BAiJR - Lyrica


東方文花帖 ~ Bohemian Archive in Japanese Red.
โทวโฮวบุนคะโฉว (บันทึกอักขระบุปผาแห่งตะวันออก) ~ บทความแหกกฎในสมุดญี่ปุ่นปกแดง


.........................................................................................................................................................................................

ฤดูกาลที่ 115 เดือนจันทรคติที่ 5 วันที่ 4
 
เสาะหาเสียงแบบใหม่
ต้นกำเนิดของเสียงผิดธรรมชาติ

พอเขียนบทความเกี่ยวกับสามพี่น้องปริซึมริเวอร์แห่งวงดนตรีที่แสนหนวกหู ก็ต้องพูดถึงให้ได้
มีคำถามเข้ามามากมายเกี่ยวกับเสียงปริศนาที่คุณน้องสาม ลิริก้า ปริซึมริเวอร์ (โพลเตอร์ไกสต์) เป็นผู้บรรเลง
ซึ่งเป็นที่สนใจเรื่อยมาว่า เสียงที่ไม่มีตัวตนอยู่ในธรรมชาติแบบนั้นสร้างขึ้นมาได้อย่างไร, แต่เดิมมันเป็นเสียงแบบไหน
ครั้งนี้จึงบุกมาสัมภาษณ์เพื่อพิสูจน์หาคำตอบสำหรับคำถามเหล่านั้นกัน

ก่อนอื่นเลยขออธิบายให้ผู้ที่ยังไม่รู้จักสามพี่น้องปริซึมริเวอร์ได้ฟังเสียก่อนว่า
พวกเธอเป็นวงดนตรีที่จัดงานแสดงสดตามสถานที่ต่างๆมากมาย
คนโต ลูนาซ่า ปริซึมริเวอร์ ใช้ไวโอลิน, คนรอง เมแลง ปริซึมริเวอร์ ใช้ทรัมเปต และคนสุดท้อง ลิริก้า ปริซึมริเวอร์ ใช้คีย์บอร์ด
เฉพาะน้องสาม ลิริก้า ปริซึมริเวอร์ เท่านั้นที่ใช้เสียงมายาซึ่งไม่มีอยู่ในธรรมชาติ
โดยบรรเลงเสียงที่ไม่อาจจินตนาการได้ออกมาจากเครื่องดนตรีจำพวกดีด
การที่เสียงมีความบริสุทธิ์สูงมาก และส่วนใหญ่มีช่วงห่างระหว่างเสียงสองระดับที่ชัดเจน
อีกทั้งยังไม่มีลักษณะเฉพาะ ก็นับได้ว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่ง

「คีย์บอร์ดอันนี้โดยตัวมันเองก็เหมือนวัตถุมายาอยู่แล้วน่ะน้า~
 จะเรียกว่าเป็น วิญญาณของเครื่องดนตรีซึ่งให้เสียงที่สูญหายไปจากโลกภายนอกแล้ว ก็คงได้มั้ง
 โครงสร้างภายในมันเป็นยังไงถึงให้เสียงออกมาได้ก็ไม่ค่อยรู้หรอก แต่ถ้าดีดแล้วมีเสียงออกมาได้ก็ไม่มีปัญหา
 จะเสียงหรือเครื่องดนตรีก็ตาม ถ้าสาบสูญไปจากโลกภายนอกแล้วก็จะกลายเป็นเพียงวัตถุมายา
 หรือถ้าสาบสูญไปจากโลกนี้เลย ก็จะกลายเป็นวิญญาณไป
 เสียงของฉันเป็นเสียงมายา, เสียงของโลกโน้น
 ทุกคนที่อยู่ในโลกนี้จะไม่เคยได้ยินก็ไม่แปลกหรอก~」

เธอกล่าวว่ามันเป็นเสียงที่นำไปสู่ความตาย, จะว่าไปแล้วพวกวิญญาณก็มักจะทำเสียงประหลาดๆ
เป็นเสียงที่ประหลาดมากและไม่เคยได้ยินมาก่อน มักโผล่มาเป็นคำพูดอย่าง ฟิ้ว หรือ แหมะแหมะ
ถ้าหากนั่นก็เป็นสิ่งที่ควรเรียกว่า วิญญาณของเสียง ล่ะก็
สมัยก่อนยังเคยได้ยินในโลกนี้อยู่บ่อยๆ แต่ปัจจุบันนี้ไม่ได้ยินแล้ว คงเพราะสาเหตุอะไรบางอย่างกระมัง

