ Patch ของเกมนี้ได้ที่หน้า http://www16.big.or.jp/~zun/html/th12dl.html
ปัจจุบันแพทช์ล่าสุดอยู่ที่ 1.00b ดาวน์โหลดได้ที่ ลิงค์นี้
ส่วนตัวเดโมสำหรับทดลองเล่น (体験版) อยู่ที่เวอร์ชั่น 0.02a ขนาด 148 Mb มีหลายโฮสท์ให้เลือกโหลด
โดยมีการใช้ชื่อของเทพแห่งโชคลาภทั้งเจ็ด มาตั้งเป็นชื่อโฮสท์สำหรับเปิดให้ดาวน์โหลดตัวทดลองเล่นนี้
บทเกริ่นจากผู้สร้าง :
โทโฮ Project กระสุนที่สิบสอง !!
「東方星蓮船 ～ Undefined Fantastic Object.」 เป็นเกมแนว สาวน้อยห่ากระสุน Shooting
ผลงานครั้งนี้คือ เกมที่เล่นด้วยความรู้สึกอยากปลดปล่อยอย่างเต็มที่
＊เกมนี้มีฉากห่ากระสุนที่รุนแรง, เด็กน้อยและผู้มีอาการแพ้ห่ากระสุน ควรปรึกษาแพทย์
ผู้พัฒนา : เซี่ยงไฮ้อลิสเกนกาคุดัน
จัดจำหน่าย : เซี่ยงไฮ้อลิสเกนกาคุดัน
วางจำหน่าย : (Demo) 8 มีนาคม 2009
(Master) 15 สิงหาคม 2009 (งาน Comike 76)
Minimum Requirement :
OS ; Windows 2000/XP ที่มีการอินสตอล DirectX 9.0c (เวอร์ชั่น November 2008) ขึ้นไปไว้ในเครื่องแล้ว
CPU ; Pentium (หรือเทียบเท่า) ที่มีความเร็ว 1 GHz ขึ้นไป
VGA ; การ์ดจอความเร็วสูงที่ตอบสนองต่อ DirectGraphic ระดับ DirectX 9.0c ขึ้นไป และมี VRAM 64 Mb ขึ้นไป
Recommend Requirement :
Sound ; Sound Card ที่ตอบสนองต่อ Direct Sound
อื่นๆ ; จอยแพด, ภูมิคุ้มกันต่อห่ากระสุนในระดับหนึ่ง, ความเชื่อมั่นว่าตนสามารถบินไปบนท้องฟ้าได้ (สำคัญ)
เนื้อเรื่องโดยย่อ : (ตั้งแต่ปมต้นเหตุของเรื่อง จนถึงจบ Extra)
กาลครั้งหนึ่งนานเกินพันปีมาแล้ว นักบวชสาวนาม ฮิจิริ เบียคุเรน ได้ใช้ชีวิตและฝึกวิชาร่วมกับน้องชายนาม เมียวเรน จนเก่งกล้า
ครั้นเมื่อเมียวเรนถึงแก่กรรม เธอก็เกิดกลัวความตายและการสูญเสียพลังขึ้นมา จึงใช้เวทย้อนวัยเยาว์กับตัวเองจนกลายเป็นผู้ไม่แก่ไม่ตาย
และนั่นทำให้เธอเปลี่ยนจากมนุษย์ กลายเป็นโยวไคเผ่าจอมเวท โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้
เธอช่วยเหลือสรรพชีวิตด้วยความเมตตา ไม่เว้นแม้กระทั่งเหล่าโยวไค
ช่วยปลดปล่อย มุราสะ มินะมิทสึ จากท้องทะเล, ช่วยผลักดัน โทระมารุ โชว ให้ได้เป็นลูกศิษย์ของบิชามอนเทน เป็นต้น
แม้ว่าเธอจะเป็นที่ชื่นชอบของมนุษย์ และเป็นที่เคารพยกย่องของเหล่าโยวไค
แต่เพราะเธอต้องการสร้างโลกที่มนุษย์และโยวไคสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ
จึงถูกเหล่ามนุษย์ต่อต้าน และโดนจับผนึกไว้ในมุมหนึ่งของโลกปิศาจ
อีกทั้งสิ่งของและโยวไคที่เกี่ยวข้องกับเธอ ล้วนถูกกักขังไว้ในใต้พิภพจนหมดสิ้น
...เวลาผ่านไปพันกว่าปี...
