MUSIC - R53m


卯酉東海道 ~ Retrospective 53 minutes
โบวยูวโทวไคโดว (ทางสายทะเลตะวันออกแห่งเถาะระกา) ~ 53 นาทีแห่งการระลึกความหลัง


.........................................................................................................................................................................................

ซีรี่ส์สองสาวจากโลกภายนอก แผ่นที่สาม

ZUN's Music Collection อัลบั้มที่ 4 ของเซี่ยงไฮ้อลิสเกนกาคุดัน และสำหรับซีรี่ส์สองสาวจากโลกภายนอกนั้นต้องจัดว่าเป็นแผ่นที่ 3
เป็นแผ่นเพลงพร้อมเรื่องสั้นที่บอกเล่าถึงการผจญภัยของสองสาวซึ่งอาศัยอยู่ภายนอกเกนโซวเคียว หรือที่เรียกกันว่า โลกภายนอก
มาเอริเบอร์รี่ เฮิร์น (เมอรี่) สาวน้อยผมบลอนด์ผู้มองเห็นเขตแดนและเข้าออกเกนโซวเคียวได้โดยนึกว่ามันเป็นเพียงโลกแห่งความฝัน
อุซามิ เรนโกะ สาวน้อยผมน้ำตาลผู้สามารถรู้พิกัดตำแหน่งได้ด้วยการมองพระจันทร์ และรู้เวลาได้ด้วยการมองดวงดาว


วางจำหน่าย : งานมหาเทศกาลแห่งศาลเจ้าฮาคุเรย์ ครั้งที่ 3 (วันที่ 21 เดือน 5 ปี 2006)

คำโปรยโฆษณา :
สองสาวโดยสารไปกับฮิโรชิเกะซึ่งวิ่งสู่ตะวันออก
วิ่งสู่ตะวันออกด้วยทางสายทะเลตะวันออกซึ่งมีความเป็นญี่ปุ่นอย่างมากล้น
ภูเขาไฟฟูจิซึ่งงดงามเป็นที่สุด ภูเขาไฟฟูจิซึ่งไม่แก่ไม่ตาย
――Real กับ Virtual จะผสมปนเปไปในชมรมผนึกลับ

รวมบทเพลงมายาอันเกรี้ยวกราดชุดที่ 4 แห่งเซี่ยงไฮ้อลิสเกนกาคุดัน !
「卯酉東海道(ぼうゆうとうかいどう) ~ Retrospective 53 minutes」
วันหยุดของสองสาวผ่านไปด้วยการสนทนาที่แสนจะไร้สาระ
CD เพลงสบายๆในวันหยุดของชมรมผนึกลับ



คำโปรย :
เส้นทางเถาะระกา การเดินทางของหัวใจ
――ใต้ดินของทางสายทะเลตะวันออกนั้นเคยมีความเป็นญี่ปุ่นมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
รวมบทเพลงมายาอันเกรี้ยวกราดชุดที่ 4 ซึ่งบรรเลงโดยวงดนตรีมายาเซี่ยงไฮ้อลิส





รายชื่อเพลง

   1. ヒロシゲ36号 ~ Neo Super-Express
      ฮิโรชิเกะ 36 โกว (ฮิโรชิเกะหมายเลข 36) ~ นีโอ ซูเปอร์-เอกซ์เพรซ (รถด่วนพิเศษรุ่นใหม่)
      ต้นฉบับ : Original

   2. 53ミニッツの青い海
      53 มินิทส์ โนะอาโออิอุมิ (ทะเลสีฟ้า 53 นาที)
      ต้นฉบับ : Original

   3. 竹取飛翔 ~ Lunatic Princess
      ทาเคะโทริฮิโชว (คนตัดไผ่โบยบิน) ~ ลูนาติค พรินเซส (เจ้าหญิงวิกลจริต)
      ต้นฉบับ : 竹取飛翔 ~ Lunatic Princess (ภาค 8)

   4. 彼岸帰航 ~ Riverside View
      ฮิกันคิโคว (กลับสู่ฮิกัน) ~ ริเวอร์ไซด์ วิว (ทิวทัศน์ริมแม่น้ำ)
      ต้นฉบับ : 彼岸帰航 ~ Riverside View (ภาค 9)

   5. 青木ヶ原の伝説
      อาโอคิกาฮาระโนะเดนเซทสึ (ตำนานแห่งทุ่งไม้คราม)
      ต้นฉบับ : Original

   6. お宇佐さまの素い幡
      โอะอุสะสะมะโนะชิโรอิฮาตะ (ธงกาสาวพัสตร์ของท่านอุสะ)
      ต้นฉบับ : お宇佐さまの素い幡 (ภาค 9)

   7. 月まで届け不死の煙
      ทสึคิมาเดะโทโดเคะ, ฟุชิโนะเคะมุริ (จงไปให้ถึงดวงจันทร์, ควันอมตะเอ๋ย)
      ต้นฉบับ : 月まで届け、不死の煙 (ภาค 8)

   8. レトロスペクティブ京都
      รีโทรสเปคทีฟ เคียวโตะ (Retrospective เคียวโตะ) (เกียวโตรำลึก)
      ต้นฉบับ : レトロスペクティブ京都 (ภาค 9.5)

   9. ラクトガール ~ 少女密室
      ล็อคด์เกิร์ล (สาวน้อยปิดตาย) ~ โชวโจมิชชิทสึ (ห้องลับของสาวน้อย)
      ต้นฉบับ : ラクトガール ~ 少女密室 (ภาค 6)

   10. 千年幻想郷 ~ History of the Moon
      เซนเนนเกนโซวเคียว (เกนโซวเคียวพันปี) ~ ฮิสทอรี่ ออฟ เดอะ มูน (ประวัติศาสตร์ของดวงจันทร์)
      ต้นฉบับ : 千年幻想郷 ~ History of the Moon (ภาค 8)

   11. 最も澄みわたる空と海
      มตโตะโมะสึมิวาตารุโซระโตะอุมิ (ท้องฟ้าและทะเลซึ่งกระจ่างใสเป็นที่สุด)
      ต้นฉบับ : Original



