
東方天空璋 ~ Hidden Star in Four Seasons.
หยกนภาแห่งตะวันออก ~ ดวงดาวที่ซ่อนเร้นในฤดูทั้งสี่.
.........................................................................................................................................................................................
*กดที่ชื่อหัวข้อเพื่อแสดงข้อความ*
หรือกดที่นี่เพื่อแสดงข้อความทั้งหมด
Main Page
หน้าเวบ Official หลักของภาคนี้ ไม่มี
Online Manual ไม่มี ให้เปิดเกมขึ้นมาแล้วดูในหัวข้อ Manual
ผู้พัฒนา : เซี่ยงไฮ้อลิสเกนกาคุดัน
จัดจำหน่าย : เซี่ยงไฮ้อลิสเกนกาคุดัน
วางจำหน่าย : (Demo) 7 พฤษภาคม 2017
(Master) 11 สิงหาคม 2017 (งาน Comike 92)
(Steam) 17 พฤศจิกายน 2017 (Link)
Minimum Requirement :
OS ; Windows 7/8/10
CPU ; Core 2 Duo or faster
RAM ; 1024 MB (แนะนำ 2048 MB)
VGA ; Shader Model 2.0 compatible
DirectX ; version 9.0c
HDD ; 600 MB
Sound ; DirectSound compatible
เนื้อเรื่องโดยย่อ : (ตั้งแต่ปมต้นเหตุของเรื่อง จนถึงจบ Extra)
มาตาระ โอคินะ เทพลับผู้ซ่อนอยู่ ณ ด้านหลังของสรรพสิ่ง
โฉมหน้าเบื้องหน้ามีมากมาย เช่น พระแม่ธรณี เทพแห่งละครโน เทพแห่งดวงดาว เทพแห่งการเลี้ยงไหม เทพแห่งผู้แปลกแยก ฯลฯ
และเป็นหนึ่งในนักปราชญ์ที่สร้างเกนโซวเคียวขึ้นมา
แม้จะเรียกว่าเป็นเทพลับก็มิได้ซ่อนตัวแต่อย่างใด บางครั้งก็ออกมายังเบื้องหน้าอย่างยิ่งใหญ่แล้วโอ้อวดตัวตนของตน
เธอบอกว่าเป้าหมายในครั้งนี้คือการเฟ้นหาผู้สืบทอดของบริวารนาม นิชิดะ ซาโตโนะ และ เทย์เรย์ดะ ไม
แต่เป้าหมายที่แท้จริงคือการทำตัวเด่น เด่นจนสลักลงไปในความทรงจำของมนุษย์ โยวไค และเหล่านักปราชญ์ในเกนโซวเคียว
เพื่อการนี้ เธอจึงสร้างประตูที่ด้านหลังของสิ่งมีชีวิตมากมายในเกนโซวเคียวด้วยความสามารถของเธอ
แล้วสั่งให้บริวารทั้งสองไปเฟ้นหาผู้แข็งแกร่งที่น่าจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งได้
บริวารทั้งสองจึงใช้ความสามารถของตน เต้นเสริมพลังให้แก่ชาวเกนโซวเคียวผ่านทางประตูด้านหลัง
เพื่อบีบให้เหล่าผู้ซ่อนตัวรู้สึกอึดอัดเพราะพลังที่เพิ่มขึ้น จนยอมเผยตัวออกมาอาละวาด
จากนั้น หากพบคนที่เข้าตาก็จะทำการทดสอบแล้วส่งตัวให้โอคินะตัดสินใจขั้นสุดท้าย
อย่างไรก็ดี ประตูด้านหลังนี้คือ ประตูฤดูกาล
ยิ่งผู้ที่อยู่ข้างหน้ารวบรวมพลังให้แก่ประตูฤดูกาล ประตูฤดูกาลก็ยิ่งช่วยโจมตี ทำให้ผู้ที่อยู่ข้างหน้าแข็งแกร่งขึ้น
แต่สุดท้ายแล้ว ประตูฤดูกาลก็คือสิ่งที่โอคินะสร้างขึ้นจากความสามารถของตน
หากผู้ใดเผชิญหน้ากับโอคินะโดยมีประตูนี้อยู่ด้านหลัง
โอคินะย่อมสามารถชิงประตูกลับมาพร้อมกับพลังทั้งหมดที่รวบรวมเอาไว้ในประตูได้
ด้วยเหตุนี้ คู่ต่อสู้จึงอ่อนแอลงอย่างมาก จนทำอะไรไม่ได้ นอกจากพ่ายแพ้เท่านั้น
ซ้ำร้าย ความทรงจำระยะสั้นบางส่วนยังถูกช่วงชิงไปพร้อมกับพลังในประตูด้วย
ปัญหาก็คือ ประตูและการเต้นนี้ช่วยเสริมพลังให้แก่เหล่าสิ่งมีชีวิตในเกนโซวเคียวทั้งหลาย
รวมถึงชินเรย์ โยวไค และภูต(โยวเซย์)ซึ่งเป็นตัวแทนของธรรมชาติด้วย
เมื่อเหล่าภูตทรงพลังขึ้น อำนาจของธรรมชาติก็เพิ่มขึ้นตามไป ส่งผลให้ฤดูกาลเกิดความผิดเพี้ยนอย่างรุนแรง
บางสถานที่เป็นฤดูใบไม้ผลิ บางสถานที่เป็นฤดูร้อน บางสถานที่เป็นฤดูใบไม้ร่วง บางสถานที่เป็นฤดูหนาว
เท่ากับว่าพวกโอคินะทำให้เกิดเหตุวิปลาสขึ้นทางอ้อมโดยไม่ได้ตั้งใจ
และเมื่อเกิดเหตุวิปลาสก็หมายความว่า ต้องมีใครสักคนออกโรง
ตัวเอกออกเดินทางสืบหาเบาะแสไปตามที่ต่างๆ
จนได้ต่อสู้กับ เอเทอร์นิตี้ ลาร์วา และ ซาคาตะ เนมุโนะ และ โคมาโนะ อาอุน
แต่ก็ไม่พบเบาะแสใดๆที่มีประโยชน์เลย จนกระทั่งได้ปะทะกับไม ซึ่งล่าถอยไปโดยปล่อยให้สู้ตัวเอกกับ ยาตะเดระ นารุมิ แทน
นอกจากนี้ตัวเอกยังสังเกตเห็นประตูที่ด้านหลังด้วย ทำให้สันนิษฐานได้ว่านั่นคือเบาะแสที่ตามหามานาน
ตัวเอกจึงเข้าไปอาละวาดในแดนประตูหลัง ห้วงมิติของโอคินะ จนได้ปะทะกับซาโตโนะ ไม และโอคินะ
แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้เพราะถูกช่วงชิงประตูและพลังที่รวบรวมมาด้วยกับดักของโอคินะ
ตัวเอกสู้ไม่ได้ จึงหนีเข้าประตูกลับมายังเกนโซวเคียว
แต่ความทรงจำถูกชิงไปด้วย จึงนึกไม่ออกว่าโอคินะหนีไป หรือตนกันแน่ที่หนีมา
กระนั้นก็ตาม ตัวเอกยังนึกออกว่าแพ้เพราะถูกช่วงชิงพลังในประตูไป
จึงค้นหาทางแก้จนพบ แล้วกลับเข้าประตูไปแก้มืออีกครั้งจนชนะ
ซึ่งโอคินะก็ไม่ได้ร้อนใจแต่อย่างใด เพราะเธอบรรลุเป้าหมายหลักในการสร้างชื่อให้เกนโซวเคียวรับรู้แล้ว
ส่วนเรื่องผู้สืบทอดของบริวาร แม้ยังไม่เจอก็ไม่เป็นไร แค่ใช้งานทั้งสองต่อไปอีกนานแสนนานก็พอ
เอวัง.
*รายละเอียดสามารถติดตามได้ในส่วนของเนื้อเรื่อง ฉากจบ และฉากพิเศษ
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่ารู้
● ตามธรรมเนียมของโทโฮ ทุกภาคจะต้องมีอักษรคันจิจากชื่อของตัวการก่อเรื่อง อยู่ในอักษรสามตัวท้ายของชื่อภาค
นั่นคือ 璋 (โชว: หยก) ซึ่ง......เรื่องนี้มันซับซ้อน
ในนิตยสารโทโฮระบุว่า เดิมทีตั้งใจจะใช้อักษร 障 (โชว: อุปสรรค) แทนอักษร 璋 แบบที่เห็นในปัจจุบัน
ซึ่งอักษร 障 นี้นัยถึงคำว่า 障碍神 (เทพแห่งสิ่งกีดขวาง) ซึ่งเป็นหนึ่งในโฉมหน้าของโอคินะนั่นเอง
● ภาคนี้เป็นภาคหลักภาคแรกที่บอสด่าน 6 ควบตำแหน่งบอส Extra อย่างเต็มตัว
● คำบรรยายของระดับความยากในแต่ละระดับ
EASY : ฝนพรำในฤดูใบไม้ผลิ ความยากระดับที่ต่อให้ไม่กางร่มก็ไม่เป็นไร
NORMAL : ฝนยามเย็นในฤดูร้อน ความยากระดับที่จำเป็นต้องเตรียมตัวล่วงหน้า
HARD : ไต้ฝุ่นในฤดูใบไม้ร่วง ความยากระดับที่ไม่ออกไปข้างนอกจะดีกว่า
LUNATIC : ฤดูหนาวแห่งการเก็บตัว เก็บตัวอยู่แต่ในบ้านไปซะ
EXTRA : ฤดูกาลที่ห้า เอาล่ะ ! เวลาแห่งการตอบโต้มาถึงแล้ว
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................Online Manual ไม่มี ให้เปิดเกมขึ้นมาแล้วดูในหัวข้อ Manual
ผู้พัฒนา : เซี่ยงไฮ้อลิสเกนกาคุดัน
จัดจำหน่าย : เซี่ยงไฮ้อลิสเกนกาคุดัน
วางจำหน่าย : (Demo) 7 พฤษภาคม 2017
(Master) 11 สิงหาคม 2017 (งาน Comike 92)
(Steam) 17 พฤศจิกายน 2017 (Link)
Minimum Requirement :
OS ; Windows 7/8/10
CPU ; Core 2 Duo or faster
RAM ; 1024 MB (แนะนำ 2048 MB)
VGA ; Shader Model 2.0 compatible
DirectX ; version 9.0c
HDD ; 600 MB
Sound ; DirectSound compatible
เนื้อเรื่องโดยย่อ : (ตั้งแต่ปมต้นเหตุของเรื่อง จนถึงจบ Extra)
มาตาระ โอคินะ เทพลับผู้ซ่อนอยู่ ณ ด้านหลังของสรรพสิ่ง
โฉมหน้าเบื้องหน้ามีมากมาย เช่น พระแม่ธรณี เทพแห่งละครโน เทพแห่งดวงดาว เทพแห่งการเลี้ยงไหม เทพแห่งผู้แปลกแยก ฯลฯ
และเป็นหนึ่งในนักปราชญ์ที่สร้างเกนโซวเคียวขึ้นมา
แม้จะเรียกว่าเป็นเทพลับก็มิได้ซ่อนตัวแต่อย่างใด บางครั้งก็ออกมายังเบื้องหน้าอย่างยิ่งใหญ่แล้วโอ้อวดตัวตนของตน
เธอบอกว่าเป้าหมายในครั้งนี้คือการเฟ้นหาผู้สืบทอดของบริวารนาม นิชิดะ ซาโตโนะ และ เทย์เรย์ดะ ไม
แต่เป้าหมายที่แท้จริงคือการทำตัวเด่น เด่นจนสลักลงไปในความทรงจำของมนุษย์ โยวไค และเหล่านักปราชญ์ในเกนโซวเคียว
เพื่อการนี้ เธอจึงสร้างประตูที่ด้านหลังของสิ่งมีชีวิตมากมายในเกนโซวเคียวด้วยความสามารถของเธอ
แล้วสั่งให้บริวารทั้งสองไปเฟ้นหาผู้แข็งแกร่งที่น่าจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งได้
บริวารทั้งสองจึงใช้ความสามารถของตน เต้นเสริมพลังให้แก่ชาวเกนโซวเคียวผ่านทางประตูด้านหลัง
เพื่อบีบให้เหล่าผู้ซ่อนตัวรู้สึกอึดอัดเพราะพลังที่เพิ่มขึ้น จนยอมเผยตัวออกมาอาละวาด
จากนั้น หากพบคนที่เข้าตาก็จะทำการทดสอบแล้วส่งตัวให้โอคินะตัดสินใจขั้นสุดท้าย
อย่างไรก็ดี ประตูด้านหลังนี้คือ ประตูฤดูกาล
ยิ่งผู้ที่อยู่ข้างหน้ารวบรวมพลังให้แก่ประตูฤดูกาล ประตูฤดูกาลก็ยิ่งช่วยโจมตี ทำให้ผู้ที่อยู่ข้างหน้าแข็งแกร่งขึ้น
แต่สุดท้ายแล้ว ประตูฤดูกาลก็คือสิ่งที่โอคินะสร้างขึ้นจากความสามารถของตน
หากผู้ใดเผชิญหน้ากับโอคินะโดยมีประตูนี้อยู่ด้านหลัง
โอคินะย่อมสามารถชิงประตูกลับมาพร้อมกับพลังทั้งหมดที่รวบรวมเอาไว้ในประตูได้
ด้วยเหตุนี้ คู่ต่อสู้จึงอ่อนแอลงอย่างมาก จนทำอะไรไม่ได้ นอกจากพ่ายแพ้เท่านั้น
ซ้ำร้าย ความทรงจำระยะสั้นบางส่วนยังถูกช่วงชิงไปพร้อมกับพลังในประตูด้วย
ปัญหาก็คือ ประตูและการเต้นนี้ช่วยเสริมพลังให้แก่เหล่าสิ่งมีชีวิตในเกนโซวเคียวทั้งหลาย
รวมถึงชินเรย์ โยวไค และภูต(โยวเซย์)ซึ่งเป็นตัวแทนของธรรมชาติด้วย
เมื่อเหล่าภูตทรงพลังขึ้น อำนาจของธรรมชาติก็เพิ่มขึ้นตามไป ส่งผลให้ฤดูกาลเกิดความผิดเพี้ยนอย่างรุนแรง
บางสถานที่เป็นฤดูใบไม้ผลิ บางสถานที่เป็นฤดูร้อน บางสถานที่เป็นฤดูใบไม้ร่วง บางสถานที่เป็นฤดูหนาว
เท่ากับว่าพวกโอคินะทำให้เกิดเหตุวิปลาสขึ้นทางอ้อมโดยไม่ได้ตั้งใจ
และเมื่อเกิดเหตุวิปลาสก็หมายความว่า ต้องมีใครสักคนออกโรง
ตัวเอกออกเดินทางสืบหาเบาะแสไปตามที่ต่างๆ
จนได้ต่อสู้กับ เอเทอร์นิตี้ ลาร์วา และ ซาคาตะ เนมุโนะ และ โคมาโนะ อาอุน
แต่ก็ไม่พบเบาะแสใดๆที่มีประโยชน์เลย จนกระทั่งได้ปะทะกับไม ซึ่งล่าถอยไปโดยปล่อยให้สู้ตัวเอกกับ ยาตะเดระ นารุมิ แทน
นอกจากนี้ตัวเอกยังสังเกตเห็นประตูที่ด้านหลังด้วย ทำให้สันนิษฐานได้ว่านั่นคือเบาะแสที่ตามหามานาน
ตัวเอกจึงเข้าไปอาละวาดในแดนประตูหลัง ห้วงมิติของโอคินะ จนได้ปะทะกับซาโตโนะ ไม และโอคินะ
แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้เพราะถูกช่วงชิงประตูและพลังที่รวบรวมมาด้วยกับดักของโอคินะ
ตัวเอกสู้ไม่ได้ จึงหนีเข้าประตูกลับมายังเกนโซวเคียว
แต่ความทรงจำถูกชิงไปด้วย จึงนึกไม่ออกว่าโอคินะหนีไป หรือตนกันแน่ที่หนีมา
กระนั้นก็ตาม ตัวเอกยังนึกออกว่าแพ้เพราะถูกช่วงชิงพลังในประตูไป
จึงค้นหาทางแก้จนพบ แล้วกลับเข้าประตูไปแก้มืออีกครั้งจนชนะ
ซึ่งโอคินะก็ไม่ได้ร้อนใจแต่อย่างใด เพราะเธอบรรลุเป้าหมายหลักในการสร้างชื่อให้เกนโซวเคียวรับรู้แล้ว
ส่วนเรื่องผู้สืบทอดของบริวาร แม้ยังไม่เจอก็ไม่เป็นไร แค่ใช้งานทั้งสองต่อไปอีกนานแสนนานก็พอ
เอวัง.
*รายละเอียดสามารถติดตามได้ในส่วนของเนื้อเรื่อง ฉากจบ และฉากพิเศษ
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่ารู้
● ตามธรรมเนียมของโทโฮ ทุกภาคจะต้องมีอักษรคันจิจากชื่อของตัวการก่อเรื่อง อยู่ในอักษรสามตัวท้ายของชื่อภาค
นั่นคือ 璋 (โชว: หยก) ซึ่ง......เรื่องนี้มันซับซ้อน
ในนิตยสารโทโฮระบุว่า เดิมทีตั้งใจจะใช้อักษร 障 (โชว: อุปสรรค) แทนอักษร 璋 แบบที่เห็นในปัจจุบัน
ซึ่งอักษร 障 นี้นัยถึงคำว่า 障碍神 (เทพแห่งสิ่งกีดขวาง) ซึ่งเป็นหนึ่งในโฉมหน้าของโอคินะนั่นเอง
● ภาคนี้เป็นภาคหลักภาคแรกที่บอสด่าน 6 ควบตำแหน่งบอส Extra อย่างเต็มตัว
● คำบรรยายของระดับความยากในแต่ละระดับ
EASY : ฝนพรำในฤดูใบไม้ผลิ ความยากระดับที่ต่อให้ไม่กางร่มก็ไม่เป็นไร
NORMAL : ฝนยามเย็นในฤดูร้อน ความยากระดับที่จำเป็นต้องเตรียมตัวล่วงหน้า
HARD : ไต้ฝุ่นในฤดูใบไม้ร่วง ความยากระดับที่ไม่ออกไปข้างนอกจะดีกว่า
LUNATIC : ฤดูหนาวแห่งการเก็บตัว เก็บตัวอยู่แต่ในบ้านไปซะ
EXTRA : ฤดูกาลที่ห้า เอาล่ะ ! เวลาแห่งการตอบโต้มาถึงแล้ว
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
เนื้อเรื่องปฐมบท
──ซากุระโปรยปรายในศาลเจ้าฮาคุเรย์
หากเป็นเช่นทุกครา ความงามนี้คงก่อให้เกิดงานเลี้ยงขึ้นสักครั้งไปแล้ว
แต่ปีนี้แตกต่างจากทุกที เพราะไม่มีใครให้เห็นเลย
มาริสะ "ร้อนชะมัด"
เรย์มุ "มีอะไรเหรอ ทำไมแต่งตัวแบบนั้นล่ะ"
มาริสะ "มีหิมะตกในป่าเวทมนตร์น่ะสิ"
มาริสะแต่งตัวเหมือนอยู่กลางฤดูหนาว
เรย์มุ "ทั้งที่เป็นฤดูใบไม้ผลิขนาดนี้แท้ๆเชียวน้า จัดงานชมดอกไม้ดีมั้ยน้า"
มาริสะ "เรื่องนั้นมันก็ดีอยู่หรอก แต่ซากุระกำลังบานอยู่แค่แถวนี้เท่านั้นแหละ เป็นเพราะได้แดดดีรึไงกันนะ"
??? "ตายจริง ซากุระกำลังบาน...... ?"
ผู้ที่ปรากฏตัวขึ้นคือ ชาเมย์มารุ อายะ เทนกุนักข่าวหนังสือพิมพ์
อายะ "เคยได้ยินอยู่ว่า ต่อให้เป็นฤดูใบไม้ร่วง ถ้าวันไหนเย็นลงแล้วอุ่นขึ้น วันต่อมาก็จะมีซากุระบาน แต่ว่า......"
เรย์มุ "ถึงจะไม่รู้สาเหตุ แต่ที่นี่เป็นแบบนี้มาสักพักแล้วล่ะ"
เรย์มุ "แถมไม่ใช่แค่ซากุระนะ กระทั่งหน่อของผักฟุคิยังงอกขึ้นมาแล้วเลย"
อายะ "หืม...... อ๊ะ นึกขึ้นได้ว่ามีธุระด่วน กลับก่อนล่ะค่ะ"
อายะกลับไปอย่างรีบร้อน
มาริสะ "ตกลงยัยนั่นมาทำอะไรน่ะ"
เรย์มุ "คงเป็นเรื่องสภาพอากาศผิดปกตินี่ล่ะนะ ดูเหมือนจะไม่ใช่ปรากฏการณ์ธรรมชาติธรรมดา"
เรย์มุ "งั้นนี่คงเป็นเหตุวิปลาสล่ะมั้ง เหมือนที่เทนกุกำลังสืบอยู่นั่นล่ะ"
ตอนที่เรย์มุเริ่มเคลื่อนไหว เกนโซวเคียวได้เผยให้เห็นถึงสีสันของฤดูกาลทั้งสี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หากว่ากันตามปฏิทิน นี่คือเรื่องราวในช่วงกลางฤดูร้อน
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................หากเป็นเช่นทุกครา ความงามนี้คงก่อให้เกิดงานเลี้ยงขึ้นสักครั้งไปแล้ว
แต่ปีนี้แตกต่างจากทุกที เพราะไม่มีใครให้เห็นเลย
มาริสะ "ร้อนชะมัด"
เรย์มุ "มีอะไรเหรอ ทำไมแต่งตัวแบบนั้นล่ะ"
มาริสะ "มีหิมะตกในป่าเวทมนตร์น่ะสิ"
มาริสะแต่งตัวเหมือนอยู่กลางฤดูหนาว
เรย์มุ "ทั้งที่เป็นฤดูใบไม้ผลิขนาดนี้แท้ๆเชียวน้า จัดงานชมดอกไม้ดีมั้ยน้า"
มาริสะ "เรื่องนั้นมันก็ดีอยู่หรอก แต่ซากุระกำลังบานอยู่แค่แถวนี้เท่านั้นแหละ เป็นเพราะได้แดดดีรึไงกันนะ"
??? "ตายจริง ซากุระกำลังบาน...... ?"
ผู้ที่ปรากฏตัวขึ้นคือ ชาเมย์มารุ อายะ เทนกุนักข่าวหนังสือพิมพ์
อายะ "เคยได้ยินอยู่ว่า ต่อให้เป็นฤดูใบไม้ร่วง ถ้าวันไหนเย็นลงแล้วอุ่นขึ้น วันต่อมาก็จะมีซากุระบาน แต่ว่า......"
เรย์มุ "ถึงจะไม่รู้สาเหตุ แต่ที่นี่เป็นแบบนี้มาสักพักแล้วล่ะ"
เรย์มุ "แถมไม่ใช่แค่ซากุระนะ กระทั่งหน่อของผักฟุคิยังงอกขึ้นมาแล้วเลย"
อายะ "หืม...... อ๊ะ นึกขึ้นได้ว่ามีธุระด่วน กลับก่อนล่ะค่ะ"
อายะกลับไปอย่างรีบร้อน
มาริสะ "ตกลงยัยนั่นมาทำอะไรน่ะ"
เรย์มุ "คงเป็นเรื่องสภาพอากาศผิดปกตินี่ล่ะนะ ดูเหมือนจะไม่ใช่ปรากฏการณ์ธรรมชาติธรรมดา"
เรย์มุ "งั้นนี่คงเป็นเหตุวิปลาสล่ะมั้ง เหมือนที่เทนกุกำลังสืบอยู่นั่นล่ะ"
ตอนที่เรย์มุเริ่มเคลื่อนไหว เกนโซวเคียวได้เผยให้เห็นถึงสีสันของฤดูกาลทั้งสี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หากว่ากันตามปฏิทิน นี่คือเรื่องราวในช่วงกลางฤดูร้อน
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
ระบบของเกม
1. วิธีการดำเนินเกม
เกมแนวยิงทำลายศัตรู พลางหลบหลีกไม่ให้โดนกระสุนของศัตรู
มีบอสอยู่ที่ท้ายด่านแต่ละด่าน เมื่อจัดการมันได้ก็จะจบด่าน
มันคือการต่อสู้ตัวต่อตัวระหว่างตนเองกับบอส โดยทุ่มเททั้งเทคนิคและแรงใจ
2. วิธีการควบคุม
・บนล่างซ้ายขวา ควบคุมตัวละคร
・ปุ่ม SHOT (ปุ่ม Z) ยิงกระสุน
・ปุ่ม SPECIAL (ปุ่ม X) สเปลการ์ด (จำกัดจำนวนครั้ง)
・ปุ่ม RELEASE (ปุ่ม C) ปลดปล่อยฤดูกาล
・ปุ่ม SLOW (ปุ่ม Shift) เคลื่อนที่ช้า
・ปุ่ม PAUSE (ปุ่ม ESC) Pause
*การควบคุมแบบพิเศษ
・ข้ามบทพูด = กดปุ่ม SHOT ค้างไว้
・เริ่มใหม่อย่างรวดเร็ว = กดปุ่ม PAUSE แล้วกดปุ่ม R
・Snap Shot = กดปุ่ม P
・สลับโหมด window/FullScreen = กดปุ่ม Alt + Enter
3. ติดตั้งสองฤดูกาล
ครั้งนี้ผู้เล่นทำการต่อสู้โดยติดตั้งฤดูกาลเอาไว้ 2 ฤดูกาล
ประกอบด้วย ฤดูกาลหลัก ซึ่งตายตัวตามแต่ตัวเอก
เรย์มุ = ฤดูใบไม้ผลิ
ชิลโน่ = ฤดูร้อน
อายะ = ฤดูใบไม้ร่วง
มาริสะ = ฤดูหนาว
ซึ่งจะมีรูปแบบกระสุนและสเปลการ์ดตามแต่ละคน
แข็งแกร่งขึ้นได้ด้วย Power Up Item
นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้ง ฤดูกาลรอง
ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นมินิออพชั่นอยู่ข้างหลังตัวละคร
คอยยิงกระสุนช่วยเหลือตามฤดูกาลที่เลือก
แข็งแกร่งขึ้นได้ด้วย ไอเทมฤดูกาล
เมื่อรวบรวมได้มากกว่า 1 แท่ง สามารถทำการ ปลดปล่อยฤดูกาล ได้
4. ฤดูกาลรอง
ฤดูกาลรองเป็นอุปกรณ์ติดตั้งเพื่อสนับสนุนฤดูกาลหลัก
ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเมื่อเก็บ ไอเทมฤดูกาล โดยสะสมได้สูงสุด 6 แท่ง
ไอเทมฤดูกาล หาได้จาก
- การทำลายศัตรูอย่างรวดเร็ว
- การเกรซกระสุนศัตรู
- การลบกระสุนศัตรูด้วยการปลดปล่อยฤดูกาลหรือการใช้สเปลการ์ด
ไอเทมฤดูกาล แบ่งได้เป็น 4 ชนิดตามฤดูกาลรองที่ติดตั้ง
- ซากุระ : ฤดูใบไม้ผลิ
- ใบไม้ : ฤดูร้อน
- ใบโมมิจิ : ฤดูใบไม้ร่วง
- หิมะ : ฤดูหนาว
สามารถปลดปล่อยฤดูกาลได้ด้วยการกดปุ่ม RELEASE
เมื่อมีแท่งฤดูกาล 1 แท่งขึ้นไป (รายละเอียดในข้อต่อไป)
5. ปลดปล่อยฤดูกาล
เมื่อรวบรวมฤดูกาลได้มากกว่า 1 แท่ง
สามารถทำการ ปลดปล่อยฤดูกาล ได้ด้วยการกดปุ่ม RELEASE
*เมื่อกดใช้แล้ว แท่งฤดูกาลจะลดลงจนเหลือ 0 (ยกเว้นฤดูร้อน)
แต่ละฤดูมีคุณลักษณะพิเศษแตกต่างกัน
แต่เหมือนกันตรงที่ลบกระสุนศัตรูได้ จึงใช้แทนสเปลการ์ดได้
*ไอเทมแต้มเขียว จะปรากฏเมื่อลบกระสุนศัตรูด้วยการปลดปล่อยฤดูกาลเท่านั้น*
ไอเทมนี้ช่วยเพิ่มมูลค่าของไอเทมแต้ม
หาได้จากการปลดปล่อยฤดูกาลเท่านั้น
เมื่อสะสมคะแนนได้ถึงระดับหนึ่ง จะได้รับจำนวนชีวิตเพิ่ม
จึงควรเล็งจังหวะปลดปล่อยฤดูกาลในตอนที่มีกระสุนศัตรูอยู่มากมาย
นอกจากนี้ยังได้ไอเทมฤดูกาลเพิ่มเติมจากการลบกระสุนศัตรูด้วยการปลดปล่อยฤดูกาล
หากใช้อย่างชำนาญก็จะสามารถปลดปล่อยฤดูกาลได้อย่างต่อเนื่อง
6. หน้าจอในเกม
- จำนวนชีวิต : เมื่อสะสมคะแนนได้ถึงตัวเลขที่ระบุด้านล่าง จะได้รับเพิ่ม 1 ชีวิต
- จำนวนสเปลการ์ด : เมื่อสะสมเศษเสี้ยวได้ครบ จะได้รับเพิ่ม 1 สเปลการ์ด
- พลังวิญญาณ : อำนาจการยิงของกระสุนธรรมดา
- แต้มสูงสุด : ค่าสูงสุดของไอเทมแต้ม
- เกรซ : จำนวนกระสุนที่หลบแบบเฉียด
แท่งฤดูกาล อยู่ทางด้านล่างของหน้าจอ ใช้บอกปริมาณสะสมของฤดูกาลรอง
เมื่อสะสมเต็มแท่ง ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นครั้งละ 1 (สูงสุดคือ 6)
หากมีคำว่า Releasable แปลว่าสามารถกดปลดปล่อยฤดูกาลได้แล้ว
7. ไอเทม
P ไอเทมที่ใช้เพิ่มพลังวิญญาณ
แต้ม ไอเทมคะแนน ยิ่งขึ้นไปเก็บที่ด้านบนของหน้าจอ ยิ่งได้คะแนนเยอะ
*เมื่อขึ้นไปถึงเส้นด้านบนของหน้าจอ จะดูดเก็บอัตโนมัติ
แต้ม ไอเทมที่ช่วยเพิ่มมูลค่าสูงสุดของไอเทมแต้ม (ดูดเก็บอัตโนมัติ)
ไอเทมฤดูกาล (ซากุระ ใบไม้ ใบโมมิจิ หิมะ) ไอเทมที่ใช้สะสมแท่งฤดูกาล
8. เคล็ดลับในการเอาชนะ
- ยิ่งปลดปล่อยฤดูกาลด้วยเลเวลสูง ไอเทมยิ่งมีขนาดใหญ่ และยิ่งมีจำนวนมากขึ้น
- ยิ่งทำลายศัตรูได้เร็ว ยิ่งได้ไอเทมฤดูกาลมากขึ้น
- ไอเทมฤดูกาลที่เกิดจากการปลดปล่อยฤดูกาลและสเปลการ์ด จะถูกดูดเก็บอัตโนมัติ
- ต่อให้กดใช้ปลดปล่อยฤดูกาลก็ยังคงได้รับ Spell Card Bonus
- ปลดปล่อยฤดูกาล มีประสิทธิภาพดีทั้งในการหนีตายและในการปิดฉากศัตรู
- ปลดปล่อยฤดูกาลและสเปลการ์ด สามารถใช้ดูดไอเทมที่กระจายอยู่ในจอได้
- ในขณะที่ Power Max ไอเทม Power Up จะให้ผลเหมือนไอเทมแต้ม
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................เกมแนวยิงทำลายศัตรู พลางหลบหลีกไม่ให้โดนกระสุนของศัตรู
มีบอสอยู่ที่ท้ายด่านแต่ละด่าน เมื่อจัดการมันได้ก็จะจบด่าน
มันคือการต่อสู้ตัวต่อตัวระหว่างตนเองกับบอส โดยทุ่มเททั้งเทคนิคและแรงใจ
2. วิธีการควบคุม
・บนล่างซ้ายขวา ควบคุมตัวละคร
・ปุ่ม SHOT (ปุ่ม Z) ยิงกระสุน
・ปุ่ม SPECIAL (ปุ่ม X) สเปลการ์ด (จำกัดจำนวนครั้ง)
・ปุ่ม RELEASE (ปุ่ม C) ปลดปล่อยฤดูกาล
・ปุ่ม SLOW (ปุ่ม Shift) เคลื่อนที่ช้า
・ปุ่ม PAUSE (ปุ่ม ESC) Pause
*การควบคุมแบบพิเศษ
・ข้ามบทพูด = กดปุ่ม SHOT ค้างไว้
・เริ่มใหม่อย่างรวดเร็ว = กดปุ่ม PAUSE แล้วกดปุ่ม R
・Snap Shot = กดปุ่ม P
・สลับโหมด window/FullScreen = กดปุ่ม Alt + Enter
3. ติดตั้งสองฤดูกาล
ครั้งนี้ผู้เล่นทำการต่อสู้โดยติดตั้งฤดูกาลเอาไว้ 2 ฤดูกาล
ประกอบด้วย ฤดูกาลหลัก ซึ่งตายตัวตามแต่ตัวเอก
เรย์มุ = ฤดูใบไม้ผลิ
ชิลโน่ = ฤดูร้อน
อายะ = ฤดูใบไม้ร่วง
มาริสะ = ฤดูหนาว
ซึ่งจะมีรูปแบบกระสุนและสเปลการ์ดตามแต่ละคน
แข็งแกร่งขึ้นได้ด้วย Power Up Item
นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้ง ฤดูกาลรอง
ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นมินิออพชั่นอยู่ข้างหลังตัวละคร
คอยยิงกระสุนช่วยเหลือตามฤดูกาลที่เลือก
แข็งแกร่งขึ้นได้ด้วย ไอเทมฤดูกาล
เมื่อรวบรวมได้มากกว่า 1 แท่ง สามารถทำการ ปลดปล่อยฤดูกาล ได้
4. ฤดูกาลรอง
ฤดูกาลรองเป็นอุปกรณ์ติดตั้งเพื่อสนับสนุนฤดูกาลหลัก
ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเมื่อเก็บ ไอเทมฤดูกาล โดยสะสมได้สูงสุด 6 แท่ง
ไอเทมฤดูกาล หาได้จาก
- การทำลายศัตรูอย่างรวดเร็ว
- การเกรซกระสุนศัตรู
- การลบกระสุนศัตรูด้วยการปลดปล่อยฤดูกาลหรือการใช้สเปลการ์ด
ไอเทมฤดูกาล แบ่งได้เป็น 4 ชนิดตามฤดูกาลรองที่ติดตั้ง
- ซากุระ : ฤดูใบไม้ผลิ
- ใบไม้ : ฤดูร้อน
- ใบโมมิจิ : ฤดูใบไม้ร่วง
- หิมะ : ฤดูหนาว
สามารถปลดปล่อยฤดูกาลได้ด้วยการกดปุ่ม RELEASE
เมื่อมีแท่งฤดูกาล 1 แท่งขึ้นไป (รายละเอียดในข้อต่อไป)
5. ปลดปล่อยฤดูกาล
เมื่อรวบรวมฤดูกาลได้มากกว่า 1 แท่ง
สามารถทำการ ปลดปล่อยฤดูกาล ได้ด้วยการกดปุ่ม RELEASE
*เมื่อกดใช้แล้ว แท่งฤดูกาลจะลดลงจนเหลือ 0 (ยกเว้นฤดูร้อน)
แต่ละฤดูมีคุณลักษณะพิเศษแตกต่างกัน
แต่เหมือนกันตรงที่ลบกระสุนศัตรูได้ จึงใช้แทนสเปลการ์ดได้
*ไอเทมแต้มเขียว จะปรากฏเมื่อลบกระสุนศัตรูด้วยการปลดปล่อยฤดูกาลเท่านั้น*
ไอเทมนี้ช่วยเพิ่มมูลค่าของไอเทมแต้ม
หาได้จากการปลดปล่อยฤดูกาลเท่านั้น
เมื่อสะสมคะแนนได้ถึงระดับหนึ่ง จะได้รับจำนวนชีวิตเพิ่ม
จึงควรเล็งจังหวะปลดปล่อยฤดูกาลในตอนที่มีกระสุนศัตรูอยู่มากมาย
นอกจากนี้ยังได้ไอเทมฤดูกาลเพิ่มเติมจากการลบกระสุนศัตรูด้วยการปลดปล่อยฤดูกาล
หากใช้อย่างชำนาญก็จะสามารถปลดปล่อยฤดูกาลได้อย่างต่อเนื่อง
6. หน้าจอในเกม
- จำนวนชีวิต : เมื่อสะสมคะแนนได้ถึงตัวเลขที่ระบุด้านล่าง จะได้รับเพิ่ม 1 ชีวิต
- จำนวนสเปลการ์ด : เมื่อสะสมเศษเสี้ยวได้ครบ จะได้รับเพิ่ม 1 สเปลการ์ด
- พลังวิญญาณ : อำนาจการยิงของกระสุนธรรมดา
- แต้มสูงสุด : ค่าสูงสุดของไอเทมแต้ม
- เกรซ : จำนวนกระสุนที่หลบแบบเฉียด
แท่งฤดูกาล อยู่ทางด้านล่างของหน้าจอ ใช้บอกปริมาณสะสมของฤดูกาลรอง
เมื่อสะสมเต็มแท่ง ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นครั้งละ 1 (สูงสุดคือ 6)
หากมีคำว่า Releasable แปลว่าสามารถกดปลดปล่อยฤดูกาลได้แล้ว
7. ไอเทม
P ไอเทมที่ใช้เพิ่มพลังวิญญาณ
แต้ม ไอเทมคะแนน ยิ่งขึ้นไปเก็บที่ด้านบนของหน้าจอ ยิ่งได้คะแนนเยอะ
*เมื่อขึ้นไปถึงเส้นด้านบนของหน้าจอ จะดูดเก็บอัตโนมัติ
แต้ม ไอเทมที่ช่วยเพิ่มมูลค่าสูงสุดของไอเทมแต้ม (ดูดเก็บอัตโนมัติ)
ไอเทมฤดูกาล (ซากุระ ใบไม้ ใบโมมิจิ หิมะ) ไอเทมที่ใช้สะสมแท่งฤดูกาล
8. เคล็ดลับในการเอาชนะ
- ยิ่งปลดปล่อยฤดูกาลด้วยเลเวลสูง ไอเทมยิ่งมีขนาดใหญ่ และยิ่งมีจำนวนมากขึ้น
- ยิ่งทำลายศัตรูได้เร็ว ยิ่งได้ไอเทมฤดูกาลมากขึ้น
- ไอเทมฤดูกาลที่เกิดจากการปลดปล่อยฤดูกาลและสเปลการ์ด จะถูกดูดเก็บอัตโนมัติ
- ต่อให้กดใช้ปลดปล่อยฤดูกาลก็ยังคงได้รับ Spell Card Bonus
- ปลดปล่อยฤดูกาล มีประสิทธิภาพดีทั้งในการหนีตายและในการปิดฉากศัตรู
- ปลดปล่อยฤดูกาลและสเปลการ์ด สามารถใช้ดูดไอเทมที่กระจายอยู่ในจอได้
- ในขณะที่ Power Max ไอเทม Power Up จะให้ผลเหมือนไอเทมแต้ม
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
ตัวละครทั้งหมด

○ มิโกะผู้ไม่ร้อนใจไปกับดวงตะวันแห่งฤดูใบไม้ผลิ
ฮาคุเรย์ เรย์มุ
Hakurei Reimu
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์
ความสามารถ : หลักๆคือการบินไปบนท้องฟ้า
คุณมิโกะแห่งศาลเจ้าฮาคุเรย์ที่คุ้นเคยกันดี
บอกตามตรง ซากุระบานที่ศาลเจ้าก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร
ที่ผ่านมาก็เกิดสภาพอากาศผิดปกติอยู่บ่อยครั้งจนไม่ได้รู้สึกว่าเป็นปัญหาใหญ่
ความลำพองใจนั่นทำให้มองแก่นแท้ของเหตุวิปลาสพลาดไป
Tips :
- ในแง่ของคำพ้องเสียง ฉายานี้แปลได้อีกอย่างว่า มิโกะผู้ไม่ร้อนใจดุจดั่งฤดูใบไม้ผลิ

○ จอมเวทผู้สั่นสะท้านให้แก่ความหนาวจัด
คิริซาเมะ มาริสะ
Kirisame Marisa
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์
ความสามารถ : ใช้เวทมนตร์
จอมเวทธรรมดาสามัญที่อาศัยอยู่ในเกนโซวเคียวและมีนิสัยรักการสะสม
เธอกำลังคิดไม่ออกว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนดี เพราะเป็นเหตุวิปลาสที่ไม่ก่อความเสียหายโดยตรง
ก่อนที่จะเริ่มนึกอยากตรวจสอบอย่างจริงจัง เธอกลับถูกดึงเข้าไปพัวพันกับเหล่าภูตที่กำลังคึกคะนอง
การต่อสู้จึงเริ่มต้นขึ้น

○ ภูตน้ำแข็งผู้ไม่ละลายใต้แสงแดดจ้า
ชิลโน่
Cirno
เผ่าพันธุ์ : ภูต
ความสามารถ : ควบคุมน้ำแข็ง
ภูตน้ำแข็งที่ปักหลักอยู่ในละแวกใกล้ทะเลสาบ
เธอได้พลังที่ทำให้ไม่แพ้กระทั่งความร้อนของฤดูร้อนมาโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงกำลังรู้สึกว่าตนไร้เทียมทาน
เธอไม่รู้สึกว่ากำลังเกิดเหตุวิปลาสใดๆเป็นพิเศษ จึงฮึกเหิมลำพองใจเป็นอย่างยิ่ง
เลยอยากออกเดินทางท่องโลก แค่นั้นแหละ

○ เทนกุผู้โปรยปรายใบไม้เปลี่ยนสี
ชาเมย์มารุ อายะ
Shameimaru Aya
เผ่าพันธุ์ : เทนกุ
ความสามารถ : ควบคุมลม
เทนกุนักข่าวหนังสือพิมพ์
เธอกำลังตระเวนหาข่าวไปทั่ว จึงรู้ตัวเรื่องเหตุวิปลาสเกี่ยวกับสภาพอากาศอย่างรวดเร็ว
มันกำลังถูกปิดบังไม่ให้ผู้ใดล่วงรู้ว่า นี่ไม่ใช่แค่ความร้อนจัดหรือฤดูร้อนที่อากาศเย็นธรรมดาๆ
เธอเห็นว่าความผิดปกตินี้เป็นสิ่งที่ใครบางคนก่อขึ้น แต่สุดท้ายแล้วเธอจะเดาถูกรึเปล่านะ


○ บอสด่าน 1 ภูตผีเสื้อผู้เข้าใกล้เทพ
เอเทอร์นิตี้ ลาร์วา
Eternity Larva
เผ่าพันธุ์ : ภูต
ความสามารถ : โปรยผงเกล็ด
ภูตผีเสื้ออาเกฮะ (ผีเสื้อปาปิยอง Papillon)
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่แมลงเต็มวัย เพราะมีทั้งส่วนของตัวอ่อนและดักแด้ปนอยู่ด้วย
จึงกล่าวได้ว่าเป็นภูตแห่งการแปรสภาพ การงอกใหม่ และการเติบโตของแมลง
เช่นเดียวกับชิลโน่ เธอแข็งแกร่งกว่าปกติด้วยพลังอะไรบางอย่าง พูดง่ายๆคืออยู่ในสภาพอาละวาด
แต่ไหนแต่ไรพวกภูตก็ออกอาละวาดในช่วงที่เกิดเหตุวิปลาสอยู่แล้ว
ถึงขนาดออกไปเที่ยวเล่นในทุกหนทุกแห่งที่เกิดการต่อสู้ โดยหอบเอา Power Up Item ไปด้วยหลายอัน
ทั้งที่ปกติแล้วมีนิสัยสุภาพเรียบร้อยเป็นอย่างยิ่ง
ดูเหมือนจะปล่อยห่ากระสุนและกลิ่นเหม็นออกมาจากหนวดสัมผัส เมื่อรับรู้ถึงอันตราย
Tips :
- ผีเสื้อชนิดนี้ มักถูกใช้อ้างอิงอยู่บ่อยๆในเรื่องราวที่เกี่ยวกับการฆาตกรรม
- ในฉบับเดโม่ ท่าน ZUN เขียนชื่อผิดเป็น Etanity กับ Etarnity แต่ก็แก้ไขเสร็จสิ้นแล้วในฉบับเต็มนี้


○ บอสด่าน 2 ยามันบะผู้ก้าวข้ามพรมแดนทางโลก
ซาคาตะ เนมุโนะ
Sakata Nemuno
เผ่าพันธุ์ : ยามันบะ
ความสามารถ : สร้างอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์
โยวไคที่อาศัยอยู่ในภูเขาโยวไค
ยามันบะเป็นเผ่าพันธุ์ที่ชอบใช้ชีวิตสันโดษ ไม่รวมกลุ่ม ไม่สร้างองค์กร
แม้แต่ในเผ่าพันธุ์เดียวกันก็แทบจะไม่ติดต่อคบค้ากัน แต่กลับติดต่อคบค้ากับเผ่าพันธุ์อื่น
แต่ยังไงก็เป็นแค่การติดต่อคบค้าทางธุรกิจเท่านั้น
ไม่ถูกโรคกับพวกเทนกุที่ชอบอยู่กันเป็นองค์กร จึงทำสนธิสัญญาไม่รุกรานกันระหว่างเผ่า
แล้วต่างฝ่ายต่างก็ใช้ชีวิตไปตามวิถีของตน
ในหมู่บ้านเชื่อกันว่า โดยทั่วไปแล้ว ถ้าเข้าไปในภูเขาแล้วหายสาบสูญ แปลว่าโดนยามันบะจัดการด้วยวิธีอะไรสักอย่างไปแล้ว
แต่อันที่จริง ส่วนมาก ถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็จะไล่กลับไปด้วยการขู่ให้กลัว ถ้าเป็นเด็กก็จะคุ้มครองเลี้ยงดูจนโตเป็นผู้ใหญ่ที่สง่างาม
แต่ไม่มีผู้ใดทราบสาเหตุ
ตัวเธอเองก็ไม่สนใจสังคมเช่นกัน จึงแทบไม่มีข้อมูลใดๆและจัดว่าเป็นพวกด้อยพัฒนาในเกนโซเคียว
Tips :
- ในเนื้อเรื่อง เธอพูดถึง ซาคาตะ คินโทคิ (坂田 金時) ด้วย
- ซาคาตะ คินโทคิ คือหนึ่งในผู้ที่ร่วมมือกับมินาโมโตะ โนะ โยริมิทสึ (ไรโคว) ในการกำจัดชุเทนโดวจิ
- หากดูจากนามสกุล เป็นไปได้ว่าเธอคือยามันบะที่เลี้ยงคินโทคิจนโต แต่บทพูดเหมือนห่างเหินกันชอบกล
- อนึ่ง ในเรื่องกินทามะ ตัวเอกชื่อ 坂田 銀時 (ซาคาตะ กินโทคิ) ซึ่งต่างกันตรง 金(คิน)=ทอง ในขณะที่ 銀(กิน)=เงิน
- ยามันบะ (ยามะอุบะ) แปลตรงตัวว่า หญิงชราแห่งขุนเขา
- เป็นโยวไคในตำนานญี่ปุ่น ชอบอาศัยในภูเขา คอยขับไล่ผู้ใหญ่ และจับเด็กไปเลี้ยงจนโต
- หากดูจากแสง เงา ส่วนโค้ง อาจสังเกตได้ว่าบอสตัวนี้มีหน้าอกอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว (ฮา)


○ บอสด่าน 3 สัตว์เทพพิทักษ์ผู้คลั่งไคล้ในชินโตและพุทธ
โคมาโนะ อาอุน
Komano Aunn
เผ่าพันธุ์ : โคมะอินุ
ความสามารถ : ค้นหาชินโตและพุทธ
โคมะอินุ ผู้มีคุณสมบัติของโคมะอินุและสิงโตอยู่ในตัวเดียว
มันจะค้นหาสถานที่รวบรวมศรัทธาของมนุษย์อย่าง ศาลเจ้าฮาคุเรย์ ศาลเจ้าโมริยะ วัดเมียวเรนจิ
แล้วไปอยู่อาศัยที่นั่น เพื่อคอยปกป้องตามอำเภอใจ
ปกติแล้วจะไม่เผยตัวให้เห็น และแสดงพลังออกมาเมื่อมีผู้ปองร้ายปรากฏตัวเท่านั้น
แต่เพราะเธอไม่ได้แข็งแกร่งมากมาย เลยพ่ายแพ้อยู่บ่อยๆ
เธอกำลังชมดอกไม้อยู่ในศาลเจ้าฮาคุเรย์เพราะซากุระในศาลเจ้าสวยดี แล้วความวุ่นวายในครั้งนี้ก็เริ่มต้นขึ้น
เธอตั้งใจว่าจะดื่มเหล้าแล้วมองข้ามเรื่องนี้ไป แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงโดนพัวพันจนนำไปสู่การต่อสู้เสียได้
การต่อสู้กับมิโกะเป็นการต่อสู้ที่ไม่พึงปรารถนาสำหรับเธอ แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกสนุกสนานซะงั้น
เธอค้นพบพลังวิญญาณอะไรบางอย่างที่ไร้ก้นบึ้งอยู่ในใจของตน ทำให้รู้สึกเย็นวาบไปทั่วสันหลัง
แม้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร อยู่ที่ไหน แต่เธอรู้ตัวแล้วว่า สิ่งสำคัญบางอย่างกำลังถูกปิดบังอย่างตั้งใจมิให้เกนโซวเคียวล่วงรู้
Tips :
- โคมะอินุ รูปปั้นสุนัข/สิงโตที่มักพบเห็นอยู่ตามด้านหน้าของศาลเจ้าต่างๆ มีสถานะเป็นผู้พิทักษ์ศาลเจ้า
- ชื่อของเธอมาจากคำว่า 阿吽 (อะ-อุน) ซึ่งนัยถึงการอ้าปาก(อะ)และหุบปาก(อุน)ของรูปปั้นโคมะอินุ
- เพราะว่าโคมะอินุมักอยู่ด้วยกันเป็นคู่ ตัวหนึ่งอ้าปาก ตัวหนึ่งหุบปาก
- นอกจากนี้ยังมีสำนวนญี่ปุ่นว่า 阿吽の呼吸
- 阿吽の呼吸 ลมหายใจอาอุน สำนวนญี่ปุ่น หมายถึง การประสานลมหายใจในการทำอะไรร่วมกันของคนมากกว่า 1 คน
- 阿吽 มาจากภาษาสันสกฤต อะฮูม โดย อะ คืออักษรตัวแรกในภาษาสันสกฤต ส่วน ฮูม คือตัวสุดท้าย
- อะฟูม เป็นคำสัญลักษณ์ที่แสดงถึง จุดเริ่มต้นและจุดสูงสุดของสรรพสิ่ง
- หากดูจากแสง เงา ส่วนโค้ง อาจสังเกตได้ว่าบอสตัวนี้มีหน้าอกอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว (ฮา)


○ บอสด่าน 4 จิโซวเวทมนตร์ผู้โปรดสัตว์ในป่า
ยาตะเดระ นารุมิ
Yatadera Narumi
เผ่าพันธุ์ : จอมเวท(จิโซว)
ความสามารถ : ใช้เวทมนตร์(ควบคุมพลังชีวิต)
คุณจิโซวที่อยู่ในป่าเวทมนตร์มาตั้งแต่ไหนแต่ไร แล้วกลายเป็นสิ่งมีชีวิตเพราะได้รับพลังเวทจากป่าจนมีชีวิตขึ้นมา
เธอกลุ้มใจเรื่องหิมะหลงฤดูในป่าเวทมนตร์ แต่เธอไม่ชอบออกมาข้างนอกตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว จึงไม่คิดจะออกจากป่าไปตรวจสอบ
ป่าเวทมนตร์มีพลังเวทที่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวตน
ถึงจะเรียกว่า จิโซว แต่ก็ไม่ใช่จิโซวโบวซัทสึ(พระกษิติครรภโพธิสัตว์)ตัวจริง เดิมทีเธอคือคุณจิโซว กล่าวคือเป็นแค่รูปปั้นหิน
และเนื่องจากเป็นรูปปั้นหินที่ได้รับชีวิตมา จึงเป็นตัวตนที่คล้ายกับโกเลม
เธอมีประสาทสัมผัสไวต่อพลังเวท จึงรู้ตัวมานานแล้วว่ามีพลังเวทที่ผิดปกติผุดออกมาจากข้างหลังของตน
แต่เธอคิดว่ามันเป็นผลกระทบจากเหตุสี่ฤดูวิปลาส จึงไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าสิ่งนั้นนั่นแหละที่ก่อให้เกิดเหตุวิปลาส
พอได้ฟังเรื่องของโอคินะจากมาริสะ เธอจึงคิดมาตรการลับขึ้นมาแล้วฝากให้มาริสะไปจัดการ
Tips :
- จิโซว คือพระพุทธรูปหินที่ตั้งอยู่ตามริมทางในญี่ปุ่น ย่อมาจาก จิโซวโบซัทสึ (พระกษิติครรภโพธิสัตว์)
- กรณีที่หมายถึงพระพุทธรูปหินริมทาง คนญี่ปุ่นมักเรียกว่า โอะจิโซวซัง (คุณจิโซว)
- ในเนื้อเรื่อง เธอเรียกมาริสะว่า มนุษย์เวทมนตร์ (ในขณะที่ตัวเองเป็น จิโซวเวทมนตร์) ซึ่งเป็นการล้อคำว่า นักเวทมนตร์ นั่นเอง
- มาริสะชอบเรียกเธอว่า นารุโกะ(成子) แม้แต่ชื่อผู้พูดในฉากจบก็ยังระบุว่า 成子 แทนที่จะเป็น 成美(นารุมิ)
- ผ้าคลุมบ่าของเธอเขียนไว้ว่า 畢竟成佛 หมายถึง สละสิ้นแล้วซึ่งกิเลสตัณหาทั้งปวง
- บนหมวก เขียนว่า 迷故三界城 หมายถึง วัฏสงสารเกิดขึ้นเพราะกิเลสตัณหา
- บนหมวก เขียนว่า 悟故十方空 หมายถึง ความตั้งใจในการรู้แจ้งจะขจัดอุปสรรคทั้งปวง
- บนหมวก เขียนว่า 本来無東西、何処有南北 หมายถึง ไม่เคยมีอุปสรรคใดคอยขัดขวางการรู้แจ้ง ทุกอย่างอยู่ที่ความแน่วแน่ของตน



○ บอสด่าน 5 Backdancers ที่อันตรายเกินไป
นิชิดะ ซาโตโนะ
Nishida Satono
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์(?)
ความสามารถ : ดึงพลังจิตใจออกมาด้วยการเต้นอยู่ข้างหลัง
เทย์เรย์ดะ ไม
Teireida Mai
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์(?)
ความสามารถ : ดึงพลังชีวิตออกมาด้วยการเต้นอยู่ข้างหลัง
ทั้งสองเป็นลูกน้องของโอคินะ มีหน้าที่ดึงความสามารถที่ซ่อนเร้นอยู่ในสรรพสิ่งออกมา
เดิมทีพวกเธอเป็นเด็กมนุษย์ธรรมดา แต่ได้รับพลังเวทของโอคินะจนไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป
ความทรงจำในสมัยที่เป็นมนุษย์ก็แทบไม่มีเหลือ และเต้นรำไม่ยอมหยุดอย่างสนุกสนาน
แต่บุคลิกยังคงเหมือนสมัยที่เป็นมนุษย์ ไมเป็นคนขยันแต่ซุ่มซ่าม
ส่วนซาโตโนะเป็นคนรอบคอบ แต่มีความมั่นใจในตัวเองมากเกินไปหน่อย
การเต้นรำของพวกเธอไม่ได้มีไว้เพื่อทำให้ผู้คนสนุกสนาน แต่เป็นสิ่งที่บิดเบี้ยวผิดเพี้ยน
ทั้งหมดล้วนเป็นการเต้นรำเพื่อโอคินะ ทั้งหมดล้วนเป็นการกระทำเพื่อโอคินะ
พวกเธอไม่รู้ว่า ประตูข้างหลังในครั้งนี้มีไว้เพื่อเฟ้นหาผู้สืบทอดของพวกเธอ
พวกเธอรู้เพียงว่า มันมีไว้เพื่อเพิ่มจำนวนพรรคพวกของตน
ถ้าหากรู้ความจริง พวกเธอจะทำอย่างไรกันนะ
คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงล่ะมั้ง
เพราะพวกเธอไม่มีทางคิดที่จะต่อต้านคำพูดของโอคินะอยู่แล้ว
แม้ทั้งสองจะทำงานต่างมือต่างเท้าให้แก่โอคินะ แต่ความสามารถของทั้งสองก็เป็นเพียงหนึ่งในความสามารถของโอคินะเท่านั้น


