MoF - MainPage


東方風神録 ~ Mountain of Faith.
โทวโฮวฟูวจินโระคุ (บันทึกเทพวายุแห่งตะวันออก) ~ ขุนผาแห่งศรัทธา


.........................................................................................................................................................................................

Main Page

ศาลเจ้าฮาคุเรย์ ... ศาลเจ้าที่เงียบเหงาซึ่งตั้งอยู่ ณ พรมแดนของดินแดนแห่งตะวันออก
เหล่าโยวไคผู้หลงลืมถิ่นฐานของตนล้วนมาอาศัยที่นี่หลับนอน ที่นี่จึงวุ่นวายเพราะสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์อยู่เสมอ
ศาลเจ้าที่อุดมไปด้วยโยวไคนั้น ย่อมไม่น่าโสภาแก่มนุษย์ที่จะสักการบูชา เทพสถิตศาลเจ้าเริ่มกังวลว่าจิตศรัทธาจะไม่เพียงพอ

――ศาลเจ้าดังกล่าวเองก็ต้องเผชิญหน้ากับจุดพลิกผันบ้างแล้ว



หน้าเวบ Official หลักของภาคนี้ คือ http://www16.big.or.jp/~zun/html/th10top.html
Online Manual อยู่ที่หน้า http://www16.big.or.jp/~zun/html/th10man/index.html
โดยท่านสามารถดาวน์โหลด Demo ของเกมนี้ได้ที่หน้า http://www16.big.or.jp/~zun/html/th10dl.html

ปัจจุบันยังไม่มีแพทช์ใดๆสำหรับตัวเกมภาคนี้
ส่วนตัวเดโมสำหรับทดลองเล่น (体験版) อยู่ที่ [ver0.02a (156MB)] มีหลาย Mirror ให้เลือกโหลดได้ตามใจชอบ


บทเกริ่นจากผู้สร้าง :
Concept :
โทโฮ Project กระสุนที่สิบ !!
「東方風神録 ~ Mountain of Faith.」 เป็นเกมดันมาคุชูตติ้งที่ตรงไปตรงมาอย่างสุดยอด
วนเวียนไปรอบๆศาลเจ้าฮาคุเรย์ที่เต็มไปด้วยโยวไคตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้, และห่ากระสุนที่คืนชีพขึ้นมาของเหล่าเทพ

 เกมนี้มีฉากห่ากระสุนที่รุนแรง
  คุณหนูตัวน้อยหรือท่านที่มีอาการแพ้ห่ากระสุน ควรปรึกษาแพทย์


ผู้พัฒนา : เซี่ยงไฮ้อลิสเกนกาคุดัน

จัดจำหน่าย : เซี่ยงไฮ้อลิสเกนกาคุดัน

วางจำหน่าย : (Demo) 20 พฤษภาคม 2007 (งาน มหาเทศกาลแห่งศาลเจ้าฮาคุเรย์ ครั้งที่ 4)
                     (Master) 17 สิงหาคม 2007 (งาน Comike 72)

Minimum Requirement :
OS ; Windows 2000/XP ที่ได้รับการ install DirectX 9.0 ขึ้นไปแล้ว
CPU ; Pentium (หรือเทียบเท่า) ที่มีความเร็ว 1.0 GHz ขึ้นไป
Main Memory ; 128 MB ขึ้นไป
VGA ; การ์ดจอความเร็วสูงที่ตอบสนองต่อ DirectGraphic และ DirectX 9.0 ขึ้นไป (และมี VRAM มากกว่า 32 MB)
Sound ; Sound Card ที่ตอบสนองต่อ DirectSound และมีระบบเสียง MIDI ที่รองรับ SC-88Pro(Roland)

Recommend Requirement :
จอยแพด
ความร่าเริงอย่างมาก
จิตศรัทธาในระดับหนึ่ง



เนื้อเรื่องโดยย่อ : (ตั้งแต่ปมต้นเหตุของเรื่อง จนถึงจบ Extra)

ณ โลกภายนอก ... มนุษย์เชื่อมั่นในวิทยาศาสตร์มากกว่าเทพเจ้า จนศรัทธาที่มีต่อเทพเจ้าน้อยลงถึงขั้นวิกฤต
หากไม่มีศรัทธา เทพเจ้าก็จะไร้พลัง เปรียบได้กับความตาย
ยาซากะ คานาโกะ จึงดำเนินการย้ายศาลเจ้าโมริยะ พร้อมทะเลสาบ มายังเกนโซวเคียว
โดยปักหลักอยู่บนภูเขาโยวไค และหวังว่าจะได้รับศรัทธาจากโยวไคมากๆ
โคจิยะ ซานาเอะ ผู้ฉลองวายุ ซึ่งมีหน้าที่คล้ายมิโกะของศาลเจ้าโมริยะ ได้เล็งเห็นว่าถ้าโค่นศาลเจ้าฮาคุเรย์ได้ ศรัทธาทั้งหมดก็จะเป็นของศาลเจ้าโมริยะ
เธอจึงไปสั่งให้เรย์มุระงับกิจการศาลเจ้าฮาคุเรย์ และแน่นอนว่าเรย์มุไม่ได้ทำตามในทันที

