東方永夜抄 ~ Imperishable Night.
โทวโฮวเอย์ยะโชว (บทสรุปราตรีนิรันดร์แห่งตะวันออก) ~ ราตรีที่ไม่สิ้นสุด
.........................................................................................................................................................................................
Extra Stage's Back Story (คลิกเพื่ออ่าน)
อาจกล่าวได้ว่า, นี่คือช่วงที่มีอุณหภูมิเหมาะสมกับมนุษย์มากที่สุด
เกนโซวเคียวเองก็สงบสุขเหมือนเช่นที่ผ่านมา
เรย์มุ 「อ๊า--- ให้ตายสิ, น่าเบื่อจังเลย」
ศาลเจ้าฮาคุเรย์, ศาลเจ้าซึ่งตั้งอยู่ ณ พรมแดนเกนโซวเคียว
คุณมิโกะของศาลเจ้าแแห่งนี้เธอว่างอยู่เสมอนั่นล่ะ
มาริสะ 「นั่นสิน้า---, ไม่มีอะไรเลยเหรอ ?
ปกติแล้วหลังเหตุวิปลาสครั้งใหญ่มันจะต้องเกิดเหตุวิปลาสที่เหมือนกับคลื่น Aftershock ตามมานี่นา」
เรย์มุ 「ไม่ต้องเป็นเหตุวิปลาสก็ได้นะ」
มาริสะเองก็ว่างเป็นส่วนใหญ่เช่นกัน
ซาคุยะ 「เพราะงั้นก็เลยอุตส่าห์มาเตรียมพร้อมแบบนี้, แต่แปลกนะ
ไม่เห็นจะมีอะไรเกิดขึ้นเลย」
มาริสะ 「เตรียมรับมือจนเกิดกลัวขึ้นมารึไง ?」
การจับคู่ระหว่างศาลเจ้ากับเมดนั้นช่างเข้ากันได้ดีเกินคาด
โยวมุ 「ไม่ค่ะ, จะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นค่ะ, ท่านยูยูโกะกล่าวไว้เช่นนั้น」
เรย์มุ 「... ...」
ฟังดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือสักเท่าใดนัก
ก๊อง---
แม้ไม่มีกระบอกไม้ไผ่ที่จุน้ำเต็มแล้วกระดกมากระทบก้อนหิน, แต่ก็รู้สึกว่าได้ยินเสียงนั้นอยู่ในหัว
น่าเบื่อขนาดนั้นเลยทีเดียวเชียวล่ะ
――――
คางุยะ 「ถ้าว่างขนาดนั้นล่ะก็, ลองเล่นทดสอบความกล้าในคืนวันเพ็ญนี้ดูมั้ยล่ะ」
(ทดสอบความกล้า คือ การเดินเข้าไปในสถานที่ที่น่ากลัวราวกับจะมีผีโผล่ออกมา เป็นเกมที่ชาวญี่ปุ่นนิยมเล่นกันในฤดูร้อนตอนกลางคืน)
เรย์มุ 「อ๊ะ, มาอยู่ในศาลเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย---」
ผู้ที่ออกมาจากด้านในของศาลเจ้าก็คือ คางุยะ, ผู้เป็นมนุษย์ต่างดาวนั่นเอง
การกระทำและวงจรความคิดของมนุษย์ต่างดาวนั้นเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ยากสำหรับคนธรรมดา
มาริสะ 「ทดสอบความกล้างั้นเหรอ, มันไม่ค่อยมีของที่น่ากลัวนะโว้ย」
คางุยะ 「ไม่ต้องห่วงหรอก, จงไปดูที่ป่าไผ่ในเวลายามฉลูที่สาม (ประมาณตีสองครึ่งถึงตีสาม), ซึ่งกำลังถูกสาดส่องด้วยจันทร์เพ็ญที่แท้จริงสิ
แล้วจะได้ลิ้มรสความน่าสะพรึงกลัวที่แท้จริงนะ, มันวิเศษมากเลยล่ะ」
ซาคุยะ 「เฮ้ย, เธอน่ะ, วางแผนอะไรเอาไว้ล่ะสิ ?」
คางุยะ 「ถึงไม่ได้วางแผนเอาไว้... ...ก็ยังน่ากลัวอยู่ดีนะ, น่ากลัวยิ่งกว่าเจ้านายของเธอเป็นแน่เลยล่ะ」
โยวมุ 「ทดสอบความกล้า... ..., ฉันไม่ค่อยจะ... ...」
เรย์มุ 「ครึ่งคนครึ่งผีดันกลัวผีที่สุดในกลุ่มแบบนี้แล้วจะทำยังไงล่ะเนี่ย」
――――
ส่วนใหญ่ก็ว่างกันเต็มประดา, จึงรู้สึกสนใจอย่างจริงจัง ตรงข้ามกับลักษณะภายนอกที่แสดงออก
ยิ่งไปกว่านั้น, ท่าทางของคางุยะก็แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าต้องมีอะไรบางอย่างอยู่เป็นแน่
เรย์มุ 「ถ้าเกิดอะไรขึ้นในตอนที่มัวแต่ยุ่งอยู่กับการทดสอบความกล้าแล้วจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย」
มาริสะ 「การที่ยัยนี่มายุให้เล่นทดสอบความกล้า, มันก็คือปากทางสู่เหตุวิปลาสดีๆนี่ล่ะวะ」
ซาคุยะ 「ถ้าไปตามคิวแล้วคนที่เหลืออยู่รอที่ศาลเจ้า, ต่อให้เกิดอะไรขึ้นก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ」
โยวมุ 「เอ๋~, จะเล่นกันจริงๆเหรอคะ~, เกมทดสอบความกล้าเนี่ย~」
เอาจริงว่ะ
คางุยะ 「อ๊ะ, จริงสิ, ตอนเล่นทดสอบความกล้าน่ะ ช่วยไปกันเป็นคู่เหมือนตอนที่บุกบ้านฉันด้วยนะ
เผื่อเกิดอะไรขึ้นกับคนนึงก็จะได้มีอีกคนนึงที่สามารถติดต่อกลับมาได้ทันที」
เรย์มุ 「มีอะไรบางอย่างที่น่าสงสัยจริงๆด้วยสินะ」
มาริสะ 「ตั้งใจจะเอาคืนเรื่องก่อนหน้านี้ล่ะมั้ง ?」
คางุยะ 「พูดอะไรแบบนั้นล่ะ, ทั้งหมดนี่ก็เพราะคำนึงถึงความปลอดภัยของพวกเธอนะ」
ซาคุยะ 「ไม่ใช่คำพูดของคนที่มายุให้เล่นทดสอบความกล้าเลยนะ」
โยวมุ 「ไปแบบเป็นคู่เถอะค่ะ」
――――
สุดท้ายแล้ว, ไม่ว่าจะเพราะถูกคางุยะหว่านล้อมหรือเพราะกำลังว่างก็ตาม,
เหล่ามนุษย์ก็ออกไปเล่นทดสอบความกล้ากันในยามฉลูที่สามของคืนนี้จนได้
ก่อนอื่นก็ต้องไปตระเวนเรียกเหล่าโยวไคที่เป็น Partner ทั้งสี่ตนมา
แต่เดิมเกนโซวเคียวก็เต็มไปด้วยโยวไคและยูวเรย์(ผี)และอะไรทั้งหลายแหล่อยู่แล้ว
แล้วตัวอะไรมันจะน่ากลัวขนาดนั้นกันล่ะ
คางุยะ 「ไหนๆก็ไหนๆแล้ว, ถ้าช่วยกำราบยัยนั่นให้ด้วยก็จะช่วยได้มากเลยล่ะ」
ภายในป่าไผ่ที่ถูกสาดส่องด้วยจันทร์เพ็ญที่แท้จริงนั้น,
ฝูงโยวเซย์และโยวไคที่เหนือกว่าจินตนาการของพวกเรย์มุอย่างมาก, กำลังอาละวาดตามอำเภอใจอยู่
ลองวุ่นวายขนาดนี้ก็ไม่ใช่การเล่นทดสอบความกล้าหรืออะไรแล้ว, น่าจะเรียกว่าเป็นการกำราบโยวไคเสียมากกว่า
คางุยะ 「เอาเลย เกมทดสอบความกล้า, จงทดสอบตับเสียสิ, ตับน่ะ」 (คำว่า ทดสอบความกล้าในภาษาญี่ปุ่น สามารถแปลตรงตัวได้ว่า ทดสอบตับ)
ว่ากันว่าถ้าได้กินตับของเงือกเข้าไปแล้วจะไม่แก่ไม่ตายน่ะนะ... ...
