MUSIC - CoSD


夢違科学世紀 ~ Changeability of Strange Dream
ยุเมะทากาเอะคากาคุเซย์คิ (การขอให้ฝันร้ายไม่กลายเป็นจริงในยุคแห่งวิทยาศาสตร์) ~ ความฝันอันแสนเพี้ยนที่แปรเปลี่ยนได้

.........................................................................................................................................................................................

ซีรี่ส์สองสาวจากโลกภายนอก แผ่นที่สอง

ZUN's Music Collection อัลบั้มที่ 3 ของเซี่ยงไฮ้อลิสเกนกาคุดัน และสำหรับซีรี่ส์สองสาวจากโลกภายนอกนั้นต้องจัดว่าเป็นแผ่นที่ 2
เป็นแผ่นเพลงพร้อมเรื่องสั้นที่บอกเล่าถึงการผจญภัยของสองสาวซึ่งอาศัยอยู่ภายนอกเกนโซวเคียว หรือที่เรียกกันว่า โลกภายนอก
มาเอริเบอร์รี่ เฮิร์น (เมอรี่) สาวน้อยผมบลอนด์ผู้มองเห็นเขตแดนและเข้าออกเกนโซวเคียวได้โดยนึกว่ามันเป็นเพียงโลกแห่งความฝัน
อุซามิ เรนโกะ สาวน้อยผมน้ำตาลผู้สามารถรู้พิกัดตำแหน่งได้ด้วยการมองพระจันทร์ และรู้เวลาได้ด้วยการมองดวงดาว


วางจำหน่าย : งาน Comic Market ครั้งที่ 67 (วันที่ 13 เดือน 8 ปี 2006)

คำโปรยโฆษณา :
รวมบทเพลงมายาอันเกรี้ยวกราดชุดที่ 3 แห่งเซี่ยงไฮ้อลิสเกนกาคุดัน !
「夢違科学世紀(ゆめたがえかがくせいき) ~ Changeability of Strange Dream」
สองสาวน้อยผู้มีสัมผัสที่หกจะเปลี่ยนฝันร้ายแห่งอนาคตให้กลายเป็นลางดี
CD เพลงที่ระลึกการทำกิจกรรมชมรมของชมรมผนึกลับ



คำโปรย :
กระต่ายจันทรา กับรถสำรวจผิวจันทร์
――มันคือความฝันหรือความเป็นจริง หรือว่าฝันบอกเหตุ หรือว่าเป็นฝันร้ายกันแน่นะ
รวมบทเพลงมายาอันเกรี้ยวกราดชุดที่ 3 ซึ่งบรรเลงโดยวงดนตรีมายาเซี่ยงไฮ้อลิส




รายชื่อเพลง

   1. 童祭 ~ Innocent Treasures
      โดวไซ (เทศกาลเด็กน้อย) ~ อินโนเซนท์ เทรชเชอร์ (สมบัติไร้เดียงสา)
      ต้นฉบับ : Original (Theme เปิดตัว ZUN ในงานทอล์คโชว์ รุ่งสางแห่งตะวันออก)

   2. 華胥の夢
      คาโชะโนะยุเมะ (ฝันกลางวัน)
      ต้นฉบับ : Original

   3. 上海紅茶館 ~ Chinese Tea
      ชางไฮโควฉะคัน (คฤหาสน์ชาฝรั่งเซี่ยงไฮ้) ~ ไชนีส ที (ชาจีน)
      ต้นฉบับ : 上海紅茶館 ~ Chinese Tea (ภาค 6)

   4. ヴォヤージュ1969
      วอยาจ1969 (Voyage1969) (การเดินทางในปี 1969)
      ต้นฉบับ : ヴォヤージュ1969 (ภาค 8)

   5. 科学世紀の少年少女
      คากาคุเซย์คิโนะโชวเนนโชวโจ (หนุ่มสาวในยุคแห่งวิทยาศาสตร์)
      ต้นฉบับ : Original

   6. 永夜の報い ~ Imperishable Night.
      เอย์ยะโนะมุคุอิ (กรรมสนองราตรีนิรันดร์) ~ ราตรีที่ไม่สิ้นสุด.
      ต้นฉบับ : 永夜の報い ~ Imperishable Night (ภาค 8)

   7. 夜が降りてくる ~ Evening Star
      โยรุกะฮุริเตะคุรุ (ราตรีร่วงโรยลงมา) ~ อีฟเวนนิ่ง สตาร์ (ดาวประจำเมือง)
      ต้นฉบับ : 夜が降りてくる ~ Evening Star (Theme ของยูคาริในภาค 7.5)

   8. 人形裁判 ~ 人の形弄びし少女
      นิงเงียวไซบัน (ตุ๊กตาฟ้องร้อง) ~ ฮิโตะโนะคาตาฉิโมเตะอาโซบิชิโชวโจ (สาวน้อยผู้เห็นสิ่งที่มีรูปร่างมนุษย์เป็นของเล่น)
      ต้นฉบับ : 人形裁判 ~ 人の形弄びし少女 (ภาค 7)

   9. 夢と現の境界
      ยุเมะโตะอุทสึทสึโนะเคียวไค (อาณาเขตระหว่างความฝันและความเป็นจริง)
      ต้นฉบับ : Original

   10. 幻想機械 ~ Phantom Factory
      เกนโซวคิไค (จักรกลมายา) ~ แฟนธอม แฟคทอรี (โรงงานปิศาจ)
      ต้นฉบับ : 幻想科学 ~ Doll's Phantom (เพลงประจำตัวลาสท์บอสของเกมชูวโซวเกียคุ (เซย์โฮโปรเจคท์))