Tips :
- สำหรับท่านที่ไม่ทราบ Original ในที่นี้หมายถึง เพลงต้นฉบับที่ถูกแต่งขึ้นและเผยแพร่เป็นครั้งแรกในแผ่นนี้ มิได้ดัดแปลงมาจากเพลงใดเลย
- บนหน้าปกแผ่น มีรูปรถไฟกำลังจะวิ่งสวนกันและภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งก็คือรูปของเส้นทางรถไฟสายทะเลตะวันออกนั่นเอง
- ทางสายทะเลตะวันออก (โทวไคโดว) อดีตเส้นทางสายเอโดะ-เกียวโต ซึ่งปัจจุบันเป็นเส้นทางที่ยาวครอบคลุมถึง 15 จังหวัด
- เถาะ หนึ่งใน 12 นักษัตร คุมทิศตะวันออก // ระกา หนึ่งใน 12 นักษัตร คุมทิศตะวันตก
- เถาะระกา จึงหมายถึงการเชื่อมโยงจากตะวันออกไปจนถึงตะวันตก ซึ่งก็คือเส้นทางสายทะเลตะวันออกนั่นเอง
- 53 ล้อชื่อภาพวาด [53 สถานีแห่งทางสายทะเลตะวันออก] ซึ่งวาดโดย อุตะกาวะ ฮิโรชิเกะ
- ในเนื้อหาของแผ่นเพลงนี้ ระยะเวลาเดินทางระหว่างเกียวโต-โตเกียวคือ 53 นาที
- ความยาวของเพลงทั้งหมดในอัลบั้มนี้รวมกันได้ 53 นาที
- ฮิโรชิเกะ ในที่นี้เป็นชื่อของรถไฟ ซึ่งล้อมาจากชื่อของนักวาดภาพนาม อุตะกาวะ ฮิโรชิเกะ
- 36 ล้อชื่อภาพวาด [36 จุดชมวิวแห่งฟูจิ] ซึ่งวาดโดย คัทสึชิคะ โฮคุไซ (แต่ที่จริง อุตะกาวะ ฮิโรชิเกะ ก็เคยวาดภาพชื่อนี้เหมือนกัน)
- ทุ่งไม้คราม หมายถึงทะเลป่าแห่งภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งในเรื่องกำหนดให้รถไฟวิ่งผ่านด้วย
- คนญี่ปุ่นสมัยก่อนใช้คำว่า สีฟ้า ในการระบุสีฟ้าและสีเขียวร่วมกัน ในที่นี้ขอใช้คำว่า คราม เพื่อความสละสลวยของชื่อ
- お宇佐さまの素い幡 มีที่มาจากประวัติศาสตร์ช่วงหนึ่งของญี่ปุ่น
ในญี่ปุ่นจะมีศาลเจ้าฮาฉิมัน(เทียบกับไทยก็ประมาณ ศาลเจ้าพ่อ)อยู่มากมาย แต่ที่เป็นศูนย์กลางหลักก็คือ ศาลเจ้าพ่ออุสะ ที่เมืองอุสะ เกาะคิวชูว
กาลนั้น(ปี 769)มีข่าวลือว่า เจ้าพ่ออุสะให้คำพยากรณ์ว่าโดวเคียวจะได้เสวยราชทรัพย์เป็นจักรพรรดิองค์ต่อไป และแผ่นดินจะสงบสุข
(ซึ่งอันที่จริง ผู้ครองแคว้นคิวชูวในขณะนั้นก็คือน้องชายของโดวเคียวนั่นเอง)
ศาลเจ้าพ่ออุสะนั้นมีอิทธิพลต่อศาลเจ้าพ่อทั้งประเทศ องค์จักรพรรดิจึงร้อนรนเป็นอย่างมาก จึงสั่งให้ข้ารับใช้คนสนิทไปสืบข้อเท็จจริงมา
วาเคะ โนะ คิโยมาโระ เมื่อเดินทางไปถึงศาลเจ้าพ่อ ก็ตกตะลึงหลงใหลในความน่าเลื่อมใสศรัทธาของศาลเจ้าพ่ออุสะเข้าอย่างจัง
เขาถึงกับลืมไปว่าจะถามไถ่ข้อเท็จจริงอย่างไร ทั้งที่ซักซ้อมมาตลอดทาง
แล้วถูกนักบวชพูดใส่เสียก่อนว่า จงอย่าพูดอะไรโง่ๆออกมา แล้วสำรวจตัวท่านเองเสีย
คิโยมาโระพบว่าตนเองย่างเท้าเข้ามาในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้อย่างไม่น่าให้อภัย
พลันนั้นในหัวก็ขาวโพลน จิตใจก็เปลือยเปล่า และได้ยินเสียงของเทพเจ้า
เมื่อกลับมาถึงเมืองโตเกียวก็ได้เล่าสิ่งที่ได้ยินมาแก่จักรพรรดิ ปรากฏว่าจักรพรรดิโกรธมากจึงเนรเทศคิโยมาโระและพี่สาวไป
- ชื่อเพลง 最も澄みわたる空と海 สามารถย่อให้เหลือ 最澄 กับ 空海 ได้
- 最澄 (ไซโฉว) เป็นชื่อของนักบวชผู้ก่อตั้งนิกายเทนได ซึ่งวัดหลักของนิกายตั้งอยู่บนภูเขาฮิเอย์ จังหวัดเกียวโต
- 空海 (คูวไค) เป็นชื่อของนักบวชผู้ก่อตั้งนิกายชินกอน ซึ่งวัดหลักของนิกายตั้งอยู่บนภูเขาโควยะ จังหวัดวาคายามะ
- ไซโฉวกับคูวไค เคยเดินทางไปแสวงธรรมที่ประเทศจีนด้วยกัน ก่อนจะกลับมาญี่ปุ่นแล้วแยกย้ายไปตั้งนิกายของตน





Story

   1. ヒロシゲ36号 ~ Neo Super-Express

สองสาวโดยสารไปกับฮิโรชิเกะซึ่งวิ่งสู่ตะวันออก โดยไร้แรงสั่น ไร้เสียง เพียงแค่วิ่งสู่ตะวันออกเท่านั้น

มองไปจะเห็นว่าที่นั่งรูปกล่องซึ่งนั่งได้ถึง 4 คนนั้นมีที่ว่างอยู่มากมาย ต่อให้นั่งกันสองคนก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครมาไล่ที่
รถไฟสายที่วิ่งสวนกันกำลังเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่เดินทางไปมาเป็นประจำราวกับปลากระป๋อง แต่สายวิ่งเข้าโตเกียวว่างสนิท
ทั้งสองเลยสะดวกสบายเป็นอย่างมาก

