WaHH - 01


東方茨歌仙 ~ Wild and Horned Hermit.
โทวโฮวอิบาระคาเซน(ยอดกวีหนามแห่งตะวันออก) ~ เซียนผู้มีเขาและป่าเถื่อน


.........................................................................................................................................................................................

เล่ม 1

วางจำหน่ายในวันที่ 27 เดือน 6 ปี 2011
ภายในเล่มประกอบด้วยเนื้อหาตอนที่ 1-5



ISBN : 978-4-75-801222-5

สำนักพิมพ์ : อิฉิจินชา

เรื่อง : ZUN

ภาพ : อาซึมะ อายะ



ฉบับภาษาไทย



วางจำหน่ายในวันที่ 21 กันยายน 2012

ด้วยข้อจำกัดด้านเนื้อที่ในแต่ละหน้า ทำให้ผู้แปล (ข้าพเจ้า) ไม่สามารถเขียนอธิบายมุขเพิ่มเติมในบางจุดได้
ในบางจุดก็จำเป็นจะต้องแปลงมุขให้เป็นแบบไทย เพื่อจะได้ไม่ต้องอธิบายยืดยาวเกี่ยวกับการเล่นคำในภาษาญี่ปุ่น
หากแต่แฟนโทโฮบางส่วนก็ต้องการที่จะทราบถึงมุขต้นฉบับเหล่านั้น
ข้าพเจ้าจึงขอทำการอธิบายมุขต้นฉบับต่างๆลงในบล็อกแห่งนี้แทน

อนึ่ง
เดิมหนังสือเล่มนี้มีกำหนดการวางแผงในวันที่ 7 กันยายน 2012
โดยข่าวการวางแผงพร้อมตัวอย่างหน้าปกปรากฏบนหน้าเวบไซต์ในวันที่ 3 กันยายน 2012
แต่เนื่องจากแฟนโทโฮชาวไทยสายตาดีสังเกตเห็นและแจ้งผู้แปลว่ามีข้อผิดพลาดอย่างหนึ่งที่หน้าปก
นั่นคือ ชื่อผู้แต่ง สลับตำแหน่งกับ ชื่อผู้วาด กลายเป็นว่าอาจารย์ อาซึมะ อายะ เป็นผู้แต่ง โดยมีท่าน ZUN เป็นผู้วาดซะงั้น
จริงอยู่ว่าชาวโทโฮรู้ดีว่าใครวาดใครแต่ง แต่ผู้อ่านทั่วไปไม่มีทางรู้ได้เลย ซึ่งอาจทำให้การหาข้อมูลผลงานในอนาคตเกิดความผิดพลาดได้
ด้วยความเป็นห่วงในจุดนี้ ผู้แปลจึงได้ติดต่อกับทางสำนักพิมพ์เพื่อแจ้งให้ทราบเป็นการด่วน
เนื่องจากยังมีเวลาอีกพอสมควรก่อนถึงวันวางแผง หากทางสำนักพิมพ์ยังไม่เริ่มตีพิมพ์ก็น่าจะสามารถแก้ไขได้ทัน
หากแต่การแก้ไขและเปลี่ยนกำหนดการออกหนังสือนั้นอาจกระทบต่อขั้นตอนการทำงานของทางสำนักพิมพ์ จึงเป็นเรื่องที่ยากแก่การตัดสินใจ
แต่ในที่สุดแล้วทางสำนักพิมพ์ก็เลือกความถูกต้อง และตัดสินใจเลื่อนการวางจำหน่ายออกไปจนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ
ซึ่งผู้แปลมองว่าเป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญและน่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง
จึงต้องขอขอบพระคุณทางสำนักพิมพ์เป็นอย่างยิ่งที่เอาใจใส่ผลงานทุกชิ้นเป็นอย่างดีเสมอมาครับ m(_ _)m


ปล.ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใด อย่าเข้าใจผิด (ฮา)








