WaHH - 02


東方茨歌仙 ~ Wild and Horned Hermit.
โทวโฮวอิบาระคาเซน(ยอดกวีหนามแห่งตะวันออก) ~ เซียนผู้มีเขาและป่าเถื่อน


.........................................................................................................................................................................................

เล่ม 2

วางจำหน่ายในวันที่ 27 เดือน 3 ปี 2012
ภายในเล่มประกอบด้วยเนื้อหาตอนที่ 6-10



ISBN : 978-4-75-801262-1

สำนักพิมพ์ : อิฉิจินชา

เรื่อง : ZUN

ภาพ : อาซึมะ อายะ



ฉบับภาษาไทย



วางจำหน่ายในวันที่ 14 มีนาคม 2014

ด้วยข้อจำกัดด้านเนื้อที่ในแต่ละหน้า ทำให้ผู้แปล (ข้าพเจ้า) ไม่สามารถเขียนอธิบายมุขเพิ่มเติมในบางจุดได้
ในบางจุดก็จำเป็นจะต้องแปลงมุขให้เป็นแบบไทย เพื่อจะได้ไม่ต้องอธิบายยืดยาวเกี่ยวกับการเล่นคำในภาษาญี่ปุ่น
หากแต่แฟนโทโฮบางส่วนก็ต้องการที่จะทราบถึงมุขต้นฉบับเหล่านั้น
ข้าพเจ้าจึงขอทำการอธิบายมุขต้นฉบับต่างๆลงในบล็อกแห่งนี้แทน








แก้ไขคำผิด-คำหาย

หลายจุดในฉบับ
  ตามหลักควรเขียนว่า TouHou ตามแบบในกรอบขาวที่ปกหลัง แต่กลับเขียนแค่ ToHo
  ทั้งนี้เป็นเพราะเหนืออักษร o มีขีดอยู่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงให้ทราบว่าต้องอ่านออกเสียงลากยาว จึงมีค่าเท่ากับ -ou นั่นเอง

หน้า 3
  ปลาคาร์ป กลายเป็น ปลาคาร์ฟ

หน้า 142
  มีเสียงประกอบ "ผงก ผงก" อยู่เหนือศีรษะของพญาอินทรีย์




อธิบายเพิ่มเติม+จุดที่น่าสนใจ

ตอนที่ 6

- คนญี่ปุ่นมีคำสอนว่า เมื่อปลาโค่ย(คาร์ป)ไต่น้ำตกจนพ้นได้จะกลายเป็นมังกร
  หมายถึง การพยายามทำในสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้จนประสบความสำเร็จและกลายเป็นยอดคนที่ทุกคนนับถือ นั่นเอง
- สมดุลพลัง นัยถึงสมดุลพลังระหว่างมนุษย์กับโยวไคในเกนโซวเคียว
- พายุฝนฟ้าคะนอง + อาละวาดที่ศาลเจ้า + ฟ้าผ่าต้นไม้ใหญ่หลังศาลเจ้า คาดว่าหมายถึง ต้นไม้ในช่วงท้ายของภาคสามภูต ภาคสอง
- คาเซนใช้สรรพนามเรียกไรจูวว่า お前 แม้ว่าจะใช้ได้กับเพศชายและหญิง แต่โดยเนื้อหาและผู้พูดแล้วเป็นไปได้ว่าไรจูวเป็นตัวผู้
- ขนแผงหลังของไรจูวแข็งจนเกาดังแกรกแกรก
- หนูไฟฟ้า ภาพในหัวของซานาเอะคือ ปิจู หรือ ปิกาจู หรือ ไรจู จากเกมโปเกม่อน
- ซานาเอะบอกว่าซื้อข้าวโพดมา แปลว่าไม่ได้ไปหาตามธรรมชาติ คาดว่าน่าจะซื้อมาจากหมู่บ้านมนุษย์
- เตาปิ้งพกพาแบบใช้แก๊ส คาดว่าซานาเอะเอามาจากศาลเจ้าโมริยะ
- ขนแผงหลังของไรจูส่องแสงได้เหมือนราชาอะไรสักอย่าง ...ล้อราชาวีรชน กิลกาเมช จากเรื่อง Fate ซีรี่ส์
- หากผู้วาดเอาใจใส่เรื่องมาตรส่วนจริงๆ อาจเทียบความยาวของไรจูกับความสูงของตัวละครได้