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
*กดที่ชื่อทีมของตัวละครเพื่อแสดงข้อความ*
Extra Story ทีมเขตแดนมายา
ทีมเขตแดนมายา มนุษย์และโยวไคผู้อาศัยอยู่ ณ เส้นเขตแดน ใช้งานง่าย และเสถียร |
|||||||||||
มนุษย์ | โยวไค | ||||||||||
ฮาคุเรย์ เรย์มุ | ยาคุโมะ ยูคาริ | ||||||||||
คุณมิโกะผู้เลิศล้ำแห่งสรวงสวรรค์ ขี้โกงด้วยการโจมตีแบบติดตามเป้าหมาย |
โยวไคที่อาศัยอยู่ในอาณาเขตมายา เอาแต่ใช้งานภูตรับใช้จนชีวิตสุขสบาย |
||||||||||
(ทีม) ☆☆☆☆ | : ความเร็วในการเคลื่อนที่แบบเร็ว : | ☆☆☆☆ | |||||||||
☆ | : ความเร็วในการเคลื่อนที่แบบช้า : | ☆ (ทีม) | |||||||||
ท่าพิเศษ : | ไม่กระทบกับข้ารับใช้ของศัตรู | 「อัญเชิญภูตรับใช้ยาคุโมะ」 | : ข้ารับใช้ |
「Mind Amulet」 | : กระสุน : | 「เข็มย้อนภูต」 |
ยันต์วิญญาณ「ลูกแก้วจินตนาการ」 | : Spell Card : | ยันต์อาณาเขต「เขตแดนซ้อนสี่」 |
วิญญาณเทพ「ผนึกจินตนาการ ชั่วพริบตา」 | : Last Spell : | อาณาเขต「เขตแดนซ้อนสี่ชั่วราตรีนิรันดร์」 |
ลักษณะพิเศษของทีม | ||
จุดกระทบมีขนาดเล็กกว่าปกติ เขตแดนเป็นตายมีระยะเวลานานกว่าปกติ |
Tips :
- ต้นฉบับญี่ปุ่นของคำว่า ย้อนภูต คือ โยวไค(妖回) ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่า โยวไค(妖怪)
- เขตแดนเป็นตาย เป็นชื่อเรียกระยะเวลาหลังโดนกระสุนศัตรูซึ่งผู้เล่นยังสามารถกดบอมบ์ได้ก่อนที่จะ Miss (ตาย)
Extra
ชื่อด่าน : ตุ๊กตาโฮวไร
ยามฉลูที่สามซึ่งแม้แต่ต้นไม้ใบหญ้ายังต้องหลับนอน, ภายใต้จันทร์เพ็ญ
การทดสอบความกล้าของมนุษย์กับโยวไค, จะมีอะไรให้ต้องกลัวกันนะ ?
เหยื่อของบาปอันหนักหนาที่สุดนั้น, อยู่ที่ไหนกันแน่นะ ?
(คำว่า ทดสอบความกล้าในภาษาญี่ปุ่น สามารถแปลตรงตัวได้ว่า ทดสอบตับ ดังนั้นจะเจอมุขคำว่า ความกล้า=ตับ อยู่บ่อยครั้ง)
(ยามฉลูที่สาม = ช่วง 2:30 - 2:59 น.)
(เปิดเพลง BGM : Extend Ash (ขี้เถ้าฟุ้งกระจาย) ~ มนุษย์โฮวไร)
(คามิชิราซาวะ เคย์เนะ เข้ามาในหน้าจอ)
เคย์เนะ : กำลังคอยอยู่เลย
เคย์เนะ : กล้าดีนี่ที่บุกมาในคืนวันเพ็ญแบบนี้
เรย์มุ : นี่คือตับของการทดสอบความกล้าเหรอ ?
เคย์เนะ : ไม่ยอมให้แตะต้องมนุษย์คนนั้นได้แม้แต่ปลายนิ้วหรอก !
(คามิชิราซาวะ เคย์เนะ แพ้พ่าย)
เรย์มุ : มันยังไงกันนะ
เรย์มุ : รู้สึกเหมือนพวกโยวเซย์จะเอะอะวุ่นวายซะด้วยสิ... ...
?? : พระจันทร์ในคืนนี้มันแข็งแกร่งยิ่งกว่าปกติ
?? : การที่พวกภูตจะเอะอะวุ่นวายมันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้นี่นะ
(ฟุจิวาระ โนะ โมโคว เข้ามาในหน้าจอ)
?? : คนบ้าที่ออกมาในเวลากลางคืนแบบนี้ก็มีด้วยน้า
เรย์มุ : ใครน่ะ ?
?? : เธอไง
เรย์มุ : ไม่ได้หมายถึงเรื่องคนบ้า
ยูคาริ : ไม่ปฏิเสธว่าเป็นคนบ้าสินะ
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
รูปลักษณ์มนุษย์ของโฮวไร
ฟุจิวาระ โนะ โมโคว
Huziwara no Mokou
โมโคว : ฉันคือมนุษย์ที่อาศัยอยู่ที่นี่มาโดยตลอด
โมโคว : ไม่ใช่เพราะเป็นคนบ้าเลยมาอยู่ที่นี่ในตอนนี้หรอกนะ
ยูคาริ : มนุษย์งั้นเหรอ ?
ยูคาริ : มนุษย์งั้นสิน้า
เรย์มุ : เป็นเจ้าของป่าไผ่แห่งนี้ หรือว่าอะไรล่ะ
โมโคว : แล้วจุดประสงค์คืออะไรล่ะ ? คุณคนบ้า
เรย์มุ : ทดสอบความกล้า
ยูคาริ : ทดสอบอะไรหลายๆอย่าง เช่น ความกล้า
โมโคว : ทดสอบความกล้าเนี่ยนะ !
โมโคว : เฮ้อ, มนุษย์เป็นบ้าได้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ?
โมโคว : ในยามฉลูที่สามของจันทร์เพ็ญที่บ้าคลั่งแบบนี้,
โมโคว : กลับมาจนถึงสถานที่ที่มีโยวไคมากมายขนาดนี้,
โมโคว : เพื่อทดสอบความกล้าเนี่ยนะ !
โมโคว : น่าแปลกมากที่ไม่ถูกโยวไคฆ่าตายนะ
โมโคว : การทดสอบความกล้าที่ถ้าเกิดตายขึ้นมาแล้วจะต้องถูกพวกโยวไคกินตับสดๆเนี่ยมัน------
ยูคาริ : พูดได้พูดดีเลยนะ
ยูคาริ : เรย์มุ, ไม่ยิงสวนไปสักหน่อยเหรอ ?
เรย์มุ : ก็แหม, ที่มาทดสอบความกล้าเนี่ย
เรย์มุ : เป็นเพราะคางุยะคะยั้นคะยอว่า "เอ้า ไปสิ, ลุยเลยสิ" นั่นล่ะน้า
โมโคว : เมื่อกี้ว่าไงนะ ?
โมโคว : พูดว่า คางุยะ งั้นเหรอ ?
เรย์มุ : ฉันพูดเหรอ ?
ยูคาริ : ก็พูดว่า คา-งุ-ยะ น่ะสิ
โมโคว : มุกี๊---!
โมโคว : นึกแล้วเชียวว่ามันแปลกๆที่มาทดสอบความกล้า,
โมโคว : เป็นฝีมือของยัยนั่นจริงๆด้วยสินะ
โมโคว : งั้นเหรอ, คราวนี้คิดจะยุแหย่ให้เจ้าพวกนี้มาเก็บฉันล่ะสิ ?
โมโคว : ยัยนั่นน่ะ, พยายามจะเก็บฉันอยู่ตลอดเวลาเลย !
โมโคว : ให้ตายสิ, คนที่ทำให้ฉันมีร่างกายที่น่าสมเพชแบบนี้ก็คือยัยนั่นเองแท้ๆ !
เรย์มุ : เหมือนจะคึกอยู่คนเดียวยังไงชอบกลนะ
ยูคาริ : เอ้า เธอเองถ้าไม่ฉวยโอกาสซะมั่งเดี๋ยวจะขาดทุนเอานะ
โมโคว : ฮึ, แสดงให้ดูหน่อยซิว่าขี้ข้าของคางุยะจะมีฝีมือซักแค่ไหน
โมโคว : ยัยนั่นส่งมา, ก็แสดงว่าแข็งแกร่งกว่ายัยนั่นใช่มะ ?
ยูคาริ : เป็นมนุษย์ที่ห้าวหาญดีนะ
ยูคาริ : มนุษย์ที่ห้าวหาญถึงขนาดกล้าเผชิญหน้ากับโยวไคอย่างฉันเนี่ย
ยูคาริ : รู้จักแค่ 3 คนเท่านั้นเอง (หมายถึง Extra Stage ในภาค 7 ซึ่งมี เรย์มุ มาริสะ ซาคุยะ เป็นตัวเอก)
เรย์มุ : แต่ว่า, ให้สู้กับมนุษย์แบบนี้ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่เลยนะ... ...
ยูคาริ : พูดอะไรของเธอน่ะ
ยูคาริ : มาริสะก็มาลุยกับเธออยู่บ่อยๆไม่ใช่รึ
โมโคว : อย่าคิดว่าฉันเป็นมนุษย์ธรรมดาสิ
โมโคว : ฉันน่ะไม่ตาย, ไม่มีวันตายอย่างแน่นอน
โมโคว : เป็นเพราะยัยคางุยะจอมดื้อด้านนั่นแหละ
โมโคว : ใช่แล้ว, ไม่ว่ายัยนั่นจะพยายามเก็บฉันแค่ไหน, มันก็เปล่าประโยชน์สุดๆ
โมโคว : ยัยนั่นก็รู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว ยังจะส่งขี้ข้ามาอีก
โมโคว : จะทำตัวน่าหงุดหงิดก็ให้มันน้อยๆหน่อยเหอะ
ยูคาริ : เอ้า, เรย์มุ
ยูคาริ : พลาดโอกาสอีกแล้วนะ
เรย์มุ : ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่หรอก
เรย์มุ : แต่ที่บอกว่าไม่ตายเนี่ย, หมายความว่าอัดเต็มเหนี่ยวได้ตามใจชอบสินะ ?
