BAiJR - Lunasa


東方文花帖 ~ Bohemian Archive in Japanese Red.
โทวโฮวบุนคะโฉว (บันทึกอักขระบุปผาแห่งตะวันออก) ~ บทความแหกกฎในสมุดญี่ปุ่นปกแดง


.........................................................................................................................................................................................

ฤดูกาลที่ 113 เดือนจันทรคติที่ 7 วันที่ 1

การแสดงสดของวิญญาณหลอน ย้ายสถานที่จัดอย่างกะทันหัน
แม้จะไม่เกิดความวุ่นวายในการย้ายสถานที่จัด... แต่ทำไมต้องย้ายล่ะ ?

เดือน ◯ วันที่ ◯ ในระหว่างการแสดงสดของวงดนตรีวิญญาณหลอนที่จัดขึ้น ณ ตำหนักหยกขาว
ได้มีการประกาศเปลี่ยนแปลงสถานที่จัดงานแสดงอย่างกะทันหัน โดยจะพาผู้ชมทั้งหมดย้ายไปที่ด้านหน้าของคฤหาสน์มารแดง
จริงอยู่ที่ว่า หลังจากการย้ายสถานที่เสร็จสิ้นก็เปิดการแสดงอีกครั้งโดยที่ไม่มีความวุ่นวายอะไรใหญ่โต
แต่เป็นที่น่าสงสัยว่า เหตุใดจึงต้องทำการเคลื่อนย้ายครั้งใหญ่โดยทำการโยกย้ายระหว่างโลกนี้กับโลกหน้า พร้อมทั้งผู้ชมทั้งหมดด้วย ?
สุดท้ายแล้ว หลังการแสดงสดจบลงก็ยังคงไร้คำชี้แจงใดๆ เหล่าผู้ชมก็คึกคักสนุกสนานจนไม่ได้ใส่ใจอะไร จึงไม่เกิดปัญหาใดๆขึ้น

ผู้จัดงานแสดงสดอันแสนอึกทึกวุ่นวายนั้นคือ สามพี่น้องปริซึมริเวอร์ (Poltergeist)
ลูนาซ่า ปริซึมริเวอร์ พี่สาวคนโตและลีดเดอร์ของวงดนตรี ได้กล่าวถึงเหตุผลในการย้ายสถานที่ดังนี้
「ความกดอากาศมันต่ำลงน่ะน้า...
 ตำหนักหยกขาวในตอนนั้นมีความดันต่ำลง... ...
 ถ้ายังเป็นอย่างนั้นต่อไป ต้องมีฝนตกลงมาแน่
 เพราะงั้นเลยสั่งพวกน้องๆให้ทำการย้ายสถานที่จัดแสดงน่ะ」

นอกจากนี้ยังทราบอีกว่า เธอไม่ได้บอกเหตุผลในการย้ายสถานที่แก่น้องๆทั้งสองคน คือ เมแลง ปริซึมริเวอร์ และ ลิริก้า ปริซึมริเวอร์ เลย
「จะบอกหรือไม่บอก ฝนก็จะตกลงมาอยู่ดี
 และถึงแม้จะไม่รู้สาเหตุ แต่ผู้ชมก็ตามมาโดยไม่บ่นอะไร
 ผู้ชมน่ะ เค้าชอบใจที่มี Surprise ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นนะ
 ถ้ารู้เหตุผลที่ต้องย้าย ก็จะคิดว่าไม่ใช่ Surprise แต่เป็น Accident แล้วจะก็เริ่มไม่พอใจ」

ซึ่งก็เป็นไปตามที่เธอคาด... ไม่มีผู้ชมบ่นไม่พอใจแม้แต่คนเดียว ทั้งยังสนุกสนานกับเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมายด้วย
เธอกล่าวว่า หากเป็นศิลปินต้องไม่ยึดมั่นอยู่แต่กับการบรรเลงดนตรี
ถ้าไม่สามารถสร้างสรรค์การแสดงสดได้ ก็ยังไม่นับว่าเป็นศิลปินชั้นเลิศ
การสร้างสรรค์การแสดงสด ก็คือการทำให้งานแสดงสดนั้นสนุกสนาน
ที่พูดนี้ไม่ได้หมายความว่า ถ้าเพลงดีแล้วผู้คนจะสนุกสนาน
หากสร้างสรรค์การแสดงสดได้ดี เพลงก็จะออกมาดีเอง

