CoLA - 016


東方香霖堂 ~ Curiosities of Lotus Asia.
โทวโฮวโควรินโดว (ร้านโควรินโดวแห่งตะวันออก) ~ ความอยากรู้อยากเห็นของดอกบัวเอเชีย


.........................................................................................................................................................................................


ตอนที่ 16
「ภูตรับใช้ที่ไม่ทำงาน」

 

ไม่ใช่ว่าทำแล้วจะมีการตอบสนองอะไรเป็นพิเศษออกมาหรอกนะ, แต่ผมกำลังเคาะคีย์บอร์ดที่เป็นของขายอยู่
คีย์บอร์ด เป็นอุปกรณ์ที่มีปุ่มอยู่มากมายจนถึงกับต้องพูดว่า เยอะขนาดนี้เลยเรอะ, และเป็นส่วนหนึ่งของอุปกรณ์ที่เรียกว่า คอมพิวเตอร์
เพราะเป็นของขายก็เลยอยากทำให้สะอาดอยู่เสมอ แต่เจ้าคีย์บอร์ดนี่ดันถูกฝุ่นจับได้ง่าย แถมยังทำความสะอาดยากเป็นพิเศษ
ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่ามันมีรูปร่างที่ไร้ความอ่อนโยนสุดๆ

แม้แต่ในหมู่สินค้าของร้านผมก็ต้องจัดว่า คอมพิวเตอร์เป็นสินค้าที่มีอัตราการเข้าร้านสูงมาก
กล่าวคือ มีการค้นพบในเกนโซวเคียวเป็นจำนวนมาก
มันจึงกลายเป็นของที่ยุ่งยากเพราะไม่ค่อยจะมีคนที่อยากได้มัน
แถมขนาดก็ค่อนข้างใหญ่เลยกินที่น่าดู
ดังนั้นช่วงนี้ต่อให้เจอคอมพิวเตอร์ ผมก็จะไม่เก็บมันมา เว้นแต่จะรู้สึกถูกตาต้องใจเป็นอย่างมากเท่านั้น



คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่จะทำงานตามคำสั่งของผู้ใช้งาน, กล่าวคือเป็นภูตรับใช้ของโลกภายนอก
แต่โครงสร้างที่ซับซ้อนจนถึงขั้นพิสดารกับรูปลักษณ์ภายนอกที่ไม่น่าสนใจ, ทำให้ผมรับรู้ได้ถึงทิศทางของวัฒนธรรมของโลกภายนอก

เมื่อพูดถึงภูตรับใช้ในเกนโซวเคียว เรื่องภาพลักษณ์ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องเอาใจใส่
จึงมีรูปลักษณ์ที่น่าสนใจอยู่มากมาย หลากเผ่าหลายพันธุ์ เช่น จิ้งจอกและแมว
ซึ่งมันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น, เพราะอันที่จริงแล้วภูตรับใช้เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นโดยการมอบหมายหน้าที่ให้
โดยภูตรับใช้จะมีรูปลักษณ์เหมือนกับช่วงก่อนที่จะกลายเป็นภูตรับใช้
แน่นอนว่าเรื่องที่ภูตรับใช้คืออุปกรณ์อย่างหนึ่งนั้นคือเรื่องที่สำคัญที่สุด, แต่หากภูตรับใช้สูญเสียภาพลักษณ์ไปก็จะสติแตกเอาได้
ดูเหมือนที่โลกภายนอกจะเอาใจใส่เรื่องของภายในมากกว่าภายนอกเป็นอย่างมาก
แต่ว่าแบบนั้นมันไร้หัวใจเกินไปหน่อยรึเปล่า



――กริ๊งกริ๊ง

「โอ้ว, ชักจะเย็นขึ้นมาหน่อยแล้วแฮะ
 หมดฤดูใส่เสื้อแขนสั้นแล้วสินะเนี่ย」

「อ้าว, เธอยังใส่เสื้อแขนสั้นอยู่อีกเหรอ
 คิดว่าฤดูร้อนจะอยู่ไปถึงเมื่อไหร่กันล่ะ ?
 มันเริ่มหนาวจนใกล้ได้เวลาที่ผมจะต้องเอาเครื่องทำความร้อนมาใช้แล้วนะ」