ยูคาริ : ถูกครึ่งเดียวนะ
ยูคาริ : ที่ว่าไม่ตายอย่างแน่นอนน่ะ ดูเหมือนจะเป็นการโอ้อวดเสียมากกว่า
โมโคว : ถ้าไม่ลุยเต็มที่, ชีวิตของเธอจะ Game Over เอาได้นะ
โมโคว : สะพานย้อนกลับก็ใช้กลับไม่ได้แล้ว, เป็นยามฉลูที่สามแห่งการเดินรถทางเดียวไงล่ะ
(สะพานย้อน เป็นส่วนหนึ่งในชื่อสเปลการ์ดใบที่สองของเคย์เนะในด่านนี้ ซึ่งมีตำนานเกี่ยวกับการคืนชีพ)
(ข้ามสะพานย้อน หมายถึงการคืนชีพ, การข้ามกลับมาไม่ได้ จึงหมายถึงการคืนชีพไม่ได้ หรือก็คือการคอนทินิวไม่ได้ใน Extra Stage นั่นเอง)
(เปิดเพลง BGM : จงไปให้ถึงดวงจันทร์, ควันอมตะเอ๋ย)
โมโคว : จะทำตามที่ต้องการละกัน
โมโคว : ขอทดสอบตับของพวกเธอหน่อยเถอะ
(ฟุจิวาระ โนะ โมโคว แพ้พ่าย)
โมโคว : ไอ้---หยา---
โมโคว : แข็งแกร่งเกินไปแล้ววว
ยูคาริ : อุ๊ย, ยังมีชีวิตอยู่จริงๆด้วย
ยูคาริ : ไม่มีวันตายจริงๆสินะนี่
เรย์มุ : ตอนแรกเห็นเฉียดตายอยู่หลายทีจนชักไม่แน่ใจเลยล่ะ
เรย์มุ : น่าตกใจจริงๆนะเนี่ย
โมโคว : เจ็บเจ็บ, ถึงไม่ตายก็เจ็บนะ~
ยูคาริ : เรย์มุ, เด็กคนนี้น่าสนใจดีนะ
เรย์มุ : ไม่ล่ะ, การดูคนอื่นเจ็บตัวแล้วบอกว่าสนุกนี่มันออกจะเกินไปหน่อย (คำว่า น่าสนใจ แปลได้อีกอย่างว่า สนุก)
โมโคว : ถ้าแข็งแกร่งขนาดนี้แล้วจะทดสอบความกล้าไปทำบ้าอะไรเนี่ย
ยูคาริ : เหรอ ? ฉันเองก็มีของที่กลัวอยู่หลายอย่างนะ
เรย์มุ : อย่างเช่นมันจูวรึไง ?
ยูคาริ : ใช่แล้ว, Form กลมๆนั่นทำให้นึกถึงไข่ของแมลง, แล้วไส้ที่อยู่ข้างในก็คือ... ...
โมโคว : ม่ายยย, กลัวมันจูวแล้ว
เรย์มุ : เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ, นี่ถือว่าจบการทดสอบความกล้าแล้วใช่มั้ย ?
ยูคาริ : อ้าว ? จะว่าไปแล้วก็ยังไม่ได้ทดสอบตับเลยนี่นะ
เรย์มุ : ?
ยูคาริ : ดูสิ, ตับสดๆของมนุษย์ที่อยู่ตรงหน้า
ยูคาริ : เรย์มุ, เธอจงควักออกมาตรวจสอบซะสิ
โมโคว : อึ๋ยยย
โมโคว : ถึงไม่ตายก็กลัวนะ
เรย์มุ : ทำไมฉันต้องทำอะไรที่เหมือนกับพวกโยวไคแบบนั้นด้วยล่ะ ?
ยูคาริ : แหม, ถ้าได้กินตับสดของมนุษย์ที่ไม่แก่ไม่ตายล่ะก็, เธอเองก็จะกลายเป็นผู้ไม่แก่ไม่ตายไงล่ะ
เรย์มุ : ให้เลิกเป็นมนุษย์เนี่ยมันก็เกินไปหน่อยน้า
โมโคว : แหม ใจร้าย, จะบอกว่าฉันไม่ใช่มนุษย์งั้นเหรอ ?
เรย์มุ : มนุษย์,... ...รึเปล่านะ ?
เรย์มุ : ไม่ค่อยแน่ใจแฮะ
เรย์มุ : เอาเถอะ, ยังไงซะเกนโซวเคียวในตอนนี้ก็มีแต่พวกที่ไม่รู้ว่าใช่มนุษย์แน่รึเปล่าอยู่ดี
เรย์มุ : ป่านนี้แล้ว, เรื่องความแตกต่างของภาชนะบรรจุวิญญาณมันไม่ใช่เรื่องใหญ่แล้วล่ะมั้ง ?
ยูคาริ : แต่ว่างานของฮาคุเรย์คือการกำราบโยวไค
ยูคาริ : แบบนั้นมันจะเป็นการเลือกปฏิบัติต่อโยวไครึเปล่า ?
เรย์มุ : งั้นขอถอนคำพูดก่อนหน้านี้, โยวไคคือสิ่งที่ต้องกำราบ
เรย์มุ : และมนุษย์คือผู้ทำการกำราบ
เรย์มุ : นี่คือสัญญาที่จะไม่สั่นคลอน
เรย์มุ : จากนี้สืบไป, ฉันจะทำการกำราบโยวไคเรื่อยไป
ยูคาริ : ถูก ・ต้อง ・แล้ว
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Extra Story ทีมท่วงทำนองอาคมต้องห้าม
ทีมท่วงทำนองอาคมต้องห้าม สองจอมเวทผู้อาศัยอยู่ในป่าเวทมนตร์ เคลื่อนที่เร็ว พลังทำลายสูงส่ง |
|||||||||||
มนุษย์ | โยวไค | ||||||||||
คิริซาเมะ มาริสะ | อลิส มาร์กาทรอยด์ | ||||||||||
สาวน้อยจอมเวทดำธรรมดาสามัญ พลังทำลายจากแรงส่งขั้นสูงสุดต้องมาก่อน |
จอมเวทผู้ใช้สิ่งที่มีรูปร่างเป็นมนุษย์ มีความสุขที่ตุ๊กตาไม่ปริปากบ่น |
||||||||||
(ทีม) ☆☆☆☆☆☆ | : ความเร็วในการเคลื่อนที่แบบเร็ว : | ☆☆☆☆ | |||||||||
☆☆ | : ความเร็วในการเคลื่อนที่แบบช้า : | ☆☆ (ทีม) | |||||||||
ท่าพิเศษ : | ดูดไอเทมได้แม้จะไม่ Power MAX | 「ตุ๊กตาเซี่ยงไฮ้」 | : ข้ารับใช้ |
「Stardust Missile」 | : กระสุน : | 「Spectrum Mystery」 |
ยันต์รัก「Master Spark」 | : Spell Card : | ยันต์เวท「Artful Sacrifice」 |
ปืนใหญ่เวท「Final Spark」 | : Last Spell : | เวทเชิดหุ่น「Return Inanimateness」 |
ลักษณะพิเศษของทีม | ||
ขอบเขตการดูดไอเทมในจออยู่ใกล้กว่าปกติ จุดกระทบที่มีต่อไอเทมกว้างกว่าปกติ |
Tips :
- สิ่งที่มีรูปร่างเป็นมนุษย์ (人の形) มาจากคำว่า ตุ๊กตา (人形)
Extra
ชื่อด่าน : ตุ๊กตาโฮวไร
ยามฉลูที่สามซึ่งแม้แต่ต้นไม้ใบหญ้ายังต้องหลับนอน, ภายใต้จันทร์เพ็ญ
การทดสอบความกล้าของมนุษย์กับโยวไค, จะมีอะไรให้ต้องกลัวกันนะ ?
เหยื่อของบาปอันหนักหนาที่สุดนั้น, อยู่ที่ไหนกันแน่นะ ?
(คำว่า ทดสอบความกล้าในภาษาญี่ปุ่น สามารถแปลตรงตัวได้ว่า ทดสอบตับ ดังนั้นจะเจอมุขคำว่า ความกล้า=ตับ อยู่บ่อยครั้ง)
(ยามฉลูที่สาม = ช่วง 2:30 - 2:59 น.)
(เปิดเพลง BGM : Extend Ash (ขี้เถ้าฟุ้งกระจาย) ~ มนุษย์โฮวไร)
(คามิชิราซาวะ เคย์เนะ เข้ามาในหน้าจอ)
เคย์เนะ : กำลังคอยอยู่เลย
เคย์เนะ : กล้าดีนี่ที่บุกมาในคืนวันเพ็ญแบบนี้
มาริสะ : ก็มาทดสอบความกล้านี่นา
เคย์เนะ : ไม่ยอมให้แตะต้องมนุษย์คนนั้นได้แม้แต่ปลายนิ้วหรอก !
(คามิชิราซาวะ เคย์เนะ แพ้พ่าย)
มาริสะ : การที่ไม่เกิดอะไรขึ้นเลยเนี่ยมันกลับน่ากังวลยิ่งกว่าแฮะ
มาริสะ : ไม่สมเหตุสมผลเลยว่ะ
?? : ความน่ากลัวที่แท้จริงนั้น, อยู่ตรงข้ามกับความน่ากลัวที่รู้อยู่แล้วว่าต้องเจอ
?? : ไม่มีอะไรที่น่ากลัวไปกว่า, บ้านผีสิงที่คนรับบทผีหายตัวไปทั้งๆที่น่าจะอยู่ทำหน้าที่หรอกนะ
(ฟุจิวาระ โนะ โมโคว เข้ามาในหน้าจอ)
?? : ป่าไผ่ในยามฉลูที่สามซึ่งแม้แต่นกกระจอกราตรียังยอมเงียบเสียงร้อง
?? : การที่มีมนุษย์มาเดินโต๋เต๋ในเวลาแบบนี้มันช่าง..
