CoLA - 002


東方香霖堂 ~ Curiosities of Lotus Asia.
โทวโฮวโควรินโดว (ร้านโควรินโดวแห่งตะวันออก) ~ ความอยากรู้อยากเห็นของดอกบัวเอเชีย


.........................................................................................................................................................................................


ตอนที่ 2
「มิโกะแห่งเกนโซวเคียวกับมนต์เสน่ห์สิบห้าเล่ม ครึ่งหลัง」

 

「ขอโทษที่ให้รอ
 ให้ตายสิ, ชุดนี่มันใหญ่เกินไปแฮะ
 เดินลำบากชะมัดเลย」

เรย์มุกลับมาพร้อมพูดแสดงความไม่พอใจ
แหม่ ก็มันเป็นชุดของผมนี่นา ช่วยไม่ได้นะ
ส่วนสูงต่างจากเรย์มุพอสมควรเลยด้วย
จะว่าไป เธอเอาชุดของผมไปใส่ตามอำเภอใจซะงั้น

「อ้าว ? มาริสะนี่นา
 มาอยู่ในที่แบบนี้ได้ยังไงน่ะ ?」

「นั่นมันคำพูดของทางนี้ต่างหากล่ะ
 ฉันน่ะ, แค่มาดูว่ามีของอะไรใหม่ๆเข้าร้านบ้างรึเปล่าเท่านั้นแหละ
 เป็นลูกค้าอย่างสมบูรณ์แบบไงล่ะว้อย」

「เรย์มุ
 ไม่ควรชี้ร้านของผมแล้วพูดว่า 『ที่แบบนี้』 ไม่ใช่เหรอ ?」

「มากี่ครั้งก็ไม่เห็นมีลูกค้าเลยนี่นา
 ทำเลก็แย่อีกต่างหาก」

ฉันน่าจะพูดไปแล้วนะว้อยว่าฉันเป็นลูกค้า, มาริสะพูดแบบนั้น พลางเริ่มอ่านหนังสือที่ผมกำลังอ่านอยู่
ส่วนเรย์มุก็เริ่มหยิบกาน้ำชาจากชั้นวางของมาใส่ใบชาตามอำเภอใจ
สองคนนี้ชอบทำตามอำเภอใจไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ทั้งที่ไม่ใช่ลูกค้าด้วยซ้ำ



ผมชำเลืองมองหนังสือของเรย์มุ, และกำลังคิดว่า
ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้สึกตัวว่ามีหนังสือพวกนี้อยู่ เพื่อให้หนังสือพวกนี้ตกเป็นของผม

「ยังไงผมจะรับงานซ่อมชุดเอาไว้ละกัน
 แต่ว่า, เรื่องแค่นี้น่าจะรู้ใช่มั้ยว่าไม่ได้ทำให้ฟรีๆ ?」

เรย์มุพูดว่า 「ทำไมล่ะ ?」 โดยไม่หันมามองด้วยซ้ำ

「ทำไมล่ะ ? หา ?
 สิ่งที่เรียกว่าการค้าขายน่ะมันตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่า ต้องจ่ายค่าตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อต่อสิ่งนั้น ไงล่ะ」

「เรื่องแค่นั้นน่ะรู้อยู่แล้วล่ะ
 ปกติตอนซื้อของก็จ่ายเงินเรียบร้อยนะ
 ศาลเจ้าของฉันเองก็มีกล่องเงินทำบุญไว้รับค่าขอพรด้วย」

「แล้วร้านของผมไม่ถือว่าเป็นปกติเหรอ ?」

「คุณรินโนะสุเกะไม่สนใจเรื่องเงินไม่ใช่เหรอ ?」

「เคยพูดแบบนั้นตอนไหนกันน่ะ
 อย่าพูดเองเออเองตามอำเภอใจสิ」

「ก็ทุกทีไม่เคยเรียกเก็บเงินนี่นา」

「พูดอะไรอย่างนั้นล่ะ
 สินค้าและงานที่รับทำจนถึงตอนนี้น่ะ, ทั้งหมดจดเป็นหนี้ไว้ต่างหากล่ะ」

