東方求聞史紀 ~ Perfect Memento in Strict Sense.
โทวโฮวกุมอนชิคิ (ใคร่รู้ประวัติศาสตร์แห่งตะวันออก) ~ อนุสรณ์สมบูรณ์ในสัมผัสที่เที่ยงตรง
.........................................................................................................................................................................................
พาชมสถานที่อันตราย
*กดที่ชื่อหัวข้อเพื่ออ่าน*
หรือกดที่นี่เพื่อแสดงข้อความทั้งหมด
หมู่บ้านมนุษย์
{หมู่บ้านมนุษย์}
ระดับความอันตราย : ต่ำ
โยวไคที่พบเจอ : จูวจิน, โยวเซย์, ยูวเรย์ และอื่นๆ
สถานที่ที่มีมนุษย์อาศัยอยู่มากที่สุดในเกนโซวเคียว
และมีร้านค้าสำหรับโยวไคมากมาย ทำให้สามารถพบเจอโยวไคหลากหลายได้ตามท้องถนน
แต่แทบจะไม่มีโยวไคมาอาละวาดในที่แห่งนี้, จึงจัดเป็นสถานที่ที่อยู่อาศัยได้อย่างไร้กังวลมากๆแห่งหนึ่ง*
*1[แน่นอนว่าบ้านฮิเอดะก็ตั้งอยู่ในหมู่บ้านมนุษย์นี้เช่นกัน]
สิ่งของที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์, ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนสามารถหาได้จากที่นี่
อีกทั้งยังเป็นที่อาศัยของมนุษย์ที่ทำงานกำราบโยวไค, จึงสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยหายห่วง
หากกล่าวถึงสาเหตุที่หมู่บ้านมนุษย์ไม่ถูกจู่โจมล่ะก็, ที่จริงแล้วเป็นเพราะมีจอมปราชญ์โยวไคคอยอนุรักษ์คุ้มครองอยู่ต่างหาก*
*2[หากประชากรมนุษย์ชาวเกนโซวเคียวลดลงล่ะก็ พวกโยวไคเองก็จะลำบากเช่นกัน]
ขอแค่เพียงไม่ออกนอกเขตหมู่บ้านแห่งนี้ไป, ก็จะไม่ได้รับความเสียหายใหญ่หลวงอย่างแน่นอน
ถ้าหากได้พบปะกับโยวไคในหมู่บ้านล่ะก็ ให้ทักทายอย่างเคารพนอบน้อมเหมือนกับตอนที่พูดคุยกับผู้อาวุโสกว่า*
*3[เพราะเป็นไปได้สูงที่เขาจะอาวุโสกว่าเรา]
นอกจากนี้, ร้านค้าที่เปิดกิจการจนดึกดื่นเกินคาดก็มีอยู่มากมาย, เป็นร้านพิเศษที่ดำเนินกิจการเป็นพิเศษสำหรับพวกโยวไคในยามค่ำคืน
ทั้งนี้เนื่องจากพวกโยวไคมักจะทำกิจกรรมต่างๆในเวลากลางคืน, พวกร้านค้าที่จับจุดนี้จึงเจริญรุ่งเรืองไปตามๆกัน
อาจกล่าวได้ว่าเหล่าโยวไคนั้นเป็นท่านลูกค้าชั้นเลิศก็ว่าได้
โดยเฉพาะพวกร้านที่สามารถนั่งดื่มเหล้าได้, จะพบเห็นมนุษย์และโยวไคดื่มเหล้าเฮฮาร่วมกันจนกลายเป็นเรื่องปกติประจำวันไปเสียแล้ว
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
ศาลเจ้าฮาคุเรย์
{ศาลเจ้าฮาคุเรย์}
ระดับความอันตราย : ต่ำ
โยวไคที่พบเจอ : ไม่มี... ...ควรจะเป็นอย่างนั้นนะ
ศาลเจ้าหนึ่งเดียวซึ่งตั้งอยู่ ณ สุดขอบตะวันออกของเกนโซวเคียว
ศาลเจ้านี้ตั้งอยู่เพื่อเป็นเส้นบอกเขตแดนระหว่างโลกภายนอกกับเกนโซวเคียว*
*1[หากจะให้ชี้ชัดอย่างถูกต้องแม่นยำล่ะก็, ศาลเจ้าแห่งนี้มิได้ตั้งอยู่ในเกนโซวเคียว]
สามารถมองเห็นทิวทัศน์ทั่วเกนโซวเคียวได้จากศาลเจ้าแห่งนี้, และยังขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ที่มีซากุระงดงามที่สุดอีกด้วย
ศาลเจ้าเป็นที่อาศัยของมิโกะแห่งฮาคุเรย์ ซึ่งเชี่ยวชาญการคลี่คลายเหตุวิปลาส
เธอคอยเฝ้ามองเกนโซวเคียวจากศาลเจ้า, หากเกิดเหตุวิปลาสขึ้นก็จะออกไปตรวจสอบทันทีและจะค้นหาสาเหตุจนถึงที่สุด
ว่ากันว่า เมื่อเร็วๆนี้เพิ่งคลี่คลายเหตุหมอกแดงวิปลาสไป
โดยเนื้อแท้แล้วศาลเจ้านั้นควรจะไม่มีโยวไคย่างกรายเข้าใกล้
แต่ระยะนี้มีข่าวลือกันว่าได้กลายเป็นแหล่งซ่องสุมของเหล่าโยวไคไปเสียแล้ว, ทำให้มนุษย์ไม่กล้าเข้าใกล้
และเช่นเดียวกับหมู่บ้านมนุษย์, โยวไคได้ให้สัญญาว่าจะไม่จู่โจมทำร้ายผู้ใดภายในศาลเจ้าแห่งนี้
แต่ว่าระหว่างศาลเจ้ากับหมู่บ้านมนุษย์นั้นเป็นทางสัตว์ที่มีทัศนวิสัยเลวร้าย
(ทางสัตว์ หมายถึง ถนนที่เกิดขึ้นเองกลางทุ่งหรือภูเขา เกิดจากการที่สัตว์ป่าเดินผ่านเป็นประจำจนแหวกเป็นทางให้เห็น)
คอยกีดกันผู้ที่ประสงค์จะไปกราบไหว้บูชาอยู่ตลอดเวลา เพราะไม่สามารถรับรองความปลอดภัยในการเดินทางไปที่ศาลเจ้าได้
ลักษณะเด่นอื่นๆก็อย่างเช่น, บริเวณใกล้เคียงศาลเจ้ามักพบสิ่งของตกหล่นหรือมนุษย์หลุดหลงเข้ามาจากโลกภายนอก
มนุษย์จากโลกภายนอกนั้น, หากถูกโยวไคพบเข้าก็จะกลายเป็นอาหารอันโอชะในบัดดล
แต่หากดวงดีมาพบศาลเจ้าเข้าล่ะก็ จะสามารถกลับออกไปสู่โลกภายนอกได้*
*2[ระยะนี้มนุษย์ที่ไม่อยากกลับไปสู่โลกภายนอกมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ, ซึ่งในกรณีนี้ก็จะมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านมนุษย์]
สิ่งของจากโลกภายนอกส่วนมากเป็นของที่แปลกประหลาด, จึงเป็นที่นิยมของทั้งมนุษย์และโยวไค
ด้วยเหตุนี้เอง, รอบๆศาลเจ้าจึงมีเหล่านักสะสมมากมายมารวมตัวกัน
ทว่า, ของที่รวมรวมมาได้ส่วนใหญ่นั้น ไม่มีใครเข้าใจวิธีใช้งานของมัน
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
ร้านโควรินโดว
{ร้านโควรินโดว}
ระดับความอันตราย : ต่ำ
โยวไคที่พบเจอ : หลากหลาย
จากหมู่บ้านมนุษย์ ให้เดินตรงไปทางป่าเวทมนตร์, จะเห็นสิ่งก่อสร้างหน้าตาพิลึกอยู่ที่ปากทางเข้าป่า
สิ่งก่อสร้างนี้ไม่ว่าจะข้างนอกหรือข้างในก็จมแน่นไปด้วยอุปกรณ์ที่ไม่รู้จัก
