東方妖々夢 ~ Perfect Cherry Blossom.
โทวโฮวโยวโยวมุ (ความฝันอันเย้ายวนแห่งตะวันออก) ~ ซากุระบานสะพรั่งไร้ที่ติ
.........................................................................................................................................................................................
*กดที่ชื่อของตัวละครเพื่อแสดงข้อความ*
Reimu's Story
มิโกะผู้เลิศล้ำแห่งสรวงสวรค์ ฮาคุเรย์ เรย์มุ Reimu Hakurei |
ความเร็วในการเคลื่อนที่ : ปานกลาง ความเร็วในการเคลื่อนที่แบบช้า : ปานกลาง จำนวนบอมบ์เริ่มต้น : 3 อัตราการเสียค่า Cherry จากการใช้บอมบ์ : ต่ำ ความสามารถเฉพาะตัว : - จุดกระทบต่อกระสุนศัตรูมีขนาดเล็กกว่าปกติ - หลังโดนกระสุนศัตรู มีเวลาให้กดบอมบ์ก่อนตาย นานกว่าปกติ ยันต์วิญญาณ Type ติดตาม กระสุน 「Homing Amulet」 「ฮาคุเรย์ Amulet」 บอมบ์ 「ผนึกจินตนาการ กระจาย」 「ผนึกจินตนาการ รวมศูนย์」 ยันต์ฝัน Type ยิงรัว กระสุน 「Persuasion Needle」 「Extermination」 บอมบ์ 「ค่ายกลผนึกมาร」 「เขตแดนซ้อนสอง」 |
Stage 1
ชื่อด่าน : ฤดูใบไม้ผลิสีเงิน
กลีบซากุระต้องร่วงโรยดั่งเกล็ดหิมะ...
กระนั้นก็ตามที, มันยังคงเป็นหิมะสีเงินอยู่
(เปิดเพลง BGM : ดินแดนในอุดมคติ ~ ดีพ เมาเทน (หุบเขาลึก))
เรย์มุ : หนาว~
เรย์มุ : อยากให้หนาวพอเหมาะพอควรกว่านี้หน่อยนะ
เรย์มุ : ถ้าเป็นทุกทีล่ะก็ มันต้องเป็นฤดูแห่งการนอนแล้วแท้ๆ
(เลตตี้ ไวท์รอค เข้ามาในหน้าจอ)
??? : หลับลึกลืมอรุณ, งั้นเหรอ ?
(มาจากบทกวีที่มีชื่อเสียงของ เมิ่งเฮ่าหราน หมายถึง การนอนหลับอย่างสุขสบายในฤดูใบไม้ผลิจนไม่รู้สึกตัวว่าเช้าแล้ว)
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
สิ่งที่ถูกลืมแห่งฤดูหนาว
เลตตี้ ไวท์รอค
Letty Whiterock
เรย์มุ : ถ้าพูดถึงว่าแบบไหนล่ะก็, น่าจะเป็นการหลับใหลชั่วนิรันดร์ของพวกเธอล่ะมั้งนะ ?
เลตตี้ : จะว่าไปแล้ว, พวกมนุษย์ไม่จำศีลกันเหรอ ?
เลตตี้ : เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแท้ๆ
เรย์มุ : คนที่ทำแบบนั้นก็มีอยู่นะ, แต่ไม่ใช่ฉัน
เลตตี้ : งั้นฉันจะทำให้หลับเอง
เลตตี้ : หลับลึกอย่างสงบเลยล่ะ
เรย์มุ : เฮ้อ~, ถ้าจะหลับลึกล่ะก็ มันต้องอากาศอบอุ่นกว่านี้น้า
เลตตี้ : ถ้าต้องรอให้อบอุ่นถึงจะนอนหลับได้ล่ะก็, พวกฉันก็เหมือนกันนะ
เลตตี้ : แล้วก็, ดอกอาเซบิด้วยล่ะมั้ง
(อาเซบิ เป็นพืชที่จะมีดอกไม้บานในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ดอกของมันมีลักษณะเป็นไหสีขาวจำนวนมาก และมีพิษ)
(เปิดเพลง BGM : Crystalize Silver)
เรย์มุ : หนวกหู, ถ้าพวกอย่างเธอนอนหลับไปล่ะก็ มันจะอุ่นขึ้นมานิดนึงไงล่ะ !
(เลตตี้ ไวท์รอค แพ้พ่าย)
เรย์มุ : ไม่ค่อยจะอุ่นขึ้นเลยนะ
เรย์มุ : รู้งี้น่าจะเล่นงานให้หนักกว่านี้สักหน่อย
Stage 2
ชื่อด่าน : แมวดำแห่งมาโยอิกะ
มันโซเซไปมาอยู่ในหมู่บ้านที่ไร้ซึ่งผู้คน
"มาโยอิกะ" (หมู่บ้านผีสิง) นั้นปฏิเสธมนุษย์อยู่เสมอ
(เปิดเพลง BGM : นิทานโทโนะมายา)
เรย์มุ : หืม
เรย์มุ : แถวนี้มีบ้านอยู่ด้วยเหรอเนี่ย ?
(เชน เข้ามาในหน้าจอ)
??? : ถ้าหลงเข้ามาที่นี่ก็จบสิ้นแล้ว !
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
แมวดำแห่งลางร้าย
เชน
Chen
เรย์มุ : จบสิ้น ?
เชน : เรื่องนั้นพักไว้ก่อน, ยินดีต้อนรับสู่หมู่บ้านหลงทาง (มาโยอิกะ)
เรย์มุ : แล้ว, อะไรจบสิ้น ?
เชน : ถ้าหลงเข้ามาก็จบสิ้นแล้ว, ไม่อาจกลับไปได้อีกเป็นครั้งที่ 2 ไงล่ะ
เรย์มุ : งั้นเหรอคะ
เรย์มุ : อืม, จะว่าไป, บอกว่า หมู่บ้านหลงทาง สินะ
เรย์มุ : ที่เขาเล่ากันว่า หากนำสิ่งของที่อยู่ที่นี่กลับไปด้วยแล้วจะโชคดี...
เชน : ก็ตามนั้นล่ะ
เรย์มุ : งั้นก็, เริ่มการปล้นชิง---
เชน : ว่าไงนะ ?
(เปิดเพลง BGM : เตียว เย่ จง (withered leaf))
เชน : ที่นี่เป็นหมู่บ้านของพวกฉันนะ
เชน : คิดว่าจะยอมให้มนุษย์ออกไปได้งั้นเหรอ ?
เรย์มุ : ถ้าหลงเข้ามาแล้ว, จะไม่อาจกลับไปได้อีกเป็นครั้งที่ 2
เรย์มุ : ... มันจะเป็นยังไงกันนะ
(เชน แพ้พ่าย)
เรย์มุ : ก่อนอื่นก็
เรย์มุ : ต้องหาของใช้ประจำวันที่อยู่ใกล้ตัวและน้ำหนักเบาๆสินะ
Tips :
- ชื่อหมู่บ้าน มาโยอิกะ แปลว่า หมู่บ้านหลงทาง หรือก็คือ หมู่บ้านแห่งการหลงทาง มีต้นแบบมาจากหมู่บ้านชื่อเดียวกันในนิทานโทโนะ
สำหรับท่านที่อ่านภาษาญี่ปุ่นออกจะเห็นว่า ตัวอักษรญี่ปุ่นเขียนไว้ว่า มาโยฮิกะ แต่อักษรอังกฤษกำกับว่า MAYOIGA
สาเหตุเป็นเพราะคนญี่ปุ่นมีความเชื่อเรื่อง อำนาจหรือพลังที่แฝงอยู่ในชื่อ
ยกตัวอย่างเช่น ในอักษรคำว่า กรง 籠 นี้ประกอบขึ้นจากส่วนประกอบสองตัวคือ 竹 (ไผ่) และ 龍 (มังกร)
สมมติว่ามีโยวไคตนหนึ่งเกลียดกลัวมังกร อีกตนหนึ่งเกลียวกลัวไม้ไผ่... ทั้งสองจะไม่กล้าเข้าบ้านที่มีกรงวางไว้ในบ้าน
เพราะเสมือนว่ามี ไม้ไผ่ กับ มังกร อยู่ในบ้าน แม้ว่ามันจะเป็นเพียงกรงธรรมดาๆก็ตาม
ในอีกแง่หนึ่ง เมื่อสร้างหมู่บ้านขึ้นมาใหม่ และยังไม่มีการตั้งชื่อ... หากตั้งชื่อ (เขียนชื่อ) ให้มันว่า มาโยอิกะ
หมู่บ้านนั้นก็จะกลายเป็นหมู่บ้านแห่งการหลงทาง ด้วยอำนาจของชื่อนั้น
เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องดังกล่าว จึงทำการตั้งชื่อ (เขียนชื่อ) ว่า มาโยฮิกะ
แต่ยังคงอ่านออกเสียงว่า มาโยอิกะ ตามปกติ
สำหรับประเด็นนี้จะพบตัวอย่างอื่นๆได้จากชื่อของเทพเจ้าบางองค์ ที่ใช้อักษร ฮิ แทน อิ (แต่ออกเสียง อิ)
นอกจากนี้ก็ยังมีการใช้ โวะ แทน โอะ และการใช้ วิ แทน อิ ให้เห็นด้วย เช่นชื่อของเทพ สึซาโนโอะ
ส่วนชื่อภาษาอังกฤษนั้นเขียนว่า Mayoiga ได้ตามปกติ เนื่องจากอักษรอังกฤษไม่มีอำนาจเหนือธรรมชาติใดๆในญี่ปุ่น
และในอีกแง่หนึ่ง หากเราตั้งชื่อให้ กรง ว่า สายฟ้า ก็จะ(เชื่อว่า)ทำให้กรงนั้นมีอิทธิฤทธิ์ในการเก็บกักสายฟ้าได้
(ซึ่งอาจทำให้ไม่ถูกโฉลกกับเทพอัสนี) และยังทำให้นัยถึง มังกรสายฟ้า หรือ ไม้ไผ่สายฟ้า ได้อีกด้วย
Stage 3
ชื่อด่าน : คืนแห่งการสัมปทานตุ๊กตา
หิมะกำลังตกเฉพาะในสวนสวรรค์แห่งนี้งั้นหรือ ?
สวนสวรรค์ดังกล่าวได้กลายเป็นสนามเด็กเล่นของอลิสไปเรียบร้อยแล้ว
(เปิดเพลง BGM : นักสร้างตุ๊กตาแห่งบุคุเรสติ)
เรย์มุ : ตกกลางคืนแล้วอากาศเย็นจังเลยนะ
เรย์มุ : ทัศนวิสัยก็เลวร้ายที่สุดเลยด้วย
(อลิส มาร์กาทรอยด์ เข้ามาในหน้าจอ)
??? : ที่หนาวก็เพราะระดับฤดูใบไม้ผลิของเธอมันไม่เพียงพอไงล่ะ
??? : หรือไม่ใช่ ?
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
ผู้ใช้ตุ๊กตาเจ็ดสี
อลิส มาร์กาทรอยด์
Alice Margatroid
เรย์มุ : ไม่หรอก, มันก็คงไม่พอนั่นล่ะ
อลิส : ไม่เจอกันพักนึงเลยนะ (อ้างถึงเหตุการณ์ในอดีตที่พวกเธอเคยสู้กัน)
เรย์มุ : เพิ่งเจอกันเมื่อกี้เองนี่ (อ้างถึงเหตุการณ์ตอนต้นของฉากนี้)
อลิส : ไม่ใช่, ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น
เรย์มุ : ขยายร่างชั่วคราว ? (ชื่อไอเทมในเกม Gauntlet Dark Legacy) (เรย์มุอาจจะพยายามสื่อว่า อลิสขยายร่างขึ้นมาจากตุ๊กตาตัวหนึ่งในฉาก)
อลิส : จำฉันไม่ได้เหรอ ?
อลิส : เฮ้อ, ช่างเถอะ
เรย์มุ : เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน, ระดับฤดูใบไม้ผลิคืออะไรเหรอ ?
อลิส : ระดับที่บ่งชี้ว่ามันสมองของเธอเป็นฤดูใบไม้ผลิขนาดไหนยังไงล่ะ
เรย์มุ : งั้นถ้าอยู่ในระดับสูงก็ไม่ดีสิน้า
เรย์มุ : ว่าแต่, ทำไมฤดูหนาวถึงได้ยาวนานขนาดนี้ล่ะ ?
อลิส : เพราะมีคนที่รวบรวมระดับฤดูใบไม้ผลิอยู่น่ะสิ
เรย์มุ : เธอเกี่ยวข้องกับเจ้านั่นรึเปล่า ?
อลิส : ไม่มีทางอยู่แล้ว
เรย์มุ : งั้นลาล่ะ
อลิส : เดี๋ยวสิ !
(เปิดเพลง BGM : ตุ๊กตาฟ้องร้อง ~ สาวน้อยผู้เห็นสิ่งที่มีรูปร่างมนุษย์เป็นของเล่น)
อลิส : อุตส่าห์เจอเพื่อนเก่าทั้งที
อลิส : กลับมีของฝากเป็นแค่ชีวิตของเธองั้นเหรอ ?
เรย์มุ : ใครเป็นเพื่อนเก่าของคนบ้าเวทมนตร์เจ็ดสีอย่างเธอกันน่ะ
อลิส : ยังไงซะ, มิโกะก็มีแค่สองสี
อลิส : พลังนั้นมีไม่ถึง สองส่วน แปดหน่วย หกจุด ของฉันด้วยซ้ำ
(วิธีการวัดค่าแบบจีน เทียบได้กับ 28.6% ที่เธอพูดแบบนี้ก็เพราะ 2สี(ของเรย์มุ) เทียบกับ 7สี(ของเธอ) แล้วมีค่าเท่ากับ 28.5714% นั่นเอง)
(อลิส มาร์กาทรอยด์ แพ้พ่าย)
เรย์มุ : ระดับฤดูใบไม้ผลิที่พูดถึงน่ะ
เรย์มุ : มันคือกลีบดอกซากุระพวกนี้สินะ ?
อลิส : รู้อยู่แล้วก็เลยรวบรวมเอาไว้ไม่ใช่เหรอ ?
เรย์มุ : เปล่า, แบบว่า, อื้ม ใช่แล้ว
Stage 4
ชื่อด่าน : เขตแดนดอกซากุระเหนือเมฆา
กลีบซากุระร่วงโรยลงมาจากเหนือเมฆ
หรือว่า "เรย์โชวเดน" (ดินแดนในตำนาน) จะมีอยู่จริง ?
(เปิดเพลง BGM : นครบุปผาแห่งท้องนภา)
เรย์มุ : ที่ยิ่งกว่านั้นคือ
เรย์มุ : ทำไมซากุระถึงไปปลิวอยู่เหนือเมฆได้ล่ะ ?
เรย์มุ : ...
เรย์มุ : ...
เรย์มุ : ถ้าเป็นทุกทีล่ะก็
เรย์มุ : ตอนนี้ต้องมีใครสักคนออกมาตอบคำถามแล้วล่ะนะ
(ลูนาซ่า ปริซึมริเวอร์ เข้ามาในหน้าจอ)
??? : อา, เข้าใจแล้ว (ยอมออกมารับมุขของเรย์มุ)
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
Violinist วิญญาณหลอน
ลูนาซ่า ปริซึมริเวอร์
Lunasa Prismriver
ลูนาซ่า : แบบว่ามันคือ ไอ้นั่น ไงล่ะ
ลูนาซ่า : พอแถวนี้กลายเป็นฤดูนี้ ความกดอากาศก็...
ลูนาซ่า : ลดต่ำลง
เรย์มุ : ท่าทาง Tension (ความครึกครื้น) ก็จะลดต่ำลงไปด้วยเหมือนกันนะ (เพราะถ้าความกดอากาศลดลงจนฝนตกก็จะแสดงดนตรีไม่ได้)
ลูนาซ่า : ...
