CoLA - 007


東方香霖堂 ~ Curiosities of Lotus Asia.
โทวโฮวโควรินโดว (ร้านโควรินโดวแห่งตะวันออก) ~ ความอยากรู้อยากเห็นของดอกบัวเอเชีย


.........................................................................................................................................................................................


ตอนที่ 7
「เตาไฟแห่งคิริซาเมะ ครึ่งหลัง」

 

「ถ้าจำไม่ผิด มาริสะน่ะ... ...ก่อนหน้านี้เคยรวบรวมพวกเศษเหล็กที่เป็นเหมือนขยะเอาไว้สินะ
 แต่ไม่รู้ว่าเธอเอาไว้ใช้ทำอะไร」

「เศษเหล็กที่เป็นเหมือนสมบัติต่างหากล่ะโว้ย」

「ยังไงก็แค่รวบรวมเอาไว้เฉยๆเหมือนทุกทีใช่มั้ยล่ะ ?
 ทีนี้เงื่อนไขของครั้งนี้ก็คือ, แลกกับภูเขาเศษเหล็กนั่น
 ว่าไง ? เป็นเงื่อนไขชั้นเลิศที่ช่วยกำจัดของเกะกะไปในตัวเชียวนะ ?」

「ก็บอกแล้วไงว่าเป็นสมบัติน่ะ ?
 แต่แหม, มีค่าขนาดนั้นเลยเหรอ
 เจ้า 『ฮิฮิอิโระคาเนะ』 เนี่ย」

「เดิมทีเศษเหล็กพวกนั้นก็ไม่ได้มีค่ามากมายอะไรอยู่แล้วนี่นา, นี่ก็เลยเป็นเหมือนบริการพิเศษไงล่ะ
 ถึงยังไงเตาแปดวิถี Mini นั่นก็... ...」

「โอ๊ะ, ไม่เอาความรู้เชิงลึกนะโว้ย」

ผมรู้นิสัยของมาริสะดี
เพราะเห็นมาตลอดตั้งแต่เด็กนั่นล่ะนะ
ยัยนี่เป็นพวกที่ไม่อาจทอดทิ้งสิ่งของได้
ของที่รวบรวมมาก็ไม่ได้จัดเก็บให้เป็นระเบียบ เอาแต่กองสุมๆกันเอาไว้... ..., แบบนั้นมีแต่จะทำให้คุณค่าของวัตถุตกต่ำลงเท่านั้น
ดูเธออิดออดกับเงื่อนไขในครั้งนี้อย่างแรง, แต่ในใจน่าจะตัดสินใจไปเรียบร้อยแล้วล่ะ
เห็นบอกว่าถ้าไม่มีเตาแปดวิถี Mini แล้วจะอยู่ไม่ได้นี่นะ, แถมยังเป็นโอกาสในการกำจัดของที่ไม่จำเป็นด้วย

「รู้รึเปล่าว่าฉันเหนื่อยยากขนาดไหนกว่าจะรวบรวมเศษเหล็กพวกนั้นมาได้น่ะ ?」

「ถ้าแค่เก็บเอาไว้เฉยๆ, ความเหนื่อยยากนั่นก็จะสูญเปล่านะ」

「เป้าหมายคือการรวบรวมไงล่ะ
 ไม่คิดจะเอามาใช้หรอกโว้ย」

「ถ้างั้น, เป้าหมายก็บรรลุผลแล้วไม่ใช่เหรอ
 เศษเหล็กพวกนั้นผมจะทำให้มันนิพพานอย่างมีคุณค่าเอง」

「น่าสงสัยอย่างบอกไม่ถูกแฮะ
 ฮิฮิอิโระคาเนะเป็นของหายากไม่ใช่เหรอ ?」

「เหตุผลที่เธอคิดไม่ถึงก็มีอยู่
 ถ้าไม่รับเงื่อนไขที่ดีแบบนี้เอาไว้, ตอนหลังอาจเจอเงื่อนไขน่ากลัวนะ」

「ไม่ต้องเกรงใจฉันก็ได้น่า」



ผมบอกไปว่า 「ใช้เวลาซ่อมแซมสี่วัน」
มาริสะตอบว่า 「จะอ่านหนังสือนี่ไปจนถึงตอนนั้นละกัน」 แล้วก็เอาหนังสือที่เป็นของขายกลับบ้านไป
ร้านของผมไม่ใช่ห้องสมุดนะ