「เอ่อ--- ไม่นะ, ฉันเองก็คิดว่ามันหนาว แต่จะเอาเครื่องทำความร้อนมาใช้มันก็ยังเร็วเกินไปนะ, เอ๊ะ อะไรน่ะ ? กาแฟนั่น
 กาแฟอยู่ในขวดปากแคบแบบนั้นมันแปลกชะมัดเลยแฮะ」

เครื่องดื่มที่มาริสะระบุว่าเป็นกาแฟนั้น, แม้ว่าจะชื่อคล้ายกันแต่มันไม่ใช่กาแฟ (ญี่ปุ่นเรียกว่า โคฮี), ชื่อของมันคือ โคล่า ต่างหาก
มันเป็นเครื่องดื่มของโลกภายนอก
กะแค่เครื่องดื่มเนี่ย ขอแค่รู้คุณประโยชน์, ต่อให้ไม่รู้วิธีใช้ก็สามารถดื่มได้

「อะไรนะ ?
 โคล่างั้นเหรอ... ...อ๊ะ เอาของเก็บตกมาดื่มแบบนั้นได้ไง ?」

「ไม่เป็นไรหรอก
 เจ้านี่เป็นของขายน่ะ, และร้านโควรินโดวก็เป็นร้านที่ขายของที่เก็บตกมาได้ไงล่ะ」



ผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะไม่เป็นไรจริงรึเปล่า, มาริสะเองก็นั่งลงบนโต๊ะด้วยท่าทีว่าจะยอมรับได้

พระอาทิตย์ตกเร็วขึ้นเรื่อยๆ
ท้องฟ้ากลายเป็นสีแดงแล้ว, กลายเป็นสีที่ทำให้อยากกลับบ้านโดยมิอาจขัดขืนได้
พระอาทิตย์ในฤดูใบไม้ร่วงมักถูกเรียกว่า ทสึรุเบะโอโตชิ อยู่บ่อยๆ
(ทสึรุเบะโอโตชิ แปลว่า ถังตก และยังหมายถึงปรากฏการณ์ที่พระอาทิตย์ตกดินเร็วมากในฤดูใบไม้ร่วง)
ทว่า, ทสึรุเบะโอโตชิเป็นเรื่องของความเร็ว, ส่วนพระอาทิตย์ตกดินในฤดูใบไม้ร่วงเป็นเรื่องของเวลา ผมจึงคิดว่าไม่เข้ากันแต่อย่างใด
แต่บางทีที่ผมอธิบายไปเมื่อครู่อาจจะไม่ถูกต้องก็ได้, บางทีอาจมีความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งกว่านี้อยู่ก็เป็นได้
เอาไว้คราวหน้าลองคิดถึงเรื่องนี้ดูตอนที่มีเวลาว่างดีกว่า



「จริงสิ
 คอมพิวเตอร์ที่อยู่ตรงโน้น
 ขอสักเครื่องได้ป่าว ?」

「อ้อ งั้นเหรอ
 จะซื้อสินะ ?
 เจ้าของลดราคาชิ้นนี้」

「เปล่า, ฉันไม่มีเงินหรอก, แค่คิดว่าภูตรับใช้มันน่าสนใจนิดหน่อยเท่านั้นเอง」

「ไม่มีเงินงั้นเหรอ, งั้นติดเป็นหนี้ไว้ก่อนก็ได้นะ... ...」

หากการเดินเลือกสินค้าในร้านโดยไม่คิดจะซื้อ เรียกว่า เดินดู
แล้วคนที่จะเอาสินค้ากลับบ้านโดยที่ไม่คิดจะจ่ายเงินนี่ควรเรียกว่าอะไรดีล่ะ
เรียกว่า มาริสะ ดีมั้ย

「เออ ติดหนี้ไว้ก็ได้วะ」

「ไม่รู้หรอกนะว่ามีตัวเลือกอื่นรึเปล่า, แต่ถ้าเป็นหนี้แล้วต้องจ่ายให้ครบด้วยล่ะ
 เอาล่ะ, คอมพิวเตอร์เองก็มีอยู่หลายแบบ, ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่, ถ้าเป็นเธอจะเลือกแบบไหนล่ะ ?」