เป็นร้านอุปกรณ์ที่ไม่รู้ว่าคิดจะทำมาค้าขายจริงหรือเปล่า, มืดมิดและเงียบเหงา, นั่นล่ะคือ ร้านโควรินโดว
ร้านนี้เป็นร้านอุปกรณ์เพียงหนึ่งเดียวในเกนโซวเคียวที่มีอุปกรณ์เครื่องใช้ทุกอย่างให้เลือกหา
ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์จากโลกภายนอก, อุปกรณ์ของโยวไค, อุปกรณ์ของเมย์ไค(โลกวิญญาณ) และอุปกรณ์เวทมนตร์
เพียงแต่, อุปกรณ์จากโลกภายนอกนั้นแม้แต่เจ้าของร้านนี้ก็ยังไม่เข้าใจวิธีการใช้งาน, แม้จะดึงดูดความสนใจของผู้คนได้มากแต่ส่วนใหญ่ก็ขายไม่ออก*
*1[ที่จริงเจ้าของร้านนี้เป็นนักสะสม, ลือกันว่าสิ่งของส่วนใหญ่นั้นไม่ได้คิดจะขายแต่แรกอยู่แล้ว]
ไม่ว่าสินค้าชิ้นไหนก็ไม่มีราคาระบุไว้, หากมีของที่อยากได้ก็ต้องต่อรองกับเจ้าของร้านเอาเอง
นอกจากนี้, สิ่งของจากโลกภายนอกส่วนใหญ่จะไม่มีตุนไว้ในโกดัง,
หากไม่ซื้อแล้วถูกคนอื่นตัดหน้าไป, ก็ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไรกว่าจะมีของมาเข้าร้านอีกครั้ง
ทว่า, สุดท้ายแล้วก็จะขายไม่ออก เพราะไม่รู้วิธีใช้
โมริจิกะ รินโนะสุเกะ ผู้เป็นเจ้าของร้านนั้นเป็นคนที่ออกจะพิลึกนิดหน่อย, ไม่ว่าจะกับมนุษย์หรือโยวไคก็ติดต่อคบหาอย่างไม่รังเกียจ
ถ้าจะกล่าวถึงล่ะก็, คนๆนี้เป็นมนุษย์ภูตที่อยู่ตรงกลางระหว่างเผ่าพันธุ์มนุษย์กับโยวไค (เพราะเป็นลูกครึ่งระหว่างมนุษย์กับโยวไค)
หากเขาไม่ทำร้ายมนุษย์แล้วล่ะก็, ตัวเขาก็จะไม่ถูกทำร้ายโดยโยวไคเช่นเดียวกัน*
*2[อาจเป็นเพราะมีนิสัยไม่ชอบสร้างศัตรูก็เป็นได้]
ระยะทางจากหมู่บ้านมนุษย์มายังร้านโควรินโดวจัดว่าไกลพอดู, แถมเป็นที่ที่พวกโยวไคปรากฏตัวออกมาได้ง่ายเสียด้วย
แม้ว่าการเดินทางมาซื้อของเล็กๆน้อยๆจะเป็นเรื่องยากแต่ก็มีของที่น่าสนใจเกินคาดอยู่มากมายทีเดียว
เพียงแต่, เจ้าของร้านเป็นคนที่ชวนคุยได้ไม่จบไม่สิ้น ทางที่ดีควรคุยแต่พอเหมาะแล้วตัดบทหนีออกมาจะดีกว่า
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
ทะเลสาบสายหมอก
{ทะเลสาบสายหมอก}
ระดับความอันตราย : ปานกลาง
โยวไคที่พบเจอ : โยวเซย์, หรือโยวไคที่อาศัยในทะเลสาบ, โยวไคในคฤหาสน์มารแดง
ทะเลสาบขนาดใหญ่ ณ ตีนเขาโยวไค, ซึ่งปกติแล้วจะไม่มีผู้คนเข้าใกล้
บริเวณทะเลสาบแห่งนี้ในยามกลางวันจะมีหมอกปกคลุมไปทั่ว, ทำให้ทัศนวิสัยแย่ลง
ทะเลสาบเป็นที่ที่โยวเซย์หรือโยวไคมารวมตัวกันได้ง่าย, โดยเฉพาะในฤดูร้อนจะมีโยวไคที่ต้องการแหล่งน้ำจำนวนมากมารวมตัวกัน
สาเหตุที่เกิดหมอกขึ้นได้ง่ายเฉพาะในเวลากลางวันนั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด
เนื่องจากทัศนวิสัยไม่ดี, ทำให้แลดูเหมือนทะเลสาบนี้กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา, แต่แท้จริงแล้วคาดกันว่าไม่ได้ใหญ่โตขนาดนั้น
เดินวนรอบหนึ่งยังใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยาม*ด้วยซ้ำ
*1[ประมาณหนึ่งชั่วโมง] (หนึ่งชั่วยามเท่ากับสองชั่วโมง)
นอกจากนี้, ทะเลสาบแห่งนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องที่นานๆครั้งจะสามารถตกปลาขนาดยักษ์ราวกับสัตว์ประหลาดได้*ในคืนวันขึ้นหนึ่งค่ำ
*2[ว่ากันว่าเป็นปลาที่คล้ายปลาคาร์ป โดยมีความยาวประมาณสองถึงห้าจิน]
*2[จากเอกสารที่หลงเหลืออยู่กล่าวว่าตัวใหญ่ที่สุดที่พบคือสิบจิน, ไม่พูดเกินจริงไปหน่อยหรือนั่น]
(1 จิน = 1 ฟาทอม = 6 ฟุต = 1.8288 เมตร)
เหล่านักตกปลามากมายต่างพากันมาตกปลาโดยฝันว่าจะตกปลาสัตว์ประหลาดนั้นให้ได้*
*3[ส่วนใหญ่นั้นจะฝันสลาย, หรือตัวเองถูกโยวไคตกไปกินแทน]
แม่น้ำที่ไหลมายังทะเลสาบแห่งนี้มีต้นน้ำมาจากภูเขาโยวไค
เล่ากันว่านานๆครั้งจะมีกัปปะไหลลอยมากับแม่น้ำ
เมื่อได้เห็นอย่างนั้นแล้วจิตใจจะสงบลง
(ล้อสำนวนญี่ปุ่น "กัปปะลอยมาตามแม่น้ำ" หมายถึง แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังมีโอกาสพลาดได้)
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
ป่าไผ่หลงทาง
{ป่าไผ่หลงทาง}
ระดับความอันตราย : ปานกลาง
โยวไคที่พบเจอ : โยวจูว และอื่นๆ
เมื่อมองจากหมู่บ้านมนุษย์จะพบว่ามีอะไรสักอย่างที่กว้างใหญ่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับภูเขาโยวไคอย่างพอดิบพอดี นั่นล่ะคือ ป่าไผ่หลงทาง
ป่าไผ่นั้นมีของที่พอจะใช้เป็นสัญลักษณ์หรือจุดสังเกตได้ค่อนข้างน้อย
นอกจากนี้การเติบโตของต้นไผ่ยังรวดเร็วจนทิวทัศน์เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ, ทำให้หลงทางได้อย่างแน่นอน
ไม่เพียงกว้างใหญ่เท่านั้น พื้นดินบริเวณนั้นยังลาดเอียงเล็กน้อยอีกด้วย
ต้นไผ่จึงงอกขึ้นเฉียงๆ ทำให้ประสาทสัมผัสด้านการทรงตัวของเราผิดเพี้ยนไป, แม้จะตั้งใจเดินไปตรงๆแต่ก็จะวนกลับมาที่เดิมโดยไม่รู้สึกตัว
ยิ่งไปกว่านั้น, ป่าไผ่นี้ยังเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าสัตว์ป่าที่กลายเป็นโยวไคมาอาศัยตั้งรกราก, จึงไม่ใช่สถานที่ที่มนุษย์ธรรมดาควรเดินทางไป*
*1[แต่ว่าหน่อไม้ที่นั่นอร่อยมาก]