ต่อมา เรย์มุได้นำเรื่องนี้ไปพูดคุยกับมาริสะ เพื่อหาวิธีแก้ไข
จึงได้ข้อสรุปว่าจะบุกภูเขาโยวไค เพื่อให้เทพเจ้าบนภูเขาช่วยเหลือ
มาริสะนึกสนุก จึงออกเดินทางด้วยเช่นกัน

เทพแห่งฤดูใบไม้ร่วง อาคิ ชิซึฮะ และ อาคิ มิโนริโกะ สองพี่น้องได้ทราบข่าวว่ามีมนุษย์มาก่อกวนความสงบสุขของฤดูใบไม้ร่วง จึงออกมาขัดขวาง
แต่ทั้งสองไม่ชำนาญการต่อสู้ จึงแพ้ไปอย่างง่ายดาย
ต่อมาได้พบกับเทพลับ คางิยามะ ฮินะ ซึ่งเป็นเทพแห่งเคราะห์ร้าย
ฮินะพยายามไล่ตัวเอกกลับไป เนื่องจากภูเขาเป็นสถานที่อันตรายสำหรับมนุษย์ แต่ตัวเอกไม่ฟัง และโค่นเธอลง

ก่อนถึงภูเขา ได้พบกับกัปปะนักประดิษฐ์ คาวาชิโระ นิโทริ ซึ่งกำลังทดลองชุดพรางตา และตัวเอกก็ยิงทิ้งจนชุดพัง
นิโทริจึงแสดงตัว และพยายามห้ามมิให้ตัวเอกขึ้นเขา แต่ตัวเอกก็ยังคงไม่สนใจเช่นเคย
เมื่อถูกโค่น, นิโทริก็แอบให้ข่าวแก่ตัวเอกว่ามีเทพเจ้าองค์ใหม่มาก่อเรื่องอยู่บนภูเขา
ตัวเอกซึ่งเริ่มลืมจุดประสงค์ในตอนแรกก็เลยเปลี่ยนเป้าหมาย กลายเป็นมุ่งหน้าหาเรื่องกับเทพเจ้าองค์ใหม่แทน

ระหว่างการปีนน้ำตกของภูเขาโยวไค ก็ได้ปะทะเข้ากับเทนกุหมาป่าขาว อินุบาชิริ โมมิจิ แต่เธอสู้ไม่ได้ จึงหนีไปแจ้งข่าวแก่เทนกุยักษ์
เทนกุยักษ์เล็งเห็นว่าผู้บุกรุกคือมนุษย์ที่อยู่ตีนเขา จึงเรียกเทนกุอีกา ชาเมย์มารุ อายะ จากหน่วยกระจายข่าวสารมาเป็นกรณีพิเศษ
ด้วยหวังว่าอายะน่าจะพูดคุยสอบถามจุดประสงค์ของผู้บุกรุกได้ดีกว่าผู้ใด แต่อายะก็ยังงงว่าจะเรียกเธอมาทำไม

เมื่อเดินทางมาถึง อายะก็เข้าใจทันทีว่าแผนการของเทนกุยักษ์คืออะไร
เมื่อเธอทราบจุดประสงค์(ใหม่)ของตัวเอกแล้ว อายะก็คิดจะปล่อยให้ผ่านเข้าไปลุยกับเทพเจ้า
เพื่อประหยัดแรงของพวกเทนกุที่กำลังวางแผนเข้าต่อสู้กับพวกคานาโกะอยู่เหมือนกันพอดี
แต่จะปล่อยไปเฉยๆก็ไม่ได้ เพราะมีเทนกุตนอื่นดูอยู่ เธอจึงขอให้สู้กับเธออย่างจริงจัง แต่เธอจะออมมือให้
เมื่อเอาชนะเธอได้ ก็บอกทางตัวเอกให้ไปยังศาลเจ้าโมริยะ ส่วนตัวเองก็กลับไปแจ้งข่าวแก่เทนกุยักษ์ ทำให้ได้รับคำชมอย่างมาก
จากนั้นเทนกุยักษ์ก็ส่งโมมิจิออกมาอีกครั้ง โดยให้ตามสังเกตการณ์ตัวเอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