เอาล่ะ, นี่เป็นงานใหญ่ที่ไม่ได้ทำมานาน
ช่วงนี้แทบจะไม่มีงานและไม่มีลูกค้าเลย, ขืนปล่อยไว้อย่างนี้ "ความสามารถ" ของผมก็จะเน่าไปเสียก่อน
ใช่แล้ว, "ความสามารถในการรู้ประโยชน์และชื่อของไอเทมที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน" ไงล่ะ
ผมคิดว่าถ้าอยู่ในร้านค้าที่ขายแต่ของธรรมดาก็จะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากความสามารถนี้ได้
ก็เลยมาเปิดร้านที่ขายของหายากด้วย... ...แต่ว่าของหายากกลับช่วยดึงมาแต่คนเพี้ยนๆทั้งนั้นเลย
ที่สำคัญ ความสามารถนี้มีปัญหาอยู่นิดหน่อย... ..คือถึงจะรู้ชื่อและประโยชน์ไป ก็ไม่รู้วิธีใช้อยู่ดี
เอาเถอะ, ขึ้นชื่อว่าอุปกรณ์ ขอแค่รู้ประโยชน์ก็คงจะพอทำอะไรได้บ้างล่ะน่า

กลิ่นหอมแปลกๆของซุปเห็ดโชยมา
ผมกำลังคิดถึงเรื่องของเตาแปดวิถี Mini ในขณะที่กำลังปรุงอาหาร
เตาแปดวิถีอันนี้ไม่ใช่เตาแปดวิถีธรรมดา, แต่ได้ปรับปรุงให้แสดงผลลัพธ์หลายๆอย่างได้ด้วย
ถ้าเป่าลมที่มุมด้านหนึ่งของเตา, จะสามารถทำให้อากาศเย็นได้แม้ในหน้าร้อน
แค่พกเอาไว้ก็เป็นเครื่องรางคุ้มภัยและนำโชคได้ (คิดว่านะ)
แล้วยังหลอมผสมไอเทมที่มี "ประโยชน์" ของโลกภายนอกใส่ลงไปด้วย
สิ่งเหล่านี้คือบริการพิเศษ (งานอดิเรก) ของผม
... ...เอาล่ะ, ทำอาหารเสร็จแล้วก็รีบจัดการเลยดีกว่า



ผ่านมาได้เพียงสามวัน
วันนี้อากาศแจ่มใส
กล่าวคือเป็นวันที่ต้องดับไฟแล้วอ่านหนังสือ

กริ๊งกริ๊ง

「โควริน, ซ่อมเสร็จแล้วเหรอ ?」

「มาริสะเองเหรอ, อืม, เสร็จแล้วล่ะ」

มาริสะหอบเอาเศษเหล็กมา
ทั้งที่บอกไปว่าสี่วันแต่ก็มาในวันที่สาม
แต่เอาเถอะ มันก็เหมือนทุกทีนั่นแหละ
ดังนั้นผมเลยบอกเผื่อไปหนึ่งวันทุกทีเหมือนกัน

「โอ้, โทษทีนะ
 พวกนี้เอาวางไว้ตรงนี้นะ
 ถ้ายังซ่อมไม่เสร็จก็ต้องขนกลับอีกรอบนะว้อย」

「มาเร็วไปหนึ่งวันแล้วยังจะบ่นแบบไร้เหตุผลอีกแน่ะ
 อีกอย่าง, ผมไม่เห็นเข้าใจเลยว่าทำไมต้องขนกลับไปอีกรอบด้วย」

「ก็สัญญาไว้ว่าจะแลกกับของที่ซ่อมเสร็จสมบูรณ์นี่นา」

「ช่างเถอะ, นี่คือเตาแปดวิถีแห่งฮิฮิอิโระคาเนะไงล่ะ
 น่าจะมีแค่หนึ่งเดียวในโลกเลยมั้ง」

มาริสะตื่นเต้นว่า นี่คือฮิฮิอิโระคาเนะงั้นเหรอ
ท่าทางจะดีใจจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่, เลยรีบกลับบ้านเร็วกว่าปกติมาก