อาจกล่าวได้ว่า เสียงที่เธอบรรเลงออกมานั้นเป็นเสียงที่นำไปสู่ความตายจากโลกภายนอก
เป็นทั้งเสียงมายา เป็นทั้งเสียงแห่งโลกโน้น
หากจะว่าไปแล้ว ก็เป็นเสียงที่สมกับเป็นวิญญาณหลอนที่อาศัยอยู่ในเกนโซวเคียวที่สุดเลย
สุดท้ายแล้ว คีย์บอร์ดก็เป็นอะไรอื่นเสียมิได้ นอกจากสัญลักษณ์ของวิญญาณแห่งเสียงนั่นเอง
(ชาเมย์มารุ อายะ)

Tips :
- อธิบายเพิ่มเติม... คีย์บอร์ดนั้นเมื่อกดที่ปุ่มหนึ่ง ก็จะให้เสียงออกมาเสียงหนึ่ง จึงมีการแยกเสียงที่ชัดเจนมาก
ต่างจากไวโอลินและทรัมเปต ซึ่งสามารถสีหรือเป่า เพื่อให้ได้เสียงที่มีลักษณะพิเศษตามใจผู้บรรเลงแต่ละคนได้
- ฟิ้ว, แหมะแหมะ เป็นการล้อเลียน Sound Effect ที่พวกการ์ตูนผีหรือหนังผีญี่ปุ่นชอบใช้กัน
- โลกโน้น หมายถึง โลกหลังความตาย, โลกวิญญาณ / ส่วนคำว่า โลกนี้ หมายถึงโลกมนุษย์


ตามอ่านในฉบับ

หน้า   5 โยวเซย์น้ำแข็งถูกคางคกยักษ์เขมือบ

หน้า 32 รับสมัครผู้ร่วมงานเทศกาลต้มเผือก

หน้า 32 ปีนี้จับหอยขวานได้มาก แม้จะตัวเล็กแต่ก็คุณภาพดี

หน้า 33 กาวดักนกที่น่าสะพรึงกลัว การลักลอบล่านกเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Tips :
- เทศกาลต้มเผือก เป็นงานรวมกลุ่มกันนำพวกเนื้อและผัก เช่น เผือก มาต้มกินกันกลางแจ้ง


.........................................................................................................................................................................................