มาริสะ : ใครกันน่ะ ?
อลิส : มาริสะ, ยัยคนนี้มัน... ...
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
รูปลักษณ์มนุษย์ของโฮวไร
ฟุจิวาระ โนะ โมโคว
Huziwara no Mokou
โมโคว : ฉันคือมนุษย์ที่อาศัยอยู่ที่นี่มาแต่โบราณ
โมโคว : และไม่คิดจะจับใครกินหรอกนะ
มาริสะ : มนุษย์งั้นเหรอ ?
มาริสะ : ดูไม่ออกว่าเป็นแบบนั้นเลยแฮะ
อลิส : มาริสะ, คนๆนี้ดูเหมือนมนุษย์ก็จริง
อลิส : แต่ระวังตัวให้ดีนะ
โมโคว : แล้ว, มาที่นี่ในเวลาแบบนี้ด้วยจุดประสงค์อะไรล่ะ ?
มาริสะ : ล่าหน่อไม้
อลิส : ทดสอบความกล้า
โมโคว : ตกลงอะไรแน่ ?
มาริสะ : ทำความเข้าใจเอาเองสิ... ...
โมโคว : มนุษย์กับโยวไคจับคู่กันออกมาทดสอบความกล้า, ภายใต้จันทร์เพ็ญ
โมโคว : จะเรียกว่าเป็นมนุษย์ที่มีความกล้า, หรือความบ้าดีนะ
โมโคว : ตับของมนุษย์ตรงนั้นจะต้องแข็งเหนียวเคี้ยวยากเป็นแน่เลยล่ะ
มาริสะ : เธอเป็นมนุษย์จริงๆเหรอ ?
มาริสะ : ไม่เคยเห็นมนุษย์ที่ชอบตับขนาดนี้มาก่อนเลยว่ะ
มาริสะ : แถมยังมีชีวิตอยู่ซะด้วยสิ (คาดว่าล้อเลียนพวกซอมบี้ที่นิยมกินเครื่องในและสมองของมนุษย์)
อลิส : มาริสะมองเห็นเหมือนมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ?
อลิส : ฉันมองเห็นว่าตายไปแล้วนะ
อลิส : ไม่สิ, เห็นว่าไม่มีชีวิตอยู่ต่างหาก, ล่ะมั้ง ?
โมโคว : ให้ตายสิ, ทำเหมือนคนอื่นเป็นยูวเรย์(ผี)กันไปได้~
โมโคว : แต่มันก็เกือบถูกแหละ
โมโคว : พลังในการมองเห็นภาพลวงตาสูงส่งเอาการเลยนะ
มาริสะ : เรื่องที่ว่า ชอบตับ น่ะเหรอ ?
โมโคว : ที่จริงน่ะ
โมโคว : ฉันไม่มีวันตาย
โมโคว : การไม่ตายก็เท่ากับไม่เป็น
โมโคว : ปราศจากสภาวะส่วนเกินที่เรียกว่าความเป็นและความตาย, จึงเป็นมนุษย์ที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ผู้พิสุทธิ์
โมโคว : ในอีกความหมายหนึ่งก็คงจะใกล้เคียงกับพวกยูวเรย์ล่ะมั้งนะ
อลิส : ไม่มีวันตายงั้นเหรอ !
อลิส : ไม่ว่าจะต้มจะย่างยังไงก็ตามน่ะเหรอ
มาริสะ : เคยพูดว่าจะนึ่งจะทอดด้วยรึไง ?
อลิส : การที่มนุษย์กลายเป็นผู้ไม่แก่ไม่ตายเนี่ย... ...
อลิส : แสดงว่ายาในตำนานนั่นมีตัวตนอยู่จริงน่ะสิ
อลิส : ไม่ใช่เรื่องโกหกจริงๆด้วย
มาริสะ : ไม่รู้ว่าพูดเรื่องอะไรแฮะ
มาริสะ : ไปโดนใครพูดเป่าหูด้วยเรื่องจริงที่เหมือนกับโกหกแบบนั้นมากันแน่วะเนี่ย ?
โมโคว : ยาในตำนาน ?
โมโคว : หมายถึง โฮวไร น่ะเหรอ ?
โมโคว : ของพรรค์นั้น, ฉันใช้หมดไปตั้งแต่ยุคโบราณนานเนิ่นแล้วล่ะ
โมโคว : มันก็จริงที่ว่าฉันช่วงชิงยานั่น, และกลายเป็นผู้ไม่แก่ไม่ตาย จนอยู่มาถึงปัจจุบัน
โมโคว : คางุยะเองก็ยังคงพยายามจะทำให้ฉันกลายเป็นคนตาย, แต่มันก็เปล่าประโยชน์สิ้นดี
โมโคว : เป็นการทะเลาะอันแสนบ้าบอที่ดำเนินมาเกินพันปีแล้วน่ะนะ
มาริสะ : เข้าใจแล้วโว้ย
มาริสะ : เข้าใจหมดทุกอย่างแล้ว
มาริสะ : คนที่รับบทผีในการทดสอบความกล้าครั้งนี้คือเธอเองสินะ
มาริสะ : รู้สึกแปลกๆตั้งแต่ตอนที่คางุยะมายัดเยียดให้เล่นทดสอบความกล้าแล้ว
มาริสะ : ถ้าเป็นฉันที่โค่นคางุยะได้, ก็คงจะสามารถเก็บเธอได้งั้นสินะ
อลิส : เดี๋ยวสิ ! การโค่นคางุยะไม่ได้เป็นเพราะพลังของมาริสะคนเดียวสักหน่อย ?
อลิส : อีกอย่าง, การโค่นมนุษย์เป็นหน้าที่ของโยวไค
อลิส : ตัวเธอที่อยู่ตรงหน้านี้, ควรถูกโค่นโดยฉันต่างหากล่ะ
โมโคว : ว่าไงนะ, โค่นคางุยะได้ ?
โมโคว : เจ้าสองคนที่อยู่ตรงหน้าเนี่ยนะ ?
โมโคว : พูดอะไรกันน่ะ
โมโคว : เจ้าชาวจันทราจอมดื้อด้านนั่นน่ะนะ จะถูกเล่นงานด้วยมนุษย์ภูตพรรค์นี้
โมโคว : ท่าทางจะเป็นนักฆ่าเคี้ยวยากที่ไม่ได้เจอมานานนะ
โมโคว : ไม่สิ, สิ่งที่เคี้ยวยากมันคือ ตับ ล่ะมั้ง ?
อลิส : น่าเสียดายนะ, ยาโฮวไร
อลิส : ทั้งที่เคยอยากได้เป็นอย่างมากแท้ๆ
มาริสะ : ตับของฉันสุขภาพดีออก, ไม่แข็งหรอกน่า (เล่นมุขล้อโรคตับแข็ง)
มาริสะ : ดังนั้นฉันไม่จำเป็นต้องใช้ยาหรอก
โมโคว : ยาโฮวไร, ยาต้องห้ามที่มนุษย์ต้องไม่ทานเป็นอันขาด
โมโคว : ยุ่งกับมันหนึ่งครั้ง, จะไม่มีวันกลายเป็นผู้ใหญ่
โมโคว : ยุ่งกับมันสองครั้ง, แม้ความเจ็บปวดจากโรคภัยก็ลืมสิ้น
(เปิดเพลง BGM : จงไปให้ถึงดวงจันทร์, ควันอมตะเอ๋ย)
โมโคว : ยุ่งกับมันสามครั้ง... ...,
โมโคว : พวกเธอเองก็จงทุกข์ทรมานกับห่วงทุกข์ที่ไม่มีวันสิ้นสุดซะเถอะ !
(ห่วงทุกข์ หมายถึง สิ่งกังวลที่ทำให้วิญญาณไปสู่สุคติไม่ได้)
(ฟุจิวาระ โนะ โมโคว แพ้พ่าย)
โมโคว : ไอ้---หยา---
โมโคว : เคี้ยวยากเกินไปแล้ววว
มาริสะ : ยังจะเอาอีกเหรอ ?
มาริสะ : ไอ้ที่ว่าไม่มีวันตายนี่ท่าจะจริงแฮะ
อลิส : ถึงจะไม่ตาย, แต่ก็เริ่มจะขยับตัวไม่ไหวแล้วไม่ใช่เหรอ ?
โมโคว : ไม่ไหวมาตั้งนานแล้วล่ะ
โมโคว : ถ้าไม่เลิกแค่นี้, พรุ่งนี้ได้ปวดกล้ามเนื้อจนขยับตัวไม่ได้แหงๆ
อลิส : เลิกเพราะปวดกล้ามเนื้อเนี่ยนะ ?
มาริสะ : ฉันคิดอยู่เสมอเลยนะว่า, ถ้าหั่นร่างไม่แก่ไม่ตายออกเป็นสองส่วนพอดิบพอดี, จะถือว่าส่วนไหนเป็นร่างหลักกันนะ ?