――หลายวันต่อมา
มาริสะยังคงอารมณ์ดีไม่หยุด

「ตื่นเต็มตาอย่างบอกไม่ถูก, อากาศก็ดีสุดๆเลยว่ะ」 เธอแสดงความปิติออกมา

แต่แหม, ถ้าดีใจถึงขนาดนี้ก็คุ้มค่ากับที่เอาฮิฮิอิโระคาเนะมาใช้แล้วล่ะ
ผมคิดว่าไม่ต้องมีเงื่อนไขแลกเปลี่ยนอะไรเลยก็ยังได้ด้วยซ้ำ

อันที่จริงคราวนี้, ผมหลอมผสม "ไอเทมที่ทำให้อากาศสดชื่น" ลงไปโดยเก็บเป็นความลับต่อมาริสะ
ไอเทมนี้มีคาถาปริศนาเขียนไว้ว่า Minus Ion, ซึ่งไม่รู้ว่าใช้ยังไง, แต่สุดท้ายก็แสดงผลจนได้
ไอเทมน่ะขอแค่รู้ชื่อกับประโยชน์, เดี๋ยวมันก็ต้องทำอะไรได้บ้างล่ะน่า

「โควริน
 แบบนี้ดีแล้วจริงๆเหรอ
 มีผลลัพธ์พิเศษแบบนี้ด้วยเนี่ย, เจ้านี่, เป็นโลหะที่หายากเอาการเลยสินะ... ...」

「ฮิฮิอิโระคาเนะมันหายากก็จริงอยู่, แต่ไม่มีผลลัพธ์พิเศษแบบที่เธอพูดหรอกนะ
 โลหะน่ะ ถ้าแค่รวบรวมสะสมเอาไว้ ไม่ใช้สร้างอุปกรณ์อะไรสักอย่าง มันก็จะเป็นแค่เศษเหล็กเท่านั้น
 เธอคงจะไม่เข้าใจเรื่องนั้นสินะ」

「ยังไงเป้าหมายของฉันก็คือการรวบรวมอย่างเดียวเท่านั้นแหละ
 จะเอามาใช้ได้หรือไม่ได้ก็ค่อยว่ากันทีหลัง」

「ไม่ใช่ว่า, จะเอามาใช้ได้หรือไม่ได้
 หัวใจสำคัญคือ จะใช้หรือไม่ใช้ ต่างหากล่ะ」

「ถ้างั้นนายคิดจะใช้เศษเหล็กที่ฉันเอามาพวกนั้นเหรอ ?
 เห็นปล่อยทิ้งเอาไว้เฉยๆนี่นา」



ตัวผมนี่ล่ะคือเหตุผลที่มาริสะคิดไม่ถึง
ขยะที่นักสะสมอย่างมาริสะรวบรวมเอาไว้, เป็นแค่ของที่มักจะตกมาอยู่ในมือผมด้วย "เงื่อนไขที่มีราคาถูกอย่างไม่เป็นธรรม"
เพราะยังไงมาริสะก็ไม่อาจเข้าใจถึงความแตกต่างของคุณภาพที่ละเอียดอ่อนได้
เศษเหล็กพวกนี้เอง, ที่จริงก็ไม่ใช่สิ่งแลกเปลี่ยนที่จะทำให้เงื่อนไขการแลกเปลี่ยนเป็นจริงได้เลย

แต่มาริสะเองก็เติบโตขึ้นทุกวัน, เคยกังวลอยู่เหมือนกันว่าสักวันต้องความแตกแน่... ...แต่มาริสะก็ไม่เปลี่ยนไปเลย
ตอนนี้ก็ยังเอาแต่รวบรวมอยู่
มนุษย์ที่ไม่มีความเปลี่ยนแปลงขนาดนี้ก็หายากน่าดู

「อะไรเล่า, มองหน้าคนอื่นอยู่ได้
 ตกลงว่าจะใช้ ? หรือไม่ใช้ ?」

「นั่นสินะ
 เก็บเอาไว้โดยไม่ต้องใส่ใจจำเลยดีกว่ามั้ง」

「ผิดกับที่พูดเมื่อกี้เลยนี่หว่า」



ผมหยิบดาบเก่าแก่เล่มหนึ่งออกมาจากกองเศษเหล็ก
มาริสะไม่น่าจะรู้จักฮิฮิอิโระคาเนะ
ทำไมน่ะหรือ, ก็เพราะดาบเล่มนี้สร้างขึ้นจากฮิฮิอิโระคาเนะไงล่ะ
กล่าวคือมาริสะมีดาบที่สร้างจากฮิฮิอิโระคาเนะอยู่กับตัวมาตลอดตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว

ดาบเล่มนี้มีชื่อว่า 「ดาบคุซานากิ」
น่ากลัวว่าจะเป็นของหายาก
เป็นของที่เคยเปลี่ยนแปลงโลกภายนอกมาแล้ว
มาริสะได้ของร้ายแรงแบบนี้มาโดยไม่รู้สึกตัวเลย
ไม่รู้ว่าถ้าให้มาริสะถือไว้แล้วจะเป็นยังไงบ้าง, ดังนั้นผมจะรับฝากเอาไว้ละกัน
ซึ่งผมเองคิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว



「เป็นอะไรไปเหรอ ?
 ถือดาบนั่นแล้วยิ้มแบบมีเลศนัยมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
 น่าขยะแขยงชะมัด」

「อ๊ะ, อ้อ, กำลังคิดว่า, ดาบเล่มนี้ดีทีเดียวน่ะ」

「ดาบโทรมๆแบบนั้นจะไปฟันอะไรขาดได้」

「ดาบเล่มนี้, ต้องตั้งชื่อน้า
 เคยเป็นเศษซากสมบัติของเธอ, งั้นตั้งชื่อว่า 『ดาบคิริซาเมะ』 ละกัน」

「อะไร ? จะเหน็บแนมกันรึไง ?」

「ก็บอกว่าเป็นของดีไง」

「ดูเหมือนความสามารถในการรู้ชื่อของโควรินจะทื่อลงจนได้นะ
 เฮ้อ, จะเอาแบบนั้นก็ได้อยู่หรอกนะ
 แต่ว่า, ไม่ต้องเกรงใจฉันก็ได้โว้ย, ตั้งไปว่า ดาบโควริน ก็ได้นี่นา ?
 ยังไงฉันก็จะไม่กลับไปที่บ้านเดิมอีกแล้ว」

「ไม่ได้... ...เกรงใจสักหน่อย」

เอาแต่หลอกมาริสะแบบนี้เดี๋ยวเจอดีในภายหลังแน่, จึงต้องเตรียมการป้องกันล่วงหน้าเอาไว้เท่านั้น
เผื่อเอาไว้ตอนที่มาริสะโตพอจะรู้ว่าตัวเองโดนหลอก ก็จะไม่สามารถพูดขอเอาคืนได้
เรื่องอื่นก็อย่างเช่น, ถ้าไม่ใช้ชื่อที่มีอายุสั้นก็ไม่มีความหมาย... ...

ทว่า, ของที่ไม่ใช่สินค้าเพิ่มเข้ามาในร้านโควรินโดวอีกชิ้นหนึ่งแล้ว
ถ้าในร้านเต็มไปด้วยของที่ไม่ใช่สินค้า, ก็คงจะไปพูดว่ามาริสะเป็นนักสะสมได้ไม่เต็มปาก
เพราะกลายเป็นว่าผมเองก็มีเป้าหมายอยู่แค่ที่การรวบรวมเหมือนกัน... ...,เฉพาะเรื่องนั้นแหละที่เป็นห่วง