เพียงแต่... ไม่รู้ว่าทำไมจึงมีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถคาดการณ์ได้ว่าฝนกำลังจะตก
แต่พอได้เห็นว่ามีเฉพาะพี่สาวคนโตเท่านั้นที่รู้สึกตัว ก็ทำให้คิดได้ว่านั่นไม่ใช่ลักษณะพิเศษของพวกวิญญาณหลอนแน่
(ชาเมย์มารุ อายะ)


.........................................................................................................................................................................................

พาชมสถานที่ขึ้นชื่อแห่งเกนโซวเคียว
-----------------------------------------------------------------------------------------
               **คฤหาสน์มารแดง

เกนโซวเคียวนั้นมีทะเลสาบที่ค่อนข้างลึกและกว้างใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง
ใกล้ทะเลสาบนั้นมีสีสันขัดสายตา อันเกิดจากคฤหาสน์ตะวันตกที่แดงฉานที่โดดเด่นสะดุดตา
ซึ่งก็คือคฤหาสน์ของผีดูดเลือดที่ถูกขนานนามว่า คฤหาสน์มารแดง นั่นเอง
ภายในคฤหาสน์ก็ประดับประดาตกแต่งด้วยสีแดงเข้มเป็นหลัก
แต่เพราะมีหน้าต่างน้อย ทำให้ภายในอาคารมืดกว่าที่คิด จึงไม่รู้สึกแปลกตากับสีแดงเข้มเหล่านั้นมากนัก
เพียงแต่บรรยากาศความไม่สงบที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวคฤหาสน์นั้น กลับรู้สึกเหมือนเด็กๆที่ไหนสักแห่ง
บางทีคงเพราะผีดูดเลือดผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์นั้นยังเป็นเด็กอยู่นั่นล่ะนะ

บางครั้งก็จะมีการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์แปลกๆขึ้นที่คฤหาสน์ตะวันตกแห่งนี้
ทว่า งานเลี้ยงเหล่านี้มักถูกจัดขึ้นโดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทำให้ไม่ค่อยมีคนที่รู้มากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องเสียมากกว่า
แต่ถึงอย่างนั้นก็มีจำนวนเมดในคฤหาสน์เยอะมาก ดังนั้น ลำพังเพียงจำนวนคนในคฤหาสน์ก็มากเพียงพอที่จะทำให้งานเลี้ยงครึกครื้นแล้ว
การจัดงานเลี้ยงเช่นนี้นั้นแสดงถึงนิสัยอยู่ไม่สุขของเจ้าของคฤหาสน์ซึ่งคล้ายกับสีของคฤหาสน์ได้เป็นอย่างดี

แม้จะไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าคฤหาสน์นี้ตั้งอยู่ที่นั่นมาตั้งแต่เมื่อใด แต่ไม่น่าจะมีอยู่มาตั้งแต่โบราณกาล
ตัวคฤหาสน์ก็ไม่ได้ดูใหม่เท่าใดนัก น่าสงสัยว่าแต่เดิมมันคงจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่ถูกสร้างที่โลกภายนอก
ยามที่สิ่งก่อสร้างใดๆสูญหายไปจากโลกภายนอก บางครั้งมันก็จะกลายเป็นสิ่งก่อสร้างมายา
บางทีที่โลกภายนอกเองก็อาจจะไม่มีการสร้างคฤหาสน์ตะวันตกแบบโบราณอย่างนี้แล้วก็เป็นได้
ต่อให้สร้างขึ้นมาก็คงเป็นเพียงคฤหาสน์ในจินตนาการที่ไม่มีผู้อาศัยและเอาไว้ใช้เป็นของตั้งโชว์เท่านั้น

ภายในอาคารมีผีดูดเลือดและเมดผู้คอยรับใช้ผีดูดเลือดอาศัยอยู่
เมื่อตัวอาคารมาอยู่ในเกนโซวเคียวเช่นนี้แล้ว อาจกล่าวได้ว่าทั้งผีดูดเลือดและเมดนั้นได้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตมายาที่ไม่มีตัวตนอยู่ในโลกภายนอกแล้ว
ฉะนั้นแล้ว ไม่ลองมาเฝ้ามองคฤหาสน์ตะวันตกหลังนี้ไปพลาง คิดคำนึงถึงโลกภายนอกไปพลาง ดูบ้างเหรอคะ
(ชาเมย์มารุ อายะ)


.........................................................................................................................................................................................