เรย์มุ : โอ๊ะ, ไม่ได้หมายความว่าฉันไม่มีธุระ, เพราะงั้นฉันไม่กลับหรอกนะ
ลูนาซ่า : ไม่มีใครคิดจะพูดแบบนั้นสักหน่อย
ลูนาซ่า : แค่อยากจะบอกว่าเป็นกระแสลมยกตัวเท่านั้นเอง
(กระแสลมยกตัว หมายถึง กระแสลมที่ลอยขึ้นตามแนวตั้งฉาก ทำให้อุณหภูมิลดต่ำลง และความชื้นจับตัวเป็นเมฆจนเกิดฝนตก)
เรย์มุ : ยังไงก็ตาม, ไม่ว่าจะดูยังไง หลังประตูบานนี้มันช่างให้ความรู้สึกเหมือนเป็นจุดหมายปลายทางเลยนะ
??? : ก็บอกว่าเร็วไปแล้วไงล่ะ พี่น่ะ
(เมแลง ปริซึมริเวอร์ เข้ามาในหน้าจอ)
(ลิริก้า ปริซึมริเวอร์ เข้ามาในหน้าจอ)
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
Trumpeter วิญญาณหลอน
เมแลง ปริซึมริเวอร์
Merlin Prismriver
เมแลง : อ้าว, นั่นใครล่ะ ?
ลูนาซ่า : กระแสลมยกตัวน่ะ
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
Keyboardist วิญญาณหลอน
ลิริก้า ปริซึมริเวอร์
Lyrica Prismriver
ลิริก้า : ศัตรูตามธรรมชาติของพวกเรางั้นสินะ--- (เพราะถ้าฝนตก ก็เล่นคอนเสิร์ทไม่ได้)
เรย์มุ : เกรงว่าจะไม่ใช่นะ
เรย์มุ : แล้ว, พวกเธอเป็นใครน่ะ ?
เรย์มุ : ที่นี่คือที่ไหนเหรอ ?
(เปิดเพลง BGM : วงดนตรีวิญญาณ ~ แฟนธอม เอนเซมเบิล (กลุ่มนักดนตรีวิญญาณ))
ลิริก้า : พวกเราคือวงดนตรีวิญญาณหลอน~
ลิริก้า : มาที่นี่เพราะถูกเชิญน่ะ
เมแลง : หลังจากนี้จะมีงานชมดอกไม้ที่ตำหนักน่ะ
เมแลง : พวกเราก็เลยจะไปทำให้ครึกครื้นขึ้นด้วยเสียงเพลงไงล่ะ
ลูนาซ่า : แต่ว่าเธอไม่สามารถบรรเลงดนตรีได้
เรย์มุ : ฉันก็อยากชมดอกไม้นะ
เมแลง : แต่เธอไม่ได้รับคำเชิญนี่นะ
เรย์มุ : ถูกยูวเรย์(ผี)เชิญงั้นสิน้า (ความหมายทั่วไปในภาษาญี่ปุ่นคือ ชวนไปตาย)
เรย์มุ : แบบนั้นก็ไม่อยากถูกเชิญเลยน้า
ลูนาซ่า : เสียงรบกวน, ต้องถูกสะสาง (เสียงรบกวน หมายถึง เรย์มุ)
ลิริก้า : พยายามเข้านะ~
ลูนาซ่า : ยังอยู่ในช่วงที่ยินดีให้การช่วยเหลือนะ
(ลูนาซ่า ปริซึมริเวอร์ เข้าทำการต่อสู้)
(อีกสองคน เข้ามาช่วย)
(สามพี่น้อง Prismriver แพ้พ่าย)
เรย์มุ : สำเร็จ, ได้สิทธิไปงานชมดอกไม้ล่ะ !
สามพี่น้อง : จุดประสงค์คือการปล้นงานชมดอกไม้งั้นเหรอ ?
เรย์มุ : รู้สึกว่าอะไรบางอย่างมันผิดไปนะ
Stage 5
ชื่อด่าน : การประลองมายา ณ บันไดแห่งตำหนักหยกขาว
สาวน้อยผู้อาศัยในโลกหลังความตาย
เธอเป็นครึ่งหนึ่งของผีและมนุษย์
ข้าขออธิษฐาน
หลับใหลชั่วกาล
ใต้ต้นซากุระบาน
ณ จันทร์เพ็ญเดือนสอง
(สี่วรรคนี้แต่งโดยนักกวี ไซเกียว ผู้เป็นต้นแบบของบิดาของยูยูโกะ)
(เปิดเพลง BGM : ความฝันอันเย้ายวนแห่งตะวันออก ~ แอนเชียนท์ เทมเพิล (วัดโบราณ))
(คอนปาคุ โยวมุ เข้ามาในหน้าจอ)
??? : เธอ, เป็นมนุษย์สินะ
??? : มาได้จังหวะพอดี
??? : ฤดูใบไม้ผลิอันแสนน้อยนิดที่เธอนำมา
??? : ฉันขอรับไปทั้งหมดเลยละกัน
(คอนปาคุ โยวมุ แพ้พ่าย)
(คอนปาคุ โยวมุ ออกไปจากหน้าจอ)
เรย์มุ : ความรู้สึกไม่เป็นมงคลแบบนี้
เรย์มุ : ทำให้สนุกไม่ออกเลยแฮะ
(คอนปาคุ โยวมุ เข้ามาในหน้าจอ)
??? : เห็นทุกคนเอะอะเสียงดังกันใหญ่
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
คนสวนปลีกวิเวก
คอนปาคุ โยวมุ
Youmu Konpaku
โยวมุ : ที่แท้ก็เป็นเพราะมนุษย์ที่ยังมีชีวิตนี่เอง
เรย์มุ : ...ไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่
เรย์มุ : แต่ว่าที่นี่คือ...
โยวมุ : ที่อาศัยของผู้ที่เคยมีชีวิตไงล่ะ
เรย์มุ : โลกโน้น ? (หมายถึงโลกหลังความตาย ซึ่งตอนนี้เรย์มุอยู่ใน "โลกโน้น" เรียบร้อยแล้ว จึงชี้แจงไว้เพื่อให้อ่านได้เข้าใจยิ่งขึ้น)
เรย์มุ : นี่ฉันถูกเชิญมาจริงๆเหรอเนี่ย
โยวมุ : เธอยังไม่ได้รับเชิญนะ
เรย์มุ : ที่สำคัญกว่านั้น
เรย์มุ : การที่มนุษย์ธรรมดาสามารถเข้ามายังโลกโน้นได้อย่างง่ายดายขนาดนี้, มันอันตรายไม่ใช่เหรอ ?
โยวมุ : ก็เธอทำลายเขตแดนแล้วเข้ามานี่นา !
เรย์มุ : เขตแดนพรรค์นั้น, ทำลายได้ง่ายๆเลยล่ะ
โยวมุ : เขตแดนน่ะถูกกางกั้นขึ้นมาเพื่อสื่อความหมายว่า อย่าเข้ามานะ ไม่ใช่เหรอ
โยวมุ : ไม่ใช่เด็กๆที่ปีนหอคอยเหล็กซึ่งแปะป้ายไว้ว่า 『อันตราย ห้ามปีน』 แล้วนะ
โยวมุ : ทำลายเขตแดนตามใจชอบ แล้วมาบอกว่ามันอันตรายตามอำเภอใจ, แบบนี้ได้ไงล่ะ
เรย์มุ : เป็นยูวเรย์ที่พูดมากเอาเรื่องนะ
โยวมุ : ครึ่งหนึ่งของฉันไม่ใช่ยูวเรย์ !
เรย์มุ : แล้วจะให้แก้ไขที่ตรงนั้นเหรอ ? (หมายถึง แก้ตรงที่เรย์มุพูดว่า เป็นยูวเรย์พูดมาก)
โยวมุ : ยังไงก็ช่าง, หากเพียงรวบรวมฤดูใบไม้ผลิได้อีกนิดเดียวเท่านั้น
โยวมุ : ไซเกียวอายาคาชิก็จะเบ่งบานอย่างสมบูรณ์
โยวมุ : ฤดูใบไม้ผลิอันแสนน้อยนิดที่เธอนำมา
โยวมุ : คือสิ่งที่จะทำให้เข้าใกล้การเบ่งบานสมบูรณ์ไปอีกก้าวไงล่ะ
เรย์มุ : ครึ่งหนึ่งที่พูดมากคือยูวเรย์ (เรย์มุนึกวิธีแก้คำพูดก่อนหน้าออกแล้ว) (แต่ท่าทางจะไม่ได้สนใจฟังโยวมุเลย)
โยวมุ : ฟังอยู่รึเปล่า ?
โยวมุ : เธอจะถูกฟาดฟันแล้วจบสิ้นลงที่นี่ไงล่ะ
เรย์มุ : ตายในโลกโน้นแล้วยังต้องข้ามไปโลกโน้นอีกรึเปล่านะ
โยวมุ : เธอก็จะข้ามไปยังนรกไงล่ะ
เรย์มุ : อ๊ะ, ที่นี่ไม่ใช่นรกหรอกเหรอ ? (ที่นี่คือ โลกวิญญาณ ซึ่งเป็นหนึ่งในภพภูมิหลังความตายเท่านั้น)
(เปิดเพลง BGM : การยิงนกปิศาจของฮิโระอาริ ~ ทิล เวน? (จนถึงเมื่อไหร่ ?))
โยวมุ : ... สิ่งที่ดาบโรวคันเคนซึ่งตีขึ้นโดยโยวไคเล่มนี้ตัดไม่ขาดนั้น, แทบจะไม่มี !
(คอนปาคุ โยวมุ แพ้พ่าย)
เรย์มุ : ที่นี่ก็เป็นฤดูใบไม้ผลิมากพอแล้วนี่นา
เรย์มุ : คิดจะทำอะไรมากไปกว่านี้อีกล่ะ ?
โยวมุ : คุณหนูบอกว่า ปีนี้แหละจะทำให้ซากุระเบ่งบานอย่างสมบูรณ์ให้ได้...
โยวมุ : แต่การจะทำให้ไซเกียวอายาคาชิเบ่งบานอย่างสมบูรณ์ได้นั้น ด้วยฤดูใบไม้ผลิระดับนี้คง...
เรย์มุ : พอบานอยางสมบูรณ์แล้วจะเกิดเรื่องดีๆขึ้นรึไงนะ
Perfect Cherry Blossom
ชื่อด่าน : ศพของคุณหนูในโลกโน้น
จงถวายดอกซากุระแก่พระพุทธรูป
หากต้องการไว้ทุกข์แก่ผู้ที่อาศัยในโลกโน้นของข้า
(แต่งโดยนักกวี ไซเกียว ผู้เป็นต้นแบบของบิดาของยูยูโกะ)
หลีกห่างแดนกิเลส
ใฝ่หาแดนพิสุทธิ์
(เปิดเพลง BGM : Ultimate Truth)
(คอนปาคุ โยวมุ เข้ามาในหน้าจอ)
โยวมุ : ถ้าขึ้นไปสูงกว่านี้แล้วถูกคุณหนูฆ่าตายล่ะก็, ฉันไม่รู้ด้วยนะ !
เรย์มุ : คนที่จะถูกฆ่าตายน่ะ มันคือเธอไม่ใช่เรอะ ?
(คอนปาคุ โยวมุ แพ้พ่าย)
เรย์มุ : ให้ตายสิ !
เรย์มุ : มีแต่ยูวเรย์เต็มไปหมดเลย, เบื่อแล้วนะ
??? : บุกเข้ามาในสวนของคนอื่นตามอำเภอใจ
??? : แล้วยังเอาแต่บ่นไม่หยุดอีกเนี่ย
เรย์มุ : !?
(ไซเกียวจิ ยูยูโกะ เข้ามาในหน้าจอ)
??? : คิดจะทำอะไรกันนะ
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
สาวน้อยวิญญาณแห่งตำหนักมรณะ
ไซเกียวจิ ยูยูโกะ
Yuyuko Suigyouji
ยูยูโกะ : เอาเถอะ, ก็ที่นี่มีแต่ยูวเรย์นี่นะ
เรย์มุ : ว่าแต่, ฉันมาด้วยธุระอะไรหว่า ?
เรย์มุ : มัวแต่ตะลึงกับซากุระที่งดงามจนลืมเลย
ยูยูโกะ : งานชมดอกไม้กระมัง ?
ยูยูโกะ : ยังมีที่ว่างอยู่อีกพอสมควรเลยล่ะ
เรย์มุ : อ้อ, เหรอ ?
เรย์มุ : งั้น, ไปชมดอกไม้กันเลยดีมั้ย
ยูยูโกะ : แต่ว่า, เธอไม่ได้รับเชิญนะ
เรย์มุ : จริงสิจริงสิ, นึกออกแล้ว
ยูยูโกะ : อะไรเหรอ ?
เรย์มุ : ฉันจะชมดอกซากุระที่ศาลเจ้าของตัวเองน่ะ
ยูยูโกะ : ...
เรย์มุ : ด้วยประการละฉะนี้แล, แม้ว่ามันจะเป็นซากุระที่งดงาม
เรย์มุ : แต่, ฤดูใบไม้ผลิที่เธอรวบรวมมาน่ะ ขอคืนได้รึเปล่า ?
ยูยูโกะ : อีกนิดเดียวเองนะ
ยูยูโกะ : อีกนิดเดียว, ไซเกียวอายาคาชิก็จะเบ่งบานอย่างสมบูรณ์แล้วนะ
เรย์มุ : แล้วมันคืออะไรล่ะ, เจ้าไซเกียวอายาคาชิที่ว่านั่น
ยูยูโกะ : โยวไคซาคุระ(ต้นซากุระภูต)ของฉันน่ะ
ยูยูโกะ : ด้วยฤดูใบไม้ผลิระดับนี้, ไม่อาจปลดผนึกของซากุระต้นนี้ได้หรอก
เรย์มุ : ในเมื่อมีคนจงใจผนึกมันเอาไว้
เรย์มุ : ก็หมายความว่า, ไม่ปลดผนึกออกมาจะดีกว่า, ไม่ใช่เหรอ ?
เรย์มุ : ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผนึกอะไรเอาไว้
ยูยูโกะ : นั่นคือคำพูดของเธอซึ่งปีนข้ามเขตแดนมางั้นเหรอ
เรย์มุ : เอาเหอะน่า, แล้วถ้าปลดผนึกออกมันจะเป็นยังไงล่ะ ?
ยูยูโกะ : มันจะเบ่งบานอย่างสมบูรณ์สุดยอดเลยล่ะ
เรย์มุ : ...
ยูยูโกะ : และดูเหมือนว่า, ในเวลาเดียวกันก็จะชุบชีวิตใครบางคนขึ้นมาด้วย
เรย์มุ : การชุบชีวิตเพียงเพราะมีความสนใจเป็นที่ตั้งมันไม่ดีนะ
เรย์มุ : ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นใคร
ยูยูโกะ : แหม, ฉันสามารถชักจูงทั้งมนุษย์และโยวไคให้เข้าหาความตายได้โดยมีความสนใจเป็นที่ตั้งนะ
เรย์มุ : มองว่าการชุบชีวิตไม่ต่างกับความตายแบบนั้นมันไม่ดีนะ
เรย์มุ : ถ้าชุบชีวิตขึ้นมาแล้วเป็นตัวปัญหา, จะทำยังไงล่ะ
ยูยูโกะ : ไม่ลองก็ไม่รู้หรอกนะ
ยูยูโกะ : เหนือสื่งอื่นใด, ตัวเธอซึ่งไม่ถูกรับเชิญก็เหมือนกับได้ตายไปแล้ว ณ เวลานี้
ยูยูโกะ : กล่าวคือ, การที่มาอยู่ที่นี่นั้นมีความหมายว่าได้ตายไปแล้วไงล่ะ
เรย์มุ : ถึงฉันตายไปก็ยังสามารถชมดอกไม้ได้นะ
ยูยูโกะ : หากมีฤดูใบไม้ผลิอันแสนน้อยนิดที่เธอนำมาล่ะก็
ยูยูโกะ : จะได้เห็นซากุระที่แท้จริงนะ, ...พร้อมกับมีใครสักคนเป็นของแถม
เรย์มุ : เอาล่ะ, เลิกล้อเล่นกันแค่นี้ดีกว่า
เรย์มุ : ขอฤดูใบไม้ผลิของเกนโซวเคียวคืนล่ะนะ
(เปิดเพลง BGM : จงเบ่งบานอย่างวิจิตร, ซากุระย้อมดำเอ๋ย ~ บอร์ดเดอร์ ออฟ ไลฟ์ (เขตแดนเป็นตาย))
ยูยูโกะ : พูดอย่างนั้นแต่แรกก็สิ้นเรื่องแล้วแท้ๆ
เรย์มุ : นี่พูดเป็นครั้งที่ 2 แล้วล่ะ
ยูยูโกะ : ตอนจบสุดท้ายมันเป็นใจความสำคัญไงล่ะ
เรย์มุ : จงกลับไปอยู่ใต้ดอกไม้เสียเถอะ, เจ้าวิญญาณแห่งฤดูใบไม้ผลิ !