อลิส : อย่าเอาแต่คิดเรื่องพรรค์นั้นอยู่เสมอสิ
อลิส : ไม่แก่ไม่ตาย, คือการละทิ้งร่างเนื้อ
อลิส : ใช้เพียงวิญญาณในการเป็นร่างหลัก, แล้วสร้างร่างเนื้อใหม่ขึ้นมาไงล่ะ
อลิส : วิญญาณไม่ได้มีขนาดใหญ่โตมากนัก, จึงสร้างร่างเนื้อใหม่ขึ้นมาเมื่อใดก็ได้ตามใจชอบ
อลิส : ในทางกลับกัน, ร่างเนื้อที่สูญเสียวิญญาณก็จะพังทลายลงอย่างรวดเร็วเลยใช่มั้ยล่ะ ?
โมโคว : รู้ละเอียดดีเหลือเกินนะ
โมโคว : ดูเหมือนจะเคยอยากได้ยาโฮวไรซะด้วยสิ,
โมโคว : เคยคิดจะกลายเป็นผู้ไม่แก่ไม่ตายด้วยรึเปล่าล่ะนั่น ?
อลิส : ไม่ล่ะ, แค่สนใจในเรื่องวิญญาณเท่านั้นแหละ
อลิส : แบบว่า มันอาจจะทำให้ตุ๊กตาสามารถคิดเองเคลื่อนไหวเองได้ อะไรทำนองนั้นน่ะ
อลิส : ที่สำคัญ, มันใช้ไม่ได้ผลกับโยวไคไม่ใช่เหรอ ?
อลิส : เจ้ายานั่นน่ะ
มาริสะ : เอ่อ, แบบว่าสงสัยอ่ะนะ
มาริสะ : ถ้าวิญญาณไม่ได้มีขนาดใหญ่โตมากนัก, แล้วไอ้นั่นที่เกาะติดโยวมุอยู่มันคืออะไรล่ะ ?
อลิส : ไอ้นั่นที่ว่าคือยูวเรย์(ผี)สินะ ?
อลิส : หมายถึงคนละอย่างกันน่ะ
อลิส : อย่าไปใส่ใจเรื่องนั้นเลยน่า
โมโคว : ถ้าฉันคือไม่ตาย ยูวเรย์ก็คือไม่เป็น
โมโคว : เป็นสิ่งที่คล้ายคลึงกัน, ต่างกันแค่เรื่องรูปร่างกับตับล่ะมั้งนะ
มาริสะ : อย่างนี้นี่เอง
มาริสะ : แล้วเป็นไงมั่ง ? การทดสอบความกล้า(ตับ)ของฉัน
โมโคว : นั่นสิน้า, แข็งๆดำๆ... ...
โมโคว : โรคตับแข็ง ?
มาริสะ : แหงะ, นี่ฉันดื่มเหล้าเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ ?
อลิส : มาริสะ, เวลาที่ตับสุขภาพไม่ดีเนี่ยต้องกินตับนะ
อลิส : ยิ่งถ้าเป็นตับของผู้ไม่แก่ไม่ตายล่ะก็นะ... ...
มาริสะ : ถึงจะบอกว่าไม่แก่ไม่ตาย, แต่ตับของมนุษย์นี่มันก็เกินไปหน่อยนะ
โมโคว : ร่างกายที่ไม่แก่ไม่ตายน่ะ, จะไม่ถูกรุกรานด้วยโรคภัย, จึงสะอาดสดใสถึงข้างในเลยล่ะ
โมโคว : แต่ไม่ยอมให้กินหรอกนะ
มาริสะ : ไม่กินหรอกน่าาา... ...
มาริสะ : แม้ว่าการไม่แก่ไม่ตายมันจะมีเสน่ห์ดีก็เถอะนะ
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Extra Story ทีมมารแดงเพ้อฝัน
ทีมมารแดงเพ้อฝัน เมดมนุษย์และผีดูดเลือดผู้อาศัยในคฤหาสน์มารแดง อสูรรับใช้ทรงประสิทธิภาพอย่างโกงๆนิดหน่อย |
|||||||||||
มนุษย์ | โยวไค | ||||||||||
อิซาโยอิ ซาคุยะ | เรมิเลีย สคาร์เลท | ||||||||||
เมดผู้สง่างามอย่างสมบูรณ์แบบ การปามีดคือพื้นฐานของนักมายากลมายา |
ปิศาจแดง ยามราตรีจะแสดงถึงพลังที่เหนือกฎเกณฑ์ด้วยความเป็นเด็ก |
||||||||||
(ทีม) ☆☆☆☆ | : ความเร็วในการเคลื่อนที่แบบเร็ว : | ☆☆☆☆☆☆ | |||||||||
☆☆☆ | : ความเร็วในการเคลื่อนที่แบบช้า : | ☆☆☆ (ทีม) | |||||||||
ท่าพิเศษ : | ไอเทมตกลงสู่เบื้องล่างช้าลง | 「Servant Flier」 | : ข้ารับใช้ |
「Mysterious Jack」 | : กระสุน : | 「Night Dance」 |
ยันต์มายา「ตุ๊กตาฆาตกร」 | : Spell Card : | ยันต์แดง「นครไร้ราตรี เรด」 |
ฝังศพมายา「ปิศาจฆาตกรลวงตาแห่งสายหมอกยามราตรี」 | : Last Spell : | มารแดง「สคาร์เลท เดวิล」 |
ลักษณะพิเศษของทีม | ||
ขอบเขตการ Graze มีขนาดใหญ่กว่าปกติ ถ้า Miss (ตาย) ตอนที่ยังมีบอมบ์เหลือติดตัว จะปล่อยไอเทมบอมบ์ (B) ออกมาหนึ่งชิ้น |
Extra
ชื่อด่าน : ตุ๊กตาโฮวไร
ยามฉลูที่สามซึ่งแม้แต่ต้นไม้ใบหญ้ายังต้องหลับนอน, ภายใต้จันทร์เพ็ญ
การทดสอบความกล้าของมนุษย์กับโยวไค, จะมีอะไรให้ต้องกลัวกันนะ ?
เหยื่อของบาปอันหนักหนาที่สุดนั้น, อยู่ที่ไหนกันแน่นะ ?
(คำว่า ทดสอบความกล้าในภาษาญี่ปุ่น สามารถแปลตรงตัวได้ว่า ทดสอบตับ ดังนั้นจะเจอมุขคำว่า ความกล้า=ตับ อยู่บ่อยครั้ง)
(ยามฉลูที่สาม = ช่วง 2:30 - 2:59 น.)
(เปิดเพลง BGM : Extend Ash (ขี้เถ้าฟุ้งกระจาย) ~ มนุษย์โฮวไร)
(คามิชิราซาวะ เคย์เนะ เข้ามาในหน้าจอ)
เคย์เนะ : กำลังคอยอยู่เลย
เคย์เนะ : กล้าดีนี่ที่บุกมาในคืนวันเพ็ญแบบนี้
ซาคุยะ : ตายจริง, เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ
เคย์เนะ : ไม่ยอมให้แตะต้องมนุษย์คนนั้นได้แม้แต่ปลายนิ้วหรอก !
(คามิชิราซาวะ เคย์เนะ แพ้พ่าย)
ซาคุยะ : ถึงจะไม่ใช่การโจมตีแบบปกติก็เถอะ, แต่ระดับแค่นี้ยังไม่พอสำหรับการทดสอบความกล้าหรอกนะ
(สเปลการ์ดของเคย์เนะเมื่อครู่ เป็นสเปลการ์ดที่โจมตีด้วย "กระสุนย้อนกลับ" อย่างสมบูรณ์)
?? : ยามฉลูที่สามซึ่งมีแต่ผู้ที่ไม่ใช่มนุษย์โจมตีใส่กัน
?? : ราตรีอำมหิตที่ไม่มีทั้งมนุษย์และโยวไค
(ฟุจิวาระ โนะ โมโคว เข้ามาในหน้าจอ)
?? : เพราะเป็นราตรีที่มีจันทร์เพ็ญแบบนี้ล่ะมั้งนะ ?
ซาคุยะ : แย่หน่อยนะ, ฉันเป็นมนุษย์น่ะ
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
รูปลักษณ์มนุษย์ของโฮวไร
ฟุจิวาระ โนะ โมโคว
Huziwara no Mokou
โมโคว : เหรอ ?
โมโคว : แต่ก็แย่หน่อยนะ, ฉันเองก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน
เรมิเลีย : จังหวะเหมาะเลยล่ะ, ซาคุยะ
เรมิเลีย : มาเจอมนุษย์ในที่แบบนี้
ซาคุยะ : จังหวะเหมาะเหรอคะ ?
ซาคุยะ : ยังไม่ถึงเวลาอาหารเลยนะคะ ?
โมโคว : คุณหนูตรงนั้นเป็นโยวไคสินะ
โมโคว : นั่นไง เห็นปีกใหญ่ๆนั่นก็ต้องรู้อยู่แล้ว
เรมิเลีย : อย่าเอาไปเหมารวมกับพวกโยวไคสิ
เรมิเลีย : ฉันมีความภาคภูมิใจอันสูงส่ง... ...
ซาคุยะ : ไม่ต้องภาคภูมิใจอย่างสูงส่งขนาดนั้นในที่แบบนี้หรอกค่ะ
โมโคว : แล้ว, คู่หูมนุษย์โยวไคกำลังพยายามจะทำอะไรล่ะ ?
ซาคุยะ : ก็แบบว่า, ทดสอบความกล้า... ...
โมโคว : ทดสอบความกล้า ?
โมโคว : มนุษย์กับโยวไคมาเป็นคู่ ? (ปกติแล้วมักจะเป็นหนุ่มสาวคู่รักจับคู่กันมาเสียมากกว่า)
โมโคว : ในยามฉลูที่สามซึ่งแม้แต่ต้นหญ้ายังหลับนอน, ภายใต้จันทร์เพ็ญที่แท้จริงแบบนี้เนี่ยนะ ?