อายะ 「เหนื่อยหน่อยนะคะ
    ครั้งนี้ก็สนุกมากเลยค่ะ」
ลูนาซ่า 「ไม่ได้เหนื่อยอะไรมากมายหรอกนะ
    ดูสิ... เครื่องดนตรีก็ไม่ได้ถือด้วยตัวเอง
    เพลงก็ไม่ได้ร้อง」
อายะ 「เข้าใจแล้วค่ะ
    การแสดงสดสนุกดีนะคะ
    และการแสดงในวันนี้ก็ไม่มีฝนตกลงมาด้วยล่ะค่ะ」
ลูนาซ่า 「งานแสดงกับฝนมันไม่เกี่ยวกันนี่นา ?」
อายะ 「นี่ไงคะ... ในงานแสดงสดเมื่อตอนนั้นในบทความนี้ มีแต่คุณคนเดียวที่รู้ว่าฝนจะตกนี่คะ ?」
ลูนาซ่า 「เรื่องแบบนั้น แค่แป๊บเดียวก็รู้」
อายะ 「ทำยังไงถึงรู้ได้ล่ะคะ」
ลูนาซ่า 「พอความกดอากาศต่ำลงน่ะนะ Tension ก็จะต่ำลง」
อายะ 「เป็นเรื่องของประสาทสัมผัสอะไรแบบนั้นสินะคะ... ...」
ลูนาซ่า 「ประสาทสัมผัส ? ดูเหมือนจะเข้าใจผิดอะไรบางอย่างนะ
    Tension ที่พูดถึงน่ะ หมายถึงความตึงของสายไวโอลินต่างหาก
    พอสายเริ่มหย่อน เสียงก็จะเริ่มเบาลง
    การสั่นสะท้อนของสายก็เปลี่ยนไป
    เพราะงั้นแค่แป๊บเดียวก็รู้」
อายะ 「อา... อย่างนั้นเองเหรอคะ
    ฉันนึกว่า Tension ของคุณลดต่ำลงซะอีกนะคะ」
ลูนาซ่า 「ถ้าระดับเสียงไม่เข้ากัน, Tensionของฉันก็ลดต่ำลงเหมือนกัน」
อายะ 「อ๊ะ จริงสิ
    ฉันคิดมานานแล้วล่ะคะ แต่ขอถามย้ำสักหน่อยว่า วงดนตรีที่ไม่รู้จะเรียกว่าเป็นวงของคุณดีรึเปล่าเนี่ย
    มีกันสามคนโดยเล่น ไวโอลิน ทรัมเป็ต และคีย์บอร์ด สินะคะ ?」
ลูนาซ่า 「คิดถึงเรื่องแบบนั้นมานานแล้ว ? มันก็เห็นๆกันอยู่ไม่ใช่เหรอ」
อายะ 「ยังถามไม่จบน่ะค่ะ
    คือการจับกลุ่มเครื่องดนตรีแบบนั้น มันออกจะเป็นการจับกลุ่มที่ประหลาดยังไงๆอยู่ไม่ใช่เหรอคะ ?」
ลูนาซ่า 「ทำไมล่ะ ?」
อายะ 「มันเป็นการจับกลุ่มที่ทำให้คิดไม่ออกว่าจะบรรเลงออกมาเป็นเพลงแบบไหน, คิดไม่ค่อยออกเลยว่าเสียงที่ได้จะเข้ากันน่ะค่ะ
    ก็พวกวงดนตรีธรรมดาที่เคยมีมา เค้าไม่มีไวโอลินอยู่ในวงนี่คะ...」
ลูนาซ่า 「ก็แล้วทำไมล่ะ ?」
อายะ 「ถามฉันว่า ทำไม ฉันก็ไม่รู้ว่าจะ... ...」
ลูนาซ่า 「เธอน่ะไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับดนตรีเอาเสียเลย
    แก่นแท้แห่งดนตรีคืออะไร... มันก็คือการสร้างเสียงนั่นเอง
    ไม่ใช่เป็นการลอกเลียนเสียงดนตรี
    โน้ตเพลงอะไรนั่นจึงไม่จำเป็นเลยแม้แต่น้อย
    การสร้างเสียงนี่ล่ะ ที่ควรให้ความสำคัญ
    ถ้าหากเสียงที่ผิดแผกไปจากเสียงตามธรรมชาติเป็นเสียงรบกวนล่ะก็
    เพลงที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริงนั้นก็ไม่ต่างไปจากเสียงรบกวนอย่างหนึ่งนั่นเอง」
อายะ 「เสียงรบกวนงั้นเหรอคะ
    จะว่าไปแล้วพวกคุณก็ส่งเสียงหนวกหูเอาเรื่องนะคะ」
ลูนาซ่า 「ถ้าเป็นของที่สร้างเสียงได้ล่ะก็ ไม่ว่าของแบบไหนก็สามารถก่อให้เกิดเสียงรบกวนได้ทั้งนั้น
    นักดนตรีเป็นผู้สร้างสรรค์ดนตรี ดังนั้นเครื่องดนตรีจึงเป็นเพียงของนอกกายเท่านั้น」
อายะ 「จะบอกว่า เพราะอย่างนั้นจะใช้เครื่องดนตรีอะไรก็ได้ เลยเลือกของที่ชอบซึ่งก็คือไวโอลิน อย่างนั้นสินะคะ ?」
ลูนาซ่า 「ไม่หรอก เป็นเพราะฉันชำนาญการใช้ไวโอลินต่างหาก」
อายะ 「ไหนบอกว่าเครื่องดนตรีเป็นของนอกกายไม่ใช่เหรอคะ~」
ลูนาซ่า 「ถ้าไม่ชำนาญก็สร้างเสียงขึ้นมาตามใจชอบไม่ได้น่ะสิ
    ถ้าสร้างเสียงขึ้นมาตามใจชอบไม่ได้ ก็ไม่กลายเป็นเสียงรบกวน」
อายะ 「ฟังดูเป็นเรื่องที่เข้าใจยากยังไงไม่รู้ แต่สรุปได้ว่าการแสดงสดของพวกคุณเป็นเสียงรบกวนสินะคะ」
ลูนาซ่า 「ขอรับคำชมนั้นเอาไว้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ」