○ บอสด่าน 6 เทพลับสุดยอดขั้นสูงสุด
มาตาระ โอคินะ
Matara Okina
เผ่าพันธุ์ : เทพลับ
ความสามารถ : สร้างประตูที่ด้านหลังของสรรพสิ่ง
เทพลับผู้ซ่อนอยู่ ณ ด้านหลังของสรรพสิ่ง
โฉมหน้าเบื้องหน้ามีมากมาย เช่น พระแม่ธรณี เทพแห่งละครโน เทพแห่งดวงดาว เทพแห่งการเลี้ยงไหม เทพแห่งผู้แปลกแยก เป็นต้น
ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ตัวตนที่แท้จริง
เทพลับสูงสุดที่ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่ควรเห็น ไม่ควรได้ยิน ไม่ควรเล่าขาน
แต่ถึงจะเรียกว่าเป็นเทพลับก็มิได้ซ่อนตัวแต่อย่างใด
บางครั้งก็ออกมายังเบื้องหน้าอย่างยิ่งใหญ่แล้วโอ้อวดตัวตนของตน
เธอบอกว่าเป้าหมายในครั้งนี้คือการเฟ้นหาผู้สืบทอดของซาโตโนะกับไม
แต่ถ้าหาผู้สืบทอดไม่เจอ แค่ใช้งานสองคนนั้นต่อไปก็พอแล้ว
เป้าหมายที่แท้จริงคือการทำตัวเด่น
เด่นจนสลักลงไปในความทรงจำของมนุษย์ โยวไค และเหล่านักปราชญ์ในเกนโซวเคียว
ดูเหมือนเธอจะหาผู้สืบทอดไม่พบ แต่ก็บรรลุเป้าหมายนี้ไปเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้เธอยังเป็นหนึ่งในนักปราชญ์ที่สร้างเกนโซวเคียวแบบปัจจุบันนี้ขึ้นมา
เธอรับหน้าที่ปกป้องเกนโซวเคียวจากโลกภายนอก และควบคุมสมดุลของเกนโซวเคียว
โดยใช้ความสามารถพิศวงที่ทำให้สามารถเดินทางไปที่ใดก็ได้ และสามารถควบคุมพลังจิตใจกับพลังชีวิตได้โดยไม่มีใครรู้ตัว
ส่วนงานเบ็ดเตล็ดทั่วไปก็ยกให้บริวารทั้งสองคน(ซาโตโนะกับไม)ซึ่งเป็นดั่งมือเท้าของตนเป็นคนจัดการ
เธอไม่ปรานีต่อผู้หยาบคาย แต่เมตตากรุณาต่อผู้นอบน้อม
เทพเจ้าฉบับดั้งเดิมที่น่าสะพรึงกลัวเมื่อเป็นศัตรู แต่พึ่งพาได้เมื่อเป็นพวกเดียวกัน


○ บอสด่าน Extra เทพลับสุดยอดขั้นสูงสุด
มาตาระ โอคินะ
Matara Okina
ฤดูกาลที่อยู่ข้างหลังคือกับดักที่เธอเตรียมเอาไว้
ตัวเอกจึงเอากับดักฤดูกาลที่โอคินะเตรียมไว้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเองแล้วท้าสู้กับเธออีกครั้ง
ในสถานการณ์ดังกล่าว เทพลับสูงสุดเลิกไล่ตัวเอกกลับไปด้วยพลังเวทฤดูกาล แล้วแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา
มันคือร่างรวมอันยุ่งเหยิงของเหล่ารูปลักษณ์แห่งเทพที่แสดงออกทางเบื้องหน้ามาตลอด
จะว่าไปแล้ว ถึงจะเป็นเทพลับ แต่เธอก็ไม่ได้ซ่อนตัวแต่อย่างใด
เธอเป็นเทพลับที่เปิดเผยทุกอย่างให้เห็นมาตั้งแต่แรกแล้ว
Tips :
- ต้นแบบของบอสกลุ่มนี้ มาจากตำนานของเทพ มาตาระจิน(มาดาระจิน) ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม เทพประตูหลังแห่งวัดโจวเกียวโดว
- มาตาระจิน มีบริวารใกล้ชิดอยู่สองคน คือ นิชิตะ(爾子多) กับ เทย์เรย์ตะ(丁禮多)
- แน่นอนว่าบริวารทั้งสองก็คือต้นแบบของ นิชิดะ(爾子田) กับ เทย์เรย์ดะ(丁礼田) นั่นเอง
- คำว่า ประตูหลัง นี้เป็นศัพท์พุทธ
- หมายถึง ประตูที่อยู่ด้านหลังของอุโบสถและพระประธาน(พระพุทธรูปหลักของอุโบสถ) มีไว้ให้เทพเจ้าไปสถิตอยู่ในพระประธาน
- เทพประตูหลัง จึงหมายถึง เทพเจ้าที่เข้าไปสถิตอยู่ในพระประธานโดยผ่านทางประตูหลังของอุโบสถนั่นเอง
- ผู้แปลกแยก หมายถึง ผู้ที่อยู่ในสังคมหนึ่ง แต่กลับไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนั้น ทำให้ยากแก่การใช้ชีวิตในสังคมนั้น
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
รายชื่อเพลง
♪1.桜舞い散る天空
ซาคุระไมฉิรุเทนคูว (ท้องนภาที่มีซากุระโปรยปราย)
เพลงประจำฉากไตเติ้ล
เพลงที่ทำให้รู้สึกว่า กำลังจะเริ่มล่ะน้าー
รู้สึกได้ถึงความเป็นญี่ปุ่น ความปลอดโปร่ง และความซีเรียสเล็กน้อย
♪2.希望の星は青霄に昇る
คิโบวโนะโฮชิวะเซย์โชวนิโนโบรุ (ดาวแห่งความหวังทะยานสู่ฟ้าคราม)
เพลงประจำฉาก 1
ลองดึงเอาความสดชื่นของฤดูร้อนกับความรู้สึกเหมือนการเกริ่นนำออกมา
ในบรรดาเพลงโทโฮ คิดว่าเป็นเพลงที่เบาสบายและรู้สึกได้ถึงความเร็ว
เพลงที่ไม่ว่าอะไรก็เอาเบียร์นำไว้ก่อน
♪3.真夏の妖精の夢
มานัทสึโนะโยวเซย์โนะยุเมะ (ความฝันของภูตช่วงกลางฤดูร้อน)
เพลงประจำตัว เอเทอร์นิตี้ ลาร์วา
เป้าหมายคือการทำให้รู้สึกว่าเป็นภูตที่ซ่อนปริศนาบางอย่างเอาไว้
เหล่าผีเสื้อที่โผล่มาในเกมเนี่ย เป็นสัญลักษณ์ของความลึกลับจริงๆด้วย
คงรู้สึกแบบนั้นสินะ
แต่เอาเถอะ ในเมื่อตัวเป็นภูต หัวย่อมกลวงโบ๋อยู่แล้ว
♪4.色無き風は妖怪の山に
อิโระนาคิคาเซะวะโยวไคโนะยามะนิ (สายลมไร้สีสู่ภูเขาโยวไค)
เพลงประจำฉาก 2
ตรงข้ามกับความปลอดโปร่งไร้ก้นบึ้งในฉาก 1
เพลงนี้ดึงความเป็นฤดูใบไม้ร่วงที่เจือความเศร้าบางอย่างออกมา
แม้ฤดูกาลเปลี่ยนไปก็ยังปรับแต่งเพลงให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน
มันก็สนุกดีนะ
♪5.山奥のエンカウンター
ยามะโอะคุโนะ เอนเคาเตอร์ (Encounter กลางภูเขา)
เพลงประจำตัว ซาคาตะ เนมุโนะ
คิดว่าเป็นเพลงที่มีความเป็นเกมอย่างยิ่ง
แหม ยามันบะเลยนะ ทั้งที่โผล่มาในตำนานเก่าแก่บ่อยครั้ง
แต่กลับเป็นตัวตนที่ไม่ทราบร่างจริงแน่ชัดเลยน้า
แต่งให้เป็นแนวโทโฮด้วยอารมณ์แบบน่าสยดสยอง กระปรี้กระเปร่า อะไรทำนองนั้น
♪6.桜色の海を泳いで
ซาคุระอิโระโนะอุมิโอะโอโยอิเดะ (แหวกว่ายในทะเลสีซากุระ)
เพลงประจำฉาก 3
อิมเมจว่า กำลังบินไปบนท้องฟ้ายามราตรี
โดยมีเพียงซากุระต้องแสงจันทร์เท่านั้นที่กำลังส่องแสงอยู่
ไม่ว่ายังไงซากุระก็ทำให้รู้สึกถึงความเวิ้งว้าง ครั้งนี้ก็เช่นกัน
♪7.一対の神獣
อิททสึอิโนะชินจูว (สัตว์เทพหนึ่งคู่)
เพลงประจำตัว โคมาโนะ อาอุน
รู้สึกถึงศัตรูที่แข็งแกร่ง ห้าวหาญ ความเป็นฤดูใบไม้ผลิ และเป็นตัวละครที่หย่อนยาน
เพลงไร้แก่นสารที่อันสิ่งเหล่านั้นเอาไว้แน่น
กำหนดให้เธอเป็นสัตว์เทพหนึ่งคู่แม้มีแค่ตัวคนเดียว แต่ไม่ใช่ว่ามีหลายบุคลิกหรอก
แม้จะมองในเกมไม่เห็น แต่เธอมีหางนะー
♪8.幻想のホワイトトラベラー
เกนโซวโนะ ไวท์ ทราเวลเลอร์ (White Traveler มายา)
เพลงประจำฉาก 4
ถ้าพูดถึงฤดูหนาวก็ต้องนึกถึง พายุหิมะ
ถ้าไม่ใช่คนเมืองหนาวอาจไม่เข้าใจ แต่พายุหิมะไม่เหมือนกับพายุฝน
เพราะหิมะตลบขึ้นจากพื้นแล้วตกลงมาฟาดไปตามแนวระนาบ
หมวกฟางไม่มีความหมายเลย
♪9.魔法の笠地蔵
มาโฮวโนะคาซะจิโซว (จิโซวหมวกฟางเวทมนตร์)
เพลงประจำตัว ยาตะเดระ นารุมิ
แต่งขึ้นด้วยอิมเมจว่า กำลังย่ำเท้าลงบนพื้นอย่างหนักแน่น
เดิมทีพระกษิติครรภโพธิสัตว์จะเป็นโพธิสัตว์สูงส่งที่ช่วยเหลือผู้คนอย่างยาวนาน จนกว่าพระศรีอริยเมตไตรยจะปรากฏตัว
แต่ไม่รู้ว่ารูปปั้นจิโซหน้าตาพิลึกจำนวนนับไม่ถ้วนแพร่กระจายไปทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อใด
เพราะงั้นจะมีจิโซวเวทมนตร์บางก็คงไม่เป็นไรเนอะ
♪10.禁断の扉の向こうは、この世かあの世か
คินดันโนะโทบิระโนะมุโคววะ, โคโนะโยะคะอาโนะโยะคะ (อีกฟากของประตูต้องห้ามคือโลกนี้หรือโลกหน้ากันนะ)
เพลงประจำฉาก 5
โลกอันน่าสยดสยองที่ไม่เคยมีมาก่อนในโทโฮ
ประตูแต่ละบานกลายเป็นด้านหลังของใครบางคน
พอคิดแบบนั้นแล้ว จะว่าสะดวกก็สะดวกดีเนอะ
เป็นประตูที่ทำให้รู้สึกอุ่นๆชอบกลแฮะ
♪11.クレイジーバックダンサーズ
เครซี่ แบ็คแดนเซอร์ (Crazy Backdancers)
เพลงประจำตัว นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม
ความสยดสยอง ความปลอดโปร่ง ศัตรูที่แข็งแกร่ง ความไร้เดียงสา
ทุกอย่างนั่นเหมารวมอยู่ในเพลงนี้ รวมความเป็นบอสกลางฉากด้วย
เนื่องจากเป็นเพลงสำหรับ 2 คนจึงหรูหราและหลากหลาย
อิมเมจว่ากำลังเต้นอย่างน่ากลัวไม่ยอมหยุด
♪12.イントゥ・バックドア
อินทู แบ็คดอร์ (Into Backdoor)
เพลงประจำฉาก 6
อิมเมจว่าเป็นด่านความเร็วสูงก่อนเจอบอส
ทำให้รู้สึกเร่งรีบทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่อง
♪13.秘匿されたフォーシーズンズ
ฮิโตคุซาเรตะ โฟร์ ซีซั่น (Four Seasons ที่ถูกซ่อนเร้น)
เพลงประจำตัว มาตาระ โอคินะ
เพลงที่แข็งแกร่งทำให้รู้สึกถึงจุดไคลแมกส์อย่างแท้จริง
เมโลดี้หนักหน่วงเมื่อเทียบกับทุกเพลงในภาคนี้
ถ้าเริ่มร้องเพลงตามไปด้วยก็คงจะเข้าท่าดี
มีความเป็นไปได้สูงที่จะหัวเราะจนเล่นเกมไม่ไหว แต่นั่นก็ถือว่าสุดยอดเหมือนกันล่ะมั้ง
♪14.もうドアには入れない
โมว ดอร์ นิวะอิเระไน (เข้าประตูไม่ได้แล้ว)
เพลงประจำฉาก Extra
โลกแห่งปริศนาที่ตัดสินใจกระโจนเข้าไปอีกครั้ง
เพลงที่ซ้อนทับกันระหว่างความสยดสยองและความอ่อนโยน
สื่อผ่านเพลงได้เลยว่าด่านยากแน่ เลยรู้สึกห่อเหี่ยว (ฮา)
♪15.秘神マターラ ~ Hidden Star in All Seasons.
ฮิชินมาตาระ(เทพลับมาตาระ) ~ ฮิดเดน สตาร์ อิน ออล ซีซั่น. (ดวงดาวที่ซ่อนเร้นในฤดูทั้งหมด.)
เพลงประจำตัว มาตาระ โอคินะ (ที่แท้จริง)
ทั้งที่เป็น Extra แต่ดันกลายเป็นตอนต่อของเนื้อเรื่องหลักซะงั้น
พอกลายเป็นการต่อสู้กับโอคินะที่แท้จริง ความสดชื่นก็หายไปหมดโดยอัตโนมัติ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นเพลงที่มีเมโลดี้หนักหน่วงสมกับเป็นลาสท์บอสที่แท้จริง
บอกตามตรง เกลียดการโดนโจมตีจากข้างหลังที่สุดเลย !
♪16.不自然な自然
ฟุชิเซนนะชิเซน (ธรรมชาติที่ผิดธรรมชาติ)
เพลงประจำฉากจบ
ฟังแล้วเหมือน Bad End ยังไงชอบกล
แต่จริงๆแล้วภาคนี้ก็เหมือนกับ Bad End ทุกแบบล่ะนะ
♪17.白い旅人
ชิโระอิทาบิบิโตะ (นักเดินทางสีขาว)
เพลงประจำฉาก Staff Roll
อีกเวอร์ชั่นหนึ่งของเพลงฤดูหนาว อิมเมจของการจบอย่างสดชื่น
จะว่าไปแล้ว ทำไมเพลงพายุหิมะฤดูหนาวถึงได้สดชื่นล่ะ ?
นั่นเป็นเพราะอิมเมจถึงเช้าตรู่ จากคำว่า "ฤดูหนาวสดใส" ไงล่ะ
(วรรคสุดท้าย อ้างอิงถึง "หนังสือข้างหมอน" งานวรรณกรรมในยุคเฮย์อัน)
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................ซาคุระไมฉิรุเทนคูว (ท้องนภาที่มีซากุระโปรยปราย)
เพลงประจำฉากไตเติ้ล
เพลงที่ทำให้รู้สึกว่า กำลังจะเริ่มล่ะน้าー
รู้สึกได้ถึงความเป็นญี่ปุ่น ความปลอดโปร่ง และความซีเรียสเล็กน้อย
♪2.希望の星は青霄に昇る
คิโบวโนะโฮชิวะเซย์โชวนิโนโบรุ (ดาวแห่งความหวังทะยานสู่ฟ้าคราม)
เพลงประจำฉาก 1
ลองดึงเอาความสดชื่นของฤดูร้อนกับความรู้สึกเหมือนการเกริ่นนำออกมา
ในบรรดาเพลงโทโฮ คิดว่าเป็นเพลงที่เบาสบายและรู้สึกได้ถึงความเร็ว
เพลงที่ไม่ว่าอะไรก็เอาเบียร์นำไว้ก่อน
♪3.真夏の妖精の夢
มานัทสึโนะโยวเซย์โนะยุเมะ (ความฝันของภูตช่วงกลางฤดูร้อน)
เพลงประจำตัว เอเทอร์นิตี้ ลาร์วา
เป้าหมายคือการทำให้รู้สึกว่าเป็นภูตที่ซ่อนปริศนาบางอย่างเอาไว้
เหล่าผีเสื้อที่โผล่มาในเกมเนี่ย เป็นสัญลักษณ์ของความลึกลับจริงๆด้วย
คงรู้สึกแบบนั้นสินะ
แต่เอาเถอะ ในเมื่อตัวเป็นภูต หัวย่อมกลวงโบ๋อยู่แล้ว
♪4.色無き風は妖怪の山に
อิโระนาคิคาเซะวะโยวไคโนะยามะนิ (สายลมไร้สีสู่ภูเขาโยวไค)
เพลงประจำฉาก 2
ตรงข้ามกับความปลอดโปร่งไร้ก้นบึ้งในฉาก 1
เพลงนี้ดึงความเป็นฤดูใบไม้ร่วงที่เจือความเศร้าบางอย่างออกมา
แม้ฤดูกาลเปลี่ยนไปก็ยังปรับแต่งเพลงให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน
มันก็สนุกดีนะ
♪5.山奥のエンカウンター
ยามะโอะคุโนะ เอนเคาเตอร์ (Encounter กลางภูเขา)
เพลงประจำตัว ซาคาตะ เนมุโนะ
คิดว่าเป็นเพลงที่มีความเป็นเกมอย่างยิ่ง
แหม ยามันบะเลยนะ ทั้งที่โผล่มาในตำนานเก่าแก่บ่อยครั้ง
แต่กลับเป็นตัวตนที่ไม่ทราบร่างจริงแน่ชัดเลยน้า
แต่งให้เป็นแนวโทโฮด้วยอารมณ์แบบน่าสยดสยอง กระปรี้กระเปร่า อะไรทำนองนั้น
♪6.桜色の海を泳いで
ซาคุระอิโระโนะอุมิโอะโอโยอิเดะ (แหวกว่ายในทะเลสีซากุระ)
เพลงประจำฉาก 3
อิมเมจว่า กำลังบินไปบนท้องฟ้ายามราตรี
โดยมีเพียงซากุระต้องแสงจันทร์เท่านั้นที่กำลังส่องแสงอยู่
ไม่ว่ายังไงซากุระก็ทำให้รู้สึกถึงความเวิ้งว้าง ครั้งนี้ก็เช่นกัน
♪7.一対の神獣
อิททสึอิโนะชินจูว (สัตว์เทพหนึ่งคู่)
เพลงประจำตัว โคมาโนะ อาอุน
รู้สึกถึงศัตรูที่แข็งแกร่ง ห้าวหาญ ความเป็นฤดูใบไม้ผลิ และเป็นตัวละครที่หย่อนยาน
เพลงไร้แก่นสารที่อันสิ่งเหล่านั้นเอาไว้แน่น
กำหนดให้เธอเป็นสัตว์เทพหนึ่งคู่แม้มีแค่ตัวคนเดียว แต่ไม่ใช่ว่ามีหลายบุคลิกหรอก
แม้จะมองในเกมไม่เห็น แต่เธอมีหางนะー
♪8.幻想のホワイトトラベラー
เกนโซวโนะ ไวท์ ทราเวลเลอร์ (White Traveler มายา)
เพลงประจำฉาก 4
ถ้าพูดถึงฤดูหนาวก็ต้องนึกถึง พายุหิมะ
ถ้าไม่ใช่คนเมืองหนาวอาจไม่เข้าใจ แต่พายุหิมะไม่เหมือนกับพายุฝน
เพราะหิมะตลบขึ้นจากพื้นแล้วตกลงมาฟาดไปตามแนวระนาบ
หมวกฟางไม่มีความหมายเลย
♪9.魔法の笠地蔵
มาโฮวโนะคาซะจิโซว (จิโซวหมวกฟางเวทมนตร์)
เพลงประจำตัว ยาตะเดระ นารุมิ
แต่งขึ้นด้วยอิมเมจว่า กำลังย่ำเท้าลงบนพื้นอย่างหนักแน่น
เดิมทีพระกษิติครรภโพธิสัตว์จะเป็นโพธิสัตว์สูงส่งที่ช่วยเหลือผู้คนอย่างยาวนาน จนกว่าพระศรีอริยเมตไตรยจะปรากฏตัว
แต่ไม่รู้ว่ารูปปั้นจิโซหน้าตาพิลึกจำนวนนับไม่ถ้วนแพร่กระจายไปทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อใด
เพราะงั้นจะมีจิโซวเวทมนตร์บางก็คงไม่เป็นไรเนอะ
♪10.禁断の扉の向こうは、この世かあの世か
คินดันโนะโทบิระโนะมุโคววะ, โคโนะโยะคะอาโนะโยะคะ (อีกฟากของประตูต้องห้ามคือโลกนี้หรือโลกหน้ากันนะ)
เพลงประจำฉาก 5
โลกอันน่าสยดสยองที่ไม่เคยมีมาก่อนในโทโฮ
ประตูแต่ละบานกลายเป็นด้านหลังของใครบางคน
พอคิดแบบนั้นแล้ว จะว่าสะดวกก็สะดวกดีเนอะ
เป็นประตูที่ทำให้รู้สึกอุ่นๆชอบกลแฮะ
♪11.クレイジーバックダンサーズ
เครซี่ แบ็คแดนเซอร์ (Crazy Backdancers)
เพลงประจำตัว นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม
ความสยดสยอง ความปลอดโปร่ง ศัตรูที่แข็งแกร่ง ความไร้เดียงสา
ทุกอย่างนั่นเหมารวมอยู่ในเพลงนี้ รวมความเป็นบอสกลางฉากด้วย
เนื่องจากเป็นเพลงสำหรับ 2 คนจึงหรูหราและหลากหลาย
อิมเมจว่ากำลังเต้นอย่างน่ากลัวไม่ยอมหยุด
♪12.イントゥ・バックドア
อินทู แบ็คดอร์ (Into Backdoor)
เพลงประจำฉาก 6
อิมเมจว่าเป็นด่านความเร็วสูงก่อนเจอบอส
ทำให้รู้สึกเร่งรีบทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่อง
♪13.秘匿されたフォーシーズンズ
ฮิโตคุซาเรตะ โฟร์ ซีซั่น (Four Seasons ที่ถูกซ่อนเร้น)
เพลงประจำตัว มาตาระ โอคินะ
เพลงที่แข็งแกร่งทำให้รู้สึกถึงจุดไคลแมกส์อย่างแท้จริง
เมโลดี้หนักหน่วงเมื่อเทียบกับทุกเพลงในภาคนี้
ถ้าเริ่มร้องเพลงตามไปด้วยก็คงจะเข้าท่าดี
มีความเป็นไปได้สูงที่จะหัวเราะจนเล่นเกมไม่ไหว แต่นั่นก็ถือว่าสุดยอดเหมือนกันล่ะมั้ง
♪14.もうドアには入れない
โมว ดอร์ นิวะอิเระไน (เข้าประตูไม่ได้แล้ว)
เพลงประจำฉาก Extra
โลกแห่งปริศนาที่ตัดสินใจกระโจนเข้าไปอีกครั้ง
เพลงที่ซ้อนทับกันระหว่างความสยดสยองและความอ่อนโยน
สื่อผ่านเพลงได้เลยว่าด่านยากแน่ เลยรู้สึกห่อเหี่ยว (ฮา)
♪15.秘神マターラ ~ Hidden Star in All Seasons.
ฮิชินมาตาระ(เทพลับมาตาระ) ~ ฮิดเดน สตาร์ อิน ออล ซีซั่น. (ดวงดาวที่ซ่อนเร้นในฤดูทั้งหมด.)
เพลงประจำตัว มาตาระ โอคินะ (ที่แท้จริง)
ทั้งที่เป็น Extra แต่ดันกลายเป็นตอนต่อของเนื้อเรื่องหลักซะงั้น
พอกลายเป็นการต่อสู้กับโอคินะที่แท้จริง ความสดชื่นก็หายไปหมดโดยอัตโนมัติ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นเพลงที่มีเมโลดี้หนักหน่วงสมกับเป็นลาสท์บอสที่แท้จริง
บอกตามตรง เกลียดการโดนโจมตีจากข้างหลังที่สุดเลย !
♪16.不自然な自然
ฟุชิเซนนะชิเซน (ธรรมชาติที่ผิดธรรมชาติ)
เพลงประจำฉากจบ
ฟังแล้วเหมือน Bad End ยังไงชอบกล
แต่จริงๆแล้วภาคนี้ก็เหมือนกับ Bad End ทุกแบบล่ะนะ
♪17.白い旅人
ชิโระอิทาบิบิโตะ (นักเดินทางสีขาว)
เพลงประจำฉาก Staff Roll
อีกเวอร์ชั่นหนึ่งของเพลงฤดูหนาว อิมเมจของการจบอย่างสดชื่น
จะว่าไปแล้ว ทำไมเพลงพายุหิมะฤดูหนาวถึงได้สดชื่นล่ะ ?
นั่นเป็นเพราะอิมเมจถึงเช้าตรู่ จากคำว่า "ฤดูหนาวสดใส" ไงล่ะ
(วรรคสุดท้าย อ้างอิงถึง "หนังสือข้างหมอน" งานวรรณกรรมในยุคเฮย์อัน)
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
รายชื่อสเปลการ์ด
เอเทอร์นิตี้ ลาร์วา
蝶符「ミニットスケールス」 (ยันต์ผีเสื้อ 「Minute Scales」)
蝶符「アゲハの鱗粉」 (ยันต์ผีเสื้อ 「ผงเกล็ดอาเกฮะ」)
蝶符「フラッタリングサマー」 (ยันต์ผีเสื้อ 「Fluttering Summer」)
蝶符「真夏の羽ばたき」 (ยันต์ผีเสื้อ 「กระพือปีกกลางฤดูร้อน」)
ซาคาตะ เนมุโนะ
雨符「囚われの秋雨」 (ยันต์ฝน 「ฝนฤดูใบไม้ร่วงจองจำ」)
雨符「呪われた柴榑雨」 (ยันต์ฝน 「ฝนตกหนักต้องคำสาป」)
刃符「山姥の包丁研ぎ」 (ยันต์คม 「ลับคมปังตอยามันบะ」)
刃符「山姥の鬼包丁研ぎ」 (ยันต์คม 「ลับคมปังตออสูรยามันบะ」)
尽符「マウンテンマーダー」 (ยันต์หมด 「Mountain Murder」)
尽符「ブラッディマウンテンマーダー」 (ยันต์หมด 「Bloody Mountain Murder」)
ลิลลี่ไวท์
春符「サプライズスプリング」 (ยันต์ฤดูใบไม้ผลิ 「Surprise Spring」)
โคมาโนะ อาอุน
犬符「野良犬の散歩」 (ยันต์สุนัข 「สุนัขจรจัดเดินเล่น」)
狗符「山狗の散歩」 (ยันต์หมา 「หมาภูเขาเดินเล่น」)
独楽「コマ犬回し」 (ลูกข่าง 「โคมะอินุหมุนวน」)
独楽「カールアップアンドダイ」 (ลูกข่าง 「Curl Up and Die」)
狛符「独り阿吽の呼吸」 (ยันต์โคมะ 「ประสานลมหายใจด้วยตัวคนเดียว」)
ยาตะเดระ นารุมิ
魔符「インスタントボーディ」 (ยันต์เวท 「Instant Bohdi」)
魔符「即席菩提」 (ยันต์เวท 「โพธิฉับพลัน」)
魔符「バレットゴーレム」 (ยันต์เวท 「Bullet Golem」)
魔符「ペットの巨大弾生命体」 (ยันต์เวท 「สิ่งมีชีวิตกระสุนยักษ์ที่เป็นสัตว์เลี้ยง」)
地蔵「クリミナルサルヴェイション」 (จิโซว 「Criminal Salvation」)
地蔵「業火救済」 (จิโซว 「เพลิงนรกละกิเลส」)
นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม
竹符「バンブースピアダンス」 (ยันต์ไผ่ 「Bamboo Spear Dance」)
竹符「バンブークレイジーダンス」 (ยันต์ไผ่ 「Bamboo Crazy Dance」)
茗荷「フォゲットユアネーム」 (ขิง 「Forget Your Name」)
笹符「タナバタスターフェスティバル」 (ยันต์ใบไผ่ 「ทานาบาตะ Star Festival」)
冥加「ビハインドユー」 (พร 「Behind You」)
舞符「ビハインドフェスティバル」 (ยันต์เต้นรำ 「Behind Festival」)
狂舞「テングオドシ」 (เต้นคลั่ง 「เทนกุโอโดชิ」)
狂舞「狂乱天狗怖し」 (เต้นคลั่ง 「เทนกุโอโดชิคลั่ง」)
มาตาระ โอคินะ
後符「秘神の後光」 (ยันต์หลัง 「แสงรัศมีเทพลับ」)
後符「絶対秘神の後光」 (ยันต์หลัง 「แสงรัศมีเทพลับสุดยอด」)
裏夏「スコーチ・バイ・ホットサマー」 (ร้อนเบื้องหลัง 「Scorch by Hot Summer」)
裏夏「異常猛暑の焦土」 (ร้อนเบื้องหลัง 「ปฐพีมอดไหม้ร้อนแรงผิดปกติ」)
裏秋「ダイ・オブ・ファミン」 (ร่วงเบื้องหลัง 「Die of Famine」)
裏秋「異常枯死の餓鬼」 (ร่วงเบื้องหลัง 「เปรตเหี่ยวแห้งตายผิดปกติ」)
裏冬「ブラックスノーマン」 (หนาวเบื้องหลัง 「Black Snowman」)
裏冬「異常降雪の雪だるま」 (หนาวเบื้องหลัง 「ตุ๊กตาหิมะร่วงโรยผิดปกติ」)
裏春「エイプリルウィザード」 (ผลิเบื้องหลัง 「April Wizard」)
裏春「異常落花の魔術使い」 (ผลิเบื้องหลัง 「จอมเวทดอกไม้ร่วงผิดปกติ」)
「裏・ブリージーチェリーブロッサム」 (「Breezy Cherry Blossom・เบื้องหลัง」)
「裏・パーフェクトサマーアイス」 (「Perfect Summer Ice・เบื้องหลัง」)
「裏・クレイジーフォールウィンド」 (「Crazy Fall Wind・เบื้องหลัง」)
「裏・エクストリームウィンター」 (「Extreme Winter・เบื้องหลัง」)
นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม
鼓舞「パワフルチアーズ」 (เต้นกลอง 「Powerful Cheers」)
狂舞「クレイジーバックダンス」 (เต้นคลั่ง 「Crazy Backdance」)
弾舞「二つ目の台風」 (เต้นกระสุน 「ไต้ฝุ่นลูกที่สอง」)
มาตาระ โอคินะ
秘儀「リバースインヴォーカー」 (พิธีลับ 「Reverse Invoker」)
秘儀「裏切りの後方射撃」 (พิธีลับ 「ยิงหลังทรยศ」)
秘儀「弾幕の玉繭」 (พิธีลับ 「หม่อนไหมแฝดห่ากระสุน」)
秘儀「穢那の火」 (พิธีลับ 「ไฟมลทิน」)
秘儀「後戸の狂言」 (พิธีลับ 「ละครตลกประตูหลัง」)
秘儀「マターラドゥッカ」 (พิธีลับ 「มาตาระทุกข์」)
秘儀「七星の剣」 (พิธีลับ 「ดาบเจ็ดดาว」)
秘儀「無縁の芸能者」 (พิธีลับ 「นักแสดงไร้ญาติ」)
「背面の暗黒猿楽」 (「ละครลิงทมิฬเบื้องหลัง」)
「アナーキーバレットヘル」 (「Anarchy Bullet Hell」)
Tips :
- 阿吽の呼吸 ลมหายใจอาอุน สำนวนญี่ปุ่น หมายถึง การประสานลมหายใจในการทำอะไรร่วมกันของคนมากกว่า 1 คน
- ในเกมจะเห็นว่า อาอุนแยกร่างแล้วประสานลมหายใจกับร่างแยกของตัวเอง
- Bohdi = โพธิ = ความตรัสรู้ ความรู้แจ้ง
- คนญี่ปุ่นเชื่อว่ากินขิงแล้วจะขี้ลืม
- เทนกุโอโดชิ ชื่อพิธีบวงสรวงเทพเจ้า ประกอบด้วยการร่ายบทสวดและการเต้นรำ
- ในการบวงสรวงเทพประตูหลังนั้น บางครั้งก็จะทำพิธีด้วยการเล่นละครตลก เช่น ละครลิง (ละครโนบทหนึ่ง) ให้เทพเจ้าชม
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................蝶符「ミニットスケールス」 (ยันต์ผีเสื้อ 「Minute Scales」)
蝶符「アゲハの鱗粉」 (ยันต์ผีเสื้อ 「ผงเกล็ดอาเกฮะ」)
蝶符「フラッタリングサマー」 (ยันต์ผีเสื้อ 「Fluttering Summer」)
蝶符「真夏の羽ばたき」 (ยันต์ผีเสื้อ 「กระพือปีกกลางฤดูร้อน」)
ซาคาตะ เนมุโนะ
雨符「囚われの秋雨」 (ยันต์ฝน 「ฝนฤดูใบไม้ร่วงจองจำ」)
雨符「呪われた柴榑雨」 (ยันต์ฝน 「ฝนตกหนักต้องคำสาป」)
刃符「山姥の包丁研ぎ」 (ยันต์คม 「ลับคมปังตอยามันบะ」)
刃符「山姥の鬼包丁研ぎ」 (ยันต์คม 「ลับคมปังตออสูรยามันบะ」)
尽符「マウンテンマーダー」 (ยันต์หมด 「Mountain Murder」)
尽符「ブラッディマウンテンマーダー」 (ยันต์หมด 「Bloody Mountain Murder」)
ลิลลี่ไวท์
春符「サプライズスプリング」 (ยันต์ฤดูใบไม้ผลิ 「Surprise Spring」)
โคมาโนะ อาอุน
犬符「野良犬の散歩」 (ยันต์สุนัข 「สุนัขจรจัดเดินเล่น」)
狗符「山狗の散歩」 (ยันต์หมา 「หมาภูเขาเดินเล่น」)
独楽「コマ犬回し」 (ลูกข่าง 「โคมะอินุหมุนวน」)
独楽「カールアップアンドダイ」 (ลูกข่าง 「Curl Up and Die」)
狛符「独り阿吽の呼吸」 (ยันต์โคมะ 「ประสานลมหายใจด้วยตัวคนเดียว」)
ยาตะเดระ นารุมิ
魔符「インスタントボーディ」 (ยันต์เวท 「Instant Bohdi」)
魔符「即席菩提」 (ยันต์เวท 「โพธิฉับพลัน」)
魔符「バレットゴーレム」 (ยันต์เวท 「Bullet Golem」)
魔符「ペットの巨大弾生命体」 (ยันต์เวท 「สิ่งมีชีวิตกระสุนยักษ์ที่เป็นสัตว์เลี้ยง」)
地蔵「クリミナルサルヴェイション」 (จิโซว 「Criminal Salvation」)
地蔵「業火救済」 (จิโซว 「เพลิงนรกละกิเลส」)
นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม
竹符「バンブースピアダンス」 (ยันต์ไผ่ 「Bamboo Spear Dance」)
竹符「バンブークレイジーダンス」 (ยันต์ไผ่ 「Bamboo Crazy Dance」)
茗荷「フォゲットユアネーム」 (ขิง 「Forget Your Name」)
笹符「タナバタスターフェスティバル」 (ยันต์ใบไผ่ 「ทานาบาตะ Star Festival」)
冥加「ビハインドユー」 (พร 「Behind You」)
舞符「ビハインドフェスティバル」 (ยันต์เต้นรำ 「Behind Festival」)
狂舞「テングオドシ」 (เต้นคลั่ง 「เทนกุโอโดชิ」)
狂舞「狂乱天狗怖し」 (เต้นคลั่ง 「เทนกุโอโดชิคลั่ง」)
มาตาระ โอคินะ
後符「秘神の後光」 (ยันต์หลัง 「แสงรัศมีเทพลับ」)
後符「絶対秘神の後光」 (ยันต์หลัง 「แสงรัศมีเทพลับสุดยอด」)
裏夏「スコーチ・バイ・ホットサマー」 (ร้อนเบื้องหลัง 「Scorch by Hot Summer」)
裏夏「異常猛暑の焦土」 (ร้อนเบื้องหลัง 「ปฐพีมอดไหม้ร้อนแรงผิดปกติ」)
裏秋「ダイ・オブ・ファミン」 (ร่วงเบื้องหลัง 「Die of Famine」)
裏秋「異常枯死の餓鬼」 (ร่วงเบื้องหลัง 「เปรตเหี่ยวแห้งตายผิดปกติ」)
裏冬「ブラックスノーマン」 (หนาวเบื้องหลัง 「Black Snowman」)
裏冬「異常降雪の雪だるま」 (หนาวเบื้องหลัง 「ตุ๊กตาหิมะร่วงโรยผิดปกติ」)
裏春「エイプリルウィザード」 (ผลิเบื้องหลัง 「April Wizard」)
裏春「異常落花の魔術使い」 (ผลิเบื้องหลัง 「จอมเวทดอกไม้ร่วงผิดปกติ」)
「裏・ブリージーチェリーブロッサム」 (「Breezy Cherry Blossom・เบื้องหลัง」)
「裏・パーフェクトサマーアイス」 (「Perfect Summer Ice・เบื้องหลัง」)
「裏・クレイジーフォールウィンド」 (「Crazy Fall Wind・เบื้องหลัง」)
「裏・エクストリームウィンター」 (「Extreme Winter・เบื้องหลัง」)
นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม
鼓舞「パワフルチアーズ」 (เต้นกลอง 「Powerful Cheers」)
狂舞「クレイジーバックダンス」 (เต้นคลั่ง 「Crazy Backdance」)
弾舞「二つ目の台風」 (เต้นกระสุน 「ไต้ฝุ่นลูกที่สอง」)
มาตาระ โอคินะ
秘儀「リバースインヴォーカー」 (พิธีลับ 「Reverse Invoker」)
秘儀「裏切りの後方射撃」 (พิธีลับ 「ยิงหลังทรยศ」)
秘儀「弾幕の玉繭」 (พิธีลับ 「หม่อนไหมแฝดห่ากระสุน」)
秘儀「穢那の火」 (พิธีลับ 「ไฟมลทิน」)
秘儀「後戸の狂言」 (พิธีลับ 「ละครตลกประตูหลัง」)
秘儀「マターラドゥッカ」 (พิธีลับ 「มาตาระทุกข์」)
秘儀「七星の剣」 (พิธีลับ 「ดาบเจ็ดดาว」)
秘儀「無縁の芸能者」 (พิธีลับ 「นักแสดงไร้ญาติ」)
「背面の暗黒猿楽」 (「ละครลิงทมิฬเบื้องหลัง」)
「アナーキーバレットヘル」 (「Anarchy Bullet Hell」)
Tips :
- 阿吽の呼吸 ลมหายใจอาอุน สำนวนญี่ปุ่น หมายถึง การประสานลมหายใจในการทำอะไรร่วมกันของคนมากกว่า 1 คน
- ในเกมจะเห็นว่า อาอุนแยกร่างแล้วประสานลมหายใจกับร่างแยกของตัวเอง
- Bohdi = โพธิ = ความตรัสรู้ ความรู้แจ้ง
- คนญี่ปุ่นเชื่อว่ากินขิงแล้วจะขี้ลืม
- เทนกุโอโดชิ ชื่อพิธีบวงสรวงเทพเจ้า ประกอบด้วยการร่ายบทสวดและการเต้นรำ
- ในการบวงสรวงเทพประตูหลังนั้น บางครั้งก็จะทำพิธีด้วยการเล่นละครตลก เช่น ละครลิง (ละครโนบทหนึ่ง) ให้เทพเจ้าชม
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
เนื้อเรื่องและฉากจบ
*กดที่หัวข้อเพื่อแสดงข้อความ*
(หรือกดที่นี่เพื่อแสดงข้อความทั้งหมดในส่วนนี้)
ฉากเลือกตัวละคร
Reimu's Story

Stage 1
เรย์มุ : ร้อนจังเลยน้า
เรย์มุ : ถ้าดูแค่ที่นี่ที่เดียว
เรย์มุ : ก็เหมือนไม่มีอะไรผิดปกติอยู่หรอก......
??? : มีอะไรเหรอ ?
เอเทอร์นิตี้ : มิโกะโผล่ออกมาแบบนี้
เอเทอร์นิตี้ : แปลว่าเกิดเหตุวิปลาสอะไรสักอย่างขึ้นแล้วล่ะสิ― ?
เอเทอร์นิตี้ : ตอนนี้ฉันมีพลังเหลือเฟือเลย
เอเทอร์นิตี้ : ให้ฉันช่วยดีมั้ย
เรย์มุ : แหม แหม คนที่ได้ประโยชน์จากเหตุสี่ฤดูวิปลาส แบบนี้
เรย์มุ : ก็มีแต่พวกภูต(พวกโง่)ที่ไม่เคยทุกข์ร้อนใจเท่านั้นล่ะนะ
เรย์มุ : ฉันไม่ได้ตกต่ำถึงขนาด
เรย์มุ : ที่ต้องให้พวกภูตมาช่วยหรอก
เอเทอร์นิตี้ : เหรอ ?
เอเทอร์นิตี้ : ถ้างั้นขออาละวาดให้สุดเหวี่ยงละกัน
เอเทอร์นิตี้ : เลือดกำลังเดือดพล่านเลยล่ะ !
เอเทอร์นิตี้ : ด้วยความร้อนของช่วงกลางฤดูร้อน !
เอเทอร์นิตี้ : ยอมแล้วจ้า―
เรย์มุ : ฟู่ ตึงมือกว่าที่คิดแฮะ
เอเทอร์นิตี้ : ฉันเองก็ไม่เคยนึกมาก่อนเหมือนกัน
เอเทอร์นิตี้ : ว่าจะปล่อยพลังออกมาได้มากขนาดนี้
เอเทอร์นิตี้ : ท้องฟ้าสีครามของฤดูร้อนทำให้ฉันเป็นแบบนี้
เอเทอร์นิตี้ : ถ้าเป็นตอนนี้ ฉันรู้สึกว่า
เอเทอร์นิตี้ : สามารถเป็นพระเจ้าของโลกใหม่ได้เลยล่ะ !
เรย์มุ : เหรอ......
เรย์มุ : พวกภูตแปลกไปพร้อมๆกับสภาพอากาศที่ผิดปกติ
เรย์มุ : ต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆเลยน้า
Tips :
- เรย์มุตั้งชื่อเหตุวิปลาสในครั้งนี้ว่า เหตุสี่ฤดูวิปลาส
Stage 2
??? : อะไรน่ะ ?
??? : ที่นี่เป็นถิ่นของชั้นนะ
เรย์มุ : หา― ?
เรย์มุ : ถิ่น ?
เนมุโนะ : ใช่แล้ว
เนมุโนะ : คนนอกห้ามเข้ามาตามอำเภอใจนะ
เรย์มุ : ถิ่นงั้นเหรอ
เรย์มุ : ฉันนึกว่าแถวนี้อยู่ในเขตปกครองของพวกเทนกุเสียอีก......
เรย์มุ : เธอไม่น่าจะเป็นเทนกุนี่นา
เรย์มุ : เธอเป็นใครน่ะ ?
เนมุโนะ : จะเป็นใครก็ช่างเหอะ
เนมุโนะ : ถ้าคิดจะอยู่ที่นี่นานไปกว่านี้ล่ะก็
เนมุโนะ : เธอต้องกลายเป็นอาหารสำรองช่วงฤดูหนาวแล้วล่ะ
เนมุโนะ : เธอแข็งแกร่งดีนะ
เนมุโนะ : เธอเป็นใครกันแน่ ?
เรย์มุ : เอ๋ เอ่อ
เรย์มุ : ฉันทำงานเป็นมิโกะอยู่ในศาลเจ้าฮาคุเรย์น่ะ
เนมุโนะ : มิโกะ ?
เนมุโนะ : หืม― ไม่รู้จักแฮะ
เนมุโนะ : แต่ชั้นไม่รังเกียจผู้แข็งแกร่ง
เนมุโนะ : ไปเที่ยวที่บ้านของชั้นมั้ยล่ะ ?
เรย์มุ : จริงสิ เคยได้ยินอยู่นี่นา
เรย์มุ : โยวไคที่ไม่รู้วิถีชีวิตแน่ชัด ปลีกวิเวกถึงขีดสุด
เรย์มุ : อาศัยอยู่ในภูเขาที่ห่างไกลผู้คน
เรย์มุ : ไม่สร้างสังคม ไม่ข้องเกี่ยวกับผู้ใด
เรย์มุ : หรือบางที เธอคือยามันบะล่ะสิ
เนมุโนะ : เคยถูกเรียกแบบนั้นอยู่เหมือนกัน
เนมุโนะ : แล้วพอเข้าฤดูใบไม้ร่วงก็โดนเรียกว่า ทสึรุเบะโอโตชิ
เนมุโนะ : ภูเขาในฤดูใบไม้ร่วง อากาศเย็นลงเร็วมากนะ
เนมุโนะ : มาสิ ไปดื่มน้ำชากันสักหน่อย
เรย์มุ : ขอผ่านดีกว่า
เรย์มุ : ฉันวางแผนไว้ว่าจะมีชีวิตยืนยาวน่ะ......
Tips :
- ทสึรุเบะโอโตชิ แปลว่า ผีถังตก และยังหมายถึงปรากฏการณ์ที่พระอาทิตย์ตกดินเร็วมากในฤดูใบไม้ร่วง
Stage 3
เรย์มุ : พอมาดูแบบนี้แล้ว
เรย์มุ : ท้องฟ้าเหนือศาลเจ้าก็โดนหนักไม่ใช่เล่นแฮะ
เรย์มุ : เคยนึกอยู่ว่ามันคล้ายฤดูใบไม้ผลิอยู่นิดหน่อย
เรย์มุ : แต่แบบนี้มัน......ผิดปกติแล้วล่ะน้า
??? : อ้าว ?
??? : จะทำการต่อสู้ที่ศาลเจ้าเหรอคะ― ?
อาอุน : ฉันเฝ้ายามที่ศาลเจ้ามานานแล้วค่ะ
อาอุน : พวกภูตอยู่ในสภาวะคึกคะนองนิดหน่อย
อาอุน : แต่นอกนั้นก็
อาอุน : ไม่มีผู้บุกรุกที่เป็นอันตรายค่ะ
เรย์มุ : เอ่อ―
เรย์มุ : เธอเป็นใครน่ะ ?
อาอุน : ใจร้ายจังเลยน้า
อาอุน : โคมะอินุ นามว่า โคมาโนะ ไงล่ะค้า
เรย์มุ : ......เคยมีโคมะอินุอยู่ด้วยเหรอ ?
อาอุน : มีสิคะ
อาอุน : ฉันแอบเฝ้ายามพวกศาลเจ้ากับวัดมาตลอดเลยค่ะ
อาอุน : เพราะฉะนั้น
อาอุน : ฉันจะเฝ้าศาลเจ้าให้เอง
อาอุน : ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องผู้บุกรุกค่ะ
อาอุน : กรุณาออกเดินทางอย่างสบายใจได้เลยค่ะ
เรย์มุ : เดี๋ยวสิ ไม่ว่าจะคิดยังไง
เรย์มุ : เธอก็คือผู้บุกรุกไม่ใช่เหรอ !
เรย์มุ : เรื่องที่ว่าเธอเป็นใครกันแน่
เรย์มุ : ฉันจะตรวจสอบให้ถี่ถ้วนเอง !
อาอุน : ใจร้าย―
อาอุน : ฉันแค่คอยปกป้องศาลเจ้า
อาอุน : เท่านั้นเองแท้ๆ
เรย์มุ : ดูเหมือนจะไม่ได้โกหกสินะ
อาอุน : ฉันคอยปกป้องศาลเจ้าและวัด
อาอุน : จากพวกศัตรูธรรมดามาตลอดเลยนะคะ
อาอุน : อารมณ์เหมือน อาสาสมัคร ?
เรย์มุ : งั้นเหรอ ไม่รู้ตัวสักนิดเดียวเลยแฮะ
เรย์มุ : ขอโทษนะ
อาอุน : ไม่เป็นไรค่ะ― เพราะว่าฉันรู้สึกสนุก
อาอุน : ที่ได้อุทิศตนโดยพยายามไม่ให้ใครรู้ตัวค่ะ
อาอุน : แต่ไม่รู้ว่าทำไมครั้งนี้ถึงอดรนทนไม่ได้
อาอุน : จนปรากฏตัวออกมาจนได้ก็ไม่รู้......
อาอุน : เป็นเพราะโดนซากุระล่อลวงรึเปล่าน้า ?
อาอุน : ฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะ
เรย์มุ : ......แต่ว่า โคมะอินุ งั้นเหรอ
เรย์มุ : ดูเหมือนเธอเองก็ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุสี่ฤดูวิปลาสสิน้า
เรย์มุ : ยังเหลืออีกแค่ฤดูกาลเดียว
เรย์มุ : แต่รู้สึกว่าที่นั่นก็คาดหวังไม่ได้แฮะ......
เรย์มุ : ลางสังหรณ์มันทื่อลงแล้วรึไงกันน้า
เรย์มุ : ถึงกับหาเบาะแสของเหตุวิปลาสไม่เจอเลยแบบนี้
เรย์มุ : หรือว่าเผลอมองข้ามจุดสำคัญบางอย่างไป
เรย์มุ : อะไรสักอย่างจากพวกที่ต่อสู้ด้วยมาจนถึงตอนนี้...... ?
อาอุน : เดี๋ยวจะออกเดินทางอีกสินะคะ
อาอุน : ฝากเรื่องการเฝ้าศาลเจ้าไว้ให้ฉันได้เลยค่ะ―
เรย์มุ : ภูต ยามันบะ โคมะอินุ......
เรย์มุ : อืม―......ไม่หรอกมั้ง
เรย์มุ : ไม่สิ แต่ว่า......
Stage 4
??? (ไม) : หรือว่าเธอ
??? (ไม) : คือผู้ที่ถูกเลือกงั้นเหรอ ?
??? (ไม) : อุตส่าห์ลงมือไปอย่างอลังการ
??? (ไม) : กว่าจะโผล่มาได้นี่ก็ช้ากว่าที่คิดน้า
เรย์มุ : เธอเป็นใครกันแน่น่ะ !
??? (นารุมิ) : พลังล้นเอ่อเลย― !
นารุมิ : ทำไมกันนะ
นารุมิ : ทำไมพลังเวทถึงได้เอ่อล้นออกมาขนาดนี้......
นารุมิ : อย่างนี้ต้องทดสอบ
นารุมิ : กับมนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าสักหน่อยแล้ว !
??? (ไม) : อะฮะฮะฮะฮะ
??? (ไม) : คู่ต่อสู้ในคราวนี้คือยัยนี่ต่างหากล่ะ
??? (ไม) : ถ้างั้นเรากลับก่อนนะ―
เรย์มุ : ดะ เดี๋ยว !
นารุมิ : ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน
นารุมิ : แต่ดูเหมือนพายุหิมะจะมอบพลังให้ฉันล่ะ !
เรย์มุ : เธอน่ะ เกะกะ !
เรย์มุ : อุตส่าห์เจอเบาะแสทั้งที
เรย์มุ : หลีกไปซะ !
นารุมิ : นึกว่าใคร
นารุมิ : มิโกะแห่งศาลเจ้าฮาคุเรย์นี่นา
นารุมิ : เข้ามาในป่าเวทมนตร์ด้วยตัวคนเดียวแบบนี้
นารุมิ : บ้าบิ่นไม่เบาเลยนะ
นารุมิ : โอกาสที่จะได้สู้กับมิโกะแบบนี้
นารุมิ : ฉันไม่ปล่อยให้หลุดมือไปหรอก― !
นารุมิ : ตายจริง
นารุมิ : แพ้ซะแล้ว
เรย์มุ : อย่ามาเกะกะสิ
เรย์มุ : เดี๋ยวก็คลาดกับยัยคนเมื่อกี้กันพอดี
เรย์มุ : ทัศนวิสัยยิ่งแย่ๆอยู่ด้วย
นารุมิ : ยัยคนเมื่อกี้...... ?
นารุมิ : พูดเรื่องอะไรอยู่น่ะ
เรย์มุ : ยัยคนที่อยู่ข้างหลังเธอเมื่อกี้ไง
เรย์มุ : ไม่รู้สึกตัวเลยเหรอ ?
นารุมิ : ฉันอยู่คนเดียวมาตลอดเลยนะ......
นารุมิ : อยู่คนเดียวในป่ามาตลอด......
นารุมิ : ซิก......
เรย์มุ : อ๊ะ เอ่อ
เรย์มุ : โทษที
เรย์มุ : แต่ว่า นี่มันหมายความว่ายังไงกัน
เรย์มุ : ยัยคนเมื่อกี้เป็นใครกันแน่ ?
เรย์มุ : ......ในทุกสถานที่ที่มีฤดูผลิร้อนร่วงหนาว
เรย์มุ : พวกที่ซ่อนตัวมาตลอด
เรย์มุ : กลับปรากฏตัวขึ้นมามอบพลังที่ไม่น่าเชื่อให้
เรย์มุ : ไม่มีทางเป็นเรื่องบังเอิญแน่ !
เรย์มุ : คนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังอยู่ใกล้ๆนี่เอง !
นารุมิ : อ่า― รู้สึกร้อนที่ด้านหลังยังไงก็ไม่รู้แฮะ―
นารุมิ : ทั้งที่พายุหิมะกำลังพัดขนาดนี้แท้ๆ
นารุมิ : แปลกจังเลยน้า
เรย์มุ : ด้านหลัง......
เรย์มุ : อ๊ะ !
เรย์มุ : ด้านหลังของเธอ
เรย์มุ : มีประตูอะไรก็ไม่รู้อยู่ด้วย !?
นารุมิ : เอ๋ ?
นารุมิ : อะไรนะ น่ากลัวจัง
เรย์มุ : เจอเบาะแสแล้ว !
เรย์มุ : จะเข้าไปล่ะนะ !
Stage 5
เรย์มุ : เจอตัวแล้ว !
??? (ไม) : อ้าว !?
??? (ไม) : มนุษย์คนเมื่อกี้ ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้...... ?
??? (ไม) : อ๋า― อย่าบอกนะว่า
??? (ไม) : เราเปิดประตูที่ด้านหลังของจิโซวเมื่อกี้ทิ้งเอาไว้
??? (ซาโตโนะ) : โธ่― ไมนี่ล่ะก็
??? (ซาโตโนะ) : ซุ่มซ่ามจริงๆเลยนะ
??? (ซาโตโนะ) : ยังไม่มีคำสั่งออกมาแท้ๆ
??? (ซาโตโนะ) : ดันดึงมนุษย์เข้ามาซะได้―
??? (ไม) : แหม― แต่ก็ได้จังหวะเหมาะเลยนะ
??? (ไม) : ยังไงก็ลงมือไปอย่างอลังการน่าดูแล้วด้วย
??? (ไม) : [ทำได้ดีมาก เหมาะดีทีเดียวเลยนี่นา ?]
??? (ไม) : เราว่าท่านอาจารย์ก็ต้องพูดแบบนี้แหละ
เรย์มุ : เดี๋ยวสิ !
เรย์มุ : พวกเธอเป็นใครกันน่ะ !
ไม : ฮึ เราชื่อ เทย์เรย์ดะ ไม
ซาโตโนะ : ฉันชื่อ นิชิดะ ซาโตโนะ
ซาโตโนะ : ขอกล่าวอีกครั้ง
ซาโตโนะ : ยินดีต้อนรับสู่แดนประตูหลัง
ไม : อาจจะเร็วไปสักหน่อย
ไม : แต่ขอเริ่มการทดสอบเลยละกัน !
เรย์มุ : ทดสอบ ?
เรย์มุ : พูดอะไรของเธออยู่กันแน่เนี่ย
ซาโตโนะ : ถ้าเธออ่อนแอเกินไป
ซาโตโนะ : ท่านอาจารย์จะดุพวกเราเอาได้นะ―
ไม : จะลุยแบบเอาจริงล่ะนะ !
ไม : ถ้าเธอตายเมื่อไหร่ก็ยุติตอนนั้นแหละ !
ซาโตโนะ : ไม่ออมมือให้หรอก
ซาโตโนะ : แต่ถ้าเธอตายก็จะช่วยฆ่าซ้ำให้นะ― !
เรย์มุ : เยี่ยม ชนะแล้ว !
ไม : ไม่เลวนะ
ซาโตโนะ : นั่นสิน้า
ซาโตโนะ : คะแนนผ่านเกณฑ์ ล่ะมั้งน้า
ไม : ดีล่ะ― งั้นยินดีด้วย !
ไม : เธอ―สอบ―ผ่าน !
เรย์มุ : อะไรอีกล่ะเนี่ย ชักหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆแล้วน้า
เรย์มุ : ทั้งที่โดนเล่นงานจนโทรมแท้ๆ
เรย์มุ : พวกเธอเป็นคนก่อเหตุวิปลาสขึ้นมาไม่ใช่เหรอ ?
เรย์มุ : ฉันมาเพื่อหยุดเหตุวิปลาสนะ !
ไม : เหตุวิปลาสที่ว่า หมายถึงเหตุสี่ฤดูวิปลาสเหรอ ?
ไม : อันนั้นพวกเราไม่ได้ทำนะ
เรย์มุ : เอ๋ จริงดิ ?
ซาโตโนะ : จริงจริง
ซาโตโนะ : ไม่ได้ทำจ้า
เรย์มุ : ระ เรื่องบ้าๆแบบนั้น
เรย์มุ : มันจะเป็นไปได้ยังไง !
เรย์มุ : อุตส่าห์นึกว่าเจอเบาะแส
เรย์มุ : แล้วแท้ๆ
ซาโตโนะ : พวกเราสามารถดึงพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวเป้าหมาย
ซาโตโนะ : ออกมาได้อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยการเต้นอยู่ข้างหลังน่ะ
ไม : พวกเราได้รับคำสั่งให้ออกตามหาความเป็นไปได้
ไม : ของพวกที่เอาแต่ซ่อนตัวมาตลอด
ไม : พร้อมกับจับกุมตัวบุคคลที่มีศักยภาพ
ไม : และความ Aggressive อย่างเธอ
ซาโตโนะ : เหตุสี่ฤดูวิปลาส เป็นฝีมือของพวกชินเรย์ วิญญาณ ภูต
ซาโตโนะ : ที่อาละวาดเพราะผลจากการเต้นรำของพวกเราต่างหาก
เรย์มุ : ......อืม― เอ่อ― ?
เรย์มุ : งั้นก็แปลว่า เหตุสี่ฤดูวิปลาส
เรย์มุ : เป็นฝีมือของพวกเธอทางอ้อมน่ะสิ
ซาโตโนะ : คงงั้นล่ะมั้ง― ?
ไม : เอาล่ะ ยังไงก็ผ่านการทดสอบแล้ว
ไม : ขอเชื้อเชิญเธอ !
ไม : สู่เบื้องหน้าของเทพลับสูงสุดแห่งเบื้องหลัง !
Stage 6
เรย์มุ : แฮ่กแฮ่ก......
เรย์มุ : อีกฟากของประตูด้านหลังมันกว้างถึงขนาดนี้
เรย์มุ : โลกเรานี่มีแต่เรื่องมหัศจรรย์เต็มไปหมดเลยน้า
??? : โอ้ ในที่สุดก็มาแล้ว
??? : เธอคือมนุษย์ที่บริวารทั้งสองพูดถึงสินะ
เรย์มุ : โผล่มาแล้วเรอะ !
เรย์มุ : เธอคือคนที่บงการให้เกิดเหตุวิปลาสสินะ !
??? : เหตุวิปลาส ?
??? : ถ้าหมายถึงเรื่องที่สี่ฤดูผิดเพี้ยน
??? : นั่นเป็นเพราะการอาละวาดของภูตต่างหาก
??? : กล่าวคือ มันเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ
??? : ไม่ใช่ความรับผิดชอบของใครทั้งนั้น
เรย์มุ : ฉันไม่คิดจะฟังคำแก้ตัวพรรค์นั้นหรอก !
เรย์มุ : ลุยล่ะนะ !
??? : เอาน่า เดี๋ยวก่อน
??? : เดี๋ยวหลังจากนี้ก็ต้องบอกลากันแล้ว
??? : คุยกันมากกว่านี้สักหน่อยก็ได้นี่นา
??? : ฉันชื่อ มาตาระ โอคินะ
โอคินะ : เทพแห่งประตูหลัง
โอคินะ : เทพแห่งสิ่งกีดขวาง
โอคินะ : เทพแห่งละครโน
โอคินะ : เทพารักษ์ เทพดวงดาว
โอคินะ : และเป็นหนึ่งในนักปราชญ์
โอคินะ : ผู้สร้างเกนโซวเคียวแห่งนี้ขึ้นมา
โอคินะ : นี่ก็ใกล้ถึงเวลาที่จะต้องหาผู้สืบทอด
โอคินะ : ของบริวารทั้งสอง(ยัยพวกนั้น)แล้วล่ะนะ
เรย์มุ : ผู้สืบทอด ?
เรย์มุ : คิดจะทำอะไรกับฉันน่ะ ?
โอคินะ : แต่ว่า......ยัยเด็กไม่ได้เรื่องสองคนนั่น
โอคินะ : ดันพามนุษย์ที่แข็งแกร่งเอาเรื่องมาซะได้
โอคินะ : มิโกะแห่งศาลเจ้าฮาคุเรย์เนี่ยน้า
โอคินะ : เอาล่ะ แน่นอนว่าเธอสอบไม่ผ่าน
โอคินะ : กลับไปยังโลกเบื้องหน้าได้
เรย์มุ : หา ?
เรย์มุ : อย่ามาล้อเล่นนะ !
เรย์มุ : ต่อให้เธอไม่มีธุระ
เรย์มุ : แต่ฉันมี !
เรย์มุ : การคลี่คลายเหตุวิปลาสคืองานของฉัน !
เรย์มุ : ฉันจะโค่นเธอแล้วทำให้เกนโซวเคียวกลับเป็นเหมือนเดิม !
โอคินะ : โง่จริงน้า
โอคินะ : ขอพูดให้ชัดเจน !
โอคินะ : ตัวเธอในตอนนี้ไม่สามารถเอาชนะฉันได้หรอก
โอคินะ : ตราบเท่าที่ยังมีประตูสี่ฤดูอยู่ข้างหลังเธอ
โอคินะ : การต่อสู้กับฉันย่อมเป็นได้เพียงเรื่องไร้สาระเท่านั้น
เรย์มุ : เฮอะ เลิกอ้างโน่นอ้างนี่แล้วมาลุยกันเลย !
โอคินะ : เอางั้นก็ได้
โอคินะ : ถ้าพูดถึงขนาดนั้นก็ลองแสดงให้ฉันดูหน่อยซิ !
โอคินะ : ละครโนทมิฬที่ร่ายรำไปบน
โอคินะ : ห่ากระสุนแห่งความวิกลจริตคลุ้มคลั่ง !
ถ้าผู้เล่นมิได้ใช้คอนทินิวระหว่างเล่น >> Ending No.01 (Reimu's Good Ending)
ถ้าผู้เล่นทำการคอนทินิวระหว่างเล่น >> Ending No.02 (Reimu's Bad Ending)
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Cirno's Story