ยูยูโกะ : จงหลับใหลใต้ดอกไม้เสียเถอะ, เจ้าผีเสื้อสีแดงขาว !
(ไซเกียวจิ ยูยูโกะ แพ้พ่าย)
คงกลัดกลุ้มแสนสาหัสด้วยตระหนักถึงความขมขื่นของร่างกายเป็นแน่แท้
หากปฏิเสธเสียก็คงกลับสู่โลกซึ่งไร้แสงสว่าง
(แต่งโดยนักกวี ไซเกียว ผู้เป็นต้นแบบของบิดาของยูยูโกะ)
(ไซเกียวอายาคาชิได้รับการปลดผนึก)
(เปิดเพลง BGM : Border of Life)
(กลไกของเขตแดนทำงาน ทำให้ไซเกียวอายาคาชิถูกผนึกอีกครั้ง)
(รายละเอียดเกี่ยวกับผนึกของไซเกียวอายาคาชิ ควรอ่านบทแนะนำตัวละครยูยูโกะในlinkนี้เพิ่มเติม)
・หากผู้เล่นทำการคอนทินิวแม้สักครั้ง >> Ending No.1 (Bad Ending)
・หากผู้เล่นเลือกใช้เรย์มุ A (วิญญาณ) และชนะเกมโดยไม่คอนทินิวเลย >> Ending No.4 (Good Ending)
・หากผู้เล่นเลือกใช้เรย์มุ B (ฝัน) และชนะเกมโดยไม่คอนทินิวเลย >> Ending No.5 (Good Ending)
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Marisa's Story
สาวน้อยนักเวทดำธรรมดาสามัญ คิริซาเมะ มาริสะ Marisa Kirisame |
ความเร็วในการเคลื่อนที่ : เร็ว ความเร็วในการเคลื่อนที่แบบช้า : ปานกลาง จำนวนบอมบ์เริ่มต้น : 2 อัตราการเสียค่า Cherry จากการใช้บอมบ์ : สูง ความสามารถเฉพาะตัว : - บริเวณที่จะทำการดูดไอเทมเข้าตัว อยู่ใกล้กว่าปกติ - ขอบเขตการเก็บไอเทมกว้างกว่าปกติ ยันต์เวท Type เน้นพลังทำลาย กระสุน 「Magic Missile」 「Magic Napalm」 บอมบ์ 「Stardust Reverie」 「Milky Way」 ยันต์รัก Type ทะลุทะลวง กระสุน 「Stream Laser」 「Illusion Laser」 บอมบ์ 「Non-Directional Laser」 「Master Spark」 |
Stage 1
ชื่อด่าน : ฤดูใบไม้ผลิสีเงิน
กลีบซากุระต้องร่วงโรยดั่งเกล็ดหิมะ...
อย่างไรก็ดี, มันยังคงเป็นหิมะสีเงินอยู่
(เปิดเพลง BGM : ดินแดนในอุดมคติ ~ ดีพ เมาเทน (หุบเขาลึก))
มาริสะ : ทำไมฉันถึงมาอยู่ในที่แบบนี้ได้วะ ?
มาริสะ : ภูเขาหิมะในฤดูหนาวมันเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายนะโว้ย
(เลตตี้ ไวท์รอค เข้ามาในหน้าจอ)
??? : รู้รึเปล่าล่ะ, ว่าทำไมถึงเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ?
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
สิ่งที่ถูกลืมแห่งฤดูหนาว
เลตตี้ ไวท์รอค
Letty Whiterock
มาริสะ : เพราะไม่มีภูเขาที่ปราศจากหิมะของฤดูหนาวไงล่ะ
เลตตี้ : ว่าแล้วเชียว, เธอก็เป็นผู้ประสบอุบัติเหตุสินะ
มาริสะ : ฉันเป็นคนธรรมดาว่ะ
เลตตี้ : ถูกความหนาวเย็นเล่นงาน, อย่างน่าสงสารเลยนะ
มาริสะ : นั่นสินะ
มาริสะ : ถ้าเป็นแต่ก่อนล่ะก็, ตอนนี้มันคือฤดูที่พวกมนุษย์จะต้องหลับใหลใต้ต้นซากุระซะด้วยสิ (อาจหมายถึง เมาจนหลับ หรือตายแล้วฝัง ก็ได้)
เลตตี้ : ฤดูหนาวปีนี้ช่างยาวนานจริงน้า
เลตตี้ : จนฉันเองก็ชักอยากจะหลับลึกขึ้นมาบ้างแล้วสิ (คำว่าหลับลึกของญี่ปุ่น เกิดจากคำว่า ฤดูใบไม้ผลิ ประสมกับคำว่า หลับ)
(เปิดเพลง BGM : Crystalize Silver)
มาริสะ : ทำใจดีๆไว้, ถ้าหลับไปทั้งๆที่หนาวขนาดนี้ล่ะก็ จะถูกฆ่านะว้อย
(เลตตี้ ไวท์รอค แพ้พ่าย)
มาริสะ : กระทั่งเจ้าพวกนี้
มาริสะ : ถ้าโค่นได้, ก็ยังเพิ่มระดับฤดูใบไม้ผลิให้เหรอเนี่ย ?
Stage 2
ชื่อด่าน : แมวดำแห่งมาโยอิกะ
มันโซเซไปมาอยู่ในหมู่บ้านที่ไร้ซึ่งผู้คน
"มาโยอิกะ" (หมู่บ้านผีสิง) นั้นปฏิเสธมนุษย์อยู่เสมอ
(เปิดเพลง BGM : นิทานโทโนะมายา)
มาริสะ : ให้ตายเซ่
มาริสะ : ที่นี่เป็นเหมือนกับที่อาศัยของอะไรสักอย่างที่คล้ายมนุษย์เลย
มาริสะ : อย่างเช่น แมว, หมา, จิ้งจอก
(เชน เข้ามาในหน้าจอ)
??? : ถูกเรียกก็เลยบินออกมา...
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
แมวดำแห่งลางร้าย
เชน
Chen
มาริสะ : ...ไม้ที่โผล่ขึ้นมาจะโดนตอก, งั้นเหรอ ? (เป็นสำนวนญี่ปุ่น หมายถึง ทำตัวเด่นจะโดนเล่นงาน)
(ซึ่งในที่นี้อาจหมายถึงทั้ง มาริสะที่เป็นมนุษย์คนเดียวในมาโยอิกะ และ เชนที่ดันเสนอหน้าออกมา ก็ได้ สำนวนเดียวได้สองคน ลึกล้ำน่าดู)
เชน : แล้ว, มีธุระอะไรล่ะ ?
มาริสะ : ไม่มีธุระกับสิ่งมีชีวิตสี่เท้าหรอกว่ะ
เชน : การที่มาถึงหมู่บ้านหลงทาง (มาโยอิกะ) ได้เนี่ย
เชน : แสดงว่าหลงทางมาใช่มั้ยล่ะ~ ?
มาริสะ : ไม่เห็นจะมีถนนตรงไหนเลยนี่ (คำว่าหลงทางของญี่ปุ่น แปลตรงตัวได้ว่า หลงถนน)
เชน : เพราะทัศนวิสัยไม่ดีตั้งแต่เมื่อกี้เนื่องจากพายุหิมะ,
เชน : แถมทิศทางลมก็เปลี่ยนไปอย่างมากด้วย
มาริสะ : งั้นเหรอ, ทิศทางลมเปลี่ยนไปงั้นเหรอ
มาริสะ : มิน่าล่ะ
(เปิดเพลง BGM : เตียว เย่ จง (withered leaf))
เชน : กระทั่งทางกลับบ้านก็ยังไม่รู้ล่ะสิ
มาริสะ : มิน่าล่ะ
(เชน แพ้พ่าย)
มาริสะ : มิน่าล่ะ...
มาริสะ : สรุปว่าจะได้เจอกับใครยังไงก็ได้สินะ
Tips :
- ชื่อหมู่บ้าน มาโยอิกะ แปลว่า หมู่บ้านหลงทาง หรือก็คือ หมู่บ้านแห่งการหลงทาง มีต้นแบบมาจากหมู่บ้านชื่อเดียวกันในนิทานโทโนะ
สำหรับท่านที่อ่านภาษาญี่ปุ่นออกจะเห็นว่า ตัวอักษรญี่ปุ่นเขียนไว้ว่า มาโยฮิกะ แต่อักษรอังกฤษกำกับว่า MAYOIGA
สาเหตุเป็นเพราะคนญี่ปุ่นมีความเชื่อเรื่อง อำนาจหรือพลังที่แฝงอยู่ในชื่อ
ยกตัวอย่างเช่น ในอักษรคำว่า กรง 籠 นี้ประกอบขึ้นจากส่วนประกอบสองตัวคือ 竹 (ไผ่) และ 龍 (มังกร)
สมมติว่ามีโยวไคตนหนึ่งเกลียดกลัวมังกร อีกตนหนึ่งเกลียวกลัวไม้ไผ่... ทั้งสองจะไม่กล้าเข้าบ้านที่มีกรงวางไว้ในบ้าน
เพราะเสมือนว่ามี ไม้ไผ่ กับ มังกร อยู่ในบ้าน แม้ว่ามันจะเป็นเพียงกรงธรรมดาๆก็ตาม
ในอีกแง่หนึ่ง เมื่อสร้างหมู่บ้านขึ้นมาใหม่ และยังไม่มีการตั้งชื่อ... หากตั้งชื่อ (เขียนชื่อ) ให้มันว่า มาโยอิกะ
หมู่บ้านนั้นก็จะกลายเป็นหมู่บ้านแห่งการหลงทาง ด้วยอำนาจของชื่อนั้น
เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องดังกล่าว จึงทำการตั้งชื่อ (เขียนชื่อ) ว่า มาโยฮิกะ
แต่ยังคงอ่านออกเสียงว่า มาโยอิกะ ตามปกติ
สำหรับประเด็นนี้จะพบตัวอย่างอื่นๆได้จากชื่อของเทพเจ้าบางองค์ ที่ใช้อักษร ฮิ แทน อิ (แต่ออกเสียง อิ)
นอกจากนี้ก็ยังมีการใช้ โวะ แทน โอะ และการใช้ วิ แทน อิ ให้เห็นด้วย เช่นชื่อของเทพ สึซาโนโอะ
ส่วนชื่อภาษาอังกฤษนั้นเขียนว่า Mayoiga ได้ตามปกติ เนื่องจากอักษรอังกฤษไม่มีอำนาจเหนือธรรมชาติใดๆในญี่ปุ่น
และในอีกแง่หนึ่ง หากเราตั้งชื่อให้ กรง ว่า สายฟ้า ก็จะ(เชื่อว่า)ทำให้กรงนั้นมีอิทธิฤทธิ์ในการเก็บกักสายฟ้าได้
(ซึ่งอาจทำให้ไม่ถูกโฉลกกับเทพอัสนี) และยังทำให้นัยถึง มังกรสายฟ้า หรือ ไม้ไผ่สายฟ้า ได้อีกด้วย
Stage 3
ชื่อด่าน : คืนแห่งการสัมปทานตุ๊กตา
หิมะกำลังตกเฉพาะในสวนสวรรค์แห่งนี้งั้นหรือ ?
สวนสวรรค์ดังกล่าวได้กลายเป็นสนามเด็กเล่นของอลิสไปเรียบร้อยแล้ว
(เปิดเพลง BGM : นักสร้างตุ๊กตาแห่งบุคุเรสติ)
มาริสะ : รู้สึกน่าอยู่ยังไงชอบกลเว้ย
(อลิส มาร์กาทรอยด์ เข้ามาในหน้าจอ)
??? : ในค่ำคืนที่อำมหิตแบบนี้มันจะดีเหรอ ?
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
ผู้ใช้ตุ๊กตาเจ็ดสี
อลิส มาร์กาทรอยด์
Alice Margatroid
มาริสะ : ดีสิ
อลิส : สุดท้ายแล้วเธอก็แค่จอมเวทกลางทุ่ง
มาริสะ : แล้วมันแย่กว่าจอมเวทเรือนกระจกรึไง ?
อลิส : จอมเวทเมืองหลวงต่างหากล่ะ
มาริสะ : หา---? งั้นก็ยินดีต้อนรับสู่ชายแดน
อลิส : ฤดูใบไม้ผลิของบ้านนอกเนี่ยมันหนาวจัง, ไม่ชอบเลยน้า
มาริสะ : แล้วเพราะความผิดของใครล่ะ มันถึงได้มีพายุหิมะแบบนี้ ทั้งๆที่เป็นฤดูใบไม้ผลิน่ะ
(เปิดเพลง BGM : ตุ๊กตาฟ้องร้อง ~ สาวน้อยผู้เห็นสิ่งที่มีรูปร่างมนุษย์เป็นของเล่น)
อลิส : เอาเป็นว่า, ไม่ใช่ความผิดของฉันละกัน
มาริสะ : งั้นเหรอ
มาริสะ : แต่ดูเหมือนว่าจะมีฤดูใบไม้ผลิติดตัวอยู่นิดหน่อยนี่นา
อลิส : งั้นฉันขอรับฤดูใบไม้ผลิอันแสนน้อยนิดของเธอไปเลยดีมั้ย ?
(อลิส มาร์กาทรอยด์ แพ้พ่าย)
มาริสะ : เอะอะวุ่นวายขนาดนี้ทุกๆฤดูหนาวเลยเหรอ ?
มาริสะ : ส่วนใหญ่แล้ว, มนุษย์ธรรมดาเขาไม่ออกมาข้างนอกกันหรอกน้า
อลิส : อย่าเอาฉันไปเหมารวมกับมนุษย์ธรรมดาสิ
มาริสะ : เป็นพวกมนุษย์วิปริตรึไง ?
อลิส : แค่ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาย่ะ !!
Stage 4
ชื่อด่าน : เขตแดนดอกซากุระเหนือเมฆา
กลีบซากุระร่วงโรยลงมาจากเหนือเมฆ
หรือว่า "เรย์โชวเดน" (ดินแดนในตำนาน) จะมีอยู่จริง ?
(เปิดเพลง BGM : นครบุปผาแห่งท้องนภา)
มาริสะ : เขตแดนนี้มันสุดยอดเลยแฮะ
มาริสะ : มือสมัครเล่นเนี่ย ไม่มีทางเข้าใจวิธีการคลายมันออกได้เลยว่ะ
มาริสะ : ซ่อนอะไรเอาไว้กันแน่นะ
(ลิริก้า ปริซึมริเวอร์ เข้ามาในหน้าจอ)
??? : เอะเฮะเฮะ~
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
Keyboardist วิญญาณหลอน
ลิริก้า ปริซึมริเวอร์
Lyrica Prismriver
ลิริก้า : ความลับทางธุรกิจน่ะ
มาริสะ : Au pas, camarade... (มาจากบทกลอนฝรั่งเศส)
(มาริสะคงตั้งใจจะใช้คำเวทมนตร์ Open Sesame ที่ใช้เปิดประตูถ้ำสมบัติของพวกโจรในนิทานเรื่อง Ali Baba แต่ดันจำผิด)
ลิริก้า : ไม่ใช่อย่างนั้น, ก็บอกว่าเขตแดนมันไม่เปิดไงล่ะ
มาริสะ : งั้นช่างมันเถอะ, ว่าแต่เธอเป็นใครน่ะ ?