เรมิเลีย : ผิดด้วยเหรอ ?
เรมิเลีย : พวกฉันแค่สนุกกับการรับความเย็นในช่วงที่อากาศร้อน แบบหลงฤดูนิดหน่อยเท่านั้นเอง
เรมิเลีย : ถ้าเป็นมนุษย์ล่ะก็ รีบกลายเป็นผีแต่โดยดี แล้วทำให้พวกฉันพึงพอใจก็พอแล้ว
ซาคุยะ : คุณหนูคะ, ไม่ใช่ว่า มนุษย์ กลายเป็นผี แต่แสดงเป็นผีต่างหากล่ะคะ
โมโคว : ภูตผีปิศาจมีตั้งมากมายหลายชนิด
โมโคว : จำเป็นต้องลงทุนแสดงเป็นมนุษย์ไปเพื่ออะไรล่ะ (พูดถึงเรมิเลียที่กำลังทำตัวเหมือนเป็นมนุษย์ที่มาเข้ามาเที่ยวบ้านผีสิง)
เรมิเลีย : เธอน่ะ, พูดว่า มนุษย์ สินะ
เรมิเลีย : ถ้างั้น, ทำไมถึงไม่กลัวโยวไค
เรมิเลีย : ทำไมถึงไม่หวาดกลัวตัวฉัน
โมโคว : จะมาทดสอบความกล้าของตัวเอง,
โมโคว : หรือจะมาทดสอบความกล้าของฉันกันแน่... ...
โมโคว : แต่ว่า, ฉันไม่มีอะไรให้ต้องหวาดกลัวอีกต่อไปแล้ว
โมโคว : ต่อให้ถูกทะลวงด้วยลูกศรที่เร็วจนตามองไม่ทันสักเท่าใด,
โมโคว : ต่อให้ถูกเผาผลาญด้วยเพลิงเทพที่ล้างหมู่บ้านได้ในพริบตาสักเท่าใด,
โมโคว : ฉันก็ไม่มีวันตาย
โมโคว : และไม่สามารถทดสอบความกล้าได้อีกแล้ว
ซาคุยะ : ดีจังเลยนะคะ, คุณหนู
ซาคุยะ : อย่างนี้ก็แก้ปัญหาเรื่องดูดเลือดได้แล้ว
ซาคุยะ : เพราะถึงดูดไปเท่าไรก็ไม่ตายหรอกเนอะ ?
เรมิเลีย : ไม่ได้หรอก ซาคุยะ
เรมิเลีย : ยัยนี่ไม่ใช่มนุษย์แล้ว
เรมิเลีย : ฉันดูดเฉพาะเลือดของมนุษย์ที่หวาดกลัวตัวฉันเท่านั้น
ซาคุยะ : แหม น่าเสียดายนะคะ, นึกว่าจะเป็นเหมือนน้ำเต้าที่มีเหล้าผุดออกมาอย่างไม่สิ้นสุดซะอีก (หมายถึง น้ำเต้าอิบุคิของซุยกะ)
โมโคว : เธอน่ะ, เป็นมนุษย์จริงๆเหรอ ?
โมโคว : เอาล่ะ ก็อย่างที่ว่านั่นล่ะนะ, ถ้าจะทดสอบความกล้าล่ะก็ กลับไปซะเถอะ
โมโคว : ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่พวกเธอควรจะมาหรอกนะ
ซาคุยะ : แต่ว่าวิธีพูดของยัยนั่น(คางุยะ)มันเหมือนกับว่าจะมีอะไรบางอย่างเลยนะ
เรมิเลีย : ตายจริง, ฉันว่าฉันมองเห็นอะไรบางอย่างที่ว่านั่นแล้วนะ
เรมิเลีย : ทั้งในขณะนี้, และอนาคตอันใกล้แสนใกล้นิดเดียวนี้
เรมิเลีย : ซาคุยะเนี่ย, ค่อนข้างหัวทื่อเมื่อเทียบกับมีดคมๆของตัวเองนะ
เรมิเลีย : ของมันแน่อยู่แล้วว่า คางุยะจัดการทดสอบความกล้าขึ้นเพื่อให้มาพบยัยนี่เข้า
เรมิเลีย : แน่ๆเลยล่ะ
โมโคว : อื๋อ---
โมโคว : คางุยะ งั้นเหรอ ?
โมโคว : เป็นแบบนี้จริงๆด้วยเหรอเนี่ย
โมโคว : คิดอยู่แล้วเชียวว่ามนุษย์กับโยวไคมาทดสอบความกล้าเนี่ยมันแปลกๆ
โมโคว : พยายามจะเก็บฉันให้ได้อยู่เสมอ
โมโคว : และส่งนักฆ่ามาเป็นประจำ
โมโคว : ทั้งๆที่ยัยนั่นก็รู้อยู่แล้วว่าฉันไม่มีวันตาย !
โมโคว : ก็คนที่สร้างยาโฮวไรขึ้นมามันคือคางุยะนี่นา ?
โมโคว : จะล้อกันเล่นก็อยากให้เพลามือหน่อยนะ
เรมิเลีย : เห็นมั้ย, ซาคุยะ
เรมิเลีย : อย่างที่ฉันพูดไว้ไม่ผิด, คางุยะมันใช้พวกเราล่ะ
ซาคุยะ : ค่ะ
ซาคุยะ : กล่าวคือ คุณหนูเห็นว่าน่าสนุกดี ก็เลยปล่อยเลยตามเลยมาจนถึงนี่สินะคะ
เรมิเลีย : อืม, ก็มันว่างนี่นะ
โมโคว : ตับของการทดสอบความกล้าคือขี้เถ้าของฟูจิ
โมโคว : เขม่าภูเขาไฟชั่วนิรันดร์ที่จะล่องลอยไปจนถึงดวงจันทร์
โมโคว : สิ่งที่เกิดจากไฟซึ่งไม่มีวันมอดดับ,
โมโคว : คือ วิหคอมตะที่จะไม่ว่ากี่ครั้งก็จะฟื้นคืนชีพขึ้นมา
(เปิดเพลง BGM : จงไปให้ถึงดวงจันทร์, ควันอมตะเอ๋ย)
โมโคว : วิหคเพลิงในตำนานที่จะแข็งแกร่งขึ้นทุกครั้งที่ฟื้นคืนชีพ
โมโคว : กระสุนในค่ำคื่นนี้, จะกลายเป็น Trauma (แผลใจ) ของคุณหนูล่ะนะ
(ฟุจิวาระ โนะ โมโคว แพ้พ่าย)
โมโคว : ไอ้---หยา---
โมโคว : ไม่ไหวแล้ววว
เรมิเลีย : อ้าว ?
เรมิเลีย : ยอมแพ้แล้วเหรอ ? ไม่เก่งอย่างปากเลยนี่
ซาคุยะ : ฉันก็ไม่ไหวแล้วค่ะ~
ซาคุยะ : อย่าไปยุแหย่มนุษย์ที่ไม่มีวันตายสิคะ
เรมิเลีย : งั้นเหรอ, ซาคุยะเป็นมนุษย์ที่มีวันตายนี่เนอะ
ซาคุยะ : พูดเป็นลางนะคะนั่น
ซาคุยะ : แถมพอคุณหนูเป็นคนพูดแล้ว ไม่รู้สึกว่าเป็นการล้อเล่นซะด้วยสิ
โมโคว : ถึงจะบอกว่าไม่มีวันตาย, แต่ก็สู้ต่อไปเรื่อยๆไม่ไหวหรอก~
เรมิเลีย : เหรอ, ซาคุยะไม่ลองกลายเป็นผู้ไม่แก่ไม่ตายดูบ้างล่ะ ?
เรมิเลีย : ถ้าทำแบบนั้นแล้วจะสามารถอยู่ด้วยกันตลอดไปได้เลยนะ
ซาคุยะ : ชั่วชีวิตนี้ฉันจะเป็นมนุษย์ที่มีวันตายค่ะ
ซาคุยะ : แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ, ช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ ฉันจะอยู่ด้วยเสมอค่ะ
โมโคว : อย่าเป็นผู้ไม่แก่ไม่ตายเลยจะดีกว่านะ
โมโคว : เห็นอย่างนี้ก็เถอะ, โดนเธอยิงใส่แล้วเจ็บน่าดูเลยล่ะ
โมโคว : และต่อให้เจ็บก็ไม่อาจตายได้ซะด้วย
เรมิเลีย : ถ้าซาคุยะว่าอย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้นะ, น่าเสียดาย
เรมิเลีย : ไม่แก่ไม่ตาย... ..., ยาโฮวไรสินะ
เรมิเลีย : มันจะสะสมอยู่ที่ตับสดของผู้ไม่แก่ไม่ตาย
เรมิเลีย : ทั้งๆที่ยาที่ทำให้กลายเป็นผู้ไม่แก่ไม่ตายกำลังเหนื่อยล้าและบอบช้ำอยู่ตรงหน้าแล้วแท้ๆ
ซาคุยะ : ใครจะเป็นคนกินตับมนุษย์เหรอคะ
ซาคุยะ : ที่สำคัญ, ไปได้ยินเรื่องพรรค์นั้นมาจากใครคะ ?