เพียงแต่, ว่ากันว่าป่าไผ่นี้มีหลายสิ่งหลายอย่างถูกซ่อนอยู่
ก่อนอื่นเลย, สิ่งที่มีอยู่อย่างแน่นอนก็คือเรือนไม้อันเงียบงันซึ่งถูกขนานนามว่า เอย์เอนเทย์ (เรือนนิรันดร์)
เรือนไม้แห่งนี้เป็นที่อาศัยของกระต่ายและมนุษย์ผู้มากด้วยปริศนา
อื่นๆก็เช่น มีผู้ค้นพบต้นไผ่ที่ส่องแสงประหลาด, หรือที่พักแรมของนกกระจอกตัวน้อย,
ทุ่งดอกไม้ไผ่ที่จะบานทุกๆหกสิบปี, และยังมีการรายงานด้วยว่าพบโลกใต้ดินของโยวไคใต้รากของต้นไผ่*
*2[แม้ความน่าเชื่อถือจะต่ำ, แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีทางอื่นนอกจากลองตรวจสอบดู] (และก็กลายเป็นสถานที่ทำศึกของภาค 11 ในที่สุด)
(ที่พักแรมของนกกระจอกตัวน้อย... ล้อนิทานญี่ปุ่นเรื่อง นกกระจอกลิ้นด้วน)
จะอย่างไรก็แล้วแต่, นอกจากนักเก็บหน่อไม้ผู้เชี่ยวชาญแล้ว, คนอื่นไม่ควรย่างเท้าเข้าไปในป่าไผ่แห่งนี้
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
ป่าเวทมนตร์
{ป่าเวทมนตร์}
ระดับความอันตราย : ปานกลาง
โยวไคที่พบเจอ : โยวจูว, จอมเวท และอื่นๆ
ป่าเวทมนตร์, ป่าตามธรรมชาติซึ่งมีผู้คนเพียงน้อยนิดที่คิดจะย่างกรายเข้าไป และสถานที่ที่มีความชื้นสูงที่สุดในเกนโซวเคียว*
*1[เกนโซวเคียวเองก็ไม่ได้กว้างใหญ่มากนัก, ยังจะอุตส่าห์ตั้งชื่อสถานที่ต่างๆกันขึ้นมาทั้งที่ไม่ค่อยจำเป็น]
*1[โดยทั่วไปแล้วหากพูดถึงป่าก็หมายถึงป่าเวทมนตร์, หากพูดถึงหมู่บ้านก็หมายถึงหมู่บ้านมนุษย์, หากพูดถึงภูเขาก็หมายถึงภูเขาโยวไค นั่นเอง]
ระยะทางจากหมู่บ้านมนุษย์นั้นเปรียบเทียบแล้วจัดว่าดีกว่าที่อื่น แต่ว่าสภาพแวดล้อมภายในป่านั้นเลวร้ายที่สุดสำหรับมนุษย์
สปอร์เห็ดประหลาดกระจายฟุ้งในอากาศไปทั่ว, มนุษย์ธรรมดาเพียงสูดเข้าไปก็ถูกทำลายสุขภาพได้
แต่ก็จัดว่าเป็นลักษณะเด่นของมันที่แม้แต่โยวไคยังไม่อยากเข้าใกล้เกินจำเป็น, เนื่องจากโยวไคทั่วๆไปนั้นก็มีความรู้สึกไม่ดีต่อสถานที่แบบนั้นเช่นกัน
ดังนั้น, หากท่านสามารถทนต่อพิษที่เห็ดประหลาดปล่อยออกมาได้ อาจกล่าวกลับกันได้ว่าที่นี่เป็นสถานที่ปลอดภัยเหมือนมีผ้าคลุมล่องหนเลยทีเดียว
แสงแดดมักส่องลงมาไม่ถึงผิวดินของป่าแห่งนี้, จึงทั้งมืดมิดและชื้นแฉะ
ดังนั้น, พวกเห็ดจึงเติบโตกันได้อย่างไร้ขีดจำกัด
แม้ว่าเห็ดของที่นี่จะเอามาใช้เป็นอาหารสำหรับมนุษย์ได้, แต่ลักษณะภายนอกของมันไม่ค่อยน่าโสภาเท่าใดนัก
อีกทั้ง, เมื่อเปรียบเทียบปริมาณกันแล้วจะพบว่ามีเห็ดที่มีฤทธิ์หลอนประสาทอยู่มากมายทีเดียว
แต่แรกเริ่มเดิมที ที่ป่าแห่งนี้ถูกขนานนามว่าป่าเวทมนตร์นั้น, ก็เป็นเพราะมีเจ้าเห็ดหลอนประสาทพวกนี้งอกงามอยู่นั่นเอง
เพียงแค่มีเห็ดชนิดนี้อยู่ใกล้ตัวก็จะเห็นภาพหลอนราวกับโดนเวทมนตร์คุณไสย
นอกจากนี้, ฤทธิ์หลอนประสาทของเห็ดเหล่านี้ยังช่วยเพิ่มพูนพลังเวทของจอมเวทได้อีกด้วย, จึงมีจอมเวทจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
ภูเขาโยวไค
{ภูเขาโยวไค}
ระดับความอันตราย : สูง
โยวไคที่พบเจอ : เทนกุ, กัปปะ และอื่นๆ
ภูเขาโยวไค, สถานที่อาศัยของโยวไคมากมายที่ตั้งรกรากบนผืนดินแห่งนี้มาตั้งแต่อดีตกาลนานกว่ามนุษย์
ตามปกตินั้น, หากพูดถึงคำว่า ภูเขา เฉยๆก็แสดงว่าหมายถึง ภูเขาโยวไค แห่งนี้นั่นเอง
เหล่าโยวไคที่อาศัยอยู่ ณ ที่นี้, ได้ก่อร่างสร้างสังคมที่แตกต่างจากมนุษย์และโยวไคที่ตีนเขา
และยังรับผิดชอบดูแลขั้วหนึ่งของสมดุลพลังแห่งเกนโซวเคียว
โดยเฉพาะเทนกุและกัปปะนั้นมีศิลปวิทยาการที่ไม่ด้อยไปกว่าโลกภายนอกอยู่*, ด้วยเหตุนี้เองจึงไม่มีโยวไคตนใดกล้าบุกรุกภูเขาแห่งนี้
*1[เทนกุมีเทคโนโลยีการถ่ายภาพ, การพิมพ์อักษร, และการตีพิมพ์หนังสือ]
*1[กัปปะมีเทคโนโลยีเหล็กกล้า, การก่อสร้าง, และการผลิตเครื่องมือต่างๆ]
โยวไคบนภูเขานั้นไม่ว่าจะเปรียบเทียบกับเผ่าพันธุ์ใดในเกนโซวเคียวก็มีความสดใสร่าเริงและรักพวกพ้องยิ่งกว่า
เมื่อรวมกับเทคโนโลยีอันสูงส่งด้วยแล้ว ทำให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างอุดมสมบูรณ์พูนสุขราวกับยุคอนาคตเลยทีเดียว
เพียงแต่, ความสามัคคีที่สูงล้ำอันนั้น, ทำให้ต่อต้านคนแปลกหน้าอย่างรุนแรง
โดยเฉพาะกับผู้บุกรุกอาณาเขตภูเขาด้วยแล้ว, จะบุกมาขับไล่อย่างสุดกำลังโดยไม่ทันให้ตั้งตัวเลยทีเดียว
ด้วยเหตุนี้เอง, สภาพที่แท้จริงของภูเขาจึงยังคงเป็นปริศนาอยู่มาก
มีข่าวลือว่า, ส่วนในของภูเขามีโพรงขนาดใหญ่อยู่, ว่ากันว่ากำลังก่อสร้างสวนสวรรค์แห่งอนาคตที่ทัดเทียมกับโลกภายนอกอยู่*
*2[พอได้อ่านหนังสือพิมพ์ของเทนกุ ก็รู้สึกว่าไม่เลวเลยทีเดียว]
ที่แห่งนั้นได้รับแสงอาทิตย์ตลอดวัน
สร้างสรรค์สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพออกมาด้วยโรงงานที่ถูกดัดแปลงให้ทำงานอัตโนมัติ
เหล่าโยวไคต่างใช้ชีวิตกันอย่างสนุกสนาน, ดื่มเหล้าไปพลางอ่านหนังสือพิมพ์ไปพลาง แล้วพูดคุยกันถึงเนื้อหาข่าวที่อยู่ในนั้น
ภายในโพรงนั้น, ได้ทำเรื่องต้องห้ามลงไปคือ การเปิดรูของเขตแดน
ทำให้เกิดจุดที่เชื่อมโยงกับโลกภายนอกได้ จึงไม่ยอมให้มนุษย์หรือโยวไคอื่นๆเข้าใกล้
เล่าลือกันมาเพียงเท่านี้... ...