เหตุการณ์จากภาค 11 ได้ทำให้โลกใต้พิภพถูกเปิดออกมาเชื่อมต่อกับพื้นพิภพอีกครั้ง
โทระมารุ โชว คิดว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะได้ชุบชีวิตเบียคุเรนที่ถูกผนึกอยู่ในโลกปิศาจ
เธอจึงระดมพรรคพวกที่ศรัทธาหรือเป็นหนี้บุญคุณเบียคุเรน มาช่วยกันดำเนินการตามแผน
หากแต่ โฮวจูว นุเอะ นั้นไม่ทราบเรื่อง จึงขัดขวางแผนการนี้เพื่อความสนุกของตนเอง
โดยการโปรยเศษเสี้ยวของยุ้งฉางลอยฟ้า ซึ่งเป็นหนึ่งในไอเทมสำคัญที่ต้องใช้ในการปลดผนึก ขึ้นไปบนพื้นพิภพ
ซ้ำยังติดตั้งเมล็ดแห่งร่างจริงที่ไม่แน่ชัดลงไป ทำให้มันมีรูปร่างเปลี่ยนไปตามความเข้าใจของแต่ละคน ซึ่งพวกตัวเอกมองเห็นว่าเป็น UFO ขนาดเล็ก
(ในขณะที่พวกเบียคุเรนมองเห็นเป็นเพียงเศษไม้ของยุ้งฉางลอยฟ้าตามปกติ)
พวกมุราสะจึงออกเรือเพื่อบินตามหาและรวบรวมเศษเสี้ยวของสมบัติลอยฟ้า ทำให้เกิดข่าวลือว่ามีเรือสมบัติบินไปมาอยู่บนท้องฟ้าของเกนโซวเคียว
ข่าวลือร้อนไปถึงหูของสามสาวชาวมนุษย์ผู้เป็นตัวเอกของภาคนี้ ; เรย์มุ มาริสะ ซานาเอะ
พวกเธอจึงออกเดินทางไล่ตามเรือบินลึกลับไป โดยมีวัตถุประสงค์แตกต่างกันออกไป
ระหว่างทางพวกตัวเอกบังเอิญเก็บเศษเสี้ยวของยุ้งฉางลอยฟ้ามาได้จำนวนหนึ่งโดยที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
ประกอบกับทางเรือบินได้ส่ง นาซูริน ออกมาค้นหาเศษเสี้ยวของยุ้งฉางลอยฟ้า ทำให้เกิดการเผชิญหน้ากัน
จบศึก ฝ่ายนาซูรินเข้าใจว่าการค้นหาของตนผิดพลาด จึงถอยหนีไป เพื่อรีบตามหาสมบัติอีกชิ้นหนึ่ง ที่จำเป็นต่อการคลายผนึกเช่นกัน
เมื่อตัวเอกไล่ตามเรือบินต่อไป ก็ถูกขวางทางโดย ทาทาระ โคกาสะ ผีร่มตาเดียวที่กำลังเบื่อและต้องการทำให้มนุษย์ตกใจ
แต่เธอก็ขวางได้ไม่นาน เพราะมนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าเธอนั้นแข็งแกร่งเกินไป
ในที่สุดตัวเอกก็เข้าประชิดเรือบินได้สำเร็จ และปะทะกับ คุโมะอิ อิจิริน ซึ่งกำลังปกป้องเรือลำนี้จากผู้รุกรานอยู่
ภายหลังจากที่ปะทะกัน อุนซัน ได้บอกแก่อิจิรินว่าพวกตัวเอกนำเศษเสี้ยวของยุ้งฉางลอยฟ้ามา ทำให้เธอเข้าใจว่าพวกตัวเอกเป็นพวกเดียวกับเธอ
เหล่าตัวเอกแม้จะยังงุนงง แต่ก็ทำได้เพียงเดินหน้าต่อไป สู่ด้านในของตัวเรือ