「ต้องเครื่องใหญ่อยู่แล้ว
 เครื่องใหญ่มันน่าจะแข็งแกร่งกว่าใช่มั้ยล่ะ ?」

ข้างนอกมืดลงแล้ว, แต่มาริสะก็พยายามแบกคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่กลับไปจนได้
มันเป็นอุปกรณ์ที่ใหญ่โตจนไม่เข้ากับคนตัวเล็กอย่างเธอ,
แต่ก็น่าประหลาดที่พอเห็นเธอแบกมันอย่างแข็งขันแล้วกลับรู้สึกขึ้นมาอย่างแรงว่า นี่แหละถึงจะสมกับเป็นมาริสะ
ปกติแล้วยิ่งอุปกรณ์มีขนาดใหญ่ก็จะยิ่งมีโครงสร้างที่เรียบง่าย
คอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่ที่มาริสะเอาไปก็มีลักษณะภายนอกที่เรียบง่ายเช่นกัน
แต่ว่า, ภายในกลับซับซ้อนพิศวงจนน่าตกใจ, มันเป็นวัตถุที่สิ่งของในเกนโซวเคียวไม่อาจเทียบได้เลย

ภูตรับใช้ที่ซับซ้อนอย่างคอมพิวเตอร์นี้ไม่อาจสร้างได้โดยปราศจากวิทยาการของโลกภายนอก
ไม่เพียงแต่คอมพิวเตอร์เท่านั้น,
อุปกรณ์ส่วนใหญ่ตั้งแต่จานชามจนถึงกระดาษที่ใช้ทำหนังสือพิมพ์, ล้วนเป็นผลผลิตจากวิทยาการของโลกภายนอกทั้งสิ้น
ทั้งจิตใจและร่างกายของมนุษย์ที่เหล่าโยวไคใช้เป็นอาหารประจำวัน, เหยื่อเหล่านั้นก็ล้วนเป็นมนุษย์จากโลกภายนอก
เกนโซวเคียวซึ่งเป็นมิติปิดตายนี้จึงตั้งอยู่บนความเมตตากรุณาจากโลกภายนอกโดยแท้
แม้จะพูดกันบ่อยๆว่า 「ผู้ใหญ่สั่งยังไงก็ทำไปเหอะ」 แต่ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะทำแล้วมันสะดวกสบายหรือปลอดภัยหรอกนะ
มันเป็นคำสอนสำหรับฝึกฝนตัวเองของผู้ที่ตกต่ำลงจนต้องหนีไปอยู่ในที่แคบต่างหาก
การวางตัวเองในจุดที่กว้างใหญ่กว่า จะทำให้ทัศนวิสัยกว้างไกลขึ้น และเรียนรู้สิ่งต่างๆได้มากขึ้น

เมื่อถูกขังอยู่ในเกนโซวเคียวที่เป็นมิติปิดตาย, ก็ค่อยๆหลงลืมไปว่าได้รับความเมตตากรุณาจากโลกภายนอก
เรื่องแบบนี้มิใช่ว่าพบได้เฉพาะแต่ในเกนโซวเคียว
ใครก็ตามที่วางตัวเองไว้ในที่ที่ยิ่งแคบ ก็ยิ่งรู้สึกถึงความเมตตากรุณาจากสิ่งใหญ่ๆได้น้อยลง
หากอยู่ในสภาพดังกล่าว, แล้วยังพยายามคิดว่าเกนโซวเคียวยอดเยี่ยมกว่าโลกภายนอก, มันก็แค่ความอวดดีเท่านั้น
ยิ่งผู้คนตกอยู่ในที่แคบ ก็ยิ่งอวดดีมากขึ้น และสูญเสียความทะเยอทะยานมากขึ้น
หากลองมองเกนโซวเคียวในตอนนี้ก็จะเข้าใจ ว่าการดำรงชีวิตของทั้งมนุษย์และโยวไคกำลังตกต่ำลง

ผมกำลังคิดว่า อยากไปใช้ชีวิตที่โลกภายนอกเพื่อฝึกฝนตัวเองในสักวันหนึ่ง
ซึ่งก็คือการทำตามผู้ใหญ่นั่นแหละ
ผมกำลังฝันว่าจะได้ขัดเกลาตนเองและได้ใช้ความรู้ของตัวผมในตอนนี้ให้มากยิ่งขึ้น ณ ที่แห่งนั้น