ลิริก้า 「ยอดเยี่ยมเลยใช่ม้าー」
อายะ 「ยอดเยี่ยมเหรอคะ ?」
ลิริก้า 「ก็แหม, ทำให้ผู้คนซาบซึ้งได้ด้วยเสียงที่ไม่มีใครเคยได้ยินเชียวนะー」
อายะ 「แต่ยังไม่รู้เลยสินะคะ ? ว่าทำไมเสียงมันถึงออกมาได้」
ลิริก้า 「เรื่องพรรค์นั้นฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ」
อายะ 「จะได้พิสูจน์ได้ว่าเป็นความดีความชอบของคุณที่ค้นพบความยอดเยี่ยมของเสียงนี้เป็นคนแรกไงคะ」
ลิริก้า 「เธอจะบอกว่า เธอรู้ว่าทำยังไงถึงเกิดเสียงออกมาได้งั้นเหรอ ?
    ยกตัวอย่างเช่น เสียงฟ้าผ่า, เสียงลมโยกต้นไม้, เสียงจักจั่นร้อง ไม่ว่าอันไหนเธอก็อธิบายไม่ได้นี่」
อายะ 「มันอธิบายได้... ...ยาก สินะคะ」
ลิริก้า 「ใช่มั้ยล่ะ ? เพราะฉะนั้น สิ่งที่ยอดเยี่ยมกว่าการเกิดเสียง ก็คือ คนที่ใช้มันได้ไงล่ะ」
อายะ 「ยอดเยี่ยมเหรอคะ」
ลิริก้า 「เพียงแต่, เสียงที่ยกตัวอย่างมาเมื่อกี้เป็นเสียงที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาใช่มั้ยล่ะ ? เพราะงั้นธรรมชาติจึงยอดเยี่ยม
    และต่อให้เอาเสียงเหล่านั้นมาใช้ ฉันก็ไม่ยอดเยี่ยมเลยสักนิด」
อายะ 「เสียงของคุณนี่ เป็นปัญหาเรื่องความยอดเยี่ยมน่าดูเลยนะคะ~」
ลิริก้า 「เสียงที่ไม่มีในธรรมชาติ, เสียงมายา
    เสียงที่ไม่มีในโลกนี้, เสียงที่นำไปสู่ความตาย
    ไม่มีใครเลยที่สามารถนำเสียงที่ว่ามาใช้ได้
    ดังนั้นฉันจึงยอดเยี่ยมไงล่ะ」
อายะ 「ยอดเยี่ยมสินะคะ
    จะว่าไปแล้ว เจ้าเสียงมายานั่นคุณทำยังไงจึงสามารถนำมันมาใช้ได้เหรอคะ ?」
ลิริก้า 「ทำยังไงงั้นเหรอ, ฉันเป็นวิญญาณหลอนนะ ? โพลเตอร์ไกสต์นะ ? เป็นเรื่องธรรมดาที่จะใช้ได้ ถ้าใช้ไม่ได้นี่สิที่แปลกผิดธรรมชาติ」
อายะ 「เป็นอย่างนั้นเองเหรอคะเนี่ย... ...แต่ฟังแล้วมันไม่กระจ่างเท่าไหร่น่ะค่ะ」
ลิริก้า 「พวกเราเหล่าวิญญาณหลอนน่ะ ไม่ได้เป็นแค่วิญญาณที่คอยส่งเสียงเอะอะหรอกนะ หากแต่เป็นวิญญาณของความเอะอะต่างหาก」
อายะ 「ความเอะอะก็ตายได้ด้วยเหรอคะ ?」
ลิริก้า 「ความเอะอะคือเสียงของสิ่งมีชีวิต
    เสียงของความรู้สึก อารมณ์ ความคึกคะนอง
    เสียงที่เกิดขึ้นในตอนที่ความคิดของสิ่งมีชีวิตถูกทำให้ระเบิดออกมา ก็คือความเอะอะนั่นเอง
    เมื่อความเอะอะที่เกิดขึ้นนี้มีอิสระเป็นของตน ก็จะกลายเป็นโพลเตอร์ไกสต์ในที่สุด
    ยอดเยี่ยมไปเลยใช่มั้ยล่ะ ?」
อายะ 「ก็ไม่อยากพูดหรอกนะคะ แต่แบบนั้นไม่ยอดเยี่ยมเลยค่ะ」
ลิริก้า 「พวกพี่ๆเค้าแสดงออกถึงการขึ้นลงของอารมณ์ ฉันก็เลยเอาความรู้สึกอื่นๆที่เหลือมาแต่งทำนอง
    เชื่อมโยงความรู้สึกเข้ากับภาพมายา แล้วความเอะอะที่ฉันกับพวกพี่ๆร้อยเรียงขึ้นมาก็จะสร้างสรรค์สิ่งมีชีวิต
    สิ่งมีชีวิตที่ว่านั้นก็คือ วิญญาณแห่งดนตรีที่มอบชีวิตให้แก่พวกเรา มากาฮินั่นเอง」
อายะ 「ตอนนี้ฉันรู้ดีแล้วล่ะค่ะ ว่าคนในวงการดนตรีจะเริ่มพูดเรื่องยากๆเมื่อคุยกันเรื่องเสียงเพลง
    คำพูดเข้าใจยากไม่แพ้พวกพี่ๆเลยล่ะค่ะ」
ลิริก้า 「ก็เพราะเสียงคือชีวิตของพวกเราน่ะนะ
    แล้วก็ไอ้เรื่องยากๆอะไรที่ว่าน่ะ ไม่มีหรอก」
อายะ 「มันเข้าใจง่ายสำหรับคุณก็จริง แต่สำหรับฉันนี่ถึงกับปวดหัวเลยล่ะค่ะ」
ลิริก้า 「เธอเป็นพวกที่ถ้าไม่เข้าใจดนตรีแล้วจะไม่สามารถสนุกกับมันได้อย่างนั้นเหรอ ?
    ถ้าไม่รู้ว่าเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงอะไร ก็จะไม่รู้สึกครึกครื้นไปกับมันอย่างนั้นเหรอ ?
    ถ้าไม่มีใครตัดสินว่านี่เป็นศิลปะการบรรเลงที่ยอดเยี่ยมรึเปล่า ก็ไม่กล้าบอกว่านั่นคือเพลงอย่างนั้นเหรอ ?
    ไม่เปิดใจให้กว้างบ้างเลยนะ... ...อย่างกับพวกมนุษย์ยังไงยังงั้น」
อายะ 「นั่นสินะคะ
    ถ้าเป็นดนตรีที่ขับเคลื่อนหัวใจได้ ต่อให้เป็นเสียงรบกวนก็นับเป็นดนตรีที่ดีเลิศที่สุดสินะคะ」
ลิริก้า 「นั่นล่ะใช่เลย」