ตอนที่ 7

- เรย์มุโยนช้อน ภาพนี้มีนัยยะ คือ ช้อน อ่านว่า ซาจิ พ้องเสียงกับคำว่า เรื่องหยุมหยิม เรื่องเล็กน้อย เรื่องน่าเบื่อ
- ตอนนี้ผมแปลงคำว่า ผู้มาสักการบูชา เป็นคำว่า ผู้มาไหว้ศาลเจ้า เพื่อความเข้าใจง่ายและแบ่งบรรทัดลงช่องได้ง่ายขึ้น
- ผีบ้านผีเรือน (ซาชิคิวาราชิ) แม้จะนำโชคลาภมาให้เจ้าของบ้าน แต่ยังไงก็เป็นแค่โยวไคชนิดหนึ่งอยู่ดี
- มาริสะเองก็คงจะกลัวโดนคาเซนเล่นงาน พอคาเซนโผล่มาก็รีบหยุดพูดเรื่องทำชั่วทันที
- ซานาเอะมาเที่ยวเล่นที่ศาลเจ้าฮาคุเรย์บ่อยน่าดู แถมช่วยงานศาลเจ้าฮาคุเรย์โดยไม่ขัดเขินแต่อย่างใด
- ถ้าว่ากันตามลักษณะของเทพแห่งโชคลาภที่เรย์มุ-มาริสะคุยกัน ช่างตรงกับซานาเอะที่ช่วยทำความสะอาดศาลเจ้าให้จริงๆ (ฮา)
- ภาคอีสานของญี่ปุ่น แปลตรงตัวมาจากชื่อภูมิภาค โทวโฮะคุ
- ค่าคุ้มครอง ...นี่สินะ แหล่งรายได้ประจำของเรย์มุ (ฮา)
- Michelin (ภ.ฝรั่งเศส) มิชูแลง ชื่อหนังสือแนะนำร้านอาหารของฝรั่งเศส แนะนำร้านไหน ร้านนั้นขายดีทันที
- คนของมิชูแลง หมายถึง นักชิมอาหารที่เป็นตัวแทนจากสำนักพิมพ์นั่นเอง
- หากภาพวาดในมังกะภาคนี้ใช้อ้างอิงได้ แสดงว่าหมู่บ้านมนุษย์มีขนาดใหญ่เอาการเลยทีเดียว
  (แต่ปัญหาคือ ปกติแล้วภาพวาดตามอำเภอใจของนักวาดนั้นไม่สามารถนำมาใช้อ้างอิงได้ OTL)