ความสดชื่นของฤดูใบไม้ผลิหลั่งไหลเข้ามาทางหน้าต่างรถไฟ
หนึ่งในจุดขายของรถไฟหัวกระสุนรุ่นใหม่ล่าสุดนี้คือ พาโนราม่าวิวครึ่งคัน
พาโนราม่าวิวครึ่งคัน คือ ตัวรถทั้งคันทำจากกระจก ยกเว้นพื้นและหลังคา กล่าวคือผนังของรถไฟแทบทั้งหมดเป็นกระจก
ราวกับหลอดแก้วทดลองขนาดใหญ่กำลังวิ่งอยู่บนรางรถไฟ
ซ้ายมือของสาวน้อยผมทองที่กำลังนั่งหันหลังให้กับทิศทางของรถไฟ คือชายทะเลสีฟ้าอันแสนงดงามสุดลูกหูลูกตา
ขวามือ คือทุ่งราบและป่าสนที่สวยงามกว้างใหญ่ไร้สิ่งปลูกสร้างใดๆ

นับจากตอนที่รถไฟเคลื่อนออกจากสถานีก็ผ่านมาได้ 25 นาทีแล้วล่ะมั้ง ตอนนี้เริ่มเห็นภูเขาไฟฟูจิภายใต้ร่มเมฆาอยู่ไกลๆโน่นแล้ว
ดูมีมนต์ขลังอย่างกับเป็นที่อาศัยของเซียนเลย

ด้วยความพยายามขององค์กรฟื้นฟูภูเขาไฟฟูจิ ทำให้ภูเขาไฟฟูจิได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกในที่สุด
ภูเขาไฟฟูจิที่มองเห็นจากฮิโรชิเกะในตอนนี้จึงดูมีมนต์ขลังมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า
อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เป็นแบบนั้นก็คือ
เมื่อมองจากพาโนราม่าวิวของฮิโรชิเกะแล้วจะมองหาตึกสูงหรือสายไฟฟ้าหรือรางรถไฟลอยฟ้าไม่เจอเลยแม้แต่นิดเดียว

นอกจากภูเขาไฟฟูจิแล้ว ชายหาดที่มองเห็นอยู่ทางซ้ายมือนี้ก็งดงามจนถูกรับรองเป็นมรดกโลกสัก 12 ครั้งก็ยังไม่พอเลยทีเดียว
ทางสายทะเลตะวันออกมันงดงามขนาดนั้นเลยล่ะ

ทว่า ทัศนียภาพที่งดงามตามสไตล์ญี่ปุ่นสุดขั้วที่มองเห็นได้จากรถไฟหัวกระสุนเถาะระกา 『ฮิโรชิเกะ』 นี้
กลับเป็นได้เพียงภาพฉายที่น่าเบื่อสำหรับ เมอรี่...สาวน้อยผมทอง เท่านั้น


   2. 53ミニッツの青い海
      คำโปรย : Blue Sea of 53 Minutes

「ที่นั่งของฮิโรชิเกะกว้างดี แถมถึงที่หมายเร็วเลยสะดวกมากก็จริงอยู่――
 แต่มองเห็นแค่ทิวทัศน์ 『ของปลอม』 จากจอ Kaleido-Screen แบบนี้มันน่าเบื่อชะมัดเลยน้า」

   「อย่างน้อยแบบนี้มันก็ยังสดใสกว่ารถไฟใต้ดินสมัยก่อนที่พยายามฉายภาพในอุโมงค์นะ
    เหมือนกับไม่ได้อยู่ในใต้ดินเลยนี่เนอะ ?」

「ภูเขาไฟฟูจิบนพื้นดินอาจจะไม่ได้สวยขนาดนี้ก็จริง แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากเห็นของจริงมากกว่านะ
 รู้งี้น่าจะนั่งรถไฟหัวกระสุนสายทะเลตะวันออกเก่าน้า」

   「พูดอะไรฟุ่มเฟือยแบบนั้นล่ะ ทางสายทะเลตะวันออกเก่า มีแต่คนอีสานกับคนอินเดียและพวกเซเลบเท่านั้นแหละที่ได้ใช้กัน
    แต่จะว่าไป เมอรี่อาจจะเป็นคนใจเย็นไม่แพ้พวกคนอีสานเลยก็ได้นะ」

「ก็เป็นเซเลบนี่คะ」

   ――ทางสายทะเลตะวันออกเถาะระกานี้ถูกสร้างขึ้นก่อนที่สองสาวจะเกิด

การย้ายเมืองหลวงในยุคจินคิ ทำให้จำเป็นต้องสร้างเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างโตเกียวกับเกียวโตสำหรับผู้คนจำนวนมาก
แต่การจราจรบนทางสายทะเลตะวันออกเก่ามาถึงขีดจำกัดแล้ว รัฐบาลจึงพัฒนารถไฟหัวกระสุนรุ่นใหม่เป็นการเร่งด่วน

ผลสำเร็จที่ได้ออกมาคือ รถไฟหัวกระสุนเถาะระกา 『ฮิโรชิเกะ』 ที่เชื่อมโยงระหว่างเกียวโตกับโตเกียวโดยใช้เวลาเพียง 53 นาที
รถไฟหัวกระสุนที่แล่นไปมาระหว่างเกียวโตกับโตเกียวคันนี้จึงกลายเป็นเส้นเลือดใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นในเวลาไม่นาน

เรื่องที่น่าตกใจก็คือ รถไฟหัวกระสุนเถาะระกานี้ถูกสร้างเป็นเส้นตรงและอยู่ในใต้ดินทั้งหมด
ตั้งแต่สถานีต้นทางจนถึงสถานีปลายทาง ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย ไม่ว่าจะเป็นท้องฟ้า ทะเล ภูเขา ป่าไม้ พระอาทิตย์ พระจันทร์