Tips :
- คำว่า 曲霊 นั้นแปลตรงตัวได้ว่า วิญญาณเพลง หากแต่ในแง่ของศาสนาพุทธนิกายชินโตนั้น เป็นชื่อที่มีความหมายเฉพาะอยู่
- ศาสนาพุทธนิกายชินโต เชื่อว่า หัวใจของมนุษย์ ประกอบด้วยหนึ่งวิญญาณคือ 直霊 (นาโอฮิ) หรือ มากาฮิ (曲霊) และสี่จิต
จิตทั้งสี่ได้แก่ ความกล้า ความนอบน้อม ความรัก ความรู้ โดยในเวลาปกติจะมีนาโอฮิเป็นตัวควบคุมอีกทีหนึ่ง
หากแต่ในเวลาที่นาโอฮิไม่ได้ทำงานตามปกตินั้น มากาฮิ (曲霊) จะออกมาทำงานแทน และเปลี่ยนจิตทั้งสี่ให้ชั่วร้ายไป
曲霊 อ่านว่า มากาฮิ หรือ มากัทสึฮิ ซึ่งมาจากชื่อของเทพเจ้าองค์หนึ่งคือ 禍津日神 (มากัทสึฮิ โนะ คามิ) ซึ่งเป็นเทพแห่งเคราะห์ร้าย
ตำราหนึ่งกล่าวว่ามีสององค์คือ 八十禍津日神 (ยาโซะมากัทสึฮิโนะคามิ) และ 大禍津日神 (โอโฮมากัทสึฮิโนะคามิ) (โอโอมากัทสึฮิโนะคามิ)
ส่วนอีกตำราหนึ่งกล่าวว่ามีเพียงองค์เดียวคือ 八十枉津日神 (ยาโซะมากัทสึฮิโนะคามิ) (อาจสังเกตได้ว่า เขียนต่างจากอีกตำราหนึ่ง แต่อ่านเหมือนกัน)
หลังจากที่อิซานางิกลับมาจากยมโลก ได้ปัดสิ่งสกปรกออกจากตัว ซึ่งสิ่งสกปรกเหล่านั้นได้กลายเป็น มากัทสึฮิโนะคามิ นั่นเอง
ด้วยเหตุนี้จึงถูกบวงสรวงในฐานะ เทพแห่งเคราะห์ร้าย (บวงสรวงเพื่อขอให้ละเว้นตน...น่ะนะ)
เพื่อแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้น อิซานางิจึงสร้างเทพ นาโอบิโนะคามิ (นาโอฮิ) ขึ้นมาพร้อมกับ อิซึโนะเมะ (จะยังไม่กล่าวถึงอิซึโนะเมะในที่นี้)
โมโตโอริ โนรินากะ หนึ่งในสี่มหาบัณฑิตผู้ศึกษาวัฒนธรรมและวรรณกรรมญี่ปุ่นเชื่อว่า มากัทสึฮิโนะคามิ นั้นเป็นเทพที่ชั่วร้าย
มีหน้าที่สร้างความไม่สมเหตุสมผล และความอับโชคให้แก่ชีวิตมนุษย์ ทำให้มนุษย์ไร้ซึ่งความสุข
ในขณะที่ฮิราตะ อัทสึทาเนะ หนึ่งในสี่มหาบัณฑิตผู้ศึกษาวัฒนธรรมและวรรณกรรมญี่ปุ่นเชื่อว่า มากัทสึฮิโนะคามิ นั้นเป็นเทพแห่งความสุข
โดยเป็น ความกล้า ที่อยู่ในจิตใจของสึซาโนโอะโนะมิโคโตะ และอยู่ในจิตใจมนุษย์ทุกคน ร่วมกับเทพอีกองค์หนึ่งคือ นาโอบิโนะคามิ (นาโอฮิ)
(ฮิราตะ อัทสึทาเนะนั้นเชื่อว่า อามาเทราสึโอโอมิคามิ ก็เป็นหนึ่งในสี่จิต คือ ความรู้)
ในขณะที่นาโอฮิควบคุมจิตใจนั้น มนุษย์ก็จะมีสภาพอารมณ์และจิตใจตามปกติ
แต่เมื่อเผชิญกับสิ่งชั่วร้าย มากาฮิจะควบคุมจิตใจให้ตอบสนองอย่างรุนแรง หยาบกร้าน โกรธแค้น ชิงชัง
และเมื่อจบเรื่องแล้ว นาโอฮิก็จะเข้ามาผ่อนคลายจิตใจให้กลับเป็นปกติ
- จากเนื้อหาทั้งหมด อาจสรุปได้ว่า ลิริก้าเพิ่งได้คีย์บอร์ดตัวนี้มาใหม่ๆ
จึงค้นพบเสียงชนิดใหม่และเกิดเป็นข่าวนี้ขึ้น และก็ใช้คีย์บอร์ดอันนี้มาจนถึงปัจจุบัน


ลิริก้า ปริซึมริเวอร์

น้องคนสุดท้องในหมู่พี่น้อง
เป็นคนหัวดี ฉลาดแกมโกง
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรีชนิดใดก็ใช้ได้อย่างชำนาญ
แต่ปกติแล้วจะรับผิดชอบพวกเครื่องดีดหรือเครื่องเคาะ

ผลงานการแสดง :
『東方妖々夢』



.........................................................................................................................................................................................

กลับไปที่สารบัญของหนังสือเล่มนี้