ตอนที่ 8

- มาริสะมีสองคนตั้งแต่ตอนหน้าสีแล้ว ถ้าสังเกตดีๆ
- ซานาเอะเมาพับก่อนใครเพื่อน (เท่าที่เห็นในหน้าสี)
- จิ้งจอกปลอมเป็นมาริสะ แต่พลาดเล็กน้อย เพราะเปียของมาริสะอยู่ทางซ้าย แต่จิ้งจอกปลอมแล้วผมเปียอยู่ทางขวาซะงั้น
- อันที่จริง ที่ผ่านมาท่าน ZUN พยายามเน้นย้ำหลายครั้งแล้ว เรื่องเปียของมาริสะอยู่ข้างซ้าย เนื่องจากมีคนวาดผิดบ่อยครั้ง
- เรย์มุเก็บไม้ปัดรังควานแบบด้ามสั้นไว้ในแขนเสื้อ
- ผิดที่ดื่มเหล้าฟรี ? แปลว่างานเลี้ยงนี่เก็บเงินด้วย ? หรือนี่จะเป็นอีกแหล่งรายได้ของเรย์มุ (ฮา)
- มาริสะพูดถึงสถานบวงสรวง แสดงว่าผ่านเนื้อเรื่องภาค 13 มาแล้ว
- ก็อดแฮนด์ ฉายาของนักโบราณคดีชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียง ขุดพบของมากมาย สุดท้ายโดนจับได้ว่าทำขึ้นเอง
- บ้านของซานาเอะย้ายเข้ามาในเกนโซวเคียวพร้อมกับศาลเจ้า (เดิมรู้เพียงว่าศาลเจ้าย้ายเข้ามาพร้อมกับทะเลสาบ)
  ณ จุดนี้เข้าใจว่าน่าจะหมายถึงเรือนพักผ่อนข้างศาลเจ้า (เหมือนของศาลเจ้าฮาคุเรย์) มิใช่ตัวบ้านเรือนแบบคนทั่วไป
- เหรียญจีนหย่งเล่อ เป็นเหรียญที่ใช้กันในยุคจักรพรรดิหย่งเล่อ ฮ่องเต้พระองค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์หมิงของจีน
- พวกที่มองเห็นได้ ...แต่เอ... ปกติเกนโซวเคียวก็เห็นกันได้ทุกคนอยู่แล้วมิใช่รึ ?
- แม้แต่เรย์มุที่เชี่ยวชาญเรื่องโยวไค ก็ยังมีบางเรื่องที่ไม่รู้ และโดนหลอกได้เหมือนกัน (ในภาคสามภูตก็เคยโดนอายะหลอก)
- ในตอนนี้เราได้เห็นความสามารถอีกอย่างของคาเซน ซึ่งเกี่ยวข้องกับแขนขวาของเธอ
  สามารถถอดแขนขวาให้ล่องหนลอยไปไกลโดยไม่มีใครเห็นได้ และสามารถจับสิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็นได้ด้วย
  เท่าที่เห็นก็ดูจะคล้ายกับความสามารถด้านมิติ แต่ยังไม่มีรายละเอียดให้เห็นมากมายนัก ต้องรอดูข้อมูลรายละเอียดกันต่อไป


ตอนที่ 9

- ยืนยันว่าเนื้อเรื่องภาค 13 เกิดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ
- เคียวโกะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เธอรู้เรื่องถึงแค่ตอนที่เรย์มุสู้กับโยชิกะเท่านั้นเอง
- ข้อมูลใหม่ มามิโซวคอยช่วยรับฟังเรื่องกลุ้มใจของเหล่าโยวไค วางแผนอะไรอยู่รึเปล่านะ ?
- ต้นฉบับใช้คำว่า หน้าที่อันพึงปฏิบัติ เหมือนชื่อตอนในเล่มแรก แต่เนื้อที่น้อยจึงย่อเป็น หน้าที่หลัก ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
- เธอเองก็พูดเหมือนพวกโยวไคที่ย้ายเข้ามาใหม่เลยนะ ...นั่นสิ ทำไมคาเซนถึงไม่รู้ หรือเพราะเรย์มุใช้ศัพท์ที่ต่างจากปกติเลยไม่เข้าใจเฉย ?
- ข้อมูลใหม่ เกนโซวเคียวแทบจะไม่มีโยวไคตามความหมายดั้งเดิมอยู่เลย
- ตามเนื้อหาไม่ได้บอกว่าซุยกะปะทะกับเบียคุเรนหรือไม่
- ไม่ใช่ห้องปิดตายนะ >> ต้นฉบับเขียนว่า "ไม่ใช่ห้องปิดตายนะ แถมเป็นฝีมือโยวไคด้วย" แต่จำต้องย่อ เนื่องจากเนื้อที่น้อย
  โดยวรรคหลัง ล้อคำว่า 殺人 (ฆาตกร) (มนุษย์ที่เป็นฆาตกร) เป็น 殺妖怪 (โยวไคที่เป็นฆาตกร) (ฆาตโยวไค ?)
- คาเซนคลายผ้าพันแผลที่แขนขวาเพื่อคว้าหมอกดำ(ซุยกะ) แต่คว้าไม่สำเร็จ เพราะอะไรกันหนอ ?
  เพราะซุยกะเป็นสิ่งที่มีตัวตนชัดเจน ไม่ใช่สิ่งที่ปกติแล้วจับต้องไม่ได้ ? หรือแค่เพราะซุยกะหลบได้ ?
  ข้อมูลยังไม่แน่ ต้องรอดูรายละเอียดในอนาคตอีกที
- พวกเรย์มุลืมไปเลยว่ากำลังคุยอยู่กับคาเซน ...บางทีการทำให้ผู้คนหลงลืมตน อาจเป็นความสามารถอีกอย่างหนึ่งของคาเซนก็ได้