แก้ไขคำผิด-คำหาย

ปก และอีกหลายจุดในฉบับ
  ตามหลักควรเขียนว่า TouHou ตามแบบในกรอบขาวที่ปกหลัง แต่กลับเขียนแค่ ToHo
  ทั้งนี้เป็นเพราะเหนืออักษร o มีขีดอยู่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงให้ทราบว่าต้องอ่านออกเสียงลากยาว จึงมีค่าเท่ากับ -ou นั่นเอง

หน้า 58 และ 142
  "ไทสีดำ" คำว่า เนคไท ไม่ต้องมี -ค์

หน้า 79
  "หากหลอมความโลภด้วยหม้อของขุมนรก ก็จะได้ทองออกมา" ออก ตก อ ไปตัวหนึ่ง

หน้า 143
  ป้ายประกอบรูป ฮาคุเรย์ เรย์มุ [ฤดูใบไม้ผลิ] กลายเป็น คิริซาเมะ มาริสะ [ฤดูหนาว]

ข้อมูลหนังสือท้ายเล่ม
  ชื่อของนักวาด Azuma กลายเป็น Azume

ปล.ตรวจสอบไฟล์บทแปลของผู้แปลแล้วไม่พบว่ามีความผิดพลาดเหล่านี้แต่อย่างใด




อธิบายเพิ่มเติม+จุดที่น่าสนใจ

ตอนที่ 1

- เหล้ามาโผล่ที่ศาลเจ้า >> รายละเอียดอยู่ในมังกะภาคสามภูต ภาค 3 ตอนที่ 2
- แขนกัปปะ >> ว่ากันว่าเผ่ากัปปะสามารถยืดแขนได้ด้วยการหดแขนข้างหนึ่งเพื่อให้แขนอีกข้างหนึ่งยาวขึ้น
- รูปนิโทริ >> เนื่องจากนิโทริเป็นกัปปะ ก็เลยโผล่มาให้เห็นพอขำๆ
- "พวกโยวไคจะไม่ค่อยเหลือศพเอาไว้นี่นา พอกำจัดได้ก็แค่หายไปเฉยๆเลย" >> จัดว่าเป็นข้อมูลใหม่
- ทางเข้าหมู่บ้านเป็นซุ้มประตูขนาดใหญ่ >> จัดว่าเป็นข้อมูลใหม่
- จะรีบร้อนขนาดนั้นไปไหนเหรอคะ ? >> ล้อเลียนสโลแกนของการจราจรญี่ปุ่นที่ว่า "ญี่ปุ่นก็คับแคบออกอย่างนี้ จะรีบร้อนขนาดนั้นไปไหน ?"
- แก้วใสพร้อมหลอดดูดและน้ำแข็ง >> คาดว่าได้มาจากร้านโควรินโดว
- รายละเอียดของเผ่า เซียน สามารถอ่านได้ที่ ลิงค์ นี้
- เกี่ยวกับการสลายเป็นขี้เถ้านั้นจะพบว่าต่างจากเผ่าเซียนเล็กน้อย เพราะเผ่าเซียนจะสลายเป็นขี้เถ้าก็ต่อเมื่อเลิกบำเพ็ญตบะแล้วเน่าเปื่อยจนเป็นขี้เถ้า