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
ถนนครึ่งเป็น
{ถนนครึ่งเป็น}
ระดับความอันตราย : ต่ำ
โยวไคที่พบเจอ : ยูวเรย์, โบวเรย์ และอื่นๆ
ด้านหลังของภูเขานั้นมีแม่น้ำซันสึไหลผ่าน, แต่การจะไปยังแม่น้ำนั้น ต้องใช้ถนนที่ตัดไปจนถึงแม่น้ำเท่านั้น และนั่นก็คือ ถนนครึ่งเป็น นั่นเอง
(ครึ่งเป็น คือช่วงเวลา 49 วันหลังความตายซึ่งเมื่อครบกำหนดก็จะได้รับการตัดสินจากยมบาล โดยระหว่างนั้นยังมีโอกาสที่จะฟื้นคืนชีพได้)
หากไม่ผ่านมาตามถนนเส้นนี้, ก็ไม่สามารถเดินทางไปถึงแม่น้ำซันสึได้
ถนนเส้นนี้แม้แต่คนเป็นก็สามารถมาเดินได้, แต่โดยพื้นฐานแล้วเป็นถนนที่มีไว้เพื่อให้คนตายมุ่งหน้าไปสู่แม่น้ำต่างหาก
แม้จะเชื่อกันว่าถนนสำหรับคนตายนั้นต้องเงียบเหงาอ้างว้างอย่างแน่นอน, แต่ที่จริงแล้วมิได้เป็นเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อย
ตามถนนมีการออกร้านแผงลอย*สำหรับคนตายตั้งเรียงรายกันอยู่, คึกคักจอแจราวกับวันพระก็มิปานเลยเชียว*
*1[ร้านช้อนปลาทองไร้ชีพ, ร้านบอนบอนวิญญาณมนุษย์ เป็นต้น]
*2[คนที่นึกถึงความสนุกของการมีชีวิตขึ้นมาได้, แล้วกลับบ้านไปฟื้นคืนชีพก็มี]
(บอนบอน คือ ลูกโป่งน้ำผูกเชือกแล้วนำปลายเชือกมาสวมที่นิ้ว เล่นเหมือนโยโย่เด้งดึ๋ง แต่ในที่นี้เปลี่ยนจากลูกโป่งน้ำมาใช้วิญญาณมนุษย์แทน)
(วันพระ เป็นวันที่ทางวัดหรือศาลเจ้าจะจัดงานเทศกาลขึ้น และมีการออกร้านแผงลอยมากมาย)
พวกที่ยังมีชีวิตที่ชื่นชอบงานเทศกาลก็มาเยือนที่นี่บ่อยๆ
สาเหตุที่ต้องมาออกร้านแผงลอยบนถนนสำหรับคนตายอย่างนี้, ก็เพราะเศรษฐกิจของนรกอยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยน่ายินดีเท่าใดนักนั่นเอง
ค่าจ้างพายเรือข้ามฟากแม่น้ำซันสึอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ จึงต้องหาหนทางอื่นที่จะช่วยหาเงินเพิ่มขึ้นได้แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี
เป็นผลให้มีการเปิดร้านแผงลอยบนถนนครึ่งเป็นแห่งนี้ในที่สุด
ผลลัพธ์ที่ได้นั้น, แม้จะเล็กน้อยแต่ก็เป็นรายรับที่ได้มาจากผู้ที่ยังมีชีวิต, และผู้ที่ไม่ตกนรก
ทว่า, ผู้ที่มาเปิดร้านนั้นเป็นอาชญากรที่ต้องตกนรก, ทั้งอย่างนั้นแล้วก็ยังมีหลายคนที่ฉ้อโกงอยู่อีก*
*3[ถูกจับได้เมื่อไหร่ก็ต้องตกนรกไปอีกรอบทันที, เหมือนกับมีข้อสอบจบการศึกษาจากขุมนรกเลยแฮะ]
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
แม่น้ำซันสึ
{แม่น้ำซันสึ}
ระดับความอันตราย : สูง
โยวไคที่พบเจอ : ยูวเรย์, โบวเรย์, ยมทูต และอื่นๆ
สามารถเดินทางจากด้านหลังของภูเขาไปถึงได้, เป็นแม่น้ำที่ไม่ต้องพูดก็รู้กันว่าคอยกั้นแบ่งชิกัน(โลกนี้)ออกจากฮิกัน(โลกหน้า)*
*1[อันที่จริง สถานที่ที่แม่น้ำไหลอยู่นั้นไม่ใช่เกนโซวเคียว, จึงแนะนำสถานที่ที่เดินทางจากเกนโซวเคียวไปถึงได้แทน]
ฝั่งเกนโซวเคียวเป็นชิกัน, อีกฟากของแม่น้ำเป็นฮิกัน
ว่ากันว่าแม่น้ำสายนี้เป็นที่อยู่อาศัยของปลาที่สูญพันธุ์ไปแล้ว, แต่ทั้งหมดล้วนเป็นเพียงยูวเรย์
จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ไม่สามารถตกขึ้นมาได้
แม่น้ำสายนี้มีหมอกหนาทึบปกคลุมอยู่เสมอ, ไม่มีทั้งกลางวันและกลางคืน
ยิ่งกว่านั้น, หมอกเหล่านี้ยังเปล่งประกายระยิบระยับเล็กน้อยอีกด้วย
โขดหินแหลมคมที่มีตะไคร่หนาจับพากันเสียดแทงขึ้นมาจากแม่น้ำเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน, ช่างเป็นทิวทัศน์ที่ทำให้รู้สึกถึงต่างโลกโดยแท้
และเนื่องจากไม่สามารถว่ายน้ำข้ามฝั่งไปได้*, จึงต้องนั่งเรือของยมทูตเท่านั้น
*2[ร่างกายจะไม่ลอยน้ำโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงว่ายน้ำไม่ได้, เรืออื่นใดที่ไม่ใช่เรือของยมทูตก็จะจมลงไปหมดเช่นกัน]
ทว่า, ยมทูตนั้นจะเรียกร้องเอาเงินค่าจ้างแพงอย่างบ้าบอที่สุด, ทำให้ในความเป็นจริงนั้น ผู้ยังมีชีวิตจะไม่สามารถข้ามแม่น้ำไปได้เลย*
*3[ทรัพย์สินทั้งหมดยังมีค่าน้อยกว่าคนตาย]
เมื่อได้ข้ามแม่น้ำไปแล้ว, จะไม่สามารถกลับมาได้อีกจนกว่าจะถึงเวลากลับชาติมาเกิดใหม่
และไม่มีผู้ใดข้ามไปได้ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่
กระแสน้ำไหลเอื่อยช้า, เสียงก็แทบไม่มี จึงเป็นสถานที่ที่เงียบงัน
บางครั้งก็จะได้ยินเสียงเพลงของยมทูตผู้ร่าเริงสดใสแว่วมา, ทว่าเสียงของสิ่งมีชีวิตอื่นใดนั้นไม่มี
แม้เรือจะแล่นไปข้างหน้า แต่ว่าไม่มีกระทั่งเสียงน้ำ ช่างน่าพิศวงดีแท้
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
ทุ่งดวงตะวัน
{ทุ่งดวงตะวัน}
ระดับความอันตราย : ปานกลาง
โยวไคที่พบเจอ : โยวเซย์ และอื่นๆ
ในช่วงฤดูร้อน, ตรงข้ามกับภูเขาโยวไค ลึกเข้าไปในแผ่นดินของเกนโซวเคียว
มีที่ซึ่งทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ สว่างจ้าสดใสด้วยสีเหลืองเรืองรองจนนัยน์ตาพร่ามัว
ที่แห่งนั้นมีทุ่งหญ้าซึ่งถูกเรียกขานว่า ทุ่งดวงตะวัน, ซึ่งตัวจริงของสีเหลืองนั้นก็คือดอกทานตะวันจำนวนมหาศาลนั่นเอง
ทุ่งดวงตะวันมีลักษณะเป็นแอ่งลงไปทางทิศใต้เล็กน้อย, เมื่อมองจากไกลๆจึงพบเห็นได้ยาก
จากหมู่บ้านมนุษย์มายังทุ่งดวงตะวันแห่งนี้ จัดว่ามีระยะทางพอสมควร, แต่ก็มีค่าควรแก่การมาชื่นชมความงามของที่นี่สักครั้งหนึ่ง
เพียงแต่, ในยามราตรี ทุ่งดอกทานตะวันแห่งนี้มักจะกลายเป็นสถานที่ชุมนุมจัดงานคอนเสิร์ทฤดูร้อนของเหล่าโยวไคผู้สดใสร่าเริง
หากไม่ระวังหลงปนเข้าไปในนั้นก็จะถูกโยวไคจำนวนมากล้อมกรอบทันทีเลยล่ะ*