Stage 1
ชิลโน่ : ว้าย― !
ชิลโน่ : ฤดูร้อนสุดยอดไปเลยโว้ย― !
??? : ว้าย―
??? : สุดยอดไปเลย― !
เอเทอร์นิตี้ : โอ๊ะ ตากแดดจนผิวคล้ำเลยน้า
เอเทอร์นิตี้ : กำลัง Enjoy กับฤดูร้อนอยู่ล่ะสิ ?
ชิลโน่ : แน่นอนอยู่แล้ว― !
ชิลโน่ : ท่านภูตน้ำแข็งสามารถแสดงคุณสมบัติเฉพาะตัวได้ในฤดูร้อนเลยนะ !
เอเทอร์นิตี้ : ภูตผีเสื้ออาเกฮะเองก็ไม่ยอมแพ้หรอก !
เอเทอร์นิตี้ : พลังมันเอ่อล้นขึ้นมาอย่างไร้ขีดจำกัดเลย !
เอเทอร์นิตี้ : ฤดูร้อนจะเป็นของใคร มาตัดสินกันเลย !
ชิลโน่ : ชนะแล้ว !
ชิลโน่ : ขอรับฤดูร้อนไปล่ะโว้ย !
เอเทอร์นิตี้ : แพ้ซะแล้ว―
เอเทอร์นิตี้ : เธอไม่เลวเลยนี่นา !
ชิลโน่ : เพิ่งเคยปล่อยพลังได้มากขนาดนี้
ชิลโน่ : เป็นครั้งแรกเลยโว้ย―
ชิลโน่ : เค้าจะยึดครองเกนโซวเคียวในสภาพนี้เลย !
เอเทอร์นิตี้ : พยายามในส่วนของฉันด้วยนะ !
เอเทอร์นิตี้ : ฉันคาดหวังในตัวเธอนะ !
ชิลโน่ : วางใจได้เลย !
ชิลโน่ : เค้าจะสร้างอนาคตของเหล่าภูต(พวกเรา)เอง !
Stage 2
??? : อะไรน่ะ ?
??? : ที่นี่เป็นถิ่นของชั้นนะ
ชิลโน่ : ใครจะไปสนล่ะ !
ชิลโน่ : เค้าคือภูตที่จะกลายเป็นผู้ปกครองเกนโซวเคียวนะโว้ย― !
ชิลโน่ : จะไปทำอะไรที่ไหน
ชิลโน่ : มันก็คืออิสระของเค้า― !
เนมุโนะ : ผู้ปกครอง ?
เนมุโนะ : งั้นเหรอ จะปกครองหรืออะไรก็ตามใจเถอะ
เนมุโนะ : แต่เอาเป็นว่า
เนมุโนะ : ออกไปจากที่นี่เสียเถอะ
ชิลโน่ : หนอยแน่―
ชิลโน่ : สายตาแบบนั้นคือการดูถูกล่ะสิ― ?
ชิลโน่ : ถ้าอย่างนั้นก็ต้องใช้กำลัง !
เนมุโนะ : เป็นภูตที่ห้าวหาญดีนะ
เนมุโนะ : เอาสิ
เนมุโนะ : ชั้นจะสับเป็นชิ้นๆให้อย่างที่เธอต้องการ
เนมุโนะ : เธอเป็นภูตจริงๆเหรอ ?
เนมุโนะ : ไม่เลวเลยนี่นา
ชิลโน่ : พลังมันผุดขึ้นมาได้ไงก็ไม่รู้จนช่วยไม่ได้เลยล่ะ
ชิลโน่ : พระอาทิตย์ช่วงกลางฤดูร้อน
ชิลโน่ : คือสิ่งที่ทำให้เป็นแบบนี้แน่ๆ
เนมุโนะ : กลางฤดูร้อนงั้นเหรอ ?
เนมุโนะ : พูดอะไรของเธอน่ะ
เนมุโนะ : ตอนนี้เป็นช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วงต่างหากล่ะ
ชิลโน่ : กลางฤดูใบไม้ร่วง ?
ชิลโน่ : อ๊ะ จะว่าไปแล้ว―
ชิลโน่ : เริ่มหนาวขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ !
ชิลโน่ : นะ.. นี่มันยังไงกัน ?
ชิลโน่ : จำได้ว่าเป็นช่วงกลางฤดูร้อนจนถึงเมื่อตอนเที่ยงนี่นา......
เนมุโนะ : อาการหนักแบบนั้นจะเป็นอะไรรึเปล่านะ
เนมุโนะ : ผู้ปกครองแห่งเกนโซวเคียวเนี่ย......
เนมุโนะ : ช่างเหอะ ช่วยออกไปก่อนเถอะ
เนมุโนะ : คุณผู้ปกครองตัวน้อย
ชิลโน่ : เอ้อ ช่างเถอะ
ชิลโน่ : ตอนอากาศเย็นแบบนี้นี่แหละคือช่วงแสดงคุณสมบัติเฉพาะตัวของเค้า― !
Stage 3
ชิลโน่ : โอ้ ใบโมมิจิเต็มศาลเจ้าเลยแฮะ―
??? : ใบโมมิจิงั้นเหรอ― ?
อาอุน : ความแตกต่างระหว่างซากุระกับใบโมมิจิ
อาอุน : เธอแยกไม่ออกสินะ
ชิลโน่ : ซากุระงั้นเหรอ ?
ชิลโน่ : อย่ามาพูดอะไรบ้าๆน่า ฤดูใบไม้ร่วงจะมีซากุระ......
ชิลโน่ : โอ้― !?
ชิลโน่ : ซากุระนี่นา― !
อาอุน : ถึงจะโง่ไปหน่อย
อาอุน : แต่เฉพาะเรื่องพลังภูตนี่ไม่ใช่เล่นเลยนะ
ชิลโน่ : นี่มันอะไรกันเนี่ย
ชิลโน่ : วันนี้สุดยอดทั้งวันเลยน้า
ชิลโน่ : แค่วันเดียว
ชิลโน่ : เจอทั้งกลางฤดูร้อน กลางฤดูใบไม้ร่วง กลางฤดูใบไม้ผลิเลย
อาอุน : กลางฤดูใบไม้ร่วง กลางฤดูใบไม้ผลิ งั้นเหรอ
อาอุน : ปกติเขาไม่เรียกกันแบบนั้นนะ
ชิลโน่ : เอ๋ จริงเหรอ ?
ชิลโน่ : แต่ช่างเถอะ ไว้ยึดอำนาจได้เมื่อไหร่
ชิลโน่ : เค้าจะทำให้ทุกคนต้องเรียกแบบนั้นเอง !
อาอุน : พวกภูตที่อยู่รอบๆนี้ก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน
อาอุน : ดูเหมือนจะมีพลังมากกว่าปกติสินะ
อาอุน : เห็นแบบนี้แล้วก็น่าเสียดาย
อาอุน : แต่ยังไงก็ต้องไล่ไปล่ะน้า
อาอุน : ในฐานะเทพพิทักษ์ศาลเจ้า !
อาอุน : ขะ.. แข็งแกร่ง―
อาอุน : รู้ตัวอยู่หรอกว่าพวกภูตมีพลังมากขึ้น
อาอุน : แต่ไม่นึกว่าจะมากขนาดนี้
ชิลโน่ : ดีล่ะ―
ชิลโน่ : เข้าใกล้การเป็นผู้ปกครองไปอีกก้าวแล้ว―
อาอุน : ถ้าหากเอาจริง
อาอุน : ฉันเองก็คงเอาชนะเธอได้ แต่ว่า......
อาอุน : หากปล่อยพลังมากไปกว่านี้
อาอุน : เดี๋ยวจะคุมไม่อยู่จนอาละวาดเสียเอง
ชิลโน่ : แพ้แล้วโทษนั่นโทษนี่งั้นเหรอ― ?
ชิลโน่ : ไม่เท่เลยน้า―
อาอุน : กรอดดด
ชิลโน่ : เอาล่ะ―
ชิลโน่ : ไปที่ไหนต่อดีน้า―
ชิลโน่ : ถ้าเป็นตอนนี้ ไม่รู้สึกว่าจะแพ้ใครเลยโว้ย―
อาอุน : เอาเถอะ ถ้ายอมไปจากศาลเจ้า(ที่นี่)
อาอุน : ฉันก็จะไม่บ่นอะไรหรอกนะ
อาอุน : แต่ระวังตัวเอาไว้จะดีกว่านะ
อาอุน : พลังชั่วคราวนั่นต้องมีอะไรบางอย่างอยู่เบื้องหลังแน่
อาอุน : ฉันสัมผัสได้ถึงความมุ่งร้ายจากพลังนั่น......
อาอุน : อ้าว ไม่อยู่แล้ว !
อาอุน : แบบนั้นเดี๋ยวต้องเจอดีแน่เลย
Stage 4
??? (ไม) : อื๋อ ? ภูตตรงนั้น
??? (ไม) : มีอะไรเหรอ ?
ชิลโน่ : คู่ต่อสู้คราวนี้คือเธองั้นเรอะ― !
ชิลโน่ : มาสู้กันโดยเดิมพันว่าใครแข็งแกร่งที่สุด !
??? (ไม) : อุ๊บฮะฮะฮะ―
??? (ไม) : การที่ภูต(เธอ)ได้รับพลังมา
??? (ไม) : เธอคิดว่าเป็นเพราะใครกันล่ะ
??? (นารุมิ) : พลังล้นเอ่อเลย― !
นารุมิ : ทำไมกันนะ
นารุมิ : ทำไมพลังเวทถึงได้เอ่อล้นออกมาขนาดนี้......
นารุมิ : อยากลองใช้กับภูตจัง !
??? (ไม) : อะฮะฮะฮะฮะ
??? (ไม) : เชิญทั้งสองคนตีกันเองไปละกัน―
??? (ไม) : ถ้างั้นเรากลับก่อนนะ―
ชิลโน่ : หนอย ไม่เข้าใจเลยสักนิด
ชิลโน่ : ว่ายัยนั่นพูดอะไร
ชิลโน่ : แต่มีคนที่แข็งแกร่งกว่าโผล่มา
ชิลโน่ : แบบนี้ก็ดีแล้ว
นารุมิ : เธออาจจะมองไม่เห็น
นารุมิ : เพราะพายุหิมะหลงฤดู
นารุมิ : แต่ที่นี่คือป่าเวทมนตร์นะ
ชิลโน่ : แล้วไง ?
นารุมิ : ไม่ว่าใครหน้าไหน
นารุมิ : ก็สู้คนที่เชี่ยวชาญเวทมนตร์อย่างฉันไม่ได้หรอก
ชิลโน่ : อีโง่ !
ชิลโน่ : อีหัวหมวกฟางโง่ !
ชิลโน่ : คนที่แข็งแกร่งกว่าต้องชนะการประลองอยู่แล้ว
ชิลโน่ : เพราะงั้นเค้าจะชนะ !
นารุมิ : มั่นใจสุดๆเลยน้า
นารุมิ : จิโซว(ฉัน)คงอยู่ในโลกใบนี้
นารุมิ : เพื่อช่วยสรรพชีวิตในยุคที่ไร้ซึ่งพุทธ
นารุมิ : แต่ภูตไม่นับเป็นเป้าหมายนะ
นารุมิ : ช่างน่าเสียดายจริงๆ ไว้เจอกันอีกในชาติหน้านะ― !
นารุมิ : ภะ ภูตตนนี้
นารุมิ : ไม่เลวเลย !
ชิลโน่ : อ่อนแอซะจริง
ชิลโน่ : พลังเอ่อล้นขึ้นมาเรื่อยๆเลยโว้ย―
นารุมิ : อย่างนี้นี่เอง ฉันเองก็คิดอยู่เหมือนกัน
นารุมิ : ว่าตัวเองมีพลังมากกว่าปกติ
นารุมิ : เธอเองก็มีพลังแปลกประหลาดนี่
นารุมิ : เหมือนกันสินะ
นารุมิ : ถ้าเป็นการต่อสู้ระหว่างผู้เสริมพลัง
นารุมิ : ก็พอจะยอมรับได้ว่านี่คือพลังของภูต
ชิลโน่ : ไม่ใช่อย่างนั้นซ้าก~หน่อย
ชิลโน่ : นี่คือพลังดั้งเดิมที่แท้จริงต่างหากล่ะ
นารุมิ : บอกตามตรงนะ
นารุมิ : เวทมนตร์ของฉันคือการควบคุมพลังชีวิต
นารุมิ : ถ้าหากเอาจริง กลุ่มก้อนพลังชีวิตอย่างภูตแบบเธอ
นารุมิ : ก็น่าจะทำให้สิ้นพลังจนหมดได้
นารุมิ : แต่ทำไมถึงใช้กับเธอไม่ได้ผลกันนะ
ชิลโน่ : เธออยากพูดอะไรกันแน่ ?
นารุมิ : สรุปคือ ตอนนี้ตัวเธอกำลังเคลื่อนไหว
นารุมิ : ด้วยพลังอื่นที่ไม่ใช่พลังของภูต......
นารุมิ : อื๋อ !?
นารุมิ : มีประตูอยู่ข้างหลังเธอแน่ะ !?
ชิลโน่ : ข้างหลังเค้ามีอะไรเหรอ ?
ชิลโน่ : ......อ๊า !?
นารุมิ : ภูตหายไปแล้ว...... !?
นารุมิ : ดูเหมือนพอสัมผัสด้านหลังก็ถูกดูดไปเลย......
นารุมิ : ......
นารุมิ : ......เอาเถอะ ยังไงภูตก็ไม่ใช่เป้าหมายในการช่วยเหลืออยู่ดี
นารุมิ : ทำเป็นไม่เห็นละกัน ทำเป็นไม่เห็น
Stage 5
ชิลโน่ : ที่นี่ที่ไหนน่ะ ?
ชิลโน่ : มืดสลัวจนน่าเบื่อเลย―
??? (ไม) : อ้าว !?
??? (ไม) : ภูตตนเมื่อกี้ ?
??? (ไม) : ไม่จริงน่า ภูตตนนี้เอาชนะจิโซวเมื่อกี้ได้งั้นเหรอ―
??? (ไม) : ผิดคาดเลยแฮะ
ชิลโน่ : ใครน่ะ ?
ชิลโน่ : ทำไมถึงรู้จักเค้าด้วยล่ะ
??? (ไม) : อ้าว ?
??? (ไม) : ไอ้ที่เพิ่งเจอกันเมื่อกี้นี่คือการคิดไปเองงั้นเหรอ ?
??? (ซาโตโนะ) : โธ่― ไมนี่ล่ะก็
??? (ซาโตโนะ) : ซุ่มซ่ามจริงๆเลยนะ
??? (ซาโตโนะ) : ดึงภูตเข้ามาแบบนี้
??? (ซาโตโนะ) : แล้วจะทำยังไงกันดีล่ะ
??? (ไม) : เราวางแผนเอาไว้ว่าจะเลือก
??? (ไม) : ยัยจิโซวเวทมนตร์นั่นอยู่น้า
??? (ไม) : แต่ดูเหมือนจะเกิดเรื่องเหนือความคาดหมายขึ้นน่ะ
ชิลโน่ : มัวบ่นโน่นบ่นนี่อยู่ได้
ชิลโน่ : ทางนี้ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ OK เสมอนะ !
ไม : สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือเครื่องปรุงชั้นยอดที่สุดของชีวิต
ซาโตโนะ : โธ่― ไมนี่ล่ะก็
ซาโตโนะ : เพราะคิดแบบนั้นถึงต้องลำบากทุกทีนี่ล่ะ
ไม : ภูตที่เหนือความคาดหมายเป็นผู้ถูกเลือก
ไม : ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ
ซาโตโนะ : ต้องแข็งแกร่งเพียงพอสำหรับการนั้นด้วยน้า―
ซาโตโนะ : เพราะงั้นพวกเราขอทดสอบ !
ซาโตโนะ : พลังที่แท้จริงของเธอ !
ชิลโน่ : ใครจะเข้ามาประลองก่อนล่ะ
ชิลโน่ : รีบตัดสินใจเลย !
ไม : สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือเครื่องปรุงชั้นยอดที่สุดของชีวิต
ไม : เธอเองก็คิดเหมือนกันล่ะสิ ?
ไม : จงยินดีเถิด ชาติพันธุ์นักสู้เอ๋ย !
ไม : คู่ต่อสู้ของเธอคือสองคนในคราวเดียวกัน !
ชิลโน่ : ยะ ยังจะเอาอีกเรอะ !
ไม : ประมาณนี้ก็พอมั้ง
ซาโตโนะ : เห― ไม่เลวเลยนะ
ซาโตโนะ : สำหรับเผ่าภูต......แต่ว่า
ไม : น่าเสียดายที่สอบไม่ผ่าน
ชิลโน่ : หา ?
ชิลโน่ : เหมือนโดนดูถูกยังไงชอบกล ?
ไม : สุดท้ายแล้ว เธอก็แค่กำลังต่อสู้
ไม : ด้วยพลังที่พวกเรามอบให้เท่านั้นเอง
ซาโตโนะ : พลังดั้งเดิมของเธอ
ซาโตโนะ : ไม่ได้มากมายอะไรเลย
ชิลโน่ : มัวบ่นโน่นบ่นนี่อะไรอยู่ได้ ?
ชิลโน่ : ตอนนี้เค้าเป็นฝ่ายชนะแล้วไม่ใช่เหรอ
ไม : เพราะนี่เป็นการทดสอบไงล่ะ
ซาโตโนะ : ตอนนี้เธอแค่แข็งแกร่งขึ้น
ซาโตโนะ : ด้วยพลังของพวกเราเท่านั้นเอง
ซาโตโนะ : พวกเราเลยแกล้งทำเป็นต่อสู้
ซาโตโนะ : จนมองเห็นพลังดั้งเดิมของเธอแล้วล่ะ
ชิลโน่ : อย่ามาล้อเล่นนะ !
ชิลโน่ : จะบอกว่าพวกเธอทำอะไรบางอย่างกับเค้างั้นเหรอ !?
ชิลโน่ : อย่างนี้นี่เอง เข้าใจแล้ว !
ชิลโน่ : แปลว่าพลังดั้งเดิมสุดยอดยิ่งกว่านี้อีกสินะ !
ซาโตโนะ : โทษทีนะ รอเดี๋ยว
ซาโตโนะ : ......เอ๋ ?
ซาโตโนะ : ......เข้าใจแล้วค่ะ
ไม : อะไร ?
ไม : ท่านอาจารย์ติดต่อมาเหรอ ?
ซาโตโนะ : ท่านอาจารย์เรียกพวกเราน่ะ
ซาโตโนะ : คงเรียกไปดุล่ะมั้ง
ไม : แหงะ― !
ไม : ไม่ชอบเลยน้า
ชิลโน่ : เดี๋ยวก่อนสิ
ชิลโน่ : แต่พูดไปก็ไม่มีใครอยู่แล้วนี่นะ
ชิลโน่ : ......อืม― เอ่อ― ?
ชิลโน่ : กรณีนี้ทำยังไงดีหว่า
ชิลโน่ : อีกอย่าง ยัยพวกนั้นมันอะไรกันน่ะ
ชิลโน่ : รู้สึกเหมือนไม่เห็นเค้าอยู่ในสายตาเลย
ชิลโน่ : ......
ชิลโน่ : เหมาะเลย
ชิลโน่ : แปลว่าอาละวาดได้ตามใจชอบเลยสินะ !
Stage 6
ชิลโน่ : ยัยพวกเมื่อกี้
ชิลโน่ : ไปไหนกันแล้วนะ ?
ชิลโน่ : แต่พูดก็พูดเถอะ
ชิลโน่ : ที่นี่มืดจนน่าเบื่อเป็นบ้าเลย
ชิลโน่ : กลับดีกว่า
??? : เธอเป็นใครน่ะ
??? : ยัยบริวารสองคนนั่นทำอะไรอยู่น่ะ ?
??? : ภูตพิลึกๆหลงเข้ามาแล้วนะ
ชิลโน่ : เธอเป็นใครน่ะ !
ชิลโน่ : ท่าทางแข็งแกร่งอย่างบอกไม่ถูกเลย !
ชิลโน่ : มาสู้กับเค้าซะ !
ชิลโน่ : เดิมพันกันว่าใครแข็งแกร่งที่สุด !
??? : เธอไม่รู้ตัวเลยเหรอ ?
??? : ถ้าอาละวาดมากไปกว่านั้น
??? : ต่อให้เป็นภูตก็อาจจะคงสภาพไว้ไม่ได้นะ
??? : หลักฐานคือ
??? : ผิวของเธอกำลังคล้ำขึ้นไม่ใช่เหรอ
ชิลโน่ : หา ? นี่เขาเรียกว่าตากแดดจนผิวคล้ำโว้ย !
ชิลโน่ : เครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งฤดูร้อน !
โอคินะ : ผิดแล้ว
โอคินะ : ผลกระทบของการอาละวาด
โอคินะ : กำลังแสดงออกมาทางภายนอกเท่านั้นเอง
โอคินะ : จงไปจากที่นี่
โอคินะ : ก่อนที่จะสูญเสียตัวตนไปจะดีกว่า
โอคินะ : ฉันจะบอกสองคนนั่นให้ปลดปล่อย
โอคินะ : พลังแห่งด้านหลังที่มอบให้แก่เธอ
โอคินะ : เธอจะได้อ่อนแอลงอย่างปลอดภัย
โอคินะ : ผิวหนังก็จะกลับเป็นปกติดังเดิมด้วย
ชิลโน่ : พลังแห่งด้านหลังที่ว่านั่นคืออะไรเหรอ
โอคินะ : หมายถึงอาวุธฤดูกาล(ไอ้นั่น)
โอคินะ : ที่คอยตามหลังเธอมายังไงล่ะ
โอคินะ : ถ้าไม่มีผลกระทบจากสิ่งนั้น
โอคินะ : พลังของเธอก็จะน้อยจนน่าสังเวช
ชิลโน่ : หา ?
ชิลโน่ : ไอ้นี่คือพลังของเค้าต่างหากล่ะ !
ชิลโน่ : เธอจะกลัวคนที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างเค้าก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ?
ชิลโน่ : เดี๋ยวจะขยี้ให้เละเลยโว้ย !
โอคินะ : เธอจะประลองกับฉันที่เป็นคนควบคุมพลังของเธอเนี่ยนะ
โอคินะ : ไม่มีอะไรโง่เง่าไปมากกว่านี้อีกแล้ว
โอคินะ : แต่ว่า......เอาสิ
โอคินะ : ฉันเองก็สนใจในพลังของภูตมานานแล้วเหมือนกัน
โอคินะ : นานๆทีเลือกภูตมาเป็นลูกน้องบ้าง
โอคินะ : อาจจะสนุกดีก็ได้
โอคินะ : แต่นั่นก็เป็นเรื่องหลังจากที่พบว่า
โอคินะ : พลังของเธอมีค่าพอให้เหลียวมองน่ะนะ
โอคินะ : จงปลดปล่อยพลังออกมาให้สุดกำลังเลย
โอคินะ : แล้วแสดงให้ฉันดูหน่อยซิ !
โอคินะ : ละครโนทมิฬที่ร่ายรำโดยภูต !
ถ้าผู้เล่นมิได้ใช้คอนทินิวระหว่างเล่น >> Ending No.03 (Cirno's Good Ending)
ถ้าผู้เล่นทำการคอนทินิวระหว่างเล่น >> Ending No.04 (Cirno's Bad Ending)
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Aya's Story

Stage 1
อายะ : ท้องฟ้าเหนือป่าตีนเขาเป็นช่วงกลางฤดูร้อนสินะ
อายะ : ทั้งที่บนยอดเขาเป็นฤดูใบไม้ร่วงแท้ๆ......
??? : พลังเหลือเฟือ―
เอเทอร์นิตี้ : นี่นี่ คนตัวดำตรงนั้นน่ะ―
เอเทอร์นิตี้ : สนุกกับฤดูร้อนอยู่เหรอ― ?
เอเทอร์นิตี้ : ถ้าว่างอยู่ ช่วยทำให้ฉันเย็นขึ้น
เอเทอร์นิตี้ : ด้วยพัดที่ใหญ่อย่างไร้สาระนั่นหน่อยสิ―
อายะ : ฤดูกาลก็ผิดเพี้ยน
อายะ : ความคึกคะนองของพวกภูตก็ผิดเพี้ยน
อายะ : ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้
อายะ : ถ้างั้นฉันจะพัดให้ปลิวหายไปในชั่วอึดใจเลยละกัน
เอเทอร์นิตี้ : ว้าย― ต่อสู้ล่ะ ต่อสู้ !
เอเทอร์นิตี้ : สงครามกลางฤดูร้อน !
เอเทอร์นิตี้ : ยอมแล้วจ้า―
อายะ : ใช้พลังงาน
อายะ : ไปกับเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับคดีจนได้
อายะ : แต่ว่า......
อายะ : คุณเป็นภูตที่แข็งแกร่งดีนะ
เอเทอร์นิตี้ : พลังมันเหลือเฟือเลยช่วยไม่ได้น่ะ
เอเทอร์นิตี้ : ถ้าเป็นตอนนี้ น่าจะเป็นพระเจ้าของโลกใหม่ได้เลยล่ะ
อายะ : ภูตรูปแบบแมลงออกอาละวาด......
อายะ : รู้สึกเหมือนเป็นผลจากความร้อนของฤดูร้อนล่ะมั้ง
อายะ : ดูเหมือนจะเป็นคดีที่เขียนให้เป็นข่าวไม่ได้แฮะ
อายะ : เก็บข้อมูลเรื่องสภาพอากาศผิดปกติต่อไปดีกว่า
Stage 2
??? : อะไรกัน ?
??? : ทำไมเทนกุมาอยู่ที่นี่ได้ ?
??? : สัญญากันว่าจะไม่เข้ามาที่นี่นี่นา
อายะ : โอ๊ะ ขอประทานอภัยค่ะ
อายะ : ที่นี่เป็นถิ่นของคุณสินะคะ
เนมุโนะ : ถ้ารู้แล้วยังเข้ามา
เนมุโนะ : มันก็เป็นปัญหาอยู่น้า
อายะ : ฉันมาหาข่าวนิดหน่อยน่ะค่ะ
อายะ : ดูเหมือนบริเวณนี้จะเป็นใจกลางของฤดูใบไม้ร่วง
อายะ : เลยอยากสอบถามข้อมูลให้ได้น่ะค่ะ
เนมุโนะ : ภูเขาลูกนี้
เนมุโนะ : ไม่ใช่ของพวกเธอฝ่ายเดียวนะ
เนมุโนะ : การลงมือฉีกสนธิสัญญาไม่รุกรานกัน
เนมุโนะ : คือวิธีการของพวกเทนกุ(พวกเธอ)งั้นสิ
เนมุโนะ : ถ้างั้นชั้นก็จะต้อนรับเธอ
เนมุโนะ : ด้วยวิธีการของชั้น
เนมุโนะ : วิธีการของยามันบะ !
อายะ : หยุดสักเดี๋ยวเถอะค่ะ
อายะ : ฉันไม่ได้คิดร้ายอะไร
อายะ : ต่อคุณเลยนะคะ
อายะ : ฉันเคารพในหลักการธรรมชาตินิยม
อายะ : และหลักการถือสันโดษของยามันบะ(พวกคุณ)ค่ะ
อายะ : ฉันแค่อยากถามอะไรบางอย่างเท่านั้นเอง
อายะ : นั่นคือสาเหตุที่ฉันมาที่นี่ค่ะ......
เนมุโนะ : อะฮะฮะ
เนมุโนะ : พวกเทนกุนี่รับมือยากชะมัดเลยแฮะ
เนมุโนะ : ใช้กำลังข่มขู่คนอื่น
เนมุโนะ : เพราะอยากถามอะไรบางอย่างเนี่ยนะ
เนมุโนะ : ชักถูกใจแล้วสิ
เนมุโนะ : จะหาข่าวหรืออะไรก็ว่ามาได้เลย
อายะ : ขอบพระคุณมากค่ะ
อายะ : ฉันทราบนะคะ
อายะ : ว่าจริงๆแล้วพวกคุณเป็นเผ่าพันธุ์ที่เป็นมิตร
เนมุโนะ : แล้วตกลงจะหาข่าวเรื่องอะไรล่ะ
อายะ : เกี่ยวกับฤดูใบไม้ร่วงในปีนี้
อายะ : พอจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่างบ้างมั้ยคะ ?
เนมุโนะ : เห― เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ ?
Stage 3
อายะ : ซากุระงดงามจริงๆเลยน้า
อายะ : แต่ดูแล้วเหมือนกับว่าศาลเจ้ากำลังถูกสิง
อายะ : โดยพวกภูตและโยวไคที่ออกอาละวาดเลย
อายะ : เรย์มุไม่อยู่รึไงนะ
อายะ : ไม่รู้จักทุกข์ร้อนเสียบ้างเลย
??? : เทนกุนักข่าวเหรอ― ?
??? : ถ้ามาหาข่าวเรื่องการอาละวาด ฉันขอปฏิเสธนะ
??? : ออกไปเดี๋ยวนี้เลย―
อายะ : เอ๋ ?
อายะ : คุณเป็นใครกัน......
อาอุน : ฉันคือเทพพิทักษ์ศาลเจ้า
อาอุน : โคมะอินุ นามว่า โคมาโนะ
อาอุน : ฉันกำลังขับไล่ผู้บุกรุก
อาอุน : ในระหว่างที่มิโกะไม่อยู่น่ะ
อายะ : โคมะอินุ งั้นเหรอคะ
อายะ : มีของแบบนี้อยู่ด้วยแฮะ
อายะ : แต่ก็ดีแล้วค่ะ
อายะ : ฉันอยากถามอะไรสักหน่อยน่ะค่ะ
อาอุน : เฮ้ย―
อาอุน : บอกแล้วไงว่ากำลังขับไล่ผู้บุกรุก
อาอุน : ถ้าคิดจะอยู่ในศาลเจ้านานกว่านี้
อาอุน : ฉันจะไม่ปรานีแล้วนะ !
อายะ : ถ้างั้น ช่วยเล่าเรื่องเกี่ยวกับซากุระ
อายะ : ที่ผิดปกติเหล่านี้ให้ฟังหน่อยนะคะ
อาอุน : คัดค้านการใช้กำลัง―
อายะ : คนที่พยายามขับไล่คนอื่นด้วยกำลัง
อายะ : ยังมีสิทธิพูดอะไรด้วยเหรอคะ
อาอุน : ช่วยไม่ได้น้า
อาอุน : เรื่องของซากุระสินะ ?
อาอุน : หรือว่าเรื่องของพวกภูตที่กำลังอาละวาด ?
อายะ : ใช่ค่ะ พอจะรู้สึกตัว
อายะ : เกี่ยวกับความผิดปกติหลายๆอย่างบ้างมั้ยคะ
อาอุน : น่าเสียดายนะ
อาอุน : แต่ฉันไม่รู้อะไรเลย
อาอุน : ไม่รู้เลยจริงๆ
อายะ : งั้นเหรอคะ......
อายะ : แต่ก็ทำหน้าแบบนั้นจริงๆซะด้วยสิ
อายะ : ยามันบะเมื่อกี้
อายะ : ก็ไม่มีข้อมูลอะไรเลย
อายะ : ทั้งที่เหตุวิปลาสปกคลุมทั่วเกนโซวเคียวขนาดนี้
อายะ : แต่กลับไม่มีเบาะแสของผู้บงการเลยสักนิดเดียว
อายะ : คงเป็นฝีมือของคนที่มืดมนหม่นหมอง
อายะ : และเตรียมการพรั่งพร้อมมากกว่าที่คิดสินะ !
อายะ : สังหรณ์ได้ว่าจะเป็นข่าวใหญ่ในรอบพันปีเลยล่ะ !
Stage 4
??? (ไม) : โฮ่― เทนกุ...... ?
อายะ : ค่ะ ใช่ค่ะ
อายะ : ฉันมีเรื่องอยากถามน่ะค่ะ
อายะ : ขอรบกวนเวลาสักหน่อยได้มั้ยคะ ?
??? (ไม) : ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้
??? (ไม) : ถึงเธอจะเป็นจำพวกเดียวกัน แต่ก็เป็นศัตรูตามธรรมชาติไม่ใช่เหรอ
??? (ไม) : ถึงจะคาดการณ์เอาไว้แล้วว่าเทนกุจะโผล่มาก็เถอะ
??? (ไม) : แต่ก็น่าตกใจจริงๆเลยน้า―
??? (นารุมิ) : พลังล้นเอ่อเลย― !
นารุมิ : ทำไมกันนะ
นารุมิ : ทำไมพลังเวทถึงได้เอ่อล้นออกมาขนาดนี้......
นารุมิ : อยากทดสอบพลังนี้
นารุมิ : กับใครก็ได้ !
??? (ไม) : อะฮะฮะ ทันเวลาพอดี
??? (ไม) : คู่ต่อสู้ของเธอคือยัยนี่แหละ
??? (ไม) : ถ้างั้นเรากลับก่อนนะ―
อายะ : อ๊ะ......
อายะ : หนีไปซะแล้ว
อายะ : แต่ตัวคุณที่อยู่ตรงหน้าเองก็น่าสนใจเหมือนกันค่ะ
อายะ : ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอรบกวนเวลาสักหน่อยได้มั้ยคะ ?
นารุมิ : ได้สิ !
นารุมิ : ฉันจะยอมเป็นคู่ต่อสู้ให้เอง― !
อายะ : คู่ต่อสู้ ?
อายะ : หมายถึงการสัมภาษณ์สินะคะ
นารุมิ : ไม่ใช่อย่างนั้น
นารุมิ : ดูเหมือนพายุหิมะจะมอบพลังให้ฉันล่ะ
นารุมิ : คู่ต่อสู้ที่ต้องปะทะกับพลังนี้เอ๋ย !
นารุมิ : จงแหลกไปซะ ไอ้พวกเทนกุ !
อายะ : สัมผัสได้ถึงความชอบการต่อสู้อย่างไร้เหตุผล......
อายะ : ก็ไม่ได้รังเกียจหรอกนะ !
อายะ : Favorite เลยด้วยซ้ำ!
อายะ : เอาละ งั้นเริ่มการสัมภาษณ์เลยนะคะ
นารุมิ : ......ซิกซิก
นารุมิ : ค่ะ
อายะ : เมื่อกี้คุณบอกว่าได้รับพลังมาจากพายุหิมะ
อายะ : มันหมายความว่ายังไงเหรอคะ
นารุมิ : ขอโทษจริงๆค่ะ แต่ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
นารุมิ : รู้เพียงว่า พลังมันผุดขึ้นมาอย่างน่าประหลาด
นารุมิ : ปกติแล้วฉันก็ไม่ได้ชอบการต่อสู้แบบนี้หรอกนะ
นารุมิ : ฉันเป็นพวกที่อยากใช้ชีวิตเงียบสงบน่ะ
นารุมิ : อีกอย่าง......รู้สึกร้อนที่ด้านหลังยังไงก็ไม่รู้
อายะ : ......คนที่ถือไม้ไผ่เมื่อกี้เป็นใครเหรอ ?
อายะ : คนรู้จัก ?
นารุมิ : เอ๋ ? คนที่ถือไม้ไผ่ ?
นารุมิ : พูดถึงใครเหรอ ?
อายะ : คนที่กำลังเต้นรำอยู่ข้างหลังคุณ
อายะ : ก่อนที่เราจะต่อสู้กันน่ะค่ะ
นารุมิ : ไม่จริงน่า ต่อให้พายุหิมะรุนแรงแค่ไหน
นารุมิ : ถ้ามีคนเต้นอยู่ก็ต้องรู้อยู่แล้วล่ะค่ะ―
อายะ : ......จดไว้ว่า
อายะ : คุณจิโซวไม่มีความระมัดระวังตัว
นารุมิ : ร้อนที่ด้านหลังมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
นารุมิ : แต่มองไปข้างหลังกี่ครั้งก็ไม่เห็นมีใครอยู่เลย
อายะ : ถ้าร้อนที่ด้านหลัง......ไปหาหมอเถอะค่ะ
อายะ : หรือไปหาช่างหินจะดีกว่าหนอ
อายะ : อื๋อ ?
อายะ : คุณน่ะ มีประตูอยู่ข้างหลัง !?
นารุมิ : เอ๋ ?
นารุมิ : อะไรนะ น่ากลัวจัง
อายะ : ฉันเห็นแล้ว
อายะ : คนเมื่อกี้มาสิงอยู่ข้างหลังแล้วมอบพลังให้นี่เอง
อายะ : บางทีอาจซ่อนอยู่ข้างหลัง
อายะ : ของคนที่ต่อสู้ด้วยมาจนถึงตอนนี้เลยก็ได้
อายะ : ไม่เข้าถ้ำเสือก็ไม่ได้ลูกเสือ !
อายะ : ข้างในนั่น......ท่าทางจะกว้างน่าดูแฮะ
Stage 5
อายะ : ในที่สุดก็เจอแหล่งข่าวอันล้ำค่าแล้วค่ะ !
อายะ : ถ้างั้นขอสัมภาษณ์เลยนะคะ
??? (ไม) : อ้าว !?
??? (ไม) : เทนกุตนเมื่อกี้ !? ทำไมมาอยู่ที่นี่......
อายะ : เข้ามาทางด้านหลังของจิโซวค่ะ
??? (ไม) : ไอ้หยา― เผลอเปิดประตูทิ้งไว้งั้นเหรอ―
??? (ซาโตโนะ) : โธ่― ไมนี่ล่ะก็
??? (ซาโตโนะ) : ซุ่มซ่ามจริงๆเลยนะ
??? (ซาโตโนะ) : ดึงเทนกุเข้ามาแบบนี้แล้วจะทำยังไงกันดีล่ะ
??? (ซาโตโนะ) : ต้องโดนดุแน่เลย
??? (ไม) : แหม― ทำพลาดไปจนได้―
??? (ไม) : แต่เราไม่คิดว่าจะโดนดุหรอกนะ
??? (ไม) : เพราะว่างานของพวกเราคือการขับไล่เทนกุ
??? (ไม) : ดังนั้นแค่ไล่ไปจากที่นี่ก็พอแล้วล่ะ
อายะ : งานคือการไล่เทนกุ...... ?
อายะ : พวกคุณเป็นใครกันแน่น่ะ
ไม : เราชื่อ เทย์เรย์ดะ ไม
ซาโตโนะ : ฉันชื่อ นิชิดะ ซาโตโนะ
ซาโตโนะ : พวกเราคือบริวารทั้งสองของเทพแห่งสิ่งกีดขวาง
ซาโตโนะ : โดยเนื้อแท้แล้วก็เป็นจำพวกเดียวกับเธอนั่นล่ะนะ
อายะ : เทพแห่งสิ่งกีดขวาง......
อายะ : เหมือนจะเคยได้ยินมาก่อนแฮะ
ซาโตโนะ : เทพแห่งสิ่งกีดขวาง......
ซาโตโนะ : หมายถึงเทพที่คอยกีดขวางวัตถุไงล่ะ
ไม : พวกเราทำงานเหมือนกับเทนกุ
ไม : และคอยขับไล่เทนกุไงล่ะ
อายะ : ฉันแค่อยากสัมภาษณ์
อายะ : เรื่องเหตุสี่ฤดูวิปลาสเท่านั้นเองค่ะ
อายะ : แต่ท่าทางจะเลี่ยงการต่อสู้ไม่ได้สินะ
ไม : การทำพิธีที่นี่
ไม : ถือว่าเหนือความคาดหมาย......
ไม : แต่จงดูให้ดี !
ไม : พิธีลับ [เทนกุโอโดชิ] ของสองบริวารอย่างพวกเรา !
อายะ : ฮึ ดีแต่ปากสินะ
ไม : ฝีมือร้ายกาจจริงๆ
ไม : เหนือความคาดหมายเลยแฮะ
ซาโตโนะ : พวกเราดูถูกเธอเกินไปนะ
อายะ : ฉันไม่มีความจำเป็น
อายะ : ที่จะต้องเป็นศัตรูกับพวกคุณค่ะ
อายะ : ขอแค่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุสี่ฤดูวิปลาส
อายะ : เท่านั้นก็พอแล้วค่ะ
ไม : เหตุสี่ฤดูวิปลาส ?
ไม : อันนั้นพวกเราไม่ได้ทำนะ
อายะ : เอ๋ ?
อายะ : งั้นเหรอคะ ?
ซาโตโนะ : พวกเราสามารถดึงพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวเป้าหมาย
ซาโตโนะ : ออกมาได้อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยการเต้นอยู่ข้างหลังน่ะ
ไม : พวกเราได้รับคำสั่งให้ออกตามหาความเป็นไปได้
ไม : ของพวกที่เอาแต่ซ่อนตัวมาตลอด
ไม : พร้อมกับคอยขับไล่โยวไคที่เป็นตัวกีดขวาง
ไม : อย่างพวกเทนกุน่ะ
ซาโตโนะ : เหตุสี่ฤดูวิปลาส เป็นฝีมือของพวกชินเรย์ วิญญาณ ภูต
ซาโตโนะ : ที่อาละวาดเพราะผลจากการเต้นรำของพวกเราต่างหาก
อายะ : จดจดจด......
อายะ : แปลว่า สรุปแล้ว
อายะ : พวกคุณได้รับคำสั่ง
อายะ : ให้มอบพลังแก่โยวไคตนนั้นตนนี้
อายะ : ผลข้างเคียงคือ พวกภูตออกมาอาละวาด
อายะ : จนธรรมชาติผิดเพี้ยนไป......สินะคะ
อายะ : ถ้างั้นคนร้ายของเหตุสี่ฤดูวิปลาส
อายะ : ก็คือพวกคุณไม่ใช่เหรอคะ
ซาโตโนะ : โทษทีนะ รอเดี๋ยว
ซาโตโนะ : ......เอ๋ ?
ซาโตโนะ : ......เข้าใจแล้วค่ะ
ไม : อะไร ?
ไม : ท่านอาจารย์ติดต่อมาเหรอ ?
ซาโตโนะ : ท่านอาจารย์เรียกพวกเราน่ะ
ซาโตโนะ : คงเรียกไปดุล่ะมั้ง
ไม : แหงะ― !
ไม : ไม่ชอบเลยน้า
อายะ : ไม่อยู่ซะแล้วค่ะ
อายะ : ฉันเจอตัวคนร้าย
อายะ : ที่ก่อเหตุเหตุสี่ฤดูวิปลาสแล้วก็จริง แต่ว่า......
อายะ : เทพแห่งสิ่งกีดขวางงั้นสิน้า......
อายะ : รู้สึกเหมือนเคยได้ยินในประวัติศาสตร์ของเทนกุเลยน้า
Stage 6
อายะ : อยากถามสองคนเมื่อกี้
อายะ : ให้มากกว่านี้จังเลยค่ะ
อายะ : แต่นี่เป็นโลกที่แปลกประหลาดจังเลยนะค้า
อายะ : จากด้านหลังของจิโซว
อายะ : มีโลกที่กว้างใหญ่ขนาดนี้อยู่ด้วย......
??? : อะฮะฮะ
??? : นี่มันน่าสนใจจริงๆ !
??? : เทนกุเข้ามาในแดนประตูหลังเนี่ยนะ !
??? : โลกนี้ถึงกาลอวสานแล้วรึ
??? : เดิมที พวกเราเป็นผู้รับผิดชอบสิ่งกีดขวางเหมือนเทนกุก็จริง
??? : แต่ที่ซึ่งควรอยู่อาศัยนั้นแตกต่างกัน
อายะ : เหมือนเทนกุ...... ?
อายะ : คุณเป็นใครกันแน่คะ ?
โอคินะ : ฉันชื่อ มาตาระ โอคินะ
โอคินะ : เทพแห่งประตูหลัง
โอคินะ : เทพแห่งสิ่งกีดขวาง
โอคินะ : เทพแห่งละครโน
โอคินะ : เทพารักษ์ เทพดวงดาว
อายะ : มีฉายามากมายเลยนะค้า
โอคินะ : ฮุฮุฮุ
โอคินะ : ถ้าเป็นเทนกุอย่างเธอก็น่าจะรู้นี่
โอคินะ : ว่าไม่น่าจะมีเทพองค์ใด
โอคินะ : ที่มีความเป็นเทพมากมายขนาดนี้......
อายะ : หมายความว่ายังไงเหรอคะ ?
โอคินะ : เธอคิดว่าฉัน
โอคินะ : กำลังโกหกอยู่ล่ะสิ ?
อายะ : เอ่อ ใช่ค่ะ
อายะ : พูดให้ถูกคือ ไม่ได้โกหก
อายะ : แต่รู้สึกเหมือนกำลังปกปิดตัวตนที่แท้จริงอยู่ค่ะ
โอคินะ : เทพลับสุดยอดก็อย่างนี้ล่ะนะ
โอคินะ : บางทีนี่อาจเป็นตัวตนที่แท้จริงก็ได้
อายะ : เทพแห่งสิ่งกีดขวาง......เทพลับ......
อายะ : อ๊ะ นึกออกแล้วค่ะ !
อายะ : บรรพบุรุษแห่งสิ่งกีดขวางถูกแบ่งเป็นสอง
อายะ : ส่วนหนึ่งอาศัยในภูเขา แล้วกลายเป็นเทนกุ
อายะ : อีกส่วนหนึ่งอาศัยในหมู่บ้านมนุษย์ โดยซ่อนอยู่หลังพระพุทธรูป
อายะ : นั่นคือเทพลับแห่งสิ่งกีดขวาง......
อายะ : หรือว่าคุณคือ...... !
โอคินะ : บอกไปตั้งหลายครั้งแล้ว
โอคินะ : ว่าฉันคือเทพแห่งสิ่งกีดขวางองค์นั้นนั่นแหละ
โอคินะ : ถึงจะเป็นตัวตนที่มีหลายฉายา
โอคินะ : แต่เธอคิดว่าอะไรที่ตรงกับตัวตนที่แท้จริงของฉันที่สุดล่ะ ?
อายะ : เมื่อกี้ท่านตรัสว่า
อายะ : เทพลับคือตัวตนที่แท้จริงไม่ใช่เหรอคะ ?
โอคินะ : เทพแห่งสิ่งกีดขวาง มีอีกความหมายหนึ่งว่า
โอคินะ : เทพขจัดเทนกุ
โอคินะ : กล่าวคือ ฉันเป็น
โอคินะ : เทพที่จะลบล้างเทนกุไปจากโลกใบนี้
โอคินะ : ดังนั้นฉันถึงหัวเราะในตอนแรกสุดไงล่ะ
โอคินะ : เพราะเทนกุเข้ามาในแดนขจัดเทนกุ(แดนประตูหลัง)แห่งนี้
โอคินะ : แมงเม่าบินเข้ากองไฟชัดๆ !
โอคินะ : จงกลับสู่ความเถรตรง ! นักข่าวเทนกุผู้โง่เขลาแต่กำเนิดเอ๋ย !
(มุขพ้องเสียง 天狗(โยวไคชนิดหนึ่ง) กับ 天愚(โง่เขลาแต่กำเนิด))
ถ้าผู้เล่นมิได้ใช้คอนทินิวระหว่างเล่น >> Ending No.05 (Aya's Good Ending)
ถ้าผู้เล่นทำการคอนทินิวระหว่างเล่น >> Ending No.06 (Aya's Bad Ending)
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Marisa's Story