แม้ว่าคอมพิวเตอร์จะมีคุณประโยชน์มากมายหลายอย่าง แต่ความสามารถของผมบอกให้รู้ว่า,
คอมพิวเตอร์ที่เก็บได้ในช่วงนี้มีการปรับปรุงความสามารถด้านการส่งข้อมูลมากเป็นพิเศษ (คาดว่านัยถึง อินเตอร์เนท)
ว่ากันว่าถ้าทำงานขึ้นมาสักครั้งหนึ่งแล้ว จะรวบรวมข้อมูลด้วยความเร็วที่สุดยอด... ...
แต่ภูตรับใช้ที่เป็นกล่องสี่เหลี่ยมแบบนี้ไม่น่าจะทำงานด้วยตัวเองได้
มันจึงเป็นเรื่องยากที่ผมจะจินตนาการถึงภาพตอนมันทำงาน

ถ้าอยากสร้างภูตรับใช้ไว้รวบรวมข้อมูล, แม้ว่าจะเป็นเรื่องยาก แต่ก็น่าจะมีรูปลักษณ์แบบพวกเทนกุมากกว่า
หากทำเช่นนั้นก็จะก่อให้เกิดคอมพิวเตอร์ที่มีเสน่ห์มาตั้งแต่แรก, หลังจากนั้นค่อยว่ากันเรื่องความสามารถในการรวบรวมข้อมูล
วิธีคิดแบบนี้แหละคือสัจธรรมอันเป็นสากลแห่งเกนโซวเคียว



ผมมองขวดโคล่าเปล่าก่อนจะเข้านอน
โคล่าทำให้รู้สึกว่ามีกรดอยู่ในปากนิดหน่อย แต่ขวดของมันมีรูปร่างที่มองแล้วเพลินตาดี
บางทีมันอาจเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสำหรับเกนโซวเคียวก็เป็นได้
ถ้าภูตรับใช้ของโลกภายนอกมีรูปลักษณ์ภายนอกที่น่าสนใจแบบนี้ล่ะก็, แม้แต่ร้านของผมก็ต้องมียอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่านี้แน่
ยามราตรีผ่านพ้นไปในขณะที่ผมคิดถึงเรื่องดังกล่าว



――กริ๊งกริ๊ง

「คุณรินโนะสุเกะ
 อยู่สินะ ?」

「อืม อยู่สิ」

「ฉันได้ยินมาจากมาริสะน่ะ
 ช่วงนี้ชอบเคี้ยวของอะไรสักอย่างที่เก็บตกมาได้งั้นเหรอ ?」

การส่งข้อมูลของเกนโซวเคียวมีความเร็วสูงมาก แม้ไม่มีคอมพิวเตอร์
ทั้งที่เป็นเรื่องของเมื่อวาน แต่ก็ถ่ายทอดไปจนถึงเรย์มุแล้ว
ทว่า, ข้อมูลดังกล่าวได้เปลี่ยนแปลงเป็นอะไรอย่างอื่นไปแล้ว
ข้อมูลที่คอมพิวเตอร์รวบรวมมาก็คงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้เหมือนกันล่ะมั้ง

「เคี้ยวของอะไรสักอย่างที่เก็บตกมาได้งั้นเหรอ, ผมแค่ดื่มโคล่าเท่านั้นเองนะ」

「โคล่า ? ไม่ค่อยเข้าใจว่ามันคืออะไร แต่มันเป็นของที่เก็บตกมาได้ใช่มั้ยล่ะ ?
 ไม่ดื่มของที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรจะดีกว่านะ... ...」

เรย์มุหยิบขวดโคล่าเปล่าขึ้นมาด้วยความสงสัย
รูปลักษณ์ภายในของโคล่าคือเครื่องดื่มสีดำ
แต่ขวดซึ่งเป็นรูปลักษณ์ภายนอกกลับมีรูปร่างที่น่าสนใจ, จนไม่อาจมองข้ามได้
มันทำให้รู้สึกถึงภูมิปัญญาอันยิ่งใหญ่
จนชวนให้สงสัยว่ามนุษย์ที่สร้างโคล่ากับมนุษย์ที่สร้างคอมพิวเตอร์นั้นเป็นมนุษย์เหมือนกันรึเปล่า