ตัวเอกได้สำรวจภายในเรือแล้วพบว่าภายในนั้นว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย จนในที่สุดก็ได้พบกับกัปตันของเรือลำนี้ หรือก็คือ มุราสะ มินะมิทสึ นั่นเอง
เธอพยายามรั้งพวกตัวเอกให้อยู่ในเรือ โดยการเข้าต่อสู้เพื่อถ่วงเวลา
เพราะว่าเมื่อเศษเสี้ยวของยุ้งฉางลอยฟ้า(ที่พวกตัวเอกเก็บไว้)เข้ามาอยู่ภายในเรือ เรือก็จะเริ่มทำงานตามหน้าที่ของมันทันที
นั่นก็คือการเดินทางไปสู่ฮคไค (แดนธรรม) ในโลกปิศาจ ซึ่งเป็นที่ที่เบียคุเรนถูกผนึกเอาไว้
เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลง พวกตัวเอกก็พบว่าตนเองได้มาถึงโลกปิศาจแล้ว จึงทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินทางต่อ
ระหว่างทางพวกเธอได้ปะทะกับนาซูรินที่กำลังจะกลับไปหาเจ้านายของเธอพอดี
เธอหา เจดีย์แห่งบิชามอนเทน ซึ่งเป็นสมบัติอีกชิ้นหนึ่งพบแล้ว จึงคิดจะนำมันไปส่งคืนให้แก่เจ้านาย
แต่เมื่อพบกับพวกตัวเอกระหว่างทาง ก็เลยเข้าต่อสู้กับพวกตัวเอกเพื่อทดลองใช้พลังของเจดีย์ พอแพ้ก็รีบกลับไปหาเจ้านายของเธอ
เมื่อมาถึงฮคไค ตัวเอกพบว่าไม่สามารถไปต่อได้ และได้พบกับ โทระมารุ โชว
เธอเข้าใจว่าเราเป็นพวกเดียวกัน ที่ช่วยรวบรวมเศษเสี้ยวของสมบัติลอยฟ้ามาส่งให้ หากแต่พวกตัวเอกยังงงและสงสัยไม่หาย
สุดท้ายก็คุยกันไม่รู้เรื่องจนต่อสู้กันในที่สุด ... กระนั้นก็ตาม แม้จะชนะมาได้ แต่พวกตัวเอกก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากช่วยโชวในการคลายผนึกอยู่ดี
เมื่อเบียคุเรนหลุดจากผนึก ก็ได้สนทนากับตัวเอกอยู่ครู่หนึ่ง แต่เมื่อพบว่าความคิดเห็นของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกัน ก็ไม่พ้นต้องต่อสู้กันในที่สุด
จบศึก พวกเบียคุเรนก็ยังคงแล่นเรือบินไปบนท้องฟ้า โดยหวังว่าจะเปิดกิจการท่องเที่ยวทัศนาจร
แต่เรย์มุสั่งห้าม พวกเธอจึงจัดกิจกรรมเพียงสามวัน แล้วลงจอดเพื่อพักผ่อน
จากนั้นเบียคุเรนก็ไปหาเรย์มุที่ศาลเจ้าแล้ว ผุดไอเดียใหม่ขึ้นมาได้ว่า สร้างวัดขึ้นมาเพื่อรวบรวมลูกศิษย์แล้วปฏิบัติธรรมดีกว่า
เธอจึงขอความช่วยเหลือจากซานาเอะ เลยได้รับความร่วมมือจากคานาโกะและสุวะโกะในการสร้างวัด และตั้งชื่อว่า วัดเมียวเรนจิ ตามชื่อน้องชายของเธอ
