SunMoonStar - 01 - MainPage


東方三月精 ~ Eastern and Little Nature Deity.
โทวโฮวซันเกทสึเซย์ (สามภูตจันทราแห่งตะวันออก) ~ เทพธิดาตัวน้อยแห่งธรรมชาติตะวันออก


.........................................................................................................................................................................................

มังกะเรื่องแรกของโทโฮโปรเจคท์

เรื่องราวของโยวเซย์(ภูต)สาวน้อยสามตนที่แสนซุกซนและมากด้วยความสามารถอันแสนจะมีประโยชน์ต่อการแกล้งคน
Sunny Milk มีความสามารถในการหักเหแสง (รายละเอียด)
Luna Child มีความสามารถในการลบเสียง (รายละเอียด)
Star Sapphire มีความสามารถในการรับรู้สิ่งเคลื่อนไหวรอบตัว (รายละเอียด)
ซึ่งโยวเซย์ทั้งสามตนนี้จัดได้ว่าเป็นตัวเอกของภาคนี้ (ร่วมกับตัวเอกหลักของโทโฮ คือ เรย์มุ และ มาริสะ)

และตามธรรมเนียมของโทโฮ ทุกภาคจะต้องมีอักษรคันจิจากชื่อของตัวการก่อเรื่อง อยู่ในอักษรสามตัวท้ายของชื่อภาค
สำหรับภาคนี้ คือ 三月精 อ่านว่า ซันเกทสึเซย์ (สามภูตจันทรา)
三 อ่านว่า ซัน ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่า Sun ในภาษาอังกฤษที่แปลว่า ดวงอาทิตย์ อันหมายถึง Sunny Milk
月 แปลว่า พระจันทร์ อันหมายถึง Luna Child
精 อ่านว่า เซย์ ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่า 星 ที่แปลว่า ดวงดาว อันหมายถึง Star Sapphire



[ฉบับซีรี่ส์]

ประกาศการลงซีรี่ส์ในนิตยสาร CompTiq ฉบับเดือน 4 ซึ่งวางจำหน่ายในวันที่ 10 เดือน 3 ปี 2005
แต่งเรื่องโดย ZUN และรับผิดชอบงานวาดโดยอาจารย์ มัทสึคุระ เนมุ
เริ่มลงเป็นซีรี่ส์ในนิตยสาร CompACE เล่ม 1 (ฉบับปฐมฤกษ์) ซึ่งวางจำหน่ายในวันที่ 26 เดือน 3 ปี 2005 โดยเริ่มตั้งแต่ตอนที่ 0
และจบภาคแรกลงด้วยจำนวนเพียง 6 ตอนเท่านั้น โดยตอนสุดท้ายคือตอนที่ 5 ซึ่งตีพิมพ์ลง CompACE เล่ม 6 ในวันที่ 25 เดือน 3 ปี 2006

อันที่จริงอาจารย์ มัทสึคุระ เนมุ เป็นนักวาดที่ถูกใจ ZUN เป็นอย่างมาก เพราะลายเส้นที่พริ้วไหวและมีสีสันอย่างมาก
แต่อาจารย์ มัทสึคุระ เนมุ เกิดป่วยรุนแรงอย่างกะทันหัน
จนทำให้ 「ตอนที่ 0 ระยะทางของซากุระ」 ไม่สามารถวาดจนจบได้ โดยวาดถึงแค่ตอนที่เรมิเลียปรากฏตัวเท่านั้น
นอกจากนี้ ในตอนต่อๆมาก็ไม่สามารถวาดได้อย่างสมบูรณ์ บ้างก็ไม่ได้ลงสกรีนโทน บ้างก็ไม่ได้วาดฉากหลัง บางครั้งถึงกับไม่ได้ตัดเส้นเลยทีเดียว


[จดหมายเหตุเซี่ยงไฮ้อลิส ฉบับสามภูต]

เพื่อแก้ไขปัญหาข้างต้น... ZUN จึงได้เริ่มลง 「จดหมายเหตุเซี่ยงไฮ้อลิส ฉบับสามภูต」 ลงในท้ายตอนที่ 1-5
โดยได้กล่าวแก่อาจารย์ ฮิราซากะ มาโคโตะ ว่า "วาดไปตามใจชอบได้เลย"
แล้วมอบหมายให้อาจารย์ ฮิราซากะ มาโคโตะ รับผิดชอบวาดการ์ตูนสี่ช่องที่มีชื่อหัวเรื่องว่า 「ตอนที่ 0 ระยะทางของซากุระ ภาคต่อ...?」 รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวน 5 ตอน เพื่อให้เนื้อหาใน 「ตอนที่ 0 ระยะทางของซากุระ」 จบลงอย่างสมบูรณ์
(อนึ่ง, เกิดการระบุเลขฉบับของจดหมายเหตุฯฉบับที่ 4 ผิดเป็น "3" แล้วก็ ZUN ทำเนียนเรียงต่อเลย จึงทำให้เลขฉบับเรียงเป็น 1 2 3 3 4 ซะงั้น)
และเมื่อทำหนังสือรวมเล่ม อาจารย์ มัทสึคุระ เนมุ ก็ทำการวาดตอนที่ 0 ต่อด้วยตนเองจนจบอย่างสมบูรณ์ในที่สุด
และยังได้ทำการวาดแก้ไขตอนที่ 1-5 ให้สวยงามมากขึ้นอีกด้วย (แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันยังไม่สมบูรณ์แบบอย่างที่ควรจะเป็นอยู่ดี)
ส่วนเลขฉบับของจดหมายเหตุฯก็ได้รับการแก้ไขแล้วในหนังสือรวมเล่มเช่นกัน