   11. 幽玄の槭樹 ~ Eternal Dream
      ยูวเกนโนะคาเอเดะ (คาเอเดะที่ล้ำลึก) ~ เอเทอร์นัล ดรีม (ฝันไร้วันจบ)
      ต้นฉบับ : Eternal Dream ~ 幽玄の槭樹 (ภาค 8)



Tips :
- สำหรับท่านที่ไม่ทราบ Original ในที่นี้หมายถึง เพลงต้นฉบับที่ถูกแต่งขึ้นและเผยแพร่เป็นครั้งแรกในแผ่นนี้ มิได้ดัดแปลงมาจากเพลงใดเลย
- บนหน้าปกแผ่น มีรูปป่าไผ่ ยันต์ของโมโคว และตุ๊กตาผมดำสวมชุดแดงอยู่บนโต๊ะ (คางุยะ ?)
- Voyage อ่านตามดิคชันนารีว่า วอยอิจ วอยเอจ ... แต่ท่าน ZUN เขียนว่า วอยาจ ..... ดังนั้นจึงแปลว่า วอยาจ
- ปี 1969 คือปีที่ยานอวกาศ Apollo 11 ลงจอดบนดวงจันทร์ได้สำเร็จ
- ชื่อเพลงที่ 9 คล้ายกับชื่อสเปลการ์ด เขตแดน「คำสาปแห่งความฝันและความเป็นจริง」 ของยูคาริ
- เพลงที่ 11 ชื่อเหมือนต้นฉบับ ต่างกันแค่สลับตำแหน่งระหว่างชื่อญี่ปุ่นกับชื่ออังกฤษ
- 槭樹 คาเอเดะ คือ ต้นไม้ชนิดหนึ่งของญี่ปุ่น ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Maple และโมมิจิก็คือใบไม้เปลี่ยนสีจากต้น Maple นั่นเอง





Story

   1. 童祭 ~ Innocent Treasures

         ขอให้ฝันไม่เป็นจริง, เจ้าความทรงจำของโลกแห่งสายหมอกมายายามเช้า
         โลกมนุษย์, ตั้งอยู่บนยอดทรายที่พังทลาย
         ฝันลมๆแล้งๆ, ถึงประวัติศาสตร์ของโลกโบราณที่ลี้ลับ
         พระอาทิตย์เจิดจ้า, ลอยอยู่เหนือเมืองที่กำลังจมลง


(รุ่งสางแล้ว รุ่งสางมาเยือนท่ามกลางสายหมอกมายายามเช้า
ฉันกำลังเล่นกับพวกเด็กๆในโลกมายา
พวกเด็กๆทุกคนสนุกสนานมาก ทุกคนกำลังหัวเราะ)

         ภาพมายางั้นหรือ, ปราสาททรายงั้นหรือ
         จนกว่ารุ่งสางจะมาเยือน, ความฝันนี้, ฝันผีเสื้อ


(――เคยเห็นเด็กๆหัวเราะอย่างสนุกสนานขนาดนี้เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อไรกันนะ
บทเพลงและการเต้นรำที่แปลกประหลาดอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ดูเหมือนวันนี้จะมีงานเทศกาล
ฉันเองก็... รู้สึกอยากใช้ชีวิตในประเทศที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของเด็กๆแบบนี้ในสักวันหนึ่ง)

         ขอให้ฝันไม่เป็นจริง, เจ้าสีสันแหวกแนวของเรือนหลังแดงมายา
         โลกมนุษย์, ตั้งอยู่บนก้อนหินที่ไร้เลือดเนื้อ
         ฝันลมๆแล้งๆ, ถึงเรื่องเพ้อฝันของดินแดนโบราณที่แสนงดงาม
         พระอาทิตย์เจิดจ้า, ลอยอยู่เหนือเมืองที่กำลังแปดเปื้อน



   2. 華胥の夢
      คำโปรย : Paradisaical Daydream

「――ใช่ใช่ แล้วทีนี้นะ เมื่อวานฉันฝันเห็นอะไรแบบนั้นด้วยล่ะ」
「......แหงะ จะเล่าความฝันอีกแล้วเหรอ」
「ก็แหม วันนี้เรียกเธอมาเพื่อเล่าความฝันให้ฟังนี่นา」

ชื่อของฉันคือ มาเอริเบอร์รี่ เฮิร์น ตอนนี้อยู่ในชมรมเรื่องลี้ลับของเมืองที่มืดมนแห่งนี้
แต่ไม่เหมือนชมรมเรื่องลี้ลับธรรมดา ตรงที่ชมรมของพวกเรานั้นไม่คิดจะทำกิจกรรมเกี่ยวกับวิญญาณอย่างจริงจังเลย จะเรียกว่าเป็นชมรมเกเรก็ได้......
และถึงจะเรียกว่าเป็นชมรม แต่ก็มีสมาชิกเพียงแค่สองคนเท่านั้น

「นี่ เธอรู้มั้ยว่าไม่มีอะไรที่โดนเล่าให้ฟังแล้วน่าเบื่อสุดๆเท่ากับความฝันของคนอื่นอีกแล้วน่ะ ?」

แต่เรื่องชมรมน่ะจะเป็นยังไงก็ช่างมันเถอะ อันที่จริงฉันมีความสามารถที่สุดยอดอยู่ล่ะ
ดูเหมือนตระกูลของฉันจะมีสัมผัสที่หกกันมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว แต่ฉันน่ะ......
ฉันสามารถมองเห็นเขตแดน หรือก็คือเส้นเขตแดนทั่วโลกได้
ชมรมของเราก็เลยออกตามหารอยแยกของเขตแดน เผื่อว่าจะลองกระโดดเข้าไปยังต่างโลกดู
ชาวบ้านเขาเรียกกันว่า เทพลักซ่อน สินะ ?