Stage 1
มาริสะ : อะไรกันวะ มันร้อนนะโว้ย
มาริสะ : ไอ้บ้านี่ !
??? : อะไรเหรอ อะไรเหรอ ?
เอเทอร์นิตี้ : ฤดูร้อนมันก็ต้องร้อนอยู่แล้วล่ะ
เอเทอร์นิตี้ : ขนาดพวกภูตยังรู้เลย
มาริสะ : ไม่นึกว่ามันจะร้อนขนาดนี้
มาริสะ : เลยใส่เสื้อผ้ามาอย่างหนานี่ไงเล่า
มาริสะ : อ๊า― ร้อนจะตายอยู่แล้วโว้ย― !
เอเทอร์นิตี้ : พอดูดีๆแล้ว
เอเทอร์นิตี้ : เธอแต่งตัวหลงฤดูเหมือนคนบ้าเลยนะ
เอเทอร์นิตี้ : มาขยับร่างกายให้มากขึ้น
เอเทอร์นิตี้ : แล้วลิ้มรสความร้อนของฤดูร้อนให้ทั่วร่างกันเถอะ !
เอเทอร์นิตี้ : ร้อน― !
มาริสะ : ร้อนโว้ย― !
เอเทอร์นิตี้ : ถ้าร้อน
เอเทอร์นิตี้ : แล้วแต่งตัวแบบนั้นทำไมล่ะ ?
มาริสะ : ก็แถวบ้านฉันมันเป็น
มาริสะ : ช่วงกลางฤดูหนาวที่มีหิมะตกนี่นา !
มาริสะ : นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย― ?
เอเทอร์นิตี้ : ล้อกันเล่นอีกแล้ว―
เอเทอร์นิตี้ : ตอนนี้เป็นช่วงกลางฤดูร้อนขั้นสูงสุดต่างหากล่ะ
มาริสะ : แค่ดูก็รู้แล้วน่า
มาริสะ : ที่นี่เป็นฤดูร้อนไม่ผิดแน่
มาริสะ : ไม่ได้เจอเหตุวิปลาสที่จับต้นชนปลายไม่ถูกแบบนี้มานานแล้ว
มาริสะ : ไม่รู้เลยว่าต่อไปจะไปตรวจสอบที่ไหนดี
Stage 2
??? : อะไรน่ะ ?
??? : ที่นี่เป็นถิ่นของชั้นนะ
มาริสะ : ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยแฮะ
มาริสะ : ใครน่ะ ?
เนมุโนะ : นั่นมันคำพูดของทางนี้ต่างหากล่ะ
เนมุโนะ : ชั้นอยู่ที่นี่มาตลอดนั่นล่ะ
เนมุโนะ : ไม่เคยโยกย้ายไปไหน
เนมุโนะ : แล้วเธอก็โผล่มาเนี่ย
มาริสะ : โอ้ โทษที
มาริสะ : ฉันเป็นจอมเวทชื่อ มาริสะ
มาริสะ : ดูเหมือนจะเป็นแค่บริเวณนี้
มาริสะ : ที่กลายเป็นฤดูใบไม้ร่วงนะ
เนมุโนะ : ชั้นไม่รู้เรื่องอะไรพวกนั้นหรอก
เนมุโนะ : ที่สำคัญกว่าคือ รีบออกไปจากที่นี่ได้แล้ว
เนมุโนะ : ถ้าคิดจะอยู่ที่นี่นานไปกว่านี้ล่ะก็
เนมุโนะ : ชั้นจะแล่เธอไปทำเนื้อแดดเดียวนะ !
เนมุโนะ : เธอแข็งแกร่งดีนะ
เนมุโนะ : จอมเวทงั้นเหรอ ?
มาริสะ : ถึงจะบอกว่าเป็นจอมเวท
มาริสะ : แต่ก็เป็นมนุษย์นะ
เนมุโนะ : โฮ่ มนุษย์ งั้นสิน้า
เนมุโนะ : อย่างกับมนุษย์ในตำนาน
เนมุโนะ : ที่ชื่อคินโทคิเลยนะ
เนมุโนะ : ชักถูกใจแล้วสิ !
เนมุโนะ : จะถามอะไรก็ว่ามาได้เลย
มาริสะ : งั้นเหรอ ถ้างั้นจะถามล่ะนะ
มาริสะ : พอจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับ
มาริสะ : คนที่ทำให้มีแค่บริเวณนี้ที่เป็นฤดูใบไม้ร่วงรึเปล่า ?
เนมุโนะ : มีแค่บริเวณนี้ที่เป็นฤดูใบไม้ร่วง ?
เนมุโนะ : พูดอะไรของเธอน่ะ
มาริสะ : เธอรู้รึเปล่าว่าตอนนี้
มาริสะ : เกิดสภาพอากาศผิดปกติไปทั่วเกนโซวเคียวน่ะ ?
เนมุโนะ : ไม่รู้หรอก
มาริสะ : ช่วยบอกสถานที่อื่น
มาริสะ : ที่มีภูมิอากาศผิดเพี้ยนให้ทีสิ
เนมุโนะ : ชั้นไม่เคยออกไปจากที่นี่เลย
เนมุโนะ : เพราะงั้นชั้นไม่รู้อะไรหรอก
มาริสะ : ......โทษทีที่มารบกวน
Tips :
- ซาคาตะ คินโทคิ (坂田 金時) คือหนึ่งในผู้ที่ร่วมมือกับมินาโมโตะ โนะ โยริมิทสึ (ไรโคว) ในการกำจัดชุเทนโดวจิ
- หากดูจากนามสกุล เป็นไปได้ว่าเธอคือยามันบะที่เลี้ยงคินโทคิจนโต แต่บทพูดเหมือนห่างเหินกันชอบกล
Stage 3
มาริสะ : ศาลเจ้าเองก็เพี้ยนไปเหมือนกันสินะ
มาริสะ : ซากุระบานผิดปกติแค่ที่นี่ที่เดียว
มาริสะ : ผู้ก่อเหตุวิปลาสอยู่ในศาลเจ้า
มาริสะ : จะให้คิดแบบนั้นมันก็ยากอยู่นะ
??? : อ้าว คุณมาริสะ
??? : ตอนนี้คุณเรย์มุไม่อยู่ค่ะ
มาริสะ : เธอเป็นใครน่ะ
อาอุน : ใจร้ายจังเลยน้า
อาอุน : โคมะอินุ นามว่า โคมาโนะ ไงล่ะคะ
อาอุน : แต่ก็เพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรกล่ะนะ
มาริสะ : เจอหน้ากันครั้งแรกงั้นเหรอ
อาอุน : เห็นอย่างนี้ ชั้นก็แอบปกป้อง
อาอุน : ศาลเจ้าและวัดมานานแล้วนะคะ
มาริสะ : แบบพวกโคมะอินุอะไรนั่นน่ะเหรอ
มาริสะ : รูปปั้นหินที่ถูกใช้เป็นจุดนัดพบบ่อยๆ
อาอุน : แหม ถึงงั้นก็เถอะค่ะ
อาอุน : เห็นอย่างนี้ ชั้นก็เป็นถึงเทพพิทักษ์ศาลเจ้านะคะ
มาริสะ : อะฮะฮะ
มาริสะ : แกล้งทำเป็นพันธมิตรแบบนั้น หลอกฉันไม่ได้หรอกโว้ย !
มาริสะ : เทพพิทักษ์อะไรกัน
มาริสะ : ตอนนี้ศาลเจ้าเจอเหตุวิปลาสเข้าเต็มๆเลยไม่ใช่เรอะ !
มาริสะ : ฉันจะโค่นเธอ
มาริสะ : แล้วเอาฤดูกาลกลับมาสู่ศาลเจ้าเอง !
อาอุน : แพ้แล้ว―
อาอุน : ทั้งที่อุทิศตนให้ศาลเจ้า
อาอุน : แต่กลับโดนยำจนเละเลย―
มาริสะ : ไม่รู้สึกถึงปราณภูตที่เกี่ยวกับเหตุวิปลาส
มาริสะ : จากตัวเธอเลยแฮะ
มาริสะ : เอ่อ ว่าไงดีล่ะ
มาริสะ : โทษทีนะ
อาอุน : ฉันบอกตั้งแต่แรกแล้วไงคะ
อาอุน : ว่าฉันเป็นพันธมิตรของศาลเจ้าน่ะ
มาริสะ : ถ้างั้นแปลว่าจะยอมให้ความร่วมมือ
มาริสะ : ในการตรวจสอบเหตุวิปลาสครั้งนี้สินะ
อาอุน : แน่นอนค่ะ !
อาอุน : ถึงฉันจะเอาแต่มองศาลเจ้าและวัดก็เถอะ
อาอุน : แต่ถ้าพูดถึงเรื่องที่ผิดปกติล่ะก็
อาอุน : คงเป็นเรื่องที่พวกภูตกำลังอาละวาด
อาอุน : ล่ะมั้งน้า
มาริสะ : ไอ้พวกนั้นมันก็อาละวาดทุกที
มาริสะ : ที่เกิดเหตุวิปลาสนั่นแหละ
มาริสะ : ที่เหลือก็......
มาริสะ : โคมะอินุที่ซ่อนตัวมาตลอดดันโผล่ออกมาแบบนี้
มาริสะ : ก็จัดว่าแปลกอยู่เหมือนกัน
มาริสะ : ดูๆไปแล้วมันก็จริงอย่างที่เธอว่าล่ะนะ
มาริสะ : เอาเป็นว่า เหลือสถานที่แห่งฤดูกาลอยู่อีกที่หนึ่ง
มาริสะ : คงต้องไปตรวจสอบที่นั่นแล้วค่อยสรุปล่ะนะ
อาอุน : พยายามเข้านะคะ―
อาอุน : ฉันจะคอยเอาใจช่วยแบบไม่ให้รู้ตัวค่ะ
มาริสะ : เดี๋ยวฉันสติแตกกันพอดี ไม่ต้องเอาใจช่วยหรอก
Stage 4
??? (ไม) : หรือว่าเธอ
??? (ไม) : คือผู้ที่ถูกเลือกงั้นเหรอ ?
??? (ไม) : อุตส่าห์ลงมือไปอย่างอลังการ
??? (ไม) : กว่าจะโผล่มาได้นี่ก็ช้ากว่าที่คิดน้า
มาริสะ : เธอคือคนที่ทำให้ป่าเป็นแบบนี้งั้นเหรอ !?
??? (นารุมิ) : พลังล้นเอ่อเลย― !
นารุมิ : ทำไมกันนะ
นารุมิ : ทำไมพลังเวทถึงได้เอ่อล้นออกมาขนาดนี้......
นารุมิ : อย่างนี้ต้องทดสอบ
นารุมิ : กับมนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าสักหน่อยแล้ว !
??? (ไม) : อะฮะฮะฮะฮะ
??? (ไม) : คู่ต่อสู้ในคราวนี้คือยัยนี่ต่างหากล่ะ
??? (ไม) : ถ้างั้นเรากลับก่อนนะ―
มาริสะ : เฮ้ย อย่าหนีนะ !
นารุมิ : ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน
นารุมิ : แต่ดูเหมือนพายุหิมะจะมอบพลังให้ฉันล่ะ !
มาริสะ : เธอ......เหมือนจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อนนะ
มาริสะ : นึกออกแล้ว จิโซวเวทมนตร์ นารุโกะ ไม่ใช่เหรอ
นารุมิ : เสียงนี่มัน มนุษย์เวทมนตร์ มาริสะ ?
นารุมิ : พายุหิมะเวทมนตร์รุนแรงจนมองไม่เห็นเลย
มาริสะ : ฉันจะไล่ตามยัยคนเมื่อกี้
มาริสะ : ช่วยหลีกทางให้หน่อยสิ
นารุมิ : ไม่ล่ะ
นารุมิ : วันนี้ฉันรู้สึกอยากทดสอบเวทมนตร์น่ะ
มาริสะ : คนขี้อายอย่างเธอก็พูดอะไรแปลกๆออกมาได้น้า
มาริสะ : คิดว่าจะเอาชนะฉันได้เหรอ ?
นารุมิ : รู้สึกว่าวันนี้จะมีพายุหิมะคอยหนุนหลังอยู่น่ะ
นารุมิ : เพราะงั้นเลยไม่รู้สึกว่าจะแพ้เลย
นารุมิ : ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษหรอก !
นารุมิ : ลุยล่ะนะ― !
นารุมิ : พลังยังเหลือเฟืออยู่เลย !
มาริสะ : ขอเวลานอกเดี๋ยว
มาริสะ : เวทมนตร์ของเธอมันแปลกๆไปหน่อยรึเปล่าวะ ?
มาริสะ : จะว่ายังไงดีล่ะ
มาริสะ : วิธีเอ่อล้นของพลังเวทมันไม่ธรรมดา
มาริสะ : รู้สึกเหมือนพลังเวทกำลังเอ่อล้นมาจากข้างหลัง
มาริสะ : เธอไม่รู้สึกตัวเลยเหรอ ?
นารุมิ : นั่นสินะ―
นารุมิ : จะว่าไปก็ร้อนที่ด้านหลังด้วย
มาริสะ : งั้นเหรอ เรื่องนั้นก็น่าเป็นห่วงเหมือนกัน......
มาริสะ : ว่าแต่ยัยคนเมื่อกี้นี้เป็นใครเหรอ ?
นารุมิ : คนเมื่อกี้ ?
นารุมิ : พูดเรื่องอะไรน่ะ
มาริสะ : คนที่กำลังเต้นอยู่ข้างหลังเธอไง
มาริสะ : ไม่รู้สึกตัวเลยเหรอ ?
นารุมิ : ฉันว่าฉันอยู่ตัวคนเดียวมาตลอดเลยนะ
มาริสะ : จะว่าไปแล้ว
มาริสะ : เธอเป็นพวกรักสันโดษนี่นะ
นารุมิ : อ๊า― แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ
นารุมิ : ร้อนที่ด้านหลังชะมัดเลย―
มาริสะ : อาจจะโดนพายุหิมะกัดจนเป็นแผลก็ได้
มาริสะ : ไหนขอดูหน่อยซิ
มาริสะ : เอ๋ ?
มาริสะ : เดี๋ยวสิ เธอน่ะ !?
มาริสะ : มีประตูอยู่ข้างหลัง !
นารุมิ : เอ๋ ?
นารุมิ : อะไรนะ น่ากลัวจัง
มาริสะ : ไม่ผิดแน่
มาริสะ : พลังเวทกำลังเอ่อล้นออกมาจากประตูข้างหลังนี่......
นารุมิ : นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่น่ะ ?
นารุมิ : มาริสะ ทำอะไรสักอย่างสิ !
มาริสะ : อืมมม ดูยังไงเจ้านี่ก็เป็นกับดักชัดๆ......
มาริสะ : แต่ถ้าปล่อยเจ้านี่ไปก็ไม่มีเงื่อนงำแล้ว
มาริสะ : จงเคาะเถิด หากทำแล้วจะเปิดออกได้ !
(เวอร์ชั่นญี่ปุ่นของวลี Knock, and it shall be opened unto you จากพระวรสารนักบุญมัทธิวแห่งคัมภีร์ไบเบิลภาคพันธสัญญาใหม่)
Stage 5
มาริสะ : ที่นี่มันอะไรกัน......
มาริสะ : ภายในด้านหลังของนารุโกะ
มาริสะ : มีโลกที่กว้างใหญ่แบบนี้อยู่ด้วยแฮะ
??? (ไม) : อ้าว !?
??? (ไม) : มนุษย์คนเมื่อกี้ ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้...... ?
??? (ไม) : อ๋า― อย่าบอกนะว่า
??? (ไม) : เราเปิดประตูที่ด้านหลังของจิโซวเมื่อกี้ทิ้งเอาไว้
??? (ซาโตโนะ) : โธ่― ไมนี่ล่ะก็
??? (ซาโตโนะ) : ซุ่มซ่ามจริงๆเลยนะ
??? (ซาโตโนะ) : ยังไม่มีคำสั่งออกมาแท้ๆ
??? (ซาโตโนะ) : ดันดึงมนุษย์เข้ามาซะได้―
??? (ไม) : แหม― แต่ก็ได้จังหวะเหมาะเลยนะ
??? (ไม) : ยังไงก็ลงมือไปอย่างอลังการน่าดูแล้วด้วย
??? (ไม) : [ทำได้ดีมาก เหมาะดีทีเดียวเลยนี่นา ?]
??? (ไม) : เราว่าท่านอาจารย์ก็ต้องพูดแบบนี้แหละ
มาริสะ : พวกเธอเป็นใครน่ะ ?
มาริสะ : แล้วที่นี่มันคือที่ไหนกัน ?
ไม : ฮึ เราชื่อ เทย์เรย์ดะ ไม
ซาโตโนะ : ฉันชื่อ นิชิดะ ซาโตโนะ
ซาโตโนะ : ขอกล่าวอีกครั้ง
ซาโตโนะ : ยินดีต้อนรับสู่แดนประตูหลัง
มาริสะ : แดนประตูหลัง ?
มาริสะ : ไม่เคยได้ยินเลยแฮะ
มาริสะ : ถึงจะนึกอยู่แล้วว่าเป็นกับดักก็เถอะ
มาริสะ : แต่ก็ถอยไปไหนไม่ได้แล้ว !
ไม : วางใจได้
ไม : นี่ไม่ใช่กับดักหรอก
ไม : แต่จากนี้ไปจะทำการทดสอบ
ไม : ว่าเธอคือผู้ถูกเลือกรึเปล่า
ซาโตโนะ : ถ้าเธออ่อนแอเกินไป
ซาโตโนะ : ท่านอาจารย์จะดุพวกเราเอาได้นะ―
ไม : จะลุยแบบเอาจริงล่ะนะ !
ไม : ถ้าเธอตายเมื่อไหร่ก็ยุติตอนนั้นแหละ !
ซาโตโนะ : ไม่ออมมือให้หรอก
ซาโตโนะ : แต่ถ้าเธอตายก็จะช่วยฆ่าซ้ำให้นะ― !
มาริสะ : ตึงมือไม่เบาเลยนะ !
ไม : ดีล่ะ― ยุติแค่นี้ก็พอ
ซาโตโนะ : ไม่เลวเลย คะแนนผ่านเกณฑ์ ล่ะมั้งน้า
ไม : ดีล่ะ― งั้นยินดีด้วย !
ไม : เธอ―สอบ―ผ่าน !
มาริสะ : สะ สอบผ่าน ?
มาริสะ : นี่มันเรื่องอะไรกัน
ซาโตโนะ : พวกเราสามารถดึงพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวเป้าหมาย
ซาโตโนะ : ออกมาได้อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยการเต้นอยู่ข้างหลังน่ะ
ไม : พวกเราได้รับคำสั่งให้ออกตามหาความเป็นไปได้
ไม : ของพวกที่เอาแต่ซ่อนตัวมาตลอด
ไม : พร้อมกับจับกุมตัวบุคคลที่มีศักยภาพ
ไม : และความ Aggressive อย่างเธอ
มาริสะ : ดึงพลังที่ซ่อนเร้น......อะฮ้า
มาริสะ : ประตูที่ด้านหลังของนารุโกะคือผลกระทบจากการเต้นงั้นเหรอ
มาริสะ : หรือว่าสิ่งที่ทำให้สี่ฤดูผิดเพี้ยน
มาริสะ : ก็คือการดึงพลังที่ซ่อนเร้นของพวกภูตออกมา ?
ไม : แหม่ นั่นเป็นผลข้างเคียงน่ะนะ
ไม : พวกภูตแค่อาละวาดไปตามอำเภอใจเท่านั้นเอง
มาริสะ : บุคคลที่มีศักยภาพ ซึ่งอยากได้จนถึงขนาด
มาริสะ : ต้องทำให้ภูตอาละวาดจนเกนโซวเคียววุ่นวายไปหมด......
มาริสะ : อย่างนี้นี่เอง นั่นคือฉันเองสินะ
มาริสะ : อย่างนี้นี่เอง อย่างนี้นี่เอง
ไม : เอาล่ะ ยังไงก็ผ่านการทดสอบแล้ว
ไม : ขอเชื้อเชิญเธอ !
ไม : สู่เบื้องหน้าของเทพลับสูงสุดแห่งเบื้องหลัง !
Stage 6
มาริสะ : อยู่ที่ไหนกันแน่นะ ?
มาริสะ : เจ้าเทพลับอะไรนั่น
มาริสะ : อีกอย่าง โลกนี้มันคืออะไรกันแน่เนี่ย ?
มาริสะ : ไปที่ไหนก็เจอแต่ประตูทั้งนั้นเลย......
??? : โอ้ ในที่สุดก็มาแล้ว
??? : เธอคือมนุษย์ที่บริวารทั้งสองพูดถึงสินะ
มาริสะ : ใช่แล้ว มั้งนะ
??? : หืม―
??? : ชุดนั่นมันอะไรน่ะ
??? : เป็นชุดที่ประหลาดดีนะ
มาริสะ : เครื่องแบบของจอมเวทน่ะ
มาริสะ : ความแปลกประหลาดนี่ก็เป็นเอกลักษณ์ของจอมเวทเหมือนกัน
มาริสะ : ชุดของเธอก็ใช่ย่อยเลยนะโว้ย ?
มาริสะ : เธอเป็นใครกันแน่ ?
โอคินะ : ฉันชื่อ มาตาระ โอคินะ
โอคินะ : เทพแห่งประตูหลัง
โอคินะ : เทพแห่งสิ่งกีดขวาง
โอคินะ : เทพแห่งละครโน
โอคินะ : เทพารักษ์ เทพดวงดาว
โอคินะ : และเป็นหนึ่งในนักปราชญ์
โอคินะ : ผู้สร้างเกนโซวเคียวแห่งนี้ขึ้นมา
โอคินะ : นี่ก็ใกล้ถึงเวลาที่จะต้องหาผู้สืบทอด
โอคินะ : ของบริวารทั้งสอง(ยัยพวกนั้น)แล้วล่ะนะ
มาริสะ : ผู้สืบทอด ?
มาริสะ : บริวารทั้งสองที่ว่านั่น หมายถึงยัยพวกนั้นน่ะเหรอ
โอคินะ : ใช่แล้ว เพราะเป็นแขนทั้งสองที่แสนสำคัญของฉันนี่แหละ
โอคินะ : ถึงได้ต้องคอยเปลี่ยนเป็นมนุษย์คนใหม่เป็นระยะๆ
มาริสะ : ปกติแล้วต้องทำงานอะไรบ้างล่ะ ?
โอคินะ : ควบคุมสมดุลของเกนโซวเคียวจากเบื้องหลังน่ะ
โอคินะ : จะเรียกว่าเป็น Fixer ก็ได้ล่ะมั้ง
โอคินะ : เอาน่า ก็แค่งานง่ายๆล่ะนะ
มาริสะ : ฉันไม่รู้หรอกว่าง่ายรึเปล่า
มาริสะ : แต่เป็นงานที่น่าสนุกดีนะ
มาริสะ : แต่ขอปฏิเสธ !
มาริสะ : ฉันจะใช้ชีวิต
มาริสะ : ในแบบที่ฉันชอบ
มาริสะ : ถ้าต้องเป็นเหมือนสองคนเมื่อกี้นี้
มาริสะ : ฉันขอผ่านว่ะ
โอคินะ : อะฮะฮะ
โอคินะ : เข้าใจผิดอะไปรึเปล่า ?
โอคินะ : เธอไม่ได้เป็นตัวเลือก
โอคินะ : มาตั้งแต่แรกแล้ว
มาริสะ : ว่าไงนะ ?
โอคินะ : ฉันจะเป็นคนเลือกเองว่าจะรับใครมาเป็นลูกน้อง
โอคินะ : ไม่ได้ถามเธอสักหน่อย
มาริสะ : ฮึ คิดจะใช้กำลังงั้นเรอะ
มาริสะ : ตรงตามที่ต้องการเลยโว้ย !
โอคินะ : ตราบเท่าที่ยังมีประตูสี่ฤดูอยู่ข้างหลังเธอ
โอคินะ : ย่อมไม่มีวิชาใดจะหนีพ้นการควบคุมของฉันไปได้
โอคินะ : ถ้างั้นจะเริ่มการทดสอบทมิฬขั้นสุดท้ายล่ะนะ
โอคินะ : ถ้าทำให้ผิดหวังล่ะก็ ฉันฆ่าเธอแน่ !
ถ้าผู้เล่นมิได้ใช้คอนทินิวระหว่างเล่น >> Ending No.07 (Marisa's Good Ending)
ถ้าผู้เล่นทำการคอนทินิวระหว่างเล่น >> Ending No.08 (Marisa's Bad Ending)
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
*กดที่หัวข้อเพื่อแสดงข้อความ*
(หรือกดที่นี่เพื่อแสดงข้อความทั้งหมดในส่วนนี้)
Ending No.01 Reimu's Good Ending

(บนกล่องตรงศาลเจ้า : เงิน)
ศาลเจ้าฮาคุเรย์
ศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกนโซวเคียว และมีชื่อเล่นว่า "ศาลเจ้าโยวไค"

(ในภาพ : ยังอยู่สินะ)
อาอุน「คุณเรย์มุกลับมาแล้วแบบนี้
แปลว่าอีกเดี๋ยวฤดูใบไม้ผลิของศาลเจ้าก็จะจบลงแล้วสินะค้า」
เรย์มุ「ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็ดีสิน้า」
อาอุน「ท่าทางเหนื่อยใจน่าดูเลย เจอตัวผู้บงการแล้วสินะคะ」
เรย์มุ「แหงอยู่แล้ว
ย้ำไปแล้วล่ะว่าอย่าทำอะไรให้มันลามปามมาถึงพวกภูต」
อาอุน「ลามปาม พวกภูต ?」
เรย์มุ「ดูเหมือนว่าฤดูกาลผิดเพี้ยนไป
เพราะยัยพวกนั้นทำให้เหล่าภูตอาละวาดน่ะ」
เรย์มุ「เพราะงั้นเลยให้หยุดทำแบบนั้นแล้ว
หลังจากนี้ก็น่าจะกลับเป็นเหมือนเดิมแล้วล่ะ แน่ๆเลย」

(ในภาพ : ยัยนี่ทำตัวสนิทสนมใหญ่เลย)
อาอุน「หืม― แต่ฟังดูเหมือนไม่สบอารมณ์ยังไงชอบกลนะคะ」
เรย์มุ「จริงๆแล้ว...... จะเรียกว่าสัญญาก็ไม่ถูก
แค่พูดย้ำอยู่ฝ่ายเดียวในระหว่างต่อสู้เท่านั้นเอง」
เรย์มุ「ดูเหมือนจะติดกับดักเข้า
เลยพลาดปล่อยให้หนีไปจนได้น่ะน้า」
อาอุน「ตายจริง ถือว่าแปลกสำหรับคุณเรย์มุเลยนะค้า」
เรย์มุ「ดูเหมือนยัยพวกนั้นจะสามารถเดินทางไปที่ไหนก็ได้ด้วยประตูประหลาดน่ะ
พอรู้สึกตัวอีกทีก็หายไปแล้ว」
อาอุน「แต่ว่า ไม่เป็นไรหรอกค่ะ―」
เรย์มุ「?」
อาอุน「เพราะสุดท้ายแล้วคุณเรย์มุก็ไม่น่าจะแพ้ได้หรอกค่ะ―」
เรย์มุ「ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็ดีสิน้า」
เรย์มุ「ตราบเท่าที่ยังทำอะไรกับประตูประหลาดที่ด้านหลังไม่ได้
ดูเหมือนพวกนั้นจะสามารถซ่อนตัวที่ไหนก็ได้ แย่จังเลยน้า」
อาอุน「ประตูที่ด้านหลัง......อ๊ะ」
เรย์มุ「ฉันได้เจอศัตรูเพราะกระโจนเข้าไปในประตูของจิโซวที่เจอในป่าน่ะ」
อาอุน「ถ้างั้นการไปเจออีกครั้งก็ง่ายนิดเดียวไม่ใช่เหรอคะ
แบบว่า นั่นไงคะ ที่ด้านหลังของคุณเรย์มุ......」
อาอุนชี้ไปที่ด้านหลังของเรย์มุ
ตรงนั้นมีประตูประหลาดติดอยู่
แต่เรย์มุไม่ตกใจเลย
เธอเป็นพวกที่ต่อให้สภาพอากาศแปรปรวนไปทั่วเกนโซวเคียวก็ไม่ใส่ใจ
แม้ไม่สนใจที่จะตีแผ่ความจริงก็คงสังเกตอยู่บ้างแหละ
แต่นี่เป็นโอกาสแล้ว
เรย์มุสาบานว่าจะกระโจนเข้าไปในประตูที่ด้านหลังแล้วต่อสู้กับเทพลับปริศนาอีกครั้ง
คราวนี้ เธอเอาฤดูกาลรองที่สามารถติดตั้งได้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเองแทน......
Ending No.01 ตัดสินใจสู้อีกครั้ง
Congratulation !
ยินดีด้วยที่จบเกมได้แบบ No Continue !
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Ending No.02 Reimu's Bad Ending

(บนกล่องตรงศาลเจ้า : เงิน)
ศาลเจ้าฮาคุเรย์
ศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกนโซวเคียว

(ในภาพ : อ้าว―)
เรย์มุ「อืม― อ้าว― ?
มาอยู่ที่ศาลเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า......」
เรย์มุ「จริงสิ ยัยนั่นหนีไปโดยใช้ประตูที่ด้านหลังล่ะมั้ง
โธ่เว้ย คราวหน้าจะโค่นอย่างรวดเร็วจนหนีไม่ทันเลย !」
ดูเหมือนจะปล่อยให้หนีไปได้ตอนไหนก็ไม่รู้
เพราะมัวแต่นึกว่าอาวุธของตนโดนผนึกไป
เรย์มุจึงไปท้าสู้อีกครั้ง
Ending No.02 พ่ายแพ้กะทันหัน
ยินดีด้วยที่จบเกม !
ครั้งต่อไปมาตั้งเป้าว่าจะจบเกมแบบ No Continue กันเถอะ !
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Ending No.03 Cirno's Good Ending

ท้องฟ้าเหนือเกนโซวเคียว
แม้แต่ความร้อนของฤดูร้อนก็ไม่สะทกสะท้านเพราะเป็นภูต

ชิลโน่「สำเร็จแล้วโว้ย ! ในที่สุดก็แข็งแกร่งที่สุดแล้ว !」
ลาร์วา「สุดยอด สุดยอด !
สมกับที่เอาชนะฉันได้เลยนะ !」
ลาร์วา「แล้วเธอไปโค่นคนแบบไหนมาเหรอ― ?」
ชิลโน่「คนที่ถือปังตออันใหญ่―
สุนัขที่อยู่ในศาลเจ้า― คนที่สวมหมวกฟาง―
แล้วก็......เอ่อ― อะไรต่อหว่า ?」
ชิลโน่「ความทรงจำหลังจากนั้นมันคลุมเครือแฮะ
แต่จำได้ว่ามุดเข้าประตูไปเพียบเลย......」
ลาร์วา「ว้าย― เลอะ―เลือน―ด้วย―ล่ะ―」
ชิลโน่「เลอะเลือนเพราะความร้อนล่ะมั้งน้า
......อ้าว ? เฮ้ย ! ข้างหลังเธอ...... !」

ชิลโน่「มีของที่เหมือนประตูอยู่นะ !?」
ลาร์วา「อะไรนะ น่ากลัวจัง」
ชิลโน่「ประตูนั่น เหมือนเคยเห็น...... อึก ปวดหัว......」
ชิลโน่「จริงสิ นึกออกแล้ว
เค้าเจอกับคนพิลึกๆในโลกที่มีแต่ประตูเต็มไปหมด」
ลาร์วา「คนพิลึก ?」
ชิลโน่「นักเต้นรำพิลึก กับคนขี้เกียจที่ต่อสู้โดยนั่งอยู่บนเก้าอี้น่ะ
รู้สึกเหมือนเคยต่อสู้กับยัยพวกนั้น......
แต่แปลกแฮะ ความทรงจำช่วงนั้นคลุมเครือชะมัด」
ลาร์วา「หืม― ถ้างั้นก็แปลว่าแพ้มาไม่ใช่เหรอ ?」
ชิลโน่「มะ ไม่มีทางแพ้หรอกน่า !?
เค้าแข็งแกร่งที่สุดนะ !」
เหล่าภูตที่อาละวาดเพราะได้รับผลกระทบจากสองบริวารล้วนมีความทรงจำคลุมเครือ
สาเหตุที่ฤดูกาลแปรปรวนนั้นเป็นเพราะเหล่าภูตที่ควบคุมธรรมชาติ
ต่างออกมาอาละวาดจนเกินขอบเขต
ประตูที่ปรากฏขึ้น ณ ด้านหลังของเหล่าภูตคือหลักฐานว่าได้รับผลกระทบดังกล่าว
ชิลโน่เข้าใจเรื่องนี้แล้ว จึงเตือนลาร์วาเอาไว้ว่า
"ห้ามมองและสัมผัสข้างหลังเด็ดขาดเลยนะ"
แน่นอน เธอตั้งใจเอาไว้ว่า
เตรียมตัวเสร็จเมื่อไหร่ก็จะเข้าประตูนั่นเพื่อไปทวงความทรงจำกลับมา
Ending No.03 ประตูที่ด้านหลังปรากฏขึ้นอีกครั้ง
Congratulation !
ยินดีด้วยที่จบเกมได้แบบ No Continue !
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Ending No.04 Cirno's Bad Ending

ท้องฟ้าเหนือเกนโซวเคียว
ที่นี่คือที่ไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน―

ชิลโน่「วันนี้ก็อากาศดีเหมือนเคยเลยน้า―
แสงแดดของฤดูร้อนทำเอาผิวคล้ำหมดเลยโว้ย―」
ชิลโน่「อ้าว ? แสงแดดของฤดูร้อน...... ?
เมื่อก่อนไม่ถูกกับความร้อนนี่นา
ไม่มีปัญหากับความร้อนตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ?」
ชิลโน่「เอ้อ ช่างเถอะ คงเอาชนะจุดอ่อนได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ล่ะนะ
แปลว่าตอนนี้เค้าพร้อมที่จะแข็งแกร่งที่สุดแล้ว !
ชักมีไฟขึ้นมาแล้วโว้ย― อยากทดสอบความแข็งแกร่งที่สุดกับที่ไหนสักแห่งจัง―」
ชิลโน่「โอ๊ะ มีภูตโผล่มาพอดีเลยโว้ย !
ลองไปสู้ดูสักตั้งดีกว่า― !」
ภูตผีเสื้อ ลาร์วา ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าในเวลานั้นพอดี
แล้วชิลโน่ก็เริ่มการต่อสู้(ครั้งที่เท่าใดก็ไม่รู้)
ดูเหมือนเธอกำลังสูญเสียตัวตนไปด้วยผลกระทบจากการอาละวาด
Ending No.04 เริ่มโลกลูปเลอะเลือน
ยินดีด้วยที่จบเกม !
ครั้งต่อไปมาตั้งเป้าว่าจะจบเกมแบบ No Continue กันเถอะ !
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Ending No.05 Aya's Good Ending

ภูเขาโยวไค
ภูเขาที่สูงที่สุดในเกนโซวเคียว รังของเหล่าโยวไค โดยมีเทนกุเป็นแกนนำ

ฮาตาเตะ「ยัยนั่นบอกว่าตัวเองเป็นเทพแห่งสิ่งกีดขวางสินะ」
อายะ「ใช่แล้ว ฉันคิดว่าเรื่องนี้สำคัญมากเลยล่ะ」
ฮาตาเตะ「หืม― เป็นเรื่องที่น่ากังวลจังเลยน้า」
ฮาตาเตะ「ถ้าหากโผล่มาเพราะได้รับศรัทธาจากใครสักคน
นั่นอาจเป็นเพราะต้องการขับไล่เทนกุก็ได้
แต่ถ้าหากโผล่มาเอง แบบนั้นคงมาเพื่อทำลายล้างเทนกุเลยมากกว่า......」
อายะ「ฉันไม่รู้สึกถึงความเป็นศัตรูมากขนาดนั้นนะ
แต่ก็จริงที่ว่า ยัยนั่นดูเหมือนไม่ชอบใจที่ได้เจอกับฉัน」
ฮาตาเตะ「แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ การที่เธอมาปรึกษาฉันนี่จัดว่าแปลกน่าดูเลยนะ」

อายะ「เป็นเพราะตอนแรกฉันแค่ตรวจสอบเรื่องเหตุวิปลาสเกี่ยวกับฤดูกาลเฉยๆ
แต่ถ้าเกี่ยวพันถึงอันตรายต่อเผ่าเทนกุก็คงไม่ใช่เวลามาเขียนข่าวลงหนังสือพิมพ์แล้วล่ะ」
ฮาตาเตะ「เอาอีกแล้ว ยัยคนชอบปกปิดข้อมูลที่ทำให้ตัวเองเสียเปรียบ」
อายะ「นั่นเป็นแบบอย่างที่ดีของนักข่าวไม่ใช่เหรอ ?
แถมถ้าไม่ใช่เรื่องทำข่าว จะปรึกษาใครก็ไม่มีปัญหาสักหน่อย」
ฮาตาเตะ「บอกมาตามตรงเถอะ เธออยากให้ฉันใช้ความสามารถในการถ่ายภาพพลังจิตใช่มั้ยล่ะ」
อายะ「ใช่แล้ว แน่นอนเลยล่ะ
อันที่จริงฉันได้สู้กับผู้บงการมาแล้ว แต่พ่ายแพ้กลับมาน่ะ
ดันติดกับดักของฝ่ายนั้นตั้งแต่แรก ทำให้โดนชิงอาวุธไปจนหมดเลย」
อายะ「สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง พอรู้สึกตัวอีกที ฝ่ายนั้นก็หนีไปแล้ว」
ฮาตาเตะ「หายากน่าดูเลยนะ สายต่อสู้อย่างเธอดันทำเสียงอ่อนใจแบบนี้」
อายะ「สายสังคมต่างหากล่ะ」
อายะ「ฉันไม่รู้เลยสักนิดว่าตอนนี้ศัตรูกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหน
เลยอยากใช้การถ่ายภาพพลังจิตของเธอเพื่อหาเบาะแสน่ะ」
ฮาตาเตะ「มันก็ได้อยู่หรอก...... แต่ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าอยู่ที่ไหนนี่นา」
อายะ「ไม่เป็นไรหรอก ฉันมีวิธี
มีคำใบ้อยู่ที่อุปกรณ์ฤดูกาลน่ะ」
ฮาตาเตะ「ธะ เธอ มีประตูอยู่ข้างหลัง...... !?」
อายะเริ่มใช้อุปกรณ์ฤดูกาลที่น่าจะเป็นกับดักอีกครั้ง
สิ่งนี้น่าจะเป็นกับดักของศัตรู แต่ก็เป็นจุดเชื่อมโยงเพียงหนึ่งเดียวที่เชื่อมไปถึงตัวศัตรู
อายะตั้งใจว่าจะลองกระโจนเข้าไปในประตูที่อยู่ด้านหลัง เมื่อคิดมาตรการรับมือได้แล้ว
นี่ไม่ใช่เพราะความเจ็บใจ
ไม่ใช่เพื่อช่วยเผ่าเทนกุจากอันตราย
ถ้างั้นอายะลงมือเพื่ออะไรกัน
นั่นก็เพื่อใช้ทำข่าวลงหนังสือพิมพ์ไงล่ะ
หากเผ่าเทนกุสามารถพ้นภัยได้ ย่อมสามารถใช้ทำข่าวได้อยู่แล้ว
Ending No.05 แบบอย่างที่ดีของนักข่าว
Congratulation !
ยินดีด้วยที่จบเกมได้แบบ No Continue !
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Ending No.06 Aya's Bad Ending

ภูเขาโยวไค
ภูเขาที่สูงที่สุดในเกนโซวเคียว รังของเหล่าโยวไค โดยมีเทนกุเป็นแกนนำ

อายะ「ดูเหมือนจะหนีไปได้สินะ
ประตูที่อยู่ด้านหลังนั่นยุ่งยากจังเลยน้า แบบนี้ยัยนั่นจะหนีไปที่ไหนก็ได้」
อายะ「แค่โค่นได้เร็วกว่านี้ก็พอล่ะมั้ง
คราวหน้าลองเตรียมแผนให้รอบด้านแล้วค่อยไปสู้ดีกว่า」
ดูเหมือนผู้บงการจะเป็นศัตรูของเผ่าเทนกุ
แต่สุดท้ายก็หนีรอดไปได้โดยที่ยังโค่นไม่สำเร็จ
เธอจึงอยากโค่นให้ได้ก่อนที่จะหนีไปในคราวหน้า
Ending No.06 ประตูไปไหนก็ได้
ยินดีด้วยที่จบเกม !
ครั้งต่อไปมาตั้งเป้าว่าจะจบเกมแบบ No Continue กันเถอะ !
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Ending No.07 Marisa's Good Ending

ป่าเวทมนตร์
ป่าที่อุดมไปด้วยความพิศวงและความสยดสยองแห่งเกนโซวเคียว
บ้านของมาริสะอยู่ที่นั่น

(ในภาพ : ทำอะไรอยู่น่ะ / ปั้นตุ๊กตาหิมะเสร็จแล้วล่ะ)
นารุโกะ「เห― กว้างขนาดนั้นเลยเหรอ อีกฟากของประตูที่อยู่ด้านหลังนั่น」
มาริสะ「ลำบากแย่เลยล่ะ
พวกที่น่าสยดสยองยั้วเยี้ยเต็มไปหมด」
มาริสะ「ดูเหมือนจะเดินทางไปมาด้วยการสร้างประตูเวทมนตร์ขึ้นข้างหลังน่ะ
จะว่าไป รู้สึกว่ายัยคนที่สร้างประตูได้จะมีพลังเวทเพิ่มสูงขึ้นด้วยล่ะ」
นารุโกะ「อะไรล่ะนั่น โจมตีแปลกดีน้า」
นารุโกะ「แล้วทำไมถึงมีหิมะตกในป่าเวทมนตร์เหรอ ?」
มาริสะ「ดูเหมือนจะมีต้นเหตุมาจากการอาละวาดของพวกภูตที่มีประตูอยู่ข้างหลังน่ะ
พวกภูตในป่าเวทมนตร์คงเหมาะกับฤดูหนาวล่ะมั้ง」
นารุโกะ「ถ้างั้น การอาละวาดจะจบลงแล้วสินะ」
มาริสะ「อันที่จริงก็ยังไม่รู้เหมือนกัน
เพราะไม่รู้ว่าทำไมยัยนั่นถึงหนีไปได้น่ะ」

นารุโกะ「เอ๋― ? ปล่อยให้หนีไปได้เหรอ― ? ไม่ได้เรื่องเลยน้า―」
มาริสะ「หนวกหูน่า―
อย่างที่คิดนั่นแหละว่าประตูที่อยู่ข้างหลังมันเป็นกับดัก」
มาริสะ「ดูเหมือนฉันเองก็มีประตูติดอยู่ที่ด้านหลังด้วย
เคยนึกอยู่เหมือนกันว่าทำไมถึงสามารถใช้เวทมนตร์ที่ไม่เหมือนปกติจากข้างหลังได้
ที่แท้ก็เป็นพลังของยัยพวกนั้นนั่นเอง」
มาริสะ「เลยกลายเป็นว่าฉันรวบรวมพลังให้แก่ประตูที่อยู่ข้างหลัง
โดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย」
นารุโกะ「เป็นวิธีการรวบรวมพลังเวทที่ฉลาดดีน้า」
มาริสะ「แล้วพลังเวทที่รวบรวมมาทั้งหมดก็ถูกช่วงชิงไป
จากนั้นยัยพวกนั้นก็หนีไปโดยอาศัยช่วงชุลมุนน่ะ」
นารุโกะ「แต่ว่า ถ้างั้นจุดประสงค์คืออะไรกันล่ะ ?」
มาริสะปิดปากเงียบ
เพราะมันพูดยากอย่างบอกไม่ถูกว่านั่นคือการตามหาและชวนเข้าเป็นพวก
งานของยัยพวกนั้นคือการรักษาสมดุลของเกนโซวเคียว
และดูเหมือนมาริสะจะเป็นที่ต้องตาของอีกฝ่ายซะด้วย
แต่อันที่จริงแล้วก็ไม่รู้ว่าผ่านการคัดเลือกรึเปล่า
พอรู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่ป่าเวทมนตร์แล้ว แปลว่าไม่ผ่านการคัดเลือกงั้นเหรอ ?
ใช่ว่าเธอจะไม่สนใจเรื่องนั้นเลยแม้แต่น้อย
แต่ก็ไม่มีความกล้าที่จะละทิ้งชีวิตในปัจจุบันไป
แม้ยังมีความขัดแย้งอยู่ในใจของตน เธอก็ตั้งใจว่าจะออกตามหาประตูด้านหลัง
เพื่อไปพบกับผู้บงการอีกครั้ง
Ending No.07 การสอบคัดเลือกที่น่าสยดสยอง
Congratulation !
ยินดีด้วยที่จบเกมได้แบบ No Continue !
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Ending No.08 Marisa's Bad Ending

ป่าเวทมนตร์
ป่าที่อุดมไปด้วยความพิศวงและความสยดสยองแห่งเกนโซวเคียว
บ้านของมาริสะอยู่ที่นั่น

(ในภาพ : เครียดจนหูอื้อเลย)
มาริสะ「อืม― ทำยังไงก็สู้ไม่ไหวแฮะ
ถ้าอยากชนะก็จำเป็นต้องมีข้อมูลมากกว่านี้ล่ะนะ」
มาริสะ「ประตูข้างหลัง ประตูข้างหลัง......
อย่างที่คิดเลย หาเจอแล้วก็ทำได้แค่กระโจนเข้าไปล่ะน้า」
พอคิดว่าอาวุธของตนโดนผนึกจนหมด
ก็ไม่รู้ว่ากลับมาถึงป่าเวทมนตร์ตั้งแต่ตอนไหน
มาริสะจึงตัดสินใจว่าจะไปสู้อีกครั้ง
Ending No.08 ไม่ผ่านการคัดเลือกงั้นเหรอ ?
ยินดีด้วยที่จบเกม !
ครั้งต่อไปมาตั้งเป้าว่าจะจบเกมแบบ No Continue กันเถอะ !
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................(หรือกดที่นี่เพื่อแสดงข้อความทั้งหมดในส่วนนี้)
ฉากเลือกตัวละคร
ระดับความยาก
EASY : ฝนพรำในฤดูใบไม้ผลิ ความยากระดับที่ต่อให้ไม่กางร่มก็ไม่เป็นไร
NORMAL : ฝนยามเย็นในฤดูร้อน ความยากระดับที่จำเป็นต้องเตรียมตัวล่วงหน้า
HARD : ไต้ฝุ่นในฤดูใบไม้ร่วง ความยากระดับที่ไม่ออกไปข้างนอกจะดีกว่า
LUNATIC : ฤดูหนาวแห่งการเก็บตัว เก็บตัวอยู่แต่ในบ้านไปซะ
EXTRA : ฤดูกาลที่ห้า เอาล่ะ ! เวลาแห่งการตอบโต้มาถึงแล้ว
ฉากเลือกตัวละคร
SPRING
มิโกะผู้ไม่ร้อนใจไปกับดวงตะวันแห่งฤดูใบไม้ผลิ
ฮาคุเรย์ เรย์มุ
ฤดูกาลที่พืชพรรณแตกหน่อ เปี่ยมล้นด้วยพลังชีวิตของพืชพรรณ
ดอกซากุระบานสะพรั่ง แฝงไว้ด้วยความหวังและความกังวล
ฤดูกาลที่ทำให้รู้สึกถึง อนาคต มากที่สุด
ออพชั่น : Breezy Cherry Blossom
สเปลการ์ด : 霊符「夢想桜花封印」 (ยันต์ฝัน「ผนึกจินตนาการดอกซากุระ」)
กระสุนซากุระโฮมมิ่งที่ใช้งานง่าย
SUMMER
ภูตน้ำแข็งผู้ไม่ละลายใต้แสงแดดจ้า
ชิลโน่ผิวคล้ำ
ฤดูกาลที่ดวงตะวันอันร้อนแรงสาดส่อง เปี่ยมล้นด้วยไอร้อนอันแรงกล้า
ความร้อนระอุ กับฝนยามเย็นที่ชะล้างทุกสิ่ง
ฤดูกาลที่หลากอารมณ์ที่สุด
ออพชั่น : Perfect Summer Ice
สเปลการ์ด : 氷符「クールサンフラワー」 (ยันต์น้ำแข็ง「Cool Sunflower」)
โจมตีด้วยก้อนน้ำแข็งเป็นวงกว้าง
FALL
เทนกุผู้โปรยปรายใบไม้เปลี่ยนสี
ชาเมย์มารุ อายะ
ฤดูกาลที่ผักและผลไม้ผลิดอกออกผล ได้เห็นผลงานของหนึ่งปีที่ผ่านมา
แมกไม้ที่เคยเป็นสีเขียวล้วนต่างเริ่มแต่งแต้มสีสันเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเกิดใหม่
ฤดูกาลที่ลี้ลับมีมนต์ขลังที่สุด
ออพชั่น : Crazy Fall Wind
สเปลการ์ด : 風符「天狗突風雨」 (ยันต์วายุ「วายุฝนเทนกุกระหน่ำ」
ยิงกระสุนทะลุทะลวงความเร็วต่ำ
WINTER
จอมเวทผู้สั่นสะท้านให้แก่ความหนาวจัด
คิริซาเมะ มาริสะ
ฤดูกาลที่ถูกปกคลุมด้วยปฐพีสีขาวโพลน สรรพสิ่งล้วนหลับใหล
พลังชีวิตโรยรา แต่ศรัทธาในรูปลักษณ์ที่แท้จริงของโลกนี้
ฤดูกาลที่สง่างามที่สุด
ออพชั่น : Extreme Winter
สเปลการ์ด : 恋符「マスタースパークフローズン」 (ยันต์รัก「Master Spark Frozen」
เล็งไปข้างหน้าด้วยเลเซอร์ไอเย็น
ฉากเลือกฤดูกาลรอง
ฤดูใบไม้ผลิ
ออพชั่น : Breezey Cherry Blossom
ยิงกระสุนติดตาม
ปลดปล่อยแล้วจะเปลี่ยนกระสุนศัตรูเป็นไอเทมฤดูกาลเป็นวงกว้าง
แถมยังเป็นอมตะชั่วครู่ด้วย !
ฤดูร้อน
ออพชั่น : Perfect Summer Ice
ยิงกระสุนเฉียงออกอย่างสะเปะสะปะ
ปลดปล่อยแล้วมีรัศมีแคบมาก แถมระยะเวลาสั้น
แต่ใช้ออพชั่นแค่อันเดียว !
ฤดูใบไม้ร่วง
ออพชั่น : Crazy Fall Wind
ยิงถล่มด้านหน้าเป็นพื้นที่กว้าง
ปลดปล่อยแล้วจะเปลี่ยนกระสุนศัตรูรอบตัวเป็นไอเทมฤดูกาล
ระหว่างปลดปล่อยยังเคลื่อนที่เร็วได้ !
ฤดูหนาว
ออพชั่น : Extreme Winter
ยิงเลเซอร์สนับสนุน
ปลดปล่อยแล้วจะกางบาเรียอยู่ตรงนั้นชั่วระยะเวลาหนึ่ง
ช่วยเพิ่มพลังโจมตีในระหว่างปลดปล่อย !
รอยต่อฤดู (สำหรับ Extra)
ออพชั่น : ชีวิตช่วงพักร้อน
โจมตีไปข้างหลังโดยตรงอย่างรุนแรง
ปลดปล่อยแล้วจะกางบาเรียไปข้างหลังโดยมีขอบเขตแคบมากๆ
แถมยังใช้ออพชั่นเพียง 1 อันเท่านั้น !
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................EASY : ฝนพรำในฤดูใบไม้ผลิ ความยากระดับที่ต่อให้ไม่กางร่มก็ไม่เป็นไร
NORMAL : ฝนยามเย็นในฤดูร้อน ความยากระดับที่จำเป็นต้องเตรียมตัวล่วงหน้า
HARD : ไต้ฝุ่นในฤดูใบไม้ร่วง ความยากระดับที่ไม่ออกไปข้างนอกจะดีกว่า
LUNATIC : ฤดูหนาวแห่งการเก็บตัว เก็บตัวอยู่แต่ในบ้านไปซะ
EXTRA : ฤดูกาลที่ห้า เอาล่ะ ! เวลาแห่งการตอบโต้มาถึงแล้ว
ฉากเลือกตัวละคร
SPRING
มิโกะผู้ไม่ร้อนใจไปกับดวงตะวันแห่งฤดูใบไม้ผลิ
ฮาคุเรย์ เรย์มุ
ฤดูกาลที่พืชพรรณแตกหน่อ เปี่ยมล้นด้วยพลังชีวิตของพืชพรรณ
ดอกซากุระบานสะพรั่ง แฝงไว้ด้วยความหวังและความกังวล
ฤดูกาลที่ทำให้รู้สึกถึง อนาคต มากที่สุด
ออพชั่น : Breezy Cherry Blossom
สเปลการ์ด : 霊符「夢想桜花封印」 (ยันต์ฝัน「ผนึกจินตนาการดอกซากุระ」)
กระสุนซากุระโฮมมิ่งที่ใช้งานง่าย
SUMMER
ภูตน้ำแข็งผู้ไม่ละลายใต้แสงแดดจ้า
ชิลโน่ผิวคล้ำ
ฤดูกาลที่ดวงตะวันอันร้อนแรงสาดส่อง เปี่ยมล้นด้วยไอร้อนอันแรงกล้า
ความร้อนระอุ กับฝนยามเย็นที่ชะล้างทุกสิ่ง
ฤดูกาลที่หลากอารมณ์ที่สุด
ออพชั่น : Perfect Summer Ice
สเปลการ์ด : 氷符「クールサンフラワー」 (ยันต์น้ำแข็ง「Cool Sunflower」)
โจมตีด้วยก้อนน้ำแข็งเป็นวงกว้าง
FALL
เทนกุผู้โปรยปรายใบไม้เปลี่ยนสี
ชาเมย์มารุ อายะ
ฤดูกาลที่ผักและผลไม้ผลิดอกออกผล ได้เห็นผลงานของหนึ่งปีที่ผ่านมา
แมกไม้ที่เคยเป็นสีเขียวล้วนต่างเริ่มแต่งแต้มสีสันเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเกิดใหม่
ฤดูกาลที่ลี้ลับมีมนต์ขลังที่สุด
ออพชั่น : Crazy Fall Wind
สเปลการ์ด : 風符「天狗突風雨」 (ยันต์วายุ「วายุฝนเทนกุกระหน่ำ」
ยิงกระสุนทะลุทะลวงความเร็วต่ำ
WINTER
จอมเวทผู้สั่นสะท้านให้แก่ความหนาวจัด
คิริซาเมะ มาริสะ
ฤดูกาลที่ถูกปกคลุมด้วยปฐพีสีขาวโพลน สรรพสิ่งล้วนหลับใหล
พลังชีวิตโรยรา แต่ศรัทธาในรูปลักษณ์ที่แท้จริงของโลกนี้
ฤดูกาลที่สง่างามที่สุด
ออพชั่น : Extreme Winter
สเปลการ์ด : 恋符「マスタースパークフローズン」 (ยันต์รัก「Master Spark Frozen」
เล็งไปข้างหน้าด้วยเลเซอร์ไอเย็น
ฉากเลือกฤดูกาลรอง
ฤดูใบไม้ผลิ
ออพชั่น : Breezey Cherry Blossom
ยิงกระสุนติดตาม
ปลดปล่อยแล้วจะเปลี่ยนกระสุนศัตรูเป็นไอเทมฤดูกาลเป็นวงกว้าง
แถมยังเป็นอมตะชั่วครู่ด้วย !
ฤดูร้อน
ออพชั่น : Perfect Summer Ice
ยิงกระสุนเฉียงออกอย่างสะเปะสะปะ
ปลดปล่อยแล้วมีรัศมีแคบมาก แถมระยะเวลาสั้น
แต่ใช้ออพชั่นแค่อันเดียว !
ฤดูใบไม้ร่วง
ออพชั่น : Crazy Fall Wind
ยิงถล่มด้านหน้าเป็นพื้นที่กว้าง
ปลดปล่อยแล้วจะเปลี่ยนกระสุนศัตรูรอบตัวเป็นไอเทมฤดูกาล
ระหว่างปลดปล่อยยังเคลื่อนที่เร็วได้ !
ฤดูหนาว
ออพชั่น : Extreme Winter
ยิงเลเซอร์สนับสนุน
ปลดปล่อยแล้วจะกางบาเรียอยู่ตรงนั้นชั่วระยะเวลาหนึ่ง
ช่วยเพิ่มพลังโจมตีในระหว่างปลดปล่อย !
รอยต่อฤดู (สำหรับ Extra)
ออพชั่น : ชีวิตช่วงพักร้อน
โจมตีไปข้างหลังโดยตรงอย่างรุนแรง
ปลดปล่อยแล้วจะกางบาเรียไปข้างหลังโดยมีขอบเขตแคบมากๆ
แถมยังใช้ออพชั่นเพียง 1 อันเท่านั้น !
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
Reimu's Story