  แต่ของคาเซนนั้นสลายเมื่อถูกเรย์มุบีบที่ข้อมือ และสามารถกลับมารวมกันใหม่ได้อีกด้วย
  บางทีนี่อาจเป็นกลไกที่อาคิว(ผู้เขียนสารานุกรม)ไม่รู้จัก หรืออาจเป็นความสามารถของเธอซึ่งยังไม่ได้รับการเปิดเผย
- ผู้แปลคิดว่า อิบาราคิ คาเซน น่าจะเป็นชื่อจริง ส่วน อิบาระคาเซน เป็นนามทางธรรม ดังนั้นขอยึดชื่อจริงเป็นหลัก
- อิบาราคิ คาเซน ... เชื่อกันว่าเป็นตัวละครซึ่งมีที่มาจาก อิบาราคิโดวจิ ลูกสมุนคนสนิทของ ชุเทนโดวจิ (ซึ่งชุเทนโดวจินี้เป็นต้นแบบของซุยกะ)
  อิบาราคิโดวจิ เป็นสมุนคนสนิท ดังนั้นฉายาของเธอจึงอาจแปลได้อีกอย่างว่า เซียนมีเขาซึ่งเป็นสมุนคนสนิท
  แต่ตามตำนานนั้น อิบาราคิโดวจิ เคยถูกตัดแขนจนด้วนมาแล้ว ดังนั้นในส่วนของฉายานี้จึงขอแปลว่า แขนเดียว ไปก่อน จนกว่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติม
- บทพูดตอนที่เธอกำลังระลึกความหลังนั้น ดัดแปลงมาจากกลอนที่ยักษ์อิบาราคิโดวจิเคยแต่งขึ้น
- คาเซนน่าจะสามารถฟังนกคุยรู้เรื่องได้จริงๆ ในเมื่อบ่นกับตัวเองอย่างนั้น
- ข้อมือซ้ายของเธอมีสิ่งที่ดูคล้ายกับโซ่ตรวน ซึ่งผู้แต่งเคยกล่าวไว้ว่า "โซ่นั้นเป็นเครื่องหมายของยักษ์" ซึ่งทั้งซุยกะและยูกิก็มีเหมือนกัน
- หากดูจากที่มาแล้ว ตัวละครนี้น่าจะเป็นเผ่ายักษ์และเป็น หนึ่งในจตุรเทพแห่งขุนผา เช่นเดียวกับซุยกะและยูกิ
- Magic Hand >> มือยืดได้ ของเล่นที่ทุกท่านน่าจะเคยเห็นกันมาแล้ว
- นิโทริมีสเปลการ์ดที่ชื่อคล้ายกับมือยืดได้ link
- พูดถึงเครื่องจักรแล้วนึกถึงกัปปะ >> เพราะเผ่ากัปปะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจักร
- หน้า 29 ภาพวาดด้านหลังของคาเซน ความจริงแล้วต้องเห็นกระโปรงแยกเป็นสองชั้น แต่สีเข้มเกินไปเลยแยกเกือบไม่ออก