......ถึงมันจะเป็นเรื่องต้องห้ามก็เถอะ
แต่ช่วงนี้ฉันเริ่มฝันเห็นโลกอันหลากหลายขึ้นมาเนี่ยสิ......

「ขอร้องล่ะ ถ้าไม่เล่าความฝันให้เธอฟังเพื่อเป็นการบำบัดจิตใจล่ะก็
 ฉันรู้สึกเหมือนจะไม่รู้ว่าตัวฉันคนไหนคือตัวฉันในความเป็นจริงน่ะสิ」


   3. 上海紅茶館 ~ Chinese Tea

สิ่งที่อยู่ ณ อีกฟากหนึ่งของสีเขียวเข้ม คือคฤหาสน์สีแดงฉาน
รอบคฤหาสน์มีสีเขียวเข้ม และทะเลสาบสีขาวทอประกาย
เป็นทัศนียภาพที่วิเศษไปเลยใช่มั้ยล่ะ ?
ทั้งที่เป็นสีแดงขนาดนี้ แต่กลับกลมกลืนเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้โดยไม่ทราบสาเหตุ
ที่ไหนสักแห่งหนึ่งในเฉดสีที่ตัดกันเหล่านี้ ทำให้รู้สึกถึงความเป็นเด็ก......ซึ่งฉันชอบมากเลยล่ะ

ลองเข้าไปดูสักหน่อยดีมั้ยนะ ?
จู่ๆก็เข้าไปเยือนแบบนี้คงไม่ถือว่าเสียมารยาทหรอกนะ ?
คฤหาสน์ที่อยู่ตรงหน้านี้จะยอมรับฉันรึเปล่านะ ?
เอ๊ะ อะไรกัน อยู่ในฝันแล้วยังรู้สึกกลัวอีกเหรอ ทำไปได้นะฉันนี่

......ตายจริง คุณผู้ช่วยออกมาแล้ว
ลองถามคนๆนี้ดูดีมั้ยนะ ?
ว่าอยากทักทายเจ้าของคฤหาสน์ที่แสนวิเศษนี้


   4. ヴォヤージュ1969
      คำโปรย : 1969, from Cape Canaveral

ไม่ว่าจะเดินไปสักเท่าไรก็เจอแต่ทิวทัศน์เดิมๆ
พระอาทิตย์ก็ตกดินไปแล้ว เท้าของตัวเองก็มองไม่เห็นแล้ว......

ป่าไผ่ตอนกลางคืนมันชวนให้หลงทางขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย
เสียงร้องพิศวงที่ได้ยินมาแต่ไกลในบางครั้ง... สัตว์ป่างั้นเหรอ... หรือว่าจะเป็น......
ทำไงดี ? แย่แล้วสิ
ถ้าเดินต่อไปเรื่อยๆในป่าไผ่แบบนี้คงได้อดตายแน่ ?
หรือว่าจะโดนโยวไคจับไปกินเสียก่อน ? ยังมีอีกหลายอย่างที่อยากทำซะด้วยสิน้า

ฉันกำลังเดินไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย
บางครั้งก็หิวจนเผลอคิดขึ้นมาว่า กินหน่อไม้ซะเลยดีมั้ยน้า---
――แต่ยังไงก็เป็นแค่ความฝันนี่เนอะ
แล้วฉันก็รู้สึกตัวได้ในตอนนั้นเองว่า... ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าหน่อไม้ตามธรรมชาติมีหน้าตาเป็นยังไง
เคยเห็นแต่ของที่ทำเป็นอาหารเสร็จแล้ว และรู้จักแต่รสชาติของหน่อไม้เท่านั้น......

ฉันจนปัญญาแล้ว ก็เลยมองท้องฟ้า
บนท้องฟ้ามีดวงดาวอยู่เต็มไปหมดเลย
เป็นครั้งแรกที่รู้สึกอิจฉานัยน์ตาของเธอ
ถ้าเป็นเธอล่ะก็ คงจะรู้ได้ทันทีว่าที่นี่คือที่ไหนสินะ เธอคงจะไม่เคยหลงทางเลยสินะ

พอคิดแบบนั้นเสร็จ ฉันก็ได้ยินเสียงหัวเราะที่น่าขนลุกมาจากข้างหลัง !


   5. 科学世紀の少年少女
      คำโปรย : 21st Century Boy and Girl

「นี่คือคุกกี้ที่ได้มาจากคฤหาสน์สีแดง กับหน่อไม้ตามธรรมชาติที่เก็บได้มาจากป่าไผ่ไงล่ะ」
「อื๋อ ? ไม่ใช่ความฝันหรอกเหรอ ? เมอรี่」

คนที่กำลังฟังฉันเล่าเรื่องความฝันมาตั้งแต่เมื่อครู่นี้คือ อุซามิ เรนโกะ หนึ่งในสมาชิกอีกคนหนึ่งของชมรมที่มีสมาชิกเพียงสองคน
กิจกรรมชมรมส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากความกระตือรือร้นของเธอ
เรนโกะน่ะ แค่มองท้องฟ้าก็รู้ได้ทันทีว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนและเป็นเวลาเท่าใด ชวนให้รู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย

เรนโกะชอบเรียกฉันว่า เมอรี่
ดูเหมือนคนในประเทศนี้จะออกเสียงเรียกชื่อของฉันได้ยาก
เผลอๆจะลืมชื่อจริงของฉันไปแล้วด้วยซ้ำล่ะมั้ง ?