เรย์มุรินน้ำชาใส่ถ้วยชาพลางพูดว่า

「ก็แหม, ฉันไม่ได้พกเงินเดินไปไหนมาไหนนี่นา
 แต่ถึงกลับบ้านไปก็ไม่มีอยู่ดี」

「ไม่มีใครทำบุญเลยสินะ
 ขอพรที่ศาลเจ้าของเธอแล้วไม่สมหวังล่ะมั้ง ?」

「อ๊ะ, ที่เริ่มพูดแบบนี้ขึ้นมาอย่างกะทันหันน่ะ,
 เป็นเพราะคุณรินโนะสุเกะหมายตาหนังสือพวกนี้ใช่มั้ย ?」

เรย์มุวางถ้วยชาแล้วมานั่งข้างๆ, จากนั้นก็ดึงหนังสือที่อีกนิดเดียวก็จะตกเป็นของผมอยู่แล้วกลับไปหาตัวเธอ

「... ...หนี้ของเรย์มุน่ะ, ไม่ได้น้อยขนาดจ่ายหมดด้วยหนังสือพรรค์นั้นหรอกนะ」

「หนังสือพวกนี้น่ะ, ฉันเอามาก็เพราะว่าโยวไคที่ฉันกำราบได้มันพกเอาไว้เหมือนเป็นของสำคัญนะ
 มันต้องมีค่าแน่ๆเลยล่ะ」

มาริสะมองมาทางนี้แล้วทำหน้าเหมือนอยากจะพูดว่า 『บอกแล้วไง ?』
ผมจึงแทบจะหัวเราะออกมาแต่ก็อดทนเอาไว้

「ไหนไหน เอามาดูหน่อยซิ
 ... ...อืม--- อย่างนี้นี่เอง
 ทำมาได้ดีน่าดู แต่มันใหม่ไปหน่อยแฮะ
 ของแบบนี้มันต้องยิ่งเก่าถึงจะได้ราคานะ
 ไม่ใช่ของที่มีค่าสักเท่าไหร่จริงๆด้วย
 แค่เอามาเพราะมันเป็น 『ของหายากสำหรับโยวไค』 เท่านั้นเองนี่」

「ถ้างั้นก็, เอาหนังสือพวกนั้นแลกกับหนี้ทั้งหมดของฉันไปเลยละกันนะ」 แล้วเรย์มุก็ยิ้มออกมา

เธอไม่ฟังคนอื่นพูด แถมยังไม่มีแนวคิดเรื่องคุณค่าของวัตถุด้วย
บางทีเธออาจจะคิดว่า คุณค่าของเงินนั้นไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่ากระดาษและโลหะล่ะมั้ง
แต่ทว่า, เรื่องที่ผมกำลังอยากได้หนังสือนั้นน่าจะถ่ายทอดถึงเธออย่างนุ่มนวลแล้ว
เอาไงต่อดี... ...

「ช่วยไม่ได้นะ, จะรับสามเล่มนั้นเอาไว้ละกัน」

「เอ๋ ? ทั้งสามเล่มเลยเหรอ ?」

「เล่มหนึ่งคือค่าซ่อมชุด, เล่มหนึ่งคือค่าเช่าชุดที่เธอใส่อยู่, ส่วนอีกเล่มหนึ่ง... ...」

「อ๊า--- เดี๋ยวสิ, ไม่ใช่ว่าหักกับหนี้ทั้งหมดเหรอ ?」

「อ้าวอ้าว คิดว่าหนี้ของเธอมันเท่าไหร่กันล่ะ
 ถึงจะไม่ได้มากมายเกินไป แต่ก็จ่ายด้วยหนังสือพรรค์นั้นไม่หมดหรอกนะ」

นั่นเป็นเรื่องจริง
เรย์มุเอาของในร้านไป,
แล้วยังขอให้ช่วยตัดชุด สร้างอุปกรณ์,
แม้แต่ไม้ปัดรังควานผมก็เป็นคนจัดเตรียมให้

「ช่วยไม่ได้นะ
 ที่เหลือก็ให้เป็นหนี้ไว้อย่างนั้นละกัน」

ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง
ใช่แล้ว, วันนี้ผมรู้สึกสังหรณ์ไม่ดีมาตั้งแต่เช้า

「แล้วก็หนึ่งเล่มสุดท้ายน่ะ――, คือ 『ค่าซ่อมประตู』 ไงล่ะ !」





――ตูมตูมโครม
ประตูร้านถูกทุบอย่างรุนแรงและส่งเสียงกรีดร้องดังขึ้น จนตอนนี้อยู่ในสภาพใกล้หลุดแล้ว
หนังสือหนึ่งเล่มคงจะไม่คุ้มแล้วล่ะมั้ง... ...