*1[ระหว่างงานคอนเสิร์ทน่ะอาจจะไม่เป็นอะไร แต่ว่าขากลับคงน่ากลัวพิลึก, อีกอย่าง, วงดนตรีปริซึมริเวอร์น่ะมักจะมาจัดการแสดงสดที่นี่ด้วยล่ะ]
เหล่าดอกทานตะวันนั้นก็เป็นเพียงดอกทานตะวันธรรมดาที่แสนจะธรรมดานี่ล่ะ, ในช่วงกลางวันเหล่าโยวเซย์ก็จะมาใช้เป็นจุดอาบแดดชั้นเลิศ
หากมุ่งหน้ามายังที่แห่งนี้ในช่วงกลางวัน, ก็จะถูกโยวเซย์จำนวนมากแกล้งแหย่กวนใจเอาได้, เลยอยากจะหลบมาเฝ้ามองจากที่ไกลๆเสียมากกว่า
ดอกทานตะวันของที่นี่จะหันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์อยู่เสมอ
แต่นั่นเป็นเพียงเพราะเหล่าโยวเซย์ที่ซ่อนตัวอยู่หลังดอกทานตะวันจับหันหน้าเล่นเท่านั้นเอง*
*2[กรณีที่ว่า เมื่อดอกทานตะวันได้ยินเสียงเพลงแล้วจะเต้นรำ ก็เช่นเดียวกัน]
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
บึงคางคกยักษ์
{บึงคางคกยักษ์}
ระดับความอันตราย : ปานกลาง
โยวไคที่พบเจอ : คางคกยักษ์ และอื่นๆ
บึงขนาดเล็กที่ตั้งอยู่กลางภูเขาโยวไค
บริเวณทางเข้านั้น, อยู่ภายในของภูเขาจึงเข้าใกล้ได้ยาก
ว่ากันว่าน้ำจากบึงนี้เป็นวารีเทพที่มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์เห็นผลชัดถนัดตา, เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับความเชื่อเรื่องเทพเทวดาอย่างขาดเสียมิได้
ในบึงมีคางคกขนาดยักษ์อาศัยอยู่, ว่ากันว่าตัวใหญ่จนสามารถกลืนเด็กมนุษย์ทั้งตัวได้ในอึกเดียว
เล่ากันว่ามันคอยปกป้องบึงนี้จากผู้ที่มาลบหลู่ดูหมิ่นหรือบุกรุกมาก่อกวนในบริเวณบึงนี้
ขอเพียงไม่ลบหลู่สถานที่ คางคกยักษ์ก็จะไม่ก้าวร้าวเข้าใส่
หากถวายเครื่องเซ่นกำนัลให้ คางคกยักษ์ก็จะรับประกันความปลอดภัยในการเดินทางกลับให้ด้วย*
*1[หากสังเกตดูดีๆ, ระหว่างทางกลับจะมีคางคกธรรมดาตามหลังเรามาด้วย]
*1[การที่มีคางคกตามมาส่งนี้เป็นหลักฐานยืนยันว่าได้รับความคุ้มครองจากคางคกยักษ์แล้ว, พวกโยวไคภูเขาก็จะไม่มายุ่งวุ่นวายด้วย]
บึงแห่งนี้มีดอกบัวที่แสนจะงดงาม
เมื่อดอกบัวและใบบัวที่ลอยอยู่บนผิวน้ำได้ต้องแสงตะวันซึ่งลอดผ่านใบไม้ลงมา, จะยิ่งช่วยเน้นย้ำความลึกลับของบึงแห่งนี้ให้มากยิ่งขึ้น
ที่ริมบึงมีศาลพระภูมิขนาดเล็กตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว
ผู้ใดสร้างขึ้นเมื่อไรเพื่อจุดประสงค์ใดนั้นได้ถูกหลงลืมไปนานแล้ว, แต่มนุษย์ก็ยังนำเครื่องเซ่นมาถวายอยู่เป็นประจำ
พอเห็นว่าเครื่องเซ่นที่วางไว้หายไปในบัดดล, ก็อดคิดไม่ได้ว่าที่นี่จะต้องมีอะไรสักอย่างถูกสักการบูชาอยู่อย่างแน่นอน*
*2[ถึงจะมีข่าวลือว่าเทนกุมาโฉบเอาเครื่องเซ่นไปก็เถอะ]
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
เนินนิรนาม
{เนินนิรนาม}
ระดับความอันตราย : ปานกลาง
โยวไคที่พบเจอ : โยวเซย์, ยูวเรย์ และอื่นๆ
ทิศทางตรงข้ามพอดีกับภูเขาโยวไคจะมีภูเขาเตี้ยๆอยู่, กลางภูเขาลูกนั้นมีทุ่งหญ้าซึ่งดอกสุซุรัน(ลิลลี่ภูเขา)บานสะพรั่งอยู่เป็นจำนวนมาก
ไม่รู้ว่าเหตุใดจึงเหมือนกับถูกซ่อนเร้นตัวตนจากหมู่บ้านมนุษย์
แสงแดดส่องถึงไม่มากเท่าไร, ทั้งยังมีอากาศถ่ายเทสะดวก, และอุณหภูมิก็ไม่สูงเกินไปนัก
สาเหตุที่ทุ่งดอกสุซุรันแห่งนี้ถูกเรียกว่า เนินนิรนาม
เป็นเพราะเมื่อก่อนนั้น ที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่ฆ่าลูกของตนที่เลี้ยงไม่ไหวเนื่องจากฐานะยากจนนั่นเอง*
*1[เป็นเรื่องเมื่อสมัยที่เกนโซวเคียวยังสามารถไปมาหาสู่กับโลกภายนอกได้อย่างอิสระ, แน่นอนว่าปัจจุบันนี้ไม่มีการกระทำเช่นนั้นแล้ว]
เด็กๆที่ไม่ได้รับการตั้งชื่อนั้นต่างสิ้นชีพกันไป ราวกับหลับอยู่ภายในพิษของดอกสุซุรันก็มิปาน
ศพของเด็กเหล่านั้นล้วนถูกโยวไคเก็บกวาดจัดการจนหายไปไม่เหลือแม้แต่ซาก
แต่ว่า, หากเด็กที่ถูกทิ้งไว้ที่นี่เกิดถูกโยวไคผู้ชื่นชอบการกลั่นแกล้งลักพาตัวไปทั้งยังมีชีวิตอยู่, ก็จะได้รับการเลี้ยงดูและเติบโตขึ้นมาในฐานะโยวไค
เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ทางฝ่ายพ่อแม่เองก็ไม่อยากเห็นสภาพตอนตายของลูกของตน (กล่าวคือ ไม่กล้าฆ่าเองกับมือ)
จึงนำมาทิ้งไว้ที่นี่แล้วพยายามเชื่อว่าลูกของตนอาจจะยังมีชีวิตอยู่ แม้จะกลายเป็นโยวไคไปแล้วก็ตาม
อาจเป็นเพราะมีอดีตที่ดำมืดเช่นนั้น, ปัจจุบันจึงแทบไม่มีมนุษย์คนใดย่างกรายเข้าใกล้ที่แห่งนี้
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่แม้แต่โยวไคก็ไม่เข้ามาใกล้ที่นี่เช่นกัน, ปัจจุบันจึงเป็นสถานที่ที่ค่อยๆถูกหลงลืมไปจากเกนโซวเคียว
กลายเป็นเนินที่ 『นิรนาม』 ตามตัวอักษรนั้น*
*2[พูดได้เยี่ยมไปเลยแฮะเรา]
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
คฤหาสน์มารแดง
{คฤหาสน์มารแดง}
ระดับความอันตราย : สูง
โยวไคที่พบเจอ : ผีดูดเลือด, จอมเวท และอื่นๆ
อาคารแบบตะวันตกที่มีหน้าต่างสีแดงเข้มอยู่ไม่มาก, ตั้งอยู่ ณ ริมฝั่งทะเลสาบสายหมอก
แม้ไม่พูดก็รู้กันดีว่าที่นี่เป็นที่อาศัยของปิศาจ
คงเพราะพวกเธอย้ายจากโลกภายนอก เข้ามาสู่เกนโซวเคียวพร้อมกับคฤหาสน์ทั้งหลัง, จึงแลดูขัดตา ไม่เข้ากับทิวทัศน์โดยรอบอย่างรุนแรง
ผู้อาศัยในคฤหาสน์มารแดงนั้นใช้ชีวิตกันอย่างสนุกสนานคึกคักบนความหรูหราโดดเด่น
มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว, แตกต่างจากวัฒนธรรมของโยวไคอื่นๆและมนุษย์
ภายในคฤหาสน์มีเมดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก, พร้อมสรรพสำหรับทุกงานบ้าน ทั้งทำความสะอาด, ทำอาหาร, ซักผ้า และเฝ้ายาม...