Stage 1
ชื่อด่าน : วันร้อนจัดหลังสายหมอกยามเช้า (Miracle Blue Sky)
สถานที่ : ท้องฟ้ากลางฤดูร้อน
สถานที่ : ท้องฟ้ากลางฤดูร้อน
(เปิดเพลง BGM : ดาวแห่งความหวังทะยานสู่ฟ้าคราม)
เรย์มุ : ร้อนจังเลยน้า
เรย์มุ : ถ้าดูแค่ที่นี่ที่เดียว
เรย์มุ : ก็เหมือนไม่มีอะไรผิดปกติอยู่หรอก......
(เอเทอร์นิตี้ ลาร์วา เข้ามาในหน้าจอ)
??? : มีอะไรเหรอ ?
(แสดงชื่อและฉายาของ เอเทอร์นิตี้ ลาร์วา)
เอเทอร์นิตี้ : มิโกะโผล่ออกมาแบบนี้
เอเทอร์นิตี้ : แปลว่าเกิดเหตุวิปลาสอะไรสักอย่างขึ้นแล้วล่ะสิ― ?
เอเทอร์นิตี้ : ตอนนี้ฉันมีพลังเหลือเฟือเลย
เอเทอร์นิตี้ : ให้ฉันช่วยดีมั้ย
เรย์มุ : แหม แหม คนที่ได้ประโยชน์จากเหตุสี่ฤดูวิปลาส แบบนี้
เรย์มุ : ก็มีแต่พวกภูต(พวกโง่)ที่ไม่เคยทุกข์ร้อนใจเท่านั้นล่ะนะ
เรย์มุ : ฉันไม่ได้ตกต่ำถึงขนาด
เรย์มุ : ที่ต้องให้พวกภูตมาช่วยหรอก
(เปิดเพลง BGM : ความฝันของภูตช่วงกลางฤดูร้อน)
เอเทอร์นิตี้ : เหรอ ?
เอเทอร์นิตี้ : ถ้างั้นขออาละวาดให้สุดเหวี่ยงละกัน
เอเทอร์นิตี้ : เลือดกำลังเดือดพล่านเลยล่ะ !
เอเทอร์นิตี้ : ด้วยความร้อนของช่วงกลางฤดูร้อน !
(เอเทอร์นิตี้ ลาร์วา แพ้พ่าย)
เอเทอร์นิตี้ : ยอมแล้วจ้า―
เรย์มุ : ฟู่ ตึงมือกว่าที่คิดแฮะ
เอเทอร์นิตี้ : ฉันเองก็ไม่เคยนึกมาก่อนเหมือนกัน
เอเทอร์นิตี้ : ว่าจะปล่อยพลังออกมาได้มากขนาดนี้
เอเทอร์นิตี้ : ท้องฟ้าสีครามของฤดูร้อนทำให้ฉันเป็นแบบนี้
เอเทอร์นิตี้ : ถ้าเป็นตอนนี้ ฉันรู้สึกว่า
เอเทอร์นิตี้ : สามารถเป็นพระเจ้าของโลกใหม่ได้เลยล่ะ !
เรย์มุ : เหรอ......
เรย์มุ : พวกภูตแปลกไปพร้อมๆกับสภาพอากาศที่ผิดปกติ
เรย์มุ : ต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆเลยน้า
Tips :
- เรย์มุตั้งชื่อเหตุวิปลาสในครั้งนี้ว่า เหตุสี่ฤดูวิปลาส
Stage 2
ชื่อด่าน : ความโดดเดี่ยวของภูเขาแดง (Red Mountain Loneliness)
สถานที่ : ขุนเขาที่ใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว
สถานที่ : ขุนเขาที่ใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว
(เปิดเพลง BGM : สายลมไร้สีสู่ภูเขาโยวไค)
(ซาคาตะ เนมุโนะ เข้ามาในหน้าจอ)
??? : อะไรน่ะ ?
??? : ที่นี่เป็นถิ่นของชั้นนะ
เรย์มุ : หา― ?
เรย์มุ : ถิ่น ?
(แสดงชื่อและฉายาของ ซาคาตะ เนมุโนะ)
เนมุโนะ : ใช่แล้ว
เนมุโนะ : คนนอกห้ามเข้ามาตามอำเภอใจนะ
เรย์มุ : ถิ่นงั้นเหรอ
เรย์มุ : ฉันนึกว่าแถวนี้อยู่ในเขตปกครองของพวกเทนกุเสียอีก......
เรย์มุ : เธอไม่น่าจะเป็นเทนกุนี่นา
เรย์มุ : เธอเป็นใครน่ะ ?
(เปิดเพลง BGM : Encounter กลางภูเขา)
เนมุโนะ : จะเป็นใครก็ช่างเหอะ
เนมุโนะ : ถ้าคิดจะอยู่ที่นี่นานไปกว่านี้ล่ะก็
เนมุโนะ : เธอต้องกลายเป็นอาหารสำรองช่วงฤดูหนาวแล้วล่ะ
(ซาคาตะ เนมุโนะ แพ้พ่าย)
เนมุโนะ : เธอแข็งแกร่งดีนะ
เนมุโนะ : เธอเป็นใครกันแน่ ?
เรย์มุ : เอ๋ เอ่อ
เรย์มุ : ฉันทำงานเป็นมิโกะอยู่ในศาลเจ้าฮาคุเรย์น่ะ
เนมุโนะ : มิโกะ ?
เนมุโนะ : หืม― ไม่รู้จักแฮะ
เนมุโนะ : แต่ชั้นไม่รังเกียจผู้แข็งแกร่ง
เนมุโนะ : ไปเที่ยวที่บ้านของชั้นมั้ยล่ะ ?
เรย์มุ : จริงสิ เคยได้ยินอยู่นี่นา
เรย์มุ : โยวไคที่ไม่รู้วิถีชีวิตแน่ชัด ปลีกวิเวกถึงขีดสุด
เรย์มุ : อาศัยอยู่ในภูเขาที่ห่างไกลผู้คน
เรย์มุ : ไม่สร้างสังคม ไม่ข้องเกี่ยวกับผู้ใด
เรย์มุ : หรือบางที เธอคือยามันบะล่ะสิ
เนมุโนะ : เคยถูกเรียกแบบนั้นอยู่เหมือนกัน
เนมุโนะ : แล้วพอเข้าฤดูใบไม้ร่วงก็โดนเรียกว่า ทสึรุเบะโอโตชิ
เนมุโนะ : ภูเขาในฤดูใบไม้ร่วง อากาศเย็นลงเร็วมากนะ
เนมุโนะ : มาสิ ไปดื่มน้ำชากันสักหน่อย
เรย์มุ : ขอผ่านดีกว่า
เรย์มุ : ฉันวางแผนไว้ว่าจะมีชีวิตยืนยาวน่ะ......
Tips :
- ทสึรุเบะโอโตชิ แปลว่า ผีถังตก และยังหมายถึงปรากฏการณ์ที่พระอาทิตย์ตกดินเร็วมากในฤดูใบไม้ร่วง
Stage 3
ชื่อด่าน : ทะเลสีซากุระที่มีสัตว์เทพแหวกว่าย (Sea of Spring Pink)
สถานที่ : ซากุระยามค่ำแห่งศาลเจ้าฮาคุเรย์
สถานที่ : ซากุระยามค่ำแห่งศาลเจ้าฮาคุเรย์
(เปิดเพลง BGM : แหวกว่ายในทะเลสีซากุระ)
เรย์มุ : พอมาดูแบบนี้แล้ว
เรย์มุ : ท้องฟ้าเหนือศาลเจ้าก็โดนหนักไม่ใช่เล่นแฮะ
เรย์มุ : เคยนึกอยู่ว่ามันคล้ายฤดูใบไม้ผลิอยู่นิดหน่อย
เรย์มุ : แต่แบบนี้มัน......ผิดปกติแล้วล่ะน้า
(โคมาโนะ อาอุน เข้ามาในหน้าจอ)
??? : อ้าว ?
??? : จะทำการต่อสู้ที่ศาลเจ้าเหรอคะ― ?
(แสดงชื่อและฉายาของ โคมาโนะ อาอุน)
อาอุน : ฉันเฝ้ายามที่ศาลเจ้ามานานแล้วค่ะ
อาอุน : พวกภูตอยู่ในสภาวะคึกคะนองนิดหน่อย
อาอุน : แต่นอกนั้นก็
อาอุน : ไม่มีผู้บุกรุกที่เป็นอันตรายค่ะ
เรย์มุ : เอ่อ―
เรย์มุ : เธอเป็นใครน่ะ ?
อาอุน : ใจร้ายจังเลยน้า
อาอุน : โคมะอินุ นามว่า โคมาโนะ ไงล่ะค้า
เรย์มุ : ......เคยมีโคมะอินุอยู่ด้วยเหรอ ?
อาอุน : มีสิคะ
อาอุน : ฉันแอบเฝ้ายามพวกศาลเจ้ากับวัดมาตลอดเลยค่ะ
อาอุน : เพราะฉะนั้น
อาอุน : ฉันจะเฝ้าศาลเจ้าให้เอง
อาอุน : ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องผู้บุกรุกค่ะ
อาอุน : กรุณาออกเดินทางอย่างสบายใจได้เลยค่ะ
(เปิดเพลง BGM : สัตว์เทพหนึ่งคู่)
เรย์มุ : เดี๋ยวสิ ไม่ว่าจะคิดยังไง
เรย์มุ : เธอก็คือผู้บุกรุกไม่ใช่เหรอ !
เรย์มุ : เรื่องที่ว่าเธอเป็นใครกันแน่
เรย์มุ : ฉันจะตรวจสอบให้ถี่ถ้วนเอง !
(โคมาโนะ อาอุน แพ้พ่าย)
อาอุน : ใจร้าย―
อาอุน : ฉันแค่คอยปกป้องศาลเจ้า
อาอุน : เท่านั้นเองแท้ๆ
เรย์มุ : ดูเหมือนจะไม่ได้โกหกสินะ
อาอุน : ฉันคอยปกป้องศาลเจ้าและวัด
อาอุน : จากพวกศัตรูธรรมดามาตลอดเลยนะคะ
อาอุน : อารมณ์เหมือน อาสาสมัคร ?
เรย์มุ : งั้นเหรอ ไม่รู้ตัวสักนิดเดียวเลยแฮะ
เรย์มุ : ขอโทษนะ
อาอุน : ไม่เป็นไรค่ะ― เพราะว่าฉันรู้สึกสนุก
อาอุน : ที่ได้อุทิศตนโดยพยายามไม่ให้ใครรู้ตัวค่ะ
อาอุน : แต่ไม่รู้ว่าทำไมครั้งนี้ถึงอดรนทนไม่ได้
อาอุน : จนปรากฏตัวออกมาจนได้ก็ไม่รู้......
อาอุน : เป็นเพราะโดนซากุระล่อลวงรึเปล่าน้า ?
อาอุน : ฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะ
เรย์มุ : ......แต่ว่า โคมะอินุ งั้นเหรอ
เรย์มุ : ดูเหมือนเธอเองก็ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุสี่ฤดูวิปลาสสิน้า
เรย์มุ : ยังเหลืออีกแค่ฤดูกาลเดียว
เรย์มุ : แต่รู้สึกว่าที่นั่นก็คาดหวังไม่ได้แฮะ......
เรย์มุ : ลางสังหรณ์มันทื่อลงแล้วรึไงกันน้า
เรย์มุ : ถึงกับหาเบาะแสของเหตุวิปลาสไม่เจอเลยแบบนี้
เรย์มุ : หรือว่าเผลอมองข้ามจุดสำคัญบางอย่างไป
เรย์มุ : อะไรสักอย่างจากพวกที่ต่อสู้ด้วยมาจนถึงตอนนี้...... ?
อาอุน : เดี๋ยวจะออกเดินทางอีกสินะคะ
อาอุน : ฝากเรื่องการเฝ้าศาลเจ้าไว้ให้ฉันได้เลยค่ะ―
เรย์มุ : ภูต ยามันบะ โคมะอินุ......
เรย์มุ : อืม―......ไม่หรอกมั้ง
เรย์มุ : ไม่สิ แต่ว่า......
Stage 4
ชื่อด่าน : การบังเอิญพบเจอยามทัศนวิสัยเป็นศูนย์ (White Blizzard Out of Season)
สถานที่ : ท้องฟ้าเหนือป่าเวทมนตร์(เดา)
สถานที่ : ท้องฟ้าเหนือป่าเวทมนตร์(เดา)
(เปิดเพลง BGM : White Traveler มายา)
(เทย์เรย์ดะ ไม เข้ามาในหน้าจอ)
(เทย์เรย์ดะ ไม แพ้พ่าย)
(เทย์เรย์ดะ ไม ออกไปจากหน้าจอ)
(เทย์เรย์ดะ ไม เข้ามาในหน้าจอ)
??? (ไม) : หรือว่าเธอ
??? (ไม) : คือผู้ที่ถูกเลือกงั้นเหรอ ?
??? (ไม) : อุตส่าห์ลงมือไปอย่างอลังการ
??? (ไม) : กว่าจะโผล่มาได้นี่ก็ช้ากว่าที่คิดน้า
เรย์มุ : เธอเป็นใครกันแน่น่ะ !
??? (นารุมิ) : พลังล้นเอ่อเลย― !
(ยาตะเดระ นารุมิ เข้ามาในหน้าจอ)
(แสดงชื่อและฉายาของ ยาตะเดระ นารุมิ)
นารุมิ : ทำไมกันนะ
นารุมิ : ทำไมพลังเวทถึงได้เอ่อล้นออกมาขนาดนี้......
นารุมิ : อย่างนี้ต้องทดสอบ
นารุมิ : กับมนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าสักหน่อยแล้ว !
??? (ไม) : อะฮะฮะฮะฮะ
??? (ไม) : คู่ต่อสู้ในคราวนี้คือยัยนี่ต่างหากล่ะ
??? (ไม) : ถ้างั้นเรากลับก่อนนะ―
เรย์มุ : ดะ เดี๋ยว !
นารุมิ : ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน
นารุมิ : แต่ดูเหมือนพายุหิมะจะมอบพลังให้ฉันล่ะ !
เรย์มุ : เธอน่ะ เกะกะ !
เรย์มุ : อุตส่าห์เจอเบาะแสทั้งที
เรย์มุ : หลีกไปซะ !
(เปิดเพลง BGM : จิโซวหมวกฟางเวทมนตร์)
นารุมิ : นึกว่าใคร
นารุมิ : มิโกะแห่งศาลเจ้าฮาคุเรย์นี่นา
นารุมิ : เข้ามาในป่าเวทมนตร์ด้วยตัวคนเดียวแบบนี้
นารุมิ : บ้าบิ่นไม่เบาเลยนะ
นารุมิ : โอกาสที่จะได้สู้กับมิโกะแบบนี้
นารุมิ : ฉันไม่ปล่อยให้หลุดมือไปหรอก― !
(ยาตะเดระ นารุมิ แพ้พ่าย)
นารุมิ : ตายจริง
นารุมิ : แพ้ซะแล้ว
เรย์มุ : อย่ามาเกะกะสิ
เรย์มุ : เดี๋ยวก็คลาดกับยัยคนเมื่อกี้กันพอดี
เรย์มุ : ทัศนวิสัยยิ่งแย่ๆอยู่ด้วย
นารุมิ : ยัยคนเมื่อกี้...... ?
นารุมิ : พูดเรื่องอะไรอยู่น่ะ
เรย์มุ : ยัยคนที่อยู่ข้างหลังเธอเมื่อกี้ไง
เรย์มุ : ไม่รู้สึกตัวเลยเหรอ ?
นารุมิ : ฉันอยู่คนเดียวมาตลอดเลยนะ......
นารุมิ : อยู่คนเดียวในป่ามาตลอด......
นารุมิ : ซิก......
เรย์มุ : อ๊ะ เอ่อ
เรย์มุ : โทษที
เรย์มุ : แต่ว่า นี่มันหมายความว่ายังไงกัน
เรย์มุ : ยัยคนเมื่อกี้เป็นใครกันแน่ ?
เรย์มุ : ......ในทุกสถานที่ที่มีฤดูผลิร้อนร่วงหนาว
เรย์มุ : พวกที่ซ่อนตัวมาตลอด
เรย์มุ : กลับปรากฏตัวขึ้นมามอบพลังที่ไม่น่าเชื่อให้
เรย์มุ : ไม่มีทางเป็นเรื่องบังเอิญแน่ !
เรย์มุ : คนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังอยู่ใกล้ๆนี่เอง !
นารุมิ : อ่า― รู้สึกร้อนที่ด้านหลังยังไงก็ไม่รู้แฮะ―
นารุมิ : ทั้งที่พายุหิมะกำลังพัดขนาดนี้แท้ๆ
นารุมิ : แปลกจังเลยน้า
เรย์มุ : ด้านหลัง......
เรย์มุ : อ๊ะ !
เรย์มุ : ด้านหลังของเธอ
เรย์มุ : มีประตูอะไรก็ไม่รู้อยู่ด้วย !?
นารุมิ : เอ๋ ?
นารุมิ : อะไรนะ น่ากลัวจัง
เรย์มุ : เจอเบาะแสแล้ว !
เรย์มุ : จะเข้าไปล่ะนะ !
Stage 5
ชื่อด่าน : บริวารเต้นแพร่ความวิกลจริต (Into Crazy Back Door)
สถานที่ : แดนประตูหลัง
สถานที่ : แดนประตูหลัง
(เปิดเพลง BGM : อีกฟากของประตูต้องห้ามคือโลกนี้หรือโลกหน้ากันนะ)
(นิชิดะ ซาโตโนะ เข้ามาในหน้าจอ)
(นิชิดะ ซาโตโนะ แพ้พ่าย)
(นิชิดะ ซาโตโนะ ออกไปจากหน้าจอ)
(เทย์เรย์ดะ ไม เข้ามาในหน้าจอ)
เรย์มุ : เจอตัวแล้ว !
??? (ไม) : อ้าว !?
??? (ไม) : มนุษย์คนเมื่อกี้ ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้...... ?
??? (ไม) : อ๋า― อย่าบอกนะว่า
??? (ไม) : เราเปิดประตูที่ด้านหลังของจิโซวเมื่อกี้ทิ้งเอาไว้
(นิชิดะ ซาโตโนะ เข้ามาในหน้าจอ)
??? (ซาโตโนะ) : โธ่― ไมนี่ล่ะก็
??? (ซาโตโนะ) : ซุ่มซ่ามจริงๆเลยนะ
??? (ซาโตโนะ) : ยังไม่มีคำสั่งออกมาแท้ๆ
??? (ซาโตโนะ) : ดันดึงมนุษย์เข้ามาซะได้―
??? (ไม) : แหม― แต่ก็ได้จังหวะเหมาะเลยนะ
??? (ไม) : ยังไงก็ลงมือไปอย่างอลังการน่าดูแล้วด้วย
??? (ไม) : [ทำได้ดีมาก เหมาะดีทีเดียวเลยนี่นา ?]
??? (ไม) : เราว่าท่านอาจารย์ก็ต้องพูดแบบนี้แหละ
เรย์มุ : เดี๋ยวสิ !
เรย์มุ : พวกเธอเป็นใครกันน่ะ !
(แสดงชื่อและฉายาของ นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม)
ไม : ฮึ เราชื่อ เทย์เรย์ดะ ไม
ซาโตโนะ : ฉันชื่อ นิชิดะ ซาโตโนะ
ซาโตโนะ : ขอกล่าวอีกครั้ง
ซาโตโนะ : ยินดีต้อนรับสู่แดนประตูหลัง
(เปิดเพลง BGM : Crazy Backdancers)
ไม : อาจจะเร็วไปสักหน่อย
ไม : แต่ขอเริ่มการทดสอบเลยละกัน !
เรย์มุ : ทดสอบ ?
เรย์มุ : พูดอะไรของเธออยู่กันแน่เนี่ย
ซาโตโนะ : ถ้าเธออ่อนแอเกินไป
ซาโตโนะ : ท่านอาจารย์จะดุพวกเราเอาได้นะ―
ไม : จะลุยแบบเอาจริงล่ะนะ !
ไม : ถ้าเธอตายเมื่อไหร่ก็ยุติตอนนั้นแหละ !
ซาโตโนะ : ไม่ออมมือให้หรอก
ซาโตโนะ : แต่ถ้าเธอตายก็จะช่วยฆ่าซ้ำให้นะ― !
(นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม แพ้พ่าย)
เรย์มุ : เยี่ยม ชนะแล้ว !
ไม : ไม่เลวนะ
ซาโตโนะ : นั่นสิน้า
ซาโตโนะ : คะแนนผ่านเกณฑ์ ล่ะมั้งน้า
ไม : ดีล่ะ― งั้นยินดีด้วย !
ไม : เธอ―สอบ―ผ่าน !
เรย์มุ : อะไรอีกล่ะเนี่ย ชักหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆแล้วน้า
เรย์มุ : ทั้งที่โดนเล่นงานจนโทรมแท้ๆ
เรย์มุ : พวกเธอเป็นคนก่อเหตุวิปลาสขึ้นมาไม่ใช่เหรอ ?
เรย์มุ : ฉันมาเพื่อหยุดเหตุวิปลาสนะ !
ไม : เหตุวิปลาสที่ว่า หมายถึงเหตุสี่ฤดูวิปลาสเหรอ ?
ไม : อันนั้นพวกเราไม่ได้ทำนะ
เรย์มุ : เอ๋ จริงดิ ?
ซาโตโนะ : จริงจริง
ซาโตโนะ : ไม่ได้ทำจ้า
เรย์มุ : ระ เรื่องบ้าๆแบบนั้น
เรย์มุ : มันจะเป็นไปได้ยังไง !
เรย์มุ : อุตส่าห์นึกว่าเจอเบาะแส
เรย์มุ : แล้วแท้ๆ
ซาโตโนะ : พวกเราสามารถดึงพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวเป้าหมาย
ซาโตโนะ : ออกมาได้อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยการเต้นอยู่ข้างหลังน่ะ
ไม : พวกเราได้รับคำสั่งให้ออกตามหาความเป็นไปได้
ไม : ของพวกที่เอาแต่ซ่อนตัวมาตลอด
ไม : พร้อมกับจับกุมตัวบุคคลที่มีศักยภาพ
ไม : และความ Aggressive อย่างเธอ
ซาโตโนะ : เหตุสี่ฤดูวิปลาส เป็นฝีมือของพวกชินเรย์ วิญญาณ ภูต
ซาโตโนะ : ที่อาละวาดเพราะผลจากการเต้นรำของพวกเราต่างหาก
เรย์มุ : ......อืม― เอ่อ― ?
เรย์มุ : งั้นก็แปลว่า เหตุสี่ฤดูวิปลาส
เรย์มุ : เป็นฝีมือของพวกเธอทางอ้อมน่ะสิ
ซาโตโนะ : คงงั้นล่ะมั้ง― ?
ไม : เอาล่ะ ยังไงก็ผ่านการทดสอบแล้ว
ไม : ขอเชื้อเชิญเธอ !
ไม : สู่เบื้องหน้าของเทพลับสูงสุดแห่งเบื้องหลัง !
Stage 6
ชื่อด่าน : ห้ามเปิด ห้ามดู มีสวรรค์ลับอยู่ในประตูหลัง (Hidden Star in Four Seasons)
สถานที่ : แดนประตูหลัง
สถานที่ : แดนประตูหลัง
(เปิดเพลง BGM : Into Backdoor)
เรย์มุ : แฮ่กแฮ่ก......
เรย์มุ : อีกฟากของประตูด้านหลังมันกว้างถึงขนาดนี้
เรย์มุ : โลกเรานี่มีแต่เรื่องมหัศจรรย์เต็มไปหมดเลยน้า
??? : โอ้ ในที่สุดก็มาแล้ว
(มาตาระ โอคินะ เข้ามาในหน้าจอ)
??? : เธอคือมนุษย์ที่บริวารทั้งสองพูดถึงสินะ
เรย์มุ : โผล่มาแล้วเรอะ !
เรย์มุ : เธอคือคนที่บงการให้เกิดเหตุวิปลาสสินะ !
??? : เหตุวิปลาส ?
??? : ถ้าหมายถึงเรื่องที่สี่ฤดูผิดเพี้ยน
??? : นั่นเป็นเพราะการอาละวาดของภูตต่างหาก
??? : กล่าวคือ มันเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ
??? : ไม่ใช่ความรับผิดชอบของใครทั้งนั้น
เรย์มุ : ฉันไม่คิดจะฟังคำแก้ตัวพรรค์นั้นหรอก !
เรย์มุ : ลุยล่ะนะ !
??? : เอาน่า เดี๋ยวก่อน
??? : เดี๋ยวหลังจากนี้ก็ต้องบอกลากันแล้ว
??? : คุยกันมากกว่านี้สักหน่อยก็ได้นี่นา
??? : ฉันชื่อ มาตาระ โอคินะ
(แสดงชื่อและฉายาของ มาตาระ โอคินะ)
โอคินะ : เทพแห่งประตูหลัง
โอคินะ : เทพแห่งสิ่งกีดขวาง
โอคินะ : เทพแห่งละครโน
โอคินะ : เทพารักษ์ เทพดวงดาว
โอคินะ : และเป็นหนึ่งในนักปราชญ์
โอคินะ : ผู้สร้างเกนโซวเคียวแห่งนี้ขึ้นมา
โอคินะ : นี่ก็ใกล้ถึงเวลาที่จะต้องหาผู้สืบทอด
โอคินะ : ของบริวารทั้งสอง(ยัยพวกนั้น)แล้วล่ะนะ
เรย์มุ : ผู้สืบทอด ?
เรย์มุ : คิดจะทำอะไรกับฉันน่ะ ?
โอคินะ : แต่ว่า......ยัยเด็กไม่ได้เรื่องสองคนนั่น
โอคินะ : ดันพามนุษย์ที่แข็งแกร่งเอาเรื่องมาซะได้
โอคินะ : มิโกะแห่งศาลเจ้าฮาคุเรย์เนี่ยน้า
โอคินะ : เอาล่ะ แน่นอนว่าเธอสอบไม่ผ่าน
โอคินะ : กลับไปยังโลกเบื้องหน้าได้
เรย์มุ : หา ?
เรย์มุ : อย่ามาล้อเล่นนะ !
เรย์มุ : ต่อให้เธอไม่มีธุระ
เรย์มุ : แต่ฉันมี !
เรย์มุ : การคลี่คลายเหตุวิปลาสคืองานของฉัน !
เรย์มุ : ฉันจะโค่นเธอแล้วทำให้เกนโซวเคียวกลับเป็นเหมือนเดิม !
(เปิดเพลง BGM : Four Seasons ที่ถูกซ่อนเร้น)
โอคินะ : โง่จริงน้า
โอคินะ : ขอพูดให้ชัดเจน !
โอคินะ : ตัวเธอในตอนนี้ไม่สามารถเอาชนะฉันได้หรอก
โอคินะ : ตราบเท่าที่ยังมีประตูสี่ฤดูอยู่ข้างหลังเธอ
โอคินะ : การต่อสู้กับฉันย่อมเป็นได้เพียงเรื่องไร้สาระเท่านั้น
เรย์มุ : เฮอะ เลิกอ้างโน่นอ้างนี่แล้วมาลุยกันเลย !
โอคินะ : เอางั้นก็ได้
โอคินะ : ถ้าพูดถึงขนาดนั้นก็ลองแสดงให้ฉันดูหน่อยซิ !
โอคินะ : ละครโนทมิฬที่ร่ายรำไปบน
โอคินะ : ห่ากระสุนแห่งความวิกลจริตคลุ้มคลั่ง !
(อุปกรณ์ฤดูกาลโดนศัตรูช่วงชิงไปแล้ว !)
(เอาล่ะ สุดท้ายนี้จงต่อสู้กับฤดูกาลรองของตัวเองซะ !)
(เอาล่ะ สุดท้ายนี้จงต่อสู้กับฤดูกาลรองของตัวเองซะ !)
(? ใครกันแน่ที่แพ้พ่าย ?)
ถ้าผู้เล่นมิได้ใช้คอนทินิวระหว่างเล่น >> Ending No.01 (Reimu's Good Ending)
ถ้าผู้เล่นทำการคอนทินิวระหว่างเล่น >> Ending No.02 (Reimu's Bad Ending)
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Cirno's Story

Stage 1
ชื่อด่าน : วันร้อนจัดหลังสายหมอกยามเช้า (Miracle Blue Sky)
สถานที่ : ท้องฟ้ากลางฤดูร้อน
สถานที่ : ท้องฟ้ากลางฤดูร้อน
(เปิดเพลง BGM : ดาวแห่งความหวังทะยานสู่ฟ้าคราม)
ชิลโน่ : ว้าย― !
ชิลโน่ : ฤดูร้อนสุดยอดไปเลยโว้ย― !
(เอเทอร์นิตี้ ลาร์วา เข้ามาในหน้าจอ)
??? : ว้าย―
??? : สุดยอดไปเลย― !
(แสดงชื่อและฉายาของ เอเทอร์นิตี้ ลาร์วา)
เอเทอร์นิตี้ : โอ๊ะ ตากแดดจนผิวคล้ำเลยน้า
เอเทอร์นิตี้ : กำลัง Enjoy กับฤดูร้อนอยู่ล่ะสิ ?
ชิลโน่ : แน่นอนอยู่แล้ว― !
ชิลโน่ : ท่านภูตน้ำแข็งสามารถแสดงคุณสมบัติเฉพาะตัวได้ในฤดูร้อนเลยนะ !
เอเทอร์นิตี้ : ภูตผีเสื้ออาเกฮะเองก็ไม่ยอมแพ้หรอก !
เอเทอร์นิตี้ : พลังมันเอ่อล้นขึ้นมาอย่างไร้ขีดจำกัดเลย !
(เปิดเพลง BGM : ความฝันของภูตช่วงกลางฤดูร้อน)
เอเทอร์นิตี้ : ฤดูร้อนจะเป็นของใคร มาตัดสินกันเลย !
(เอเทอร์นิตี้ ลาร์วา แพ้พ่าย)
ชิลโน่ : ชนะแล้ว !
ชิลโน่ : ขอรับฤดูร้อนไปล่ะโว้ย !
เอเทอร์นิตี้ : แพ้ซะแล้ว―
เอเทอร์นิตี้ : เธอไม่เลวเลยนี่นา !
ชิลโน่ : เพิ่งเคยปล่อยพลังได้มากขนาดนี้
ชิลโน่ : เป็นครั้งแรกเลยโว้ย―
ชิลโน่ : เค้าจะยึดครองเกนโซวเคียวในสภาพนี้เลย !
เอเทอร์นิตี้ : พยายามในส่วนของฉันด้วยนะ !
เอเทอร์นิตี้ : ฉันคาดหวังในตัวเธอนะ !
ชิลโน่ : วางใจได้เลย !
ชิลโน่ : เค้าจะสร้างอนาคตของเหล่าภูต(พวกเรา)เอง !
Stage 2
ชื่อด่าน : ความโดดเดี่ยวของภูเขาแดง (Red Mountain Loneliness)
สถานที่ : ขุนเขาที่ใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว
สถานที่ : ขุนเขาที่ใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว
(เปิดเพลง BGM : สายลมไร้สีสู่ภูเขาโยวไค)
(ซาคาตะ เนมุโนะ เข้ามาในหน้าจอ)
??? : อะไรน่ะ ?
??? : ที่นี่เป็นถิ่นของชั้นนะ
ชิลโน่ : ใครจะไปสนล่ะ !
ชิลโน่ : เค้าคือภูตที่จะกลายเป็นผู้ปกครองเกนโซวเคียวนะโว้ย― !
ชิลโน่ : จะไปทำอะไรที่ไหน
ชิลโน่ : มันก็คืออิสระของเค้า― !
(แสดงชื่อและฉายาของ ซาคาตะ เนมุโนะ)
เนมุโนะ : ผู้ปกครอง ?
เนมุโนะ : งั้นเหรอ จะปกครองหรืออะไรก็ตามใจเถอะ
เนมุโนะ : แต่เอาเป็นว่า
เนมุโนะ : ออกไปจากที่นี่เสียเถอะ
ชิลโน่ : หนอยแน่―
ชิลโน่ : สายตาแบบนั้นคือการดูถูกล่ะสิ― ?
ชิลโน่ : ถ้าอย่างนั้นก็ต้องใช้กำลัง !
(เปิดเพลง BGM : Encounter กลางภูเขา)
เนมุโนะ : เป็นภูตที่ห้าวหาญดีนะ
เนมุโนะ : เอาสิ
เนมุโนะ : ชั้นจะสับเป็นชิ้นๆให้อย่างที่เธอต้องการ
(ซาคาตะ เนมุโนะ แพ้พ่าย)
เนมุโนะ : เธอเป็นภูตจริงๆเหรอ ?
เนมุโนะ : ไม่เลวเลยนี่นา
ชิลโน่ : พลังมันผุดขึ้นมาได้ไงก็ไม่รู้จนช่วยไม่ได้เลยล่ะ
ชิลโน่ : พระอาทิตย์ช่วงกลางฤดูร้อน
ชิลโน่ : คือสิ่งที่ทำให้เป็นแบบนี้แน่ๆ
เนมุโนะ : กลางฤดูร้อนงั้นเหรอ ?
เนมุโนะ : พูดอะไรของเธอน่ะ
เนมุโนะ : ตอนนี้เป็นช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วงต่างหากล่ะ
ชิลโน่ : กลางฤดูใบไม้ร่วง ?
ชิลโน่ : อ๊ะ จะว่าไปแล้ว―
ชิลโน่ : เริ่มหนาวขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ !
ชิลโน่ : นะ.. นี่มันยังไงกัน ?
ชิลโน่ : จำได้ว่าเป็นช่วงกลางฤดูร้อนจนถึงเมื่อตอนเที่ยงนี่นา......
เนมุโนะ : อาการหนักแบบนั้นจะเป็นอะไรรึเปล่านะ
เนมุโนะ : ผู้ปกครองแห่งเกนโซวเคียวเนี่ย......
เนมุโนะ : ช่างเหอะ ช่วยออกไปก่อนเถอะ
เนมุโนะ : คุณผู้ปกครองตัวน้อย
ชิลโน่ : เอ้อ ช่างเถอะ
ชิลโน่ : ตอนอากาศเย็นแบบนี้นี่แหละคือช่วงแสดงคุณสมบัติเฉพาะตัวของเค้า― !
Stage 3
ชื่อด่าน : ทะเลสีซากุระที่มีสัตว์เทพแหวกว่าย (Sea of Spring Pink)
สถานที่ : ซากุระยามค่ำแห่งศาลเจ้าฮาคุเรย์
สถานที่ : ซากุระยามค่ำแห่งศาลเจ้าฮาคุเรย์
(เปิดเพลง BGM : แหวกว่ายในทะเลสีซากุระ)
ชิลโน่ : โอ้ ใบโมมิจิเต็มศาลเจ้าเลยแฮะ―
(โคมาโนะ อาอุน เข้ามาในหน้าจอ)
??? : ใบโมมิจิงั้นเหรอ― ?
(แสดงชื่อและฉายาของ โคมาโนะ อาอุน)
อาอุน : ความแตกต่างระหว่างซากุระกับใบโมมิจิ
อาอุน : เธอแยกไม่ออกสินะ
ชิลโน่ : ซากุระงั้นเหรอ ?
ชิลโน่ : อย่ามาพูดอะไรบ้าๆน่า ฤดูใบไม้ร่วงจะมีซากุระ......
ชิลโน่ : โอ้― !?
ชิลโน่ : ซากุระนี่นา― !
อาอุน : ถึงจะโง่ไปหน่อย
อาอุน : แต่เฉพาะเรื่องพลังภูตนี่ไม่ใช่เล่นเลยนะ
ชิลโน่ : นี่มันอะไรกันเนี่ย
ชิลโน่ : วันนี้สุดยอดทั้งวันเลยน้า
ชิลโน่ : แค่วันเดียว
ชิลโน่ : เจอทั้งกลางฤดูร้อน กลางฤดูใบไม้ร่วง กลางฤดูใบไม้ผลิเลย
อาอุน : กลางฤดูใบไม้ร่วง กลางฤดูใบไม้ผลิ งั้นเหรอ
อาอุน : ปกติเขาไม่เรียกกันแบบนั้นนะ
ชิลโน่ : เอ๋ จริงเหรอ ?
ชิลโน่ : แต่ช่างเถอะ ไว้ยึดอำนาจได้เมื่อไหร่
ชิลโน่ : เค้าจะทำให้ทุกคนต้องเรียกแบบนั้นเอง !
อาอุน : พวกภูตที่อยู่รอบๆนี้ก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน
อาอุน : ดูเหมือนจะมีพลังมากกว่าปกติสินะ
(เปิดเพลง BGM : สัตว์เทพหนึ่งคู่)
อาอุน : เห็นแบบนี้แล้วก็น่าเสียดาย
อาอุน : แต่ยังไงก็ต้องไล่ไปล่ะน้า
อาอุน : ในฐานะเทพพิทักษ์ศาลเจ้า !
(โคมาโนะ อาอุน แพ้พ่าย)
อาอุน : ขะ.. แข็งแกร่ง―
อาอุน : รู้ตัวอยู่หรอกว่าพวกภูตมีพลังมากขึ้น
อาอุน : แต่ไม่นึกว่าจะมากขนาดนี้
ชิลโน่ : ดีล่ะ―
ชิลโน่ : เข้าใกล้การเป็นผู้ปกครองไปอีกก้าวแล้ว―
อาอุน : ถ้าหากเอาจริง
อาอุน : ฉันเองก็คงเอาชนะเธอได้ แต่ว่า......
อาอุน : หากปล่อยพลังมากไปกว่านี้
อาอุน : เดี๋ยวจะคุมไม่อยู่จนอาละวาดเสียเอง
ชิลโน่ : แพ้แล้วโทษนั่นโทษนี่งั้นเหรอ― ?
ชิลโน่ : ไม่เท่เลยน้า―
อาอุน : กรอดดด
ชิลโน่ : เอาล่ะ―
ชิลโน่ : ไปที่ไหนต่อดีน้า―
ชิลโน่ : ถ้าเป็นตอนนี้ ไม่รู้สึกว่าจะแพ้ใครเลยโว้ย―
อาอุน : เอาเถอะ ถ้ายอมไปจากศาลเจ้า(ที่นี่)
อาอุน : ฉันก็จะไม่บ่นอะไรหรอกนะ
อาอุน : แต่ระวังตัวเอาไว้จะดีกว่านะ
อาอุน : พลังชั่วคราวนั่นต้องมีอะไรบางอย่างอยู่เบื้องหลังแน่
อาอุน : ฉันสัมผัสได้ถึงความมุ่งร้ายจากพลังนั่น......
อาอุน : อ้าว ไม่อยู่แล้ว !
อาอุน : แบบนั้นเดี๋ยวต้องเจอดีแน่เลย
Stage 4
ชื่อด่าน : การบังเอิญพบเจอยามทัศนวิสัยเป็นศูนย์ (White Blizzard Out of Season)
สถานที่ : ท้องฟ้าเหนือป่าเวทมนตร์(เดา)
สถานที่ : ท้องฟ้าเหนือป่าเวทมนตร์(เดา)
(เปิดเพลง BGM : White Traveler มายา)
(เทย์เรย์ดะ ไม เข้ามาในหน้าจอ)
(เทย์เรย์ดะ ไม แพ้พ่าย)
(เทย์เรย์ดะ ไม ออกไปจากหน้าจอ)
(เทย์เรย์ดะ ไม เข้ามาในหน้าจอ)
??? (ไม) : อื๋อ ? ภูตตรงนั้น
??? (ไม) : มีอะไรเหรอ ?
ชิลโน่ : คู่ต่อสู้คราวนี้คือเธองั้นเรอะ― !
ชิลโน่ : มาสู้กันโดยเดิมพันว่าใครแข็งแกร่งที่สุด !
??? (ไม) : อุ๊บฮะฮะฮะ―
??? (ไม) : การที่ภูต(เธอ)ได้รับพลังมา
??? (ไม) : เธอคิดว่าเป็นเพราะใครกันล่ะ
(ยาตะเดระ นารุมิ เข้ามาในหน้าจอ)
??? (นารุมิ) : พลังล้นเอ่อเลย― !
(แสดงชื่อและฉายาของ ยาตะเดระ นารุมิ)
นารุมิ : ทำไมกันนะ
นารุมิ : ทำไมพลังเวทถึงได้เอ่อล้นออกมาขนาดนี้......
นารุมิ : อยากลองใช้กับภูตจัง !
??? (ไม) : อะฮะฮะฮะฮะ
??? (ไม) : เชิญทั้งสองคนตีกันเองไปละกัน―
??? (ไม) : ถ้างั้นเรากลับก่อนนะ―
ชิลโน่ : หนอย ไม่เข้าใจเลยสักนิด
ชิลโน่ : ว่ายัยนั่นพูดอะไร
ชิลโน่ : แต่มีคนที่แข็งแกร่งกว่าโผล่มา
ชิลโน่ : แบบนี้ก็ดีแล้ว
นารุมิ : เธออาจจะมองไม่เห็น
นารุมิ : เพราะพายุหิมะหลงฤดู
นารุมิ : แต่ที่นี่คือป่าเวทมนตร์นะ
ชิลโน่ : แล้วไง ?
นารุมิ : ไม่ว่าใครหน้าไหน
นารุมิ : ก็สู้คนที่เชี่ยวชาญเวทมนตร์อย่างฉันไม่ได้หรอก
ชิลโน่ : อีโง่ !
ชิลโน่ : อีหัวหมวกฟางโง่ !
ชิลโน่ : คนที่แข็งแกร่งกว่าต้องชนะการประลองอยู่แล้ว
ชิลโน่ : เพราะงั้นเค้าจะชนะ !
(เปิดเพลง BGM : จิโซวหมวกฟางเวทมนตร์)
นารุมิ : มั่นใจสุดๆเลยน้า
นารุมิ : จิโซว(ฉัน)คงอยู่ในโลกใบนี้
นารุมิ : เพื่อช่วยสรรพชีวิตในยุคที่ไร้ซึ่งพุทธ
นารุมิ : แต่ภูตไม่นับเป็นเป้าหมายนะ
นารุมิ : ช่างน่าเสียดายจริงๆ ไว้เจอกันอีกในชาติหน้านะ― !
(ยาตะเดระ นารุมิ แพ้พ่าย)
นารุมิ : ภะ ภูตตนนี้
นารุมิ : ไม่เลวเลย !
ชิลโน่ : อ่อนแอซะจริง
ชิลโน่ : พลังเอ่อล้นขึ้นมาเรื่อยๆเลยโว้ย―
นารุมิ : อย่างนี้นี่เอง ฉันเองก็คิดอยู่เหมือนกัน
นารุมิ : ว่าตัวเองมีพลังมากกว่าปกติ
นารุมิ : เธอเองก็มีพลังแปลกประหลาดนี่
นารุมิ : เหมือนกันสินะ
นารุมิ : ถ้าเป็นการต่อสู้ระหว่างผู้เสริมพลัง
นารุมิ : ก็พอจะยอมรับได้ว่านี่คือพลังของภูต
ชิลโน่ : ไม่ใช่อย่างนั้นซ้าก~หน่อย
ชิลโน่ : นี่คือพลังดั้งเดิมที่แท้จริงต่างหากล่ะ
นารุมิ : บอกตามตรงนะ
นารุมิ : เวทมนตร์ของฉันคือการควบคุมพลังชีวิต
นารุมิ : ถ้าหากเอาจริง กลุ่มก้อนพลังชีวิตอย่างภูตแบบเธอ
นารุมิ : ก็น่าจะทำให้สิ้นพลังจนหมดได้
นารุมิ : แต่ทำไมถึงใช้กับเธอไม่ได้ผลกันนะ
ชิลโน่ : เธออยากพูดอะไรกันแน่ ?
นารุมิ : สรุปคือ ตอนนี้ตัวเธอกำลังเคลื่อนไหว
นารุมิ : ด้วยพลังอื่นที่ไม่ใช่พลังของภูต......
นารุมิ : อื๋อ !?
นารุมิ : มีประตูอยู่ข้างหลังเธอแน่ะ !?
ชิลโน่ : ข้างหลังเค้ามีอะไรเหรอ ?
ชิลโน่ : ......อ๊า !?
(หน้าจอมืดลง)
นารุมิ : ภูตหายไปแล้ว...... !?
นารุมิ : ดูเหมือนพอสัมผัสด้านหลังก็ถูกดูดไปเลย......
นารุมิ : ......
นารุมิ : ......เอาเถอะ ยังไงภูตก็ไม่ใช่เป้าหมายในการช่วยเหลืออยู่ดี
นารุมิ : ทำเป็นไม่เห็นละกัน ทำเป็นไม่เห็น
Stage 5
ชื่อด่าน : บริวารเต้นแพร่ความวิกลจริต (Into Crazy Back Door)
สถานที่ : แดนประตูหลัง
สถานที่ : แดนประตูหลัง
(เปิดเพลง BGM : อีกฟากของประตูต้องห้ามคือโลกนี้หรือโลกหน้ากันนะ)
(นิชิดะ ซาโตโนะ เข้ามาในหน้าจอ)
(นิชิดะ ซาโตโนะ แพ้พ่าย)
(นิชิดะ ซาโตโนะ ออกไปจากหน้าจอ)
(เทย์เรย์ดะ ไม เข้ามาในหน้าจอ)
ชิลโน่ : ที่นี่ที่ไหนน่ะ ?
ชิลโน่ : มืดสลัวจนน่าเบื่อเลย―
??? (ไม) : อ้าว !?
??? (ไม) : ภูตตนเมื่อกี้ ?
??? (ไม) : ไม่จริงน่า ภูตตนนี้เอาชนะจิโซวเมื่อกี้ได้งั้นเหรอ―
??? (ไม) : ผิดคาดเลยแฮะ
ชิลโน่ : ใครน่ะ ?
ชิลโน่ : ทำไมถึงรู้จักเค้าด้วยล่ะ
??? (ไม) : อ้าว ?
??? (ไม) : ไอ้ที่เพิ่งเจอกันเมื่อกี้นี่คือการคิดไปเองงั้นเหรอ ?
(นิชิดะ ซาโตโนะ เข้ามาในหน้าจอ)
??? (ซาโตโนะ) : โธ่― ไมนี่ล่ะก็
??? (ซาโตโนะ) : ซุ่มซ่ามจริงๆเลยนะ
??? (ซาโตโนะ) : ดึงภูตเข้ามาแบบนี้
??? (ซาโตโนะ) : แล้วจะทำยังไงกันดีล่ะ
??? (ไม) : เราวางแผนเอาไว้ว่าจะเลือก
??? (ไม) : ยัยจิโซวเวทมนตร์นั่นอยู่น้า
??? (ไม) : แต่ดูเหมือนจะเกิดเรื่องเหนือความคาดหมายขึ้นน่ะ
ชิลโน่ : มัวบ่นโน่นบ่นนี่อยู่ได้
ชิลโน่ : ทางนี้ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ OK เสมอนะ !
(แสดงชื่อและฉายาของ นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม)
ไม : สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือเครื่องปรุงชั้นยอดที่สุดของชีวิต
ซาโตโนะ : โธ่― ไมนี่ล่ะก็
ซาโตโนะ : เพราะคิดแบบนั้นถึงต้องลำบากทุกทีนี่ล่ะ
(เปิดเพลง BGM : Crazy Backdancers)
ไม : ภูตที่เหนือความคาดหมายเป็นผู้ถูกเลือก
ไม : ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ
ซาโตโนะ : ต้องแข็งแกร่งเพียงพอสำหรับการนั้นด้วยน้า―
ซาโตโนะ : เพราะงั้นพวกเราขอทดสอบ !
ซาโตโนะ : พลังที่แท้จริงของเธอ !
ชิลโน่ : ใครจะเข้ามาประลองก่อนล่ะ
ชิลโน่ : รีบตัดสินใจเลย !
ไม : สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือเครื่องปรุงชั้นยอดที่สุดของชีวิต
ไม : เธอเองก็คิดเหมือนกันล่ะสิ ?
ไม : จงยินดีเถิด ชาติพันธุ์นักสู้เอ๋ย !
ไม : คู่ต่อสู้ของเธอคือสองคนในคราวเดียวกัน !
(นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม แพ้พ่าย)
ชิลโน่ : ยะ ยังจะเอาอีกเรอะ !
ไม : ประมาณนี้ก็พอมั้ง
ซาโตโนะ : เห― ไม่เลวเลยนะ
ซาโตโนะ : สำหรับเผ่าภูต......แต่ว่า
ไม : น่าเสียดายที่สอบไม่ผ่าน
ชิลโน่ : หา ?
ชิลโน่ : เหมือนโดนดูถูกยังไงชอบกล ?
ไม : สุดท้ายแล้ว เธอก็แค่กำลังต่อสู้
ไม : ด้วยพลังที่พวกเรามอบให้เท่านั้นเอง
ซาโตโนะ : พลังดั้งเดิมของเธอ
ซาโตโนะ : ไม่ได้มากมายอะไรเลย
ชิลโน่ : มัวบ่นโน่นบ่นนี่อะไรอยู่ได้ ?
ชิลโน่ : ตอนนี้เค้าเป็นฝ่ายชนะแล้วไม่ใช่เหรอ
ไม : เพราะนี่เป็นการทดสอบไงล่ะ
ซาโตโนะ : ตอนนี้เธอแค่แข็งแกร่งขึ้น
ซาโตโนะ : ด้วยพลังของพวกเราเท่านั้นเอง
ซาโตโนะ : พวกเราเลยแกล้งทำเป็นต่อสู้
ซาโตโนะ : จนมองเห็นพลังดั้งเดิมของเธอแล้วล่ะ
ชิลโน่ : อย่ามาล้อเล่นนะ !
ชิลโน่ : จะบอกว่าพวกเธอทำอะไรบางอย่างกับเค้างั้นเหรอ !?
ชิลโน่ : อย่างนี้นี่เอง เข้าใจแล้ว !
ชิลโน่ : แปลว่าพลังดั้งเดิมสุดยอดยิ่งกว่านี้อีกสินะ !
ซาโตโนะ : โทษทีนะ รอเดี๋ยว
ซาโตโนะ : ......เอ๋ ?
ซาโตโนะ : ......เข้าใจแล้วค่ะ
ไม : อะไร ?
ไม : ท่านอาจารย์ติดต่อมาเหรอ ?
ซาโตโนะ : ท่านอาจารย์เรียกพวกเราน่ะ
ซาโตโนะ : คงเรียกไปดุล่ะมั้ง
ไม : แหงะ― !
ไม : ไม่ชอบเลยน้า
(นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม ออกไปจากหน้าจอ)
ชิลโน่ : เดี๋ยวก่อนสิ
ชิลโน่ : แต่พูดไปก็ไม่มีใครอยู่แล้วนี่นะ
ชิลโน่ : ......อืม― เอ่อ― ?
ชิลโน่ : กรณีนี้ทำยังไงดีหว่า
ชิลโน่ : อีกอย่าง ยัยพวกนั้นมันอะไรกันน่ะ
ชิลโน่ : รู้สึกเหมือนไม่เห็นเค้าอยู่ในสายตาเลย
ชิลโน่ : ......
ชิลโน่ : เหมาะเลย
ชิลโน่ : แปลว่าอาละวาดได้ตามใจชอบเลยสินะ !
Stage 6
ชื่อด่าน : ห้ามเปิด ห้ามดู มีสวรรค์ลับอยู่ในประตูหลัง (Hidden Star in Four Seasons)
สถานที่ : แดนประตูหลัง
สถานที่ : แดนประตูหลัง
(เปิดเพลง BGM : Into Backdoor)
ชิลโน่ : ยัยพวกเมื่อกี้
ชิลโน่ : ไปไหนกันแล้วนะ ?
ชิลโน่ : แต่พูดก็พูดเถอะ
ชิลโน่ : ที่นี่มืดจนน่าเบื่อเป็นบ้าเลย
ชิลโน่ : กลับดีกว่า
(มาตาระ โอคินะ เข้ามาในหน้าจอ)
??? : เธอเป็นใครน่ะ
??? : ยัยบริวารสองคนนั่นทำอะไรอยู่น่ะ ?
??? : ภูตพิลึกๆหลงเข้ามาแล้วนะ
ชิลโน่ : เธอเป็นใครน่ะ !
ชิลโน่ : ท่าทางแข็งแกร่งอย่างบอกไม่ถูกเลย !
ชิลโน่ : มาสู้กับเค้าซะ !
ชิลโน่ : เดิมพันกันว่าใครแข็งแกร่งที่สุด !
??? : เธอไม่รู้ตัวเลยเหรอ ?
??? : ถ้าอาละวาดมากไปกว่านั้น
??? : ต่อให้เป็นภูตก็อาจจะคงสภาพไว้ไม่ได้นะ
??? : หลักฐานคือ
??? : ผิวของเธอกำลังคล้ำขึ้นไม่ใช่เหรอ
ชิลโน่ : หา ? นี่เขาเรียกว่าตากแดดจนผิวคล้ำโว้ย !
ชิลโน่ : เครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งฤดูร้อน !
(แสดงชื่อและฉายาของ มาตาระ โอคินะ)
โอคินะ : ผิดแล้ว
โอคินะ : ผลกระทบของการอาละวาด
โอคินะ : กำลังแสดงออกมาทางภายนอกเท่านั้นเอง
โอคินะ : จงไปจากที่นี่
โอคินะ : ก่อนที่จะสูญเสียตัวตนไปจะดีกว่า
โอคินะ : ฉันจะบอกสองคนนั่นให้ปลดปล่อย
โอคินะ : พลังแห่งด้านหลังที่มอบให้แก่เธอ
โอคินะ : เธอจะได้อ่อนแอลงอย่างปลอดภัย
โอคินะ : ผิวหนังก็จะกลับเป็นปกติดังเดิมด้วย
ชิลโน่ : พลังแห่งด้านหลังที่ว่านั่นคืออะไรเหรอ
โอคินะ : หมายถึงอาวุธฤดูกาล(ไอ้นั่น)
โอคินะ : ที่คอยตามหลังเธอมายังไงล่ะ
โอคินะ : ถ้าไม่มีผลกระทบจากสิ่งนั้น
โอคินะ : พลังของเธอก็จะน้อยจนน่าสังเวช
ชิลโน่ : หา ?
ชิลโน่ : ไอ้นี่คือพลังของเค้าต่างหากล่ะ !
ชิลโน่ : เธอจะกลัวคนที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างเค้าก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ?
ชิลโน่ : เดี๋ยวจะขยี้ให้เละเลยโว้ย !
(เปิดเพลง BGM : Four Seasons ที่ถูกซ่อนเร้น)
โอคินะ : เธอจะประลองกับฉันที่เป็นคนควบคุมพลังของเธอเนี่ยนะ
โอคินะ : ไม่มีอะไรโง่เง่าไปมากกว่านี้อีกแล้ว
โอคินะ : แต่ว่า......เอาสิ
โอคินะ : ฉันเองก็สนใจในพลังของภูตมานานแล้วเหมือนกัน
โอคินะ : นานๆทีเลือกภูตมาเป็นลูกน้องบ้าง
โอคินะ : อาจจะสนุกดีก็ได้
โอคินะ : แต่นั่นก็เป็นเรื่องหลังจากที่พบว่า
โอคินะ : พลังของเธอมีค่าพอให้เหลียวมองน่ะนะ
โอคินะ : จงปลดปล่อยพลังออกมาให้สุดกำลังเลย
โอคินะ : แล้วแสดงให้ฉันดูหน่อยซิ !
โอคินะ : ละครโนทมิฬที่ร่ายรำโดยภูต !
(อุปกรณ์ฤดูกาลโดนศัตรูช่วงชิงไปแล้ว !)
(เอาล่ะ สุดท้ายนี้จงต่อสู้กับฤดูกาลรองของตัวเองซะ !)
(เอาล่ะ สุดท้ายนี้จงต่อสู้กับฤดูกาลรองของตัวเองซะ !)
(? ใครกันแน่ที่แพ้พ่าย ?)
ถ้าผู้เล่นมิได้ใช้คอนทินิวระหว่างเล่น >> Ending No.03 (Cirno's Good Ending)
ถ้าผู้เล่นทำการคอนทินิวระหว่างเล่น >> Ending No.04 (Cirno's Bad Ending)
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Aya's Story