「เจ้าตัวสีแดงเมื่อกี้, รู้นะว่าอยู่ที่นี่ !
 เอาหนังสือของคนอื่นไปตามอำเภอใจได้ยังไง !」

ผมเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กที่กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอยู่ที่ประตู
เสื้อผ้าโทรมมาเชียว, คงเป็นโยวไคที่เรย์มุบอกว่ากำราบไปเมื่อครู่กระมัง

「ให้ตายสิ ตื๊อจังนะ
 แพ้แล้วก็ยอมกลับเข้าป่าไปแต่โดยดีเถอะ !」

「อ้าว--- ? ไม่แดงแล้ว」

「วันนี้ Blue น่ะ」

「ยังไงก็ช่าง, เอาหนังสือของฉันคืนมา !」

「แหม ถึงจะบอกให้คืนก็เถอะน้า, แต่มันไม่อยู่กับฉันแล้วล่ะ
 ตัดใจซะเถอะ」

「โหดร้าย... ..., ถ้างั้นตอนนี้อยู่ที่ไหนล่ะ !」

มันเป็นของผมแล้ว และแน่นอนว่าไม่คิดจะมอบให้
แต่ผมเป็นพวกที่ไม่อาจทำอะไรป่าเถื่อนรุนแรงได้
พวกเธอชอบพูดว่า เพราะงั้นถึงได้มีชีวิตยืนยาวสินะ
แต่ผมคิดว่านั่นมันเป็นเรื่องธรรมดา, เพราะว่าผมมีอายุมากกว่าพวกเธอ 「หลายเท่า」
... ...ผมจ้องมองเรย์มุ

「... ...เอ้า, มาริสะ ! ดูเหมือนเธอกำลังว่างนี่นา」

「อ๋า ? อะไร ?
 เมล็ดที่ตัวเองหว่านเองไม่ใช่เหรอ
 ไปลุยคนเดียวสิ」

「ใส่ชุดแบบนี้มันเคลื่อนไหวไม่สะดวกนี่นา
 ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ยุ่งยากเกินไปนักหรอก, สำหรับมาริสะน่ะ
 ... ...แต่ว่าระวังการโจมตีจากด้านหลังด้วยนะ」

「กล่าวคือจะให้ฉันจัดการกับคู่ต่อสู้ที่มาล้างแค้นเธองั้นเหรอ
 ให้ตายสิ เรย์มุเนี่ยน้า... ...」

มาริสะกระโดดดึ๋งลงมาจากไห, แล้วเดินอย่างรวดเร็วด้วยท่าทางอารมณ์ดีเข้าไปหาเด็กผู้หญิง

「ค่าจ้างติดไว้เป็นหนี้นะ」

แน่นอนว่าผมไม่เคยเห็นเรย์มุจ่ายเงินให้มาริสะเลย

「ออกมาแล้วโว้ย
 ดูเหมือนตัวสีแดงจะแพ้เธอราบคาบ
 เพราะงั้นคุณแม่จะเป็นคู่ต่อสู้แทนให้เองว้อย」

「... ...คุณแม่อะไรของเธอน่ะ
 ดูยังไงก็ไม่ใช่แม่ลูกกันนี่นา !」

「ยัยนั่นเป็นเด็กที่เก็บมาเลี้ยงน่ะ」

เรย์มุกลับมานั่งดื่มน้ำชาอีกครั้ง

「ถ้าจะสู้กันก็ไปนอกร้านโน่น
 ถ้าร้านพังไปมากกว่านี้จะเก็บเงินค่าชดใช้จากเธอนะ」

「รู้แล้วโว้ย」 มาริสะพูดจบก็ไล่โยวไคออกไปนอกร้าน

「แล้วก็นะ, โควริน, ดีจังเลยนะที่เก็บครบสิบห้าเล่มแล้ว」

ผมตกใจแล้วมองไปที่มาริสะ
ผมเพิ่งนึกได้เมื่อครู่นี้เองว่า ไม่เคยบอกว่ามันเป็นนิยายสิบห้าเล่มจบ