ขณะเดียวกัน มาริสะก็เอา UFO มาแงะเพื่อตรวจสอบ และพบว่ามันมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่
จึงไปสอบถามพวกเบียคุเรนและได้ทราบว่า พวกเบียคุเรนมองไม่เห็นว่าสิ่งนี้มันเป็น UFO เลยตั้งแต่แรก
มาริสะจึงนำเรื่องไปเล่าให้เรย์มุและซานาเอะฟัง และได้ข้อสรุปว่า ยังมีคนร้ายอีกคนที่ยังซ่อนตัวอยู่
ทั้งสามจึงตัดสินใจไล่ล่าความลับสุดท้ายนี้ และได้พบเจอจนต้องปะทะกับ โฮวจูว นุเอะ ในที่สุด
นุเอะได้อธิบายเรื่อง UFO ให้แก่ตัวเอก รวมถึงสาเหตุที่ทำแบบนี้ลงไป
พวกตัวเอกจึงท้วงว่านุเอะเข้าใจเบียคุเรนผิดไป เมื่อนุเอะรู้ความจริงก็เสียใจอย่างมาก
*รายละเอียดสามารถติดตามได้ในส่วนของเนื้อเรื่อง ฉากจบ และฉากพิเศษ
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่ารู้
● ตามธรรมเนียมของโทโฮ ทุกภาคจะต้องมีอักษรคันจิจากชื่อของตัวการก่อเรื่อง อยู่ในอักษรสามตัวท้ายของชื่อภาค
สำหรับภาคนี้ คือ 寅丸星 (โทระมารุ โชว), 聖白蓮 (ฮิจิริ เบียคุเรน), ムラサ船長 (กัปตันมุราสะ) → 星蓮船
โชววางแผนที่จะช่วยเหลือเบียคุเรนที่ถูกผนึก โดยให้มุราสะออกเรือสู่โลกปิศาจ จนเกิดข่าวลือเรื่องเรือสมบัติในเกนโซวเคียว...
● คำว่า UFO ปกติแล้วจะย่อมาจาก Unidentified Flying Object แต่ของโทโฮภาคนี้ย่อมาจากคำว่า Undefined Fantastic Object
● จะสังเกตเห็นได้ว่า คำว่า Unidentified (ไม่สามารถระบุเอกลักษณ์) กับ Undefined (ไม่แน่ชัด) ก็มีความหมายต่างกันด้วย
● เนื่องจากเนื้อหาหลายส่วนในเกม มีการอ้างอิงถึงม้วนภาพสมัยยุคเฮย์อันนามว่า "ชิกิซันเอนกิ"
ซึ่งเพิ่งได้รับการบันทึกให้เป็นสมบัติประจำชาติของญี่ปุ่นในปี 2006 ...จึงเป็นที่ชัดเจนว่ามันคือต้นแบบของเนื้อหาในภาคนี้
● นอกจากนี้ ในปี 2008 ยังเป็นปีที่เกม Space Invaders ได้ฉลองครบรอบ 30 ปี จึงเชื่อกันว่าผู้แต่งได้แอบล้อเลียนเกมดังกล่าวไว้ในเกมภาคนี้ด้วย
เช่น เหล่าโยวเซย์ในด่าน 6 จะเคลื่อนไหวในแนวขวางและค่อยๆบินต่ำลงมา และ UFO ในด่าน Extra จะบอกคะแนนเมื่อตาย เหมือนเกมดังกล่าว
● และในเกมภาคนี้ มีหลายจุดที่คล้ายกับเกม Radiant Silvergun ของค่าย Treasure ที่วางจำหน่ายในปี 1998 เช่น