Tips :
 - เหนื่อยหน่อยนะคะ(ครับ) ใช้แสดงความขอบคุณต่อผู้ร่วมงานที่เหน็ดเหนื่อยตรากตรำทำงานจนสำเร็จ อาจแปลว่า ขอบคุณมาก(ค่ะ/ครับ) ไปเลยก็ได้
แต่เนื่องจากต้องการแสดงถึงวัฒนธรรมภาษาของญี่ปุ่น และเพื่อเป็นตัวอย่างให้ผู้อื่นศึกษาไว้เลือกใช้คำใช้ในงานแปลของตนต่อไป
และคำคำนี้ยังสามารถแปลได้อีกหลายแบบ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความเหมาะสม
 - ลูนาซ่า เป็นโซวเรย์ (Poltergeist)(วิญญาณหลอนที่คอยสร้างเสียงดังรบกวนผู้คน) จึงมองว่า โซวออน (เสียงรบกวน) เป็นเสียงเพลง


ลูนาซ่า ปริซึมริเวอร์

หนึ่งในกลุ่มนักดนตรีวิญญาณหลอน (Poltergeist)
โดยมีน้องรองเมแลง และน้องเล็กลิริก้า ร่วมวงดนตรี
ชำนาญเครื่องสาย โดยเฉพาะไวโอลิน

ผลงานการแสดง :
『東方妖々夢』



.........................................................................................................................................................................................

กลับไปที่สารบัญของหนังสือเล่มนี้