「ทำไมถึงคิดว่ามันมีทั้งหมดสิบห้าเล่มล่ะ ?」

มาริสะขว้างหนังสือที่อยู่ในมือมาให้ผม

「ลองดูที่ด้านหลังของหนังสือเล่มนั้นสิ」

ผมพลิกหนังสือกลับหลัง แล้วเปิดปกหลังออก
ที่นั่นมีตัวหนังสือเล็กๆเขียนไว้ว่า 「สิบห้าเล่มจบ」



ข้างนอกมีหิมะร่ายรำ
ถ้าไม่รีบซ่อมประตูคงลำบากแน่

「ให้ตายสิ, พอเรย์มุมาที่ร้านก็ไม่มีอะไรดีเลยแฮะ」

「ตัวร้านนี้มันก็ไม่มีอะไรดีอยู่แล้วล่ะ
 เอ้า, น้ำชา」

ผมนั่งลงข้างๆแล้วรับน้ำชาที่เรย์มุเป็นคนชงให้
น้ำชาที่คนอื่นชงให้เนี่ยมันกลิ่นหอมสุดยอดเลยล่ะ

「อ๊ะ, น้ำชาเนี่ย
 ใช้ใบชาที่อยู่ในชั้นวางของนะ」

ผมนึกว่าเป็นใบชาที่เรย์มุซื้อมาเสียอีก

「ใบชานั่นกลิ่นหอมที่สุดเลยล่ะ」

「ใบชาที่ล้ำค่าที่สุดน่ะ
 อุตส่าห์แยกเก็บไว้เพื่อใช้ในเวลาพิเศษแท้ๆ... ...」

「ตายจริง มีวันที่ไม่ใช่วันพิเศษด้วยเหรอ ?」

เรย์มุกำลังผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์, อารมณ์ก็น่าจะดีขึ้นแล้วเช่นกัน
เสียงของมาริสะที่กำลังหัวเราะอย่างสนุกสนานกับเสียงกรีดร้องของโยวไคแว่วมาจากข้างนอก

ก็จัดว่าเป็นเรื่องปกติเหมือนทุกที
จนผมไม่คิดว่าเป็นวันที่พิเศษมากมายอะไร

「คุณรินโนะสุเกะ
 ยังไงก็จะไม่ขายหนังสือพวกนั้นเหรอ ?
 สินค้าในร้านก็แทบจะไม่เปลี่ยนไปเลยซะด้วยสิ」

ของส่วนใหญ่ในร้านเป็นของสะสม, จึงไม่อยากจะปล่อยให้หลุดมือไปสักเท่าไหร่

「ไม่หรอก, ทั้งหมดนั่นก็ของขายนั่นแหละ」

――บางทีผมอาจจะไม่เหมาะกับการเป็นพ่อค้าก็เป็นได้





สาระน่ารู้น่าสังเกต...
- เสียงกรีดร้องที่รินโนะสุเกะได้ยินในตอนที่หนึ่ง ก็คือเสียงของโยวไคตนนี้ที่ถูกเรย์มุกำราบไปนั่นเอง
- อาจสังเกตได้ว่าตอนที่สองนี้เน้นคำว่า ตามอำเภอใจ บ่อยมาก แสดงถึงนิสัยของเรย์มุและมาริสะได้เป็นอย่างดี
- ชุดเสื้อผ้า อุปกรณ์หลายๆอย่าง แม้กระทั่งไม้ปัดรังควาน ก็มาจากรินโนะสุเกะ
- โยวไคสาวน้อยตนนี้มักเป็นที่รู้จักในนาม โยวไคไร้นามที่กำลังอ่านหนังสือ
   ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นโยวไคที่มีร่างต้นเป็นนกโทคิ (มีกล่าวถึงในตอนต่อไป) แฟนโทโฮจึงตั้งชื่อให้ว่า โทคิโกะ



.........................................................................................................................................................................................

กลับไปที่สารบัญของหนังสือเล่มนี้