ลิริก้า : ช่างฉันเถอะ
มาริสะ : เออ, งั้นช่างเธอก็ได้วะ
มาริสะ : ยังไงซะ, พอโค่นเธอได้ ประตูก็คงจะเปิดออกล่ะมั้ง ?
(ลูนาซ่า ปริซึมริเวอร์ เข้ามาในหน้าจอ)
(เมแลง ปริซึมริเวอร์ เข้ามาในหน้าจอ)
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
Violinist วิญญาณหลอน
ลูนาซ่า ปริซึมริเวอร์
Lunasa Prismriver
ลูนาซ่า : เพื่อนของลิริก้าเหรอ ?
มาริสะ : เพื่อนว่ะ
ลิริก้า : เพื่อนจ้า~
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
Trumpeter วิญญาณหลอน
เมแลง ปริซึมริเวอร์
Merlin Prismriver
เมแลง : ดีจังเลย
เมแลง : ในที่สุดลิริก้าก็หาเพื่อนได้สักที
มาริสะ : แล้วก็, อาจจะกะทันหันไปหน่อย
มาริสะ : แต่อยากให้คลายเขตแดนนี่ให้หน่อยน่ะ, เห็นแก่มิตรภาพระหว่างเพื่อน
(เปิดเพลง BGM : วงดนตรีวิญญาณ ~ แฟนธอม เอนเซมเบิล (กลุ่มนักดนตรีวิญญาณ))
เมแลง : ก่อนหน้านั้น, ไม่ฟังสักเพลงหนึ่งก่อนเหรอ ?
เมแลง : เห็นแก่มิตรภาพระหว่างเพื่อน
ลูนาซ่า : ชมก่อนจ่ายทีหลัง (เป็นชื่อละครทีวีของญี่ปุ่น ซึ่งมีที่มาจากสำนวนญี่ปุ่น หมายถึง ถ้าเข้ามาชมแล้วชอบใจ ค่อยจ่ายเงินก่อนกลับไป)
ลูนาซ่า : เพราะเห็นแก่มิตรภาพระหว่างเพื่อนนะเนี่ย
ลิริก้า : มิตรภาพ~
มาริสะ : ไม่ว่าจะดูยังไง, ก็ไม่มีวี่แววว่าพวกเธอจะคลายเขตแดนนี้ได้เลยว่ะ
ลิริก้า : เอาล่ะ เริ่มการแสดงกันเลย~
ลิริก้า : พี่คะ, ลุยเลย !
เมแลง : เพื่อนของเธอนี่นะ, นานๆทีก็เล่น Solo เสียบ้างเถอะ
ลิริก้า : แง้~
ลูนาซ่า : เข้าใจแล้ว, จะช่วยเหมือนทุกทีละกัน
มาริสะ : ไม่ต้องการความช่วยเหลือโว้ย
(ลิริก้า ปริซึมริเวอร์ เข้าทำการต่อสู้)
(อีกสองคน เข้ามาช่วย)
(สามพี่น้อง Prismriver แพ้พ่าย)
มาริสะ : เอาล่ะ, ประตูจะเปิดแล้วสินะ ?
สามพี่น้อง : ประตูบานนี้ไม่เปิดหรอก
มาริสะ : พวกเธอจะเข้าไปข้างในไม่ใช่เหรอ ?
สามพี่น้อง : พวกฉันบินข้ามไปต่างหากล่ะ
มาริสะ : ...โฮ่
Stage 5
ชื่อด่าน : การประลองมายา ณ บันไดแห่งตำหนักหยกขาว
สาวน้อยผู้อาศัยในโลกหลังความตาย
เธอเป็นครึ่งหนึ่งของผีและมนุษย์
ข้าขออธิษฐาน
หลับใหลชั่วกาล
ใต้ต้นซากุระบาน
ณ จันทร์เพ็ญเดือนสอง
(สี่วรรคนี้แต่งโดยนักกวี ไซเกียว ผู้เป็นต้นแบบของบิดาของยูยูโกะ)
(เปิดเพลง BGM : ความฝันอันเย้ายวนแห่งตะวันออก ~ แอนเชียนท์ เทมเพิล (วัดโบราณ))
(คอนปาคุ โยวมุ เข้ามาในหน้าจอ)
??? : เธอ, เป็นมนุษย์สินะ
??? : มาได้จังหวะพอดี
??? : ฤดูใบไม้ผลิอันแสนน้อยนิดที่เธอนำมา
??? : ฉันขอรับไปทั้งหมดเลยละกัน
(คอนปาคุ โยวมุ แพ้พ่าย)
(คอนปาคุ โยวมุ ออกไปจากหน้าจอ)
มาริสะ : อากาศอบอุ่นขึ้นมาสุดๆเลยแฮะ
(คอนปาคุ โยวมุ เข้ามาในหน้าจอ)
??? : เห็นทุกคนเอะอะเสียงดังกันใหญ่
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
คนสวนปลีกวิเวก
คอนปาคุ โยวมุ
Youmu Konpaku
โยวมุ : ที่แท้ก็เป็นเพราะมนุษย์ที่ยังมีชีวิตนี่เอง
มาริสะ : ต้องให้ฉันเป็นศพถึงจะไม่ส่งเสียงเอะอะรึไง ?
โยวมุ : ไม่ส่งเสียงเอะอะหรอก
โยวมุ : เพราะการที่มนุษย์มายังตำหนักหยกขาวแห่งนี้ มีความหมายว่าน่าจะตายไปแล้วนั่นเอง
มาริสะ : แต่ฉันยังมีชีวิตอยู่แน่ๆว่ะ
โยวมุ : เธอข้ามเขตแดนนั้นมาด้วยตัวเอง
โยวมุ : พวกวิญญาณคงส่งเสียงเพราะความโง่เขลานั้นกระมัง
มาริสะ : ว่าแต่, ที่นี่อุ่นดีจริงๆว่ะ
โยวมุ : นั่นก็เพราะได้รวบรวมเอาฤดูใบไม้ผลิของทั้งเกนโซวเคียวมาไว้ที่นี่น่ะนะ
โยวมุ : ซากุระธรรมดาจึงเบ่งบานอย่างสมูบูรณ์ยิ่งกว่าสมบูรณ์เสียอีก
มาริสะ : อย่ามาเล่นมุข ศพชมดอกไม้งาม เลยน่า
โยวมุ : แต่ถึงอย่างนั้น, ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ไซเกียวอายาคาชิเบ่งบานอย่างสมบูรณ์...
มาริสะ : ไซเกียวอายาคาชิ ?
โยวมุ : ต้นซากุระภูต (โยวไคซาคุระ) อันแสนภาคภูมิของที่นี่น่ะ
มาริสะ : ชักรู้สึกอยากเห็นขึ้นมาแล้วสิ
โยวมุ : ยังไงก็ช่าง, หากเพียงรวบรวมฤดูใบไม้ผลิได้อีกนิดเดียวเท่านั้น
โยวมุ : ไซเกียวอายาคาชิก็จะเบ่งบานอย่างสมบูรณ์
โยวมุ : ฤดูใบไม้ผลิอันแสนน้อยนิดที่เธอนำมา
โยวมุ : คือสิ่งที่จะทำให้เข้าใกล้การเบ่งบานสมบูรณ์ไปอีกก้าวไงล่ะ
มาริสะ : แต่ฉันไม่มีทางยอมยกฤดูใบไม้ผลิที่อุตส่าห์รวบรวมมาให้เธอหรอกว้อย
โยวมุ : เข้าใกล้การเบ่งบานสมบูรณ์ไปอีกก้าวเชียวนะ !
มาริสะ : ไหนๆก็ไหนๆแล้ว, ฉันจะช่วงชิงฤดูใบไม้ผลิที่เธอรวบรวมมาทั้งหมด
มาริสะ : แล้วทำให้เจ้าต้นซากุระภูตนั่นเบ่งบานเองโว้ย
โยวมุ : ฉันไม่ยกฤดูใบไม้ผลิที่รวบรวมมาให้เธอหรอก
มาริสะ : ฉันก็เหมือนกัน
(เปิดเพลง BGM : การยิงนกปิศาจของฮิโระอาริ ~ ทิล เวน? (จนถึงเมื่อไหร่ ?))
โยวมุ : ... สิ่งที่ดาบโรวคันเคนซึ่งตีขึ้นโดยโยวไคเล่มนี้ตัดไม่ขาดนั้น, แทบจะไม่มี !
(คอนปาคุ โยวมุ แพ้พ่าย)
มาริสะ : เอาล่ะ, ช่วยนำทางไปจนถึงเจ้าต้นซากุระภูตนั่นหน่อยละกัน
โยวมุ : หากไม่ว่าทางใดก็ทำให้ไซเกียวอายาคาชิได้เบ่งบานอย่างสมบูรณ์ล่ะก็ จะเอาแบบนั้นก็ได้
โยวมุ : แต่รู้สึกยอมรับไม่ได้ยังไงชอบกลแฮะ
มาริสะ : ใครบอกว่าจะทำให้มันเบ่งบานอย่างสมบูรณ์น่ะ ?
มาริสะ : ฉันแค่อยากชมดอกไม้เท่านั้นเองว้อย
Perfect Cherry Blossom
ชื่อด่าน : ศพของคุณหนูในโลกโน้น
จงถวายดอกซากุระแก่พระพุทธรูป
หากต้องการไว้ทุกข์แก่ผู้ที่อาศัยในโลกโน้นของข้า
(แต่งโดยนักกวี ไซเกียว ผู้เป็นต้นแบบของบิดาของยูยูโกะ)
หลีกห่างแดนกิเลส
ใฝ่หาแดนพิสุทธิ์
(เปิดเพลง BGM : Ultimate Truth)
(คอนปาคุ โยวมุ เข้ามาในหน้าจอ)
โยวมุ : ถ้าขึ้นไปสูงกว่านี้แล้วถูกคุณหนูฆ่าตายล่ะก็, ฉันไม่รู้ด้วยนะ !
มาริสะ : แต่แรกเริ่มเดิมที, หากไม่มุ่งหน้าไปก็ไม่มีวันได้ฤดูใบไม้ผลิคืนน่ะสิ
(คอนปาคุ โยวมุ แพ้พ่าย)
มาริสะ : ไม่ว่าจะไปที่ไหน
มาริสะ : ก็เบ่งบานอย่างสมบูรณ์กันหมดเลยแฮะ
??? : ยังหรอก
??? : ยังเหลืออีกนิดหน่อย
มาริสะ : !
(ไซเกียวจิ ยูยูโกะ เข้ามาในหน้าจอ)
??? : หากมีฤดูใบไม้ผลิอีกเพียงนิดล่ะก็
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
สาวน้อยวิญญาณแห่งตำหนักมรณะ
ไซเกียวจิ ยูยูโกะ
Yuyuko Suigyouji
ยูยูโกะ : ไซเกียวอายาคาชิก็จะบานอย่างสมบูรณ์แบบล่ะ
มาริสะ : เอามาแล้วนี่ไง
มาริสะ : ฤดูใบไม้ผลิอันแสนน้อยนิดที่ว่านั่น
ยูยูโกะ : ตายจริง, เธอเป็นผู้สืบทอดต่อจากโยวมุงั้นเหรอ ?
มาริสะ : ไม่มีทาง, ฉันไม่อยากมาจบชีวิตในสถานที่ห่างไกลความเจริญแบบนี้หรอกโว้ย
ยูยูโกะ : งั้นก็เป็น, ตัวสำรอง ?
มาริสะ : ฟังที่พูดบ้างรึเปล่าเนี่ย ?
ยูยูโกะ : ฟังอยู่จ้ะ
ยูยูโกะ : ตอนตาย, อยากตายใต้ต้นซากุระสินะ
มาริสะ : ที่พูดมานี่แสดงว่าไม่เข้าใจอะไรเลยสินะ ?
ยูยูโกะ : อย่างไรก็ตาม, ไม่ว่ายังไงก็อยากจะคลายผนึกให้ไซเกียวอายาคาชิน่ะ
มาริสะ : เพราะงั้น, ฉันจะทำให้เองว้อย
มาริสะ : มันจะมีเรื่องอะไรดีๆเกิดขึ้นรึไง ?
ยูยูโกะ : ไม่รู้สิ
มาริสะ : ไม่ยกให้ฟรีๆนะเว้ย
ยูยูโกะ : แลกกับการชมดอกไม้ล่ะเป็นไง
ยูยูโกะ : งานชมดอกไม้ของที่นี่น่ะคึกคักสนุกสนานมากเลยนะ
มาริสะ : ก่อนหน้านี้ไม่นาน, เพิ่งจะโค่นเจ้าพวกที่ท่าทางคึกคักสนุกสนาน แล้วค่อยมาเนี่ยแหละ...
ยูยูโกะ : ไม่ว่าจะทำยังไง, ซากุระของโลกวิญญาณก็ไม่ต้องตาต้องใจมนุษย์งั้นหรือ ?
มาริสะ : เออ, แถวๆนี้มีแต่กลิ่นความตายเต็มไปหมดเลยล่ะ
ยูยูโกะ : ตายจริง, เธอดมกลิ่นด้วยตางั้นสินะ
มาริสะ : เออ, ได้กลิ่นสิ, เพิ่งเคยเจอฤดูใบไม้ผลิที่น่าหงุดหงิดแบบนี้เป็นครั้งแรกเลยว่ะ
ยูยูโกะ : เสียมารยาทนะ, ฤดูใบไม้ผลิของที่นี่ซึ่งเป็นแบบนั้นน่ะ, คือฤดูใบไม้ผลิของเกนโซวเคียวซึ่งเป็นที่อาศัยของพวกเธอนะ
มาริสะ : เสียมารยาทน่า, ว่าใครดมกลิ่นด้วยตานะ !
ยูยูโกะ : บทสนทนาเริ่มไม่ตรงกันเข้าไปทุกทีทุกที
มาริสะ : ความเร็วเสียงในโลกโน้นมันช้าน่ะ (โลกโน้น หมายถึง โลกหลังความตาย ซึ่งเป็นที่ๆพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ จึงอธิบายเพื่อให้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น)
มาริสะ : ที่ซึ่งความเร็วเสียงชักช้าแบบนี้น่ะ ไม่เข้ากับฤดูใบไม้ผลิเลยน้า
(เปิดเพลง BGM : จงเบ่งบานอย่างวิจิตร, ซากุระย้อมดำเอ๋ย ~ บอร์ดเดอร์ ออฟ ไลฟ์ (เขตแดนเป็นตาย))
ยูยูโกะ : งั้นก็น่าเสียดาย
ยูยูโกะ : จากนี้ไป, จะเพิ่มอุณหภูมิของบรรยากาศในการพูดคุยแล้วนะจ๊ะ
มาริสะ : เอาไว้หลังจากนี้ก็ได้...
ยูยูโกะ : แต่ว่า, อุตส่าห์มีโอกาสทั้งที
มาริสะ : ขอฤดูใบไม้ผลิที่น่าหงุดหงิดคืนล่ะโว้ย, เจ้าคุณหนูคนตาย !
ยูยูโกะ : ขอรับฤดูใบไม้ผลิอันแสนน้อยนิดไปล่ะ, เจ้าแม่มดดำ !