   3. 竹取飛翔 ~ Lunatic Princess

「ถึงที่หมายในเวลาไม่นานมันก็ดีอยู่หรอก แต่มีให้ดูแค่ทิวทัศน์ของปลอมแบบนี้ เรนโกะไม่เบื่อเหรอ ?
 ของที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าตอนกลางคืนก็เป็นจันทร์เพ็ญของปลอม อะไรแบบนั้นน่ะน้า
 เมื่อก่อนทางสายทะเลตะวันออกต้องผ่านหมู่บ้านพักแรม 53 แห่ง แต่ตอนนี้กลับไปถึงได้ใน 53 นาทีเนี่ยนะ ? ทั้งที่เส้นทางยาวไกลกว่าเมื่อก่อนแท้ๆ
 พอเป็นอย่างนี้แล้วคงเรียกว่าการเดินทางไม่ได้ล่ะน้า」

   「ถึงจะใช้เวลาน้อยลง แต่การเดินทางก็คือการเดินทางนะ ท่องเที่ยวที่โตเกียวก็น่าสนุกดีไมใช่เหรอ ?
    สิ่งก่อสร้างที่ทำให้รู้สึกถึงประวัติศาสตร์อย่างที่ชินจูกุหรือชิบุยะก็มีอยู่มากมาย ไม่เหมือนที่เกียวโตนะ
    คิดซะว่ามีเวลาเดินเที่ยวมากขึ้นก็พอแล้วล่ะ」

「ค่าค่า นั่นสินะคะ
 เฮ้อ--- จันทร์เพ็ญของปลอมแบบนี้จะมองเห็นกระต่ายดึกดำบรรพ์ที่กำลังตำยารึเปล่าน้า」

   「จริงสิ รู้รึเปล่า ?
    จริงๆแล้วถ้าฮิโรชิเกะใช้ความเร็วสูงสุดจะทำเวลาได้น้อยกว่า 53 นาที แต่จงใจปรับความเร็วให้ทำเวลาได้ 53 นาทีนะ ?」

「หนึ่งนาทีหนึ่งคืนสินะ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันคงแก่ตายในสามสัปดาห์แน่ๆ ช่างเป็นการเดินทางที่สั้นจริงๆเลยน้า」

อุซามิ เรนโกะ และ มาเอริเบอร์รี่ เฮิร์น (เมอรี่) กำลังใช้วันหยุดของมหาวิทยาลัยไปกับการเดินทางสู่โตเกียวซึ่งเป็นบ้านเกิดของเรนโกะ
ถึงจะพูดว่าเป็นการเดินทาง แต่เรนโกะก็แค่ถือโอกาสแวะไปร่วมงานเซ่นไหว้บรรพชน(ฮิกัน)เท่านั้น
ส่วนเมอรี่ซึ่งยังไม่เคยไปโตเกียวนั้นกำลังสนุกสนานกับการเดินทางสู่โตเกียวครั้งนี้เป็นอย่างมาก

การชมทิวทัศน์ระหว่างทางมันก็น่าสนุกดีอยู่หรอก แต่น่าเสียดายที่รถไฟหัวกระสุนเถาะระกานั้นเป็นรถไฟใต้ดินตลอดสายอย่างสมบูรณ์แบบเลย

แต่ถึงอย่างนั้น หน้าต่างก็ยังฉายแสงออกมาให้เหมือนกับภายนอกที่เป็นเวลากลางวัน และฉายภาพภูเขาไฟฟูจิกับมหาสมุทรแปซิฟิกที่งดงาม

นั่นแหละคือ 『Kaleido-Screen』 ซึ่งใช้งบประมาณสูงสุดและเป็นจุดขายสำคัญที่สุดของทางสายทะเลตะวันออกเถาะระกา


   4. 彼岸帰航 ~ Riverside View

   「เมอรี่
    การเซ่นไว้บรรพชนของโตเกียวน่ะมีธรรมเนียมแปลกๆอยู่นะ รู้รึเปล่า ?」

「เอ๋ ? ยังไงเหรอ ?」

   「ตอนที่ไปเยี่ยมสุสานน่ะ
    จะต้องหารอยแยกของเขตแดนที่อยู่รอบสุสานให้พบ แล้วไปเยี่ยมโลกวิญญาณ
    บรรพบุรุษกลับมาจากโลกวิญญาณในวันโอบ้งใช่มั้ยล่ะ ?
    ก็เลยตอบแทนด้วยการไปทักทายในวันฮิกันนี่แหละ」

「จริงเหรอ ?
 ตายจริง แย่ล่ะสิ ไม่ได้เตรียมอะไรมาเลยสักอย่าง ทำไมไม่บอกกันก่อนล่ะ」

   「เพราะว่าโกหกไงล่ะ
    แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว จะลองทำดูมั้ยล่ะ ?」

ทางสายทะเลตะวันออกเถาะระกาถูกสร้างขึ้นเพื่อขนส่งชาวโตเกียวไปยังเมืองเกียวโตให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
ดังนั้นจึงมีเพียงสองสถานีเท่านั้น

มีเพียงสองสถานีคือ สถานีโตเกียวเถาะ กับสถานีเกียวโตระกา เท่านั้น
กล่าวคือไม่มีสถานีอื่นเลยนอกจากสถานีต้นทางกับสถานีปลายทาง
ตั้งแต่ทั้งสองออกมาจากสถานีเกียวโตระกา ก็ผ่านมาได้ 36 นาทีแล้ว

ทิวทัศน์ภายนอกคือ ทางสายทะเลตะวันออกที่ อุตะกาวะ ฮิโรชิเกะ เคยเดินดูนั่นแหละ
ไม่ว่าตรงไหนก็งดงามไปหมด ทั้งท้องฟ้า ทะเล ภูเขาไฟฟูจิ และหมู่บ้านพักแรมทั้ง 53 แห่ง


   5. 青木ヶ原の伝説
      คำโปรย : Forbidden Forest

「อ๊ะ เมื่อกี้......」

   「มีอะไรเหรอ ? เมอรี่ จู่ๆก็ทำหน้าตาน่ากลัว......」

「จู่ๆก็รู้สึกหนักหัวขึ้นมาน่ะ
 เรนโกะไม่รู้สึกเหรอ ? บรรยากาศตรงบริเวณนี้มันต่างจากที่อื่นนิดหน่อยนะ
 แถมยังเห็นรอยแยกของเขตแดนด้วย......บั๊กของโปรแกรมควบคุมสกรีนรึเปล่านะ」