「ความฝันน่ะ ก็เล่าให้ฟังมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วไม่ใช่เหรอ」
「......ทั้งที่เป็นความฝัน แล้วทำไมถึงเอาของในความฝันออกมาสู่ความเป็นจริงได้ล่ะ ?」
「เพราะงั้นถึงได้มาปรึกษาเธอไงล่ะ」

ฉันเริ่มจะไม่เข้าใจแล้วว่า อะไรคือความจริง อะไรคือความฝัน
ความฝันที่เห็นเป็นประจำนั้น ส่วนใหญ่จะจบลงตอนที่โดนโยวไคไล่ตาม หากจะเรียกว่าฝันร้าย มันก็คงจะเป็นฝันร้ายจริงๆนั่นแหละ......
แต่ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใดที่สามารถเก็บของในความฝันกลับมาได้ และการที่ทำแบบนี้ได้ก็แปลว่ามันอาจจะไม่ใช่ความฝันก็ได้......

「จะบอกให้นะ เมอรี่ ไอ้นั่นน่ะไม่ใช่หน่อไม้แล้วล่ะ ถ้าโตขนาดนั้นก็แข็งจนกินไม่ได้แล้ว」
แต่ว่า ถ้าสามารถเปลี่ยนฝันร้ายให้กลายเป็นดีได้ล่ะก็ ความเป็นจริงในตอนนี้ก็คงจะ......
「หน่อไม้ตามธรรมชาติน่ะ มันจะอร่อยตอนที่ปกป้องตัวเองด้วยการซ่อนกายใต้ผืนดินต่างหากล่ะ」


   6. 永夜の報い ~ Imperishable Night.

ฉันวิ่งอย่างจริงจังเลยนะ ในความฝันน่ะ
ถึงจะไม่แน่ใจก็เถอะ แต่เสียงหัวเราะเมื่อกี้มันชัดเจนว่าต้องไม่ใช่มนุษย์แน่ๆ
สัญชาตญาณมันบอกฉันว่า 『หนีเร็ว !』

แต่ว่าป่าไผ่มีความลาดเอียงอันน่าพิศวง ทำให้ประสาทรับรู้ด้านการทรงตัวของฉันผิดปกติ
ฉันตั้งใจวิ่งไปเป็นเส้นตรงก็จริง แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าความจริงแล้วมันเป็นยังไงกันแน่ ?

ฉันรู้สึกว่าวิ่งมาไกลมากแล้ว แต่กลับเจอแต่ทิวทัศน์ที่เคยเห็นมาแล้วทั้งนั้น
ป่าไผ่แห่งนี้มันกว้างใหญ่ไร้สิ้นสุดงั้นเหรอ หรือว่าฉันวิ่งไปมาเป็นวงกลมกันแน่
......แต่แบบไหนก็ไม่ต่างกันหรอก

วิธีการคิดที่ว่า 『ความจริงอันเที่ยงแท้จะปรากฏขึ้นเมื่อมองจากภายนอก』 เหมือนของเรนโกะนั้นต้องเป็นวิธีคิดของคนยุคก่อนแน่

ความจริงนั้นตั้งอยู่ภายใน
ถ้าหากเจอแต่ทิวทัศน์ที่เคยเห็นมาแล้ว――ก็แสดงว่ามันเป็นสถานที่แบบนั้น

ดังนั้นฉันจึงวิ่งต่อไป
เพราะคำว่าความฝันน่ะไม่ใช่คำที่มีความหมายตรงข้ามกับความเป็นจริง
สามัญสำนึกของฉันในช่วงนี้บ่งชี้ว่ามันมีความหมายเหมือนกัน
ดังนั้นต่อให้อยู่ในความฝัน ก็ต้องหนีจากสิ่งที่ไม่รู้ตัวตนแน่ชัด นั่นแหละคือความจริง

วิชาเอกของฉันคือ จิตวิทยาสัมพันธ์
ของเรนโกะคือ ฟิสิกส์สนามรวมขั้นสูงสุด สินะ การค้นคว้าเรื่องเส้นเชือกไปได้สวยรึเปล่านะ ?


   7. 夜が降りてくる ~ Evening Star

แต่......ก็แปลกดีนะ
พวกที่ชอบคิดแบบคนยุคก่อนเหมือนเธอน่ะ... ถึงแม้ว่าส่วนมากจะคิดว่าความฝันกับความจริงเป็นสิ่งตรงข้ามกันก็เถอะ...
แต่คนสมัยยุคก่อนที่โบราณยิ่งกว่านั้น กลับไม่เคยแบ่งแยกระหว่างความฝันกับความจริงเลย

ส่วนตอนนี้ แม้ว่าความฝันกับความจริงจะถูกแบ่งแยกกันแต่ก็เป็นสิ่งเดียวกัน
ความเป็นจริงของความจริง ความเป็นจริงของความฝัน ตัวฉันในความจริง ตัวฉันในความฝัน ทั้งหมดล้วนมีตัวตนอยู่จริง

ผีเสื้อในยามราตรีคือตัวฉันงั้นหรือ มนุษย์ในยามกลางวันคือตัวฉันงั้นหรือ......
สามัญสำนึกในตอนนี้บอกว่าทั้งสองแบบล้วนเป็นตัวฉัน

รู้สึกว่าจะหนีมาได้ไกลพอสมควรแล้ว แต่กลับไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิด
คงเป็นเพราะฉันวิ่งจนเหมือนกับบินไปบนท้องฟ้าเลยล่ะมั้ง ? นี่ฉันกลายเป็นผีเสื้อไปแล้วงั้นเหรอ ?

แต่ทว่า สุดท้ายก็มองเห็นสายเส้นชัยในการวิ่งทะยานในยามราตรีนั้น......

――ฉันหยุดวิ่ง
เพราะป่าไผ่ที่อยู่ข้างหน้า กำลังส่องสว่างเป็นสีแดง
แสงนั้นมีสีที่น่าสะพรึง และไม่ใช่แสงตามธรรมชาติ
ถ้าจะพูดให้เธอเข้าใจได้ง่ายล่ะก็......
มันคือสีที่ใกล้เคียงกับสีที่เกิดจากปฏิกิริยาของแร่รูบิเดียมล่ะมั้ง ?