...ก็อยากจะพูดอย่างนั้นอยู่เหมือนกัน, แต่ในความเป็นจริงแล้ว ว่ากันว่า ทุกคนสักแต่ว่าเป็นเมดเท่านั้น ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากนัก*
*1[เมดส่วนใหญ่เป็นพวกโยวเซย์, ซึ่งจะไม่ทำงานที่ตัวเองไม่อยากทำ. จึงต้องเน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ]
ภายในคฤหาสน์มารแดงนั้นกว้างขวางกว่ารูปลักษณ์ภายนอกเยอะ, ชั้นใต้ดินก็มีด้วย, จัดว่ามีความซับซ้อนอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ยังมีห้องอีกมากมายที่ไม่มีหน้าต่าง, ทำให้ภายในอาคารยิ่งซับซ้อนมากขึ้น
ชั้นใต้ดินนั้นเป็นที่ตั้งของ ไดโทโชคัน(มหาหอสมุด) ซึ่งว่ากันว่าเป็นแหล่งรวมหนังสือที่มากมายที่สุดในเกนโซวเคียว
ทว่า, โดยทั่วไปแล้วจะไม่เปิดให้เข้าใช้โดยสาธารณะ, จึงไม่อาจทราบได้ว่ามีหนังสือประเภทใดอยู่บ้าง*
*2[ว่ากันว่าเต็มไปด้วยตำราเวทที่เก็บมาได้, ตำราเวทที่แพชูลี่แต่งขึ้น และหนังสือจากโลกภายนอก]
บนหลังคามีหอนาฬิกาพร้อมระฆังตั้งตระหง่านอยู่, แต่ระฆังนี้จะลั่นร้องในเวลาเที่ยงคืนเท่านั้น
เพราะว่าช่วงเวลาทำกิจกรรมหลักๆของที่นี่คือเที่ยงคืนเท่านั้นนั่นเอง
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
โลกวิญญาณ
{โลกวิญญาณ}
ระดับความอันตราย : สูง
โยวไคที่พบเจอ : ยูวเรย์, โบวเรย์ และอื่นๆ
เมื่อมนุษย์สิ้นชีพลง, วิญญาณของคนผู้นั้นจะเดินทางผ่านถนนครึ่งเป็น, ข้ามแม่น้ำซันสึ, รับการตัดสินจากยมบาล
แล้วจะได้ทราบจุดหมายปลายทางว่าจะได้ไปยังนรก หรือโลกวิญญาณ หรือสวรรค์ โดยขึ้นอยู่กับน้ำหนักของบาปที่เคยทำมา
ในส่วนของโลกวิญญาณนั้น, เป็นโลกที่เหล่าผู้ตายซึ่งไร้ความผิดจะมาใช้เวลาในฐานะยูวเรย์จนกว่าจะสำเร็จนิพพานหรือได้กลับชาติไปเกิดใหม่
แม้ที่นี่จะเงียบงันแต่ก็มีฤดูทั้งสี่ครบสมบูรณ์, ต่างจากนรกซึ่งรกร้างว่างเปล่า
ฤดูใบไม้ผลิก็จะอุดมไปด้วยซากุระที่งดงาม, ฤดูใบไม้ร่วงก็ถูกย้อมให้สวยงามด้วยโมมิจิ
(โมมิจิ คือ ใบไม้ที่เปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีเหลืองหรือแดงในช่วงฤดูใบไม้ร่วง มีความงดงามเป็นอย่างมาก)
เพียงแต่, โดยพื้นฐานแล้วไม่ว่าจะเป็นแมลง, นก, หรือสัตว์ที่อาศัยอยู่ที่นั่นล้วนแต่ตายไปแล้วทั้งสิ้น
เสียงร้องก็ไม่มี, แต่ยังคงโบยบินไปบนฟ้าอย่างงดงามและเงียบงัน
เนื่องจากความงดงามที่มากจนเกินไป, จึงมียูวเรย์ไม่น้อยเลยที่ยึดติดกับที่นี่จนลืมที่จะนิพพานหรือกลับชาติไปเกิดใหม่*
*1[เมื่อนิพพานได้สำเร็จก็จะสามารถไปยังสวรรค์ได้, แต่ได้ยินมาว่าสวรรค์อยู่ในสภาพอิ่มตัวเต็มที่แล้ว, ปัจจุบันการนิพพานจึงถูกจำกัด]
โดยปกติแล้วควรจะเป็นโลกของผู้ตายเท่านั้น, แต่ระยะนี้มีรูเปิดที่เขตแดนระหว่างโลกนี้กับโลกวิญญาณ, จึงไปมาหาสู่กันได้โดยสะดวก
โลกวิญญาณจึงเป็นสถานที่ชมดอกไม้เลื่องชื่อในหมู่ผู้ที่รู้จักที่นี่
นอกจากนี้, โลกวิญญาณยังมี ฮาคุเกียคุโรว(ตำหนักหยกขาว) ซึ่งเป็นเรือนไม้ที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารอย่างไม่น่าเชื่ออยู่
ล้อมรอบด้วยกำแพงรั้วและบันไดที่ใช้การออกแบบก่อสร้างจากแผ่นดินใหญ่ที่ไหนสักแห่ง (หมายถึงประเทศจีน)
ณ ทำเลที่สูงที่สุด เป็นที่ตั้งของเรือนไม้แบบญี่ปุ่นพร้อมด้วยสวนหินเซน, นับเป็นเคหสถานที่งดงามยิ่ง
(สวนหินเซน เป็นสวนหินแห้งที่ประดับด้วยหินกรวดโรยพื้นและหินใหญ่ตั้งเป็นจุดๆ มีต้นไม้ปลูกเป็นแห่งๆ)
(นิยมสร้างกันในญี่ปุ่นและจีน บ้างก็เรียกว่า สวนหินญี่ปุ่น หรือ สวนหินจีน)
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
ตำหนักหยกขาว
{ตำหนักหยกขาว}
ระดับความอันตราย : สูง
โยวไคที่พบเจอ : ยูวเรย์, โบวเรย์ และอื่นๆ
ตำหนักหยกขาว, ตั้งอยู่ในโลกวิญญาณ, เป็นเรือนไม้ที่มีสวนกว้างขวางอย่างไม่น่าเชื่อ
ตระกูลไซเกียวจิเป็นเจ้าของที่แห่งนี้, รวมทั้งสวนอันกว้างใหญ่ที่ปลูกต้นซากุระเอาไว้เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน*
*1[ภายในนั้นมีทั้งโยวไคซาคุระ, และยูวเรย์ของต้นซากุระปะปนกันไป]
หากนับถึงแค่สวนล่ะก็ ปัจจุบันได้เปิดให้เข้าชมโดยทั่วกันแล้ว, สวนแห่งนี้จึงเนืองแน่นไปด้วยเหล่ายูวเรย์ที่เดินทางมาลิ้มรสความงดงามตระการตา
สำหรับโลกวิญญาณนั้น ตระกูลไซเกียวจิถือเป็นตระกูลพิเศษ
เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียง ซึ่งได้รับอนุญาตให้ตั้งรกรากถาวรอยู่ในโลกวิญญาณร่วมกับเหล่าซากุระแห่งโลกวิญญาณ
โดยใช้ตำหนักหยกขาวนี้เป็นที่ควบคุมดูแลเหล่ายูวเรย์ในโลกวิญญาณนั่นเอง
เนื่องจากภายในอาคารมิได้เปิดให้เข้าชมโดยสาธารณะ, จึงไม่ทราบถึงรายละเอียด
แต่เล่ากันว่า ส่วนของวิหารนั้นจะล้อมรอบสวนกลางของสวนหินเซนในลักษณะคล้ายตัวอักษร コ (ดังภาพ)
(สวนกลาง หมายถึง สวนที่อยู่ระหว่างอาคารมากกว่าสองอาคาร หรืออาคารเดี่ยวที่มีลักษณะมากกว่าสองด้านขึ้นไป ซึ่ง コ นั้นมีสามด้าน)
เมื่อเปิดประตูบานเลื่อนจากห้องโถงใหญ่, จะพบสวนกลางซึ่งวางระเรียงระรายด้วยหินกรวดและต้นสนที่ถูกปลูกขึ้นอย่างวิจิตรงดงาม
หากมองลึกเข้าไปอีกจะเห็นรั้วที่ไม่สูงนัก, สามารถมองข้ามรั้วไปเห็นสวนซากุระที่กว้างใหญ่ได้
เมื่อมองจากห้องโถง, โดยตัดพื้นและผนังและเพดานออกไป, จะสามารถเห็นสิ่งที่งดงามราวกับฉากกั้นลมขนาดใหญ่ได้
(ฉากกั้นลม คือ แผ่นไม้พับได้ที่มักเห็นในห้องของผู้สูงศักดิ์ เมื่อกางออกในลักษณะหยักๆแล้วจะสามารถตั้งได้)
(บนฉากนี้นิยมวาดภาพประดับไว้ ซึ่งมีความงดงามเป็นอย่างมาก บางรูปวาดได้เหมือนจริงราวกับมีชีวิต)
หากได้ทอดสายตามองทิวทัศน์ภายนอกจากที่ตรงนี้ในฤดูใบไม้ผลิ, คงเผลอเอ่ยเอื้อนว่าความงดงามที่ปรากฏนั้นไม่ใช่สิ่งที่มีจริงบนโลกนี้เป็นแน่*
*2[ไม่สิ, ไม่ใช่จริงๆนั่นล่ะ] (ก็ที่นี่มันโลกวิญญาณนี่นา)
Tips :
- ที่มาของตำหนักหยกขาว
ต้นตำรับของตำหนักนี้ มาจากตำนานของประเทศจีน ในสมัยราชวงศ์ถัง
ในสมัยนั้นมีกวีหนุ่มนายหนึ่ง นาม 李賀 Li He
เขาได้แต่งบทกวีขึ้นมามากมายถึงกว่า 240 บท และเป็นที่ชื่นชอบของผู้คน จากนั้นก็ได้เข้าสอบจอหงวน แต่สอบตก
หลังจากนั้นชีวิตของเขาก็ไม่ราบรื่นนักจนจบชีวิตลงด้วยวัยเพียง 27 ปี
ตอนที่กำลังจะตาย เขาได้ยินเสียงในความฝันว่า "ตำหนักหยกขาวได้ถูกสร้างจนสมบูรณ์แล้ว จงมาร่วมกันพรรณนาความงามของมันเถิด"
ในช่วงท้ายของราชวงศ์ถัง บทกวีของเขาถูกค้นพบ และเป็นที่นิยมขึ้นมาอีกครั้งในหมู่นักกวี
แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่ได้รับการยอมรับจากขนบธรรมเนียมประเพณี จึงไม่ถูกกล่าวถึงมากนัก
เขาถูกมองว่าเป็นกวีที่แปลกประหลาด จนได้รับฉายาว่า อสูรกวี
... หากมองจากต้นตำรับ ตำหนักนี้น่าจะมีศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบจีนในสมัยราชวงศ์ถัง ...