(ไซเกียวจิ ยูยูโกะ แพ้พ่าย)
คงกลัดกลุ้มแสนสาหัสด้วยตระหนักถึงความขมขื่นของร่างกายเป็นแน่แท้
หากปฏิเสธเสียก็คงกลับสู่โลกซึ่งไร้แสงสว่าง
(แต่งโดยนักกวี ไซเกียว ผู้เป็นต้นแบบของบิดาของยูยูโกะ)
(ไซเกียวอายาคาชิได้รับการปลดผนึก)
(เปิดเพลง BGM : Border of Life)
(กลไกของเขตแดนทำงาน ทำให้ไซเกียวอายาคาชิถูกผนึกอีกครั้ง)
(รายละเอียดเกี่ยวกับผนึกของไซเกียวอายาคาชิ ควรอ่านบทแนะนำตัวละครยูยูโกะในlinkนี้เพิ่มเติม)
・หากผู้เล่นทำการคอนทินิวแม้สักครั้ง >> Ending No.2 (Bad Ending)
・หากผู้เล่นเลือกใช้มาริสะ A (เวท) และชนะเกมโดยไม่คอนทินิวเลย >> Ending No.6 (Good Ending)
・หากผู้เล่นเลือกใช้มาริสะ B (รัก) และชนะเกมโดยไม่คอนทินิวเลย >> Ending No.7 (Good Ending)
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Sakuya's Story
คนรับใช้ผู้สง่างามอย่างสมบูรณ์แบบ อิซาโยอิ ซาคุยะ Sakuya Izayoi |
ความเร็วในการเคลื่อนที่ : ปานกลาง ความเร็วในการเคลื่อนที่แบบช้า : เร็ว จำนวนบอมบ์เริ่มต้น : 4 อัตราการเสียค่า Cherry จากการใช้บอมบ์ : ปานกลาง ความสามารถเฉพาะตัว : - ขอบเขตการ Graze ใหญ่กว่าปกติ - เมื่อ Miss (ตาย) จะเสีย Cherry น้อยกว่าปกติ ยันต์มายา Type ขอบเขตกว้าง กระสุน 「Jack the Ludo Bile」 「Jack the Ripper」 บอมบ์ 「Indiscriminate」 「ตุ๊กตาฆาตกร」 ยันต์เวลา Type พิเศษ กระสุน 「Misdirection」 「Power Direction」 บอมบ์ 「Perfect Square」 「Private Square」 |
Stage 1
ชื่อด่าน : ฤดูใบไม้ผลิสีเงิน
กลีบซากุระต้องร่วงโรยดั่งเกล็ดหิมะ...
อย่างไรก็ดี, มันยังคงเป็นหิมะสีเงินอยู่
(เปิดเพลง BGM : ดินแดนในอุดมคติ ~ ดีพ เมาเทน (หุบเขาลึก))
ซาคุยะ : ให้ตายสิ, จะสอยพวกเบ๊พรรค์นี้ไปสักเท่าไหร่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้นเลย !
ซาคุยะ : อยากให้ถึงบทของผู้อยู่เบื้องหลังเร็วๆจัง
(เลตตี้ ไวท์รอค เข้ามาในหน้าจอ)
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
สิ่งที่ถูกลืมแห่งฤดูหนาว
เลตตี้ ไวท์รอค
Letty Whiterock
เลตตี้ : ผู้อยู่เบื้องหลัง~
ซาคุยะ : เธอคือผู้อยู่เบื้องหลังสินะ
ซาคุยะ : งั้นก็, ให้ไวเลย
เลตตี้ : เดี๋ยว, รอก่อน !
เลตตี้ : ฉันเป็นผู้อยู่เบื้องหลังก็จริง, แต่เป็นระดับธรรมดานะ
ซาคุยะ : ที่แบบนี้น่ะไม่มีทั้งผู้อยู่เบื้องหลังหรือตัวละครธรรมดาทั้งนั้นแหละ
ซาคุยะ : ว่าแต่เธอน่ะ, รู้รึเปล่าว่าตอนนี้มีอะไรที่ไม่ธรรมดา ?
เลตตี้ : ผลึกหิมะมีขนาดใหญ่กว่าของเมื่อปีที่แล้วน่ะ
เลตตี้ : รวมๆแล้วก็, 3 เท่า
ซาคุยะ : อ้อ นั่นสินะ
(เปิดเพลง BGM : Crystalize Silver)
เลตตี้ : ที่เหลือก็, เมดเพี้ยนๆที่บินไปมาบนท้องฟ้า ล่ะมั้งนะ
ซาคุยะ : นั่นสินะ
ซาคุยะ : กะแล้วเชียว, เธอเป็นผู้อยู่เบื้องหลังจริงๆด้วย
(เลตตี้ ไวท์รอค แพ้พ่าย)
ซาคุยะ : เป็นผู้อยู่เบื้องหลังที่อ่อนแอจริงน้า
ซาคุยะ : ต้องรีบหาผู้อยู่เบื้องหลังคนต่อไปล่ะ
Stage 2
ชื่อด่าน : แมวดำแห่งมาโยอิกะ
มันโซเซไปมาอยู่ในหมู่บ้านที่ไร้ซึ่งผู้คน
"มาโยอิกะ" (หมู่บ้านผีสิง) นั้นปฏิเสธมนุษย์อยู่เสมอ
(เปิดเพลง BGM : นิทานโทโนะมายา)
ซาคุยะ : นี่เข้าฤดูใบไม้ผลิแล้วจริงๆเหรอเนี่ย
ซาคุยะ : ไม่ว่าจะคิดยังไงมันก็แปลกอยู่ดี
(เชน เข้ามาในหน้าจอ)
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
แมวดำแห่งลางร้าย
เชน
Chen
เชน : ถ้าคิดว่าแปลกก็ถามคนอื่นสิ !
ซาคุยะ : เธอไม่ใช่มนุษย์นี่นา
เชน : เอาเถอะ, ถึงถูกถามก็ตอบไม่ได้อยู่ดี
ซาคุยะ : วันแบบนี้น่ะนะ
ซาคุยะ : แมวต้องนอนขดตัวกลมอย่างสงบเสงี่ยมอยู่ที่โต๊ะอุ่นขาสิ
เชน : จะไปเชื่อตามความเชื่องมงายแบบนั้นไม่ได้นะ !
ซาคุยะ : (นั่นเป็นความเชื่องมงายงั้นเหรอ...)
เชน : ไม่งั้นพวกแมวที่ไม่มีเจ้าของจะทำยังไงกันล่ะ
ซาคุยะ : ลองถูกขับไล่ไปยังสถานีอนามัยอย่างว่าง่ายหน่อยเป็นไง ?
ซาคุยะ : โลกแห่งความพิสุทธิ์ก็ท่าทางจะอุ่นดีซะด้วยสิ
(สถานีอนามัยของญี่ปุ่น จะรับหน้าที่ดูแลสัตว์ไม่มีเจ้าของด้วย ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วก็มักจะไม่พ้นต้องกำจัดสัตว์เหล่านั้นทิ้ง)
(โลกแห่งความพิสุทธิ์ หรือ แดนพิสุทธิ์ นั้นเป็นหนึ่งในภพภูมิหลังความตาย)
(เปิดเพลง BGM : เตียว เย่ จง (withered leaf))
เชน : ให้พวกมนุษย์ ? ขับไล่พวกเรา ?
เชน : เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้หรอก เป็นไปไม่ได้แน่ๆ
เชน : การที่คิดจะทำกับพวกเราแบบนั้นน่ะ
ซาคุยะ : อยากลองทดสอบดูจังเลย
(เชน แพ้พ่าย)
ซาคุยะ : นะโม~
ซาคุยะ : ต้องมีความสุขในแดนสุขาวดีที่แสนอบอุ่นแน่ๆเลย
Tips :
- ชื่อหมู่บ้าน มาโยอิกะ แปลว่า หมู่บ้านหลงทาง หรือก็คือ หมู่บ้านแห่งการหลงทาง มีต้นแบบมาจากหมู่บ้านชื่อเดียวกันในนิทานโทโนะ
สำหรับท่านที่อ่านภาษาญี่ปุ่นออกจะเห็นว่า ตัวอักษรญี่ปุ่นเขียนไว้ว่า มาโยฮิกะ แต่อักษรอังกฤษกำกับว่า MAYOIGA
สาเหตุเป็นเพราะคนญี่ปุ่นมีความเชื่อเรื่อง อำนาจหรือพลังที่แฝงอยู่ในชื่อ
ยกตัวอย่างเช่น ในอักษรคำว่า กรง 籠 นี้ประกอบขึ้นจากส่วนประกอบสองตัวคือ 竹 (ไผ่) และ 龍 (มังกร)
สมมติว่ามีโยวไคตนหนึ่งเกลียดกลัวมังกร อีกตนหนึ่งเกลียวกลัวไม้ไผ่... ทั้งสองจะไม่กล้าเข้าบ้านที่มีกรงวางไว้ในบ้าน
เพราะเสมือนว่ามี ไม้ไผ่ กับ มังกร อยู่ในบ้าน แม้ว่ามันจะเป็นเพียงกรงธรรมดาๆก็ตาม
ในอีกแง่หนึ่ง เมื่อสร้างหมู่บ้านขึ้นมาใหม่ และยังไม่มีการตั้งชื่อ... หากตั้งชื่อ (เขียนชื่อ) ให้มันว่า มาโยอิกะ
หมู่บ้านนั้นก็จะกลายเป็นหมู่บ้านแห่งการหลงทาง ด้วยอำนาจของชื่อนั้น
เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องดังกล่าว จึงทำการตั้งชื่อ (เขียนชื่อ) ว่า มาโยฮิกะ
แต่ยังคงอ่านออกเสียงว่า มาโยอิกะ ตามปกติ
สำหรับประเด็นนี้จะพบตัวอย่างอื่นๆได้จากชื่อของเทพเจ้าบางองค์ ที่ใช้อักษร ฮิ แทน อิ (แต่ออกเสียง อิ)
นอกจากนี้ก็ยังมีการใช้ โวะ แทน โอะ และการใช้ วิ แทน อิ ให้เห็นด้วย เช่นชื่อของเทพ สึซาโนโอะ
ส่วนชื่อภาษาอังกฤษนั้นเขียนว่า Mayoiga ได้ตามปกติ เนื่องจากอักษรอังกฤษไม่มีอำนาจเหนือธรรมชาติใดๆในญี่ปุ่น
และในอีกแง่หนึ่ง หากเราตั้งชื่อให้ กรง ว่า สายฟ้า ก็จะ(เชื่อว่า)ทำให้กรงนั้นมีอิทธิฤทธิ์ในการเก็บกักสายฟ้าได้
(ซึ่งอาจทำให้ไม่ถูกโฉลกกับเทพอัสนี) และยังทำให้นัยถึง มังกรสายฟ้า หรือ ไม้ไผ่สายฟ้า ได้อีกด้วย
Stage 3
ชื่อด่าน : คืนแห่งการสัมปทานตุ๊กตา
หิมะกำลังตกเฉพาะในสวนสวรรค์แห่งนี้งั้นหรือ ?
สวนสวรรค์ดังกล่าวได้กลายเป็นสนามเด็กเล่นของอลิสไปเรียบร้อยแล้ว
(เปิดเพลง BGM : นักสร้างตุ๊กตาแห่งบุคุเรสติ)
ซาคุยะ : รู้สึกเหมือนใช้เวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ยังไงชอบกลแฮะ...
ซาคุยะ : หวังว่าคุณหนูคงจะไม่เป็นไรนะ ?
(อลิส มาร์กาทรอยด์ เข้ามาในหน้าจอ)
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
ผู้ใช้ตุ๊กตาเจ็ดสี
อลิส มาร์กาทรอยด์
Alice Margatroid
อลิส : ลองเป็นห่วงตัวเองให้เท่าๆกับที่เป็นห่วงคนอื่นดีกว่ามั้ย ?
ซาคุยะ : อา, เป็นห่วงอยู่แล้วล่ะ, เกี่ยวกับตัวเองน่ะ
อลิส : แล้ว, เป็นห่วงอะไรล่ะ ? เกี่ยวกับตัวเองน่ะ
ซาคุยะ : เอาชุดสำรองมาเปลี่ยนแค่ 3 ชุดเองน่ะสิ
ซาคุยะ : ตัวฉันน่ะ
อลิส : ต้องเอามาอยู่แล้ว
ซาคุยะ : แล้วก็, มีดสำรองด้วย
อลิส : เอามาด้วยเหรอเนี่ย ?
ซาคุยะ : ท่าทางเธอจะมีเรื่องให้กังวลน้อยนะ, ดีจังเลย
อลิส : เสียมารยาทนะ !
อลิส : ไม่ใช่น้อย, แต่ไม่มีเรื่องให้กังวลเลยต่างหาก !
ซาคุยะ : อ่า, ถึงจะพูดซะเด็ดขาดแบบนั้นก็เถอะน้า
ซาคุยะ : ว่าแต่, ไม่กังวลเรื่องนั้นเลยเหรอ
อลิส : หา ?
(เปิดเพลง BGM : ตุ๊กตาฟ้องร้อง ~ สาวน้อยผู้เห็นสิ่งที่มีรูปร่างมนุษย์เป็นของเล่น)
ซาคุยะ : รู้อะไรเกี่ยวกับคนที่แพร่ฤดูหนาว, หรือช่วงชิงฤดูใบไม้ผลิในละแวกนี้รึเปล่า ?
อลิส : อันที่จริงก็พอจะนึกออกอยู่หรอกนะ
ซาคุยะ : อยู่ที่ไหนล่ะ ?
อลิส : เรื่องจิ๊บจ๊อยพรรค์นั้นน่ะ, จะเป็นยังไงก็ช่างมันเถอะ
ซาคุยะ : ช่างมันไม่ได้หรอก
(อลิส มาร์กาทรอยด์ แพ้พ่าย)
ซาคุยะ : เอ้า, หัวโจกของความวุ่นวายในครั้งนี้เป็นใครที่ไหนกัน ?
อลิส : มีศาลเจ้าที่เงียบเหงาอยู่ทางใต้ลมน่ะ
อลิส : ที่นั่นมีมิโกะซึ่งสมองเป็นฤดูใบไม้ผลิอาศัยอยู่, ต้องเป็นยัยนั่นแน่
ซาคุยะ : คิดว่าคงไม่ใช่หรอกค่ะ
อลิส : งั้นพักเรื่องล้อเล่นเอาไว้ก่อน
อลิส : ไม่รู้สึกตัวเลยเหรอว่าทุกครั้งที่รวบรวมฤดูใบไม้ผลิได้จะยิ่งเข้าใกล้ฤดูใบไม้ผลิมากขึ้น ?
ซาคุยะ : ...เหนือลมสินะ
อลิส : ยังไม่ได้พูดอะไรเลยแท้ๆ...
Stage 4
ชื่อด่าน : เขตแดนดอกซากุระเหนือเมฆา
กลีบซากุระร่วงโรยลงมาจากเหนือเมฆ
หรือว่า "เรย์โชวเดน" (ดินแดนในตำนาน) จะมีอยู่จริง ?
(เปิดเพลง BGM : นครบุปผาแห่งท้องนภา)
ซาคุยะ : การที่บนท้องฟ้ามันอบอุ่นอย่างนี้เนี่ย
ซาคุยะ : ช่างวิเศษสุดจนชวนให้น้ำตาไหลเลยแฮะ
(เมแลง ปริซึมริเวอร์ เข้ามาในหน้าจอ)
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
Trumpeter วิญญาณหลอน
เมแลง ปริซึมริเวอร์
Merlin Prismriver
เมแลง : จริงด้วยนะ~
เมแลง : ทั้งๆที่ใต้เมฆนี้มีพายุหิมะที่บ้าคลั่งอยู่แท้ๆ
ซาคุยะ : แล้ว, ที่นี่คือที่ไหน ?
ซาคุยะ : เธอเป็นใคร ?
เมแลง : เอาทีละคำถามสิ
ซาคุยะ : นั่นสิน้า, งั้นก็ สุดยอดมั้ย ?
เมแลง : ธรรมดาสุดๆเลยล่ะ
เมแลง : ยังไงก็ช่างเถอะ, ว่าแต่เธอล่ะเป็นใคร ?