「แล้วก็เมื่อวาน, มาริสะบอกว่าได้คอมพิวเตอร์มาก็เลยอารมณ์ดีสุดๆ, นั่นเป็นของขายของร้านนี้สินะ ?
 ไม่รู้ว่าฉกมาตามอำเภอใจรึเปล่า ก็เลยคิดว่าต้องมาแจ้งให้ทราบไว้ก่อนน่ะ... ...」

「อ๋อ, เธอซื้อไปน่ะ
 ไม่ได้ฉกเอาไปหรอก
 แต่ถึงได้เจ้านั่นไปก็คงไม่เกิดอะไรขึ้นอยู่ดี
 ผมเองก็เพิ่งเข้าใจเมื่อเร็วๆนี้เองว่าภูตรับใช้นั่นมันต่างกับภูตรับใช้ที่พวกเรารู้จักกันดีอยู่นิดหน่อย」

「รูปลักษณ์ภายนอกล่ะสิ ?」

「รูปลักษณ์ภายนอก... ...มันก็ใช่อยู่ แต่ที่ยิ่งกว่านั้นก็คือ แนวคิด น่ะ
 ภูตรับใช้ที่พวกเราคุ้นเคยกันคือ 『สิ่งที่เปลี่ยนจิตใจให้กลายเป็นอุปกรณ์โดยการสร้าง Pattern』
 กล่าวคือ การก่อมายาให้เกิดสสาร」

「เพราะอย่างนั้นก็เลยมีภูตรับใช้จำนวนมากที่เป็นพวก One-Pattern สินะ」
(หมายถึง พวกที่ตอบสนองต่อเหตุการณ์หนึ่งๆด้วยวิธีการ(รูปแบบ)เดิมเสมอ)

「แต่ว่า, ดูยังไงคอมพิวเตอร์นี่ก็ไม่เห็นว่ามันจะมีกะจิตกะใจจะทำงานด้วยตัวเองเลยสักนิดเดียว
 แปลว่ามันคืออุปกรณ์มาตั้งแต่แรกไงล่ะ
 ผมจินตนาการว่าเจ้านี่คือ 『สิ่งที่เปลี่ยนอุปกรณ์ให้กลายเป็นจิตใจโดยการสร้าง Pattern』
 กล่าวคือ การก่อสสารให้เกิดมายา」

「ไม่ค่อยเก็ตเลยน้า
 เหมือนพวกตุ๊กตาที่เคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเองน่ะเหรอ ?」

「โลกภายนอกไม่มีสิ่งที่เป็นมายา
 ไม่สิ, เพราะเป็นสิ่งที่ไม่มีตัวตนจึงถูกเรียกว่า มายา
 ด้วยเหตุนี้มนุษย์จึงสร้างอุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดมายาขึ้นมาไงล่ะ」

「หืม---
 แล้วเอาภูตรับใช้แบบนั้นให้มาริสะไปมันจะดีเหรอ ?」

「ยังไงก็คงกลายเป็นแค่เศษเหล็กที่ถูกวางทิ้งเอาไว้อยู่ดีนั่นล่ะนะ」



――กริ๊งกริ๊ง

「ได้ยินนะโว้ย
 มันยังไม่กลายเป็นเศษเหล็กสักหน่อย」

「อ้าว, อยู่ด้วยเหรอ
 มาริสะ」

「คอมพิวเตอร์มันไม่ตอบสนองอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว, ก็เลยมาพักผ่อนนิดหน่อยน่ะ
 มีโคล่ารึเปล่า ?」

「โคล่าเคยเป็นของที่เหมือนกับยาน่ะ
 ไม่ใช่ของที่อร่อยสักเท่าไหร่หรอกนะ」

「อุตส่าห์นึกว่ามันจะกลายเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์เหมือนตุ๊กตาซะอีกน้า---」



มาริสะยืนที่ประตู และทำหน้าเสียดายอย่างเห็นได้ชัด ราวกับปล่อยให้โยวเซย์ขี้แกล้งหนีหลุดมือไปได้ก็มิปาน



「ตุ๊กตา ? ตุ๊กตาเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์งั้นเหรอ ?」