นอกจากนี้ ในส่วนของ 「จดหมายเหตุเซี่ยงไฮ้อลิส ฉบับสามภูต」 ยังมีคอลัมน์ 「天声神語」 (เทนเซย์ชินโกะ) (วจีเทพเสียงสวรรค์)
ซึ่ง ZUN ใช้ในการเขียนบอกเล่าอะไรต่อมิอะไรตามสไตล์ ZUN เช่นเคย
โดยชื่อคอลัมน์นี้เป็นการล้อเลียนชื่อคอลัมน์หน้าหนึ่งที่มีชื่อเสียงของหนังสือพิมพ์อาซาฮิที่มีชื่อว่า 天声人語 (วจีมนุษย์เสียงสวรรค์)

อนึ่ง, จดหมายเหตุเซี่ยงไฮ้อลิส ฉบับสามภูต นี้มีต่อไปจนถึงสามภูตจันทราแห่งตะวันออก ภาคสอง (Strange and Bright Nature Deity) ด้วย
โดยลงฉบับที่ 5 6 7 และฉบับพิเศษ รวม 4 ฉบับ และไม่มีอีกแล้ว
ทำให้จดหมายเหตุเซี่ยงไฮ้อลิส ฉบับสามภูต มีจำนวนฉบับทั้งสิ้น 9 ฉบับ (รวมฉบับพิเศษด้วย)
ซึ่งจดหมายเหตุฉบับที่ตีพิมพ์ลงในภาคสองนี้ จะกล่าวถึงในโอกาสต่อไป


[ฉบับรวมเล่ม]

วางจำหน่ายในวันที่ 26 เดือน 1 ปี 2007
ในเล่มประกอบด้วยตอนที่ 0-5 ที่ได้รับการแก้ไขแล้ว รวมถึงจดหมายเหตุฯที่แก้ไขลำดับแล้วทั้ง 5 ฉบับด้วย
นอกจากนี้ยังได้เพิ่มเรื่องสั้น 「月の妖精」 (ภูตจันทรา) ซึ่งแต่งโดย ZUN และวาดภาพโดยอาจารย์ อายุมิ จิฮะ ลงไปด้วย
เนื่องจากเนื้อหาการ์ตูนจำนวน 6 ตอนนั้นไม่เพียงพอที่จะเติมหนังสือฉบับรวมเล่มให้เต็มได้นั่นเอง
และในเล่มยังแถมแผ่นเพลงมาหนึ่งแผ่น ซึ่งภายในประกอบด้วยเพลงธีมประจำตัวภูตแต่ละตน รวมทั้งสิ้น 3 เพลง

แต่ปัญหาไม่ได้สิ้นสุดลงแต่เพียงเท่านี้
เนื่องจากเหตุผลหลายๆประการ ทำให้หนังสือรวมเล่มนี้กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆของประเทศล่าช้า จนกำหนดการวางขายในแต่ละที่ไม่ตรงกัน
นอกจากนี้, ในหน้าแนะนำโทโฮ (ซึ่งทางสำนักพิมพ์ใส่เข้าไปเอง) ก็มีทั้งพิมพ์ชื่อผิดๆถูกๆและแปะรูปผิด จนโดนแฟนโทโฮบ่นกันระงม
จนในที่สุด, กลางดึกวันที่ 16 เดือน 2 ปี 2007
ทางสำนักพิมพ์คาโดคาวะโชะเทน ได้ทำการอัพเดทหน้าเวบขึ้นมาหน้าหนึ่ง เพื่อชี้แจงแก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆ
โดยอ้างว่าการแก้ไขนี้ได้รับข้อมูลยืนยันจากผู้แต่งแล้ว
แต่ปรากฏว่าในหน้าเวบดังกล่าวไม่ได้แจ้งแก้ไขจนครบทุกจุด และมีบางจุดที่เหมือนจะเป็นจุดผิดพลาดใหม่เพิ่มขึ้นอีกต่างหาก
แฟนโทโฮจึงได้รวบรวมข้อผิดพลาดต่างๆขึ้นอีกครั้ง และเผยแพร่ไว้ในเวบไซต์แห่งหนึ่ง
โดยเป็นที่สังเกตได้ว่า ข้อผิดพลาดหลายจุดมีที่มาจากผลงานลำดับที่สอง หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า โดจิน นั่นเอง
(สำหรับรายละเอียดของการแก้ไขข้อผิดพลาดทั้งหมด จะขอยกยอดไปเขียนไว้ที่ด้านล่าง)