ตอนที่ 2

- Palladium (แพลเลเดียม) เป็นธาตุที่มีชื่อย่อว่า Pd และมีเลขอะตอม 46 ลักษณะเป็นโลหะสีขาวเงิน ถูกจัดอยู่ในกลุ่มโลหะจำพวก Platinum
  เป็นธาตุจำพวก Rare Earth ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1803 นิยมใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาเคมี
- ผู้แต่งอาจได้ไอเดียเรื่อง Palladium มาจากภาพยนตร์เรื่อง Iron Man 2 หรืออาจจะคิดมานานแล้วก็ได้
- อีกายาตะ >> ปัจจุบันสิงสถิตอยู่ในร่างกายของโอคูว คาดกันว่ามันคือลูกตาขนาดยักษ์ตรงกลางอกเธอนั่นเอง
- ปกติแล้วยูวเรย์ (ผี) เป็นเผ่าพันธุ์ที่สามารถทะลุผ่านวัตถุกายภาพได้ แต่คาเซนสามารถใช้มือเปล่าขยี้ให้เละได้ ทำให้แขนขวาของเธอน่าสงสัยยิ่งขึ้น
- วิญญาณอาฆาต แตกต่างจากยูวเรย์ธรรมดา โดยมันจะมีหน้าตาคล้ายหัวกะโหลกติดอยู่ตรงบริเวณที่คาดว่าเป็นด้านหน้าของมัน
- สัญญาระหว่างอดีตขุมนรกกับพื้นพิภพนั้น พวกเผ่ายักษ์เป็นคนสร้างขึ้น แต่คาเซนกลับรู้ถึงเรื่องนี้ด้วย
  เป็นเพราะเธอมีอายุมากพอที่จะรู้เรื่อง (เหมือนอย่างยูคาริ) หรือเพราะเธอเป็นยักษ์เสียเองกันแน่นะ ?
- หม้อในที่นี้ หมายถึงสถานที่ซึ่งมีชื่อว่า ซากนรกมอดไหม้ ซึ่งเป็นสถานที่ที่โอคูวใช้ประโยชน์ในการสร้างปฏิกิริยานิวเคลียร์
- จากแผนผังที่ซานาเอะใช้อธิบาย จะเห็นว่าลำดับชั้นของใต้พิภพคือ เมืองหลวงเก่า >> วังวิญญาณพิภพ >> ซากนรกมอดไหม้ >> เตาปฏิกรณ์ฯ
- จากที่เธอพูดมา แสดงว่าโลกภายนอกในยุคของซานาเอะยังไม่มีการทำ Cold Fusion
- คานายามะบิโกะโนะมิโคโตะ เทพแห่งโลหะและแร่ธาตุ ปรากฏชื่อในภาค SSiB เช่นกัน
- ตัวละครที่ปรากฏในงานทดลอง มีทั้ง ชิลโน่, โชว, นาซูริน, โมมิจิ, นิโทริ, พาเช่, โคอิชิ, มิสเทีย, อลิส, อายะ, ฮาตาเตะ, ลูน่าไชลด์ และเทนชิ
- ศาลเจ้าโมริยะตั้งอยู่บนภูเขาโยวไค จึงทำให้คนทั่วไปเดินทางลำบากมากกว่าจะไปถึงได้
- หน้าที่ 49 ตอนเรย์มุถามซานาเอะ จะเห็นได้ว่า งูที่พันผมซานาเอะหันมาขู่ฟ่อฟ่อใส่เรย์มุ จึงเป็นไปได้ว่ามันมีชีวิต
  แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่นักวาดจะเขียนลงไปเอง ทำให้ข้อมูลในส่วนนี้ไม่มีความแน่ชัดว่าใช้อ้างอิงได้หรือไม่
- Cold Fusion เป็นปฏิกิริยาที่ต้องอาศัยการไหลของขั้วไฟฟ้าจึงจะทำงานได้ ซึ่งมันก็คือเงื่อนไขที่ซานาเอะพูดถึง และคานาโกะพยายามทำนั่นเอง
- "ก็แค่พลังงานสำหรับต้มน้ำ" >> เป็นความจริงอันน่าเจ็บปวดของมนุษยชาติที่ยังไม่สามารถหาวิธีใช้นิวเคลียร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่านี้
  ปัจจุบันโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ก็แค่เอาความร้อนจากนิวเคลียร์มาใช้ต้มน้ำเพื่อหมุนกังหันปั่นไฟเท่านั้นเอง
  ทำให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียงนิดเดียวเมื่อเทียบกับพลังงานนิวเคลียร์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
- คำพูดของคาเซนในตอนสุดท้ายนั้นน่าสงสัยมาก จากบทพูดดังกล่าว และปัจจัยที่ผ่านมา ทำให้มีแนวโน้มสูงว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นยักษ์
- หม้อไฟปรมาณูหลอมรวม >> จำคำนี้เอาไว้ให้ดี มันมีอยู่ในตอนพิเศษ (ฮา)