「ก็นั่นไง, คนที่ใช้ให้ตุ๊กตาช่วยทำงานบ้านก็มีไม่ใช่เหรอ (นัยถึง อลิส มาร์กาทรอยด์)
 ไอ้นั่นมันก็เหมือนกับภูตรับใช้ (式神) นี่นา ?」

「พูดอะไรของเธอน่ะ ? ไม่น่าจะสามารถทำให้ตุ๊กตาจดจำรูปแบบ (式) ได้ไม่ใช่เหรอ」



มาริสะกำลังเข้าใจผิดอีกแล้ว
มาริสะทำหน้าประหลาดใจพลางนั่งลงบนของขาย
ส่วนเรย์มุก็กำลังเล่นคอมพิวเตอร์เครื่องเล็กตามอำเภอใจตามแบบฉบับของเรย์มุ
ผมรู้สึกกลัวนิดหน่อยเพราะพอเรย์มุเล่นมันแล้ว มันทำท่าเหมือนจะทำงานขึ้นมา



「เธอบอกว่าตุ๊กตาที่เคลื่อนไหวได้เป็นสิ่งคล้ายกับภูตรับใช้สินะ ?
 เรื่องแบบนั้นมันก็อาจจะเป็นไปได้, แต่ตุ๊กตาไม่มีทางเป็นภูตรับใช้ได้ในเกนโซวเคียวตอนนี้」

「แต่แรกเริ่มเดิมทีฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่เรียกว่าภูตรับใช้นักหรอกนะ, แต่มันคล้ายๆกับพวกอสูรรับใช้ใช่มั้ยล่ะ ?」

「อสูรรับใช้กับตุ๊กตาก็มีส่วนที่ใกล้เคียงกันอยู่
 อสูรรับใช้กับภูตรับใช้ก็มีส่วนที่ใกล้เคียงกัน
 แต่ว่า, ภูตรับใช้เป็นสิ่งที่แตกต่างจากตุ๊กตานะ」

「ถ้างั้นมันต่างกันตรงไหนล่ะ
 ฉันเคยเห็นมันทำงานตามคำสั่งนะว้อย ?」

「ตุ๊กตาน่ะ... ...แค่ถูกควบคุมอยู่เท่านั้นแหละ」



ใบหน้าของมาริสะถูกย้อมด้วยสีแดงตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่ทราบ
พระอาทิตย์ตกดินแล้วนี่เอง
จากนี้ไปเวลากลางวันจะสั้นลง, ยังผลให้พลังของโยวไคแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

เมื่อวานนี้, ผมลองคิดถึงเรื่องของทสึรุเบะโอโตชิดูนิดหน่อย
「ทสึรุเบะโอโตชิ (ถังตก)」 ในฤดูใบไม้ร่วงมิได้หมายถึง 「ถังน้ำที่ตกลงไปในบ่อน้ำ」 แต่เป็น 「ชื่อของโยวไค」 ต่างหาก
ทสึรุเบะโอโตชิ (ผีถังตก) คือโยวไคที่จู่โจมจากบนต้นไม้ในยามวิกาล
แสดงว่า ยิ่งเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ก็ยิ่งพบผีถังตกได้บ่อยขึ้นงั้นหรือ
ถ้าอย่างนั้นทั้งเรื่องความเร็วและเวลาก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด



「ตุ๊กตาถูกควบคุมแล้วมันต่างกับภูตรับใช้ตรงไหนล่ะ ?
 พวกภูตรับใช้ก็ถูกควบคุมอยู่เหมือนกันนี่นา... ...」

「การขยับมือของตุ๊กตา, ต้องดึงเชือกที่ผูกไว้กับมือ
 การทำให้เห็นว่าตุ๊กตากำลังเดิน, ต้องผลัดกันขยับเชือกที่ผูกไว้กับเท้า
 การทำให้เห็นว่าตุ๊กตากำลังมีชีวิต, ต้องดึงเชือกเหล่านั้นทั้งหมด」

「มีเชือกอยู่จริงๆรึเปล่าน้า---」

「อันที่จริงไม่ต้องมีเชือกก็ได้นะ
 อาจใช้เวทมนตร์หรือพลังอะไรบางอย่างในการควบคุมก็เป็นได้
 การขยับมือขวาของตุ๊กตา จำเป็นต้องมีใครสักคนขยับมือขวา
 การใช้ให้ตุ๊กตาช่วยทำงานบ้าน ก็ต้องคอยควบคุมให้มันช่วยทำงานบ้าน」

