東方神霊廟 ~ Ten Desires.
โทวโฮวชินเรย์เบียว (ฮวงซุ้ยวิญญาณเทพแห่งตะวันออก) ~ ความปรารถนาทั้งสิบ
.........................................................................................................................................................................................
虚伝から蘇る弾幕 โคะเดนคาระโยมิกาเอรุดันมาคุ (ห่ากระสุนที่คืนชีพมาจากเรื่องลวงโลก)
東方神霊廟 ~ Ten Desires.
--------------------------------------------------------------------------------
ศาลเจ้าฮาคุเรย์, ศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ ณ ชายแดนซึ่งห่างไกลจากหมู่บ้านมนุษย์
โลกสีขาวดำที่ผืนปฐพีถูกแช่แข็งได้จบสิ้นลง, และความงามแบบดั้งเดิมก็ได้กลับคืนสู่เกนโซวเคียวอีกครั้ง
และเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิที่ซากุระและชินเรย์(วิญญาณเทพ)ร่ายรำร่วมกัน
เรย์มุ : ถึงซากุระมันจะสวยดีก็เถอะน้า
มาริสะ : ซากุระสวยมันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ
ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดในเกนโซวเคียวที่ไม่สนุกสนานกับการเบ่งบานของซากุระ
ฮาคุเรย์ เรย์มุ กับ คิริซาเมะ มาริสะ เองก็เป็นสิ่งมีชีวิตแบบนั้นเช่นกัน
เรย์มุ : แต่มันรู้สึกสังหรณ์ไม่ดีอย่างบอกไม่ถูกน่ะน้า
มาริสะ : บังเอิญจังว่ะ, ฉันก็เหมือนกัน
ซากุระยังคงร่วงโรยอย่างไร้ปรานีต่อไป, หากพลาดโอกาสนี้ไปอาจไม่ได้ชมดอกไม้อีกเลยจนถึงช่วงดอกฟุจิบานก็เป็นได้
แต่ถึงอย่างนั้น, ทั้งสองคนกลับไม่ได้สนใจงานเลี้ยงใต้ต้นซากุระเลยสักนิด
ทำไมงั้นหรือ
นั่นก็เพราะมีวิญญาณที่ไม่รู้ตัวตนแน่ชัดล่องลอยออกมาแล้วก็หายไปนั่นเอง
เรย์มุ : รู้สึกเหมือนก่อนหน้านี้จะเคยมีฤดูใบไม้ผลิที่มียูวเรย์(ผี)เยอะขนาดนี้มาก่อนแล้วนะ
มาริสะ : เออ, แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าจะไม่สามารถจัดงานชมดอกไม้ได้ว่ะ
มาริสะ : เพราะแทบจะไม่มีฤดูใบไม้ผลิเลย (หมายถึงเหตุการณ์ในภาค 7)
เรย์มุ : นั่นสิน้า, ตอนนั้นเป็นฝีมือของเจ้าพวกโลกวิญญาณนั่นล่ะน้า
มาริสะ : ใช่แล้ว, เรื่องที่เกี่ยวกับวิญญาณน่ะเป็นฝีมือของยัยพวกนั้นทุกคนเลย
เรย์มุ : ใช่ใช่, ถ้าทำแบบนั้นเอาไว้แต่แรกก็คงไม่มีปัญหาหรอกเนอะ (หมายถึง ยำให้เละ)
ตอนนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า,
วิญญาณที่มีตัวตนไม่แน่ชัดซึ่งกำลังล่องลอยอยู่นี้ไม่ใช่ยูวเรย์ธรรมดา, และไม่ใช่วิญญาณพิภพที่ปรากฏตัวออกมาเมื่อเร็วๆนี้ด้วย
พวกนี้คือชินเรย์, วิญญาณที่น่าจะกลายเป็นเทพเจ้า
แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วชินเรย์ส่วนมากจะสถิตอยู่ในศาลเจ้า, แต่ที่จริงแล้วเป็นวิญญาณที่ไม่ใช่ว่าจะอาศัยอยู่ที่ใดก็ได้
ชินเรย์เหล่านี้กำลังทำให้พวกเธอกลุ้มใจอยู่
มาริสะ : ขืนเป็นแบบนี้ พรุ่งนี้คงจัดงานชมดอกไม้ไม่ได้แน่เลยว่ะ
มาริสะ : ดีล่ะ
เรย์มุ : ดีล่ะ ?
มาริสะ : อ๊ะ, เอ่อ, ไม่มีอะไรหรอก
มาริสะ : มันยังไงกันวะ, เจ้าวิญญาณประหลาดพวกนี้
เรย์มุ : จะทำอะไรสักอย่างงั้นเหรอ---
เรย์มุ : ต้องสืบหาสาเหตุที่เจ้าพวกนี้ปรากฏตัวออกมาสินะ
นับเป็นวันโชคดีที่ตัดสินใจลงมือ, ทั้งสองออกเดินทางไปตรวจสอบก่อนใครๆ, ทั้งที่ยังเป็นเวลากลางคืน
――อีกด้านหนึ่ง, ได้เกิดเหตุวิปลาสขึ้นที่ศาลเจ้าบนภูเขาเช่นกัน
วิญญาณประหลาดได้ปรากฏตัวขึ้น ณ ศาลเจ้ายาซากะบนภูเขา ซึ่งเป็นที่อยู่ของ โคจิยะ ซานาเอะ, คุณมิโกะแห่งศาลเจ้านี้เช่นกัน
ซานาเอะคิดว่าแปลกดี, แต่ก็รู้สึกตัวว่านี่ไม่ใช่ยูวเรย์
วิญญาณเหล่านี้คือชินเรย์
เป็นสิ่งที่มีคุณลักษณะเหมือนกับท่านคานาโกะและท่านสุวะโกะ
สาเหตุการเกิดชินเรย์นั้น, มาจากความโลภ ความคิด ความหวาดกลัว หรือความรู้สึกของมนุษย์ที่แข็งแกร่งอย่างมาก
อันที่จริงแล้ว แม้ว่าชินเรย์จะไม่ค่อยทำอันตรายต่อมนุษย์โดยตรง, แต่ก็ไม่น่าจะถือกำเนิดขึ้นมาได้หากไม่มีความโลภอะไรสักอย่างที่รุนแรง
ยกตัวอย่างเช่น, การอธิษฐานขอความอุดมสมบูรณ์ หรือการทำพิธีสะเดาะเคราะห์... ...