แต่ถ้าให้พูดชัดๆล่ะก็ มันไม่ใช่ปล้องไผ่ส่องแสงแบบในนิทานหรอก
ฉันก็เลยลองเข้าไปดูว่าแสงมาจากไหน พลางระวังข้างหลังของตัวเองเอาไว้


   8. 人形裁判 ~ 人の形弄びし少女
      คำโปรย : Doll Master

อา นี่ฉันไปเห็นอะไรเข้ากันแน่เนี่ย !
ทั้งที่ตอนนี้เป็นยุคที่สามารถใช้ 3DCG ดูภาพกัปปะหรือหมาป่าที่สูญพันธุ์ไปแล้วก็ยังได้......
แต่กลับไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ตรงหน้านี้มาก่อนเลย

มันเป็นสิ่งมีชีวิตสีดำที่คล้ายกับหนู แต่ตัวใหญ่กว่าหมาป่า และมีนัยน์ตาเท่านั้นที่ส่องแสงสีแดง
......ไม่สิ กระต่ายรึเปล่านะ ? ตาก็เป็นสีแดงเหมือนกระต่ายซะด้วย
แต่ว่า ตำแหน่งของดวงตามันแปลกๆอยู่นะ
มัน......อยู่ข้างหน้าตรงๆแบบนี้ทั้งคู่เลย ใช่แล้ว เหมือนตาของเธอนั่นแหละ
พูดให้ถูกคือเหมือนกับมนุษย์ส่วนใหญ่แทบทุกคน

ใบหน้าขนาดใหญ่เท่าๆกับของมนุษย์
หรือจะเรียกว่าเป็นใบหน้าของมนุษย์ดี ? จะว่าไปก็เป็นหน้าของมนุษย์นั่นล่ะนะ เป็นหน้าชัดๆเลย ใช่แน่ๆ
หนูขนาดยักษ์ที่มีใบหน้าของมนุษย์ เธอรู้จักสัตว์ป่าแบบนั้นรึเปล่า ?

――แล้วในตอนนั้น เจ้าหนูยักษ์ก็ส่งเสียงน่ารังเกียจที่แสนคุ้นหูออกมา
สิ่งที่ไล่ตามฉันเมื่อครู่คือเจ้าหนูยักษ์นี่จริงๆด้วย
แต่ว่าตอนนี้มันไม่ได้มองมาทางฉัน แต่กำลังมองไปยังแสงสีแดง

ใช่แล้ว......สิ่งที่ย้อมรอบข้างให้กลายเป็นสีแดงนั้นไม่ใช่นัยน์ตาของเจ้าหนูยักษ์ !
ดูเหมือนเจ้าหนูยักษ์ที่น่ารังเกียจกำลังหวาดกลัวแสงสีแดง
ฉันจึงหันหน้าไปยังแหล่งกำเนิดของแสงสีแดงนั่น......


   9. 夢と現の境界
      คำโปรย : Wake Up Mysterious Girl

「แล้วเนี่ย ก็คือเศษกระดาษที่ตกลงมาหลังจากเด็กสาวกับเจ้าหนูยักษ์นั่นจากไป」
「นี่ ตกลงว่ามันเป็นความฝันจริงๆเหรอ~ ?」

ตัวจริงของแสงสีแดงที่เผชิญหน้ากับหนูยักษ์ กลับกลายเป็นเพียงเด็กผู้หญิงเท่านั้น เด็กคนนั้นกำลังส่องแสงสีแดงอยู่
ทำไมเธอถึงส่องแสงสีแดงอยู่งั้นหรือ... มองแค่แวบเดียวก็รู้แล้วล่ะ เพราะเด็กคนนั้นน่ะ......ถูกไฟล้อมรอบอยู่ทั่วตัวเลย

ไม่สิ พูดแบบนั้นก็ไม่ถูก ต้องบอกว่ามีไฟออกมาจากทั่วร่างกายถึงจะถูก
เปลวไฟสีแดงเข้มแผ่พุ่งออกมาจากร่างกายของเด็กสาว ราวกับนกที่กางปีกออก......

แล้วทีนี้ ฉันก็รู้สึกได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวที่รุนแรงจนเจ้าหนูยักษ์หน้าคนนั่นเทียบไม่ติดเลย
เจ้าหนูยักษ์นั่นก็เหมือนกัน แค่เห็นเด็กสาวยกมือขึ้นก็หวาดกลัวจนรีบหนีทันทีเลยล่ะ

「ถึงได้บอกไงล่ะ~ ว่าความฝันกับความจริงเป็นสิ่งเดียวกัน ฉันก็พูดอยู่ตลอดนี่นา
 สำหรับฉันน่ะ การคุยกับเธอในตอนนี้อาจจะเป็นความเป็นจริงของความฝันก็ได้......」
「เอาน่า เอาน่า ฉันก็ยอมฟังเรื่องเล่าเกี่ยวกับโลกในความฝันของเธอแล้วไง ใจเย็นก่อนสิ เมอรี่
 แล้วตกลงว่าเด็กคนนั้นเป็นใครล่ะ ? หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น ?」
「ไม่รู้สิ หลังจากนั้นเจ้าหนูยักษ์ก็หนีไป......เด็กผู้หญิงก็หายไปด้วยเหมือนกัน
 ส่วนฉันเองก็มัวแต่ซ่อนตัวเพื่อไม่ให้ทั้งหนูยักษ์และเด็กผู้หญิงเจอตัวน่ะ
 เธอสงสัยว่าเขามาไล่หนูยักษ์ให้แล้วทำไมต้องซ่อนตัวอีกงั้นเหรอ ? ก็แหม......」