   「อา เป็นเพราะที่นี่อยู่ใต้ภูเขาศักดิ์สิทธิ์แน่ๆเลย
    บรรยากาศก็เลยต่างออกไปนิดหน่อย ไม่สิ บางทีแม้แต่ห้วงเวลาก็อาจจะต่างไปด้วยล่ะมั้ง
    คงจะอึดอัดเกินไปนิดหน่อยสำหรับคนประสาทไวอย่างเมอรี่ล่ะมั้ง」

「อย่างนี้นี่เอง ข้างใต้ของภูเขาไฟฟูจิสินะ
 ถ้างั้นก็พอจะเข้าใจแล้วล่ะ เหมือนที่สมัยก่อนเขาเล่ากันว่าใต้ดินของภูเขาไฟฟูจิคือทางเข้าโลกวิญญาณสินะ
 แต่ว่ามันเป็นภูเขาไฟไม่ใช่เหรอ ? มาขุดอุโมงค์ใต้ภูเขาไฟแบบนี้จะเป็นอะไรรึเปล่าน้า」

   「ขี้กังวลจังนะ เวลาแบบนี้ลองดื่มเหล้าแล้วเลิกคิดแบบนั้นดูดีมั้ย ?
    ตอนที่ภูเขาไฟฟูจิได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกน่ะ เขายืนยันแล้วว่ามันกลายเป็นภูเขาไฟที่ตายแล้วไม่ใช่เหรอ ?」

ทางสายทะเลตะวันออกเถาะระกาถูกวางแผนการสร้างโดยคำนึงถึงเรื่องการเชื่อมโยงระหว่างโตเกียวกับเกียวโตเท่านั้น
แต่กระนั้นรัฐบาลก็ได้หลีกเลี่ยงเรื่องเสียมารยาทอย่างเช่นการเจาะรูใต้ภูเขาไฟศักดิ์สิทธิ์

ทางสายทะเลตะวันออกเถาะระกาจึงแล่นเลี่ยงภูเขาไฟฟูจิ แล้วลอดผ่านใต้ทะเลป่าแทน

ทว่า ทะเลป่ามีเรื่องเล่าที่ไม่เข้าท่ามากมายมาตั้งแต่สมัยโบราณ
บางทีแค่แล่นผ่านใต้ทะเลป่าแบบนี้ก็อาจจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อจำนวนผู้โดยสารและการวิ่งของรถไฟหัวกระสุนก็เป็นได้

พอคิดแบบนั้น จึงไม่มีการประกาศแก่สาธารณะว่ารถไฟแล่นผ่านใต้ทะเลป่า


   6. お宇佐さまの素い幡
      คำโปรย : Most Famous Hero

   「อะฮะฮะ ดื่มเหล้าแต่เช้านี่มันอร่อยดีนะ
    จะว่าไปแล้ว เจ้ารถไฟหัวกระสุนคันนี้น่ะ ดูเหมือนตอนแรกจะวางแผนสร้างสถานีคามาคุระด้วยนะ ? ไม่ใช่แค่เกียวโตกับโตเกียว」

「เรนโกะนี่รอบรู้จังเลยน้า」

   「เพราะฉันเป็นพวกรอบรู้ไงล่ะ
    เห็นว่าตอนแรกอยากตั้งชื่อว่า รถไฟหัวกระสุนเชื่อมเมืองหลวง (เคย์โตะ) เพราะว่าแล่นผ่านเมืองหลวงสามแห่งด้วยนะ」

「เป็นรถไฟหัวกระสุนที่ฟังดูท่าจะอุ่นน่าดูนะ เอ๊ะ คามาคุระไม่ใช่เมืองหลวงนี่นา ?
 แล้วคามาคุระเนี่ย ถ้าจะจอดระหว่างเกียวโตกับโตเกียวมันก็อยู่ใกล้กับโตเกียวเกินไปนะ」
(คำว่า เคย์โตะ พ้องเสียงกับคำว่า ไหมพรม)

   「ด้วยเหตุนั้นก็เลยถูกพับโครงการเก็บเข้ากรุน่ะ」

「เรื่องแบบนั้น น่าจะรู้ได้ตั้งแต่แรกแล้วนี่นา......
 ไม่ใช่ว่าเรนโกะไปฟังข่าวมั่วมาจากไหนหรอกเหรอ ? เช่นพวกที่ชื่นชอบศาลเจ้าพ่อ」

   「จะว่าไปแล้ว คำว่า กรุ ในสำนวน 『เก็บเข้ากรุ』 น่ะ รู้รึเปล่าว่าหมายถึงกรุไหน ?」

หากพูดถึงภูเขาไฟฟูจิก็ต้องนึกถึงภาพวาด 『36 จุดชมวิวแห่งฟูจิ』 อันมีชื่อเสียงของโฮคุไซ
แต่โฮคุไซพยายามวาดภาพฟูจิหลายครั้งก็ยังไม่พอใจสักที
ซึ่งรู้ได้จากการที่ภาพวาด 36 จุดชมวิวแห่งฟุกาคุ (อีกชื่อหนึ่งของฟูจิ) นั้นแท้จริงแล้วมี 46 ภาพ

ทั้งที่ตนเคยวาดภาพ 36 จุดชมวิวเอาไว้ในสมัยก่อน
แต่พอฮิโรชิเกะซึ่งอายุน้อยกว่าตนถึงครึ่งหนึ่งวาดภาพ 『53 สถานีแห่งทางสายทะเลตะวันออก』 ออกมาแล้วได้รับความนิยมสูงกว่า
โฮคุไซผู้ไม่ยอมแพ้ก็เลยวาดภาพ 『ร้อยจุดชมวิวแห่งฟุกาคุ』 ออกมา
เขาหลงเสน่ห์ของภูเขาไฟฟูจิมากขนาดนั้นเลยล่ะ

แต่ฮิโรชิเกะเป็นผู้ที่หลงเสน่ห์ภูเขาไฟฟูจิมากยิ่งกว่านั้นอีก


   7. 月まで届け不死の煙
      คำโปรย : Elixir of Life

อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นในปัจจุบันได้เลือกฮิโรชิเกะแล้ว
รถไฟหัวกระสุนเถาะระกาฮิโรชิเกะยังคงวิ่งผ่านใต้ดินไปยังตะวันออก และตอนนี้คงอยู่แถวๆคามาคุระพอดีล่ะมั้ง