ตอนที่ 3

- ใบโมมิจิร่วงโรย >> แสดงว่าเป็นฤดูใบไม้ร่วง
- ภาพวาดบนผนังบ้านของคาเซน เขียนเป็นรูปวงกลมที่ว่างเปล่า และกำกับเอาไว้ว่า ลืมสิ้นวัวคน
แสดงว่าเป็นภาพหนึ่งใน แผนภาพสิบวัว ซึ่งเป็นแผนภาพที่ใช้สอนวิถีสู่การรู้แจ้งตามแบบของเซน ในแผนภาพมีทั้งหมดสิบภาพ ดังนี้
1. หาวัว - ไม่รู้ว่าจะไปตามหาการรู้แจ้งได้ที่ใด
2. พบรอยเท้าวัว - พบตำราหรือผู้ที่ชี้ทางสู่การรู้แจ้งได้
3. เห็นวัว - พบอาจารย์ที่ยอดเยี่ยม และเริ่มมองเห็นการรู้แจ้ง
4. จับวัว - พยายามเข้าถึงตัวตนที่แท้จริงของการรู้แจ้ง
5. จูงวัว - ฝึกตนเพื่อให้เข้าถึงการรู้แจ้ง
6. ขี่วัวกลับบ้าน - ในที่สุดก็รู้แจ้งและกลับสู่สังคม
7. ลืมวัวคนอยู่ - เพิ่งรู้ตัวว่ายังไม่รู้แจ้งอย่างแท้จริง
8. ลืมสิ้นวัวคน - เพิ่งรู้ตัวว่าถึงรู้แจ้งไปก็ไม่ได้มีตัวตนที่พิเศษ เพียงเป็นรูปลักษณ์ของธรรมชาติอันแท้จริงเท่านั้น
9. คืนหนังสือสู่ต้นกำเนิด - การรู้แจ้งมันก็อยู่แค่ในธรรมชาติรอบตัวนี่เอง
10. คืนสู่สามัญ - นำความรู้ของตนมาชี้ทางสู่การรู้แจ้งแก่ผู้อื่น
ซึ่งการที่คาเซนเขียนภาพ ลืมสิ้นวัวคน ไว้ในบ้านนั้นอาจเป็นไปได้ว่าเธอกำลังฝึกตนถึงขั้นนั้นอยู่
- จากบทพูดของโคมาจิ ยังคงกำกวมว่าโคมาจิเชื่อว่าคาเซนเป็นเซียนจริงๆหรือไม่ เพราะเรื่องเลียนแบบที่พูดถึง อาจหมายถึงเลียนแบบมิโกะก็ได้
  แต่ถ้าดูจากเรื่องที่ชอบขู่ว่าจะมารับ ก็อาจเป็นไปได้ว่าเธอเชื่อว่าคาเซนเป็นเซียนจริงๆ
- ในตอนที่ 3 นี้มีการเน้นย้ำเพิ่มเติมว่าการขยี้ดวงวิญญาณที่คาเซนกระทำนั้นเป็นเรื่องที่ลึกลับเกินจะเข้าใจ แสดงว่ามันมีอะไรที่พิเศษจริงๆ
- พุทธนิกายชินโตเชื่อว่า การถูกทำลายดวงวิญญาณก็ถือว่าเป็นการหลุดพ้นจากวัฏสงสารเช่นกัน แต่ไม่สมควรกระทำ
- จากตอนนี้จะเห็นได้ชัดว่า มีกัปปะตนอื่นอยู่ด้วย และมีการแต่งกายคล้ายนิโทริ
- ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่ามาริสะนี่ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน ทนแก๊สพิษได้ซะด้วย
- เพราะว่าป่าเวทมนตร์มีสปอร์เห็ดพิษหนาแน่นจนแม้แต่โยวไคยังขยาด แต่มาริสะก็ยังปักหลักอาศัยอยู่ได้
- มาริสะนั่งที่บันไดจนเห็น Drawers แพลมออกมา
- ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าทำไมพวกจอมเวทถึงอ่อนแอ
- ต้นฉบับใช้คำว่า Bolero (ภ.สเปน) แปลว่า เสื้อตัวบน
- แขนเสื้อของชุดฤดูร้อนก็ยาวเหมือนกัน >> ตอนที่ 1 แขนสั้น ตอนที่ 2 แขนยาว