สาระน่ารู้น่าสังเกต...
- ในเวอร์ชั่นซีรี่ส์รายเดือน ชื่อตอนนี้คือ 霖雨の火炉 (เตาไฟแห่งสายฝนอันยาวนาน)
   ซึ่งอาจนัยถึง ชื่อของริน(霖)โนะสุเกะ ผสานกับนามสกุล คิริซาเมะ(雨)ของมาริสะ
   โดยในเนื้อหานั้นรินโนะสุเกะเป็นคนสร้าง ส่วนมาริสะเอาไปใช้ จึงไม่แปลกนักถ้าจะตั้งชื่อตอนแบบนี้
   แต่ในฉบับรวมเล่มได้แก้ไขชื่อตอนเป็น เตาไฟแห่งคิริซาเมะ(ฝนพรำ) ซึ่งอาจนัยถึงมาริสะ และวันฝนพรำที่มาริสะได้เตาไฟมา
- รินโนะสุเกะมีความสามารถในการรู้ชื่อและประโยชน์ของไอเทมที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนได้ แต่ดันไม่รู้วิธีใช้ จึงต้องศึกษาลองผิดลองถูกเอาเอง
- รินโนะสุเกะเป็นคนสร้างเตาแปดวิถีมินิ ซึ่งเป็นไอเทมที่ทำให้มาริสะแข็งแกร่งสุดยอดในเรื่องโทโฮ
- เนื้อหาไม่ได้บอกว่ามาริสะเป็นคนขอ หรือว่ารินโนะสุเกะเป็นคนมอบให้เอง
- เตาแปดวิถี Mini สามารถทำให้อากาศเย็นได้แม้ในหน้าร้อน = ที่มาของท่า Cold Inferno ในภาค 10
- ดาบคุซานากิ (ดาบตัดหญ้า) เป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าประจำไตรเทวภัณฑ์ สมบัติประจำประเทศญี่ปุ่น สัญลักษณ์แห่งองค์จักรพรรดิ
   ตำนานเล่าว่า สึซาโนโอะพบดาบเล่มนี้ในหางที่สี่(จากเจ็ด)ของอสรพิษยักษ์แปดหัวที่น่าสะพรึงกลัว ยามาตะโนะโอโรจิ
   และได้ตั้งชื่อว่าดาบอาเมะโนะมุราคุโมะโนะทสึรุกิ (เมฆาสวรรค์)
   ต่อมาได้ตกทอดสู่ลูกหลานเทพเจ้าอันเป็นเชื้อสายจักรพรรดิญี่ปุ่นเรื่อยมาจนถึงยุคของจักรพรรดิองค์ที่ 20 ชื่อ เคนโคว
   ซึ่งมีบุตรเป็นนักรบผู้เก่งกล้านาม ยามาโตะ ทาเครุ ซึ่งเขาได้รับดาบเมฆาสวรรค์มาจากป้าเพื่อให้คุ้มครองทาเครุจากภยันตราย
   อยู่มาวันหนึ่ง ทาเครุก็ถูกคนทรยศล่อให้มาที่กลางทุ่งหญ้าเพียงลำพัง จากนั้นก็ถูกจุดไฟล้อมรอบทิศ
   ทาเครุพยายามหนีตายด้วยการใช้ดาบที่มีติดตัวอยู่ ตัดหญ้ารอบๆตัวทิ้ง เพื่อให้ไฟไม่มีฟืนเพียงพอที่จะลามมาถึงตัว
   แต่ตอนนั้นเองที่ทาเครุสังเกตเห็นว่า ดาบของเขาตัดหญ้าได้ไกลกว่ารัศมีดาบ ทั้งยังก่อให้เกิดลมพัดไปในทิศทางที่ฟาดดาบได้
   ทาเครุจึงใช้พลังวิเศษนี้เอาตัวรอดมาได้ในที่สุด จึงเรียกดาบเล่มนี้ว่า คุซานากิโนะทสึรุกิ (ดาบตัดหญ้า)
   ในกาลต่อมา ดาบเล่มนี้ได้ถูกขโมย สูญหาย จมน้ำ และอีกหลายเหตุการณ์แต่ก็กู้กลับมาได้อย่างปลอดภัยทุกครั้ง
   ในขณะที่นักวิชาการบางท่านเชื่อว่าดาบเล่มจริงได้สาบสูญไปแล้ว ที่เห็นอยู่ในปัจจุบันคือของปลอมเท่านั้น
   แต่ในเรื่องโทโฮนี้ การที่มันหลุดหลงมาอยู่ในเกนโซวเคียวได้ก็หมายความว่า เล่มจริงได้สาบสูญมาอยู่ที่นี่แล้วนั่นเอง
- ดาบคุซานากิ เป็นดาบในยุคโบราณ จึงไม่น่าจะมีรูปร่างเป็นคาตานะแบบที่เห็นในภาพ บางทีอาจเป็นความผิดพลาดของนักวาดก็เป็นได้



.........................................................................................................................................................................................

กลับไปที่สารบัญของหนังสือเล่มนี้