「นี่ เรนโกะ ภูเขาไฟฟูจิที่ฉายอยู่บน Tunnel Screen เนี่ยมัน Dynamic (ดูมีชีวิตชีวา) เกินไปหน่อยรึเปล่า ?」

   「อืม--- ฉันไม่เคยจ้องมองของจริงนานๆก็เลยบอกอะไรไม่ได้นะ แต่คิดว่าน่าจะรู้สึกประมาณนี้แหละ
    ถ้าไม่ฉายภาพสิ่งปลูกสร้างของมนุษย์ให้อยู่รอบๆเลย ก็คงจะมองเห็นด้วยอารมณ์ประมาณนี้ล่ะนะ」

「ภูเขาไฟฟูจิในภาพนี้ ดูเหมือนของโฮคุไซมากกว่าของฮิโรชิเกะน้า
 อย่างเรื่อง Scale เองก็เหมือนจะถูกควบคุมด้วย Automatic Video Re-targeting เลยนะ
 รู้สึกเหมือนจะให้ความสำคัญกับ Impact (ความประทับใจ) มากกว่า Reality (ความสมจริง) แฮะ」

   「เมอรี่ เธอรู้รึเปล่าว่าฮิโรชิเกะเองก็วาดภาพ 36 จุดชมวิวแห่งฟูจิ(富士) เพื่อเป็นการต่อกรกับโฮคุไซเหมือนกัน ?」

「ตายจริง ลอกเหรอ ? หรือแค่แรงบันดาลใจ ?」

   「ชื่อภาพก็ 『36 จุดชมวิวแห่งฟูจิ(不二)』 แถมยังนำออกมาเผยแพร่หลังจากที่โฮคุไซตายไปแล้วด้วยนะ」
   (ปกติจะเขียนว่า 富士 แต่ภาพนี้ใช้คำว่า 不二 ซึ่งแปลว่า ไม่มีสอง)

「ตายจริง」

ภูเขาไฟฟูจิที่ปรากฏบนทิวทัศน์ของจอ Kaleido-Screen ซึ่งมีสิ่งก่อสร้างน้อยนั้นแลดูมีศักดิ์สิทธิ์และทรงอำนาจมาก

ภูเขาไฟฟูจิในตอนนี้เองก็งดงามด้วยความพยายามขององค์กรฟื้นฟูภูเขาไฟฟูจิ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะถูกกดดันด้วยอำนาจอันมากล้นของภูเขาไฟฟูจิ หรือเพราะรำคาญกฎระเบียบอันเข้มงวดขององค์กรฯกันนะ
คนที่มาปีนเขาจึงน้อยลง ทำให้สมาคมนักท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างแรง อย่างกับประชดกันเลยแฮะ

การที่ญี่ปุ่นเลือกฮิโรชิเกะนั้นเป็นเพราะไม่สามารถยอมรับอัจฉริยภาพของโฮคุไซได้
เพราะประเทศญี่ปุ่นรังเกียจความวิกลจริตอย่างจริงจัง

แต่ถ้าหากรถไฟหัวกระสุนคันนี้ไม่ใช่ฮิโรชิเกะ แต่เป็นโฮคุไซล่ะ
Kaleido-Screen จะฉายทัศนียภาพแบบไหนออกมากันนะ

คงจะได้เพลิดเพลินกับมายาอันบ้าคลั่งและถึงที่หมายเร็วกว่าตอนนี้ด้วยเวลาเพียง 36 นาทีแน่ๆ


   8. レトロスペクティブ京都
      คำโปรย : Retrospective Kyoto

「อีกเดี๋ยวก็ถึงโตเกียวแล้วสินะ
 ยังไม่เต็มอิ่มเลย」

   「มันก็ใช่อ่านะ แต่ถ้าเหนื่อยก่อนถึงที่หมายมันก็ไม่เข้าท่านา」

「ช่างเถอะ มีเวลาเดินเที่ยวโตเกียวมากขึ้นก็ดีแล้วนี่นะ
 วันนี้จะพาฉันไปเที่ยวแถวไหนล่ะ ?」

   「อย่าใจร้อนสิ
    ก่อนอื่นต้องไปที่บ้านแล้วรวมตัวกันไปเยี่ยมสุสานเพื่อเซ่นไหว้บรรพชน ไว้เก็บของเสร็จแล้วลองไปทัศนศึกษาดูมั้ยล่ะ ?」

「เอ๋ ? คิดจะไปเยี่ยมโลกวิญญาณเหรอ ?」

   「โตเกียวเองก็จัดว่าเป็นเมืองภูตผีไม่แพ้เกียวโต ต้องสนุกแน่ๆเลยล่ะ
    ถ้าไปกับเมอรี่น่ะนะ」

บาปของวิญญาณพิภพที่ถูกกดทับด้วยยางมะตอยเองก็หมดอายุความ และเข้าไปอาศัยในรอยแยกของท้องถนนบนโตเกียว

ส่วนหนึ่งของทางสายวงแหวนเองก็เปลี่ยนไปเป็นทุ่งหญ้าที่ไร้ใบไม้ และถูกปกคลุมด้วยดอกไม้พิศวงที่มีเพียงก้านกับกลีบดอกสีแดง
ยานพาหนะยุคก่อนอย่างรถยนต์นั้นลดจำนวนลงไปพร้อมกับจำนวนประชากร
ดังนั้นถนนจะเป็นยังไงก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องใส่ใจอีกต่อไป

เมืองโตเกียวมีเอกลักษณ์ตรงที่เหล่าคนหนุ่มสาวผู้มีบุคลิกโดดเด่นนั้นนิยมตั้งกฎเฉพาะตัวของตนเองขึ้น
เหมือนกับสมัยเอโดะที่มีนักดับเพลิง มือปราบ และอันธพาล คอยก่อเรื่องไปทั่ว......