ซานาเอะตัดสินว่า, เจ้านี่แหละใช้ได้เลย
การรวบรวมชินเรย์ก็เหมือนกับการรวบรวมความโลภของมนุษย์, ซึ่งนั่นก็เหมือนกับการรวบรวมศรัทธานั่นเอง
แต่ก็ไม่รู้ว่าเหตุใดจึงมีชินเรย์กำเนิดขึ้นตรงนั้นตรงนี้ทั่วไปหมด, ไม่เคยเห็นความโลภที่รุนแรงขนาดนี้ปั่นป่วนเกนโซวเคียวมาก่อนเลย
ซานาเอะจึงออกค้นหาสาเหตุนั้น
――โลกหลังความตาย, โลกวิญญาณ
เหตุวิปลาสได้เกิดขึ้นที่โลกวิญญาณเช่นกัน, มีวิญญาณชนิดอื่นปะปนมากับยูวเรย์
ไม่สิ, ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ, มีชินเรย์ปรากฏตัวขึ้นจากพวกยูวเรย์แล้วก็หายไป, หายไปแล้วก็โผล่มา, ซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนี้
คนสวนของโลกวิญญาณ, คอนปาคุ โยวมุ, กำลังทำอะไรไม่ถูกจนอึดอัดไปหมด
เพราะเธอเองก็รู้สึกได้ว่ามีชินเรย์กำลังจะกำเนิดขึ้นจากร่างกายของเธอเหมือนกัน
แม้ว่าชินเรย์พวกนี้จะเป็นสิ่งที่แสนสั้นเพราะหายไปในทันที, แต่ก็สามารถรู้สึกได้ถึงความคิดอันเจือจาง
ไม่สิ, พวกชินเรย์ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาจะมีความคิดรึเปล่าก็ไม่รู้
แม้จะเป็นสิ่งที่คล้ายกับการแตกกิ่งเข้าหาแสงของพวกพืช, แต่ตัวเธอซึ่งเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งผีก็สามารถรู้สึกได้เช่นกัน
ปลายทางนั้นชี้ไปยังหมู่บ้านมนุษย์
ตอนที่คิดเช่นนั้น, พลันได้เห็นแสงพร่าสว่างมาจากทางหมู่บ้านมนุษย์
โยวมุ : งั้นเหรอ
โยวมุ : ชินเรย์ไม่ได้ถือกำเนิดจากตัวฉันเท่านั้น,
โยวมุ : แต่กำลังถือกำเนิดขึ้นมาจากสิ่งมีชีวิตทุกชนิดสินะ
เธอพักงานดูแลสวนแล้วรีบออกไปตรวจสอบ, ทว่า... ...
――ชินเรย์กำลังตามหาคนที่ยอมรับตนเองอยู่
ภายในอาคารบรรจุศพอันมืดมิดเหม็นกลิ่นสาบดิน
แสงไฟสลัวของเหล่าวิญญาณได้ส่องสว่างโดยรอบ, แต่ก็ถูกดูดกลืนโดยความมืดในทันที, จนไม่สามารถเปิดเผยให้เห็นทั้งหมดได้
ชินเรย์ได้ตรัสรู้แจ้งที่นั่น
อยากได้เงิน, ไม่อยากโดนห่ากระสุน, หรืออยากใช้สเปลการ์ด
ผู้ที่รับฟังความโลภอันเล็กน้อยเหล่านี้ของพวกเราแต่ละคนนั้นเป็นภาพมายา
สุดท้ายแล้วความโลภแค่ระดับนี้ก็ไม่อาจทำให้สำเร็จได้หากไร้ซึ่งความพยายามของตนเอง
แต่ถึงอย่างนั้น ชินเรย์ก็ยังยึดมั่นในความหวังอันน้อยนิด, และก้าวเข้าไปในความมืดด้วยความมุ่งมั่นอันแรงกล้า
จากนั้นก็กลับคืนสู่ความว่างเปล่า, โดยที่ยังไม่อาจเข้าใจถึงต้นกำเนิดของตนเอง
จบสิ้นลงโดยไม่รู้สึกตัวเลยว่ามีคนเฝ้ามองและยิ้มเยาะอย่างพึงพอใจอยู่
รอยยิ้มผุดขึ้นเนื่องจากการคืนชีพใกล้มาถึง――
พร้อมคำสาบานว่าจะล้างแค้น
--------------------------------------------------------------------------------
.........................................................................................................................................................................................