ในที่สุดตัวเอกก็เดินทางมาถึงศาลเจ้าโมริยะ และได้พบกับซานาเอะ แต่คุยกันไม่เข้าที จึงเกิดการต่อสู้ขึ้น และซานาเอะก็พ่ายแพ้ไป
จากนั้นตัวเอกก็เดินทางต่อมายังทะเลสาบ และเผชิญหน้ากับคานาโกะ
การเจรจาไปได้ไม่สวยนัก จึงไม่พ้นต้องต่อสู้กัน และคานาโกะก็พ่ายแพ้ไปในที่สุด

แต่กระนั้นก็ตามที จากที่ได้คุยกันไว้ ทำให้ตัวเอกรู้ว่าพวกคานาโกะไม่ได้มาร้าย
จึงวางแผนให้พวกโยวไคบนภูเขา (เทนกุและกัปปะ) ได้มาร่วมวงเสวนากับพวกคานาโกะ จนปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด
เหล่าโยวไคบนภูเขายอมรับคานาโกะเป็นเทพเจ้าแห่งขุนผาองค์ใหม่ และมอบศรัทธาให้อย่างล้นหลาม
คานาโกะจึงแสดงเดชานุภาพแก่เหล่าโยวไค จนพลังของเหล่าโยวไคแข็งแกร่งขึ้นมาก
แต่นั่นก็ทำให้สมดุลพลังระหว่างโยวไคบนภูเขากับโยวไคที่ตีนเขาเริ่มพังทลายลง
คานาโกะจึงมองหาทางออก ด้วยการใช้ประโยชน์จากศาลเจ้าฮาคุเรย์
โดยสร้างศาลเจ้าโมริยะสาขาย่อยเอาไว้ที่ศาลเจ้าฮาคุเรย์ แล้วแบ่งศรัทธามาให้ จนเหตุการณ์กลับเป็นปกติ

หลังจากนั้น มาริสะก็ขึ้นเขาบ่อยขึ้น และได้ยินข่าวลือมาว่า ในศาลเจ้าโมริยะนั้นมีเทพเจ้าอยู่อีกองค์หนึ่ง
พวกตัวเอกเกิดความสงสัย จึงออกเดินทางขึ้นเขาอีกครั้ง เพื่อเดินทางไปยังศาลเจ้าโมริยะ
ระหว่างทางถูกคานาโกะขัดขวาง แต่ก็ฝ่าเข้าไปจนถึงวิหารของศาลเจ้าได้
โมริยะ สุวะโกะ เทพเจ้าที่แท้จริงแห่งศาลเจ้าโมริยะ ปรากฏตัวขึ้นทักทายแก่แขกที่ไม่ได้มีมาเสียนาน
ตัวเอกได้คลายข้อสงสัยแล้วก็คิดจะเดินทางกลับ แต่สุวะโกะอยากจะเล่น(ดันมาคุ)กับตัวเอก เหมือนที่ตัวเอกเคยเล่นกับคานาโกะและซานาเอะ
จึงไม่พ้นต้องต่อสู้กันในที่สุด


*รายละเอียดสามารถติดตามได้ในส่วนของเนื้อเรื่อง ฉากจบ และฉากพิเศษ



เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่ารู้

● ตามธรรมเนียมของโทโฮ ทุกภาคจะต้องมีอักษรคันจิจากชื่อของตัวการก่อเรื่อง อยู่ในอักษรสามตัวท้ายของชื่อภาค
   สำหรับภาคนี้ 風神録
   โดยอักษรตัวแรกอยู่ในนามสกุลของซานาเอะ
   ส่วนอักษรตัวที่สอง อยู่ในชื่อของคานาโกะ

● ธีมของภาคนี้ แน่นอนว่าเป็น ศรัทธา

● ธีมเบื้องหลังของภาคนี้คือ แฟนโทโฮ
   โดย ZUN ได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า
   เนื่องจากมีแฟนๆเฝ้าติดตามโทโฮอยู่เยอะมากจนทำให้นึกถึงเรื่อง ศรัทธา ขึ้นมา เลยเอามาใช้เป็นธีมของภาคนี้เสียเลย

● เนื้อหาของภาคนี้จะเกี่ยวข้องกับตำนานเทพสุวะค่อนข้างมาก
   แคว้นสุวะ คือดินแดนแห่งหนึ่งในอดีตของประเทศญี่ปุ่น ปกครองด้วยระบบกษัตริย์ และปัจจุบันกลายเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดนากาโนะไปแล้ว
   ซึ่งจังหวัดนากาโนะ ก็คือบ้านเกิดของ ZUN นั่นเอง