โตเกียวได้กลับคืนสู่สภาพเดิมของมันแล้ว


   9. ラクトガール ~ 少女密室
      คำโปรย : Locked Girl

   「โตเกียวไม่เหมือนกับเกียวโตตรงที่มันบ้านนอก เลยมีของที่น่าคิดถึงอยู่เพียบเลยล่ะ」

「ยกตัวอย่างเช่น ?」

   「สวนสนุกที่ให้เข้าไปเล่นในตึกสูงปิดตายแคบๆ หรืออย่างห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่สุดๆ อะไรทำนองนั้น」

「ดีจังเลยน้า ยังมีความบันเทิงพื้นบ้านที่ไม่ได้รับการขัดเกลาแบบนั้นอยู่ด้วย」

   「เป็นเพราะเกียวโตเข้มงวดเกินไปนั่นล่ะน้า
    พูดถึงความบันเทิงก็มีแต่ศาสตร์การชงชายุคใหม่เท่านั้นเอง」

「แหม ฉันชอบน้ำชานะ ?
 โดยเฉพาะเรื่องการปรับแต่งห้องลับสำหรับชงชานั่น」

สมัยก่อนโตเกียวเคยมียุคที่การเปิดห้างสรรพสินค้าด้านอาหารเป็นที่นิยม
ถึงจะเป็นห้างสรรพสินค้าไร้รสนิยมที่ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าการนำเอาร้านค้าชื่อดังจากทั่วประเทศมารวมตัวกันในสถานที่เดียว
แต่ก็เป็นที่ชื่นชอบของชาวโตเกียวอย่างมาก

นับตั้งแต่ยุคเอโดะเป็นต้นมา โตเกียวเคยจัดงานประลองกินอาหารที่ไม่หวาดกลัวแม้แต่ความตายซึ่งเรียกว่า ศึกจอมเขมือบ มาแล้วเสียด้วย
หากคิดถึงจุดนั้น การที่ห้างสรรพสินค้าด้านอาหารจะเป็นที่นิยมในโตเกียวยุคปัจจุบันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด

เมืองโตเกียวนี่ล่ะที่สืบทอดสายเลือดแห่งเอโดะมาอย่างแท้จริง

เมอรี่กำลังเข้าใกล้โตเกียว... เมืองที่ข้ามผ่านกาลเวลาซึ่งเคยเห็นได้แต่ในหนังสือ ...ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ


   10. 千年幻想郷 ~ History of the Moon

   「ภูเขาไฟฟูจิเล็กลงไปแล้ว ส่วนโตเกียวก็เริ่มมองเห็นอยู่ข้างหน้าแล้ว」

「พอได้ฟังเรื่องที่เรนโกะเล่าแล้วรู้สึกสนุกกับโตเกียวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ」

   「เพราะฉันเป็นคนเล่าไงล่ะ
    แต่ว่านะ ถ้าเอาไปเทียบกับเกียวโตแล้ว ยังไงก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกเหมือนมันเป็นเมืองที่ยังไม่ถึงพร้อมทางด้านจิตใจ」

「นานๆทีจะหลอกด่าตัวเองบ้างก็ไม่เห็นจะเป็นไรนี่นา」

   「รอยแยกของเขตแดนก็ต้องปล่อยเอาไว้แบบนั้นล่ะนะ
    เพราะที่นี่แตกต่างอย่างมากกับเกียวโตที่ยังคงค้นคว้าเรื่องวิญญาณมานานเกินพันปี」

「อ๊ะ รายชื่อผู้จัดทำขึ้นมาแล้ว
 กระทั่งภาพฉายแบบนี้ก็ยังจะพยายามประกาศว่าเป็นผลงานของตัวเองอีกน้า」

ทัศนียภาพที่นอกหน้าต่างมีตัวหนังสือลอยขึ้นมา
มันบ่งบอกให้รู้ว่าภาพฉายบนจอ Kaleido-Screen ความยาว 53 นาทีได้จบลงแล้ว

อันที่จริงแล้วไม่ควรมาเสียเวลาคิดว่าทัศนียภาพนี้เป็นผลงานของใคร
เพราะถ้าให้พูดกันชัดๆ ภาพฉายนี้มีพื้นฐานมาจากทางสายทะเลตะวันออกที่ฮิโรชิเกะเคยเห็นเมื่อในอดีต

ถึงอย่างนั้น มนุษย์ก็ยังพยายามอ้างว่าเป็นผลงานของตัวเอง
ผู้โดยสารทุกคนได้แต่มองแล้วสงสัยว่าทัศนียภาพที่เห็นนั้นเป็นของจริงหรือไม่
ส่วนชื่อเจ้าของผลงานภาพฉายนี้ก็ปรากฏมาแล้วหายไป และเมื่อหายไปก็ปรากฏขึ้นมาอีก

เมื่อตรงกลางภาพฉายขึ้นประโยคว่า 「Designed by Utagawa Hiroshige」 ในตอนสุดท้าย โลกใบนี้พลันถูกปิดตายในความมืดมิด


   11. 最も澄みわたる空と海

  ทั้งภาพฉายแบบ High Dynamic Range
    ทั้งทัศนียภาพแบบญี่ปุ่นสุดโต่ง
      ล้วนมิอาจเทียบเทียมสีของท้องฟ้าของจริงได้

  มนุษย์ที่ยังมีจิตสำนึกแบบคนยุคก่อนคงไม่มีแล้วกระมัง
    สัมผัสแบบ Virtual ทิ่มแทงประสาทสัมผัสของมนุษย์ยิ่งกว่าแบบ Real
      ราวกับมิอาจแยกแยะความฝันกับความจริง ราวกับมิอาจแยกแยะมนุษย์กับผีเสื้อ
        การที่มิอาจแยกแยะ Virtual กับ Real ได้อย่างเด็ดขาดนี่ล่ะ คือสามัญสำนึกในยุคปัจจุบัน

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า Virtual คือแก่นแท้ของมนุษย์

    แม้ร่างกายข้าร่วงโรยพร้อมใบไม้
    ใจข้ายังโบยบินพร้อมกลิ่นโชย

ทั้งสองออกมาจากสถานีโตเกียวเพื่อขึ้นสู่พื้นพิภพ และพูดคุยกันต่อจากการสนทนาที่แสนจะไร้สาระเป็นเวลา 53 นาที