หากแต่ท่าน ZUN ได้แก้ไขเล็กน้อย ให้ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นแทน แต่โดยรอบยังคงให้เป็นแบบจีนอยู่
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
เรือนนิรันดร์
{เรือนนิรันดร์}
ระดับความอันตราย : สูง
โยวไคที่พบเจอ : โยวจูว และอื่นๆ
เรือนไม้ปริศนาที่ถูกสร้างอย่างซ่อนเร้นในส่วนลึกของป่าไผ่หลงทาง
การก่อสร้างนั้นมีลักษณะเป็นเรือนไม้แบบญี่ปุ่นที่โบราณมากๆ, แต่ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงไม่เห็นว่าสภาพของมันเก่าแก่ลงเลยแม้แต่น้อย
จะว่าเพราะได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม, หรือเพราะถูกหยุดเวลาเอาไว้อย่างนั้นดีนะ*
*1[เพราะถูกเรียกชื่อว่า นิรันดร์, แนวคิดอย่างหลังจึงน่าจะเข้าเค้ากว่า]
เนื่องจากมันตั้งอยู่ในป่าไผ่หลงทาง, แม้จะอยากไปเยี่ยมเยือนก็คงไม่สามารถหาพบได้ง่ายๆ
แต่ถึงอย่างไรก็ได้ทราบถึงการมีอยู่ของเรือนนี้แล้ว, บางครั้งบางคราวก็มีการเชื้อเชิญแขกไปที่นั่น, เมื่อเร็วๆนี้นี่เอง
แต่ถึงขนาดนั้นแล้วก็ยังไม่มีผู้ใดทราบว่า เหตุใดจึงต้องไปสร้างเรือนในป่าไผ่หลงทาง
ด้วยเหตุนี้เอง, เรือนแห่งนี้จึงยังคงเต็มไปด้วยปริศนามากมาย
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความคิดที่เข้าใจได้ยากของเหล่าผู้อาศัย, สร้างเรือนขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่, คนที่นั่นวันๆทำอะไรกันบ้าง เป็นต้น
สิ่งที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเรือนนี้นั้นก็แทบจะไม่มีเลย
ที่สำคัญ, เราไม่พบเห็นเผ่าพันธุ์อื่นเลย
นอกจากมนุษย์ปริศนาที่ไม่มีการติดต่อแลกเปลี่ยนใดๆกับหมู่บ้าน, และเหล่าโยวไคกระต่ายที่อาศัยอยู่ด้วยกันเท่านั้น
ทว่า, เมื่อเร็วๆนี้ได้มีการจัดงานนิทรรศการที่เรียกว่า 『งานแสดงสรรพสิ่งจากนครจันทรา』 ขึ้น*
เรือนแห่งนี้เองก็ค่อยๆเปิดกว้างออกทีละน้อยทีละน้อย
*2[เพียงแต่, มีคนน้อยคนนักที่ดั้นด้นไปจนถึงเรือนนิรันดร์ได้]
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
นครจันทรา
{นครจันทรา}
ระดับความอันตราย : ไม่แน่ชัด
โยวไคที่พบเจอ : ไม่แน่ชัด
มิได้ตั้งอยู่ในเกนโซวเคียว, แต่ไหนๆก็แนะนำให้รู้จักเรือนนิรันดร์ไปแล้ว ก็จะขอแนะนำนครจันทราให้เป็นที่รู้จักด้วย
ทั้งนี้เพราะนครจันทรามีความเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับเรือนนิรันดร์
นครจันทรานั้น, เป็นมหานครซึ่งตั้งอยู่ที่ด้านหลังของดวงจันทร์มาตั้งแต่อดีตกาลนานแสนนานมาแล้ว
หากกล่าวถึงนครจันทรา, มีประวัติศาสตร์จารึกถึงความพ่ายแพ้ย่อยยับของเหล่าโยวไคที่บุกรุกเข้าสู่นครจันทรา
โดยเกิดขึ้นในช่วงที่เกิดความวุ่นวายจากเหตุการณ์ เกนโซวเกทสึเมนเซนโซว (สงครามผิวจันทร์มายา)*
*1[อ่านรายละเอียดได้ที่ส่วนของ ยาคุโมะ ยูคาริ]
จึงได้ทราบกันนับแต่นั้นมาว่า นครจันทรามีอารยธรรมที่ล้ำเลิศ
ในความเป็นจริงแล้ว, การเดินทางไปยังนครจันทรานั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในปัจจุบัน
แต่ว่าจากงานแสดงสรรพสิ่งจากนครจันทรา ที่ทางเรือนนิรันดร์จัดขึ้นนั้น, ทำให้คาดเดาสภาพของนครจันทราได้
อย่างแรก, อาวุธไฟจำพวกปืนนั้นเหนือล้ำยิ่งกว่าอาวุธใดๆที่โลกของเรามีอยู่
มีทั้งปืนที่สามารถสาดกระสุนจำนวนมหาศาลออกมาได้ในชั่วพริบตา, ปืนสั้นที่หากยิงถูกเป้าหมายจะเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง
ปืนพกที่สามารถควบคุมทิศทางของลูกกระสุนหลังจากที่ยิงออกไปแล้วได้ เป็นต้น, ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเรื่องยากนักที่เหล่าโยวไคจะต้านทานได้*
*2[สิ่งที่นำมาจัดแสดงนี้เป็นเพียงวัตถุโบราณของนครจันทราเท่านั้น, ด้วยอารยธรรมปัจจุบันคงยิ่งก้าวหน้ากว่านี้เป็นแน่]
นอกเหนือจากนั้นก็เช่น, ยาที่สามารถรักษาโรคภัยได้ทุกชนิดโดยแลกกับการลดทอนอายุขัย, หรือน้ำจิ้มที่ทำให้กินขนมดังโกะอร่อยขึ้นสิบเท่า เป็นต้น
มิใช่เพียงแต่อาวุธเท่านั้น, อารยธรรมทุกศาสตร์ทุกแขนงจะต้องก้าวหน้าไปไกลยิ่งกว่าเกนโซวเคียวเป็นอย่างมากอย่างแน่นอนเลยทีเดียว
ชาวจันทราเริ่มตั้งรกรากกันตั้งแต่เมื่อใดไม่อาจระบุได้แน่ชัด, แต่ก็มีชีวิตสืบเนื่องมาอย่างไม่สิ้นสุด ไม่มีสิ้นอายุขัย
สำหรับนครจันทรานั้น, โลกคือผืนดินอันเป็นที่อาศัยของเหล่าผู้แปดเปื้อน, จึงถูกใช้เป็นเรือนจำสำหรับชาวจันทราที่ก่อความผิดร้ายแรงด้วย
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
ถนนหวนคนึง
{ถนนหวนคนึง}
ระดับความอันตราย : สูง
โยวไคที่พบเจอ : ยูวเรย์, โบวเรย์ และอื่นๆ
ถนนสายเล็กๆที่ต้องเดินผ่านป่าเวทมนตร์ออกมาทางด้านหลังจึงจะพบเจอ
หากเดินตามถนนเส้นนี้ ก็จะไปถึงเนินไร้ญาติได้
เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง, ถนนนี้จะถูกกลบแน่นไปด้วยดอกฮิกันบานะ, จนถูกย้อมเป็นสีแดงฉาน
(ช่วงเจ็ดวันที่อยู่ตรงกลางพอดีระหว่างสิ้นฤดูร้อนกับต้นฤดูหนาว เรียกว่าช่วงวันฮิกัน(เซ่นไหว้บรรพชน) ซึ่งตรงกับฤดูใบไม้ร่วง)
(ดอกไม้ชนิดนี้บานในช่วงนี้ และชอบบานใกล้สุสาน จึงถูกตั้งชื่อว่า ฮิกันบานะ)
เนินไร้ญาตินั้นเป็นสุสานของผู้ไร้ญาติ, แต่ก็มีบ่อยครั้งที่มนุษย์จากโลกภายนอกผู้หวังปลิดชีพตนหลงทางมาที่นี่อย่างไม่ตั้งใจ