ซาคุยะ : แค่มุ่งหน้ามาทางเหนือลมจนมาถึงที่นี่เท่านั้นแหละ
ซาคุยะ : ดูเหมือนว่าสายลมจะมาหยุดนิ่งที่นี่ซะด้วยสิ
(ลูนาซ่า ปริซึมริเวอร์ เข้ามาในหน้าจอ)
(ลิริก้า ปริซึมริเวอร์ เข้ามาในหน้าจอ)
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
Violinist วิญญาณหลอน
ลูนาซ่า ปริซึมริเวอร์
Lunasa Prismriver
ลูนาซ่า : ยังเร็วเกินไปสำหรับงานเลี้ยงนะ
ซาคุยะ : หืม ?
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
Keyboardist วิญญาณหลอน
ลิริก้า ปริซึมริเวอร์
Lyrica Prismriver
ลิริก้า : เวลาแห่งงานเลี้ยง~
เมแลง : แหม่, จะกลายเป็นงานเลี้ยงขนาดย่อมเอาได้นะ ?
ซาคุยะ : อะไรกัน, จะบอกว่า หลังจากนี้จะไปงานชมดอกไม้ งั้นเหรอ ?
(เปิดเพลง BGM : วงดนตรีวิญญาณ ~ แฟนธอม เอนเซมเบิล (กลุ่มนักดนตรีวิญญาณ))
เมแลง : จะจัดงานชมดอกไม้น่ะ
ลูนาซ่า : เพราะว่าก่อนหน้านั้น น่าจะได้ข้อมูลของงานเลี้ยงมาน่ะ
ลิริก้า : งานฉลองในคืนก่อนงานชมดอกไม้น่ะ
ซาคุยะ : นั่นก็น่าสนุกดีนะ
ลูนาซ่า : เธอรับหน้าที่เป็นอาหารละกัน
ซาคุยะ : คงจะเหมาะกับฉันล่ะนะ
เมแลง : ไม่มีอาหารใดที่ฟังการบรรเลงดนตรีของฉันแล้วจะอยู่รอดปลอดภัย
ซาคุยะ : อยากอยู่รอดปลอดภัยจังเลยน้า
ลิริก้า : เนื้อสุนัข~ เนื้อสุนัข~ (ล้อซาคุยะว่าเป็นสุนัข)
ซาคุยะ : เนื้อคนต่างหาก !
(ลูนาซ่า ปริซึมริเวอร์ เข้าทำการต่อสู้)
(อีกสองคน เข้ามาช่วย)
(สามพี่น้อง Prismriver แพ้พ่าย)
ซาคุยะ : เอ่อ, ฉันไม่มีเวลาว่างมาเสียเปล่าในที่แบบนี้หรอกนะ
สามพี่น้อง : ยังเร็วเกินไปสำหรับงานชมดอกไม้นะ
ซาคุยะ : งานชมดอกไม้มันก็ดีอยู่หรอก,
ซาคุยะ : แต่ต้องเป็นฤดูใบไม้ผลิสิ
สามพี่น้อง : ถ้าฤดูใบไม้ผลิล่ะก็, ที่ตำหนักมีอยู่เต็มไปหมดเลยล่ะ
ซาคุยะ : ถ้าเขตแดนระดับนี้ล่ะก็,
ซาคุยะ : ลอดผ่านไปได้สบายๆเลยล่ะ
Stage 5
ชื่อด่าน : การประลองมายา ณ บันไดแห่งตำหนักหยกขาว
สาวน้อยผู้อาศัยในโลกหลังความตาย
เธอเป็นครึ่งหนึ่งของผีและมนุษย์
ข้าขออธิษฐาน
หลับใหลชั่วกาล
ใต้ต้นซากุระบาน
ณ จันทร์เพ็ญเดือนสอง
(สี่วรรคนี้แต่งโดยนักกวี ไซเกียว ผู้เป็นต้นแบบของบิดาของยูยูโกะ)
(เปิดเพลง BGM : ความฝันอันเย้ายวนแห่งตะวันออก ~ แอนเชียนท์ เทมเพิล (วัดโบราณ))
(คอนปาคุ โยวมุ เข้ามาในหน้าจอ)
??? : เธอ, เป็นมนุษย์สินะ
??? : มาได้จังหวะพอดี
??? : ฤดูใบไม้ผลิอันแสนน้อยนิดที่เธอนำมา
??? : ฉันขอรับไปทั้งหมดเลยละกัน
(คอนปาคุ โยวมุ แพ้พ่าย)
(คอนปาคุ โยวมุ ออกไปจากหน้าจอ)
ซาคุยะ : ออกมาเดี๋ยวนี้นะ
(คอนปาคุ โยวมุ เข้ามาในหน้าจอ)
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
คนสวนปลีกวิเวก
คอนปาคุ โยวมุ
Youmu Konpaku
โยวมุ : เห็นทุกคนเอะอะเสียงดังกันใหญ่, ที่แท้ก็เป็นเพราะมนุษย์ที่ยังมีชีวิตนี่เอง
ซาคุยะ : ในที่สุด, ก็มาถึงจุดเกิดเหตุจนได้
ซาคุยะ : ใช้เวลาไปหนึ่งวันเต็มๆเลยแฮะ
โยวมุ : มาจนถึงที่นี่ได้เนี่ย, ช่างว่างน่าดูเลยนะ
โยวมุ : ที่นี่คือ, ตำหนักหยกขาว
โยวมุ : ที่อาศัยของเหล่าผู้ตายน่ะ
โยวมุ : หากตัดสินสิ่งต่างๆด้วยสามัญสำนึกของมนุษย์ที่ยังมีชีวิต, จะเจ็บตัวเอาได้นะ
ซาคุยะ : คนตายไม่มีปาก (สำนวนญี่ปุ่น หมายถึง คนที่ตายไปแล้วย่อมมิอาจพูดได้ มิอาจเป็นพยานได้ มิอาจบอกเล่าอะไรแก่ใครได้)
(ในที่นี้ ซาคุยะคงจะหมายถึงว่า เจรจาไปก็เสียเวลาเปล่า)
ซาคุยะ : คืนฤดูใบไม้ผลิมาแต่โดยดีได้รึเปล่า
โยวมุ : อีกแค่นิดเดียวเองนะ
ซาคุยะ : นิดเดียวก็ไม่ได้
โยวมุ : อีกนิดเดียวไซเกียวอายาคาชิก็จะเบ่งบานอย่างสมบูรณ์
โยวมุ : ฤดูใบไม้ผลิธรรมดาน่ะ ไม่มีทางทำให้มันเบ่งบานอย่างสมบูรณ์ได้เลย
ซาคุยะ : ก็บอกว่า ไม่ได้ ไงล่ะ
โยวมุ : ไซเกียวอายาคาชิจะเบ่งบานอย่างสมบูรณ์แน่ๆ, ด้วยฤดูใบไม้ผลิอันแสนน้อยนิดที่เธอนำมา
ซาคุยะ : ฟังอยู่รึเปล่า ?
ซาคุยะ : เพื่อของพรรค์นั้น, ฉันถึงต้องทนหนาวมาตั้งนานนะ
โยวมุ : แต่ที่นี่ก็อุ่นดีนี่นา ?
ซาคุยะ : ช่างเถอะ
ซาคุยะ : ยังไงซะ คนตายก็ไม่มีปาก (ในที่นี้ ซาคุยะคงจะหมายถึงว่า เจรจาไปก็เสียเวลาเปล่า)
โยวมุ : ก็คนตายไม่มีปากจริงๆนั่นละ (ในที่นี้ โยวมุน่าจะหมายถึงพวกยูวเรย์(ผี)ในโทโฮ ซึ่งไม่มีปากจริงๆ)
โยวมุ : ขอรับฤดูใบไม้ผลิเหล่านั้นไปทั้งหมดเลยละกัน
ซาคุยะ : มีดของฉันคนนี้, จะฟาดฟันยูวเรย์ได้รึเปล่านะ ?
(เปิดเพลง BGM : การยิงนกปิศาจของฮิโระอาริ ~ ทิล เวน? (จนถึงเมื่อไหร่ ?))
โยวมุ : ... สิ่งที่ดาบโรวคันเคนซึ่งตีขึ้นโดยโยวไคเล่มนี้ตัดไม่ขาดนั้น, แทบจะไม่มี !
(คอนปาคุ โยวมุ แพ้พ่าย)
ซาคุยะ : ดีจังเลย ดูเหมือนว่าจะฟาดฟันยูวเรย์ได้นะ
ซาคุยะ : เพราะทำจากเงินล่ะมั้ง ?
โยวมุ : ครึ่งหนึ่งของตัวฉันไม่ใช่ยูวเรย์น่ะ
โยวมุ : แต่ว่า, คุณหนูไซเกียวจิน่ะเป็นร่างวิญญาณทั้งตัว
โยวมุ : อาวุธล้าหลังแบบนั้นจะชนะได้รึเปล่านะ ?
ซาคุยะ : อ่า, ทำไมพูดข้ามไปถึงเรื่องการต่อสู้กับคุณหนูที่ว่านั่นแล้วล่ะ
Perfect Cherry Blossom
ชื่อด่าน : ศพของคุณหนูในโลกโน้น
จงถวายดอกซากุระแก่พระพุทธรูป
หากต้องการไว้ทุกข์แก่ผู้ที่อาศัยในโลกโน้นของข้า
(แต่งโดยนักกวี ไซเกียว ผู้เป็นต้นแบบของบิดาของยูยูโกะ)
หลีกห่างแดนกิเลส
ใฝ่หาแดนพิสุทธิ์
(เปิดเพลง BGM : Ultimate Truth)
(คอนปาคุ โยวมุ เข้ามาในหน้าจอ)
โยวมุ : ถ้าขึ้นไปสูงกว่านี้แล้วถูกคุณหนูฆ่าตายล่ะก็, ฉันไม่รู้ด้วยนะ !
ซาคุยะ : เป็นคนตายแท้ๆแต่น่ารำคาญชะมัดเลยนะ
(คอนปาคุ โยวมุ แพ้พ่าย)
ซาคุยะ : ในโลกโน้นเนี่ย (โลกโน้น หมายถึง โลกหลังความตาย ซึ่งเป็นที่ๆเธอกำลังลุยอยู่นี่ล่ะ จึงอธิบายเพื่อให้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น)
ซาคุยะ : ไม่มีคำกล่าวที่ว่า คนตายไม่มีปาก รึไงนะ ?
??? : แหม
??? : คำกล่าวแบบนั้นมันต้องไม่มีอยู่แล้วล่ะ
ซาคุยะ : !
(ไซเกียวจิ ยูยูโกะ เข้ามาในหน้าจอ)
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
สาวน้อยวิญญาณแห่งตำหนักมรณะ
ไซเกียวจิ ยูยูโกะ
Yuyuko Suigyouji
ยูยูโกะ : โลกโน้นน่ะ เป็นสถานที่อันงดงามซึ่งคึกคักจอแจอยู่เสมอนั่นล่ะ
ซาคุยะ : ความงดงามนั่นน่ะ, คือสิ่งที่ช่วงชิงมาจากเกนโซวเคียวไม่ใช่เหรอ ?
ยูยูโกะ : ตายจริง, ไม่ชอบฤดูใบไม้ผลิเหรอ ?
ซาคุยะ : เพราะชอบถึงได้โกรธอยู่นี่ไงล่ะ
ซาคุยะ : ช่วงชิงระดับฤดูใบไม้ผลิของเกนโซวเคียวมาเพราะอะไร ?
ยูยูโกะ : หากเป็นฤดูใบไม้ผลิล่ะก็ อะไรๆมันก็ดีอยู่หรอก
ยูยูโกะ : แต่มันยังขาดอยู่อีกนิดหน่อยน่ะ
ซาคุยะ : ...เจ้าคนตายเมื่อกี้พูดอย่างกับว่าจะให้ฉันต่อสู้กับเธอเลย
ยูยูโกะ : อีกเพียงนิดเดียว, ซากุระสุดท้าย, ไซเกียวอายาคาชิ ก็จะเบ่งบาน
ยูยูโกะ : ขอเพียงมันเบ่งบาน, ปริศนาทั้งหมดก็จะไขกระจ่าง
ซาคุยะ : ซากุระที่ว่า, มันแห้งตายแล้วไม่ใช่เหรอ ?
ยูยูโกะ : ดูเหมือนว่าอีกนิดเดียวก็จะบานแล้วล่ะ
ยูยูโกะ : โยวมุคงคิดจะทำให้มันเบ่งบานด้วยฤดูใบไม้ผลิอันแสนน้อยนิดที่เธอนำมาแน่ๆเลย
ซาคุยะ : ฉันไม่สน
ซาคุยะ : ที่สำคัญกว่าคือ ฉันเป็นห่วงเรื่องที่ใช้เวลาเกินกว่าหนึ่งวันในการมาถึงที่นี่
ยูยูโกะ : แหม, เดี๋ยวก็ให้กลับแล้วล่ะ
ยูยูโกะ : แถมเธอเองก็ยังไม่ได้รับเชิญด้วย
ซาคุยะ : ขอแก้คำพูดเมื่อกี้หน่อย, ไม่ใช่มาถึงที่นี่
ซาคุยะ : แต่มาทำให้เกนโซวเคียวเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิต่างหาก
ยูยูโกะ : ตายจริง, ซากุระบนพื้นพิภพยังไม่บานอีกเหรอ ?
ซาคุยะ : อย่าว่าแต่ซากุระ, ขนาดต้นฟุคุจุยังไม่บานเลย
(ฟุคุจุ เป็นพืชขนาดเล็กที่จะบานในตอนต้นของฤดูใบไม้ผลิ สามารถใช้เป็นสมุนไพรกระตุ้นกล้ามเนื้อหัวใจได้)
ยูยูโกะ : งั้นเวลาเป็นโรคหัวใจก็ลำบากแย่เลยสิ
ซาคุยะ : ไม่ลำบากหรอก
ซาคุยะ : แต่เดิม, คุณหนูของฉันก็ไม่มีวันที่จะหัวใจอ่อนแออยู่แล้ว
ยูยูโกะ : งั้นก็น่าเสียดายนะ
ซาคุยะ : น่าเสียดาย ?
ซาคุยะ : เอาเถอะ, เรื่องพืชน่ะพักไว้ก่อน
ซาคุยะ : ชักอยากได้ความอบอุ่นแล้วสิ
ซาคุยะ : ขอคืนได้มั้ย, ความอบอุ่นน่ะ
(เปิดเพลง BGM : จงเบ่งบานอย่างวิจิตร, ซากุระย้อมดำเอ๋ย ~ บอร์ดเดอร์ ออฟ ไลฟ์ (เขตแดนเป็นตาย))
ยูยูโกะ : ศพน่ะ แลดูสวยงามก็เพราะนำมารวมกันไว้ในสถานที่หนึ่ง
ยูยูโกะ : ซากุระและฤดูใบไม้ผลิก็เช่นกัน...
ซาคุยะ : แต่เดิม ศพมันก็ไม่ใช่สิ่งสวยงามอยู่แล้ว
ยูยูโกะ : ก็เพราะอย่างนั้นนั่นแหละ
ซาคุยะ : ฉันจะชมดอกไม้ที่พื้นพิภพให้ได้, เจ้าศพของเจ้าหญิง !
ยูยูโกะ : ฉันจะคลายผนึกออกมาให้ได้, เจ้าสุนัขของปิศาจ !