Stage 1
ชื่อด่าน : วันร้อนจัดหลังสายหมอกยามเช้า (Miracle Blue Sky)
สถานที่ : ท้องฟ้ากลางฤดูร้อน
สถานที่ : ท้องฟ้ากลางฤดูร้อน
(เปิดเพลง BGM : ดาวแห่งความหวังทะยานสู่ฟ้าคราม)
อายะ : ท้องฟ้าเหนือป่าตีนเขาเป็นช่วงกลางฤดูร้อนสินะ
อายะ : ทั้งที่บนยอดเขาเป็นฤดูใบไม้ร่วงแท้ๆ......
(เอเทอร์นิตี้ ลาร์วา เข้ามาในหน้าจอ)
??? : พลังเหลือเฟือ―
(แสดงชื่อและฉายาของ เอเทอร์นิตี้ ลาร์วา)
เอเทอร์นิตี้ : นี่นี่ คนตัวดำตรงนั้นน่ะ―
เอเทอร์นิตี้ : สนุกกับฤดูร้อนอยู่เหรอ― ?
เอเทอร์นิตี้ : ถ้าว่างอยู่ ช่วยทำให้ฉันเย็นขึ้น
เอเทอร์นิตี้ : ด้วยพัดที่ใหญ่อย่างไร้สาระนั่นหน่อยสิ―
อายะ : ฤดูกาลก็ผิดเพี้ยน
อายะ : ความคึกคะนองของพวกภูตก็ผิดเพี้ยน
(เปิดเพลง BGM : ความฝันของภูตช่วงกลางฤดูร้อน)
อายะ : ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้
อายะ : ถ้างั้นฉันจะพัดให้ปลิวหายไปในชั่วอึดใจเลยละกัน
เอเทอร์นิตี้ : ว้าย― ต่อสู้ล่ะ ต่อสู้ !
เอเทอร์นิตี้ : สงครามกลางฤดูร้อน !
(เอเทอร์นิตี้ ลาร์วา แพ้พ่าย)
เอเทอร์นิตี้ : ยอมแล้วจ้า―
อายะ : ใช้พลังงาน
อายะ : ไปกับเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับคดีจนได้
อายะ : แต่ว่า......
อายะ : คุณเป็นภูตที่แข็งแกร่งดีนะ
เอเทอร์นิตี้ : พลังมันเหลือเฟือเลยช่วยไม่ได้น่ะ
เอเทอร์นิตี้ : ถ้าเป็นตอนนี้ น่าจะเป็นพระเจ้าของโลกใหม่ได้เลยล่ะ
อายะ : ภูตรูปแบบแมลงออกอาละวาด......
อายะ : รู้สึกเหมือนเป็นผลจากความร้อนของฤดูร้อนล่ะมั้ง
อายะ : ดูเหมือนจะเป็นคดีที่เขียนให้เป็นข่าวไม่ได้แฮะ
อายะ : เก็บข้อมูลเรื่องสภาพอากาศผิดปกติต่อไปดีกว่า
Stage 2
ชื่อด่าน : ความโดดเดี่ยวของภูเขาแดง (Red Mountain Loneliness)
สถานที่ : ขุนเขาที่ใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว
สถานที่ : ขุนเขาที่ใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว
(เปิดเพลง BGM : สายลมไร้สีสู่ภูเขาโยวไค)
(ซาคาตะ เนมุโนะ เข้ามาในหน้าจอ)
??? : อะไรกัน ?
??? : ทำไมเทนกุมาอยู่ที่นี่ได้ ?
??? : สัญญากันว่าจะไม่เข้ามาที่นี่นี่นา
อายะ : โอ๊ะ ขอประทานอภัยค่ะ
อายะ : ที่นี่เป็นถิ่นของคุณสินะคะ
(แสดงชื่อและฉายาของ ซาคาตะ เนมุโนะ)
เนมุโนะ : ถ้ารู้แล้วยังเข้ามา
เนมุโนะ : มันก็เป็นปัญหาอยู่น้า
อายะ : ฉันมาหาข่าวนิดหน่อยน่ะค่ะ
อายะ : ดูเหมือนบริเวณนี้จะเป็นใจกลางของฤดูใบไม้ร่วง
อายะ : เลยอยากสอบถามข้อมูลให้ได้น่ะค่ะ
เนมุโนะ : ภูเขาลูกนี้
เนมุโนะ : ไม่ใช่ของพวกเธอฝ่ายเดียวนะ
เนมุโนะ : การลงมือฉีกสนธิสัญญาไม่รุกรานกัน
เนมุโนะ : คือวิธีการของพวกเทนกุ(พวกเธอ)งั้นสิ
(เปิดเพลง BGM : Encounter กลางภูเขา)
เนมุโนะ : ถ้างั้นชั้นก็จะต้อนรับเธอ
เนมุโนะ : ด้วยวิธีการของชั้น
เนมุโนะ : วิธีการของยามันบะ !
(ซาคาตะ เนมุโนะ แพ้พ่าย)
อายะ : หยุดสักเดี๋ยวเถอะค่ะ
อายะ : ฉันไม่ได้คิดร้ายอะไร
อายะ : ต่อคุณเลยนะคะ
อายะ : ฉันเคารพในหลักการธรรมชาตินิยม
อายะ : และหลักการถือสันโดษของยามันบะ(พวกคุณ)ค่ะ
อายะ : ฉันแค่อยากถามอะไรบางอย่างเท่านั้นเอง
อายะ : นั่นคือสาเหตุที่ฉันมาที่นี่ค่ะ......
เนมุโนะ : อะฮะฮะ
เนมุโนะ : พวกเทนกุนี่รับมือยากชะมัดเลยแฮะ
เนมุโนะ : ใช้กำลังข่มขู่คนอื่น
เนมุโนะ : เพราะอยากถามอะไรบางอย่างเนี่ยนะ
เนมุโนะ : ชักถูกใจแล้วสิ
เนมุโนะ : จะหาข่าวหรืออะไรก็ว่ามาได้เลย
อายะ : ขอบพระคุณมากค่ะ
อายะ : ฉันทราบนะคะ
อายะ : ว่าจริงๆแล้วพวกคุณเป็นเผ่าพันธุ์ที่เป็นมิตร
เนมุโนะ : แล้วตกลงจะหาข่าวเรื่องอะไรล่ะ
อายะ : เกี่ยวกับฤดูใบไม้ร่วงในปีนี้
อายะ : พอจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่างบ้างมั้ยคะ ?
เนมุโนะ : เห― เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ ?
Stage 3
ชื่อด่าน : ทะเลสีซากุระที่มีสัตว์เทพแหวกว่าย (Sea of Spring Pink)
สถานที่ : ซากุระยามค่ำแห่งศาลเจ้าฮาคุเรย์
สถานที่ : ซากุระยามค่ำแห่งศาลเจ้าฮาคุเรย์
(เปิดเพลง BGM : แหวกว่ายในทะเลสีซากุระ)
อายะ : ซากุระงดงามจริงๆเลยน้า
อายะ : แต่ดูแล้วเหมือนกับว่าศาลเจ้ากำลังถูกสิง
อายะ : โดยพวกภูตและโยวไคที่ออกอาละวาดเลย
อายะ : เรย์มุไม่อยู่รึไงนะ
อายะ : ไม่รู้จักทุกข์ร้อนเสียบ้างเลย
(โคมาโนะ อาอุน เข้ามาในหน้าจอ)
??? : เทนกุนักข่าวเหรอ― ?
??? : ถ้ามาหาข่าวเรื่องการอาละวาด ฉันขอปฏิเสธนะ
??? : ออกไปเดี๋ยวนี้เลย―
อายะ : เอ๋ ?
อายะ : คุณเป็นใครกัน......
(แสดงชื่อและฉายาของ โคมาโนะ อาอุน)
อาอุน : ฉันคือเทพพิทักษ์ศาลเจ้า
อาอุน : โคมะอินุ นามว่า โคมาโนะ
อาอุน : ฉันกำลังขับไล่ผู้บุกรุก
อาอุน : ในระหว่างที่มิโกะไม่อยู่น่ะ
อายะ : โคมะอินุ งั้นเหรอคะ
อายะ : มีของแบบนี้อยู่ด้วยแฮะ
อายะ : แต่ก็ดีแล้วค่ะ
อายะ : ฉันอยากถามอะไรสักหน่อยน่ะค่ะ
(เปิดเพลง BGM : สัตว์เทพหนึ่งคู่)
อาอุน : เฮ้ย―
อาอุน : บอกแล้วไงว่ากำลังขับไล่ผู้บุกรุก
อาอุน : ถ้าคิดจะอยู่ในศาลเจ้านานกว่านี้
อาอุน : ฉันจะไม่ปรานีแล้วนะ !
(โคมาโนะ อาอุน แพ้พ่าย)
อายะ : ถ้างั้น ช่วยเล่าเรื่องเกี่ยวกับซากุระ
อายะ : ที่ผิดปกติเหล่านี้ให้ฟังหน่อยนะคะ
อาอุน : คัดค้านการใช้กำลัง―
อายะ : คนที่พยายามขับไล่คนอื่นด้วยกำลัง
อายะ : ยังมีสิทธิพูดอะไรด้วยเหรอคะ
อาอุน : ช่วยไม่ได้น้า
อาอุน : เรื่องของซากุระสินะ ?
อาอุน : หรือว่าเรื่องของพวกภูตที่กำลังอาละวาด ?
อายะ : ใช่ค่ะ พอจะรู้สึกตัว
อายะ : เกี่ยวกับความผิดปกติหลายๆอย่างบ้างมั้ยคะ
อาอุน : น่าเสียดายนะ
อาอุน : แต่ฉันไม่รู้อะไรเลย
อาอุน : ไม่รู้เลยจริงๆ
อายะ : งั้นเหรอคะ......
อายะ : แต่ก็ทำหน้าแบบนั้นจริงๆซะด้วยสิ
อายะ : ยามันบะเมื่อกี้
อายะ : ก็ไม่มีข้อมูลอะไรเลย
อายะ : ทั้งที่เหตุวิปลาสปกคลุมทั่วเกนโซวเคียวขนาดนี้
อายะ : แต่กลับไม่มีเบาะแสของผู้บงการเลยสักนิดเดียว
อายะ : คงเป็นฝีมือของคนที่มืดมนหม่นหมอง
อายะ : และเตรียมการพรั่งพร้อมมากกว่าที่คิดสินะ !
อายะ : สังหรณ์ได้ว่าจะเป็นข่าวใหญ่ในรอบพันปีเลยล่ะ !
Stage 4
ชื่อด่าน : การบังเอิญพบเจอยามทัศนวิสัยเป็นศูนย์ (White Blizzard Out of Season)
สถานที่ : ท้องฟ้าเหนือป่าเวทมนตร์(เดา)
สถานที่ : ท้องฟ้าเหนือป่าเวทมนตร์(เดา)
(เปิดเพลง BGM : White Traveler มายา)
(เทย์เรย์ดะ ไม เข้ามาในหน้าจอ)
(เทย์เรย์ดะ ไม แพ้พ่าย)
(เทย์เรย์ดะ ไม ออกไปจากหน้าจอ)
(เทย์เรย์ดะ ไม เข้ามาในหน้าจอ)
??? (ไม) : โฮ่― เทนกุ...... ?
อายะ : ค่ะ ใช่ค่ะ
อายะ : ฉันมีเรื่องอยากถามน่ะค่ะ
อายะ : ขอรบกวนเวลาสักหน่อยได้มั้ยคะ ?
??? (ไม) : ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้
??? (ไม) : ถึงเธอจะเป็นจำพวกเดียวกัน แต่ก็เป็นศัตรูตามธรรมชาติไม่ใช่เหรอ
??? (ไม) : ถึงจะคาดการณ์เอาไว้แล้วว่าเทนกุจะโผล่มาก็เถอะ
??? (ไม) : แต่ก็น่าตกใจจริงๆเลยน้า―
??? (นารุมิ) : พลังล้นเอ่อเลย― !
(ยาตะเดระ นารุมิ เข้ามาในหน้าจอ)
(แสดงชื่อและฉายาของ ยาตะเดระ นารุมิ)
นารุมิ : ทำไมกันนะ
นารุมิ : ทำไมพลังเวทถึงได้เอ่อล้นออกมาขนาดนี้......
นารุมิ : อยากทดสอบพลังนี้
นารุมิ : กับใครก็ได้ !
??? (ไม) : อะฮะฮะ ทันเวลาพอดี
??? (ไม) : คู่ต่อสู้ของเธอคือยัยนี่แหละ
??? (ไม) : ถ้างั้นเรากลับก่อนนะ―
อายะ : อ๊ะ......
อายะ : หนีไปซะแล้ว
อายะ : แต่ตัวคุณที่อยู่ตรงหน้าเองก็น่าสนใจเหมือนกันค่ะ
อายะ : ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอรบกวนเวลาสักหน่อยได้มั้ยคะ ?
นารุมิ : ได้สิ !
นารุมิ : ฉันจะยอมเป็นคู่ต่อสู้ให้เอง― !
อายะ : คู่ต่อสู้ ?
อายะ : หมายถึงการสัมภาษณ์สินะคะ
(เปิดเพลง BGM : จิโซวหมวกฟางเวทมนตร์)
นารุมิ : ไม่ใช่อย่างนั้น
นารุมิ : ดูเหมือนพายุหิมะจะมอบพลังให้ฉันล่ะ
นารุมิ : คู่ต่อสู้ที่ต้องปะทะกับพลังนี้เอ๋ย !
นารุมิ : จงแหลกไปซะ ไอ้พวกเทนกุ !
อายะ : สัมผัสได้ถึงความชอบการต่อสู้อย่างไร้เหตุผล......
อายะ : ก็ไม่ได้รังเกียจหรอกนะ !
อายะ : Favorite เลยด้วยซ้ำ!
(ยาตะเดระ นารุมิ แพ้พ่าย)
อายะ : เอาละ งั้นเริ่มการสัมภาษณ์เลยนะคะ
นารุมิ : ......ซิกซิก
นารุมิ : ค่ะ
อายะ : เมื่อกี้คุณบอกว่าได้รับพลังมาจากพายุหิมะ
อายะ : มันหมายความว่ายังไงเหรอคะ
นารุมิ : ขอโทษจริงๆค่ะ แต่ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
นารุมิ : รู้เพียงว่า พลังมันผุดขึ้นมาอย่างน่าประหลาด
นารุมิ : ปกติแล้วฉันก็ไม่ได้ชอบการต่อสู้แบบนี้หรอกนะ
นารุมิ : ฉันเป็นพวกที่อยากใช้ชีวิตเงียบสงบน่ะ
นารุมิ : อีกอย่าง......รู้สึกร้อนที่ด้านหลังยังไงก็ไม่รู้
อายะ : ......คนที่ถือไม้ไผ่เมื่อกี้เป็นใครเหรอ ?
อายะ : คนรู้จัก ?
นารุมิ : เอ๋ ? คนที่ถือไม้ไผ่ ?
นารุมิ : พูดถึงใครเหรอ ?
อายะ : คนที่กำลังเต้นรำอยู่ข้างหลังคุณ
อายะ : ก่อนที่เราจะต่อสู้กันน่ะค่ะ
นารุมิ : ไม่จริงน่า ต่อให้พายุหิมะรุนแรงแค่ไหน
นารุมิ : ถ้ามีคนเต้นอยู่ก็ต้องรู้อยู่แล้วล่ะค่ะ―
อายะ : ......จดไว้ว่า
อายะ : คุณจิโซวไม่มีความระมัดระวังตัว
นารุมิ : ร้อนที่ด้านหลังมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
นารุมิ : แต่มองไปข้างหลังกี่ครั้งก็ไม่เห็นมีใครอยู่เลย
อายะ : ถ้าร้อนที่ด้านหลัง......ไปหาหมอเถอะค่ะ
อายะ : หรือไปหาช่างหินจะดีกว่าหนอ
อายะ : อื๋อ ?
อายะ : คุณน่ะ มีประตูอยู่ข้างหลัง !?
นารุมิ : เอ๋ ?
นารุมิ : อะไรนะ น่ากลัวจัง
อายะ : ฉันเห็นแล้ว
อายะ : คนเมื่อกี้มาสิงอยู่ข้างหลังแล้วมอบพลังให้นี่เอง
อายะ : บางทีอาจซ่อนอยู่ข้างหลัง
อายะ : ของคนที่ต่อสู้ด้วยมาจนถึงตอนนี้เลยก็ได้
อายะ : ไม่เข้าถ้ำเสือก็ไม่ได้ลูกเสือ !
อายะ : ข้างในนั่น......ท่าทางจะกว้างน่าดูแฮะ
Stage 5
ชื่อด่าน : บริวารเต้นแพร่ความวิกลจริต (Into Crazy Back Door)
สถานที่ : แดนประตูหลัง
สถานที่ : แดนประตูหลัง
(เปิดเพลง BGM : อีกฟากของประตูต้องห้ามคือโลกนี้หรือโลกหน้ากันนะ)
(นิชิดะ ซาโตโนะ เข้ามาในหน้าจอ)
(นิชิดะ ซาโตโนะ แพ้พ่าย)
(นิชิดะ ซาโตโนะ ออกไปจากหน้าจอ)
(เทย์เรย์ดะ ไม เข้ามาในหน้าจอ)
อายะ : ในที่สุดก็เจอแหล่งข่าวอันล้ำค่าแล้วค่ะ !
อายะ : ถ้างั้นขอสัมภาษณ์เลยนะคะ
??? (ไม) : อ้าว !?
??? (ไม) : เทนกุตนเมื่อกี้ !? ทำไมมาอยู่ที่นี่......
อายะ : เข้ามาทางด้านหลังของจิโซวค่ะ
??? (ไม) : ไอ้หยา― เผลอเปิดประตูทิ้งไว้งั้นเหรอ―
(นิชิดะ ซาโตโนะ เข้ามาในหน้าจอ)
??? (ซาโตโนะ) : โธ่― ไมนี่ล่ะก็
??? (ซาโตโนะ) : ซุ่มซ่ามจริงๆเลยนะ
??? (ซาโตโนะ) : ดึงเทนกุเข้ามาแบบนี้แล้วจะทำยังไงกันดีล่ะ
??? (ซาโตโนะ) : ต้องโดนดุแน่เลย
??? (ไม) : แหม― ทำพลาดไปจนได้―
??? (ไม) : แต่เราไม่คิดว่าจะโดนดุหรอกนะ
??? (ไม) : เพราะว่างานของพวกเราคือการขับไล่เทนกุ
??? (ไม) : ดังนั้นแค่ไล่ไปจากที่นี่ก็พอแล้วล่ะ
อายะ : งานคือการไล่เทนกุ...... ?
อายะ : พวกคุณเป็นใครกันแน่น่ะ
(แสดงชื่อและฉายาของ นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม)
ไม : เราชื่อ เทย์เรย์ดะ ไม
ซาโตโนะ : ฉันชื่อ นิชิดะ ซาโตโนะ
ซาโตโนะ : พวกเราคือบริวารทั้งสองของเทพแห่งสิ่งกีดขวาง
ซาโตโนะ : โดยเนื้อแท้แล้วก็เป็นจำพวกเดียวกับเธอนั่นล่ะนะ
อายะ : เทพแห่งสิ่งกีดขวาง......
อายะ : เหมือนจะเคยได้ยินมาก่อนแฮะ
(เปิดเพลง BGM : Crazy Backdancers)
ซาโตโนะ : เทพแห่งสิ่งกีดขวาง......
ซาโตโนะ : หมายถึงเทพที่คอยกีดขวางวัตถุไงล่ะ
ไม : พวกเราทำงานเหมือนกับเทนกุ
ไม : และคอยขับไล่เทนกุไงล่ะ
อายะ : ฉันแค่อยากสัมภาษณ์
อายะ : เรื่องเหตุสี่ฤดูวิปลาสเท่านั้นเองค่ะ
อายะ : แต่ท่าทางจะเลี่ยงการต่อสู้ไม่ได้สินะ
ไม : การทำพิธีที่นี่
ไม : ถือว่าเหนือความคาดหมาย......
ไม : แต่จงดูให้ดี !
ไม : พิธีลับ [เทนกุโอโดชิ] ของสองบริวารอย่างพวกเรา !
(นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม แพ้พ่าย)
อายะ : ฮึ ดีแต่ปากสินะ
ไม : ฝีมือร้ายกาจจริงๆ
ไม : เหนือความคาดหมายเลยแฮะ
ซาโตโนะ : พวกเราดูถูกเธอเกินไปนะ
อายะ : ฉันไม่มีความจำเป็น
อายะ : ที่จะต้องเป็นศัตรูกับพวกคุณค่ะ
อายะ : ขอแค่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุสี่ฤดูวิปลาส
อายะ : เท่านั้นก็พอแล้วค่ะ
ไม : เหตุสี่ฤดูวิปลาส ?
ไม : อันนั้นพวกเราไม่ได้ทำนะ
อายะ : เอ๋ ?
อายะ : งั้นเหรอคะ ?
ซาโตโนะ : พวกเราสามารถดึงพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวเป้าหมาย
ซาโตโนะ : ออกมาได้อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยการเต้นอยู่ข้างหลังน่ะ
ไม : พวกเราได้รับคำสั่งให้ออกตามหาความเป็นไปได้
ไม : ของพวกที่เอาแต่ซ่อนตัวมาตลอด
ไม : พร้อมกับคอยขับไล่โยวไคที่เป็นตัวกีดขวาง
ไม : อย่างพวกเทนกุน่ะ
ซาโตโนะ : เหตุสี่ฤดูวิปลาส เป็นฝีมือของพวกชินเรย์ วิญญาณ ภูต
ซาโตโนะ : ที่อาละวาดเพราะผลจากการเต้นรำของพวกเราต่างหาก
อายะ : จดจดจด......
อายะ : แปลว่า สรุปแล้ว
อายะ : พวกคุณได้รับคำสั่ง
อายะ : ให้มอบพลังแก่โยวไคตนนั้นตนนี้
อายะ : ผลข้างเคียงคือ พวกภูตออกมาอาละวาด
อายะ : จนธรรมชาติผิดเพี้ยนไป......สินะคะ
อายะ : ถ้างั้นคนร้ายของเหตุสี่ฤดูวิปลาส
อายะ : ก็คือพวกคุณไม่ใช่เหรอคะ
ซาโตโนะ : โทษทีนะ รอเดี๋ยว
ซาโตโนะ : ......เอ๋ ?
ซาโตโนะ : ......เข้าใจแล้วค่ะ
ไม : อะไร ?
ไม : ท่านอาจารย์ติดต่อมาเหรอ ?
ซาโตโนะ : ท่านอาจารย์เรียกพวกเราน่ะ
ซาโตโนะ : คงเรียกไปดุล่ะมั้ง
ไม : แหงะ― !
ไม : ไม่ชอบเลยน้า
(นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม ออกไปจากหน้าจอ)
อายะ : ไม่อยู่ซะแล้วค่ะ
อายะ : ฉันเจอตัวคนร้าย
อายะ : ที่ก่อเหตุเหตุสี่ฤดูวิปลาสแล้วก็จริง แต่ว่า......
อายะ : เทพแห่งสิ่งกีดขวางงั้นสิน้า......
อายะ : รู้สึกเหมือนเคยได้ยินในประวัติศาสตร์ของเทนกุเลยน้า
Stage 6
ชื่อด่าน : ห้ามเปิด ห้ามดู มีสวรรค์ลับอยู่ในประตูหลัง (Hidden Star in Four Seasons)
สถานที่ : แดนประตูหลัง
สถานที่ : แดนประตูหลัง
(เปิดเพลง BGM : Into Backdoor)
อายะ : อยากถามสองคนเมื่อกี้
อายะ : ให้มากกว่านี้จังเลยค่ะ
อายะ : แต่นี่เป็นโลกที่แปลกประหลาดจังเลยนะค้า
อายะ : จากด้านหลังของจิโซว
อายะ : มีโลกที่กว้างใหญ่ขนาดนี้อยู่ด้วย......
(มาตาระ โอคินะ เข้ามาในหน้าจอ)
??? : อะฮะฮะ
??? : นี่มันน่าสนใจจริงๆ !
??? : เทนกุเข้ามาในแดนประตูหลังเนี่ยนะ !
??? : โลกนี้ถึงกาลอวสานแล้วรึ
??? : เดิมที พวกเราเป็นผู้รับผิดชอบสิ่งกีดขวางเหมือนเทนกุก็จริง
??? : แต่ที่ซึ่งควรอยู่อาศัยนั้นแตกต่างกัน
อายะ : เหมือนเทนกุ...... ?
อายะ : คุณเป็นใครกันแน่คะ ?
(แสดงชื่อและฉายาของ มาตาระ โอคินะ)
โอคินะ : ฉันชื่อ มาตาระ โอคินะ
โอคินะ : เทพแห่งประตูหลัง
โอคินะ : เทพแห่งสิ่งกีดขวาง
โอคินะ : เทพแห่งละครโน
โอคินะ : เทพารักษ์ เทพดวงดาว
อายะ : มีฉายามากมายเลยนะค้า
โอคินะ : ฮุฮุฮุ
โอคินะ : ถ้าเป็นเทนกุอย่างเธอก็น่าจะรู้นี่
โอคินะ : ว่าไม่น่าจะมีเทพองค์ใด
โอคินะ : ที่มีความเป็นเทพมากมายขนาดนี้......
อายะ : หมายความว่ายังไงเหรอคะ ?
โอคินะ : เธอคิดว่าฉัน
โอคินะ : กำลังโกหกอยู่ล่ะสิ ?
อายะ : เอ่อ ใช่ค่ะ
อายะ : พูดให้ถูกคือ ไม่ได้โกหก
อายะ : แต่รู้สึกเหมือนกำลังปกปิดตัวตนที่แท้จริงอยู่ค่ะ
โอคินะ : เทพลับสุดยอดก็อย่างนี้ล่ะนะ
โอคินะ : บางทีนี่อาจเป็นตัวตนที่แท้จริงก็ได้
อายะ : เทพแห่งสิ่งกีดขวาง......เทพลับ......
อายะ : อ๊ะ นึกออกแล้วค่ะ !
อายะ : บรรพบุรุษแห่งสิ่งกีดขวางถูกแบ่งเป็นสอง
อายะ : ส่วนหนึ่งอาศัยในภูเขา แล้วกลายเป็นเทนกุ
อายะ : อีกส่วนหนึ่งอาศัยในหมู่บ้านมนุษย์ โดยซ่อนอยู่หลังพระพุทธรูป
อายะ : นั่นคือเทพลับแห่งสิ่งกีดขวาง......
อายะ : หรือว่าคุณคือ...... !
(เปิดเพลง BGM : Four Seasons ที่ถูกซ่อนเร้น)
โอคินะ : บอกไปตั้งหลายครั้งแล้ว
โอคินะ : ว่าฉันคือเทพแห่งสิ่งกีดขวางองค์นั้นนั่นแหละ
โอคินะ : ถึงจะเป็นตัวตนที่มีหลายฉายา
โอคินะ : แต่เธอคิดว่าอะไรที่ตรงกับตัวตนที่แท้จริงของฉันที่สุดล่ะ ?
อายะ : เมื่อกี้ท่านตรัสว่า
อายะ : เทพลับคือตัวตนที่แท้จริงไม่ใช่เหรอคะ ?
โอคินะ : เทพแห่งสิ่งกีดขวาง มีอีกความหมายหนึ่งว่า
โอคินะ : เทพขจัดเทนกุ
โอคินะ : กล่าวคือ ฉันเป็น
โอคินะ : เทพที่จะลบล้างเทนกุไปจากโลกใบนี้
โอคินะ : ดังนั้นฉันถึงหัวเราะในตอนแรกสุดไงล่ะ
โอคินะ : เพราะเทนกุเข้ามาในแดนขจัดเทนกุ(แดนประตูหลัง)แห่งนี้
โอคินะ : แมงเม่าบินเข้ากองไฟชัดๆ !
โอคินะ : จงกลับสู่ความเถรตรง ! นักข่าวเทนกุผู้โง่เขลาแต่กำเนิดเอ๋ย !
(มุขพ้องเสียง 天狗(โยวไคชนิดหนึ่ง) กับ 天愚(โง่เขลาแต่กำเนิด))
(อุปกรณ์ฤดูกาลโดนศัตรูช่วงชิงไปแล้ว !)
(เอาล่ะ สุดท้ายนี้จงต่อสู้กับฤดูกาลรองของตัวเองซะ !)
(เอาล่ะ สุดท้ายนี้จงต่อสู้กับฤดูกาลรองของตัวเองซะ !)
(? ใครกันแน่ที่แพ้พ่าย ?)
ถ้าผู้เล่นมิได้ใช้คอนทินิวระหว่างเล่น >> Ending No.05 (Aya's Good Ending)
ถ้าผู้เล่นทำการคอนทินิวระหว่างเล่น >> Ending No.06 (Aya's Bad Ending)
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Marisa's Story

Stage 1
ชื่อด่าน : วันร้อนจัดหลังสายหมอกยามเช้า (Miracle Blue Sky)
สถานที่ : ท้องฟ้ากลางฤดูร้อน
สถานที่ : ท้องฟ้ากลางฤดูร้อน
(เปิดเพลง BGM : ดาวแห่งความหวังทะยานสู่ฟ้าคราม)
มาริสะ : อะไรกันวะ มันร้อนนะโว้ย
มาริสะ : ไอ้บ้านี่ !
(เอเทอร์นิตี้ ลาร์วา เข้ามาในหน้าจอ)
??? : อะไรเหรอ อะไรเหรอ ?
(แสดงชื่อและฉายาของ เอเทอร์นิตี้ ลาร์วา)
เอเทอร์นิตี้ : ฤดูร้อนมันก็ต้องร้อนอยู่แล้วล่ะ
เอเทอร์นิตี้ : ขนาดพวกภูตยังรู้เลย
มาริสะ : ไม่นึกว่ามันจะร้อนขนาดนี้
มาริสะ : เลยใส่เสื้อผ้ามาอย่างหนานี่ไงเล่า
มาริสะ : อ๊า― ร้อนจะตายอยู่แล้วโว้ย― !
เอเทอร์นิตี้ : พอดูดีๆแล้ว
เอเทอร์นิตี้ : เธอแต่งตัวหลงฤดูเหมือนคนบ้าเลยนะ
(เปิดเพลง BGM : ความฝันของภูตช่วงกลางฤดูร้อน)
เอเทอร์นิตี้ : มาขยับร่างกายให้มากขึ้น
เอเทอร์นิตี้ : แล้วลิ้มรสความร้อนของฤดูร้อนให้ทั่วร่างกันเถอะ !
(เอเทอร์นิตี้ ลาร์วา แพ้พ่าย)
เอเทอร์นิตี้ : ร้อน― !
มาริสะ : ร้อนโว้ย― !
เอเทอร์นิตี้ : ถ้าร้อน
เอเทอร์นิตี้ : แล้วแต่งตัวแบบนั้นทำไมล่ะ ?
มาริสะ : ก็แถวบ้านฉันมันเป็น
มาริสะ : ช่วงกลางฤดูหนาวที่มีหิมะตกนี่นา !
มาริสะ : นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย― ?
เอเทอร์นิตี้ : ล้อกันเล่นอีกแล้ว―
เอเทอร์นิตี้ : ตอนนี้เป็นช่วงกลางฤดูร้อนขั้นสูงสุดต่างหากล่ะ
มาริสะ : แค่ดูก็รู้แล้วน่า
มาริสะ : ที่นี่เป็นฤดูร้อนไม่ผิดแน่
มาริสะ : ไม่ได้เจอเหตุวิปลาสที่จับต้นชนปลายไม่ถูกแบบนี้มานานแล้ว
มาริสะ : ไม่รู้เลยว่าต่อไปจะไปตรวจสอบที่ไหนดี
Stage 2
ชื่อด่าน : ความโดดเดี่ยวของภูเขาแดง (Red Mountain Loneliness)
สถานที่ : ขุนเขาที่ใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว
สถานที่ : ขุนเขาที่ใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว
(เปิดเพลง BGM : สายลมไร้สีสู่ภูเขาโยวไค)
(ซาคาตะ เนมุโนะ เข้ามาในหน้าจอ)
??? : อะไรน่ะ ?
??? : ที่นี่เป็นถิ่นของชั้นนะ
มาริสะ : ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยแฮะ
มาริสะ : ใครน่ะ ?
(แสดงชื่อและฉายาของ ซาคาตะ เนมุโนะ)
เนมุโนะ : นั่นมันคำพูดของทางนี้ต่างหากล่ะ
เนมุโนะ : ชั้นอยู่ที่นี่มาตลอดนั่นล่ะ
เนมุโนะ : ไม่เคยโยกย้ายไปไหน
เนมุโนะ : แล้วเธอก็โผล่มาเนี่ย
มาริสะ : โอ้ โทษที
มาริสะ : ฉันเป็นจอมเวทชื่อ มาริสะ
มาริสะ : ดูเหมือนจะเป็นแค่บริเวณนี้
มาริสะ : ที่กลายเป็นฤดูใบไม้ร่วงนะ
(เปิดเพลง BGM : Encounter กลางภูเขา)
เนมุโนะ : ชั้นไม่รู้เรื่องอะไรพวกนั้นหรอก
เนมุโนะ : ที่สำคัญกว่าคือ รีบออกไปจากที่นี่ได้แล้ว
เนมุโนะ : ถ้าคิดจะอยู่ที่นี่นานไปกว่านี้ล่ะก็
เนมุโนะ : ชั้นจะแล่เธอไปทำเนื้อแดดเดียวนะ !
(ซาคาตะ เนมุโนะ แพ้พ่าย)
เนมุโนะ : เธอแข็งแกร่งดีนะ
เนมุโนะ : จอมเวทงั้นเหรอ ?
มาริสะ : ถึงจะบอกว่าเป็นจอมเวท
มาริสะ : แต่ก็เป็นมนุษย์นะ
เนมุโนะ : โฮ่ มนุษย์ งั้นสิน้า
เนมุโนะ : อย่างกับมนุษย์ในตำนาน
เนมุโนะ : ที่ชื่อคินโทคิเลยนะ
เนมุโนะ : ชักถูกใจแล้วสิ !
เนมุโนะ : จะถามอะไรก็ว่ามาได้เลย
มาริสะ : งั้นเหรอ ถ้างั้นจะถามล่ะนะ
มาริสะ : พอจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับ
มาริสะ : คนที่ทำให้มีแค่บริเวณนี้ที่เป็นฤดูใบไม้ร่วงรึเปล่า ?
เนมุโนะ : มีแค่บริเวณนี้ที่เป็นฤดูใบไม้ร่วง ?
เนมุโนะ : พูดอะไรของเธอน่ะ
มาริสะ : เธอรู้รึเปล่าว่าตอนนี้
มาริสะ : เกิดสภาพอากาศผิดปกติไปทั่วเกนโซวเคียวน่ะ ?
เนมุโนะ : ไม่รู้หรอก
มาริสะ : ช่วยบอกสถานที่อื่น
มาริสะ : ที่มีภูมิอากาศผิดเพี้ยนให้ทีสิ
เนมุโนะ : ชั้นไม่เคยออกไปจากที่นี่เลย
เนมุโนะ : เพราะงั้นชั้นไม่รู้อะไรหรอก
มาริสะ : ......โทษทีที่มารบกวน
Tips :
- ซาคาตะ คินโทคิ (坂田 金時) คือหนึ่งในผู้ที่ร่วมมือกับมินาโมโตะ โนะ โยริมิทสึ (ไรโคว) ในการกำจัดชุเทนโดวจิ
- หากดูจากนามสกุล เป็นไปได้ว่าเธอคือยามันบะที่เลี้ยงคินโทคิจนโต แต่บทพูดเหมือนห่างเหินกันชอบกล
Stage 3
ชื่อด่าน : ทะเลสีซากุระที่มีสัตว์เทพแหวกว่าย (Sea of Spring Pink)
สถานที่ : ซากุระยามค่ำแห่งศาลเจ้าฮาคุเรย์
สถานที่ : ซากุระยามค่ำแห่งศาลเจ้าฮาคุเรย์
(เปิดเพลง BGM : แหวกว่ายในทะเลสีซากุระ)
มาริสะ : ศาลเจ้าเองก็เพี้ยนไปเหมือนกันสินะ
มาริสะ : ซากุระบานผิดปกติแค่ที่นี่ที่เดียว
มาริสะ : ผู้ก่อเหตุวิปลาสอยู่ในศาลเจ้า
มาริสะ : จะให้คิดแบบนั้นมันก็ยากอยู่นะ
(โคมาโนะ อาอุน เข้ามาในหน้าจอ)
??? : อ้าว คุณมาริสะ
??? : ตอนนี้คุณเรย์มุไม่อยู่ค่ะ
มาริสะ : เธอเป็นใครน่ะ
(แสดงชื่อและฉายาของ โคมาโนะ อาอุน)
อาอุน : ใจร้ายจังเลยน้า
อาอุน : โคมะอินุ นามว่า โคมาโนะ ไงล่ะคะ
อาอุน : แต่ก็เพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรกล่ะนะ
มาริสะ : เจอหน้ากันครั้งแรกงั้นเหรอ
อาอุน : เห็นอย่างนี้ ชั้นก็แอบปกป้อง
อาอุน : ศาลเจ้าและวัดมานานแล้วนะคะ
มาริสะ : แบบพวกโคมะอินุอะไรนั่นน่ะเหรอ
มาริสะ : รูปปั้นหินที่ถูกใช้เป็นจุดนัดพบบ่อยๆ
อาอุน : แหม ถึงงั้นก็เถอะค่ะ
อาอุน : เห็นอย่างนี้ ชั้นก็เป็นถึงเทพพิทักษ์ศาลเจ้านะคะ
มาริสะ : อะฮะฮะ
มาริสะ : แกล้งทำเป็นพันธมิตรแบบนั้น หลอกฉันไม่ได้หรอกโว้ย !
(เปิดเพลง BGM : สัตว์เทพหนึ่งคู่)
มาริสะ : เทพพิทักษ์อะไรกัน
มาริสะ : ตอนนี้ศาลเจ้าเจอเหตุวิปลาสเข้าเต็มๆเลยไม่ใช่เรอะ !
มาริสะ : ฉันจะโค่นเธอ
มาริสะ : แล้วเอาฤดูกาลกลับมาสู่ศาลเจ้าเอง !
(โคมาโนะ อาอุน แพ้พ่าย)
อาอุน : แพ้แล้ว―
อาอุน : ทั้งที่อุทิศตนให้ศาลเจ้า
อาอุน : แต่กลับโดนยำจนเละเลย―
มาริสะ : ไม่รู้สึกถึงปราณภูตที่เกี่ยวกับเหตุวิปลาส
มาริสะ : จากตัวเธอเลยแฮะ
มาริสะ : เอ่อ ว่าไงดีล่ะ
มาริสะ : โทษทีนะ
อาอุน : ฉันบอกตั้งแต่แรกแล้วไงคะ
อาอุน : ว่าฉันเป็นพันธมิตรของศาลเจ้าน่ะ
มาริสะ : ถ้างั้นแปลว่าจะยอมให้ความร่วมมือ
มาริสะ : ในการตรวจสอบเหตุวิปลาสครั้งนี้สินะ
อาอุน : แน่นอนค่ะ !
อาอุน : ถึงฉันจะเอาแต่มองศาลเจ้าและวัดก็เถอะ
อาอุน : แต่ถ้าพูดถึงเรื่องที่ผิดปกติล่ะก็
อาอุน : คงเป็นเรื่องที่พวกภูตกำลังอาละวาด
อาอุน : ล่ะมั้งน้า
มาริสะ : ไอ้พวกนั้นมันก็อาละวาดทุกที
มาริสะ : ที่เกิดเหตุวิปลาสนั่นแหละ
มาริสะ : ที่เหลือก็......
มาริสะ : โคมะอินุที่ซ่อนตัวมาตลอดดันโผล่ออกมาแบบนี้
มาริสะ : ก็จัดว่าแปลกอยู่เหมือนกัน
มาริสะ : ดูๆไปแล้วมันก็จริงอย่างที่เธอว่าล่ะนะ
มาริสะ : เอาเป็นว่า เหลือสถานที่แห่งฤดูกาลอยู่อีกที่หนึ่ง
มาริสะ : คงต้องไปตรวจสอบที่นั่นแล้วค่อยสรุปล่ะนะ
อาอุน : พยายามเข้านะคะ―
อาอุน : ฉันจะคอยเอาใจช่วยแบบไม่ให้รู้ตัวค่ะ
มาริสะ : เดี๋ยวฉันสติแตกกันพอดี ไม่ต้องเอาใจช่วยหรอก
Stage 4
ชื่อด่าน : การบังเอิญพบเจอยามทัศนวิสัยเป็นศูนย์ (White Blizzard Out of Season)
สถานที่ : ท้องฟ้าเหนือป่าเวทมนตร์(เดา)
สถานที่ : ท้องฟ้าเหนือป่าเวทมนตร์(เดา)
(เปิดเพลง BGM : White Traveler มายา)
(เทย์เรย์ดะ ไม เข้ามาในหน้าจอ)
(เทย์เรย์ดะ ไม แพ้พ่าย)
(เทย์เรย์ดะ ไม ออกไปจากหน้าจอ)
(เทย์เรย์ดะ ไม เข้ามาในหน้าจอ)
??? (ไม) : หรือว่าเธอ
??? (ไม) : คือผู้ที่ถูกเลือกงั้นเหรอ ?
??? (ไม) : อุตส่าห์ลงมือไปอย่างอลังการ
??? (ไม) : กว่าจะโผล่มาได้นี่ก็ช้ากว่าที่คิดน้า
มาริสะ : เธอคือคนที่ทำให้ป่าเป็นแบบนี้งั้นเหรอ !?
??? (นารุมิ) : พลังล้นเอ่อเลย― !
(ยาตะเดระ นารุมิ เข้ามาในหน้าจอ)
(แสดงชื่อและฉายาของ ยาตะเดระ นารุมิ)
นารุมิ : ทำไมกันนะ
นารุมิ : ทำไมพลังเวทถึงได้เอ่อล้นออกมาขนาดนี้......
นารุมิ : อย่างนี้ต้องทดสอบ
นารุมิ : กับมนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าสักหน่อยแล้ว !
??? (ไม) : อะฮะฮะฮะฮะ
??? (ไม) : คู่ต่อสู้ในคราวนี้คือยัยนี่ต่างหากล่ะ
??? (ไม) : ถ้างั้นเรากลับก่อนนะ―
มาริสะ : เฮ้ย อย่าหนีนะ !
นารุมิ : ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน
นารุมิ : แต่ดูเหมือนพายุหิมะจะมอบพลังให้ฉันล่ะ !
มาริสะ : เธอ......เหมือนจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อนนะ
มาริสะ : นึกออกแล้ว จิโซวเวทมนตร์ นารุโกะ ไม่ใช่เหรอ
นารุมิ : เสียงนี่มัน มนุษย์เวทมนตร์ มาริสะ ?
นารุมิ : พายุหิมะเวทมนตร์รุนแรงจนมองไม่เห็นเลย
มาริสะ : ฉันจะไล่ตามยัยคนเมื่อกี้
มาริสะ : ช่วยหลีกทางให้หน่อยสิ
(เปิดเพลง BGM : จิโซวหมวกฟางเวทมนตร์)
นารุมิ : ไม่ล่ะ
นารุมิ : วันนี้ฉันรู้สึกอยากทดสอบเวทมนตร์น่ะ
มาริสะ : คนขี้อายอย่างเธอก็พูดอะไรแปลกๆออกมาได้น้า
มาริสะ : คิดว่าจะเอาชนะฉันได้เหรอ ?
นารุมิ : รู้สึกว่าวันนี้จะมีพายุหิมะคอยหนุนหลังอยู่น่ะ
นารุมิ : เพราะงั้นเลยไม่รู้สึกว่าจะแพ้เลย
นารุมิ : ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษหรอก !
นารุมิ : ลุยล่ะนะ― !
(ยาตะเดระ นารุมิ แพ้พ่าย)
นารุมิ : พลังยังเหลือเฟืออยู่เลย !
มาริสะ : ขอเวลานอกเดี๋ยว
มาริสะ : เวทมนตร์ของเธอมันแปลกๆไปหน่อยรึเปล่าวะ ?
มาริสะ : จะว่ายังไงดีล่ะ
มาริสะ : วิธีเอ่อล้นของพลังเวทมันไม่ธรรมดา
มาริสะ : รู้สึกเหมือนพลังเวทกำลังเอ่อล้นมาจากข้างหลัง
มาริสะ : เธอไม่รู้สึกตัวเลยเหรอ ?
นารุมิ : นั่นสินะ―
นารุมิ : จะว่าไปก็ร้อนที่ด้านหลังด้วย
มาริสะ : งั้นเหรอ เรื่องนั้นก็น่าเป็นห่วงเหมือนกัน......
มาริสะ : ว่าแต่ยัยคนเมื่อกี้นี้เป็นใครเหรอ ?
นารุมิ : คนเมื่อกี้ ?
นารุมิ : พูดเรื่องอะไรน่ะ
มาริสะ : คนที่กำลังเต้นอยู่ข้างหลังเธอไง
มาริสะ : ไม่รู้สึกตัวเลยเหรอ ?
นารุมิ : ฉันว่าฉันอยู่ตัวคนเดียวมาตลอดเลยนะ
มาริสะ : จะว่าไปแล้ว
มาริสะ : เธอเป็นพวกรักสันโดษนี่นะ
นารุมิ : อ๊า― แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ
นารุมิ : ร้อนที่ด้านหลังชะมัดเลย―
มาริสะ : อาจจะโดนพายุหิมะกัดจนเป็นแผลก็ได้
มาริสะ : ไหนขอดูหน่อยซิ
มาริสะ : เอ๋ ?
มาริสะ : เดี๋ยวสิ เธอน่ะ !?
มาริสะ : มีประตูอยู่ข้างหลัง !
นารุมิ : เอ๋ ?
นารุมิ : อะไรนะ น่ากลัวจัง
มาริสะ : ไม่ผิดแน่
มาริสะ : พลังเวทกำลังเอ่อล้นออกมาจากประตูข้างหลังนี่......
นารุมิ : นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่น่ะ ?
นารุมิ : มาริสะ ทำอะไรสักอย่างสิ !
มาริสะ : อืมมม ดูยังไงเจ้านี่ก็เป็นกับดักชัดๆ......
มาริสะ : แต่ถ้าปล่อยเจ้านี่ไปก็ไม่มีเงื่อนงำแล้ว
มาริสะ : จงเคาะเถิด หากทำแล้วจะเปิดออกได้ !
(เวอร์ชั่นญี่ปุ่นของวลี Knock, and it shall be opened unto you จากพระวรสารนักบุญมัทธิวแห่งคัมภีร์ไบเบิลภาคพันธสัญญาใหม่)
Stage 5
ชื่อด่าน : บริวารเต้นแพร่ความวิกลจริต (Into Crazy Back Door)
สถานที่ : แดนประตูหลัง
สถานที่ : แดนประตูหลัง
(เปิดเพลง BGM : อีกฟากของประตูต้องห้ามคือโลกนี้หรือโลกหน้ากันนะ)
(นิชิดะ ซาโตโนะ เข้ามาในหน้าจอ)
(นิชิดะ ซาโตโนะ แพ้พ่าย)
(นิชิดะ ซาโตโนะ ออกไปจากหน้าจอ)
(เทย์เรย์ดะ ไม เข้ามาในหน้าจอ)
มาริสะ : ที่นี่มันอะไรกัน......
มาริสะ : ภายในด้านหลังของนารุโกะ
มาริสะ : มีโลกที่กว้างใหญ่แบบนี้อยู่ด้วยแฮะ
??? (ไม) : อ้าว !?
??? (ไม) : มนุษย์คนเมื่อกี้ ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้...... ?
??? (ไม) : อ๋า― อย่าบอกนะว่า
??? (ไม) : เราเปิดประตูที่ด้านหลังของจิโซวเมื่อกี้ทิ้งเอาไว้
(นิชิดะ ซาโตโนะ เข้ามาในหน้าจอ)
??? (ซาโตโนะ) : โธ่― ไมนี่ล่ะก็
??? (ซาโตโนะ) : ซุ่มซ่ามจริงๆเลยนะ
??? (ซาโตโนะ) : ยังไม่มีคำสั่งออกมาแท้ๆ
??? (ซาโตโนะ) : ดันดึงมนุษย์เข้ามาซะได้―
??? (ไม) : แหม― แต่ก็ได้จังหวะเหมาะเลยนะ
??? (ไม) : ยังไงก็ลงมือไปอย่างอลังการน่าดูแล้วด้วย
??? (ไม) : [ทำได้ดีมาก เหมาะดีทีเดียวเลยนี่นา ?]
??? (ไม) : เราว่าท่านอาจารย์ก็ต้องพูดแบบนี้แหละ
มาริสะ : พวกเธอเป็นใครน่ะ ?
มาริสะ : แล้วที่นี่มันคือที่ไหนกัน ?
(แสดงชื่อและฉายาของ นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม)
ไม : ฮึ เราชื่อ เทย์เรย์ดะ ไม
ซาโตโนะ : ฉันชื่อ นิชิดะ ซาโตโนะ
ซาโตโนะ : ขอกล่าวอีกครั้ง
ซาโตโนะ : ยินดีต้อนรับสู่แดนประตูหลัง
มาริสะ : แดนประตูหลัง ?
มาริสะ : ไม่เคยได้ยินเลยแฮะ
มาริสะ : ถึงจะนึกอยู่แล้วว่าเป็นกับดักก็เถอะ
มาริสะ : แต่ก็ถอยไปไหนไม่ได้แล้ว !
(เปิดเพลง BGM : Crazy Backdancers)
ไม : วางใจได้
ไม : นี่ไม่ใช่กับดักหรอก
ไม : แต่จากนี้ไปจะทำการทดสอบ
ไม : ว่าเธอคือผู้ถูกเลือกรึเปล่า
ซาโตโนะ : ถ้าเธออ่อนแอเกินไป
ซาโตโนะ : ท่านอาจารย์จะดุพวกเราเอาได้นะ―
ไม : จะลุยแบบเอาจริงล่ะนะ !
ไม : ถ้าเธอตายเมื่อไหร่ก็ยุติตอนนั้นแหละ !
ซาโตโนะ : ไม่ออมมือให้หรอก
ซาโตโนะ : แต่ถ้าเธอตายก็จะช่วยฆ่าซ้ำให้นะ― !
(นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม แพ้พ่าย)
มาริสะ : ตึงมือไม่เบาเลยนะ !
ไม : ดีล่ะ― ยุติแค่นี้ก็พอ
ซาโตโนะ : ไม่เลวเลย คะแนนผ่านเกณฑ์ ล่ะมั้งน้า
ไม : ดีล่ะ― งั้นยินดีด้วย !
ไม : เธอ―สอบ―ผ่าน !
มาริสะ : สะ สอบผ่าน ?
มาริสะ : นี่มันเรื่องอะไรกัน
ซาโตโนะ : พวกเราสามารถดึงพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวเป้าหมาย
ซาโตโนะ : ออกมาได้อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยการเต้นอยู่ข้างหลังน่ะ
ไม : พวกเราได้รับคำสั่งให้ออกตามหาความเป็นไปได้
ไม : ของพวกที่เอาแต่ซ่อนตัวมาตลอด
ไม : พร้อมกับจับกุมตัวบุคคลที่มีศักยภาพ
ไม : และความ Aggressive อย่างเธอ
มาริสะ : ดึงพลังที่ซ่อนเร้น......อะฮ้า
มาริสะ : ประตูที่ด้านหลังของนารุโกะคือผลกระทบจากการเต้นงั้นเหรอ
มาริสะ : หรือว่าสิ่งที่ทำให้สี่ฤดูผิดเพี้ยน
มาริสะ : ก็คือการดึงพลังที่ซ่อนเร้นของพวกภูตออกมา ?
ไม : แหม่ นั่นเป็นผลข้างเคียงน่ะนะ
ไม : พวกภูตแค่อาละวาดไปตามอำเภอใจเท่านั้นเอง
มาริสะ : บุคคลที่มีศักยภาพ ซึ่งอยากได้จนถึงขนาด
มาริสะ : ต้องทำให้ภูตอาละวาดจนเกนโซวเคียววุ่นวายไปหมด......
มาริสะ : อย่างนี้นี่เอง นั่นคือฉันเองสินะ
มาริสะ : อย่างนี้นี่เอง อย่างนี้นี่เอง
ไม : เอาล่ะ ยังไงก็ผ่านการทดสอบแล้ว
ไม : ขอเชื้อเชิญเธอ !
ไม : สู่เบื้องหน้าของเทพลับสูงสุดแห่งเบื้องหลัง !
Stage 6
ชื่อด่าน : ห้ามเปิด ห้ามดู มีสวรรค์ลับอยู่ในประตูหลัง (Hidden Star in Four Seasons)
สถานที่ : แดนประตูหลัง
สถานที่ : แดนประตูหลัง
(เปิดเพลง BGM : Into Backdoor)
มาริสะ : อยู่ที่ไหนกันแน่นะ ?
มาริสะ : เจ้าเทพลับอะไรนั่น
มาริสะ : อีกอย่าง โลกนี้มันคืออะไรกันแน่เนี่ย ?
มาริสะ : ไปที่ไหนก็เจอแต่ประตูทั้งนั้นเลย......
(มาตาระ โอคินะ เข้ามาในหน้าจอ)
??? : โอ้ ในที่สุดก็มาแล้ว
??? : เธอคือมนุษย์ที่บริวารทั้งสองพูดถึงสินะ
มาริสะ : ใช่แล้ว มั้งนะ
??? : หืม―
??? : ชุดนั่นมันอะไรน่ะ
??? : เป็นชุดที่ประหลาดดีนะ
มาริสะ : เครื่องแบบของจอมเวทน่ะ
มาริสะ : ความแปลกประหลาดนี่ก็เป็นเอกลักษณ์ของจอมเวทเหมือนกัน
มาริสะ : ชุดของเธอก็ใช่ย่อยเลยนะโว้ย ?
มาริสะ : เธอเป็นใครกันแน่ ?
(แสดงชื่อและฉายาของ มาตาระ โอคินะ)
โอคินะ : ฉันชื่อ มาตาระ โอคินะ
โอคินะ : เทพแห่งประตูหลัง
โอคินะ : เทพแห่งสิ่งกีดขวาง
โอคินะ : เทพแห่งละครโน
โอคินะ : เทพารักษ์ เทพดวงดาว
โอคินะ : และเป็นหนึ่งในนักปราชญ์
โอคินะ : ผู้สร้างเกนโซวเคียวแห่งนี้ขึ้นมา
โอคินะ : นี่ก็ใกล้ถึงเวลาที่จะต้องหาผู้สืบทอด
โอคินะ : ของบริวารทั้งสอง(ยัยพวกนั้น)แล้วล่ะนะ
มาริสะ : ผู้สืบทอด ?
มาริสะ : บริวารทั้งสองที่ว่านั่น หมายถึงยัยพวกนั้นน่ะเหรอ
โอคินะ : ใช่แล้ว เพราะเป็นแขนทั้งสองที่แสนสำคัญของฉันนี่แหละ
โอคินะ : ถึงได้ต้องคอยเปลี่ยนเป็นมนุษย์คนใหม่เป็นระยะๆ
มาริสะ : ปกติแล้วต้องทำงานอะไรบ้างล่ะ ?
โอคินะ : ควบคุมสมดุลของเกนโซวเคียวจากเบื้องหลังน่ะ
โอคินะ : จะเรียกว่าเป็น Fixer ก็ได้ล่ะมั้ง
โอคินะ : เอาน่า ก็แค่งานง่ายๆล่ะนะ
มาริสะ : ฉันไม่รู้หรอกว่าง่ายรึเปล่า
มาริสะ : แต่เป็นงานที่น่าสนุกดีนะ
มาริสะ : แต่ขอปฏิเสธ !
มาริสะ : ฉันจะใช้ชีวิต
มาริสะ : ในแบบที่ฉันชอบ
มาริสะ : ถ้าต้องเป็นเหมือนสองคนเมื่อกี้นี้
มาริสะ : ฉันขอผ่านว่ะ
(เปิดเพลง BGM : Four Seasons ที่ถูกซ่อนเร้น)
โอคินะ : อะฮะฮะ
โอคินะ : เข้าใจผิดอะไปรึเปล่า ?
โอคินะ : เธอไม่ได้เป็นตัวเลือก
โอคินะ : มาตั้งแต่แรกแล้ว
มาริสะ : ว่าไงนะ ?
โอคินะ : ฉันจะเป็นคนเลือกเองว่าจะรับใครมาเป็นลูกน้อง
โอคินะ : ไม่ได้ถามเธอสักหน่อย
มาริสะ : ฮึ คิดจะใช้กำลังงั้นเรอะ
มาริสะ : ตรงตามที่ต้องการเลยโว้ย !
โอคินะ : ตราบเท่าที่ยังมีประตูสี่ฤดูอยู่ข้างหลังเธอ
โอคินะ : ย่อมไม่มีวิชาใดจะหนีพ้นการควบคุมของฉันไปได้
โอคินะ : ถ้างั้นจะเริ่มการทดสอบทมิฬขั้นสุดท้ายล่ะนะ
โอคินะ : ถ้าทำให้ผิดหวังล่ะก็ ฉันฆ่าเธอแน่ !
(อุปกรณ์ฤดูกาลโดนศัตรูช่วงชิงไปแล้ว !)
(เอาล่ะ สุดท้ายนี้จงต่อสู้กับฤดูกาลรองของตัวเองซะ !)
(เอาล่ะ สุดท้ายนี้จงต่อสู้กับฤดูกาลรองของตัวเองซะ !)
(? ใครกันแน่ที่แพ้พ่าย ?)
ถ้าผู้เล่นมิได้ใช้คอนทินิวระหว่างเล่น >> Ending No.07 (Marisa's Good Ending)
ถ้าผู้เล่นทำการคอนทินิวระหว่างเล่น >> Ending No.08 (Marisa's Bad Ending)
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
*กดที่หัวข้อเพื่อแสดงข้อความ*
(หรือกดที่นี่เพื่อแสดงข้อความทั้งหมดในส่วนนี้)
Ending No.01 Reimu's Good Ending