● ศาลเจ้าโมริยะ มีต้นแบบมาจาก มหาศาลเจ้าสุวะ, ส่วนทะเลสาบเทพวายุ มีต้นแบบมาจากทะเลสาบสุวะ
   มหาศาลเจ้าสุวะ (สุวะไทชา) นั้นเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 1,200 ปี และมีปรากฏอยู่ในตำนานเทพญี่ปุ่นด้วย
   มหาศาลเจ้าสุวะ ตั้งอยู่ใกล้ทะเลสาบสุวะ และมีอาณาเขตกว้างขวางมาก โดยคาบทับอำเภอสุวะ และอำเภอชิโมะสุวะ
   และเป็นศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าสุวะ(สาขาย่อย)ที่มีอยู่มากกว่า 10,000 สาขาทั่วประเทศ
   ในศาลเจ้าประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
   ศาลเจ้าบน มี ทาเคะมินาคาตะ และยาซากะโทเมะ (ภรรยาของทาเคะมินาคาตะ และเป็นต้นแบบตัวละคร ยาซากะ คานาโกะ) เป็นเทพสถิต
   ศาลเจ้าล่าง มี ยาเอะโคโตะชิโระนุชิ เป็นเทพสถิต
      ศาลเจ้าบน แบ่งออกได้เป็น วังหน้า และ วังหลัก (ไม่ใช่วังหลังแบบในหนังจีนนะ ^ ^;)
      ศาลเจ้าล่าง แบ่งออกได้เป็น วังใบไม้ผลิ และ วังใบไม้ร่วง
   เทศกาลสำคัญของมหาศาลเจ้าสุวะคือ เทศกาลออนบาชิระ (เสา)
      เป็นเทศกาลบวงสรวงเทพเจ้าที่สืบทอดกันมาช้านานกว่า 1,200 ปีของดินแดนสุวะ
      จัดขึ้นเฉพาะในปีวอกและปีขาล โดยจะโค่นต้นไม้ใหญ่มาทำเสาออนบาชิระ และไถลผ่านวังทั้งสี่ของมหาศาลเจ้าสุวะ
      แล้วข้ามแม่น้ำ แห่ไปในเมือง จากนั้นก็ทำพิธีตั้งเสา เป็นอันเสร็จพิธี รวมเวลาทั้งสิ้นประมาณสองเดือน

● ที่หน้าจอไตเติ้ล จะมีคำว่า WONDERLAND DESACRALIZATION และ KEEP OUT เขียนอยู่
   WONDERLAND น่าจะหมายถึง เกนโซวเคียว
   DESACRALIZATION แปลว่า การแปรเปลี่ยนเป็นกิจวัตรประจำวัน
   KEEP OUT แปลว่า ห้ามเข้า
      โดยรวมแล้วอาจหมายถึงศาลเจ้าฮาคุเรย์ที่มีโยวไคมาเที่ยวเป็นประจำและเรย์มุก็ไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น เพราะมนุษย์ไม่กล้ามาสักการบูชา

● ในไฟล์ omake.txt นั้น ZUN ได้เขียนทิ้งท้ายไว้ว่า "อ๊า---, ออนเซน (น้ำพุร้อน), ใช่ใช่, ออกแผ่น Master เสร็จแล้วจะไปเที่ยวน้ำพุร้อนล่ะ---"
   ซึ่งอาจเป็นคำใบ้ถึงภาค 11 ก็เป็นได้

● คำบรรยายของระดับความยากในแต่ละระดับ
    ○ Easy Mode : ระดับความยากสำหรับปรับตัวให้เข้ากับวิธีการควบคุม ...Step Up คือพื้นฐานของมนุษย์
    ○ Normal Mode : ระดับความยากสำหรับสนุกกับเกม ...เมื่อมีความมั่นใจในตัวเองก็มีความสุข
    ○ Hard Mode : ระดับความยากที่สามารถภูมิใจได้เลย ...ไม่อยากได้เวลาว่างไปใช้สนุกกับสีสันอย่างอื่นแล้วสินะ
    ○ Lunatic Mode : ระดับความยากเหมือนทุกที ...ถ้าไม่เข้าใจว่าที่พูดหมายถึงอะไร ก็อย่าเล่นเลย
    ○ Extra Mode : โอ๊ะโอ๋, จะเล่นเหรอ ? ...เธอนี่ก็ชอบของแรงน่าดูเลยน้า


......................................................................................................................................................................................