「ต้องคล่องแคล่วน่าดูเลยนะนั่น
 ทำงานบ้านด้วยตัวเองจะไม่ง่ายกว่าเหรอ ?」

「ก็คงจะง่ายกว่านะ
 แต่ว่า, ถ้าหากคล่องแคล่วจนควบคุมได้หลายตัวพร้อมกัน,
 ถึงจะไม่ง่าย แต่ก็ทำให้สามารถทำเรื่องที่ไม่อาจทำด้วยตัวคนเดียวได้นะ」

「งั้นเหรอ
 แสดงว่า, การพูดคุยกับตุ๊กตา ก็คือการควบคุมให้ดูเหมือนกำลังพูดคุยกับตุ๊กตางั้นสิ
 ช่างเป็นการเล่นละครคนเดียวที่ต่ำช้าอะไรอย่างนี้」

「ส่วนภูตรับใช้ ก็คือสิ่งที่ทำงานตามคำสั่งของผู้เป็นเจ้าของ」

「อ้าว, งั้นก็เหมือนกับตุ๊กตาน่ะสิ」



เรย์มุอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์
ดูเหมือนเธอจะยอมรับแล้วว่ามันไม่ทำงานจริงๆ จึงเลิกสนใจคอมพิวเตอร์ และตอนนี้เธอกำลังดื่มน้ำชาอยู่



「ต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยล่ะ
 ภูตรับใช้จะได้รับพลังอย่างหนึ่ง จากการทำงานตามคำสั่ง
 ถ้าให้เทียบกับตุ๊กตาที่ยกตัวอย่างไปเมื่อครู่,
 การขยับมือขวาของภูตรับใช้นั้นไม่จำเป็นต้องดึงมือขวา, แค่บอกให้ชูมือขึ้นก็พอแล้ว」

「ก็ภูตรับใช้มันมีชีวิตนี่นะ」

「แค่มีชีวิตไม่ได้หมายความว่ามันจะต้องฟังคำสั่งนี่นา ?
 ถ้าผมบอกให้เธอยกมือขึ้นแล้วจะยกรึเปล่าล่ะ」

「ยกโว้ย
 นี่ไงนี่ไง」

「กวนประสาทจริงๆเลยนะเธอเนี่ย」

「แล้วไงต่อ ? อะไรที่จำเป็นต่อการใช้งานเจ้าคอมพิวเตอร์นั่นล่ะ ?」



ความมืดค่อยๆก่อตัวภายในร้านมากขึ้น ในขณะที่เรากำลังคุยกัน
ถึงเวลาที่ทสึรุเบะโอโตชิ(ผีถังตก)จะออกอาละวาดแล้วสินะ
แต่ว่า, ถ้าเป็นเด็กพวกนี้คงออกตามหาทสึรุเบะโอโตชิแล้วแหย่เล่นด้วยความสนุกสนานเป็นแน่



「นั่นสินะ... ...
 คงต้องมีพลังที่จะทำให้คอมพิวเตอร์ยอมฟังที่เราพูด
 กล่าวคือ 『ผู้ใหญ่สั่งยังไงก็ทำไปตามนั้น』 นั่นเอง」



เวลาที่เกนโซวเคียวจะได้ใช้งานคอมพิวเตอร์พวกนี้จะมาถึงรึเปล่านะ
ถ้าดูจากสภาพปัจจุบันเพียงอย่างเดียว, สิ่งที่อยู่ในเกนโซวเคียวไม่มีทางใช้ชีวิตได้โดยปราศจากความเมตตากรุณาจากโลกภายนอก
เช่นนั้นแล้ว, หากจะใช้งานคอมพิวเตอร์ก็ต้องออกไปที่โลกภายนอกเท่านั้น

การส่งข้อมูลของเกนโซวเคียวมีความเร็วสูง
นั่นเป็นเพราะมีผู้ที่อยากรู้อยากเห็นอย่างเต็มเปี่ยมอยู่เต็มไปหมด
หากภูตรับใช้ของโลกภายนอกเป็นสิ่งที่ใช้รวบรวมข้อมูลแทนตนเองล่ะก็, บางทีมันอาจจะยังไม่จำเป็นสำหรับเกนโซวเคียวในตอนนี้ก็เป็นได้