ฉันเผลอไปสบตากับเด็กคนนั้นเข้าจังๆเลยน่ะสิ นัยน์ตาสีแดงที่ร้อนแรงยิ่งกว่าเจ้าหนูยักษ์――
「――เพราะว่านั่นน่ะไม่ใช่มนุษย์แล้วล่ะ」


   10. 幻想機械 ~ Phantom Factory

สุดท้ายเมอรี่ก็แค่มาเล่าเรื่องโลกในความฝันจนพอใจอยู่คนเดียวแล้วก็กลับไป

ฉันมองของหลายอย่างที่เมอรี่ให้มา พลางจัดระเบียบความคิดอยู่ในหัว
เมอรี่พูดว่า ความฝันกับความจริงเป็นสิ่งเดียวกัน แต่มันไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น
ต่อให้สามัญสำนึกของวิชาจิตวิทยาสัมพันธ์ในปัจจุบันสอนมาแบบนั้นก็เถอะ แต่ยังไงนั่นก็เป็นแค่เรื่องของจิตใจเท่านั้น
เล่นเอาวัตถุในความฝันออกมาสู่ความเป็นจริงได้แบบนี้ก็แย่น่ะสิ
มันไม่เป็นไปตามกฎทรงมวล แล้วไหนจะ Entropy อีกล่ะ

ฉันมั่นใจแล้ว เมอรี่จะต้องหลุดเข้าไปในเขตแดนโดยที่ไม่รู้ตัวแน่ แล้วก็คิดว่านั่นเป็นแค่ความฝัน
ตอนนี้เธอคงอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กับอีกฟากของเขตแดนอย่างมากเลยล่ะมั้ง
หรือว่าความสามารถในการมองเห็นของเมอรี่จะพัฒนาไปเป็นความสามารถในการควบคุม......คงไม่หรอก
บางทีช่วงนี้เราคงทำกิจกรรมชมรมมากเกินไปล่ะมั้ง

ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้อาจจะโดนโยวไคจับกินในความฝันก็ได้ หรือจะโดนเทพลักซ่อนไปก็เป็นได้
ความคิดของเมอรี่กำลังสั่นสะเทือนโลกอันหลากหลาย
ตอนที่อยู่ในต่างโลก ถ้าหากเธอไม่รู้ตัวว่ากำลังฝัน บางทีเธออาจกลับมาที่โลกเดิมนี้ไม่ได้อีกเลยก็เป็นได้
บางทีเธออาจคิดว่าโลกนี้เป็นโลกแห่งความฝันก็ได้
เจ้าตัวอาจจะยังไม่รู้ตัวก็จริง แต่สถานการณ์ตอนนี้อันตรายมากเลยทีเดียว

   วิธีบำบัดจิตใจที่ฉันคิดออกมีอยู่ 2 วิธี
   
   วิธีแรกคือการทิ้งของพวกนี้ไป แล้วทำให้เธอคิดว่ามันเป็นเพียงความฝันและภาพลวงตาอย่างสมบูรณ์
   แบบนี้น่าจะทำให้เธอไม่สามารถไปยังโลกแห่งความฝันได้อีกเป็นครั้งที่สอง เพราะแยกแยะความฝันกับความจริงออกจากกัน
   
   ส่วนอีกวิธีหนึ่ง......
   
   คือการปลูกฝังสามัญสำนึกให้เธอคิดว่ามันไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นอีกโลกหนึ่งจริงๆไปเลย จะได้รู้สึกตัวและตื่นจากความฝัน
   แบบนี้น่าจะทำให้เธอรอดตายได้ในโลกแห่งความฝัน ต่อให้เธอไม่เข้าใจอะไรเลยก็ตาม
   แต่......ก็มีความเป็นไปได้ที่เธอจะกลับมายังโลกนี้ไม่ได้อีก
   
   เมอรี่จะเลือกแบบไหนกันนะ ? แล้วถ้าเป็นฉันล่ะจะเลือกแบบไหน ?
   ......เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้ว


   11. 幽玄の槭樹 ~ Eternal Dream

「ให้ตายสิ เรนโกะนัดให้มาเจอทีไร เธอต้องมาสายเองทุกทีเลยสิน่า」
「เมอรี่ ฉันสายไปแค่ 3 นาที 15 วินาทีเองนะ น่าเสียดายเนอะ」
「เสียดายอะไรเหรอ ? ว่าแต่วันนี้มีธุระอะไรล่ะ ?」
「แหงอยู่แล้ว ก็กิจกรรมชมรมไงล่ะ สมาชิกชมรมอุตส่าห์มากันพร้อมหน้าทั้งที」
「ก็มีกันแค่สองคนนี่นะ......แล้วนี่เธอเจอทางเข้าอะไรอีกแล้วงั้นเหรอ ?」

ข้อสรุปมีเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือโลกแห่งความฝันที่เมอรี่เคยพูดถึง
ธรรมชาติอันแสนงดงามกับปริศนาที่ลึกลับนิดหน่อย

ศาลเจ้ากลางหมู่เขาที่ห่างไกลผู้คน
เหล่าเด็กน้อยที่ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวอย่างสนุกสนาน
สีเขียวเข้ม ทะเลสาบขาวทอประกาย
คฤหาสน์สีแดง เวลาน้ำชาใต้ร่มไม้
ป่าไผ่ที่กว้างจนชวนให้หลงทาง หน่อไม้ตามธรรมชาติ
จันทร์เพ็ญที่ทำให้คนคลุ้มคลั่ง
สิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่คนแต่มีหน้าเป็นคน
แล้วก็วิหคเพลิงที่น่าสะพรึงกลัว――

......มีเมอรี่คนเดียวที่ได้เห็นแบบนี้มันขี้โกงนี่นา !