อย่างไรก็ดี, ในการตีพิมพ์ครั้งที่สองนั้น ทางสำนักพิมพ์ได้ทำการแก้ไขข้อผิดพลาดตามที่แสดงไว้ในเวบของตนเรียบร้อยแล้ว
(ส่วนข้อผิดพลาดอื่นๆที่แฟนโทโฮค้นพบนั้น ยังไม่ได้รับการแก้ไข)
และเนื่องจากมีการตีพิมพ์ออกมาเพียงสองครั้งเท่านั้น
ทำให้ปัจจุบัน, หนังสือรวมเล่ม 「สามภูตจันทราแห่งตะวันออก ~ Eastern and Little Nature Deity.」 ได้กลายเป็นของหายากไปแล้ว
จนแม้แต่ ZUN เองยังเปรยออกมาว่า "ตอนนี้หายากมากเลย"



ISBN : 4-0470-7234-6

สำนักพิมพ์ : คาโดคาวะโชะเทน

เรื่อง : ZUN

ภาพ : มัทสึคุระ เนมุ

สิ่งที่แถมมากับหนังสือ : CD 1 แผ่น ซึ่งภายในประกอบด้วย
Audio Track
   1.サニールチルフレクション
      Sunny Rutile Flection (ซันนี่ รูทิล เฟลคชั่น)
   2.夜だから眠れない
      โยรุดาคาระเนมุเรไน (ไม่หลับเพราะเป็นกลางคืน)
   3.妖精燦々として
      โยวเซย์ซันซันโตะชิเตะ (ในฐานะที่เป็นภูตผู้เจิดจรัส)



(เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงที่จะโดน LC ในอนาคต จึงของดที่จะแปลมังกะฉบับนี้ และขอเล่าเป็นเรื่องย่อแทน)

เรื่องย่อ

ตอนที่ 0 ระยะทางของซากุระ
ซากุระบานสะพรั่ง, ศาลเจ้าฮาคุเรย์เตรียมจัดงานชมดอกไม้, แขกเหรื่อทยอยกันเดินทางมายังศาลเจ้า แต่ก็มาไม่ถึงสักที
ทั้งนี้เพราะสามภูตจอมป่วนได้ใช้ความสามารถของพวกตน ทำให้ผู้คนหลงทางจนมาไม่ถึงศาลเจ้านั่นเอง
มาริสะหลุดรอดมาถึงศาลเจ้าได้เป็นคนแรก ตามด้วยเรมิเลียและซาคุยะ จากนั้นก็เริ่มชมดอกไม้กันโดยไม่รอคนอื่น
ครั้นเมื่อเรย์มุสังหรณ์ใจและจ้องมอง (แต่มองไม่เห็น) พวกสามภูตนึกว่าถูกจับได้ จึงหนีไป
ทำให้คนอื่นๆตามมาร่วมงานจนครบในที่สุด (แต่ก็ดึกเอาการ)

ตอนที่ 1 ความจริงของการสิ้นฤดูฝน
ฝนตกแดดไม่ออก ซันนี่มิลค์ซึ่งเป็นมันสมองของกลุ่มจึงไม่ร่าเริง ไม่คิดแผนใดๆ, สตาร์แซฟไฟร์จึงอาสาคิดแผนแกล้งพวกเรย์มุขึ้นมาแผนหนึ่ง
นั่นคือ การให้ลูน่าไชลด์ลบเสียงของฝน ส่วนซันนี่มิลค์หักเหแสงในเม็ดฝนจนทำให้มองไม่เห็นเม็ดฝน
มาริสะหลงนึกว่าฝนหยุดตกแล้ว จึงออกมานอกศาลเจ้า และโดนฝนจนเปียกหนีกลับเข้าศาลเจ้า เป็นที่ขบขันเฮฮาของเหล่าภูต
สองสาวอยากแกล้งต่อ เพราะอยากให้เรย์มุมาโดน แต่สตาร์แซฟไฟร์รู้ว่ากำลังจะมีฟ้าผ่าลงมา จึงส่งร่มให้เพื่อนไปใช้บังฝนด้วยความหวังดี(?)
ยังผลให้ซันนี่มิลค์และลูน่าไชลด์โดนฟ้าผ่าในที่สุด ส่วนตัวเองก็สบายดีอยู่คนเดียว

ตอนที่ 2 มิโกะผู้ไม่หลงทาง
สตาร์แซฟไฟร์รู้ว่ามีใครบางคนเข้ามาในป่าด้วยความความสามารถของเธอ จึงเรียกเพื่อนๆให้ไปช่วยกันแกล้งคนๆนั้น
ปรากฏว่าเป็นเรย์มุที่กำลังจะเดินทางไปเยี่ยมสุสานในช่วงเทศกาลฮิกัน (เซ่นไหว้บรรพชน)
เหล่าสามภูตทำให้เรย์มุหลงทางไปยังถนนที่มีแม่น้ำตัดขวาง โดยตั้งใจให้เรย์มุตกน้ำ
แต่ปรากฏว่าเหล่าปลาในแม่น้ำว่ายมาช่วยกันรองรับเท้าเรย์มุเอาไว้ จนเรย์มุเดินผ่านแม่น้ำไปได้โดยที่ไม่รู้สึกอะไรเลย
ขณะที่สองสาวมัวแต่ตะลึง สตาร์แซฟไฟร์รู้ตัวว่ามีคนเข้ามาใกล้จึงแอบหนีกลับบ้านไปคนเดียว ทิ้งเพื่อนๆไว้ให้มาริสะลงโทษซะงั้น
ปิดท้ายด้วยการเฉลยของเรย์มุว่า เธอไม่ได้ไปเยี่ยมบรรพชน แต่ไปแสดงความเคารพต่อพระอาทิตย์ที่กำลังตกดินต่างหาก
เธอจึงไม่ได้หลงทางแต่อย่างใด เพราะเธอไม่ได้จะไปที่สุสาน แค่เดินทางไปหาพระอาทิตย์ตกดินเท่านั้น