ผมมองคอมพิวเตอร์ที่ไม่ทำงาน แล้วคิดอะไรบางอย่าง
การฝึกฝนตัวเองของผมก็เช่นกัน สักวันหนึ่งคงจำเป็นจะต้องทำตามโลกภายนอกซึ่งเป็นเหมือน 「ผู้ใหญ่」
เกนโซวเคียวกำลังฝากผีฝากไข้ไว้กับความเมตตากรุณาจากโลกภายนอก และใช้ชีวิตอย่างอิสระ
ตัวผมที่ใช้สิ่งของจากโลกภายนอกอยู่นี่แหละที่เข้าใจเรื่องนั้นเป็นอย่างดี

ในขณะที่พวกตนถูกกักขังไว้ในเกนโซวเคียว, ก็รับเอาเฉพาะสิ่งที่ดีจากโลกภายนอกเข้ามา, และแสร้งทำเป็นยืนหยัดได้ด้วยตนเอง
ซึ่งนั่นก็หมายความว่า หากโลกภายนอกล่มสลายลง เกนโซวเคียวก็จะกลายเป็นเพื่อนร่วมทางตามไปด้วยนั่นเอง
ที่ยิ่งกว่านั้นคือ เกนโซวเคียวไม่สามารถก่อให้เกิดผลกระทบต่อโลกภายนอกได้
เหล่าผู้อาศัยในเกนโซวเคียวต่างรู้ดีว่า การใช้ชีวิตในที่แคบโดยไม่ออกไปข้างนอก คือสิ่งที่สบายเป็นที่สุด

ยังไงเสีย มาริสะก็คงคิดจะใช้ให้คอมพิวเตอร์ช่วยทำงานบ้าน เพื่อให้ตนเองสบาย
อุปกรณ์จากโลกภายนอกคงไม่แสดงรูปลักษณ์ที่แท้จริงให้ความคิดตกต่ำที่พบได้เฉพาะในห้วงมิติแคบๆแบบนั้นได้เห็นหรอก



หากผมพยายามจะใช้ภูตรับใช้, ผมเองก็นึกอะไรอย่างอื่นที่ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ไม่ออกเหมือนกัน
สักวันหนึ่งผมจะสั่งการคอมพิวเตอร์ และได้รับพลังที่มากมายกว่าตอนนี้หลายเท่า
ผมคงต้องศึกษาเรื่องราวของโลกภายนอกไปจนกว่าเวลานั้นจะมาถึง



「มีอะไรเหรอ ? มันเริ่มมืดแล้ว เพราะงั้นฉันจะกลับแล้วนะโว้ย ?
 ถึงจะยังไม่เข้าใจวิธีใช้งานคอมพิวเตอร์เลยก็เหอะ」

「จริงสิ, พยายามอย่าเอาของเก็บตกได้มาใส่ปากด้วยล่ะ」

「โอ้ เวลาป่านนี้แล้วเหรอเนี่ย
 อ๊ะ จริงสิ, ทั้งสองคนรอก่อน
 มีบริการพิเศษจะมอบให้ก่อนกลับน่ะ」



ผมพูดเช่นนั้นพลางค้นหาของที่อยู่ในครัว
ใช่แล้ว, สิ่งที่ชาวเกนโซวเคียว(รวมทั้งตัวผม)ขาดไปในการทำให้ภูตรับใช้ตนนี้ทำงานก็คือ, การทำตามผู้ใหญ่อย่างกระตือรือร้น นั่นเอง



ว่าแล้วผมก็ส่งโคล่าให้มาริสะกับเรย์มุไป





สาระน่ารู้น่าสังเกต...
- เป็นที่ทราบกันดีว่า คอมพิวเตอร์เป็นสินค้าที่ตกรุ่นเร็วมาก จึงไม่น่าแปลกใจที่จะไปโผล่ในเกนโซวเคียวเป็นจำนวนมาก
- ในภาพประกอบภาพสุดท้าย บนหน้าจอมีคำว่า ซุย (萃) ซึ่งนัยถึงโทโฮภาค 7.5 ที่วางขายไปก่อนหน้านี้



.........................................................................................................................................................................................

กลับไปที่สารบัญของหนังสือเล่มนี้