「แน่นอนว่าฉันสามารถหาทางเข้าไปยังต่างโลกเจอได้
 ดูสิ เรามีเบาะแสตั้งเยอะขนาดนี้เลยนะ」
「เบาะแสงั้นเหรอ......นี่มันของที่ฉันเอามาจากโลกแห่งความฝันนี่นา เรนโกะ」
「เพราะฉะนั้น พวกเราก็เลยจะออกตามหาโลกแห่งความฝันของเมอรี่ไงล่ะ
 นี่ ทำไมพวกเด็กๆในประเทศนี้ถึงดูเหมือนไม่ค่อยจะมีความสุขกัน......
 เมอรี่รู้รึเปล่า ?」

「?」

「เป็นเพราะนักวิชาการที่คิดเหมือนเธอไงล่ะ
 เพราะชอบสอนให้มองความฝันกับความจริงเป็นสิ่งเดียวกัน
 ดันเอาความฝันที่เป็นเพียงภาพลวงตาซึ่งสมองสร้างขึ้นมาทับซ้อนกับภาพที่แท้จริงของความเป็นจริงนั่นล่ะนะ
 มุมมองของบุคคลอื่นถูกทำให้เชื่อด้วยเปลือกนอกของตัวเรา จึงคิดว่าต้องเป็นความจริงอย่างแน่นอน
 ตัวเราคือความจริงงั้นเหรอ ? สิ่งที่เธอพูดมันกำลังขัดแย้งกันเอง ทฤษฎีนั่นมันผิดพลาดแล้วล่ะ
 หลักฐานคือเธอไม่ยอมรับมุมมองของตัวเองจนเก็บเอาไปฝันไงล่ะ
 ความฝันกับความจริงเป็นคนละสิ่งกัน ดังนั้นคนเราจึงสามารถพยายามทำให้ความฝันกลายเป็นจริงได้ไงล่ะ
 เพราะฉะนั้น――พวกเด็กๆจึงสามารถหัวเราะได้ไงล่ะ
   เอ้า ลืมตาตื่นเถอะ
   ความฝันคือสิ่งที่จะเปลี่ยนเป็นความจริง
   ดังนั้นเรามาเปลี่ยนโลกแห่งความฝันให้กลายเป็นความจริงกันเถอะ !」



Tips :
- ฝันผีเสื้อ มีที่มาจากจวงจื่อ ซึ่งเล่าว่าตนได้ฝันเห็นตนเองกลายเป็นผีเสื้อ จนแยกไม่ออกว่าเป็นฝันหรือความจริง
- รูปถ่ายบน Booklet ของเพลงที่ 1 คือภาพขนมที่ขายในงานเทศกาล เพื่อสื่อถึงงานเทศกาลที่ถูกกล่าวถึงในบทเพลง
- ตัวฉันคนไหนคือตัวฉันในความเป็นจริง... คำพูดนี้ทำให้เกิดความเชื่อว่าเธอกับยูคาริอาจเป็นคนๆเดียวกัน แต่สลับกันตื่นในต่างโลก
- เรือนหลังแดงและคฤหาสน์สีแดง หมายถึง คฤหาสน์มารแดง / ส่วนสีเขียวเข้มก็คือป่า
- คุณผู้ช่วย อาจหมายถึงซาคุยะ หรืออาจจะเป็นเหม่ยหลิงก็ได้
- รูปถ่ายบน Booklet ของเพลงที่ 3 คือภาพคฤหาสน์ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ เพื่อสื่อถึงคฤหาสน์มารแดงในเกนโซวเคียว
- รูปถ่ายบน Booklet ของเพลงที่ 4 คือภาพหมู่ดาวไก่ เพื่อสื่อถึงท้องฟ้ายามราตรี
- เมอรี่สามารถเอาของในความฝันกลับมาได้ แสดงว่าเธอได้ไปที่เกนโซวเคียวจริงๆ แต่เข้าใจผิดว่าเป็นเพียงความฝัน
- เส้นเชือก หมายถึง ทฤษฎีสตริง (String) ในวิชาฟิสิกส์ชั้นสูง
- รูปถ่ายบน Booklet ของเพลงที่ 6 คือภาพป่าไผ่ เพื่อสื่อถึงป่าไผ่หลงทาง
- รูปถ่ายบน Booklet ของเพลงที่ 7 คือภาพกาแล็กซี่ NGC (New General Catalogue) 7742 เพื่อสื่อถึงแสงที่ส่องสว่างในความมืด
- วิ่งเหมือนบิน ? ไม่เหนื่อย ? คำพูดนี้ทำให้เกิดความเชื่อว่าเธอกับยูคาริอาจเป็นคนๆเดียวกัน แต่สลับกันตื่นในต่างโลก
- จากคำอธิบายวิทยาการในยุคของเมอรี่ บางทีพวกเธออาจเป็นมนุษย์โลกภายนอกในยุคอนาคตก็เป็นได้
- รูปถ่ายบน Booklet ของเพลงที่ 8 คือภาพเปลวเพลิง เพื่อสื่อถึงโมโคว
- หนู(กระต่าย?)ยักษ์ตาสีแดงนี้อาจนัยถึง เรย์เซน อุดองเกอิน อินาบะ หรือ เทอิ หรืออาจเป็นโยวไคปลายแถวธรรมดาก็ได้
- เด็กสาวที่มีไฟล้อมรอบตัว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหมายถึง โมโคว
- กฎทรงมวล และ Entropy ล้วนเป็นทฤษฎีทางฟิสิกส์ที่เกี่ยวข้องกับสมดุลของสสารในเอกภพ
- ความสามารถในการควบคุมอาณาเขตคือความสามารถของยูคาริ ทำให้เกิดความเชื่อว่าเธอกับยูคาริอาจเป็นคนๆเดียวกัน แต่สลับกันตื่นในต่างโลก
- รูปถ่ายบน Booklet ของเพลงที่ 11 คือภาพตึกระฟ้าที่นิวยอร์ค เพื่อสื่อถึงโลกภายนอก