ตอนที่ 3 โมจิวาดหน้าแห่งดวงจันทร์
ทุกคืนวันแรมหนึ่งค่ำ (อิซาโยอิ) ลูน่าไชลด์จะออกมาสังเกตดาวตก และตามไปเก็บของที่ตกมาจากดวงจันทร์
เธอรวบรวมสิ่งของเหล่านั้นไว้ในห้องของตัวเอง ด้วยความตั้งใจที่จะสร้าง "ดวงจันทร์แห่งพื้นพิภพ" ขึ้นในห้องของตน
หากทำเช่นนั้นแล้วเธอก็จะมีพลังมากขึ้น เนื่องจากเธอเป็นภูตแห่งจันทรานั่นเอง
เธอเล่าว่า แรมหนึ่งค่ำคือเวลาที่จันทร์เพ็ญซึ่งทรงพลังที่สุดจะแหว่งไปเพียงเสี้ยวหนึ่งเล็กๆ และเสี้ยวนั้นจะตกลงมาสู่พื้นพิภพ
ดังนั้นในคืนวันแรมหนึ่งค่ำจึงเป็นเวลาที่จะเจอของตกจากดวงจันทร์ได้ง่าย และเมื่อคืนนี้เธอก็เก็บ "ธง" (ของสหรัฐอเมริกา) ได้
เพื่อนๆจึงพูดถึงโมจิวาดหน้า (หมายถึง สิ่งที่ไม่มีประโยชน์ในความเป็นจริง) ทำให้ลูน่าไชลด์โกรธเพราะนึกว่าหลอกด่าเธอ
ซันนี่มิลค์จึงบอกว่า "ถ้าไม่วาดภาพโมจิให้ดูน่าอร่อย ก็ไม่มีคนช่วยทำหรอกนะ ?" (ซึ่งน่าจะหมายความว่า พวกเธอจะช่วยเหลือลูน่าไชลด์นั่นเอง)

ตอนที่ 4 ประตูศาลเจ้าแห่งดวงดาว
หิมะตกต่อเนื่องมาถึงวันที่สามแล้ว เกนโซวเคียวถูกปกคลุมด้วยหิมะ พลันเกิดเสียงฟ้าร้องสนั่นหวั่นไหว และเกล็ดหิมะฟุ้งกระจายไปทั่วศาลเจ้า
เรย์มุอารมณ์เสียจนพาลใส่มาริสะ แต่เพราะอากาศหนาวเลยไม่สนใจจะตามหาสาเหตุที่แท้จริง จึงเป็นโอกาสของเหล่าสามภูต
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ซันนี่มิลค์รู้สึกหดหู่ที่หิมะตกจนแดดไม่ออก แต่สตาร์แซฟไฟร์กลับอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก
นั่นเพราะเธอค้นพบว่า สาเหตุที่ทำให้หิมะกระจายทั่วศาลเจ้าก็คือ สะเก็ดดาว และเธอก็เก็บมันกลับมาด้วยนั่นเอง
เธอเล่าว่า บนหินก้อนนี้มีรอยสลักรูปประตูศาลเจ้าอยู่ ซึ่งหินลักษณะนี้จะตกมาในสถานที่ใดสักแห่งตามช่วงเวลาที่แน่นอนอยู่เสมอ
มนุษย์ในยุคโบราณจะถือว่าที่นั่นเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และทำการสร้างศาลเจ้ากับประตูศาลเจ้าขึ้นที่นั่น
โดยประตูศาลเจ้าถูกสร้างขึ้นตามแบบรูปสลักบนก้อนหินนั่นเอง
เธอจึงเชื่อว่า ศาลเจ้ากับท้องฟ้า (ที่หินตกมา) มีความเกี่ยวข้องกัน และบนท้องฟ้าก็คือ ตะวัน จันทรา ดารา
ดังนั้นศาลเจ้าจึงควรเป็นที่อาศัยของพวกเธอ แต่เพื่อนๆดูจะไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไรนัก

ตอนที่ 5 ความพิศวงของไข่ยักษ์
จู่ๆก็มีไข่ขนาดยักษ์มาวางอยู่หน้าศาลเจ้าฮาคุเรย์ ... เรย์มุจึงคิดจะเอามากิน แต่มาริสะห้ามไว้ และเริ่มถกเถียงกันว่าจะทำยังไงกับไข่ใบนี้ดี
ครั้นเมื่อรู้สึกตัวอีกที ไข่ใบยักษ์ก็หายไปแล้ว ด้วยฝีมือของเหล่าสามภูตจอมป่วนนั่นเอง
แต่ปรากฏว่า ไม่ว่าจะทุบจะเลื่อยยังไง ไข่ใบนี้ก็ไม่สะเทือนเลยแม้แต่นิดเดียว
จากนั้นก็เกิดการสั่นสะเทือนขึ้น แล้วตัวบ้านที่เป็นต้นไม้ของเหล่าสามภูตก็ลอยละลิ่วขึ้นไปบนท้องฟ้า ซึ่งเกิดจาก "ลมเทนกุ" นั่นเอง
เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้ง ก็พบจดหมายวางอยู่ ใจความว่า
มีคนขโมยไข่ของเทนกุอีกาไป จึงออกตามหา และมีรายงานว่าเห็นโยวเซย์แบกไข่ยักษ์ จึงใช้พายุพัดบ้านทั้งหลังไปที่ภูเขาเพื่อตรวจสอบ
ปรากฏว่ามันไม่ใช่ไข่ใบที่ตามหาอยู่ จึงเอาบ้านมาส่งที่เดิม และมอบสมบัติลับของเทนกุให้ชิ้นหนึ่ง เพื่อเป็นการขอขมา
สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าเป็นไข่ของตัวอะไร แต่สมบัติลับที่ได้มาคือ ค้อนของเทนกุ ซึ่งน่าจะทุบไข่ใบนี้ให้แตกได้ จึงไม่พ้นต้องเป็นอาหารของสาวๆไป

เรื่องสั้น ภูตจันทรา
วันนี้ลูน่าไชลด์อารมณ์ไม่ดีแต่เช้า เพราะเมื่อวานไปแกล้งคนที่ศาลเจ้าแล้วถูกเรย์มุจับได้ แต่เพื่อนๆหนีทันหมด มีตัวเองโดนจับได้อยู่คนเดียว
เธอไม่ได้อารมณ์เสียที่ถูกเพื่อนทิ้ง เพราะมันเป็นเรื่องปกติ แต่เธออารมณ์เสียเพราะเรื่องอะไรนั้น ตัวเองก็เริ่มลืมไปแล้วเหมือนกัน
จากนั้นพอซันนี่มิลค์ตื่นขึ้นมา ก็ออกไปล่าสมบัติกันตามปกติ และค้นพบหลอดไฟเรืองแสง (หลอดฟลูออเรสเซนต์)
พวกเธอไม่รู้ว่าคืออะไร จึงเดินทางไปที่ร้านโควรินโดว เพื่อให้รินโนะสุเกะตรวจสอบให้
เมื่อได้คำตอบที่ต้องการ ก็ต้องผิดหวังที่มันเป็นเพียงของธรรมดาที่หาได้ง่ายในโลกภายนอก
กระนั้นก็ตาม, พวกเธอก็ยังคงพยายามจะหาทางทำให้มันส่องสว่าง หรือใช้ประโยชน์จากมัน
จนทำให้รินโนะสุเกะนึกถึงสำนวน "บัณฑิตส่องหิมะ" ขึ้นมา (หมายถึง ผู้พากเพียรที่แม้ในยามวิกาลก็ยังอาศัยแสงสะท้อนจากหิมะในการอ่านหนังสือ)
เหล่าสามภูตออกมาจากร้านโดยไม่กล่าวคำขอบคุณแก่รินโนะสุเกะด้วยซ้ำ ส่วนลูน่าไชลด์ก็กอดหลอดไฟไว้ราวกับของสำคัญ (เพราะเธอเป็นคนหาเจอ)
ไม่นานนัก สตาร์แซฟไฟร์ก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง จึงตะโกนให้วิ่งหนี แล้วเธอกับซันนี่มิลค์ก็เผ่นทันที เหลือแต่ลูน่าไชลด์ที่ยังมัวงงอยู่ได้
พอรู้สึกตัวว่าต้องหนี เธอก็ยังไม่ยอมทิ้งหลอดไฟ และพยายามวิ่งสุดชีวิต ผู้มาเยือนจึงส่งเสียงบอกให้เธอหยุด
นั่นกลับทำให้ลูน่าไชลด์ยิ่งรู้สึกกลัว เพราะเธอใช้ความสามารถลบเสียงไปแล้ว นี่จึงต้องเป็นเสียงที่ได้ยินทางใจโดยตรงแน่ๆ
คนที่จะส่งเสียงแบบนี้ให้เธอได้ยินได้ ต้องเป็นโยวไคที่อันตรายมากแน่ๆ
ผู้มาเยือนกล่าวว่า เธอเห็นพวกสามภูตถืออุปกรณ์ของโลกภายนอกออกมาจากร้านโควรินโดว จึงตามมาดู
จากนั้นก็แนะนำตัวว่า เธอคือ โยวไคแห่งอาณาเขต ผู้เชี่ยวชาญเรื่องอุปกรณ์จากโลกภายนอก นามว่า ยาคุโมะ (ยาคุโมะ ยูคาริ)
เธอต้องการตรวจสอบสิ่งของที่พวกสามภูตนำมา ว่าเป็นวัตถุอันตรายหรือไม่ เพราะโลกภายนอกมีวัตถุที่เป็นอันตรายอยู่มากมาย
จากนั้นยูคาริก็กล่าวขอบใจและมอบคำแนะนำดีๆให้แก่ลูน่าไชลด์ นั่นคือ บัณฑิตส่องหิมะ
แล้วยูคาริก็เริ่มพูดเรื่องที่เข้าใจยาก พลางเอาร่มแตะปลายจมูกของลูน่าไชลด์ แล้วหลอดไฟก็เริ่มกะพริบแสงออกมา ทำให้ลูน่าไชลด์ง่วงจนหลับไป
โดยยูคาริได้ทิ้งท้ายหลังจากลูน่าไชลด์หลับไปแล้วว่า "เพราะเธอนั้นใกล้เคียงกับโยวไคที่สุด"
รุ่งเช้าวันต่อมา, หลังจากที่ทานมื้อเช้าเสร็จ ลูน่าไชลด์ก็เอาหลอดไฟไปวางบนตู้ แล้วขอพรให้พวกเธอทั้งสามแข็งแกร่งขึ้น เอวัง.



