SoP - Parsee


東方求聞口授 ~ Symposium of Post-mysticism.
โทวโฮวกุมอนคุจุ (ใคร่รู้คำสอนแห่งตะวันออก) ~ งานประชุมสัมมนาแห่งยุคหลังความเชื่อทางศาสนา


.........................................................................................................................................................................................



จิตริษยาใต้เปลือกโลก
{มิซึฮาชิ พาร์ซี่ Mizuhashi Parsee }


ความสามารถ : ควบคุมจิตอิจฉาริษยา
ความอันตราย : ปานกลาง
ความเป็นมิตรต่อมนุษย์ : ไม่มี
สถานที่หลักในการทำกิจกรรม : อดีตขุมนรก



โยวไคเจ้าหญิงสะพานที่อยู่ใต้พิภพ

อดีตขุมนรกในปัจจุบันเป็นที่อาศัยของผู้ถูกรังเกียจ ซึ่งเธอเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
โดยเธอเป็นโยวไคที่มีจิตริษยาแรงกล้า

เธอจะเข้าใกล้ที่อยู่อาศัยของมนุษย์แล้วโหมกระพือความอิจฉาริษยาให้รุนแรงขึ้น
การได้มองดูผู้คนคลุ้มคลั่งด้วยความอิจฉาริษยาจนชีวิตพังพินาศคืออาหารหล่อเลี้ยงตัวเธอ
มนุษย์ที่ตกอยู่ภายใต้ความอิจฉาริษยาคือสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้สำหรับเธอ

ความอิจฉาริษยาของเธอนั้นไม่มีเหตุผลใดๆ
แค่คิดว่าคนอื่นมีความสุขกว่าตัวเองก็อิจฉาแล้ว
ถ้าเห็นว่าสภาพทุกอย่างเหมือนกับตัวเองก็จะมั่นใจว่าตัวเองทุกข์กว่าแน่นอน
ต่อให้เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นทุกข์ หากมนุษย์ที่มีความทุกข์คนนั้นไม่อิจฉาผู้อื่น เธอก็จะอิจฉาความใจกว้างนั้น
การได้อิจฉาคืออาหารของเธอ ประมาณนั้นล่ะ

แต่มิได้หมายความว่าตัวเธอมีแต่ความทุกข์
ตราบเท่าที่มียังมนุษย์ขี้อิจฉาอยู่ พลังของเธอจะไร้ขีดจำกัด แถมไม่มีใครจ้องเล่นงานเธอด้วย
ได้ยินว่ามีเพื่อนฝูงที่เป็นผู้ถูกรังเกียจเช่นเดียวกันอยู่มากมายในอดีตขุมนรก
อาจกล่าวได้ว่าคนขี้อิจฉาไม่จำเป็นต้องมีแต่ความทุกข์เสมอไป
การอิจฉาผู้อื่นนั้นทำให้ถูกมองว่าเป็นคนที่มีความทุกข์เท่านั้นเอง

ร่างหลักของตัวเธอในฐานะโยวไคคือลักษณะนิสัยของมนุษย์
จะระบุโดยตรงว่าเป็นจิตริษยาก็มิใช่การพูดแรงเกินไปแต่อย่างใด
ลองได้พูดคุยกับเธอแล้วรู้สึกว่าสดใสร่าเริงเหมือนคนธรรมดาเกินคาด แต่ในใจคงอยู่ไม่สุขเป็นแน่
ลับหลังคงนินทาว่าร้ายและแค้นเคืองอีกฝ่ายแหงๆ รู้สึกไม่ค่อยดีเลย



{ยามฉลูมาเยือน}

เธอมีอาคมที่ชื่อว่า ยามฉลูมาเยือน
มันเป็นอาคมที่มีชื่อเสียงเพราะมนุษย์ที่มีความอาฆาตพยาบาทนิยมใช้ในการล้างแค้นโดยมิให้ผู้ใดล่วงรู้

ว่ากันว่าจริงๆแล้วยามฉลูมาเยือนนี้คืออาคมที่เธอเป็นคนคิดค้นแล้วเผยแพร่ไปทั่ว
แม้จะไม่มีวิธีการทำพิธีที่เป็นแบบแผน แต่มีสิ่งที่เหมือนกันเสมอคือ
ต้องตอกตุ๊กตาฟางลงบนต้นไม้เมื่อถึงยามฉลูที่สาม (ตีสอง) และในขณะที่ทำต้องไม่ถูกเห็นโดยผู้ใด

ไม่ค่อยมีรายงานว่าอาคมนี้ประสบความสำเร็จ
สาเหตุคืออาคมนี้แทบไม่มีความหมายในการล้างแค้นเลย
มนุษย์ที่ใช้อาคมนี้กลับยิ่งรู้สึกเป็นภาระมากขึ้นและทำให้จิตริษยาเพิ่มพูนมากขึ้นอยู่ฝ่ายเดียว
ส่วนอีกฝ่ายไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากอาคมเลย(*1)
*1 [อย่างมากก็แค่ทำให้รู้สึกเย็นวาบที่หลังเท่านั้นเอง]

ถ้าอย่างนั้นทำไมอาคมที่ไม่มีผลลัพธ์เด่นชัดแบบนี้จึงเป็นที่นิยมแพร่หลายงั้นหรือ

ยามฉลูมาเยือนเป็นอาคมที่ใช้เพิ่มพูนจิตริษยา
หากคิดจากจุดนั้นย่อมได้ข้อสรุปเพียงหนึ่งเดียวคือ ยามฉลูมาเยือนเป็นอาคมที่สร้างมาเพื่อตัวเธอ
เชื่อกันว่าเธอแนะนำยามฉลูมาเยือนให้แก่มนุษย์เพื่อโหมกระพือจิตริษยาในตัวมนุษย์ แล้วกลายมาเป็นพลังของเธอเองในที่สุด



{วิธีรับมือ}

พยายามระวังมิให้โดนเธอพูดจาหว่านล้อม

จิตริษยามีพลังอันแรงกล้าในการเร่งรัดการเจริญเติบโต
หากไม่มีพลังใจที่เข้มแข็งพอจะต้านทานจิตริษยาก็จะกลายเป็นการทำลายตัวเอง
มนุษย์ส่วนใหญ่ปฏิเสธการอิจฉาริษยา แต่ทั้งอย่างนั้นก็ยังตกเป็นอาหารของเธออยู่ดี

หากบังเอิญพบเจอกับเธอ ถ้าแค่ทักทายคงไม่เป็นปัญหาอะไรล่ะมั้ง

กรณีที่ตกอยู่ภายใต้ความอิจฉาริษยาไปเรียบร้อยแล้ว ก็ไปกินเหล้าย้อมใจแล้วบ่นระบายออกมาให้หมดละกัน



.........................................................................................................................................................................................

กลับไปที่สารบัญของหนังสือเล่มนี้