ซาคุยะ : อ๊ะ ถึงไม่ถามก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่นะ
โมโคว : กำลังคุยเรื่องอันตรายอย่างเช่น ตับของคนอื่นจะเป็นยังไง อยู่สินะ
โมโคว : ขืนเป็นแบบนี้, ก็จะกลายเป็นการทดสอบความกล้า(ตับ)ของฉันน่ะสิ
เรมิเลีย : ทดสอบความกล้า(ตับ)มันก็มีความหมายแบบนั้นอยู่แล้วนี่เนอะ ?
เรมิเลีย : เนอะ, ซาคุยะที่มีวันตาย
ซาคุยะ : อยู่กับท่านแพชูลี่แล้วจำแต่เรื่องแปลกๆมาแบบนี้ก็แย่สิคะ
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Extra Story ทีมผู้อาศัยในโลกวิญญาณ
ทีมผู้อาศัยในโลกวิญญาณ ครึ่งวิญญาณและวิญญาณผู้อาศัยในโลกวิญญาณ โอนเอียงไปฝั่งโยวไคเต็มที่เลย |
|||||||||||
ครึ่งมนุษย์ | โยวไค | ||||||||||
คอนปาคุ โยวมุ | ไซเกียวจิ ยูยูโกะ | ||||||||||
ลูกครึ่งมนุษย์กับยูวเรย์(ผี) ครึ่งวัยกลางคน x 2 จะได้เป็น หนึ่งวัยกลางคน จริงๆเหรอ ? |
สาวน้อยวิญญาณบริสุทธิ์ (?) ที่อาศัยอยู่ในโลกวิญญาณ ถ้ายิงออกไปอย่างพอเหมาะ มันก็ต้องเข้าเป้าอยู่แล้วนี่ ? |
||||||||||
(ทีม) ☆☆☆☆☆☆ | : ความเร็วในการเคลื่อนที่แบบเร็ว : | ☆☆☆☆ | |||||||||
☆ | : ความเร็วในการเคลื่อนที่แบบช้า : | ☆ (ทีม) | |||||||||
ข้ารับใช้ : | 「ครึ่งผี」 | 「วิญญาณผีเสื้อมรณะ」 | : ข้ารับใช้ |
「สิ่งประหลาดหกภพ」 | : กระสุน : | 「การเชื้อเชิญสู่ทะเลบาป」 |
ยันต์มนุษย์「ผ่าปัจจุภพ」 | : Spell Card : | ยันต์มรณะ「Ghastly Dream」 |
อสูร「ผ่านิจนิรันดร์」 | : Last Spell : | ผีเสื้อมรณะ「หลับใหลชั่วนิรันดร์ใต้บุปผาร่วงโรย」 |
ลักษณะพิเศษของทีม | ||
แท่งมนุษย์มีขนาดเพียง 50% เท่านั้น หากมีบอมบ์ใน Stock น้อยกว่าหรือเท่ากับ 2 ลูก จะได้รับบอมบ์เพิ่ม 1 ลูกเมื่อจบด่าน |
Extra
ชื่อด่าน : ตุ๊กตาโฮวไร
ยามฉลูที่สามซึ่งแม้แต่ต้นไม้ใบหญ้ายังต้องหลับนอน, ภายใต้จันทร์เพ็ญ
การทดสอบความกล้าของมนุษย์กับโยวไค, จะมีอะไรให้ต้องกลัวกันนะ ?
เหยื่อของบาปอันหนักหนาที่สุดนั้น, อยู่ที่ไหนกันแน่นะ ?
(คำว่า ทดสอบความกล้าในภาษาญี่ปุ่น สามารถแปลตรงตัวได้ว่า ทดสอบตับ ดังนั้นจะเจอมุขคำว่า ความกล้า=ตับ อยู่บ่อยครั้ง)
(ยามฉลูที่สาม = ช่วง 2:30 - 2:59 น.)
(เปิดเพลง BGM : Extend Ash (ขี้เถ้าฟุ้งกระจาย) ~ มนุษย์โฮวไร)
(คามิชิราซาวะ เคย์เนะ เข้ามาในหน้าจอ)
เคย์เนะ : กำลังคอยอยู่เลย
เคย์เนะ : กล้าดีนี่ที่บุกมาในคืนวันเพ็ญแบบนี้
โยวมุ : ... ...ถึงจะเป็นการทดสอบความกล้า, ฉันก็ไม่กลัวเธอหรอก !
เคย์เนะ : ไม่ยอมให้แตะต้องมนุษย์คนนั้นได้แม้แต่ปลายนิ้วหรอก !
(คามิชิราซาวะ เคย์เนะ แพ้พ่าย)
โยวมุ : จู่ๆ... ...การโจมตีก็หยุดลง
โยวมุ : เวลาแบบนี้จัดว่าน่ากลัวที่สุดเลยค่ะ
?? : ปลดปล่อยสีสันแปลกตาอันโดดเด่น, รูปลักษณ์แห่งยูวเรย์(ผี)
?? : ยามฉลูที่สามซึ่งแม้แต่ต้นไม้ใบหญ้ายังต้องหลับนอนภายใต้จันทร์เพ็ญแบบนี้
(ฟุจิวาระ โนะ โมโคว เข้ามาในหน้าจอ)
?? : ยูวเรย์ไม่ใช่ของแปลกก็จริง, แต่การมีรูปร่างที่แน่ชัดแบบนั้น, มันช่างเด่นสะดุดตาเหลือเกินนะ
(ปกติแล้วยูวเรย์(ผี)จะมีรูปร่างที่ไม่แน่นอน แต่โยวมุเป็นครึ่งคนครึ่งผี ซึ่งร่างครึ่งคนจะมีรูปร่างที่แน่ชัด)
โยวมุ : หวา, ออกมาแล้ว ! (เป็นคำที่คนญี่ปุ่นชอบพูดเวลาเจอผีโผล่ออกมา)
ยูยูโกะ : โยวมุ, ออกมาแล้วล่ะ
(แสดงชื่อและฉายาของบอส)
รูปลักษณ์มนุษย์ของโฮวไร
ฟุจิวาระ โนะ โมโคว
Huziwara no Mokou
โมโคว : โดนยูวเรย์(ผี)พูดใส่หน้าว่า ออกมาแล้ว นี่มันก็เกินไปหน่อยน้า
ยูยูโกะ : ... ...
โยวมุ : อะไรกัน, มนุษย์หรอกเหรอ
โยวมุ : เข้าใจผิดจนเกือบจะฟันใส่แล้วนะ
โยวมุ : เอ๊ะ, มนุษย์ในเวลาแบบนี้เนี่ยนะ ?
โยวมุ : ผิดธรรมชาติจริงๆด้วย !
ยูยูโกะ : ... ...
โมโคว : ฉันอาศัยอยู่ที่นี่มาตั้งแต่แรกแล้ว
โมโคว : เรื่องเวลาน่ะช่างมันเถอะ, ยังไงก็ถือว่าเป็นธรรมชาติมากกว่าพวกเธออยู่ดี
โมโคว : แล้ว, พวกเธอมีธุระอะไรล่ะ
โยวมุ : พวกเรามาทดสอบความ------อ้าว, ท่านยูยูโกะ ?
ยูยูโกะ : โยวมุ, ห้ามเข้าใกล้ยัยนั่นนะ
โยวมุ : ท่านยูยูโกะ... ...
ยูยูโกะ : ยัยนั่นน่ะ, ต่างจากมนุษย์คนอื่น
ยูยูโกะ : ห้ามสัมผัส
ยูยูโกะ : เดี๋ยวจะแปดเปื้อนด้วยคำสาปเอาได้
ยูยูโกะ : ห้ามกิน
ยูยูโกะ : เดี๋ยวจะถูกสาปด้วยพิษร้ายเอาได้
ยูยูโกะ : เหนือสิ่งอื่นใด... ...
ยูยูโกะ : วิชาของฉันใช้ไม่ได้ผล
โมโคว : รู้สึกเหมือนถูกรังเกียจอย่างแรงเลยแฮะ
โมโคว : เจอหน้ากันครั้งแรกแท้ๆ
โมโคว : ที่สำคัญ, จู่ๆก็พูดถึง วิชา, คิดจะทำอะไรรึ
โยวมุ : ท่านยูยูโกะสามารถทำให้มนุษย์ตายได้
โยวมุ : การที่มันใช้ไม่ได้ผลก็หมายความว่า------
โมโคว : จู่ๆก็จะฆ่ากันเลยเรอะ ?
โมโคว : เป็นยูวเรย์ที่อันตรายน่าดูนะ (จริงๆแล้วยูยูโกะจัดว่าเป็นโบวเรย์(วิญญาณ)ต่างหาก)
โยวมุ : เธอไม่ใช่มนุษย์ล่ะสิ ?
โยวมุ : เอ๊ะ, ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่เข้าใจเหตุผลที่ท่านยูยูโกะตื่นตระหนกน่ะสิ
โมโคว : แย่หน่อยนะ, แต่ฉันเป็นมนุษย์
โมโคว : แค่ไม่มีวันตายเท่านั้นเอง
ยูยูโกะ : มนุษย์โฮวไร... ...
ยูยูโกะ : น่ากลัวจังเลย, โยวมุ
โยวมุ : ทั้งที่สบายดีขนาดนั้นจนกระทั่งมาทดสอบความกล้า... ..., ทานอะไรแปลกๆเข้าไปรึเปล่าคะ ?