บริเวณนี้จัดว่าอยู่สุดริมขอบเกนโซวเคียวจึงไม่มีมนุษย์ผู้ใดเข้าใกล้, กลายเป็นสถานที่ที่เชื่อมต่อกับโลกภายนอกได้ง่ายตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้*
*1[แถมยังเชื่อมต่อกับโลกวิญญาณได้ง่าย, ที่นี่จึงถือว่าเป็นจุดตัดของเขตแดน]
มนุษย์ผู้คิดจะปลิดชีพตนนั้น, เมื่อเดินผ่านถนนเส้นนี้ซึ่งมีดอกฮิกันบานะบานอยู่ ก็จะถูกพิษของมันออกฤทธิ์ต่อร่างกาย
พิษนี้จะกระตุ้นทั้งความขุ่นเคืองและกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปในเวลาเดียวกันได้อย่างน่าประหลาด
จากนั้นจึงหันหลังให้แก่ถนนเส้นนี้แล้วกลับที่ของตนเพื่อฮึดสู้อีกครั้ง
ด้วยเหตุทำนองนี้เอง ถนนเส้นนี้จึงถูกขนานนามว่า ถนนหวนคนึง
และมีความเป็นไปได้สูงที่จะพบเจอมนุษย์จากโลกภายนอกบนถนนเส้นนี้
ด้วยเหตุนี้, พวกโยวไคสันดานชั่วจึงชอบมาดักรออาหารที่นี่
ในขณะที่อุตส่าห์เปลี่ยนใจคิดจะพยายามใหม่อีกครั้งนั้นเอง, ก็จะถูกโยวไคลักพาตัวไปและไม่อาจหวนกลับมา*
*2[มนุษย์ที่ท้อแท้สิ้นหวัง, มนุษย์ที่เก็บงำความแค้นไว้ในใจ หรือพวกอาชญากร เหล่านี้ล้วนเป็นของโปรดของโยวไค]
*2[และมนุษย์จำพวกนั้นก็ชอบมาที่นี่กันเสียด้วย]
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
เนินไร้ญาติ
{เนินไร้ญาติ}
ระดับความอันตราย : สูงสุด
โยวไคที่พบเจอ : ยูวเรย์, โบวเรย์ และอื่นๆ
เมื่อเดินตามถนนหวนคนึงเข้าไปลึกๆจนสุดทาง ที่นั่นแหละคือ เนินไร้ญาติ
เป็นที่ว่างเล็กๆซึ่งถูกล้อมรอบด้วยต้นไม้
แต่สถานที่นี้นั้นทั้งมนุษย์และโยวไคต่างรู้กันดีว่าถูกจัดอยู่ในจำพวกที่มีระดับความอันตรายสูงที่สุดในเกนโซวเคียว
แม้ที่แห่งนี้จะเป็นสุสานของผู้ไร้ญาติ, แต่ว่าผู้ไร้ญาติเหล่านี้เดิมทีนั้นก็คือมนุษย์ที่หลงทางมาจากโลกภายนอกเสียส่วนใหญ่
อัตราส่วนเปรียบเทียบของที่นี่เริ่มเอนเอียงไปทางโลกภายนอกมากขึ้นเรื่อยๆ, ตั้งแต่ตอนที่เขตแดนเริ่มอ่อนแอลงนั่นล่ะ
และเพราะที่นี่เป็นสุสาน, ทำให้เชื่อมต่อกับโลกวิญญาณได้ง่ายเช่นกัน, จึงเป็นสถานที่ที่ไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น*
*1[อันที่จริงแล้ว, เป็นไปไม่ได้เลยที่เขตแดนจะตัดกัน, แต่ก็ได้เกิดขึ้นที่นี่แล้ว]
*1[ด้วยเหตุนี้, การรักษาตัวตนของตนเองให้คงอยู่นั้นจึงกลายเป็นเรื่องยากลำบากขึ้นมา]
ทว่า, ความงดงามของซากุระที่ถูกเรียกว่า มุราซาคิโนะซาคุระ(ซากุระม่วง) ของที่แห่งนี้นั้น
เป็นความงามอันแสนเร้นลับที่ทำให้เราต้องเผลอมองอย่างไม่วางตา จนไม่สามารถมองเห็นสิ่งอื่นๆที่มีจำนวนเล็กน้อยในสายตาได้เลย
ยามที่ดอกซากุระม่วงนี้ร่วงโรย, ผู้ตายแห่งเนินไร้ญาติจะเป็นอิสระจากการหลงทาง, และเดินทางไปยังถนนครึ่งเป็นในที่สุด
มุราซาคิโนะซาคุระจะชำระล้างผืนดินของเนินไร้ญาติ, หนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียว, ที่ดอกไม้จะเบ่งบานและตัดสิ้นซึ่งความหลง
เป็นโยวไคซาคุระที่หาได้ยากแม้แต่ในเกนโซวเคียว
กลีบดอกไม้ที่ร่วงโรยพรั่งพรูของมุราซาคิโนะซาคุระนั้น, นำพาผู้คนที่เฝ้ารอชมภาพมายาอันงดงามที่ดูคล้ายเนินไร้ญาติกำลังร้องไห้มารวมตัวกัน
อาจคิดว่าเป็นสถานที่ชมดอกไม้ที่วิเศษเลิศเลอ
แต่ด้วยความเศร้าที่แฝงอยู่ในสิ่งที่ดูคล้ายน้ำตานั้น, ทำให้ไม่มีผู้ใดที่ชมซากุระนี้โดยส่งเสียงเอะอะวุ่นวายเลย
(ตามปกติแล้ว การชมดอกไม้ของญี่ปุ่นนั้น จะปูเสื่อนั่งกินเหล้าเฮฮาส่งเสียงดังกัน)
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
ฮิกัน
{ฮิกัน}
ระดับความอันตราย : ไม่แน่ชัด
โยวไคที่พบเจอ : ไม่แน่ชัด
ตั้งอยู่ ณ อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำซันสึ
แน่นอนว่าฮิกันนั้นมิได้ตั้งอยู่ในเกนโซวเคียว แต่ก็จะขอแนะนำให้รู้จักกันคร่าวๆ
ฮิกันต่างจากโลกวิญญาณที่สามารถเดินทางไปมาทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างง่ายดาย
ตราบเท่าที่แม่น้ำซันสึยังคงไหลอยู่นั้น, คนเป็นไม่สามารถเดินทางไปฮิกันได้เลย*
*1[จะให้พูดก็คือ, ไปก็เท่ากับว่าตาย]
*1[ส่วนผู้ตายก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะฟื้นคืนชีพ ตราบเท่าที่ยังไม่ข้ามแม่น้ำไป, หากข้ามไปแล้วก็จะฟื้นคืนชีพไม่ได้อีกต่อไป]
ฮิกันนั้นเป็นทุ่งดอกไม้ที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ไม่รู้ว่ายาวไกลไปจนถึงแห่งหนใด
ไม่มีกลางวันไม่มีกลางคืน, ไม่มีฤดูทั้งสี่, มีเพียงแสงสว่างที่แสนอบอุ่นอ่อนโยนห้อมล้อมอยู่เท่านั้น
สิ่งที่ต้องทำในที่แห่งนี้, ก็เพียงแค่รอไปเรื่อยๆจนกว่าการพิพากษาของท่านจ้าวยมบาลจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
ไม่มีการหลับนอน, ไม่มีการกินอาหาร, ไม่มีแม้การสนทนา, เพียงแค่รออยู่ที่นี่ไปเรื่อยๆ, และสำนึกว่าตัวเองได้ตายไปแล้ว*
*2[ดูเหมือนระยะนี้คนตายจะมีมากเกินไปจนสิบราชันย์ทำการพิพากษาไม่ทันเสียแล้ว]
หากได้ไปยังโลกวิญญาณก็ดีไป
แต่หากถูกส่งลงนรกล่ะก็ จะถูกดึงออกจากวัฏจักรแห่งการเวียนว่ายตายเกิดเป็นการชั่วคราว
ไม่สามารถสนุกสนานกับเหล้ารสเลิศและการชื่นชมความงามของซากุระได้อีกต่อไป
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
กลับไปที่สารบัญของหนังสือเล่มนี้