(บนกล่องตรงศาลเจ้า : เงิน)
ศาลเจ้าฮาคุเรย์
ศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกนโซวเคียว และมีชื่อเล่นว่า "ศาลเจ้าโยวไค"

(ในภาพ : ยังอยู่สินะ)
อาอุน「คุณเรย์มุกลับมาแล้วแบบนี้
แปลว่าอีกเดี๋ยวฤดูใบไม้ผลิของศาลเจ้าก็จะจบลงแล้วสินะค้า」
เรย์มุ「ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็ดีสิน้า」
อาอุน「ท่าทางเหนื่อยใจน่าดูเลย เจอตัวผู้บงการแล้วสินะคะ」
เรย์มุ「แหงอยู่แล้ว
ย้ำไปแล้วล่ะว่าอย่าทำอะไรให้มันลามปามมาถึงพวกภูต」
อาอุน「ลามปาม พวกภูต ?」
เรย์มุ「ดูเหมือนว่าฤดูกาลผิดเพี้ยนไป
เพราะยัยพวกนั้นทำให้เหล่าภูตอาละวาดน่ะ」
เรย์มุ「เพราะงั้นเลยให้หยุดทำแบบนั้นแล้ว
หลังจากนี้ก็น่าจะกลับเป็นเหมือนเดิมแล้วล่ะ แน่ๆเลย」

(ในภาพ : ยัยนี่ทำตัวสนิทสนมใหญ่เลย)
อาอุน「หืม― แต่ฟังดูเหมือนไม่สบอารมณ์ยังไงชอบกลนะคะ」
เรย์มุ「จริงๆแล้ว...... จะเรียกว่าสัญญาก็ไม่ถูก
แค่พูดย้ำอยู่ฝ่ายเดียวในระหว่างต่อสู้เท่านั้นเอง」
เรย์มุ「ดูเหมือนจะติดกับดักเข้า
เลยพลาดปล่อยให้หนีไปจนได้น่ะน้า」
อาอุน「ตายจริง ถือว่าแปลกสำหรับคุณเรย์มุเลยนะค้า」
เรย์มุ「ดูเหมือนยัยพวกนั้นจะสามารถเดินทางไปที่ไหนก็ได้ด้วยประตูประหลาดน่ะ
พอรู้สึกตัวอีกทีก็หายไปแล้ว」
อาอุน「แต่ว่า ไม่เป็นไรหรอกค่ะ―」
เรย์มุ「?」
อาอุน「เพราะสุดท้ายแล้วคุณเรย์มุก็ไม่น่าจะแพ้ได้หรอกค่ะ―」
เรย์มุ「ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็ดีสิน้า」
เรย์มุ「ตราบเท่าที่ยังทำอะไรกับประตูประหลาดที่ด้านหลังไม่ได้
ดูเหมือนพวกนั้นจะสามารถซ่อนตัวที่ไหนก็ได้ แย่จังเลยน้า」
อาอุน「ประตูที่ด้านหลัง......อ๊ะ」
เรย์มุ「ฉันได้เจอศัตรูเพราะกระโจนเข้าไปในประตูของจิโซวที่เจอในป่าน่ะ」
อาอุน「ถ้างั้นการไปเจออีกครั้งก็ง่ายนิดเดียวไม่ใช่เหรอคะ
แบบว่า นั่นไงคะ ที่ด้านหลังของคุณเรย์มุ......」
อาอุนชี้ไปที่ด้านหลังของเรย์มุ
ตรงนั้นมีประตูประหลาดติดอยู่
แต่เรย์มุไม่ตกใจเลย
เธอเป็นพวกที่ต่อให้สภาพอากาศแปรปรวนไปทั่วเกนโซวเคียวก็ไม่ใส่ใจ
แม้ไม่สนใจที่จะตีแผ่ความจริงก็คงสังเกตอยู่บ้างแหละ
แต่นี่เป็นโอกาสแล้ว
เรย์มุสาบานว่าจะกระโจนเข้าไปในประตูที่ด้านหลังแล้วต่อสู้กับเทพลับปริศนาอีกครั้ง
คราวนี้ เธอเอาฤดูกาลรองที่สามารถติดตั้งได้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเองแทน......
Ending No.01 ตัดสินใจสู้อีกครั้ง
Congratulation !
ยินดีด้วยที่จบเกมได้แบบ No Continue !
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Ending No.02 Reimu's Bad Ending

(บนกล่องตรงศาลเจ้า : เงิน)
ศาลเจ้าฮาคุเรย์
ศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกนโซวเคียว

(ในภาพ : อ้าว―)
เรย์มุ「อืม― อ้าว― ?
มาอยู่ที่ศาลเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า......」
เรย์มุ「จริงสิ ยัยนั่นหนีไปโดยใช้ประตูที่ด้านหลังล่ะมั้ง
โธ่เว้ย คราวหน้าจะโค่นอย่างรวดเร็วจนหนีไม่ทันเลย !」
ดูเหมือนจะปล่อยให้หนีไปได้ตอนไหนก็ไม่รู้
เพราะมัวแต่นึกว่าอาวุธของตนโดนผนึกไป
เรย์มุจึงไปท้าสู้อีกครั้ง
Ending No.02 พ่ายแพ้กะทันหัน
ยินดีด้วยที่จบเกม !
ครั้งต่อไปมาตั้งเป้าว่าจะจบเกมแบบ No Continue กันเถอะ !
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Ending No.03 Cirno's Good Ending

ท้องฟ้าเหนือเกนโซวเคียว
แม้แต่ความร้อนของฤดูร้อนก็ไม่สะทกสะท้านเพราะเป็นภูต

ชิลโน่「สำเร็จแล้วโว้ย ! ในที่สุดก็แข็งแกร่งที่สุดแล้ว !」
ลาร์วา「สุดยอด สุดยอด !
สมกับที่เอาชนะฉันได้เลยนะ !」
ลาร์วา「แล้วเธอไปโค่นคนแบบไหนมาเหรอ― ?」
ชิลโน่「คนที่ถือปังตออันใหญ่―
สุนัขที่อยู่ในศาลเจ้า― คนที่สวมหมวกฟาง―
แล้วก็......เอ่อ― อะไรต่อหว่า ?」
ชิลโน่「ความทรงจำหลังจากนั้นมันคลุมเครือแฮะ
แต่จำได้ว่ามุดเข้าประตูไปเพียบเลย......」
ลาร์วา「ว้าย― เลอะ―เลือน―ด้วย―ล่ะ―」
ชิลโน่「เลอะเลือนเพราะความร้อนล่ะมั้งน้า
......อ้าว ? เฮ้ย ! ข้างหลังเธอ...... !」

ชิลโน่「มีของที่เหมือนประตูอยู่นะ !?」
ลาร์วา「อะไรนะ น่ากลัวจัง」
ชิลโน่「ประตูนั่น เหมือนเคยเห็น...... อึก ปวดหัว......」
ชิลโน่「จริงสิ นึกออกแล้ว
เค้าเจอกับคนพิลึกๆในโลกที่มีแต่ประตูเต็มไปหมด」
ลาร์วา「คนพิลึก ?」
ชิลโน่「นักเต้นรำพิลึก กับคนขี้เกียจที่ต่อสู้โดยนั่งอยู่บนเก้าอี้น่ะ
รู้สึกเหมือนเคยต่อสู้กับยัยพวกนั้น......
แต่แปลกแฮะ ความทรงจำช่วงนั้นคลุมเครือชะมัด」
ลาร์วา「หืม― ถ้างั้นก็แปลว่าแพ้มาไม่ใช่เหรอ ?」
ชิลโน่「มะ ไม่มีทางแพ้หรอกน่า !?
เค้าแข็งแกร่งที่สุดนะ !」
เหล่าภูตที่อาละวาดเพราะได้รับผลกระทบจากสองบริวารล้วนมีความทรงจำคลุมเครือ
สาเหตุที่ฤดูกาลแปรปรวนนั้นเป็นเพราะเหล่าภูตที่ควบคุมธรรมชาติ
ต่างออกมาอาละวาดจนเกินขอบเขต
ประตูที่ปรากฏขึ้น ณ ด้านหลังของเหล่าภูตคือหลักฐานว่าได้รับผลกระทบดังกล่าว
ชิลโน่เข้าใจเรื่องนี้แล้ว จึงเตือนลาร์วาเอาไว้ว่า
"ห้ามมองและสัมผัสข้างหลังเด็ดขาดเลยนะ"
แน่นอน เธอตั้งใจเอาไว้ว่า
เตรียมตัวเสร็จเมื่อไหร่ก็จะเข้าประตูนั่นเพื่อไปทวงความทรงจำกลับมา
Ending No.03 ประตูที่ด้านหลังปรากฏขึ้นอีกครั้ง
Congratulation !
ยินดีด้วยที่จบเกมได้แบบ No Continue !
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Ending No.04 Cirno's Bad Ending

ท้องฟ้าเหนือเกนโซวเคียว
ที่นี่คือที่ไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน―

ชิลโน่「วันนี้ก็อากาศดีเหมือนเคยเลยน้า―
แสงแดดของฤดูร้อนทำเอาผิวคล้ำหมดเลยโว้ย―」
ชิลโน่「อ้าว ? แสงแดดของฤดูร้อน...... ?
เมื่อก่อนไม่ถูกกับความร้อนนี่นา
ไม่มีปัญหากับความร้อนตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ?」
ชิลโน่「เอ้อ ช่างเถอะ คงเอาชนะจุดอ่อนได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ล่ะนะ
แปลว่าตอนนี้เค้าพร้อมที่จะแข็งแกร่งที่สุดแล้ว !
ชักมีไฟขึ้นมาแล้วโว้ย― อยากทดสอบความแข็งแกร่งที่สุดกับที่ไหนสักแห่งจัง―」
ชิลโน่「โอ๊ะ มีภูตโผล่มาพอดีเลยโว้ย !
ลองไปสู้ดูสักตั้งดีกว่า― !」
ภูตผีเสื้อ ลาร์วา ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าในเวลานั้นพอดี
แล้วชิลโน่ก็เริ่มการต่อสู้(ครั้งที่เท่าใดก็ไม่รู้)
ดูเหมือนเธอกำลังสูญเสียตัวตนไปด้วยผลกระทบจากการอาละวาด
Ending No.04 เริ่มโลกลูปเลอะเลือน
ยินดีด้วยที่จบเกม !
ครั้งต่อไปมาตั้งเป้าว่าจะจบเกมแบบ No Continue กันเถอะ !
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Ending No.05 Aya's Good Ending

ภูเขาโยวไค
ภูเขาที่สูงที่สุดในเกนโซวเคียว รังของเหล่าโยวไค โดยมีเทนกุเป็นแกนนำ

ฮาตาเตะ「ยัยนั่นบอกว่าตัวเองเป็นเทพแห่งสิ่งกีดขวางสินะ」
อายะ「ใช่แล้ว ฉันคิดว่าเรื่องนี้สำคัญมากเลยล่ะ」
ฮาตาเตะ「หืม― เป็นเรื่องที่น่ากังวลจังเลยน้า」
ฮาตาเตะ「ถ้าหากโผล่มาเพราะได้รับศรัทธาจากใครสักคน
นั่นอาจเป็นเพราะต้องการขับไล่เทนกุก็ได้
แต่ถ้าหากโผล่มาเอง แบบนั้นคงมาเพื่อทำลายล้างเทนกุเลยมากกว่า......」
อายะ「ฉันไม่รู้สึกถึงความเป็นศัตรูมากขนาดนั้นนะ
แต่ก็จริงที่ว่า ยัยนั่นดูเหมือนไม่ชอบใจที่ได้เจอกับฉัน」
ฮาตาเตะ「แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ การที่เธอมาปรึกษาฉันนี่จัดว่าแปลกน่าดูเลยนะ」

อายะ「เป็นเพราะตอนแรกฉันแค่ตรวจสอบเรื่องเหตุวิปลาสเกี่ยวกับฤดูกาลเฉยๆ
แต่ถ้าเกี่ยวพันถึงอันตรายต่อเผ่าเทนกุก็คงไม่ใช่เวลามาเขียนข่าวลงหนังสือพิมพ์แล้วล่ะ」
ฮาตาเตะ「เอาอีกแล้ว ยัยคนชอบปกปิดข้อมูลที่ทำให้ตัวเองเสียเปรียบ」
อายะ「นั่นเป็นแบบอย่างที่ดีของนักข่าวไม่ใช่เหรอ ?
แถมถ้าไม่ใช่เรื่องทำข่าว จะปรึกษาใครก็ไม่มีปัญหาสักหน่อย」
ฮาตาเตะ「บอกมาตามตรงเถอะ เธออยากให้ฉันใช้ความสามารถในการถ่ายภาพพลังจิตใช่มั้ยล่ะ」
อายะ「ใช่แล้ว แน่นอนเลยล่ะ
อันที่จริงฉันได้สู้กับผู้บงการมาแล้ว แต่พ่ายแพ้กลับมาน่ะ
ดันติดกับดักของฝ่ายนั้นตั้งแต่แรก ทำให้โดนชิงอาวุธไปจนหมดเลย」
อายะ「สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง พอรู้สึกตัวอีกที ฝ่ายนั้นก็หนีไปแล้ว」
ฮาตาเตะ「หายากน่าดูเลยนะ สายต่อสู้อย่างเธอดันทำเสียงอ่อนใจแบบนี้」
อายะ「สายสังคมต่างหากล่ะ」
อายะ「ฉันไม่รู้เลยสักนิดว่าตอนนี้ศัตรูกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหน
เลยอยากใช้การถ่ายภาพพลังจิตของเธอเพื่อหาเบาะแสน่ะ」
ฮาตาเตะ「มันก็ได้อยู่หรอก...... แต่ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าอยู่ที่ไหนนี่นา」
อายะ「ไม่เป็นไรหรอก ฉันมีวิธี
มีคำใบ้อยู่ที่อุปกรณ์ฤดูกาลน่ะ」
ฮาตาเตะ「ธะ เธอ มีประตูอยู่ข้างหลัง...... !?」
อายะเริ่มใช้อุปกรณ์ฤดูกาลที่น่าจะเป็นกับดักอีกครั้ง
สิ่งนี้น่าจะเป็นกับดักของศัตรู แต่ก็เป็นจุดเชื่อมโยงเพียงหนึ่งเดียวที่เชื่อมไปถึงตัวศัตรู
อายะตั้งใจว่าจะลองกระโจนเข้าไปในประตูที่อยู่ด้านหลัง เมื่อคิดมาตรการรับมือได้แล้ว
นี่ไม่ใช่เพราะความเจ็บใจ
ไม่ใช่เพื่อช่วยเผ่าเทนกุจากอันตราย
ถ้างั้นอายะลงมือเพื่ออะไรกัน
นั่นก็เพื่อใช้ทำข่าวลงหนังสือพิมพ์ไงล่ะ
หากเผ่าเทนกุสามารถพ้นภัยได้ ย่อมสามารถใช้ทำข่าวได้อยู่แล้ว
Ending No.05 แบบอย่างที่ดีของนักข่าว
Congratulation !
ยินดีด้วยที่จบเกมได้แบบ No Continue !
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Ending No.06 Aya's Bad Ending

ภูเขาโยวไค
ภูเขาที่สูงที่สุดในเกนโซวเคียว รังของเหล่าโยวไค โดยมีเทนกุเป็นแกนนำ

อายะ「ดูเหมือนจะหนีไปได้สินะ
ประตูที่อยู่ด้านหลังนั่นยุ่งยากจังเลยน้า แบบนี้ยัยนั่นจะหนีไปที่ไหนก็ได้」
อายะ「แค่โค่นได้เร็วกว่านี้ก็พอล่ะมั้ง
คราวหน้าลองเตรียมแผนให้รอบด้านแล้วค่อยไปสู้ดีกว่า」
ดูเหมือนผู้บงการจะเป็นศัตรูของเผ่าเทนกุ
แต่สุดท้ายก็หนีรอดไปได้โดยที่ยังโค่นไม่สำเร็จ
เธอจึงอยากโค่นให้ได้ก่อนที่จะหนีไปในคราวหน้า
Ending No.06 ประตูไปไหนก็ได้
ยินดีด้วยที่จบเกม !
ครั้งต่อไปมาตั้งเป้าว่าจะจบเกมแบบ No Continue กันเถอะ !
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Ending No.07 Marisa's Good Ending

ป่าเวทมนตร์
ป่าที่อุดมไปด้วยความพิศวงและความสยดสยองแห่งเกนโซวเคียว
บ้านของมาริสะอยู่ที่นั่น

(ในภาพ : ทำอะไรอยู่น่ะ / ปั้นตุ๊กตาหิมะเสร็จแล้วล่ะ)
นารุโกะ「เห― กว้างขนาดนั้นเลยเหรอ อีกฟากของประตูที่อยู่ด้านหลังนั่น」
มาริสะ「ลำบากแย่เลยล่ะ
พวกที่น่าสยดสยองยั้วเยี้ยเต็มไปหมด」
มาริสะ「ดูเหมือนจะเดินทางไปมาด้วยการสร้างประตูเวทมนตร์ขึ้นข้างหลังน่ะ
จะว่าไป รู้สึกว่ายัยคนที่สร้างประตูได้จะมีพลังเวทเพิ่มสูงขึ้นด้วยล่ะ」
นารุโกะ「อะไรล่ะนั่น โจมตีแปลกดีน้า」
นารุโกะ「แล้วทำไมถึงมีหิมะตกในป่าเวทมนตร์เหรอ ?」
มาริสะ「ดูเหมือนจะมีต้นเหตุมาจากการอาละวาดของพวกภูตที่มีประตูอยู่ข้างหลังน่ะ
พวกภูตในป่าเวทมนตร์คงเหมาะกับฤดูหนาวล่ะมั้ง」
นารุโกะ「ถ้างั้น การอาละวาดจะจบลงแล้วสินะ」
มาริสะ「อันที่จริงก็ยังไม่รู้เหมือนกัน
เพราะไม่รู้ว่าทำไมยัยนั่นถึงหนีไปได้น่ะ」

นารุโกะ「เอ๋― ? ปล่อยให้หนีไปได้เหรอ― ? ไม่ได้เรื่องเลยน้า―」
มาริสะ「หนวกหูน่า―
อย่างที่คิดนั่นแหละว่าประตูที่อยู่ข้างหลังมันเป็นกับดัก」
มาริสะ「ดูเหมือนฉันเองก็มีประตูติดอยู่ที่ด้านหลังด้วย
เคยนึกอยู่เหมือนกันว่าทำไมถึงสามารถใช้เวทมนตร์ที่ไม่เหมือนปกติจากข้างหลังได้
ที่แท้ก็เป็นพลังของยัยพวกนั้นนั่นเอง」
มาริสะ「เลยกลายเป็นว่าฉันรวบรวมพลังให้แก่ประตูที่อยู่ข้างหลัง
โดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย」
นารุโกะ「เป็นวิธีการรวบรวมพลังเวทที่ฉลาดดีน้า」
มาริสะ「แล้วพลังเวทที่รวบรวมมาทั้งหมดก็ถูกช่วงชิงไป
จากนั้นยัยพวกนั้นก็หนีไปโดยอาศัยช่วงชุลมุนน่ะ」
นารุโกะ「แต่ว่า ถ้างั้นจุดประสงค์คืออะไรกันล่ะ ?」
มาริสะปิดปากเงียบ
เพราะมันพูดยากอย่างบอกไม่ถูกว่านั่นคือการตามหาและชวนเข้าเป็นพวก
งานของยัยพวกนั้นคือการรักษาสมดุลของเกนโซวเคียว
และดูเหมือนมาริสะจะเป็นที่ต้องตาของอีกฝ่ายซะด้วย
แต่อันที่จริงแล้วก็ไม่รู้ว่าผ่านการคัดเลือกรึเปล่า
พอรู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่ป่าเวทมนตร์แล้ว แปลว่าไม่ผ่านการคัดเลือกงั้นเหรอ ?
ใช่ว่าเธอจะไม่สนใจเรื่องนั้นเลยแม้แต่น้อย
แต่ก็ไม่มีความกล้าที่จะละทิ้งชีวิตในปัจจุบันไป
แม้ยังมีความขัดแย้งอยู่ในใจของตน เธอก็ตั้งใจว่าจะออกตามหาประตูด้านหลัง
เพื่อไปพบกับผู้บงการอีกครั้ง
Ending No.07 การสอบคัดเลือกที่น่าสยดสยอง
Congratulation !
ยินดีด้วยที่จบเกมได้แบบ No Continue !
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Ending No.08 Marisa's Bad Ending

ป่าเวทมนตร์
ป่าที่อุดมไปด้วยความพิศวงและความสยดสยองแห่งเกนโซวเคียว
บ้านของมาริสะอยู่ที่นั่น

(ในภาพ : เครียดจนหูอื้อเลย)
มาริสะ「อืม― ทำยังไงก็สู้ไม่ไหวแฮะ
ถ้าอยากชนะก็จำเป็นต้องมีข้อมูลมากกว่านี้ล่ะนะ」
มาริสะ「ประตูข้างหลัง ประตูข้างหลัง......
อย่างที่คิดเลย หาเจอแล้วก็ทำได้แค่กระโจนเข้าไปล่ะน้า」
พอคิดว่าอาวุธของตนโดนผนึกจนหมด
ก็ไม่รู้ว่ากลับมาถึงป่าเวทมนตร์ตั้งแต่ตอนไหน
มาริสะจึงตัดสินใจว่าจะไปสู้อีกครั้ง
Ending No.08 ไม่ผ่านการคัดเลือกงั้นเหรอ ?
ยินดีด้วยที่จบเกม !
ครั้งต่อไปมาตั้งเป้าว่าจะจบเกมแบบ No Continue กันเถอะ !
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
เนื้อเรื่องฉากพิเศษ
*กดที่หัวข้อเพื่อแสดงข้อความ*
(หรือกดที่นี่เพื่อแสดงข้อความทั้งหมดในส่วนนี้)
Revenging Stage (Extra Mode)'s Back Story (คลิกเพื่ออ่าน)
.........................................................................................................................................................................................
Reimu's Extra Story

Revenging Stage
ไม : โอ้ เธอคือคนเมื่อวันก่อนนี่นา
ซาโตโนะ : ดูเหมือนว่าจะสอบไม่ผ่านนะ
ซาโตโนะ : ผิดคาดเลย―
ไม : เพราะงั้นเธอเลยไม่มีคุณสมบัติที่จะอยู่ที่นี่ !
เรย์มุ : ออกมาได้แล้ว !
??? : นึกไม่ถึงเลย
??? : ว่าจะมาที่นี่อีกครั้ง
โอคินะ : ช่างกล้าหาญยิ่งนัก
โอคินะ : ฉันขอชื่นชม
โอคินะ : แต่เธอเองก็น่าจะรู้แล้วนี่นา
โอคินะ : ว่าเธอไม่สามารถเอาชนะฉันได้หรอก
เรย์มุ : นั่นเป็นเพราะเธอหนีไป
เรย์มุ : ในระหว่างการประลองต่างหากล่ะ
โอคินะ : ว่าไงนะ ?
โอคินะ : จำผิดแล้วล่ะ
โอคินะ : คนที่หนีไปคือเธอต่างหาก
โอคินะ : พอฉันได้รับ
โอคินะ : พลังเวทที่เธอรวบรวมมา
โอคินะ : สุดท้ายเธอก็ทำอะไรไม่ได้
โอคินะ : จนต้องหนีไปไม่ใช่เหรอ
เรย์มุ : ฉันเป็นฝ่ายหนี ?
เรย์มุ : ไม่มีทางเกิดเรื่องบ้าๆแบบนั้นได้หรอก
โอคินะ : จำไม่ได้ล่ะสิน้า
โอคินะ : แต่ฉันจำได้อย่างแจ่มแจ้งเลยนะ
โอคินะ : ว่าเธอโดนผนึกอาวุธทั้งหมด
โอคินะ : แล้วหนีกลับไปทางประตูของตัวเอง
โอคินะ : ประตูฤดูกาลที่เธอเป็นคนเอามาด้วยนั่นแหละ
โอคินะ : อยากโดนแบบเดิมซ้ำอีกรอบรึไง ?
เรย์มุ : ประตูฤดูกาล......
เรย์มุ : อย่างที่คิดเลย
เรย์มุ : ฉันจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายหนีก็จริง
เรย์มุ : แต่ก็เคยคิดอยู่เหมือนกันว่า......อาจเป็นแบบนั้นก็ได้
เรย์มุ : เพราะว่าพอรู้สึกตัวอีกที ฉันก็ถูกส่งกลับ
เรย์มุ : ไปยังสถานที่ของฤดูกาลที่ฉันเคยรวบรวมมา
เรย์มุ : สรุปคือ ประตูที่อยู่ด้านหลังคือกับดัก
เรย์มุ : ที่ใช้ดูดพลังเวทและบังคับส่งกลับนั่นเอง !
โอคินะ : ใช่แล้ว เข้าใจได้ดีมาก
โอคินะ : เพราะงั้นเธอเลยไม่มีโอกาสชนะ
โอคินะ : และสุดท้ายก็ต้องถูกไล่ออกไปจากที่นี่ไงล่ะ
เรย์มุ : หึหึหึ
โอคินะ : อื๋อ ? มีอะไรเหรอ ?
โอคินะ : สติแตกไปแล้วรึ ?
เรย์มุ : เดาถูกเผงเลย !
เรย์มุ : เท่านี้ก็ชนะแล้ว !
โอคินะ : ว่าไงนะ ?
เรย์มุ : ดูที่ด้านหลังของฉันสิ
เรย์มุ : สิ่งที่รวบรวมมาในครั้งนี้
เรย์มุ : คือเส้นแบ่งของฤดูกาล !
เรย์มุ : ถ้าเป็นเจ้านี่
เรย์มุ : ก็ไม่น่าจะมีสถานที่ให้โดนบังคับส่งกลับได้ !
โอคินะ : โฮ่......ประตูที่อยู่ด้านหลังของเธอตอนนี้
โอคินะ : เส้นแบ่งของฤดูกาล วันรอยต่อฤดูงั้นเหรอ......
โอคินะ : วันที่พลังชีวิตสูญสิ้นไปมากที่สุด
โอคินะ : หึหึหึ
โอคินะ : เป็นแผนการที่ไม่เลวเลย
โอคินะ : แต่ว่านั่น
โอคินะ : คือการตัดทางหนีของตัวเองนะ
เรย์มุ : แปลว่าคราวนี้ฉันจะไม่ไปจากที่นี่
เรย์มุ : จนกว่าจะโค่นเธอได้ยังไงล่ะ !
โอคินะ : ถูกใจแล้วสิ !
โอคินะ : เธอเป็นมิโกะแห่งฮาคุเรย์
โอคินะ : เลยเอามาใช้เป็นลูกน้องไม่ได้
โอคินะ : แต่ก็ขอแสดงความนับถือในความเฉลียวฉลาดนั่น
โอคินะ : ถ้าอย่างนั้นฉันจะสู้
โอคินะ : โดยไม่ใช้พลังเวทของฤดูกาลที่รวบรวมมา
โอคินะ : จงดู ! จงฟัง ! จงเล่าขาน !
โอคินะ : พลังเวทที่แท้จริงของเทพลับจักเป็นอุปสรรคกีดขวางเจ้า !
เรย์มุ : สำเร็จแล้วเหรอ !?
โอคินะ : แพ้จนได้― !
โอคินะ : สมกับที่เป็นมิโกะแห่งฮาคุเรย์เลยนะ
โอคินะ : หลบการโจมตีของฉันคนนี้ได้หมดเลย
เรย์มุ : เยี่ยม คราวนี้ชนะแล้ว
เรย์มุ : ถ้างั้นก็ล้มเลิกแผนการชั่วเดี๋ยวนี้เลย !
โอคินะ : อืม― เอาไงดีน้า―
โอคินะ : ผู้สืบทอดของสองบริวาร
โอคินะ : ก็ยังหาไม่เจอเลยซะด้วยสิ―
โอคินะ : ถ้าหาไม่เจอก็ปลดปล่อยสองคนนั่นไม่ได้ไปอีกนานเลย
โอคินะ : น่าสงสารอยู่นะ―
เรย์มุ : ช่วยหาวิธีที่ทำให้ฤดูกาล
เรย์มุ : ไม่แปรปรวนอย่างหนักด้วยละกัน
เรย์มุ : อย่างเช่น แจกใบปลิวหรือสอบสัมภาษณ์......
โอคินะ : จะให้เทพลับไปทำแบบนั้นเนี่ยนะ ?
โอคินะ : ไม่เอาด้วยหรอก―
โอคินะ : เอ้อ ช่างเถอะ
โอคินะ : ให้สองคนนั่นขยันทำงานต่อไปอีกสักระยะละกัน
เรย์มุ : ทำไมพวกโยวไคถึงได้ชอบ
เรย์มุ : ทำอะไรอลังการแบบนี้อยู่เรื่อยเลยนะ
เรย์มุ : แถมพอแพ้แล้ว
เรย์มุ : ก็ทำตัวสนิทสนมทันทีเลย
โอคินะ : ฉันไม่ใช่โยวไค แต่เป็นเทพเจ้าต่างหากล่ะ―
โอคินะ : ว่าแต่......
โอคินะ : เรื่องเทคนิคที่เอาเส้นแบ่งของฤดูกาล
โอคินะ : มาใช้กับประตูด้านหลัง
โอคินะ : จริงๆแล้วเธอไม่ได้เป็นคนคิดเองใช่มั้ยล่ะ
โอคินะ : วิธีการใช้เส้นแบ่งเขตแดนแบบนั้น
โอคินะ : คล้ายกับวิธีของคนที่ฉันรู้จักดีอยู่คนหนึ่งเลยนะ
เรย์มุ : ......มั้งนะ
เรย์มุ : บอกตามตรง ฉันไม่ค่อยเข้าใจหลักการสักเท่าไหร่หรอก―
เรย์มุ : มันอะไรกันน่ะ ประตูด้านหลังนั่น
เรย์มุ : อุปกรณ์ฤดูกาลก็ด้วย พลังชีวิตคลุ้มคลั่งก็ด้วย......
เรย์มุ : มีแต่ทฤษฎีโยวไคที่ไม่เข้าใจทั้งนั้นเลย
เรย์มุ : จู่ๆมาบอกให้เข้าใจซะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก !
โอคินะ : บอกแล้วไงว่าไม่ใช่โยวไค แต่เป็นเทพเจ้า
โอคินะ : การที่มันเหนือภูมิปัญญาของมนุษย์
โอคินะ : ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ
เรย์มุ : ค่ะ งั้นเหรอคะ
โอคินะ : แต่ไม่ว่าจะดูยังไง
โอคินะ : ฉันก็เห็นว่าเธออยู่ฝ่ายนี้นะ
(ช่วงหลังๆ ภาคมังกะมักจะเน้นเรื่อง "ฝ่ายมนุษย์" กับ "ฝ่ายโยวไค" และอาจมีฝ่ายอื่นอยู่อีกก็เป็นได้)
(กรณีของบทพูดนี้ ไม่แน่ชัดว่าเป็นฝ่ายไหน แต่คงไม่ใช่ฝ่ายมนุษย์แน่ๆ)
เรย์มุ : จะยังไงก็ช่างเถอะ
เรย์มุ : ฉันจะกลับแล้ว
เรย์มุ : ......ต้องเข้าประตูไหนถึงจะกลับได้เหรอ ?
โอคินะ : ถ้าเป็นศาลเจ้าฮาคุเรย์ก็บานที่ 2 จากข้างล่าง
โอคินะ : และเป็นบานที่ 40 จากทางขวาน่ะ
เรย์มุ : ขอบใจนะ
เรย์มุ : ไปก่อนล่ะ ทำให้ฤดูกาลกลับเป็นเหมือนเดิมด้วยนะ !
โอคินะ : ......งั้นเหรอ
โอคินะ : มาแสดงให้เห็นว่ารู้ตัวแล้วงั้นเหรอ
โอคินะ : ค่อยคุ้มกับที่ลงมืออย่างอลังการโดยอ้างคำโกหก
โอคินะ : ว่าจะมาเฟ้นหาผู้สืบทอดให้บริวารทั้งสองหน่อย
โอคินะ : ดูเหมือนเกนโซวเคียวที่พวกเราสร้างขึ้น
โอคินะ : ยังคงทำงานได้อย่างราบรื่นสินะ
โอคินะ : แต่ดูเหมือนจะราบรื่นเกินไป
โอคินะ : จนไม่มีใครสามารถควบคุมได้เลย
โอคินะ : แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เหล่านักปราชญ์ปรารถนาเหมือนกัน
เรย์มุ : เอ่อ―
เรย์มุ : ประตูบานที่ 40 จากทางขวาน่ะ
เรย์มุ : หมายถึงขวาของใครเหรอ ?
เรย์มุ : ด้านไหนบนด้านไหนล่างก็ไม่รู้เหมือนกัน
โอคินะ : โอ้ โทษที โทษที
โอคินะ : ถ้าเป็นตอนนี้ก็
โอคินะ : บานที่ 16 จากซ้ายมือของฉันละกัน......
โอคินะ : หรือไม่งั้นฉันพาไปส่งมั้ยล่ะ ?
เรย์มุ : ขอความกรุณาด้วยค่ะ......
โอคินะ : ไหนๆก็ไหนๆแล้ว
โอคินะ : ไปดื่มเหล้าชมดอกไม้ที่ศาลเจ้าฮาคุเรย์ด้วยเลยดีกว่า
โอคินะ : จากนี้ไปคงสนุกน่าดูเลยน้า
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Cirno's Extra Story

Revenging Stage
ไม : โอ้ เธอคือภูตเมื่อวันก่อนนี่นา
ซาโตโนะ : ดูเหมือนท่านอาจารย์จะถูกใจเข้าแล้วล่ะ
ซาโตโนะ : ผิดคาดเลย―
ไม : แต่การรุกรานของเธอจบลงแค่ตรงนี้แหละ !
ชิลโน่ : ประตูประตูประตู......
ชิลโน่ : ทิวทัศน์แบบนี้
ชิลโน่ : รู้สึกเหมือนเคยเห็นมาก่อนเลยน้า
ชิลโน่ : ไอ้ที่เรียกว่า เดจาวู งั้นเหรอ ?
??? : โอ้ เธอคือภูตเมื่อเร็วๆนี้นี่นา
โอคินะ : ภูตที่น่าสนใจตนนั้น
โอคินะ : อุตส่าห์มาถึงนี่ได้นะ
ชิลโน่ : เธอเป็นใครน่ะ ?
โอคินะ : โอ๊ะโอ๋
โอคินะ : อ้าว ? ลืมไปแล้วเหรอ ?
โอคินะ : ตอนที่ฉันได้รับพลังเวท
โอคินะ : ที่เธอเป็นคนรวบรวมมา
โอคินะ : คงทำให้เธอสูญเสียความทรงจำไปพร้อมๆกันล่ะมั้ง ?
ชิลโน่ : อืม―......
ชิลโน่ : จริงสิ !
โอคินะ : นึกออกแล้วเหรอ
โอคินะ : งั้นขอกล่าวยินดีต้อนรับอีกครั้งละกัน
ชิลโน่ : ลืมไปเลยว่ามาที่โลกนี้
ชิลโน่ : เพื่อทวงความทรงจำคืนมา
ชิลโน่ : ว่าแต่เธอเป็นใครน่ะ ?
โอคินะ : แบบนี้คุยไปก็เสียเวลาเปล่าแฮะ
โอคินะ : สุดท้ายแล้วภูต(พวกโง่)ก็คือภูต(พวกโง่)
โอคินะ : น่าเสียดายนะ คราวก่อนสัมผัสได้ถึงความทะเยอทะยาน
โอคินะ : จนนึกว่าได้เห็นยุคใหม่ของเหล่าภูตแล้วแท้ๆ
ชิลโน่ : โอ๊ะ รู้สึกเหมือนกำลังโดนดูถูกแฮะ ?
โอคินะ : ไม่ได้คิดไปเองหรอก
โอคินะ : ยัยภูตที่อยู่ตรงหน้านี่เป็นแค่ภูตที่ไม่ได้เรื่องตนหนึ่ง
โอคินะ : รีบรับพลังเวทจากประตูด้านหลัง
โอคินะ : แล้วบังคับส่งกลับไปยังโลกเดิมดีกว่า
ชิลโน่ : จะลุยแล้วสินะ !
ชิลโน่ : เข้ามาได้ทุกเมื่อเลย !
โอคินะ : อื๋อ ? ......อะไรเนี่ย
โอคินะ : ฤดูกาลที่ด้านหลังของเธอ......
โอคินะ : ไม่ได้สังกัดฤดูกาลไหนเลย ?
โอคินะ : เส้นแบ่งของฤดูกาล วันรอยต่อฤดูงั้นเหรอ......
โอคินะ : วันที่พลังชีวิตของภูตสูญสิ้นไปมากที่สุด
โอคินะ : หึหึหึ
โอคินะ : โดนการแสดงละครโง่ๆของเธอตบตาเอาจนได้
โอคินะ : เธอเป็นภูตที่น่าสนใจจริงๆนั่นแหละ
โอคินะ : มาสู้กันสักตั้งมั้ย ?
ชิลโน่ : อ๊า― นึกออกแล้วโว้ย― !
ชิลโน่ : คนที่เค้าอยากสู้อีกครั้ง
ชิลโน่ : คือคนที่นั่งเก้าอี้ต่างหาก !
ชิลโน่ : เธอไม่เกี่ยว ถอยไปซะ
โอคินะ : คนที่นั่งเก้าอี้ในตอนนั้นก็คือฉันไงเล่า !
โอคินะ : ดูไม่ออกเหรอ
โอคินะ : ถ้าอยากสู้กับฉันอีกครั้ง
โอคินะ : ก็เข้ามาเลย
โอคินะ : พลังของเทพลับที่แท้จริง
โอคินะ : จงลิ้มรสจนหยดสุดท้ายเสียเถอะ
ชิลโน่ : ชนะแล้ว !
ชิลโน่ : การเดินทางสู่ความแข็งแกร่งที่สุดอันยาวนานจบสิ้นแล้ว !
โอคินะ : ยอดเยี่ยมมาก !
โอคินะ : วิเศษเกินไปแล้ว !
โอคินะ : เพิ่งเคยเจอภูตที่สามารถ
โอคินะ : ใช้ประตูด้านหลังได้ถึงขนาดนี้
โอคินะ : แต่ฉันก็ยังมีข้อสงสัย
โอคินะ : ในวิธีการต่อสู้ของเธออยู่ดี
โอคินะ : ทั้งๆที่เธอทำเรื่องเหนือความคาดหมายของฉัน
โอคินะ : โดยรวบรวมพลังเวทของช่องว่างระหว่างฤดูกาลมา
โอคินะ : แต่กลับดูเหมือนว่า
โอคินะ : เธอไม่รู้สึกถึงเรื่องนั้นเลยนะ
ชิลโน่ : ประตูด้านหลัง ?
ชิลโน่ : ช่องว่างระหว่างฤดูกาล ? พูดอะไรของเธอน่ะ
ชิลโน่ : เค้าชนะแล้ว
ชิลโน่ : เธอแพ้แล้ว มันก็แค่นั้นแหละ !
โอคินะ : หึ ดูไม่เหมือนการแสดงละครเลยนะ
โอคินะ : เธอเป็นแค่ภูต(พวกโง่)จริงๆนั่นล่ะ
โอคินะ : การที่เธอเอาช่องว่างระหว่างฤดูกาลมาใช้
โอคินะ : เป็นแค่เรื่องบังเอิญงั้นเหรอ หรือว่า...... ?
ชิลโน่ : แล้วช่องว่างระหว่างฤดูกาลมันคืออะไรกันล่ะ
โอคินะ : ผลิร้อนร่วงหนาว ระหว่างแต่ละฤดูกาล
โอคินะ : จะมีชั่วพริบตาที่ไม่ได้สังกัดฤดูกาลใด
โอคินะ : ในชั่วพริบตานั้น พลังของธรรมชาติจะอ่อนแอลง
โอคินะ : พลังของจิตใจจะแซงหน้าพลังชีวิต
โอคินะ : ทำไมเธอถึงมาท้าสู้กับฉัน
โอคินะ : โดยเลือกชั่วพริบตาที่พวกภูตแพ้ทางมา
โอคินะ : ไม่ว่าจะบังเอิญหรือจงใจ แต่เพราะเหตุนั้น
โอคินะ : ทำให้ฉันช่วงชิงพลังและบังคับส่งกลับไม่ได้
โอคินะ : นั่นคือเรื่องที่ทำให้ฉันประหลาดใจ
โอคินะ : และก็ทำให้ถูกใจด้วย
ชิลโน่ : เลือกเหรอ......
ชิลโน่ : แต่เค้าไม่ได้ทำอะไรเลยนะ
โอคินะ : ว่าแต่ เธอเข้าประตูบานไหนมาล่ะ ?
ชิลโน่ : ประตูที่อยู่ด้านหลังของลาร์วาน่ะ
ชิลโน่ : ภูตผีเสื้ออาเกฮะ
โอคินะ : ภูตผีเสื้ออาเกฮะ
โอคินะ : อย่างนี้นี่เอง......
โอคินะ : เดิมทีที่นั่นน่าจะเป็นประตูฤดูร้อน
โอคินะ : บางทียัยนั่นอาจไม่ใช่ภูตผีเสื้ออาเกฮะ
โอคินะ : แต่เป็นเทพโทโคโยะโนะคามิก็เป็นได้
(ปกติแล้วเทพองค์นี้มีนามว่า 常世神 (เทพโลกาไร้แปรเปลี่ยน) แต่ในโทโฮเขียนว่า 常夜神 (เทพราตรีไร้แปรเปลี่ยน))
โอคินะ : หนึ่งในเทพที่เป็นศัตรูของฉัน
โอคินะ : ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแล้วล่ะ
โอคินะ : ช่างเถอะ ยังไงเรื่องที่เจอภูตที่น่าสนใจตนนี้
โอคินะ : ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ดี
โอคินะ : ว่าไง ?
โอคินะ : ลองมาทำงานกับฉันดูมั้ยล่ะ ?
ชิลโน่ : ทำงาน ?
ชิลโน่ : ทำไมล่ะ ?
โอคินะ : ฉันกำลังเฟ้นหา
โอคินะ : ผู้สืบทอดของบริวารทั้งสองอยู่น่ะ
โอคินะ : งานง่ายๆ แค่เต้นรำทำเสียงดังไปวันๆเท่านั้น
โอคินะ : ถึงจะไม่เคยมีตัวอย่างมาก่อน แต่ภูตก็น่าจะทำได้นะ
ชิลโน่ : ทำงานงั้นเหรอ
ชิลโน่ : ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่แฮะ
ชิลโน่ : การทำงานของภูตน่ะ
ชิลโน่ : เค้าเคยเห็นแต่ถูกใช้งานเยี่ยงทาสเท่านั้นเอง
(น่าจะหมายถึงพวกเมดในคฤหาสน์มารแดง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับถิ่นอาศัยของชิลโน่)
โอคินะ : เอาน่า เก็บไปคิดดูก่อนเถอะ
โอคินะ : กาลเวลาไม่มีที่สิ้นสุดอยู่แล้ว
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Aya's Extra Story

Revenging Stage
ไม : อะไรกัน มาอีกแล้วเรอะ
ซาโตโนะ : พวกเราโดนดุเพราะเธอนะ
ไม : กลับไปเดี๋ยวนี้เลย !
ไม : ไอ้เทนกุโสมม !
อายะ : แหมแหม
อายะ : ข้านี่แหละคือเทนกุอีกาวายุซัด ชาเมย์มารุ อายะ !
อายะ : ครั้งนี้มาขอท้าประลองอีกครั้ง
อายะ : โดยเดิมพันด้วยอนาคตของเผ่าเทนกุ !
อายะ : เทพแห่งสิ่งกีดขวาง โอคินะเอ๋ย !
อายะ : จงออกมาเถิด !
??? : เทนกุเมื่อเร็วๆนี้งั้นเรอะ
โอคินะ : ปรากฏตัวอีกครั้งแบบนี้
โอคินะ : ใจกล้าดีนะ
อายะ : คราวก่อนคุณหนีรอดไปได้ด้วยกับดักขี้ขลาด
อายะ : แต่คราวนี้ไม่ยอมให้หนีพ้นแน่
โอคินะ : ไม่ยอมให้หนี ?
โอคินะ : พูดอะไรของเธอน่ะ คนที่หนีกลับไปคือเธอเองนะ ?
โอคินะ : พอฉันดึงพลังเวทที่ด้านหลังของเธอกลับมาแล้ว
โอคินะ : เธอก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ทำอะไรไม่ได้
โอคินะ : เลยเข้าประตูฤดูกาล
โอคินะ : แล้วกลับไปยังโลกเดิมไงล่ะ
โอคินะ : คนที่หนีคือเธอต่างหาก
อายะ : ......รู้สึกแบบนั้นอยู่นิดหน่อยเหมือนกันค่ะ
อายะ : ทั้งที่น่าจะต่อสู้กับคุณอยู่
อายะ : แต่กลับมาอยู่ที่เกนโซวเคียวตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
อายะ : พลังเวทของฤดูกาลที่ฉันรวบรวมมา
อายะ : โดนคุณช่วงชิงไปจนหมด แล้วปลดปล่อยออกมา
อายะ : ฉันไม่รู้สึกตัวเลย
อายะ : ว่านั่นแหละคือกับดักบังคับส่งกลับ !
โอคินะ : ใช่แล้ว เพราะงั้นเธอเลยไม่มีโอกาสชนะไงล่ะ !
โอคินะ : ไม่ว่าจะสู้กันกี่ครั้งก็เหมือนเดิมนั่นล่ะ
อายะ : หึ ในเมื่อรู้ถึงขนาดนั้นแล้ว
อายะ : ฉันไม่มีทางมาที่นี่โดยไม่มีแผนการอะไรหรอกค่ะ
โอคินะ : โฮ่ ?
โอคินะ : แผนการงั้นเหรอ
อายะ : จงดูฤดูกาลที่อยู่ข้างหลังฉันสิ !
โอคินะ : โฮ่......อย่างนี้นี่เอง !
โอคินะ : เธอรวบรวมพลังเวทของช่องว่างระหว่างฤดูกาลมางั้นเรอะ !
อายะ : ใช่แล้วค่ะ
อายะ : รวบรวมมาเฉพาะพลังเวทของวันเปลี่ยนฤดูเลย
อายะ : ช่องว่างของฤดูกาลที่ก่อให้เกิดพลังเวทบนโลกใบนี้
อายะ : ช่องว่างที่ทำให้พลังชีวิตของสี่ฤดูสูญเสียไปมากที่สุด !
โอคินะ : หึหึหึ ถ้าฉันดูดซับพลังเวทนั่นแล้วปลดปล่อยออกมา
โอคินะ : ฉันคงทำลายตัวเองด้วยพลังเวทของเทนกุเป็นแน่
โอคินะ : ถ้าเธอไม่บอก ฉันอาจจะไม่รู้ตัวก็เป็นได้
โอคินะ : ทำไมถึงบอกล่ะ ?
อายะ : ผู้ที่เป็นถึงเทพย่อมไม่มีทางที่จะไม่รู้ตัว
อายะ : ฉันคิดแบบนั้นค่ะ
อายะ : อีกอย่าง
อายะ : ฉันไม่ได้มาทำลายล้างคุณค่ะ
อายะ : ฉันไม่ได้อยากวางกับดักขี้ขลาดใส่คุณ
อายะ : แค่อยากผนึกกับดักของคุณเท่านั้นเองค่ะ
โอคินะ : หึหึหึ
โอคินะ : แปลว่าอยากประลองกันอย่างตรงไปตรงมางั้นเรอะ
โอคินะ : เอาสิ ฉันขอนับถือความกล้าของเธอ
โอคินะ : ฉันจะสู้โดยไม่ใช้พลังเวทของฤดูกาล
อายะ : ไม่ใช่ว่าอยากต่อสู้อย่างตรงไปตรงมา
อายะ : แค่อยากทำข่าวเท่านั้นเองค่ะ
อายะ : อยากสัมภาษณ์เทพแห่งสิ่งกีดขวางผู้มีบรรพบุรุษร่วมกับเทนกุ
อายะ : เรื่องประวัติศาสตร์ของผู้แปลกแยกที่ถูกขับไล่จากสังคม
อายะ : และเรื่องราวหลังจากนี้
โอคินะ : ได้สิ ถ้าเธอชนะ
โอคินะ : จะทำข่าวหรืออะไรก็ย่อมได้
โอคินะ : ความเป็นมาของเกนโซวเคียวจักต้องไม่เล่าขาน
โอคินะ : โดยปราศจากเรื่องราวของพวกเรา เหล่าผู้กีดขวาง
โอคินะ : จงดู ! จงฟัง ! จงเล่าขาน !
โอคินะ : นี่ล่ะคือรูปลักษณ์ของเทพลับแห่งสิ่งกีดขวาง !
อายะ : แฮ่กแฮ่ก
อายะ : ยังจะสู้ต่ออีกเรอะ !
โอคินะ : ยอดเยี่ยมมาก !
โอคินะ : พอแล้วล่ะ ฉันรับรู้ความแข็งแกร่งของเธอแล้ว
โอคินะ : ฉันเป็นฝ่ายแพ้ในการประลองนี้
อายะ : ......ไม่หรอกค่ะ ฉันแพ้แล้ว
อายะ : ถ้าไม่มีพลังเวทจากข้างหลัง
อายะ : ฉันไม่สามารถเอาชนะคุณได้หรอกค่ะ
อายะ : แล้วพลังนี้ก็คือพลังของคุณ
อายะ : หากดูจากรูปแบบการต่อสู้ที่ผ่านมา
อายะ : การใช้พลังเวทจากข้างหลังนี้
อายะ : มันก็เหมือนกับ
อายะ : ฉันกำลังเต้นอยู่บนฝ่ามือของคุณมาตั้งแต่แรกค่ะ
โอคินะ : จริงอยู่ว่าฉันสามารถผนึกประตูด้านหลัง
โอคินะ : แล้วดึงพลังเวทอื่นมาใช้เมื่อไหร่ก็ได้
โอคินะ : แต่สาเหตุที่ฉันไม่ทำแบบนั้น
โอคินะ : ก็เพราะนับถือในความกล้าของเธอไงล่ะ
โอคินะ : ต่อให้อยู่บนฝ่ามือของฉัน
โอคินะ : ชัยชนะของเธอก็ไม่เปลี่ยนแปลง
โอคินะ : จงภูมิใจเถอะ
อายะ : นั่นสินะคะ―
อายะ : ถือว่าฉันชนะสินะคะ―
อายะ : ถ้างั้นฉันขอทำข่าว
อายะ : ตามที่สัญญากันเอาไว้ค่ะ !
โอคินะ : อะ อื้ม
อายะ : เรื่องในครั้งนี้
อายะ : คุณทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรเหรอคะ ?
อายะ : อ๊ะ หมายถึง เหตุสี่ฤดูวิปลาสน่ะค่ะ
โอคินะ : ฉันอยากปลดปล่อย
โอคินะ : บริวารทั้งสองน่ะ
โอคินะ : เลยต้องเฟ้นหาผู้ที่จะมาสืบทอด
โอคินะ : ฉันจึงดึงพลังที่ซ่อนเร้น
โอคินะ : อยู่ในสรรพสิ่งออกมา
โอคินะ : เพื่อดึงคนที่น่าจะมีความเป็นไปได้
โอคินะ : ออกมาจากพื้นที่กว้างในคราวเดียว
โอคินะ : ฤดูกาลเลยผิดเพี้ยนไปเล็กน้อย
โอคินะ : เพราะพลังที่ซ่อนอยู่ในเหล่าภูตและวิญญาณน่ะ
อายะ : อย่างนี้นี่เอง
อายะ : แล้วหาผู้สืบทอดเจอรึยังคะ ?
โอคินะ : ยังเลย
โอคินะ : ถึงจะมีคนที่เข้าตาอยู่มากมายก็เถอะ
โอคินะ : แต่การเปิดประตูที่ด้านหลังไปทั่วเกนโซวเคียวแบบนี้
โอคินะ : คงไม่มีอีกแล้วล่ะ
โอคินะ : เพราะฉันคิดว่าได้สื่อสารไปเพียงพอแล้ว
อายะ : ??
อายะ : งั้นคำถามต่อไปค่ะ
โอคินะ : เดี๋ยวก่อน เธอมีคำถามเยอะแค่ไหนน่ะ ?
อายะ : มีออกมาเรื่อยๆเลยค่ะ
โอคินะ : ตอนนี้กำลังเหนื่อยเพราะเพิ่งสู้เสร็จ
โอคินะ : เอาไว้คราวหน้าไม่ได้เหรอ ?
โอคินะ : จริงสิ
โอคินะ : คราวหน้าฉันจะไปที่รังของพวกเทนกุละกัน
โอคินะ : พอได้เห็นเธอแล้ว
โอคินะ : ฉันรู้สึกสนใจพวกเทนกุในยุคปัจจุบันขึ้นมาน่ะ
โอคินะ : ถ้าหากพวกเทนกุไม่รังเกียจ
โอคินะ : ฉันอาจทำสนธิสัญญาสันติภาพก็ได้นะ
อายะ : เห มันก็ได้อยู่หรอกค่ะ
อายะ : แต่กรุณาสัญญากับฉันนะคะ
อายะ : ว่าจะให้สัมภาษณ์กับฉันคนเดียวเท่านั้น
อายะ : เพราะข่าวใหญ่ขนาดนี้
อายะ : ฉันไม่ยอมยกให้คนอื่นหรอกค่ะ
โอคินะ : อะ อื้ม
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Marisa's Extra Story