รวมข้อผิดพลาดและการแก้ไขที่พบในหนังสือเล่มนี้
อ้างอิงจาก หน้าเวบของคาโดคาวะโชะเทน และ หน้าเวบของแฟนโทโฮ

รูปประกอบ ในหน้าแนะนำโทโฮ (ซึ่งทางสำนักพิมพ์ใส่เข้าไปเอง)

รูปยูยูโกะ แปะผิดเป็นรูปโยวมุ
  - ได้รับการชี้แจงในหน้าเวบของคาโดคาวะโชะเทนแล้ว
  - ได้รับการแก้ไขในการตีพิมพ์ครั้งที่สองแล้ว

รูปยูคาริ แปะผิดเป็นรูปยูยูโกะ
  - ได้รับการชี้แจงในหน้าเวบของคาโดคาวะโชะเทนแล้ว
  - ได้รับการแก้ไขในการตีพิมพ์ครั้งที่สองแล้ว

รูปอุดองเกะ แปะผิดเป็นรูปเคย์เนะ (ร่างฮาคุตาคุ)
  - ได้รับการชี้แจงในหน้าเวบของคาโดคาวะโชะเทนแล้ว
  - ได้รับการแก้ไขในการตีพิมพ์ครั้งที่สองแล้ว

รูปฟลังดร์ ถูกลบผลึกที่ปีกออก รวมถึงก้านปีกบางส่วนด้วย
  - ยังไม่ได้รับการชี้แจงและแก้ไขใดๆจากทางสำนักพิมพ์
  - คาดว่าผู้แต่งเองก็คงตรวจทานพลาดไปในจุดนี้

พิมพ์ผิด+เนื้อหาผิด ในหน้าแนะนำโทโฮ (ซึ่งทางสำนักพิมพ์ใส่เข้าไปเอง)

หน้า 68 ช่องที่ 1 คำว่า อัน เขียนกำกับคำอ่านเป็น อาเมะ (จุดนี้อยู่นอกส่วนของหน้าแนะนำโทโฮที่ทางสำนักพิมพ์ใส่เข้าไปเอง)
  - อ้างอิงจากไดอารี่ของ ZUN ในวันที่ 29 เดือน 11 ปี 2005 ที่อธิบายว่าคำนี้ต้องอ่านว่า อัน
  - ยังไม่ได้รับการชี้แจงและแก้ไขใดๆจากทางสำนักพิมพ์

หน้า 97 ระบุว่าสเปลการ์ดของมาริสะมีขอบเขตการโจมตีแคบ
  - ของจริงมีขอบเขตการโจมตีกว้างต่างหาก (สิ่งที่ขอบเขตการโจมตีแคบคือกระสุนธรรมดา)
  - ยังไม่ได้รับการชี้แจงและแก้ไขใดๆจากทางสำนักพิมพ์

หน้า 99 ตั้งชื่อห้องสมุดของคฤหาสน์มารแดงโดยพลการ
  - จริงอยู่ว่าชื่อเพลงคือ ห้องสมุดเวทมนตร์ วัวล์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นชื่อของสถานที่นี้
  - ZUN ให้แก้ไขเป็น ห้องสมุดภายในคฤหาสน์มารแดง
  - ได้รับการชี้แจงในหน้าเวบของคาโดคาวะโชะเทนแล้ว
  - ได้รับการแก้ไขในการตีพิมพ์ครั้งที่สองแล้ว

หน้า 102 ระบุเผ่าพันธุ์ของโมโควเป็น ชาวจันทรา
  - ไม่ว่าจะในเนื้อหาส่วนใดของโทโฮ, โมโควก็ถูกระบุว่าเป็น มนุษย์
  - ได้รับการชี้แจงในหน้าเวบของคาโดคาวะโชะเทนแล้ว
  - ได้รับการแก้ไขในการตีพิมพ์ครั้งที่สองแล้ว

หน้า 102 ระบุว่าหนังสือพิมพ์ของอายะเป็นสื่อกระจายข้อมูลเพียงหนึ่งเดียวของเกนโซวเคียว
  - ในเนื้อหาโทโฮนั้นมีสื่ออีกมากมาย, ทั้ง ลิขิตพรรณนาเกนโซวเคียว และ เกนโซวเคียวเอนกิ (นิมิตแห่งดินแดนมายา)
  - และตอนนี้ก็เป็นที่ทราบกันแล้วว่า เทนกุตนอื่นก็ทำหนังสือพิมพ์ มิใช่เพียงอายะตนเดียว
  - ZUN ให้แก้ไขเป็น สื่อกระจายข้อมูลอันล้ำค่าของเกนโซวเคียว
  - ได้รับการชี้แจงในหน้าเวบของคาโดคาวะโชะเทนแล้ว
  - ได้รับการแก้ไขในการตีพิมพ์ครั้งที่สองแล้ว