○ ธีมหลักของภาคที่เน้นเรื่องสมบัติ (Treasure)
○ ห่ากระสุนของเหล่าบอสที่มีจุดเด่นบางอย่างคล้ายกับห่ากระสุนเกมดังกล่าว
○ ลักษณะภายนอกของนุเอะที่ไม่สมมาตรกันในแนวซ้ายขวา
○ สเปลการ์ดของ โทระมารุ โชว มีชื่อ Radiant
○ ระบบ Chain Combo ของไอเทม Venturer ก็คล้ายกัน
● รายละเอียดของภาพในฉากไตเติ้ล ได้แก่
○ เรือใบบัว สื่อถึง เรือเกี้ยวศักดิ์สิทธิ์ที่จะไปรับเบียคุเรน (บัวขาว)
○ ค้อน ของไดโคคุเทน หนึ่งในเจ็ดเทพแห่งโชคลาภ
○ ถุงแห่งความสุข (มีขายในวันปีใหม่โดยที่ผู้ซื้อไม่รู้ว่าจะมีอะไรข้างใน) ของไดโคคุเทน หนึ่งในเจ็ดเทพแห่งโชคลาภ
○ ปะการัง จัดว่าเป็นสมบัติชนิดหนึ่ง และว่ากันว่าเทพแห่งโชคลาภทั้งเจ็ดนิยมใช้ปะการังเป็นที่พักแรม
● คำบรรยายของระดับความยากในแต่ละระดับ
○ Easy Mode : สำหรับ Shooter วันอาทิตย์ ...แด่มนุษย์ที่ช่วงนี้ต้องเร่งรีบ
○ Normal Mode : สำหรับ Gamer จอมขยัน ...แด่ผู้ที่เลือกเกมนี้ด้วยความนิยมชมชอบ
○ Hard Mode : สำหรับผู้อาศัยในเกนโซวเคียว ...แด่ผู้ที่ไม่อาจคุ้นเคยกับสังคมโลกปัจจุบัน
○ Lunatic Mode : สำหรับชนเผ่าที่สาบสูญ ...แด่ผู้ที่ยืนกรานว่าตนคือมนุษย์ที่ถูกเลือก
○ Extra Mode : สำหรับผู้เชี่ยวชาญการกำราบโยวไค ...แด่ผู้ที่ไม่หวาดหวั่นแม้ได้พบเจอโยวไค
● รูปลวดลายที่อยู่ทางด้านขวาของหน้าจอในขณะเล่นเกม
คือ 黄金瑠璃鈿背十二稜鏡 (โอวกอนรุริเดนไฮจูวนิเรียวเคียว) (กระจกสิบสองเหลี่ยมฝังมุกไพฑูรย์ทอง)
ซึ่งเป็นสมบัติโบราณ หนึ่งในเจ็ดสมบัติแห่งคลังสมบัติประจำทิศตะวันตกเฉียงเหนือของพระประธานแห่งวัดโทไดจิ ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก
โดยเมื่อไม่กี่ปีก่อนนี้ เพิ่งมีการสร้างของจำลองของกระจกใบนี้ขึ้นมาใหม่
สาเหตุที่ท่าน ZUN นำภาพนี้มาใช้ ไม่เป็นที่แน่ชัด
อาจเป็นเพราะมันคือสมบัติชั้นเลิศของประเทศที่เพิ่งประกาศสร้างจำลองใหม่ในช่วงที่ท่าน ZUN กำลังวางโครงเรื่องภาคนี้อยู่พอดี
หรือบางทีอาจเป็นเพราะมันสื่อถึงภาค 12 (เพราะมันมีสิบสองเหลี่ยม) ก็เป็นได้ ... เรื่องนี้คงมีแต่ท่าน ZUN ที่ทราบ
● ตรงจุดที่แสดงคะแนนสูงสุดของผู้เล่นทางด้านขวาของหน้าจอ เขียนไว้ว่า เศรษฐีล้านล้าน แทนที่จะเขียนว่า HiScore