ตอนที่ 4

- ในฉบับรายเดือน ทางสำนักพิมพ์พลาดเติมเลข 1 ลงไปที่ท้ายชื่อตอน
  แต่ท่าน ZUN แย้งผ่านทวิตเตอร์ว่าที่จริงมันไม่มีเลข 1 เพราะจบในตอนอย่างสมบูรณ์แล้ว
  แสดงให้เห็นว่าแม้แต่มังกะ Official แบบนี้ก็ยังวางใจนำมาใช้อ้างอิงเต็มที่ไม่ค่อยได้เช่นกัน
- กัปปะเป็นพวกขี้อายและหวงถิ่น จึงไม่ยอมให้มนุษย์เข้าใกล้
- ซานาเอะยังคงชอบจำคำของคานาโกะมาพูดซะใหญ่โตตามเคย (ฮา)
- แม้แต่สุวะโกะก็ยังทักคาเซนว่าเป็นเซียน
  แต่ที่จริงไม่ใช่แค่มนุษย์ที่ฝึกตนเป็นเซียนได้ แม้แต่ลิง หมู พรายน้ำ กระทิง ก็ฝึกได้ ยักษ์ก็น่าจะฝึกได้เช่นกัน
- คาเซนไม่ได้พูดสุภาพตอนอยู่กับสุวะโกะแค่สองต่อสอง ทั้งที่ปกติเธอจะพูดสุภาพและมีหางเสียงเสมอ
- ย้ายเข้ามาพร้อมกับทะเลสาบ >> นัยถึงเหตุการณ์ในภาค 10
- ศาลเจ้าโมริยะตั้งอยู่บนภูเขาโยวไค จึงทำให้คนทั่วไปเดินทางลำบากมากกว่าจะไปถึงได้
- ศรัทธา >> เทพเจ้าจำเป็นต้องได้รับศรัทธาที่เพียงพอเพื่อคงความเป็นเทพและชีวิตของตน และยิ่งได้รับศรัทธามากก็ยิ่งแข็งแกร่ง
- พวกกัปปะถนัดสร้างแต่ของเล็กๆ มากกว่าทำงานก่อสร้าง แถมยังทำงานร่วมกันไม่ได้เรื่องอีกต่างหาก >> จัดว่าเป็นข้อมูลใหม่
- หน้า 110 คิดได้ไงเนี่ย >> ต้นฉบับเขียนไว้ว่า มันสมองของกัปปะนี่น่ากลัวชิบ แต่เกรงว่าจะยาวเกินช่อง+เข้าใจยากเลยแปลแบบเข้าใจง่าย


ตอนที่ 5

- เล่นตลกสักมุกก็ได้ >> ต้นฉบับเขียนไว้ว่า เล่นละครเซียนสักบทก็ได้ แต่เกรงว่าจะยาวเกินไป+เข้าใจยากเลยแปลแบบเข้าใจง่าย
- เริ่มพูดถึงความโลภ เพื่อบอกใบ้ถึงตัวเกมภาค 13
- ปล่อยขี้เถ้าออกมาเรียกมังกร (?)
- ท่ากระโดดลงพื้น ล้อวิดีโอเปิดตัวเกม El Shaddai ในงาน E3 (link) ตามกระแสนิยมในช่วงนั้น
- โคมาจิใช้คำว่า "แม้แต่คนอย่างเธอ" + "เหมือนกับเซียน" แทนที่จะเป็น "สมกับที่เป็นเซียน" หรือว่าบางที......


ปัจฉิมลิขิต

- ผู้วาดขอวาดชุดของตัวละครตามใจชอบ จึงเอามาใช้อ้างอิงเป็นข้อมูลหลักไม่ได้



.........................................................................................................................................................................................

กลับไปที่หน้าหลักของหนังสือภาคนี้