โยวมุ : เอาเถอะ, ที่นี่ฉันจะทำอะไรสักอย่างเองค่ะ
โยวมุ : ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า, จะมีสิ่งที่ทำให้ท่านยูยูโกะผู้ไม่เคยกลัวสิ่งใดรู้สึกตื่นตระหนกได้ถึงเพียงนี้
โมโคว : ยูวเรย์กับฉัน, คงเข้ากันไม่ค่อยได้ล่ะมั้งนะ ?
โมโคว : รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาแล้วสิ
โมโคว : จะเริ่มโจมตีเลยดีมั้ยนะ~
โยวมุ : ว่าแต่, เพราะสิ่งใดถึงได้ตื่นตระหนกขนาดนี้เหรอคะ ?
โยวมุ : ท่านยูยูโกะ
ยูยูโกะ : มนุษย์ที่ดื่มยาโฮวไรเข้าไปจะกลายเป็นผู้ไม่แก่ไม่ตาย
ยูยูโกะ : หากคนใดได้ทานตับสดของมนุษย์ผู้ไม่แก่ไม่ตายเข้าไป,
ยูยูโกะ : คนนั้นก็กลายเป็นผู้ไม่แก่ไม่ตาย
ยูยูโกะ : หากโบวเรย์(วิญญาณ)ทานตับสดดังกล่าวเข้าไปล่ะ... ...?
ยูยูโกะ : โบวเรย์ที่ไม่มีวันตายก็จะถือกำเนิดขึ้นนั่นเอง
ยูยูโกะ : จากนั้น, วัฏสงสารแห่งโฮวไรก็จะสิ้นสุดลง
ยูยูโกะ : ไม่สามารถนิพพานหรือเกิดใหม่ได้, ตัวยาเองก็จะไม่แสดงผลอีกต่อไป
ยูยูโกะ : เอาเถอะ แค่ไม่กินเข้าไปก็พอน่ะนะ (เริ่มกลับมาพูดเล่นแล้ว)
โยวมุ : งั้นก็อย่ากินสิ---!
โมโคว : ให้ตายสิ, เป็นยูวเรย์ที่ขี้เล่นจริงนะ
โมโคว : หรือว่าถ้ากลายเป็นยูวเรย์แล้วจะต้องเพี้ยนแบบนี้กันนะ ?
โมโคว : ตัวฉันที่ไม่มีวันตายก็พิสูจน์ไม่ได้ซะด้วยสิ
โยวมุ : ตัวฉันที่เป็นห่วงไปเองนี่ช่างโง่จริงๆ
โยวมุ : ยังไงเสียท่านยูยูโกะก็คือท่านยูยูโกะล่ะนะคะ
ยูยูโกะ : อาจจะกินก็ได้นะ~
ยูยูโกะ : ตับสดของผู้ไม่แก่ไม่ตายที่อยู่ตรงหน้า, ก็ท่าทางน่าอร่อยดีนะ
โยวมุ : ฉันจะเอาไปเก็บในที่ที่ท่านยูยูโกะเอื้อมไม่ถึงเองค่ะ
โมโคว : แล้วอย่างนี้, คนตายจะสามารถฟาดฟันฉันได้เหรอเนี่ย ?
โยวมุ : แม้ว่าอาจจะเพิ่มพรรคพวก(คนตาย)ไม่ได้,
โยวมุ : แต่ขอทดสอบหน่อยเถอะว่าไม่มีวันตายจริงๆรึเปล่า
โมโคว : โบวเรย์ที่ลืมนิพพานจะไม่ไปเกิดเป็นชีวิตใหม่
โมโคว : มนุษย์ที่ไม่อาจตายจะไม่ได้รู้จักโลกวิญญาณที่มีสีสัน
โมโคว : จุดเริ่มต้นของความเป็นที่เกิดแล้วเกิดอีกเกิดแล้วเกิดอีกนั้นมืดมิด
โมโคว : จุดจบของความตายที่ตายแล้วตายอีกตายแล้วตายอีกนั้นมืดมน
(มาจากคำพูดของพระสงฆ์ผู้มีนามว่า คูวไค หมายถึง ไม่ว่าจะผ่านการเวียนว่ายตายเกิดกี่ครั้ง มนุษย์ก็ไม่เข้าใจสัจธรรมเสียที)
(เปิดเพลง BGM : จงไปให้ถึงดวงจันทร์, ควันอมตะเอ๋ย)
โมโคว : ตัวฉันซึ่งไม่รู้จักความตายนั้นอยู่เหนือความมืด
โมโคว : จงดูห่ากระสุนอันงดงามที่หลุดพ้นออกมาจากวัฏสงสารอันมืดมิดซะ !
(ฟุจิวาระ โนะ โมโคว แพ้พ่าย)
โมโคว : อะไรกันเนี่ย !
โมโคว : ร่างกายมาถึงขีดจำกัดแล้ว... ...
โยวมุ : ถึงจะไม่แก่ไม่ตาย แต่ร่างกายก็ยังคงมีขีดจำกัดอยู่สินะคะ
ยูยูโกะ : เอาล่ะ, การเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามทื่อลงแล้ว
ยูยูโกะ : จังหวะนี้แหละ !
โยวมุ : จังหวะนี้อะไรกันล่ะคะ !
โยวมุ : ไหนว่าจะไม่กินไงล่ะคะ !
โมโคว : ถึงจะไม่มีวันตาย, ก็สู้ต่อเนื่องนานๆไม่ได้หรอกนะ
โมโคว : เจ็บไปทั้งตัวเลยเนี่ย
ยูยูโกะ : เป็นโบวเรย์สิดี
ยูยูโกะ : ร่างกายไม่มีความเจ็บปวด
ยูยูโกะ : เธอล่ะว่าไง ? มาเป็นโบวเรย์มั้ย
โมโคว : ฟังที่ฉันพูดบ้างมั้ยคะเนี่ย ?
โยวมุ : มนุษย์ที่ไม่มีวันตายนี่น่าสนใจดีนะคะ
โยวมุ : สู้ด้วยกำลังเต็มที่ได้โดยไม่ต้องกังวลเลย
ยูยูโกะ : ตายจริง, เธอออมมือมาตลอดเลยเหรอ ?
โยวมุ : เปล่าค่ะ, ไม่ใช่แบบนั้น
โมโคว : ถึงยังไงก็จัดว่าแข็งแกร่งอยู่ดี
โมโคว : ทำไมถึงแข็งแกร่งขนาดนี้นะ
โมโคว : พวกเธออายุน้อยกว่าฉันอีกไม่ใช่เหรอ ?
ยูยูโกะ : มันแน่อยู่แล้วว่าเป็นเพราะความแข็งแกร่งของมนุษย์มันมีขีดจำกัดไงล่ะ
ยูยูโกะ : ถึงเธอจะพยายามสักเท่าไรก็เอาชนะยูวเรย์ไม่ได้หรอก
โยวมุ : คิดว่าไม่ค่อยเกี่ยวกับการเป็นยูวเรย์หรอกค่ะ,
โยวมุ : เป็นเพราะฝ่ายเรามีกันสองคนเสียมากกว่า... ...
ยูยูโกะ : ตายจริง, ตับสดของผู้ไม่แก่ไม่ตายมาอยู่ตรงหน้าแล้ว
ยูยูโกะ : หายากน่าดูเลยนะ
โยวมุ : ท่านยูยูโกะ~
โมโคว : ช่วยไม่ได้นะ
โมโคว : เจ็บจนขยับตัวไม่ได้แล้วด้วย,
โมโคว : จะต้มจะย่างก็เชิญเลย !
ยูยูโกะ : จะต้มหรือย่างไม่ได้นะ !
ยูยูโกะ : ตับน่ะ, ต้องทานสดๆสิ
ยูยูโกะ : ขืนต้มหรือย่างก็เสียฤทธิ์ของโฮวไรน่ะสิ
โยวมุ : งั้นเอามาย่างกันเถอะค่ะ
โมโคว : ถึงถูกย่างก็ไม่ตายหรอกนะ
โมโคว : ก็แค่ร้อนนิดหน่อยเท่านั้นแหละ... ..., ซิกซิก
โยวมุ : จะว่าไป, ทำไมถึงกลายเป็นเรื่องแบบนี้ไปได้ล่ะเนี่ย ?
ยูยูโกะ : ก็เธอชวนฉันให้ออกมาทดสอบความกล้า(ตับ)ไม่ใช่รึ
โยวมุ : อ๋อ, เรื่องนั้นเองเหรอคะ
โยวมุ : เพราะงั้นเลยเอาแต่พูดถึง ตับสด ตับสด มาตั้งแต่เมื่อกี้สินะคะ
โยวมุ : การทดสอบความกล้า(ตับ)น่ะยกเลิกไปกลางคันแล้วล่ะค่ะ
โยวมุ : เพราะรู้แล้วว่าถูกคางุยะหลอกเอา
โยวมุ : เป็นที่แน่ชัดว่าคางุยะอยากให้มาต่อสู้กับมนุษย์คนนี้ค่ะ
โยวมุ : ก็เลยโกหกว่าเป็นการทดสอบความกล้า
ยูยูโกะ : ยกเลิก ? แค่พักชั่วคราวไม่ใช่เหรอ ?
ยูยูโกะ : จากนี้ไปจะเริ่มการทดสอบความกล้า(ตับ)อีกครั้งแล้วนะ
โยวมุ : เอ---... ...
โยวมุ : ที่จริงแล้ว, ฉันแพ้ของน่ากลัวค่า
ยูยูโกะ : ดูนั่นสิ ที่ใต้ต้นไผ่ต้นนี้มียูวเรย์... ...
โยวมุ : อึ๋ยยยย
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]