ตอนที่ 10

- ในเนื้อหาตอนนี้ หากดูจาก "ชื่อ" แล้วจะพบว่ามีเหยี่ยว "ตัวผู้" อยู่ถึง 2 ตัว
- คุเมะ ล้อชื่อของเซียนผู้ก่อตั้งวัดคุเมะแห่งจังหวัดนาระ
- คันดะ (竿打) ล้อฉายาของเซียนท่านหนึ่ง (竿打ち) คันอุฉิ (เซียนฟาดไม้เท้า) เซียนที่คอยเอาไม้เท้าไล่ตีเด็กนิสัยไม่ดีในนิทานยุคเอโดะ
- ค่ายกล มาจากแนวคิดของประเทศจีน เป็นการจัดวางตำแหน่งของสิ่งต่างๆในพื้นที่จนเกิดเป็นเขาวงกตขึ้น
- ต้นไม้ใหญ่ที่ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์คือต้นเคยาคิ (Zelkova serrata)
- คาเซนสร้างกระสุนแสงแบบถาวรออกมาติดตั้งบนต้นไม้ แถมเก็บกลับมาโอบไว้เป็นก้อนๆได้ด้วย
- เรย์มุเคยเห็นกิ่งมณีโฮวไรที่อยู่กับคางุยะมาแล้วในตัวเกมภาค 8 แต่ตามเนื้อเรื่อง(หลัก)ของภาค 8 มาริสะไม่เคยสู้กับคางุยะ
- โยวไค Brocken มีชื่อเรียกแบบตะวันตกว่า Brocken Spectre
- ดูจากการที่มีหิมะตก และสองสาวย่างโมจิกิน แปลว่าเป็นช่วงปีใหม่
- เธอยังนึกว่าตัวเองจะได้ขึ้นสวรรค์อีกเหรอ มาริสะ ?
- พอมาริสะพูดถึงนรก คาเซนออกอาการใจเต้นชะงักเล็กน้อย
- ต้นฮาฮาคิ มีอีกชื่อหนึ่งว่า ต้นโฮวคิ (ต้นไม้กวาด)
- อาจเป็นความผิดพลาดของนักวาด แต่ชุดของคาเซนเหมือนจะสลับไปมา ตอนที่มาริสะเล่าเรื่องต้นฮาฮาคิจบ และเธอบอกว่าจะไปส่งมาริสะ
  จะเห็นว่าเธอใส่เสื้อตัวนอกสำหรับกันหนาวแล้ว(สังเกตที่ไหล่) แต่หลังจากนั้นกลับทำท่าว่ากำลังใส่เสื้อตัวนอกซะงั้น
- ทุกท่านคงยังไม่ลืมว่า สำหรับมาริสะแล้ว การขอยืม=การขโมย นั่นเอง (ฮา)
- ในต้นฉบับ ภาพร่างมามิโซว เขียนกำกับไว้ว่าเป็นภาพร่างของคาเซนซะงั้น (แต่ผมแปลแก้ให้เรียบร้อยแล้ว)


ปัจฉิมลิขิต

- ผู้วาดยังคงได้รับอนุญาตให้วาดชุดของตัวละครได้ตามใจชอบ จึงเอามาใช้อ้างอิงเป็นข้อมูลหลักไม่ได้
- แขนยืด~ >> ล้อชื่อท่าของนิโทริ



.........................................................................................................................................................................................

กลับไปที่หน้าหลักของหนังสือภาคนี้