ปัจฉิมลิขิต


คงต้องกล่าวยินดีที่ได้รู้จักกับหลายๆท่าน ข้าพเจ้าชื่อ ZUN ครับ
ตอนนี้ได้ตั้งวงดนตรีที่มีสมาชิกเป็นเจ้าอาวาสคนเดียวเรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าล้อเล่นครับ
ที่จริงเป็นเจ้าอาวาสของศาลเจ้าฮาคุเรย์ต่างหาก

คราวนี้ได้ไอเดียประหลาดมาก็เลยกลายเป็น CD เพลงแบบนี้ แต่จะว่าไปนี่ก็แผ่นที่ 3 แล้วนะครับ
แต่แหม มันเป็น CD ที่ทำให้รู้สึกไม่ดีหลายเรื่องเลย เอ้า ทำนิ้วเป็นรูปกากบาทกันเหอะ

เอาล่ะ สำหรับครั้งนี้ก็ยังคงมีหลายเพลงที่หยิบผลงานเก่าจากหลายๆแหล่งมาเล่าใหม่ครับ
แต่โดยพื้นฐานแล้วส่วนใหญ่จะเป็นเพลงจากภาคเกม จึงร้อนแรงจนรู้สึกเหนื่อยเลยทีเดียว เพราะมีแต่เพลงที่แยกฟังเดี่ยวๆไม่ได้......
มันแยกฟังไม่ได้นะครับ ? เพราะงั้นเลยใส่เนื้อเรื่อง(ย้ำ)ลงมาด้วย
เพราะว่าตัวเกมเองก็มีเนื้อเรื่องของมันนี่เนอะ โลกเรามันต้องสมดุลเข้าไว้อย่างนี้แหละถึงจะดี

สำหรับเพลงแรก 『เทศกาลเด็กน้อย』 นั้นเป็นเพลงธีมที่ใช้ตอนข้าพเจ้าเปิดตัวในงานทอล์คโชว์เมื่อวันก่อนครับ
เคยแต่งเพลงธีมให้ตัวละครมากมายก็จริง แต่พอเป็นธีมของตัวเองแล้วแต่งยากอย่างไม่น่าเชื่อเลย คิดแล้วก็เขินนิดหน่อย

อันที่จริงเพลงนี้มีเนื้อร้องแนบมาด้วย
ถึงมันก็ดูเหมือนคอมเมนท์ของเพลงที่กลายเป็นเนื้อร้องซะมากกว่า
แต่ก็เป็นเพลงที่ไปมาระหว่างความฝันกับความเป็นจริง โดยที่ไม่รู้ว่าอะไรคือความจริงที่รออยู่ปลายทาง

ส่วนสองสาวชมรมผนึกลับจะเดินไปทางที่ไหนนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลครับ......
อ้อ ใช่ใช่ เมอรี่กับเรนโกะสองคนนั้นก่อตั้งชมรมปริศนาที่เรียกว่า ชมรมผนึกลับ ขึ้นมา แล้วทำกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับหลายอย่าง
แม้จะไม่เคยได้รับการชี้แจงรายละเอียด แต่ดูเหมือนวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้าจะทำให้หน่อไม้ตามธรรมชาติไม่สามารถรับประทานได้ ? น่าสงสารชะมัด

แต่ซุปมิโซะนกโทคิอาจจะกินได้ก็ได้มั้ง ถ้าเอามาผสมกัน

ตอนที่คิดแบบนั้น อนาคตก็ยังคงไหลไปตามความฝัน

คนเราต้องหัดคิดถึงความรู้สึกของคนที่เอาแต่นั่งใช้อินเตอร์เนทอยู่ในบ้านโดยไม่ออกมาเล่นให้เต็มอิ่มแต่เป็นอันตรายที่นอกบ้านบ้าง
(ที่จริงขนาดผู้ใหญ่ก็ยังทำได้ยากเลยนะ) ถ้าทำอะไรผิดพลาดแล้วไม่มีผู้ใหญ่คอยตักเตือนตอนหลังไปดุเข้าก็อาจจะฟิวส์ขาดได้ในทันที
ถ้าเข้มงวดเรื่องการใช้อินเตอร์เนทกับเด็กสมัยนี้มากเกินไป อาจทำให้เด็กคนนั้นไม่สามารถคบหากับคนอื่นตรงๆเลยก็ได้

ถึงแม้ว่าหัวใจของเด็กๆในประเทศนี้จะคับแคบลงทุกวัน
แต่วันที่พวกเด็กๆจะได้หัวเราะยิ้มแย้มกันในเมืองอาจมาถึงในสักวันก็เป็นได้ ถ้าเอามาผสมกันนะ

                  เซี่ยงไฮ้อลิสเกนกาคุดัน ZUN (ชอบหน่อไม้)



.........................................................................................................................................................................................


PS. ท่านสามารถหาซื้อหรือสั่งซื้อแผ่นเพลงนี้ได้ทั่วไปตามร้านโดจินชอปในญี่ปุ่น
หรือดาวน์โหลดได้ที่ ลิงค์นี้
PS. ตัวอักษรสีเขียวที่มักอยู่ในวงเล็บนั้น เป็นคำอธิบายเพิ่มเติมจากผู้แปล (เซเบอร์คุง) เอง จึงเรียนไว้ให้ทราบโดยทั่วกัน
PS. ข้อความทั้งหลายทั้งมวลที่อยู่ภายใต้หัวข้อ Tips นั้น เป็นคำอธิบายเพิ่มเติมจากผู้แปล (เซเบอร์คุง) เอง จึงเรียนไว้ให้ทราบโดยทั่วกัน


.........................................................................................................................................................................................