หน้า 103 ระบุว่าชิคิเอย์คิเป็น ตุลาการแห่งโลกวิญญาณ
  - เธอมิใช่คนของโลกวิญญาณ แต่เป็นคนของนรกต่างหาก
  - ZUN ให้แก้ไขเป็น ตุลาการแห่งขุมนรก
  - ได้รับการชี้แจงในหน้าเวบของคาโดคาวะโชะเทนแล้ว
  - ได้รับการแก้ไขในการตีพิมพ์ครั้งที่สองแล้ว

หน้า 104 ระบุว่าแผ่นโทโฮภาค 6 ที่วางขายทั่วไปมีราคา 1,470 เยน
  - ของจริงราคา 1,050 เยนเท่านั้น
  - ยังไม่ได้รับการชี้แจงและแก้ไขใดๆจากทางสำนักพิมพ์

หน้า 105 กำกับชื่อเรย์มุด้วยคำว่า 夢 (ฝันสวย)
  - คำกำกับที่ถูกต้องคือ 夢 (ฝันวิญญาณ) ต่างหาก
  - ได้รับการชี้แจงในหน้าเวบของคาโดคาวะโชะเทนแล้ว
  - ได้รับการแก้ไขในการตีพิมพ์ครั้งที่สองแล้ว

หน้า 106 ระบุชื่อเพลงว่า 華胥の夢 2004
  - ของจริงชื่อ 華胥の夢 เท่านั้น ไม่มีตัวเลข 2004
  - ยังไม่ได้รับการชี้แจงและแก้ไขใดๆ

หน้า 107 ระบุว่าโทโฮในยุคเก่ามีจำนวนทั้งสิ้น 6 ภาค
  - มีอยู่ 5 ภาคต่างหาก
  - ได้รับการชี้แจงในหน้าเวบของคาโดคาวะโชะเทนแล้ว
  - ได้รับการแก้ไขในการตีพิมพ์ครั้งที่สองแล้ว

หน้า 107 ระบุว่าแผ่นเพลงอาคิว 2 กับ 3 ที่วางขายทั่วไปมีราคา 500 เยน
  - 500 เยนคือราคาพิเศษที่ขายในงาน Conike ส่วนราคาปกติที่วางขายทั่วไปของจริงคือ 735 เยน
  - ยังไม่ได้รับการชี้แจงและแก้ไขใดๆ

หน้า 108 ระบุชื่อหนึ่งในสิ่งเรียกร้องที่เป็นไปไม่ได้ทั้งห้าเป็น เกี้ยวมณีโฮวไร
  - ของจริงมันชื่อ กิ่งมณีโฮวไร ต่างหาก
  - ได้รับการชี้แจงในหน้าเวบของคาโดคาวะโชะเทนแล้ว
  - ได้รับการแก้ไขในการตีพิมพ์ครั้งที่สองแล้ว

หน้า 120 ระบุวิธีอ่านชื่อเป็น โมริจิกะ ชินโนะสุเกะ
  - ของจริงมันชื่อ โมริจิกะ รินโนะสุเกะ ต่างหาก
  - ได้รับการชี้แจงในหน้าเวบของคาโดคาวะโชะเทนแล้ว
  - ได้รับการแก้ไขในการตีพิมพ์ครั้งที่สองแล้ว

ความเข้าใจผิดที่มาจากโดจินแล้วเขียนเอาเองมั่วซั่ว ในหน้าแนะนำโทโฮ (ซึ่งทางสำนักพิมพ์ใส่เข้าไปเอง)

หน้า 99 ในส่วนของชิลโน่ ระบุว่า มีความสามารถในการควบคุมน้ำแข็ง
  - ความจริงแล้วเธอมีความสามารถในการ ควบคุมความเย็น ต่างหาก

หน้า 99 ในส่วนของแพชูลี่ ระบุว่า เธอเป็นเผ่าแม่มด
  - ที่จริงเป็นเผ่า จอมเวท
  - ก็จริงที่ว่าในภาค 7.5 ถูกระบุว่าเป็นเผ่า แม่มด แต่ภาคต่อสู้นั้นถูกจัดเป็นเพียง Semi-Official เท่านั้น จึงไม่ควรนำมาใช้อ้างอิงเป็นหลัก

หน้า 99 ในส่วนของแพชูลี่ ระบุว่า เธอเข้ากันได้ดีกับมาริสะ
  - ที่จริงแล้วเธอแทบไม่เคยติดต่อกับมาริสะเลย, แถมจากบทพูดในภาค 7.5 (ซึ่ง ZUN แต่งเอง) ก็แสดงให้เห็นว่าไม่ได้สนิทกันมากนัก