Revenging Stage
ไม : โอ้ เธอคือคนเมื่อวันก่อนนี่นา
ซาโตโนะ : ดูเหมือนจะทำให้ท่านอาจารย์โกรธนี่นะ
ไม : การทดสอบจบไปแล้ว
ไม : รีบกลับไปซะ !
มาริสะ : เฮ้ย― ไม่อยู่รึไง― ?
??? : กลับมาอีกแล้วเรอะ
โอคินะ : คนที่หนีไปในระหว่างทดสอบขั้นสุดท้ายอย่างเธอ
โอคินะ : น่าเสียดายที่สอบไม่ผ่านนะ
โอคินะ : รีบกลับไปซะ
มาริสะ : หนีไปในระหว่างทดสอบ......งั้นเหรอ
มาริสะ : เป็นอย่างที่คิดจริงๆด้วย
มาริสะ : ตอนแรกฉันนึกว่าเธอเป็นฝ่ายหนี
มาริสะ : แต่พอลองคิดดูดีๆก็รู้สึกได้ว่า
มาริสะ : มีความเป็นไปได้สูงที่ฉันเป็นฝ่ายหนีเสียเอง
โอคินะ : แล้วคนขี้ขลาดอย่างเธอมีธุระอะไรล่ะ ?
มาริสะ : วันนี้มาท้าสู้อีกครั้งน่ะ
มาริสะ : ไม่ได้เป็นเพราะ
มาริสะ : นึกอยากรับการทดสอบอีกครั้งหรอกนะ
มาริสะ : ฉันไม่มีทาง
มาริสะ : ปล่อยให้ตัวเองคาใจที่แพ้แบบนั้นหรอก !
โอคินะ : เธอเป็นมนุษย์
โอคินะ : แต่ใช้เวทมนตร์สินะ
โอคินะ : ถ้างั้นก็น่าจะเข้าใจนี่นา
โอคินะ : ว่าทำไมเธอถึงทำอะไรไม่ได้
โอคินะ : จนต้องหนีออกไปน่ะ
มาริสะ : อุปกรณ์ที่อยู่ข้างหลังทั้งหมด คือ
มาริสะ : อุปกรณ์ดูดพลังเวทและอุปกรณ์เคลื่อนย้ายของเธอสินะ
มาริสะ : เธอได้รับทุกอย่างผ่านทางอุปกรณ์ที่อยู่ข้างหลัง
มาริสะ : โดยที่ไม่ต้องเคลื่อนไหวเลย
มาริสะ : ถ้าใช้ของพวกนี้
มาริสะ : เธอสามารถดูดพลังเวทจากมนุษย์คนไหนก็ได้
มาริสะ : ส่วนคนที่ไม่ต้องการ
มาริสะ : ก็สามารถซัดไปที่ไหนสักแห่งผ่านทางประตูได้
โอคินะ : ใช่แล้ว
โอคินะ : กล่าวคือ เธอไม่มีโอกาสชนะเลย
โอคินะ : รู้ถึงขนาดนั้นแล้วก็ยังอุตส่าห์มานะ
มาริสะ : บอกไปแล้วไง
มาริสะ : ว่าฉันไม่ปล่อยให้ตัวเองแพ้แบบนั้นหรอก
มาริสะ : เพราะงั้นคราวนี้ ฉันขอเอากับดักของเธอ
มาริสะ : มาใช้ให้เป็นประโยชน์กับตัวเองหน่อยนะ
โอคินะ : ใช้ประโยชน์...... ?
โอคินะ : โฮ่ นั่นอะไรน่ะ
มาริสะ : จงดูที่ด้านหลังของฉันสิ !
มาริสะ : นี่คือคำตอบไงล่ะ !
โอคินะ : โฮ่ ประตูที่อยู่ข้างหลังเธอตอนนี้
โอคินะ : เส้นแบ่งของฤดูกาล วันรอยต่อฤดูงั้นเหรอ......
โอคินะ : วันที่พลังชีวิตของภูตสูญสิ้นไปมากที่สุด
มาริสะ : เป็นไงล่ะ !
มาริสะ : ถ้าเป็นเจ้านี่ ต่อให้เธอบังคับส่งกลับ
มาริสะ : ก็ไม่มีที่ไหนให้ส่งไปได้หรอกโว้ย !
โอคินะ : หึหึหึ
โอคินะ : ฉันไม่คิดว่ามันจะไปได้สวยหรอกนะ
โอคินะ : แต่ก็เป็นแผนการที่ไม่เลวเลย
มาริสะ : คราวนี้ขอสู้อย่างสบายใจไร้กังวลหน่อยละกันวะ !
โอคินะ : ถูกใจแล้วสิ !
โอคินะ : ถึงจะเคยสอบตกไปครั้งหนึ่ง
โอคินะ : แต่ฉันเปลี่ยนใจดีกว่า
โอคินะ : ชักหลงใหลความเฉลียวฉลาดกับความบ้าบิ่นนั่นแล้วสิ
โอคินะ : ฉันขอยกเลิกผลการสอบตก
โอคินะ : เอาล่ะ มาเริ่มการทดสอบสุดท้ายกันอีกครั้งเถอะ
โอคินะ : คราวนี้ฉันจะไม่ใช้พลังเวทของฤดูกาล !
โอคินะ : จงดูวิชาลับของเทพลับที่แท้จริงให้ดี !
มาริสะ : ฉันชนะแล้วสินะ !
โอคินะ : ยอดเยี่ยมมาก !
โอคินะ : เธอผ่านการทดสอบ !
มาริสะ : ฟู่ ตึงมือน่าดูเลยแฮะ
มาริสะ : แต่ก็สำเร็จจนได้
มาริสะ : เท่านี้ก็นอนหลับได้อย่างสบายใจแล้ว
โอคินะ : ด้วยประการฉะนี้ ฉันรับเธอเข้าทำงานจ้ะ !
โอคินะ : เธอคงยอมมาทำงานกับฉันสินะ
โอคินะ : ชอบแบบไหนล่ะ ?
โอคินะ : งานด้านชีวิตของเทย์เรย์ดะกับงานด้านจิตใจของนิชิดะ
โอคินะ : ถ้าเป็นตอนนี้ จะเลือกอันไหนก็ได้นะ
มาริสะ : บอกแล้วไง
มาริสะ : ว่าไม่ได้คิดจะมาทำงาน
มาริสะ : เอ๊ะ แล้วถ้าฉันรับงาน
มาริสะ : สองคนเมื่อกี้จะเป็นยังไงเหรอ ?
โอคินะ : ฉันตั้งใจว่าถ้ามีผู้สืบทอดแล้ว
โอคินะ : ก็จะปลดปล่อยและทำให้กลับเป็นมนุษย์ดังเดิมน่ะ
โอคินะ : แต่ถ้าเธอไม่รับงาน
โอคินะ : ก็คงต้องอยู่อย่างนั้นไปอีกนานล่ะนะ
มาริสะ : สองคนนั่นก็เป็นหุ่นเชิด
มาริสะ : ที่เคลื่อนไหวด้วยพลังเวทของเธองั้นเหรอ......
มาริสะ : แต่เอาเถอะ
มาริสะ : ฉันไม่มีความคิดที่จะไปแทนที่เลยสักนิดน่ะ
มาริสะ : เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน
มาริสะ : เธอช่วยเลิกก่อเหตุสี่ฤดูวิปลาสได้รึเปล่า ?
มาริสะ : ขืนในป่ายังเป็นฤดูหนาวแบบนี้
มาริสะ : ค่าทำความร้อนคงไม่ธรรมดาแน่ๆ
โอคินะ : เหตุสี่ฤดูวิปลาสเป็นผลข้างเคียงจากประตูด้านหลังน่ะ
โอคินะ : แต่การเปิดประตูที่ด้านหลังไปทั่วเกนโซวเคียวแบบนี้
โอคินะ : คงไม่มีอีกแล้วล่ะ
โอคินะ : เพราะฉันคิดว่าได้สื่อสารไปเพียงพอแล้ว
มาริสะ : อื๋อ ? สื่อสารกับใครล่ะ ?
โอคินะ : ทุกคนในเกนโซวเคียวตอนนี้ กับนักปราชญ์คนอื่นน่ะ
มาริสะ : สรุปคือ เธออยากอวดพลังอันสุดยอดของตัวเองงั้นเหรอ
มาริสะ : ต่ำช้าจริงๆเลยนะ―
โอคินะ : มันจำเป็นสำหรับเทพเจ้านะ
โอคินะ : เธอเข้าใจใช่มั้ย ?
มาริสะ : เออ―
มาริสะ : มีคนแบบนั้นอยู่เต็มไปหมดจริงๆนั่นล่ะ
มาริสะ : ช่างเถอะ
มาริสะ : เหตุสี่ฤดูวิปลาสจะสงบลงแล้วใช่มั้ย ?
มาริสะ : ไม่เกิดความเสียหายใหญ่โตอะไรซะด้วยสิ
มาริสะ : ครั้งนี้ฉันจะปล่อยเธอไปละกัน
มาริสะ : เดี๋ยวฉันจะกระจายข่าวให้เองว่า
มาริสะ : คลี่คลายเหตุสี่ฤดูวิปลาสได้แล้ว
โอคินะ : อ๋า― คิดจะอวดพลังอันสุดยอดของตัวเองล่ะสิ―
มาริสะ : ใช่แล้ว
มาริสะ : ผิดตรงไหนล่ะ ?
โอคินะ : ไม่ผิดหรอก
โอคินะ : ไม่ผิด แต่
โอคินะ : จะว่ายังไงดีน้า
โอคินะ : เอาเป็นว่า ฉันจะรออย่างใจเย็นละกัน
โอคินะ : รอการเปลี่ยนใจของเธอ
มาริสะ : บอกแล้วไงว่าไม่ได้คิดเรื่องนั้น
มาริสะ : อีกอย่าง พอแพ้แล้วเปลี่ยนวิธีพูดอย่างกะทันหัน
มาริสะ : มันน่าขยะแขยงนะ
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
(หรือกดที่นี่เพื่อแสดงข้อความทั้งหมดในส่วนนี้)
Revenging Stage (Extra Mode)'s Back Story (คลิกเพื่ออ่าน)
พอรู้สึกตัวอีกที การต่อสู้กับโอคินะก็จบลงไปแล้ว
ความทรงจำหลังจากที่โดนช่วงชิงอุปกรณ์ฤดูกาลไปก็คลุมเครือ
ถึงจะรู้ว่าโอคินะหนีไป แต่ยังไงก็ไม่มีความทรงจำในช่วงนั้นอยู่ดี
หรือบางที คนที่หนีก็คือตัวเองไม่ใช่เหรอ
คนที่โดนช่วงชิงอาวุธจนทำอะไรไม่ได้ก็คือตัวเองไม่ใช่เหรอ
คนที่ติดกับดักจนต้องออกมาจากประตูพิศวงนั่นก็คือตัวเองไม่ใช่เหรอ
หากไม่เข้าไปในประตูข้างหลังก็คงไม่มีทางรู้คำตอบนี้
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
ความทรงจำหลังจากที่โดนช่วงชิงอุปกรณ์ฤดูกาลไปก็คลุมเครือ
ถึงจะรู้ว่าโอคินะหนีไป แต่ยังไงก็ไม่มีความทรงจำในช่วงนั้นอยู่ดี
หรือบางที คนที่หนีก็คือตัวเองไม่ใช่เหรอ
คนที่โดนช่วงชิงอาวุธจนทำอะไรไม่ได้ก็คือตัวเองไม่ใช่เหรอ
คนที่ติดกับดักจนต้องออกมาจากประตูพิศวงนั่นก็คือตัวเองไม่ใช่เหรอ
หากไม่เข้าไปในประตูข้างหลังก็คงไม่มีทางรู้คำตอบนี้
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Reimu's Extra Story

Revenging Stage
ชื่อด่าน : รูปลักษณ์ที่แท้จริงของเทพลับ (Hidden Star in Fifth Season)
สถานที่ : แดนประตูหลัง
สถานที่ : แดนประตูหลัง
(เปิดเพลง BGM : เข้าประตูไม่ได้แล้ว)
(นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม เข้ามาในหน้าจอ)
ไม : โอ้ เธอคือคนเมื่อวันก่อนนี่นา
ซาโตโนะ : ดูเหมือนว่าจะสอบไม่ผ่านนะ
ซาโตโนะ : ผิดคาดเลย―
ไม : เพราะงั้นเธอเลยไม่มีคุณสมบัติที่จะอยู่ที่นี่ !
(นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม แพ้พ่าย)
เรย์มุ : ออกมาได้แล้ว !
??? : นึกไม่ถึงเลย
??? : ว่าจะมาที่นี่อีกครั้ง
(มาตาระ โอคินะ เข้ามาในหน้าจอ)
(แสดงชื่อและฉายาของ มาตาระ โอคินะ)
โอคินะ : ช่างกล้าหาญยิ่งนัก
โอคินะ : ฉันขอชื่นชม
โอคินะ : แต่เธอเองก็น่าจะรู้แล้วนี่นา
โอคินะ : ว่าเธอไม่สามารถเอาชนะฉันได้หรอก
เรย์มุ : นั่นเป็นเพราะเธอหนีไป
เรย์มุ : ในระหว่างการประลองต่างหากล่ะ
โอคินะ : ว่าไงนะ ?
โอคินะ : จำผิดแล้วล่ะ
โอคินะ : คนที่หนีไปคือเธอต่างหาก
โอคินะ : พอฉันได้รับ
โอคินะ : พลังเวทที่เธอรวบรวมมา
โอคินะ : สุดท้ายเธอก็ทำอะไรไม่ได้
โอคินะ : จนต้องหนีไปไม่ใช่เหรอ
เรย์มุ : ฉันเป็นฝ่ายหนี ?
เรย์มุ : ไม่มีทางเกิดเรื่องบ้าๆแบบนั้นได้หรอก
โอคินะ : จำไม่ได้ล่ะสิน้า
โอคินะ : แต่ฉันจำได้อย่างแจ่มแจ้งเลยนะ
โอคินะ : ว่าเธอโดนผนึกอาวุธทั้งหมด
โอคินะ : แล้วหนีกลับไปทางประตูของตัวเอง
โอคินะ : ประตูฤดูกาลที่เธอเป็นคนเอามาด้วยนั่นแหละ
โอคินะ : อยากโดนแบบเดิมซ้ำอีกรอบรึไง ?
เรย์มุ : ประตูฤดูกาล......
เรย์มุ : อย่างที่คิดเลย
เรย์มุ : ฉันจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายหนีก็จริง
เรย์มุ : แต่ก็เคยคิดอยู่เหมือนกันว่า......อาจเป็นแบบนั้นก็ได้
เรย์มุ : เพราะว่าพอรู้สึกตัวอีกที ฉันก็ถูกส่งกลับ
เรย์มุ : ไปยังสถานที่ของฤดูกาลที่ฉันเคยรวบรวมมา
เรย์มุ : สรุปคือ ประตูที่อยู่ด้านหลังคือกับดัก
เรย์มุ : ที่ใช้ดูดพลังเวทและบังคับส่งกลับนั่นเอง !
โอคินะ : ใช่แล้ว เข้าใจได้ดีมาก
โอคินะ : เพราะงั้นเธอเลยไม่มีโอกาสชนะ
โอคินะ : และสุดท้ายก็ต้องถูกไล่ออกไปจากที่นี่ไงล่ะ
เรย์มุ : หึหึหึ
โอคินะ : อื๋อ ? มีอะไรเหรอ ?
โอคินะ : สติแตกไปแล้วรึ ?
เรย์มุ : เดาถูกเผงเลย !
เรย์มุ : เท่านี้ก็ชนะแล้ว !
โอคินะ : ว่าไงนะ ?
เรย์มุ : ดูที่ด้านหลังของฉันสิ
เรย์มุ : สิ่งที่รวบรวมมาในครั้งนี้
เรย์มุ : คือเส้นแบ่งของฤดูกาล !
เรย์มุ : ถ้าเป็นเจ้านี่
เรย์มุ : ก็ไม่น่าจะมีสถานที่ให้โดนบังคับส่งกลับได้ !
โอคินะ : โฮ่......ประตูที่อยู่ด้านหลังของเธอตอนนี้
โอคินะ : เส้นแบ่งของฤดูกาล วันรอยต่อฤดูงั้นเหรอ......
โอคินะ : วันที่พลังชีวิตสูญสิ้นไปมากที่สุด
(เปิดเพลง BGM : เทพลับมาตาระ ~ Hidden Star in All Seasons.)
โอคินะ : หึหึหึ
โอคินะ : เป็นแผนการที่ไม่เลวเลย
โอคินะ : แต่ว่านั่น
โอคินะ : คือการตัดทางหนีของตัวเองนะ
เรย์มุ : แปลว่าคราวนี้ฉันจะไม่ไปจากที่นี่
เรย์มุ : จนกว่าจะโค่นเธอได้ยังไงล่ะ !
โอคินะ : ถูกใจแล้วสิ !
โอคินะ : เธอเป็นมิโกะแห่งฮาคุเรย์
โอคินะ : เลยเอามาใช้เป็นลูกน้องไม่ได้
โอคินะ : แต่ก็ขอแสดงความนับถือในความเฉลียวฉลาดนั่น
โอคินะ : ถ้าอย่างนั้นฉันจะสู้
โอคินะ : โดยไม่ใช้พลังเวทของฤดูกาลที่รวบรวมมา
โอคินะ : จงดู ! จงฟัง ! จงเล่าขาน !
โอคินะ : พลังเวทที่แท้จริงของเทพลับจักเป็นอุปสรรคกีดขวางเจ้า !
(มาตาระ โอคินะ แพ้พ่าย)
เรย์มุ : สำเร็จแล้วเหรอ !?
โอคินะ : แพ้จนได้― !
โอคินะ : สมกับที่เป็นมิโกะแห่งฮาคุเรย์เลยนะ
โอคินะ : หลบการโจมตีของฉันคนนี้ได้หมดเลย
เรย์มุ : เยี่ยม คราวนี้ชนะแล้ว
เรย์มุ : ถ้างั้นก็ล้มเลิกแผนการชั่วเดี๋ยวนี้เลย !
โอคินะ : อืม― เอาไงดีน้า―
โอคินะ : ผู้สืบทอดของสองบริวาร
โอคินะ : ก็ยังหาไม่เจอเลยซะด้วยสิ―
โอคินะ : ถ้าหาไม่เจอก็ปลดปล่อยสองคนนั่นไม่ได้ไปอีกนานเลย
โอคินะ : น่าสงสารอยู่นะ―
เรย์มุ : ช่วยหาวิธีที่ทำให้ฤดูกาล
เรย์มุ : ไม่แปรปรวนอย่างหนักด้วยละกัน
เรย์มุ : อย่างเช่น แจกใบปลิวหรือสอบสัมภาษณ์......
โอคินะ : จะให้เทพลับไปทำแบบนั้นเนี่ยนะ ?
โอคินะ : ไม่เอาด้วยหรอก―
โอคินะ : เอ้อ ช่างเถอะ
โอคินะ : ให้สองคนนั่นขยันทำงานต่อไปอีกสักระยะละกัน
เรย์มุ : ทำไมพวกโยวไคถึงได้ชอบ
เรย์มุ : ทำอะไรอลังการแบบนี้อยู่เรื่อยเลยนะ
เรย์มุ : แถมพอแพ้แล้ว
เรย์มุ : ก็ทำตัวสนิทสนมทันทีเลย
โอคินะ : ฉันไม่ใช่โยวไค แต่เป็นเทพเจ้าต่างหากล่ะ―
โอคินะ : ว่าแต่......
โอคินะ : เรื่องเทคนิคที่เอาเส้นแบ่งของฤดูกาล
โอคินะ : มาใช้กับประตูด้านหลัง
โอคินะ : จริงๆแล้วเธอไม่ได้เป็นคนคิดเองใช่มั้ยล่ะ
โอคินะ : วิธีการใช้เส้นแบ่งเขตแดนแบบนั้น
โอคินะ : คล้ายกับวิธีของคนที่ฉันรู้จักดีอยู่คนหนึ่งเลยนะ
เรย์มุ : ......มั้งนะ
เรย์มุ : บอกตามตรง ฉันไม่ค่อยเข้าใจหลักการสักเท่าไหร่หรอก―
เรย์มุ : มันอะไรกันน่ะ ประตูด้านหลังนั่น
เรย์มุ : อุปกรณ์ฤดูกาลก็ด้วย พลังชีวิตคลุ้มคลั่งก็ด้วย......
เรย์มุ : มีแต่ทฤษฎีโยวไคที่ไม่เข้าใจทั้งนั้นเลย
เรย์มุ : จู่ๆมาบอกให้เข้าใจซะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก !
โอคินะ : บอกแล้วไงว่าไม่ใช่โยวไค แต่เป็นเทพเจ้า
โอคินะ : การที่มันเหนือภูมิปัญญาของมนุษย์
โอคินะ : ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ
เรย์มุ : ค่ะ งั้นเหรอคะ
โอคินะ : แต่ไม่ว่าจะดูยังไง
โอคินะ : ฉันก็เห็นว่าเธออยู่ฝ่ายนี้นะ
(ช่วงหลังๆ ภาคมังกะมักจะเน้นเรื่อง "ฝ่ายมนุษย์" กับ "ฝ่ายโยวไค" และอาจมีฝ่ายอื่นอยู่อีกก็เป็นได้)
(กรณีของบทพูดนี้ ไม่แน่ชัดว่าเป็นฝ่ายไหน แต่คงไม่ใช่ฝ่ายมนุษย์แน่ๆ)
เรย์มุ : จะยังไงก็ช่างเถอะ
เรย์มุ : ฉันจะกลับแล้ว
เรย์มุ : ......ต้องเข้าประตูไหนถึงจะกลับได้เหรอ ?
โอคินะ : ถ้าเป็นศาลเจ้าฮาคุเรย์ก็บานที่ 2 จากข้างล่าง
โอคินะ : และเป็นบานที่ 40 จากทางขวาน่ะ
เรย์มุ : ขอบใจนะ
เรย์มุ : ไปก่อนล่ะ ทำให้ฤดูกาลกลับเป็นเหมือนเดิมด้วยนะ !
(ฮาคุเรย์ เรย์มุ ออกไปจากหน้าจอ)
โอคินะ : ......งั้นเหรอ
โอคินะ : มาแสดงให้เห็นว่ารู้ตัวแล้วงั้นเหรอ
โอคินะ : ค่อยคุ้มกับที่ลงมืออย่างอลังการโดยอ้างคำโกหก
โอคินะ : ว่าจะมาเฟ้นหาผู้สืบทอดให้บริวารทั้งสองหน่อย
โอคินะ : ดูเหมือนเกนโซวเคียวที่พวกเราสร้างขึ้น
โอคินะ : ยังคงทำงานได้อย่างราบรื่นสินะ
โอคินะ : แต่ดูเหมือนจะราบรื่นเกินไป
โอคินะ : จนไม่มีใครสามารถควบคุมได้เลย
โอคินะ : แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เหล่านักปราชญ์ปรารถนาเหมือนกัน
(ฮาคุเรย์ เรย์มุ เข้ามาในหน้าจอ)
เรย์มุ : เอ่อ―
เรย์มุ : ประตูบานที่ 40 จากทางขวาน่ะ
เรย์มุ : หมายถึงขวาของใครเหรอ ?
เรย์มุ : ด้านไหนบนด้านไหนล่างก็ไม่รู้เหมือนกัน
โอคินะ : โอ้ โทษที โทษที
โอคินะ : ถ้าเป็นตอนนี้ก็
โอคินะ : บานที่ 16 จากซ้ายมือของฉันละกัน......
โอคินะ : หรือไม่งั้นฉันพาไปส่งมั้ยล่ะ ?
เรย์มุ : ขอความกรุณาด้วยค่ะ......
โอคินะ : ไหนๆก็ไหนๆแล้ว
โอคินะ : ไปดื่มเหล้าชมดอกไม้ที่ศาลเจ้าฮาคุเรย์ด้วยเลยดีกว่า
โอคินะ : จากนี้ไปคงสนุกน่าดูเลยน้า
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Cirno's Extra Story

Revenging Stage
ชื่อด่าน : รูปลักษณ์ที่แท้จริงของเทพลับ (Hidden Star in Fifth Season)
สถานที่ : แดนประตูหลัง
สถานที่ : แดนประตูหลัง
(เปิดเพลง BGM : เข้าประตูไม่ได้แล้ว)
(นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม เข้ามาในหน้าจอ)
ไม : โอ้ เธอคือภูตเมื่อวันก่อนนี่นา
ซาโตโนะ : ดูเหมือนท่านอาจารย์จะถูกใจเข้าแล้วล่ะ
ซาโตโนะ : ผิดคาดเลย―
ไม : แต่การรุกรานของเธอจบลงแค่ตรงนี้แหละ !
(นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม แพ้พ่าย)
ชิลโน่ : ประตูประตูประตู......
ชิลโน่ : ทิวทัศน์แบบนี้
ชิลโน่ : รู้สึกเหมือนเคยเห็นมาก่อนเลยน้า
ชิลโน่ : ไอ้ที่เรียกว่า เดจาวู งั้นเหรอ ?
??? : โอ้ เธอคือภูตเมื่อเร็วๆนี้นี่นา
(มาตาระ โอคินะ เข้ามาในหน้าจอ)
(แสดงชื่อและฉายาของ มาตาระ โอคินะ)
โอคินะ : ภูตที่น่าสนใจตนนั้น
โอคินะ : อุตส่าห์มาถึงนี่ได้นะ
ชิลโน่ : เธอเป็นใครน่ะ ?
โอคินะ : โอ๊ะโอ๋
โอคินะ : อ้าว ? ลืมไปแล้วเหรอ ?
โอคินะ : ตอนที่ฉันได้รับพลังเวท
โอคินะ : ที่เธอเป็นคนรวบรวมมา
โอคินะ : คงทำให้เธอสูญเสียความทรงจำไปพร้อมๆกันล่ะมั้ง ?
ชิลโน่ : อืม―......
ชิลโน่ : จริงสิ !
โอคินะ : นึกออกแล้วเหรอ
โอคินะ : งั้นขอกล่าวยินดีต้อนรับอีกครั้งละกัน
ชิลโน่ : ลืมไปเลยว่ามาที่โลกนี้
ชิลโน่ : เพื่อทวงความทรงจำคืนมา
ชิลโน่ : ว่าแต่เธอเป็นใครน่ะ ?
โอคินะ : แบบนี้คุยไปก็เสียเวลาเปล่าแฮะ
โอคินะ : สุดท้ายแล้วภูต(พวกโง่)ก็คือภูต(พวกโง่)
โอคินะ : น่าเสียดายนะ คราวก่อนสัมผัสได้ถึงความทะเยอทะยาน
โอคินะ : จนนึกว่าได้เห็นยุคใหม่ของเหล่าภูตแล้วแท้ๆ
ชิลโน่ : โอ๊ะ รู้สึกเหมือนกำลังโดนดูถูกแฮะ ?
โอคินะ : ไม่ได้คิดไปเองหรอก
โอคินะ : ยัยภูตที่อยู่ตรงหน้านี่เป็นแค่ภูตที่ไม่ได้เรื่องตนหนึ่ง
โอคินะ : รีบรับพลังเวทจากประตูด้านหลัง
โอคินะ : แล้วบังคับส่งกลับไปยังโลกเดิมดีกว่า
ชิลโน่ : จะลุยแล้วสินะ !
ชิลโน่ : เข้ามาได้ทุกเมื่อเลย !
โอคินะ : อื๋อ ? ......อะไรเนี่ย
โอคินะ : ฤดูกาลที่ด้านหลังของเธอ......
โอคินะ : ไม่ได้สังกัดฤดูกาลไหนเลย ?
โอคินะ : เส้นแบ่งของฤดูกาล วันรอยต่อฤดูงั้นเหรอ......
โอคินะ : วันที่พลังชีวิตของภูตสูญสิ้นไปมากที่สุด
(เปิดเพลง BGM : เทพลับมาตาระ ~ Hidden Star in All Seasons.)
โอคินะ : หึหึหึ
โอคินะ : โดนการแสดงละครโง่ๆของเธอตบตาเอาจนได้
โอคินะ : เธอเป็นภูตที่น่าสนใจจริงๆนั่นแหละ
โอคินะ : มาสู้กันสักตั้งมั้ย ?
ชิลโน่ : อ๊า― นึกออกแล้วโว้ย― !
ชิลโน่ : คนที่เค้าอยากสู้อีกครั้ง
ชิลโน่ : คือคนที่นั่งเก้าอี้ต่างหาก !
ชิลโน่ : เธอไม่เกี่ยว ถอยไปซะ
โอคินะ : คนที่นั่งเก้าอี้ในตอนนั้นก็คือฉันไงเล่า !
โอคินะ : ดูไม่ออกเหรอ
โอคินะ : ถ้าอยากสู้กับฉันอีกครั้ง
โอคินะ : ก็เข้ามาเลย
โอคินะ : พลังของเทพลับที่แท้จริง
โอคินะ : จงลิ้มรสจนหยดสุดท้ายเสียเถอะ
(มาตาระ โอคินะ แพ้พ่าย)
ชิลโน่ : ชนะแล้ว !
ชิลโน่ : การเดินทางสู่ความแข็งแกร่งที่สุดอันยาวนานจบสิ้นแล้ว !
โอคินะ : ยอดเยี่ยมมาก !
โอคินะ : วิเศษเกินไปแล้ว !
โอคินะ : เพิ่งเคยเจอภูตที่สามารถ
โอคินะ : ใช้ประตูด้านหลังได้ถึงขนาดนี้
โอคินะ : แต่ฉันก็ยังมีข้อสงสัย
โอคินะ : ในวิธีการต่อสู้ของเธออยู่ดี
โอคินะ : ทั้งๆที่เธอทำเรื่องเหนือความคาดหมายของฉัน
โอคินะ : โดยรวบรวมพลังเวทของช่องว่างระหว่างฤดูกาลมา
โอคินะ : แต่กลับดูเหมือนว่า
โอคินะ : เธอไม่รู้สึกถึงเรื่องนั้นเลยนะ
ชิลโน่ : ประตูด้านหลัง ?
ชิลโน่ : ช่องว่างระหว่างฤดูกาล ? พูดอะไรของเธอน่ะ
ชิลโน่ : เค้าชนะแล้ว
ชิลโน่ : เธอแพ้แล้ว มันก็แค่นั้นแหละ !
โอคินะ : หึ ดูไม่เหมือนการแสดงละครเลยนะ
โอคินะ : เธอเป็นแค่ภูต(พวกโง่)จริงๆนั่นล่ะ
โอคินะ : การที่เธอเอาช่องว่างระหว่างฤดูกาลมาใช้
โอคินะ : เป็นแค่เรื่องบังเอิญงั้นเหรอ หรือว่า...... ?
ชิลโน่ : แล้วช่องว่างระหว่างฤดูกาลมันคืออะไรกันล่ะ
โอคินะ : ผลิร้อนร่วงหนาว ระหว่างแต่ละฤดูกาล
โอคินะ : จะมีชั่วพริบตาที่ไม่ได้สังกัดฤดูกาลใด
โอคินะ : ในชั่วพริบตานั้น พลังของธรรมชาติจะอ่อนแอลง
โอคินะ : พลังของจิตใจจะแซงหน้าพลังชีวิต
โอคินะ : ทำไมเธอถึงมาท้าสู้กับฉัน
โอคินะ : โดยเลือกชั่วพริบตาที่พวกภูตแพ้ทางมา
โอคินะ : ไม่ว่าจะบังเอิญหรือจงใจ แต่เพราะเหตุนั้น
โอคินะ : ทำให้ฉันช่วงชิงพลังและบังคับส่งกลับไม่ได้
โอคินะ : นั่นคือเรื่องที่ทำให้ฉันประหลาดใจ
โอคินะ : และก็ทำให้ถูกใจด้วย
ชิลโน่ : เลือกเหรอ......
ชิลโน่ : แต่เค้าไม่ได้ทำอะไรเลยนะ
โอคินะ : ว่าแต่ เธอเข้าประตูบานไหนมาล่ะ ?
ชิลโน่ : ประตูที่อยู่ด้านหลังของลาร์วาน่ะ
ชิลโน่ : ภูตผีเสื้ออาเกฮะ
โอคินะ : ภูตผีเสื้ออาเกฮะ
โอคินะ : อย่างนี้นี่เอง......
โอคินะ : เดิมทีที่นั่นน่าจะเป็นประตูฤดูร้อน
โอคินะ : บางทียัยนั่นอาจไม่ใช่ภูตผีเสื้ออาเกฮะ
โอคินะ : แต่เป็นเทพโทโคโยะโนะคามิก็เป็นได้
(ปกติแล้วเทพองค์นี้มีนามว่า 常世神 (เทพโลกาไร้แปรเปลี่ยน) แต่ในโทโฮเขียนว่า 常夜神 (เทพราตรีไร้แปรเปลี่ยน))
โอคินะ : หนึ่งในเทพที่เป็นศัตรูของฉัน
โอคินะ : ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแล้วล่ะ
โอคินะ : ช่างเถอะ ยังไงเรื่องที่เจอภูตที่น่าสนใจตนนี้
โอคินะ : ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ดี
โอคินะ : ว่าไง ?
โอคินะ : ลองมาทำงานกับฉันดูมั้ยล่ะ ?
ชิลโน่ : ทำงาน ?
ชิลโน่ : ทำไมล่ะ ?
โอคินะ : ฉันกำลังเฟ้นหา
โอคินะ : ผู้สืบทอดของบริวารทั้งสองอยู่น่ะ
โอคินะ : งานง่ายๆ แค่เต้นรำทำเสียงดังไปวันๆเท่านั้น
โอคินะ : ถึงจะไม่เคยมีตัวอย่างมาก่อน แต่ภูตก็น่าจะทำได้นะ
ชิลโน่ : ทำงานงั้นเหรอ
ชิลโน่ : ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่แฮะ
ชิลโน่ : การทำงานของภูตน่ะ
ชิลโน่ : เค้าเคยเห็นแต่ถูกใช้งานเยี่ยงทาสเท่านั้นเอง
(น่าจะหมายถึงพวกเมดในคฤหาสน์มารแดง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับถิ่นอาศัยของชิลโน่)
โอคินะ : เอาน่า เก็บไปคิดดูก่อนเถอะ
โอคินะ : กาลเวลาไม่มีที่สิ้นสุดอยู่แล้ว
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Aya's Extra Story

Revenging Stage
ชื่อด่าน : รูปลักษณ์ที่แท้จริงของเทพลับ (Hidden Star in Fifth Season)
สถานที่ : แดนประตูหลัง
สถานที่ : แดนประตูหลัง
(เปิดเพลง BGM : เข้าประตูไม่ได้แล้ว)
(นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม เข้ามาในหน้าจอ)
ไม : อะไรกัน มาอีกแล้วเรอะ
ซาโตโนะ : พวกเราโดนดุเพราะเธอนะ
ไม : กลับไปเดี๋ยวนี้เลย !
ไม : ไอ้เทนกุโสมม !
(นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม แพ้พ่าย)
อายะ : แหมแหม
อายะ : ข้านี่แหละคือเทนกุอีกาวายุซัด ชาเมย์มารุ อายะ !
อายะ : ครั้งนี้มาขอท้าประลองอีกครั้ง
อายะ : โดยเดิมพันด้วยอนาคตของเผ่าเทนกุ !
อายะ : เทพแห่งสิ่งกีดขวาง โอคินะเอ๋ย !
อายะ : จงออกมาเถิด !
??? : เทนกุเมื่อเร็วๆนี้งั้นเรอะ
(มาตาระ โอคินะ เข้ามาในหน้าจอ)
(แสดงชื่อและฉายาของ มาตาระ โอคินะ)
โอคินะ : ปรากฏตัวอีกครั้งแบบนี้
โอคินะ : ใจกล้าดีนะ
อายะ : คราวก่อนคุณหนีรอดไปได้ด้วยกับดักขี้ขลาด
อายะ : แต่คราวนี้ไม่ยอมให้หนีพ้นแน่
โอคินะ : ไม่ยอมให้หนี ?
โอคินะ : พูดอะไรของเธอน่ะ คนที่หนีกลับไปคือเธอเองนะ ?
โอคินะ : พอฉันดึงพลังเวทที่ด้านหลังของเธอกลับมาแล้ว
โอคินะ : เธอก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ทำอะไรไม่ได้
โอคินะ : เลยเข้าประตูฤดูกาล
โอคินะ : แล้วกลับไปยังโลกเดิมไงล่ะ
โอคินะ : คนที่หนีคือเธอต่างหาก
อายะ : ......รู้สึกแบบนั้นอยู่นิดหน่อยเหมือนกันค่ะ
อายะ : ทั้งที่น่าจะต่อสู้กับคุณอยู่
อายะ : แต่กลับมาอยู่ที่เกนโซวเคียวตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
อายะ : พลังเวทของฤดูกาลที่ฉันรวบรวมมา
อายะ : โดนคุณช่วงชิงไปจนหมด แล้วปลดปล่อยออกมา
อายะ : ฉันไม่รู้สึกตัวเลย
อายะ : ว่านั่นแหละคือกับดักบังคับส่งกลับ !
โอคินะ : ใช่แล้ว เพราะงั้นเธอเลยไม่มีโอกาสชนะไงล่ะ !
โอคินะ : ไม่ว่าจะสู้กันกี่ครั้งก็เหมือนเดิมนั่นล่ะ
อายะ : หึ ในเมื่อรู้ถึงขนาดนั้นแล้ว
อายะ : ฉันไม่มีทางมาที่นี่โดยไม่มีแผนการอะไรหรอกค่ะ
โอคินะ : โฮ่ ?
โอคินะ : แผนการงั้นเหรอ
อายะ : จงดูฤดูกาลที่อยู่ข้างหลังฉันสิ !
โอคินะ : โฮ่......อย่างนี้นี่เอง !
โอคินะ : เธอรวบรวมพลังเวทของช่องว่างระหว่างฤดูกาลมางั้นเรอะ !
อายะ : ใช่แล้วค่ะ
อายะ : รวบรวมมาเฉพาะพลังเวทของวันเปลี่ยนฤดูเลย
อายะ : ช่องว่างของฤดูกาลที่ก่อให้เกิดพลังเวทบนโลกใบนี้
อายะ : ช่องว่างที่ทำให้พลังชีวิตของสี่ฤดูสูญเสียไปมากที่สุด !
โอคินะ : หึหึหึ ถ้าฉันดูดซับพลังเวทนั่นแล้วปลดปล่อยออกมา
โอคินะ : ฉันคงทำลายตัวเองด้วยพลังเวทของเทนกุเป็นแน่
โอคินะ : ถ้าเธอไม่บอก ฉันอาจจะไม่รู้ตัวก็เป็นได้
โอคินะ : ทำไมถึงบอกล่ะ ?
อายะ : ผู้ที่เป็นถึงเทพย่อมไม่มีทางที่จะไม่รู้ตัว
อายะ : ฉันคิดแบบนั้นค่ะ
อายะ : อีกอย่าง
อายะ : ฉันไม่ได้มาทำลายล้างคุณค่ะ
อายะ : ฉันไม่ได้อยากวางกับดักขี้ขลาดใส่คุณ
อายะ : แค่อยากผนึกกับดักของคุณเท่านั้นเองค่ะ
(เปิดเพลง BGM : เทพลับมาตาระ ~ Hidden Star in All Seasons.)
โอคินะ : หึหึหึ
โอคินะ : แปลว่าอยากประลองกันอย่างตรงไปตรงมางั้นเรอะ
โอคินะ : เอาสิ ฉันขอนับถือความกล้าของเธอ
โอคินะ : ฉันจะสู้โดยไม่ใช้พลังเวทของฤดูกาล
อายะ : ไม่ใช่ว่าอยากต่อสู้อย่างตรงไปตรงมา
อายะ : แค่อยากทำข่าวเท่านั้นเองค่ะ
อายะ : อยากสัมภาษณ์เทพแห่งสิ่งกีดขวางผู้มีบรรพบุรุษร่วมกับเทนกุ
อายะ : เรื่องประวัติศาสตร์ของผู้แปลกแยกที่ถูกขับไล่จากสังคม
อายะ : และเรื่องราวหลังจากนี้
โอคินะ : ได้สิ ถ้าเธอชนะ
โอคินะ : จะทำข่าวหรืออะไรก็ย่อมได้
โอคินะ : ความเป็นมาของเกนโซวเคียวจักต้องไม่เล่าขาน
โอคินะ : โดยปราศจากเรื่องราวของพวกเรา เหล่าผู้กีดขวาง
โอคินะ : จงดู ! จงฟัง ! จงเล่าขาน !
โอคินะ : นี่ล่ะคือรูปลักษณ์ของเทพลับแห่งสิ่งกีดขวาง !
(มาตาระ โอคินะ แพ้พ่าย)
อายะ : แฮ่กแฮ่ก
อายะ : ยังจะสู้ต่ออีกเรอะ !
โอคินะ : ยอดเยี่ยมมาก !
โอคินะ : พอแล้วล่ะ ฉันรับรู้ความแข็งแกร่งของเธอแล้ว
โอคินะ : ฉันเป็นฝ่ายแพ้ในการประลองนี้
อายะ : ......ไม่หรอกค่ะ ฉันแพ้แล้ว
อายะ : ถ้าไม่มีพลังเวทจากข้างหลัง
อายะ : ฉันไม่สามารถเอาชนะคุณได้หรอกค่ะ
อายะ : แล้วพลังนี้ก็คือพลังของคุณ
อายะ : หากดูจากรูปแบบการต่อสู้ที่ผ่านมา
อายะ : การใช้พลังเวทจากข้างหลังนี้
อายะ : มันก็เหมือนกับ
อายะ : ฉันกำลังเต้นอยู่บนฝ่ามือของคุณมาตั้งแต่แรกค่ะ
โอคินะ : จริงอยู่ว่าฉันสามารถผนึกประตูด้านหลัง
โอคินะ : แล้วดึงพลังเวทอื่นมาใช้เมื่อไหร่ก็ได้
โอคินะ : แต่สาเหตุที่ฉันไม่ทำแบบนั้น
โอคินะ : ก็เพราะนับถือในความกล้าของเธอไงล่ะ
โอคินะ : ต่อให้อยู่บนฝ่ามือของฉัน
โอคินะ : ชัยชนะของเธอก็ไม่เปลี่ยนแปลง
โอคินะ : จงภูมิใจเถอะ
อายะ : นั่นสินะคะ―
อายะ : ถือว่าฉันชนะสินะคะ―
อายะ : ถ้างั้นฉันขอทำข่าว
อายะ : ตามที่สัญญากันเอาไว้ค่ะ !
โอคินะ : อะ อื้ม
อายะ : เรื่องในครั้งนี้
อายะ : คุณทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรเหรอคะ ?
อายะ : อ๊ะ หมายถึง เหตุสี่ฤดูวิปลาสน่ะค่ะ
โอคินะ : ฉันอยากปลดปล่อย
โอคินะ : บริวารทั้งสองน่ะ
โอคินะ : เลยต้องเฟ้นหาผู้ที่จะมาสืบทอด
โอคินะ : ฉันจึงดึงพลังที่ซ่อนเร้น
โอคินะ : อยู่ในสรรพสิ่งออกมา
โอคินะ : เพื่อดึงคนที่น่าจะมีความเป็นไปได้
โอคินะ : ออกมาจากพื้นที่กว้างในคราวเดียว
โอคินะ : ฤดูกาลเลยผิดเพี้ยนไปเล็กน้อย
โอคินะ : เพราะพลังที่ซ่อนอยู่ในเหล่าภูตและวิญญาณน่ะ
อายะ : อย่างนี้นี่เอง
อายะ : แล้วหาผู้สืบทอดเจอรึยังคะ ?
โอคินะ : ยังเลย
โอคินะ : ถึงจะมีคนที่เข้าตาอยู่มากมายก็เถอะ
โอคินะ : แต่การเปิดประตูที่ด้านหลังไปทั่วเกนโซวเคียวแบบนี้
โอคินะ : คงไม่มีอีกแล้วล่ะ
โอคินะ : เพราะฉันคิดว่าได้สื่อสารไปเพียงพอแล้ว
อายะ : ??
อายะ : งั้นคำถามต่อไปค่ะ
โอคินะ : เดี๋ยวก่อน เธอมีคำถามเยอะแค่ไหนน่ะ ?
อายะ : มีออกมาเรื่อยๆเลยค่ะ
โอคินะ : ตอนนี้กำลังเหนื่อยเพราะเพิ่งสู้เสร็จ
โอคินะ : เอาไว้คราวหน้าไม่ได้เหรอ ?
โอคินะ : จริงสิ
โอคินะ : คราวหน้าฉันจะไปที่รังของพวกเทนกุละกัน
โอคินะ : พอได้เห็นเธอแล้ว
โอคินะ : ฉันรู้สึกสนใจพวกเทนกุในยุคปัจจุบันขึ้นมาน่ะ
โอคินะ : ถ้าหากพวกเทนกุไม่รังเกียจ
โอคินะ : ฉันอาจทำสนธิสัญญาสันติภาพก็ได้นะ
อายะ : เห มันก็ได้อยู่หรอกค่ะ
อายะ : แต่กรุณาสัญญากับฉันนะคะ
อายะ : ว่าจะให้สัมภาษณ์กับฉันคนเดียวเท่านั้น
อายะ : เพราะข่าวใหญ่ขนาดนี้
อายะ : ฉันไม่ยอมยกให้คนอื่นหรอกค่ะ
โอคินะ : อะ อื้ม
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
Marisa's Extra Story

Revenging Stage
ชื่อด่าน : รูปลักษณ์ที่แท้จริงของเทพลับ (Hidden Star in Fifth Season)
สถานที่ : แดนประตูหลัง
สถานที่ : แดนประตูหลัง
(เปิดเพลง BGM : เข้าประตูไม่ได้แล้ว)
(นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม เข้ามาในหน้าจอ)
ไม : โอ้ เธอคือคนเมื่อวันก่อนนี่นา
ซาโตโนะ : ดูเหมือนจะทำให้ท่านอาจารย์โกรธนี่นะ
ไม : การทดสอบจบไปแล้ว
ไม : รีบกลับไปซะ !
(นิชิดะ ซาโตโนะ & เทย์เรย์ดะ ไม แพ้พ่าย)
มาริสะ : เฮ้ย― ไม่อยู่รึไง― ?
??? : กลับมาอีกแล้วเรอะ
(มาตาระ โอคินะ เข้ามาในหน้าจอ)
(แสดงชื่อและฉายาของ มาตาระ โอคินะ)
โอคินะ : คนที่หนีไปในระหว่างทดสอบขั้นสุดท้ายอย่างเธอ
โอคินะ : น่าเสียดายที่สอบไม่ผ่านนะ
โอคินะ : รีบกลับไปซะ
มาริสะ : หนีไปในระหว่างทดสอบ......งั้นเหรอ
มาริสะ : เป็นอย่างที่คิดจริงๆด้วย
มาริสะ : ตอนแรกฉันนึกว่าเธอเป็นฝ่ายหนี
มาริสะ : แต่พอลองคิดดูดีๆก็รู้สึกได้ว่า
มาริสะ : มีความเป็นไปได้สูงที่ฉันเป็นฝ่ายหนีเสียเอง
โอคินะ : แล้วคนขี้ขลาดอย่างเธอมีธุระอะไรล่ะ ?
มาริสะ : วันนี้มาท้าสู้อีกครั้งน่ะ
มาริสะ : ไม่ได้เป็นเพราะ
มาริสะ : นึกอยากรับการทดสอบอีกครั้งหรอกนะ
มาริสะ : ฉันไม่มีทาง
มาริสะ : ปล่อยให้ตัวเองคาใจที่แพ้แบบนั้นหรอก !
โอคินะ : เธอเป็นมนุษย์
โอคินะ : แต่ใช้เวทมนตร์สินะ
โอคินะ : ถ้างั้นก็น่าจะเข้าใจนี่นา
โอคินะ : ว่าทำไมเธอถึงทำอะไรไม่ได้
โอคินะ : จนต้องหนีออกไปน่ะ
มาริสะ : อุปกรณ์ที่อยู่ข้างหลังทั้งหมด คือ
มาริสะ : อุปกรณ์ดูดพลังเวทและอุปกรณ์เคลื่อนย้ายของเธอสินะ
มาริสะ : เธอได้รับทุกอย่างผ่านทางอุปกรณ์ที่อยู่ข้างหลัง
มาริสะ : โดยที่ไม่ต้องเคลื่อนไหวเลย
มาริสะ : ถ้าใช้ของพวกนี้
มาริสะ : เธอสามารถดูดพลังเวทจากมนุษย์คนไหนก็ได้
มาริสะ : ส่วนคนที่ไม่ต้องการ
มาริสะ : ก็สามารถซัดไปที่ไหนสักแห่งผ่านทางประตูได้
โอคินะ : ใช่แล้ว
โอคินะ : กล่าวคือ เธอไม่มีโอกาสชนะเลย
โอคินะ : รู้ถึงขนาดนั้นแล้วก็ยังอุตส่าห์มานะ
มาริสะ : บอกไปแล้วไง
มาริสะ : ว่าฉันไม่ปล่อยให้ตัวเองแพ้แบบนั้นหรอก
มาริสะ : เพราะงั้นคราวนี้ ฉันขอเอากับดักของเธอ
มาริสะ : มาใช้ให้เป็นประโยชน์กับตัวเองหน่อยนะ
โอคินะ : ใช้ประโยชน์...... ?
โอคินะ : โฮ่ นั่นอะไรน่ะ
มาริสะ : จงดูที่ด้านหลังของฉันสิ !
มาริสะ : นี่คือคำตอบไงล่ะ !
โอคินะ : โฮ่ ประตูที่อยู่ข้างหลังเธอตอนนี้
โอคินะ : เส้นแบ่งของฤดูกาล วันรอยต่อฤดูงั้นเหรอ......
โอคินะ : วันที่พลังชีวิตของภูตสูญสิ้นไปมากที่สุด
มาริสะ : เป็นไงล่ะ !
มาริสะ : ถ้าเป็นเจ้านี่ ต่อให้เธอบังคับส่งกลับ
มาริสะ : ก็ไม่มีที่ไหนให้ส่งไปได้หรอกโว้ย !
(เปิดเพลง BGM : เทพลับมาตาระ ~ Hidden Star in All Seasons.)
โอคินะ : หึหึหึ
โอคินะ : ฉันไม่คิดว่ามันจะไปได้สวยหรอกนะ
โอคินะ : แต่ก็เป็นแผนการที่ไม่เลวเลย
มาริสะ : คราวนี้ขอสู้อย่างสบายใจไร้กังวลหน่อยละกันวะ !
โอคินะ : ถูกใจแล้วสิ !
โอคินะ : ถึงจะเคยสอบตกไปครั้งหนึ่ง
โอคินะ : แต่ฉันเปลี่ยนใจดีกว่า
โอคินะ : ชักหลงใหลความเฉลียวฉลาดกับความบ้าบิ่นนั่นแล้วสิ
โอคินะ : ฉันขอยกเลิกผลการสอบตก
โอคินะ : เอาล่ะ มาเริ่มการทดสอบสุดท้ายกันอีกครั้งเถอะ
โอคินะ : คราวนี้ฉันจะไม่ใช้พลังเวทของฤดูกาล !
โอคินะ : จงดูวิชาลับของเทพลับที่แท้จริงให้ดี !
(มาตาระ โอคินะ แพ้พ่าย)
มาริสะ : ฉันชนะแล้วสินะ !
โอคินะ : ยอดเยี่ยมมาก !
โอคินะ : เธอผ่านการทดสอบ !
มาริสะ : ฟู่ ตึงมือน่าดูเลยแฮะ
มาริสะ : แต่ก็สำเร็จจนได้
มาริสะ : เท่านี้ก็นอนหลับได้อย่างสบายใจแล้ว
โอคินะ : ด้วยประการฉะนี้ ฉันรับเธอเข้าทำงานจ้ะ !
โอคินะ : เธอคงยอมมาทำงานกับฉันสินะ
โอคินะ : ชอบแบบไหนล่ะ ?
โอคินะ : งานด้านชีวิตของเทย์เรย์ดะกับงานด้านจิตใจของนิชิดะ
โอคินะ : ถ้าเป็นตอนนี้ จะเลือกอันไหนก็ได้นะ
มาริสะ : บอกแล้วไง
มาริสะ : ว่าไม่ได้คิดจะมาทำงาน
มาริสะ : เอ๊ะ แล้วถ้าฉันรับงาน
มาริสะ : สองคนเมื่อกี้จะเป็นยังไงเหรอ ?
โอคินะ : ฉันตั้งใจว่าถ้ามีผู้สืบทอดแล้ว
โอคินะ : ก็จะปลดปล่อยและทำให้กลับเป็นมนุษย์ดังเดิมน่ะ
โอคินะ : แต่ถ้าเธอไม่รับงาน
โอคินะ : ก็คงต้องอยู่อย่างนั้นไปอีกนานล่ะนะ
มาริสะ : สองคนนั่นก็เป็นหุ่นเชิด
มาริสะ : ที่เคลื่อนไหวด้วยพลังเวทของเธองั้นเหรอ......
มาริสะ : แต่เอาเถอะ
มาริสะ : ฉันไม่มีความคิดที่จะไปแทนที่เลยสักนิดน่ะ
มาริสะ : เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน
มาริสะ : เธอช่วยเลิกก่อเหตุสี่ฤดูวิปลาสได้รึเปล่า ?
มาริสะ : ขืนในป่ายังเป็นฤดูหนาวแบบนี้
มาริสะ : ค่าทำความร้อนคงไม่ธรรมดาแน่ๆ
โอคินะ : เหตุสี่ฤดูวิปลาสเป็นผลข้างเคียงจากประตูด้านหลังน่ะ
โอคินะ : แต่การเปิดประตูที่ด้านหลังไปทั่วเกนโซวเคียวแบบนี้
โอคินะ : คงไม่มีอีกแล้วล่ะ
โอคินะ : เพราะฉันคิดว่าได้สื่อสารไปเพียงพอแล้ว
มาริสะ : อื๋อ ? สื่อสารกับใครล่ะ ?
โอคินะ : ทุกคนในเกนโซวเคียวตอนนี้ กับนักปราชญ์คนอื่นน่ะ
มาริสะ : สรุปคือ เธออยากอวดพลังอันสุดยอดของตัวเองงั้นเหรอ
มาริสะ : ต่ำช้าจริงๆเลยนะ―
โอคินะ : มันจำเป็นสำหรับเทพเจ้านะ
โอคินะ : เธอเข้าใจใช่มั้ย ?
มาริสะ : เออ―
มาริสะ : มีคนแบบนั้นอยู่เต็มไปหมดจริงๆนั่นล่ะ
มาริสะ : ช่างเถอะ
มาริสะ : เหตุสี่ฤดูวิปลาสจะสงบลงแล้วใช่มั้ย ?
มาริสะ : ไม่เกิดความเสียหายใหญ่โตอะไรซะด้วยสิ
มาริสะ : ครั้งนี้ฉันจะปล่อยเธอไปละกัน
มาริสะ : เดี๋ยวฉันจะกระจายข่าวให้เองว่า
มาริสะ : คลี่คลายเหตุสี่ฤดูวิปลาสได้แล้ว
โอคินะ : อ๋า― คิดจะอวดพลังอันสุดยอดของตัวเองล่ะสิ―
มาริสะ : ใช่แล้ว
มาริสะ : ผิดตรงไหนล่ะ ?
โอคินะ : ไม่ผิดหรอก
โอคินะ : ไม่ผิด แต่
โอคินะ : จะว่ายังไงดีน้า
โอคินะ : เอาเป็นว่า ฉันจะรออย่างใจเย็นละกัน
โอคินะ : รอการเปลี่ยนใจของเธอ
มาริสะ : บอกแล้วไงว่าไม่ได้คิดเรื่องนั้น
มาริสะ : อีกอย่าง พอแพ้แล้วเปลี่ยนวิธีพูดอย่างกะทันหัน
มาริสะ : มันน่าขยะแขยงนะ
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
[กดที่ข้อความนี้เพื่อซ่อนบทความ]
.........................................................................................................................................................................................