(ไซเกียวจิ ยูยูโกะ แพ้พ่าย)
คงกลัดกลุ้มแสนสาหัสด้วยตระหนักถึงความขมขื่นของร่างกายเป็นแน่แท้
หากปฏิเสธเสียก็คงกลับสู่โลกซึ่งไร้แสงสว่าง
(แต่งโดยนักกวี ไซเกียว ผู้เป็นต้นแบบของบิดาของยูยูโกะ)
(ไซเกียวอายาคาชิได้รับการปลดผนึก)
(เปิดเพลง BGM : Border of Life)
(กลไกของเขตแดนทำงาน ทำให้ไซเกียวอายาคาชิถูกผนึกอีกครั้ง)
(รายละเอียดเกี่ยวกับผนึกของไซเกียวอายาคาชิ ควรอ่านบทแนะนำตัวละครยูยูโกะในlinkนี้เพิ่มเติม)
・หากผู้เล่นทำการคอนทินิวแม้สักครั้ง >> Ending No.3 (Bad Ending)
・หากผู้เล่นเลือกใช้ซาคุยะ A (มายา) และชนะเกมโดยไม่คอนทินิวเลย >> Ending No.8 (Good Ending)
・หากผู้เล่นเลือกใช้ซาคุยะ B (เวลา) และชนะเกมโดยไม่คอนทินิวเลย >> Ending No.9 (Good Ending)
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
*กดที่ชื่อของ Ending เพื่อแสดงข้อความ*
Ending No.01 Bad End Reimu
ศาลเจ้าฮาคุเรย์ท่ามกลางหิมะ
เรย์มุปลิวกลับมาจากโลกวิญญาณโดยยังมีชีวิตรอด
สุดท้าย, ฤดูใบไม้ผลิอันแสนน้อยนิดที่รวบรวมมา ก็ถูกช่วงชิงไปทั้งหมด
แต่, สุดท้ายแล้วไซเกียวอายาคาชิก็ไม่ได้เบ่งบานจนถึงขั้นสมบูรณ์เช่นกัน,
จึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย...
เรย์มุ 「หนอย,
คนตายกำลังใช้ชีวิตอย่างอบอุ่น,
แต่พวกฉันกลับต้องมาทนหนาวอย่างนี้อยู่ข้างล่างเนี่ยนะ」
เรย์มุ 「ไม่สบอารมณ์ยังไงชอบกลแฮะ
ไม่สิ, ไม่สบอารมณ์เลยต่างหาก」
ต้นซากุระที่ด้านหลังของศาลเจ้านั้น, ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะปริมาณมหาศาล, จึงไม่ต้องพูดถึงเรื่องการเบ่งบานอะไรเลย
พอมองต้นซากุระเหล่านั้น, เรย์มุก็ยิ่งไม่สบอารมณ์หนักเข้าไปอีก
BAD ENDING NO.1
มุ่งหน้าสู่ No Continue Clear กันเถอะ !
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Ending No.02 Bad End Marisa
ณ บ้านคิริซาเมะ
สุดท้ายแล้วไซเกียวอายาคาชิก็ไม่ได้เบ่งบานจนถึงขั้นสมบูรณ์,
ส่วนมาริสะ, ก็กลับสู่เกนโซวเคียวทั้งๆที่ยังหนาวอยู่,
แล้วมารับความอบอุ่นจากบ้านของตัวเอง (เพราะตามเนื้อหานั้น บ้านของมาริสะมีระบบสร้างความร้อนอยู่)
มาริสะ 「สุดท้ายแล้วมันอะไร ?
จะบอกว่าอยู่บ้านตัวเองดีที่สุดงั้นเหรอ ?」
มาริสะ 「เออ, ก็ได้วะ
ตั้งแต่กลายเป็นคนตายก็เอาแต่มัวเมาอยู่กับต้นซากุระแบบนั้น,
จะให้มองว่าน่าสงสารก็ทำไม่ลงว่ะ」
แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ แต่มาริสะซึ่งเพลิดเพลินจนเต็มอิ่มกับฤดูใบไม้ผลิแล้ว,
ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะออกเดินทางไปลิ้มรสฤดูใบไม้ผลิอีกครั้ง
BAD ENDING NO.2
มุ่งหน้าสู่ No Continue Clear กันเถอะ !
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Ending No.03 Bad End Sakuya
ณ คฤหาสน์มารแดง
สุดท้ายแล้วไซเกียวอายาคาชิก็ไม่ได้เบ่งบานจนถึงขั้นสมบูรณ์,
อย่างไรก็ตาม, ซาคุยะได้กลับมาเอาชุดสำรองที่คฤหาสน์มารแดง
ซาคุยะ 「ไม่มีความเปลี่ยนแปลงเลยเหรอคะ ? คุณหนู」
เรมิเลีย 「ไม่---มี---เลย---
แต่จะไม่เปลี่ยนมันก็ไม่ได้เนอะ ?」
ซาคุยะ 「ฉันแค่กลับมาเอาชุดสำรองเท่านั้นค่ะ」
อย่างไรก็ดี, เมื่อถอดชุดที่เปื้อนหิมะและความหม่นหมองออกมา,
เธอก็เตรียมตัวที่จะออกเดินทางอีกครั้ง
BAD ENDING NO.3
มุ่งหน้าสู่ No Continue Clear กันเถอะ !
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Ending No.04 Good End Reimu A
ที่นี่คือศาลเจ้าฮาคุเรย์, ศาลเจ้าซึ่งตั้งอยู่ ณ พรมแดนของเกนโซวเคียว
เมื่อมิโกะกลับมายังบ้านอันแสนคุ้นเคยของตน, ก็เริ่มเตรียมการชมดอกไม้ ราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
ใช่แล้ว, ต้นซากุระที่ด้านหลังของศาลเจ้าได้เบ่งบานอย่างสมบูรณ์แล้ว,
ราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
เรย์มุ 「พอได้ทำอย่างนี้แล้ว
ก็เหมือนกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลยจริงๆเนอะ」
มาริสะ 「อ๋า---
แล้วมันเคยมีอะไรเกิดขึ้นเรอะ ?」
เรย์มุ 「เธอก็หัดออกมาจากบ้านมั่งเหอะ
มันเป็นเรื่องใหญ่อยู่พักหนึ่งเลยนะ
ถึงจะลืมๆไปเยอะแล้วก็เถอะ」
มาริสะ 「อ๋า---, เป็นงั้นหรอกเหรอ ?」
ยูยูโกะ 「ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก
ธรรมดาจะตายไป」
เรย์มุ 「เป็นวิญญาณแล้วมาอยู่ในที่แบบนี้จะไม่เป็นไรเหรอ ?」
ยูยูโกะ 「ไม่นี่, ตัวศาลเจ้าเองก็ใช่ว่าจะมีอะไรอยู่ซะด้วย
แต่ถ้าเป็นวัดหรือโบสถ์ก็คงจะยุ่งยากน่าดู...」
โยวมุ 「อุตส่าห์เป็นฤดูใบไม้ผลิทั้งที
แถมถ้าไม่ใช่ที่สวนของท่านยูยูโกะ, ก็ไม่ต้องทำความสะอาดหลังงานเลิกด้วย」
เรย์มุ 「แต่การทำความสะอาดหลังงานเลิกมันเป็นหน้าที่ของคนสวนอย่างเธอนะ, แน่ๆเลยล่ะ」
???? 「อ๊ะ, เริ่มแล้วเริ่มแล้ว」
ซาคุยะ 「คุณหนูคะ, รอชมซากุระยามค่ำมันจะไม่ดีกว่าเหรอคะ ?」
เรมิเลีย 「มืดๆแล้วมันมองไม่ค่อยเห็นนี่นา」
เรย์มุ 「อ๊ะ, ผู้มีคุณสมบัติในการรับหน้าที่นั้นอีกคนหนึ่งโผล่มาแล้ว」
ซาคุยะ 「หน้าที่อะไรน่ะ ? ช่างเถอะ, เอาเหล้ากับของหวานมาแล้วนะ」
เรย์มุ 「กะแล้วเชียว, (ชี้ไปทางโยวมุ) ว่ามันต้องเป็นหน้าที่ของเธอ」
โยวมุ 「เอ๋---」
ยูยูโกะ 「แหม, ถ้าเทียบกับสวนอันกว้างใหญ่ของเราแล้ว,
สวนที่เล็กเท่าแมวดิ้นตายแบบนี้เนี่ย, ไม่กินแรงสักเท่าไหร่หรอกเนอะ ?」
โยวมุ 「ท่านยูยูโกะ, อย่าฆ่าหนูเลย~」
เรย์มุ 「ว่าอะไรเล็กเท่าแมวดิ้นตายนะ」
เรมิเลีย 「ยาเบื่อหนูน่ะ」
มาริสะ 「...แล้วเค้กนั่นจะไม่เป็นไรเหรอ ?」
สุดท้ายแล้ว, แม้ว่าไซเกียวอายาคาชิจะเบ่งบาน, แต่ก็ไม่ได้เบ่งบานจนถึงขั้นสมบูรณ์
ผนึกก็ไม่ได้ถูกคลายออก, และฤดูใบไม้ผลิก็มาเยือนดังเช่นที่ผ่านมา
เกนโซวเคียวเองก็เริ่มจะลืมเลือนเรื่องของฤดูหนาวไปแล้ว
ฤดูใบไม้ผลิมันมีพลังมากถึงขนาดนั้นเลยล่ะ
ENDING NO.4
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Ending No.05 Good End Reimu B
ที่นี่คือศาลเจ้าฮาคุเรย์, ศาลเจ้าซึ่งตั้งอยู่ ณ พรมแดนของเกนโซวเคียว
สุดท้ายแล้ว, แม้ว่าไซเกียวอายาคาชิจะเบ่งบาน, แต่ก็ไม่ได้เบ่งบานจนถึงขั้นสมบูรณ์
ผนึกก็ไม่ได้ถูกคลายออก, และฤดูใบไม้ผลิก็มาเยือนดังเช่นที่ผ่านมา
เมื่อมิโกะกลับมายังบ้านอันแสนคุ้นเคยของตน, ก็ลองไปดูสภาพของด้านหลังของศาลเจ้า
ณ ที่นั้น, ไม่เหลือเค้าลางของฤดูหนาวที่ยาวนานอีกต่อไปแล้ว
เรย์มุ 「หิมะเนี่ย, เป็นสิ่งที่หายไปได้ง่ายดายเหลือเกินนะ」
เรย์มุ 「แต่ทำความสะอาดสวนสักหน่อยน่าจะดีกว่าล่ะมั้ง」
เรย์มุ 「...พูดถึงฤดูใบไม้ผลิแล้ว, นี่ก็ร้อนไปหน่อยน่ะนะ」
?? 「เพราะฤดูใบไม้ผลิช่วงที่กลายเป็นฤดูหนาว, มันผ่านไปรวดเดียวเลยไงล่ะ」
เรย์มุ 「เรื่องที่พูดมานั่นมันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ ?」
ยูยูโกะ 「ที่ยิ่งกว่านั้นคือ, ช่างเป็นสวนที่ยาจกจริงๆเลยนะจ๊ะ」
เรย์มุ 「หนวกหูน่า, ก็ศาลเจ้ามันเป็นของแบบนั้นนี่นา」
โยวมุ 「ถ้าสวนของตระกูลไซเกียวจิเล็กขนาดนี้ล่ะก็, คงสบายน่าดู...」
ยูยูโกะ 「ถ้าขนาดเท่านี้ล่ะก็, มันจะแคบเกินไปจนคลั่งเอาได้นะ」
เรย์มุ 「มาทำอะไรล่ะ」
ยูยูโกะ 「เพราะว่าพรมแดนจะไม่มีความแน่ชัด จนกว่าเขตแดนของโลกวิญญาณจะซ่อมเสร็จน่ะ」
โยวมุ 「เลยมาเที่ยวเล่นนิดหน่อยเท่านั้นล่ะ」
เรย์มุ 「มันอันตรายนะ, รีบกลับไปซ่อมแซมอาณาเขตเลยนะ」
โยวมุ 「แม้ว่าเธอจะเป็นคนทำลายเองกับมือน่ะนะ」
โยวมุ 「จะว่าไปแล้ว, เขตแดนของที่นี่มั่นคงจังเลย...」
เรย์มุ 「เพราะอย่างนี้แหละ, ไม่ว่าจะเป็นทางนั้นหรือทางนี้ต่างก็ไม่อาจไปมาหากันได้โดยง่าย (หมายถึงโลกภายนอกกับเกนโซวเคียว)
พวกเธอเองก็พยายามอย่าเข้าไปใกล้ล่ะ มันอันตรายนะ」
เรย์มุ 「จริงสิ, ทำให้เขตแดนของโลกวิญญาณมั่นคงขนาดนี้ไปเลยสิ」
ยูยูโกะ 「แม้แต่ยัยนั่น, ก็คงไม่อาจกางกั้นเขตแดนระดับนี้ได้หรอกนะจ๊ะ」
เรย์มุ 「ยัยนั่นไหน ?」
ยูยูโกะ 「ตอนนี้, ได้รับคำขอจากทางนี้ให้ช่วยซ่อมแซมเขตแดนของโลกวิญญาณน่ะ」
เรย์มุ 「ถ้าเขตแดนถูกกางกั้นตอนนี้, พวกเธอก็กลับไม่ได้น่ะสิ ?」
ยูยูโกะ 「ไม่ต้องห่วง, เดี๋ยวพวกฉันจะบินข้ามเขตแดนเข้าไปน่ะ」
เรย์มุ 「...เป็นเขตแดนที่อ่อนแอจริงๆ」
เกนโซวเคียวนั้นมีอาณาเขตอยู่มากมาย
แต่ว่า, เขตแดนส่วนใหญ่นั้น, อยู่ในสภาพเลือนรางและคลุมเครืออย่างมาก
อาณาเขตที่แท้จริงนั้น, อาจมีเพียงศาลเจ้าฮาคุเรย์แห่งนี้เพียงที่เดียวก็เป็นได้
ENDING NO.5
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Ending No.06 Good End Marisa A
ในที่สุด, ตำหนักหยกขาวก็ต้องกล่าวลาแก่ฤดูใบไม้ผลิเสียที
สุดท้ายแล้ว, แม้ว่าไซเกียวอายาคาชิจะเบ่งบาน, แต่ก็ไม่ได้เบ่งบานจนถึงขั้นสมบูรณ์
สายลมของฤดูใบไม้ผลิที่พัดมาเป็นครั้งคราวนั้น, เมื่อทำให้ซากุระร่วงโรย, ก็จะรบกวนการนอนหลับอันแสนสงบสุข
ยูยูโกะ 「ฮ้าว~」
ยูยูโกะ 「ยามดอกไม้ร่วงโรย... ด้วยสายลมใบไม้ผลิ... ความฝันที่เห็นนั้น
แม้ตื่นขึ้นแล้ว... ก็ยังกระวนกระวายอยู่ในอก」 (บทกลอนที่ประพันธ์โดย ไซเกียว)
โยวมุ 「อ้าว, ตื่นแล้วเหรอคะ」
ยูยูโกะ 「เห็นฝันที่เป็นลางไม่ดีน่ะ
สายลมของฤดูใบไม้ผลิทำให้ซากุระร่วงโรย, แถมยังเป็นสายลมสีดำซะด้วย」
โยวมุ 「สายลมสีดำแห่งฤดูใบไม้ผลิ ?」
โยวมุ 「ถ้าอย่างนั้น, ก็น่าจะหมายถึงยัยนี่ไม่ใช่เหรอคะ」
มาริสะ 「อรุณสวัสดิ์, ตื่นได้ดีจริงนะ」 (หมายถึงเรื่องที่ยูยูโกะตื่นมาก็ร่ายกลอนเลย)
ยูยูโกะ 「อ้าว, ยังอยู่อีกเหรอเนี่ย
โลกเบื้องล่างก็เข้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว, กลับไปเสียไม่ดีกว่าหรือ ?」
มาริสะ 「อย่าพูดอย่างนั้นสิ
นี่แขกชาวมนุษย์ที่หาได้ยากเชียวนะโว้ย」
โยวมุ 「ดูเหมือนว่าถ้าเธออยู่ที่นี่แล้วซากุระจะร่วงโรยน่ะ」
มาริสะ 「ถึงฉันไม่อยู่ก็ร่วงว่ะ
ร่วงแน่ๆ」
โยวมุ 「ถ้าอย่างนั้น, เธอจะเก็บกวาดพวกกลีบดอกไม้ที่ร่วงโรยเพราะเธอด้วยใช่มั้ย ?」
ยูยูโกะ 「แหม, ถ้าสีดำนี่กลับไปก็ไม่ร่วงแล้วล่ะจ้ะ, โยวมุ」
มาริสะ 「ร่วงว่ะ, ร่วงแน่ๆ」
ยูยูโกะ 「ถ้าอย่างนั้น, ลองทดสอบดูมั้ย ?」
มาริสะ 「ถ้าฉันกลับไป, แล้วใครจะเป็นคนตรวจสอบผลล่ะ ?」
ยูยูโกะ 「ต้องเป็นฉันอยู่แล้วจ้ะ」
มาริสะ 「พนันกันแบบนี้, ไม่เอาด้วยดีกว่า」
ยูยูโกะ 「ไม่มีใครพูดว่าจะพนันกันสักหน่อย
แต่พูดว่า กลับไปซะ ต่างหาก」
ยูยูโกะ 「ถ้าเธอไม่กลับไปก็ร่วง
ถ้าเธอกลับไปก็ตรวจสอบไม่ได้」
ยูยูโกะ 「เธอมัวแต่คิดถึงเรื่องพวกนี้อยู่ล่ะสิ」
มาริสะ 「แล้วใครพูดว่าจะพนันกันล่ะ ?」
ยูยูโกะ 「ไม่รู้สินะ」
มาริสะ 「ที่สำคัญ ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นอยู่สักหน่อย
แบบว่า, แค่ฉันอยู่ที่นี่โดยไม่ทำให้ซากุระร่วงโรยก็พอใช่มะ ?」
ยูยูโกะ 「ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น, ต้องการจะสื่อว่า กลับไปซะ ต่างหากล่ะ」
ดอกซากุระนั้น, คล้ายกับหนึ่งชีวิตของคนเรา
ต่อให้สายลมพัดมา, ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบมากมายนัก ในช่วงเวลาที่มันร่วงโรยมากขนาดนี้
มาริสะนั้น, ดอกไม้นั้น, ร่วงโรยเพราะเบ่งบานมากเกินไปนั่นเอง
ENDING NO.6
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Ending No.07 Good End Marisa B
ในที่สุด, ตำหนักหยกขาวก็ต้องกล่าวลาแก่ฤดูใบไม้ผลิเสียที
สุดท้ายแล้ว, แม้ว่าไซเกียวอายาคาชิจะเบ่งบาน, แต่ก็ไม่ได้เบ่งบานจนถึงขั้นสมบูรณ์
งานชมดอกไม้แห่งโลกวิญญาณนั้น, ก็ได้ถูกจัดขึ้นอย่างวิจิตรงดงามไปแล้ว
ไม่ว่าจะเรื่องนั้นหรือเรื่องนี้, ก็เหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา...