Tips :
- จากเนื้อหาในแผ่นนี้ทำให้สรุปได้ว่า พวกเธอเป็นคนในยุคอนาคต เพราะรถยนต์เป็นแค่ของตกยุคที่ไม่มีใครใช้แล้ว แถมโตเกียวเป็นแค่บ้านนอก
 เผลอๆอาจเป็นอนาคตในอีกพันปีข้างหน้าเลยก็เป็นได้ (หากดูจากเนื้อหาในเพลงที่ 10)
- ความเชื่อของคนญี่ปุ่นคือกระต่ายตำโมจิอยู่บนดวงจันทร์ ทำไมเมอรี่ถึงคิดว่าตำยา ? แล้วนั่นหมายถึงยาโฮวไรรึเปล่า ?
- 3 สัปดาห์ = 21 วัน = 504 ชั่วโมง = 30240 นาที ... ถ้าเทียบ 1 นาทีเป็น 1 คืน จะเท่ากับ 83 ปีโดยประมาณ
- เพลงที่ 6 คำว่า Most Famous Hero นัยถึงเครือตระกูลเกนจิที่เอาชนะเครือตระกูลเฮย์เคะจนก่อตั้งบาคุฟุที่คามาคุระได้สำเร็จ
- เพลงที่ 7 คำว่า Elixir of Life นัยถึงยาโฮวไรซึ่งทานแล้วจะไม่แก่ไม่ตาย
 ตามตำนานกล่าวว่าพระจักรพรรดิสั่งให้ทหารเอาไปโยนลงภูเขาไฟฟูจิ เพื่อให้มันถูกเผาและกลายเป็นควันลอยไปจนถึงดวงจันทร์
- ลอก / แรงบันดาลใจ ... ในช่วงที่ท่าน ZUN แต่งเนื้อเรื่องของแผ่นเพลงนี้ ที่ญี่ปุ่นกำลังนิยมจับผิดภาพที่ลอกผลงานคนอื่นพอดี
 โดยข้ออ้างยอดนิยมที่เหล่านักวาดนำมาใช้อ้างกันก็คือ มันเป็นแรงบันดาลใจ (ฮา)
- ดอกไม้ที่ถูกกล่าวถึงในเพลงที่ 8 ก็คือ ดอกฮิกันบานะ นั่นเอง
- บทกลอนที่ปรากฏในเพลงที่ 11 ประพันธ์โดยนักบวชนาม คูวไค





ปัจฉิมลิขิต


คาดว่าต้องกล่าวยินดีที่ได้รู้จัก ข้าพเจ้าชื่อ ZUN ครับ

เนื้อเรื่องในแผ่นเพลงอัลบั้มนี้ไม่มีทั้งความคืบหน้าหรือมุขอะไรซ่อนอยู่ทั้งนั้น
เป็นแค่การแอบฟังสองสาวแห่งชมรมผนึกลับสนทนากันตามปกติครับ
ในอีกความหมายหนึ่งก็คือ Happy End

ผู้ที่นั่งอยู่ข้างๆแค่ฟังการสนทนาของสองสาวแล้วตบมุขอยู่ในใจน่ะครับ
การตบมุขนั่นก็คือ Narration (บทพากย์) ที่ประกอบการสนทนาของพวกเธอในแต่ละเพลงนั่นเอง
จริงเหรอ ?
ดูเหมือนทั้งสองคนจะฉลาดหลักแหลมกว่าวัยรุ่นทั่วไป เด็กสาวที่หัวดีนี่เท่ชะมัด

ธีมของเรื่องราวในครั้งนี้ก็เหมือนกับแผ่นเพลงอัลบั้มที่แล้วครับ
เป็นเรื่องราวของความฝันกับความจริง เรื่องราวของ Virtual กับ Real
ลองใส่ความ Virtual แบบปัจจุบันลงในหัวให้มากขึ้นแล้วจินตนาการดูนะครับ แล้วจะรู้ว่านี่เป็น CD ที่ฟัง(อ่าน)แล้วสบายใจกว่าแผ่นที่แล้ว เนอะ ?

เดี๋ยวนี้อนิเมะหรือเกมมักตกเป็นแพะรับบาปเวลาเกิดอาชญากรรมแปลกๆขึ้น
ทุกครั้งที่เกิดเรื่องก็จะมีผู้ใหญ่ออกมาพูดว่า หัดแยกแยะ Real กับ Virtual ซะบ้างสิ
จากนั้นก็จะเกิดข้อแก้ตัวว่า ไม่ว่าใครก็แยกแยะได้ทั้งนั้นแหละ
แต่มันเปล่าประโยชน์สิ้นดี ไม่เห็นต้องออกมาพูดอะไรเลย

อัจฉริยภาพคือสิ่งที่ส่องประกายในความฝัน ซึ่งสามารถทำให้จิตใจละทิ้งร่างกายแล้วโบยบินไปสู่ด้านนอกของความเป็นจริงได้
ประสบการณ์และความรู้ที่ได้รับมาจากที่แห่งนั้นไม่มีทางสูญเปล่าอย่างแน่นอน
ความแตกต่างระหว่าง Virtual กับ Real ก็เหมือนกับความแตกต่างระหว่าง Software กับ Hardware นั่นแหละ
ไม่มีทางใช้งานโดยแยกออกจากกันได้

ใช่มั้ยล่ะ ?

หากไม่ใช่แบบนั้น ดนตรีก็คงจะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้คน
เพราะว่า Virtual ที่เกิดจากดนตรีนั้นก็คือการนำดนตรีที่มีอยู่แล้วมาแสดงซ้ำนั่นเอง......

ดังนั้นอย่าพูดว่าต้องแยกแยะระหว่าง Real กับ Virtual เลย อยากให้ทำสิ่งต่างๆด้วยความคิดที่ว่าไม่สามารถแยกมันออกจากกันได้จะดีกว่า

                  เซี่ยงไฮ้อลิสเกนกาคุดัน ZUN (อยากออกเดินทาง)



.........................................................................................................................................................................................


PS. ท่านสามารถหาซื้อหรือสั่งซื้อแผ่นเพลงนี้ได้ทั่วไปตามร้านโดจินชอปในญี่ปุ่น
หรือดาวน์โหลดได้ที่ ลิงค์นี้
PS. ตัวอักษรสีเขียวที่มักอยู่ในวงเล็บนั้น เป็นคำอธิบายเพิ่มเติมจากผู้แปล (เซเบอร์คุง) เอง จึงเรียนไว้ให้ทราบโดยทั่วกัน
PS. ข้อความทั้งหลายทั้งมวลที่อยู่ภายใต้หัวข้อ Tips นั้น เป็นคำอธิบายเพิ่มเติมจากผู้แปล (เซเบอร์คุง) เอง จึงเรียนไว้ให้ทราบโดยทั่วกัน


.........................................................................................................................................................................................