หน้า 99 ในส่วนของเหม่ยหลิง ระบุว่า ดูจากชื่อแล้ว ท่าทางจะมาจากประเทศจีน
  - เป็นเพราะทางสำนักพิมพ์เข้าใจผิดแล้วเขียนชื่อเธอว่า Meyling ก็เลยเขียนออกมาแบบนี้
  - ไม่เคยมีข้อมูลที่ระบุว่าเธอมาจากประเทศจีน แค่บอกว่าเธอมีสไตล์แบบจีนเท่านั้น

หน้า 99 ในส่วนของเหม่ยหลิง ระบุว่า สเปลการ์ดของเธอส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับปราณ
  - สเปลการ์ดทุกใบของเธอเกี่ยวข้องกับปราณ
  - ถ้าจะใช้คำว่า ส่วนใหญ่ ต้องบอกว่าชื่อสเปลการ์ดของเธอส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับดอกไม้ต่างหาก

หน้า 99 ในส่วนของฟลังดร์ ระบุว่า เธอสูญเสียสติสัมปชัญญะ
  - แค่ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าเสียสติ

หน้า 100 ในส่วนของลิลลี่ไวท์ ระบุว่า ยังมีปริศนาอยู่มาก เช่นเรื่องที่ไม่มีสเปลการ์ด
  - ไม่มีก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องเล่น Spell Card Rule

หน้า 100 ในส่วนของโยวมุ ระบุว่า ดาบทั้งสองเล่มใช้ตัดความสับสนว้าวุ่นของผู้คนและโยวไคได้
  - ไม่มีส่วนใดของเนื้อหาที่บอกว่าตัดความว้าวุ่นสับสนของโยวไคได้
  - ไม่มีส่วนใดของเนื้อหาที่บอกว่าตัดความว้าวุ่นสับสนของผู้คนได้
  - เนื้อหาระบุไว้ว่า ใช้ตัดได้เฉพาะความว้าวุ่นสับสนของมนุษย์เท่านั้น
  - ดาบที่ตัดความว้าวุ่นสับสนของมนุษย์ได้มีเพียงเล่มเดียว คือ ดาบฮาคุโรวเคน

หน้า 101 ในส่วนของเคย์เนะ ระบุว่า เป็นครึ่งคนครึ่งภูตที่มีสายเลือดของมนุษย์กับฮาคุตาคุ
  - เคย์เนะเป็นแวร์ฮาคุตาคุหลังจากที่เกิดต่างหาก ไม่ได้เป็นมาแต่กำเนิด
  - เธอเป็นเผ่า มนุษย์สัตว์ (จูวจิน) ซึ่งจัดว่าเป็นโยวไค, ไม่ใช่ครึ่งคนครึ่งภูต
  - ส่วนคำว่า ครึ่งสัตว์ นั้นเป็นส่วนหนึ่งของฉายาของเธอ, และอยู่ในบทพูดที่คนอื่นใช้เรียกเธอแบบง่ายๆ

หน้า 102 ในส่วนของเอย์ริน ระบุว่า อินาบะอ้างตัวเป็นลูกศิษย์ของเอย์ริน, แต่ไม่รู้ว่าเอย์รินคิดยังไง
  - จริงอยู่ว่าพวกเธอไม่ค่อยแสดงภาพลักษณ์ของการเป็นศิษย์-อาจารย์มากนัก, แต่ก็ไม่ได้ใช้คำว่า "อ้างตัวเป็น"
  - ใช้คำว่า อินาบะ ก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะว่ากระต่ายทั้งเรือนนิรันดร์มันก็ อินาบะ เหมือนกันทั้งหมดนั่นแหละ
  - น่าจะใช้คำว่า เรย์เซน หรือ อุดองเกะ มากกว่า

หน้า 102 ในส่วนของเมดิซึน ระบุว่า ไม่ค่อยได้ออกมาจากทุ่งดอกสุซุรันมากนัก จึงเป็นโรคกลัวคน
  - ในเนื้อเรื่องบทของเธอในภาค 9 เธอออกมาจากทุ่งดอกสุซุรันและตระเวนไปทั่ว
  - ไม่ได้เป็นโรคกลัวคน แค่มีความรู้เกี่ยวกับมนุษย์ไม่มากพอเท่านั้น

สะกดชื่อในแบบภาษาอังกฤษผิดพลาด
 Lumia >> Rumia
 Chilno >> Cirno
 Hong Meyling >> Hong Meirin
 Pachery Knowledge >> Patchouli Knowledge
 Frandoll Scarlet >> Frandre Scarlet (ในครั้งแรกสุด ZUN เขียนว่า Flandre จึงยังเป็นประเด็นว่านี่เป็นการเขียนผิดหรือเขียนถูกแล้ว)
 Rhetty Whiterock >> Letty Whiterock
 Tcheng >> Chen
 LillyWhite >> Lily White
 Merlan Prismriver  >> Merlin Prismriver
 Rilica Prismriver >> Lyrica Prismriver
 Onoduka Komachi >> Onozuka Komachi (อันที่จริง ไม่ว่าจะเขียนแบบใด ก็สามารถอ่านออกเสียงได้เหมือนกันในระบบโรมะจิ)



PS. ปัจจุบันไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไปแล้ว สามารถดาวน์โหลดได้ที่ ลิงค์นี้
PS. หาก LC เข้าไทยมาเมื่อใด จะทำการลบลิ้งข้างต้นทันที


.........................................................................................................................................................................................