โยวมุ 「...ไม่เปลี่ยนไปเลย」
โยวมุ 「...หลังงานชมดอกไม้ทีไร」
โยวมุ 「...ก็ไม่มีใครเก็บกวาดอะไรเลย」
โยวมุ 「...เดี๋ยวปั๊ดทำตัวเหลวแหลกมั่งซะเลย ?」
?? 「นิสัยไม่ดีเลยนะ
อุตส่าห์มาดูแท้ๆ」
โยวมุ 「ปิดร้านแล้วย่ะ」
มาริสะ 「มาชมดอกไม้, ตามสัญญาแล้วนะว้อย」
เรย์มุ 「อย่างที่มาริสะพูดเลย, ซากุระสุดยอดจริงๆ」
โยวมุ 「สัญญา ?」
โยวมุ 「ว่าแต่พวกเธอกลายเป็นโบวเรย์(วิญญาณ)ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย」
เรย์มุ 「ถึงจะไม่ตายก็เข้ามาได้ง่ายๆเลยล่ะ」
โยวมุ 「อ้าว ? แล้วเขตแดนล่ะ」
มาริสะ 「พอเรย์มุสัมผัส, ก็หายไปอย่างง่ายดายเลยว่ะ」
โยวมุ 「อย่าไปจับสิ, พวกคนที่มีลักษณะแบบนั้นน่ะ」
?? 「อ้าว, ยังไม่ได้ทำความสะอาดอีกเหรอเนี่ย ?」
ยูยูโกะ 「โยวมุ, จงรีบทำความสะอาดเข้าเถอะ
วันนี้จะมีแขกมานะ」
โยวมุ 「ท่านยูยูโกะคะ, แขกที่ว่าเนี่ย」
มาริสะ 「หมายถึงพวกฉันไงล่ะ
อึ้งไปเลยล่ะสิ」
ยูยูโกะ 「ตายจริง, มากันแล้วนี่นา
ยินดีต้อนรับสู่เมืองหลวงแห่งความตายและซากุระจ้ะ」
เรย์มุ 「ถูกเชิญมาก็ดีใจอยู่หรอกนะ,
แต่ไม่อยากถูกเชิญโดยโบวเรย์เลยแฮะ」
ยูยูโกะ 「โยวมุ, ไม่ว่ายังไง, วันนี้ก็ต้องจัดงานชมดอกไม้นะ
จงรีบทำความสะอาดให้เสร็จโดยเร็ว
แล้วก็, ไปเรียกพวก Prismriver มาด้วยนะ」
มาริสะ 「เอาเหล้าแมงมุมดินมาด้วยนะเว้ย
คืนนี้โต้รุ่งกันโลด」
ยูยูโกะ 「ต๊าย วิเศษไปเลย
จะได้คืนชีพแล้ว~」
โยวมุ 「...ทำตามใจชอบเหอะ」
การเก็บกวาดหลังงานฉลองนั้น, ไม่ใช่สิ่งที่สูญเปล่า
เพราะมันมีความหมายว่า งานฉลองสนุกมาก นั่นเอง
หากการเก็บกวาดเป็นสิ่งสูญเปล่า, โยวมุก็คงสบายไปแล้ว
ENDING NO.7
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Ending No.08 Good End Sakuya A
ที่นี่คือคฤหาสน์ที่ตั้งอยู่อย่างเงียบสงัดในเกนโซวเคียว, คฤหาสน์มารแดง
ธรรมชาติ คือสิ่งที่จะวุ่นวายขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ
ที่นี่, คฤหาสน์มารแดงเองก็ไม่มีข้อยกเว้น...
ซาคุยะ 「คุณหนูคะ
วันที่อากาศแจ่มใสแบบนี้, ทำตัวเรียบร้อยอยู่ในบ้านดีกว่านะคะ」
เรมิเลีย 「เอ๋---, ซากุระอุตส่าห์บานขนาดนี้แล้วแท้ๆ」
ซาคุยะ 「เพื่อคุณหนูที่เป็นแบบนี้ (แวมไพร์โดนแดดไม่ได้)
วันนี้ก็เลยเตรียมความคิดแปลกใหม่ที่พิลึกนิดหน่อยไว้ให้แล้วค่ะ」
เรมิเลีย 「อะไรล่ะ ?」
ซาคุยะ 「สวนจำลองโลกวิญญาณ~」 (ลากเสียงคล้ายโดราเอม่อน)
เรมิเลีย 「สุดยอด------」
ซาคุยะ 「พวกวิญญาณนี่เป็นของจริงนะคะ」
เรมิเลีย 「กลีบดอกซากุระด้วยเหรอ ?」
ซาคุยะ 「ซากุระเป็นแบบจำลอง, แต่ทำมาจากดินเหนี่ยวของโลกวิญญาณค่ะ」
เรมิเลีย 「ซาคุยะนี่ฝีมือดีจังนะ」
ซาคุยะ 「ฉันแค่รวบรวมวัตถุดิบเท่านั้นเองค่ะ
คนที่ทำสวนจำลองนี้คือท่านแพชูลี่ต่างหาก
ถึงแม้ว่าฉันตั้งใจจะเอามาทำอาหารก็เถอะนะคะ」
เรมิเลีย 「หืม---, พาเช่นี่ฝีมือดีจังนะ」
แพชูลี่ 「แล้วก็นะ เรมี่,
ที่ใต้รากของซากุระนี่, ลองดูดีๆสิ」
เรมิเลีย 「หวา, กะทันหันจัง」 (คนญี่ปุ่นมักพูดเสมอว่าใต้ซากุระงามมักมีศพอยู่... สิ่งที่พาเช่ชี้ให้ดูก็คงจะเป็น...)
แพชูลี่ 「อย่างอื่นก็มีนะ,
ผีหวงที่ตนนี้ก็ไม่สามารถขยับไปจากที่เดิมได้จริงๆ,
แล้ววิญญาณดวงนี้ก็คือวิญญาณอาฆาตแบบย่อส่วนสิบเท่าไงล่ะ」
เรมิเลีย 「สมกับเป็นพาเช่เลยนะ, ใส่ใจทุกรายละเอียดในงานศิลป์จริงๆ」
เรมิเลีย 「แต่ว่า, ทำไมต้องเป็นซากุระกับโลกวิญญาณล่ะ ?」
ซาคุยะ 「ก็แค่เพราะว่าในตัวเมือง, บางครั้งก็เกิดกระแสนิยมคนตายขึ้นมาเท่านั้นล่ะค่ะ」 (อาจล้อพวกการ์ตูนญี่ปุ่นที่ชอบเขียนถึงยมทูตหรือคนตาย)
เรมิเลีย 「จะยังไงก็เถอะ, งานชมดอกไม้ขนาดจิ๋วนี่ก็สุนทรีย์ดีนะ
นี่ถ้ามีเลือดสดๆของยูวเรย์(ผี)ด้วยล่ะก็ จะสุดยอดไปเลย」
ซาคุยะ 「เลือดสดๆของยูวเรย์...
จะออกไปหามาให้ค่ะ」 (ปล.ตามเนื้อหาโทโฮนั้น พวกยูวเรย์ไม่มีเลือดเนื้อจ้า)
สุดท้ายแล้ว, แม้ว่าไซเกียวอายาคาชิจะเบ่งบาน, แต่ก็ไม่ได้เบ่งบานจนถึงขั้นสมบูรณ์
ผนึกก็ไม่ได้ถูกคลายออก, และฤดูใบไม้ผลิก็มาเยือนดังเช่นที่ผ่านมา
เมื่ออาณาเขตของโลกวิญญาณอ่อนแอลง, เขตแดนระหว่างความเป็นและความตายก็กลายเป็นสิ่งที่ไม่ชัดเจน
อาจเป็นแค่การเร่งความเร็วในการเพิ่มขึ้นของ Entropy ก็เป็นได้
ENDING NO.8
(Entropy ถือเป็นหัวใจสำคัญของกฎข้อที่สองของหลัก Thermodynamics (อุณหพลศาสตร์))
(โดยกล่าวถึง ความแตกต่างของค่าต่างๆในระบบ เช่น อุณหภูมิ ที่มีแนวโน้มจะลดลงเรื่อยๆจนกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน ตัวอย่างเช่น น้ำแข็งละลายในน้ำ)
(ยิ่งความแตกต่างของค่าเหล่านั้นลดลง ค่าของ Entropy ก็จะยิ่งสูงขึ้น)
(ในที่นี้ก็หมายถึง การที่ความเป็นกับความตายเริ่มปะปนกันมั่วซั่วนั่นเอง)
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Ending No.09 Good End Sakuya B
ที่นี่คือศาลเจ้าฮาคุเรย์, ศาลเจ้าซึ่งตั้งอยู่ ณ พรมแดนของเกนโซวเคียว
สุดท้ายแล้ว, แม้ว่าไซเกียวอายาคาชิจะเบ่งบาน, แต่ก็ไม่ได้เบ่งบานจนถึงขั้นสมบูรณ์
ผนึกก็ไม่ได้ถูกคลายออก, และฤดูใบไม้ผลิก็มาเยือนดังเช่นที่ผ่านมา
ซาคุยะยอมรับฟังความเอาแต่ใจของคุณหนู, จึงออกมาชมดอกไม้กัน
และศาลเจ้าแห่งนี้, ก็เป็นสถานที่ซึ่งสามารถชมดอกไม้ได้อย่างสบายใจเป็นที่สุดในเกนโซวเคียว
ซาคุยะ 「คุณหนูคะ, ได้เวลาแล้วค่ะ」
เรมิเลีย 「ส่วนที่มาช้าก็มีด้วยเหรอ, ซากุระปีนี้สุดยอดไปเลยนะเนี่ย」
ซาคุยะ 「ฉันได้ชมดอกไม้ล่วงหน้าไปก่อนนิดหน่อยแล้วล่ะค่ะ」
เรมิเลีย 「ซาคุยะนี่สายตาดีจังเลยนะ」
ซาคุยะ 「เปล่าค่ะ, ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น」
ยูยูโกะ 「อ้าว, เธอก็มาชมดอกไม้ด้วยเหรอ」
ซาคุยะ 「ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะเนี่ย」
เรมิเลีย 「ใครน่ะ ?」
ซาคุยะ 「ศพกับครึ่งศพค่ะ」
โยวมุ 「โบวเรย์ต่างหากล่ะ」
ยูยูโกะ 「ซากุระของที่นี่เบ่งบานอย่างธรรมดาที่สุดซะด้วยสิ,
ถ้าไม่ชมดอกไม้แล้วจะให้ทำอะไรล่ะ」
ซาคุยะ 「อ่า, พวกฉันก็มาชมดอกไม้เหมือนกันน่ะ」
ซาคุยะ 「จะว่าไป, แล้วซากุระในที่ของตัวเองน่ะเป็นยังไงบ้างล่ะ」
ยูยูโกะ 「สุดท้ายแล้ว, ไซเกียวอายาคาชิก็ไม่เบ่งบานอย่างสมบูรณ์,
แต่เรื่องนั้นจะเป็นยังไงก็ช่างมันแล้วล่ะ」
ยูยูโกะ 「ตอนนี้เน้นเรื่องแกล้งโยวมุอย่างเดียวก็พอ」
เรมิเลีย 「แหม, นั่นก็น่าสนุกดีนะ」
เรย์มุ 「ว่าแต่, พวกเธอน่ะ,
เข้ามาในสวนของคนอื่นตามอำเภอใจก็อย่าส่งเสียงดังอย่างนี้สิ !」
ซาคุยะ 「โหดร้ายจังนะคะ」 (หมายถึงเรื่องที่คุยกันว่าจะรังแกโยวมุ)
โยวมุ 「โหดร้ายค่ะ」 (หมายถึงเรื่องที่คุยกันว่าจะรังแกโยวมุ)
เรย์มุ 「เล่นเมินกันแบบนี้, โหดร้ายจัง」
ยูยูโกะ 「จะว่าไป, ไม่ยืนใต้ต้นไม้ต้นนั้นจะดีกว่านะ」
เรย์มุ 「ทำไมล่ะ ?」
ยูยูโกะ 「จากที่ฉันดูเนี่ย, คงถูกฝังมาได้ 50 ปีแล้วล่ะ」 (คนญี่ปุ่นมักพูดเสมอว่าใต้ซากุระงามมักมีศพอยู่... สิ่งที่ยูยูโกะพูดถึงก็คงจะเป็น...)
โยวมุ 「กำลังหมักตัวอยู่」
เรย์มุ 「หวา, ให้ตายสิ...」
ซาคุยะ 「จะยังไงก็เถอะ, เอาเหล้าและของหวานมาแล้วนะคะ」
เรย์มุ 「เอางั้นก็ได้
ถ้าซาคุยะยอมเก็บกวาดหลังงานเลิกล่ะก็นะ」
ซาคุยะ 「แหม, ฉันไม่ได้พูดอย่างนั้นสักคำนะคะ
ที่สำคัญ, ตรงนั้นมีผู้ที่เหมาะแก่การรับหน้าที่นั้นอยู่นะคะ」
ยูยูโกะ 「ก็มีอยู่นะ」
โยวมุ 「...เฮ้อ」
ในเวลานั้นเอง, มองดูราวกับว่าซากุระที่อยู่ข้างๆเรย์มุนั้นมีสีแดงขึ้นมาเล็กน้อย
เกรงว่าบางที, มุมของพระอาทิตย์คงใกล้จะทำมุมแหลมแล้วกระมัง (หมายถึงใกล้ค่ำแล้วนั่นเอง)
ENDING NO.9
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................