SSiB - 01


東方儚月抄 ~ Silent Sinner in Blue.
โทวโฮวโบวเกทสึโชว (บทจันทราไร้แก่นสารแห่งตะวันออก) ~ คนบาปผู้เงียบงันในสีฟ้า


.........................................................................................................................................................................................

เล่ม 1

วางจำหน่ายในวันที่ 9 เดือน 4 ปี 2008
ภายในเล่มประกอบด้วยเนื้อหาตอนที่ 1-7
ในเล่มจะแถม CD มาด้วยหนึ่งแผ่น ซึ่งภายมีเพลงประกอบทั้งสิ้น 3 เพลง



ISBN : 978-4-75-806089-9

สำนักพิมพ์ : อิฉิจินชา

เรื่อง : ZUN

ภาพ : อาคิ★เอดะ

สิ่งที่แถมมากับหนังสือ : CD 1 แผ่น ซึ่งภายในประกอบด้วย
Audio Track
(ซอง CD นี้แถมมากับนิตยสาร Comic REX)
   1.妖怪宇宙旅行
      โยวไคอุฉูวเรียโคว (การท่องเที่ยวอวกาศของโยวไค)
   2.綿月のスペルカード ~ Lunatic Blue
      วาทัทสึคิโนะสเปลการ์ด (สเปลการ์ดของวาทัทสึคิ) ~ ลูนาติค บลู (สีฟ้าบ้าคลั่ง)
   3.呑んべぇのレムリア (Retro Ver)
      นอนเบ้โนะ เลมูเรีย (Lemuria ของพวกขี้เมา (Retro Ver))

อนึ่ง, สองเพลงข้างต้นเป็นเพลงใหม่ที่แต่งขึ้นโดยเฉพาะ ส่วนเพลงที่สามนั้นมีที่มาจากเกม 黄昏酒場~Uwabami Breakers~
ซึ่งก่อนหน้านี้ ZUN มิได้ให้คอมเมนท์เกี่ยวกับเพลงนี้เอาไว้ แล้วมาเขียนลงในท้ายเล่มของมังกะฉบับนี้แทน




ฉบับภาษาไทย



วางจำหน่ายในวันที่ 11 กรกฎาคม 2012

ด้วยข้อจำกัดด้านเนื้อที่ในแต่ละหน้า ทำให้ผู้แปล (ข้าพเจ้า) ไม่สามารถเขียนอธิบายมุขเพิ่มเติมในบางจุดได้
ในบางจุดก็จำเป็นจะต้องแปลงมุขให้เป็นแบบไทย เพื่อจะได้ไม่ต้องอธิบายยืดยาวเกี่ยวกับการเล่นคำในภาษาญี่ปุ่น
หากแต่แฟนโทโฮบางส่วนก็ต้องการที่จะทราบถึงมุขต้นฉบับเหล่านั้น
ข้าพเจ้าจึงขอทำการอธิบายมุขต้นฉบับต่างๆลงในบล็อกแห่งนี้แทน

อนึ่ง
หนังสือเล่มนี้คือ หนังสือการ์ตูนแปลไทยแบบลิขสิทธิ์ฉบับแรกของประเทศไทยที่มีการแถมแผ่นเพลงเหมือนกับต้นฉบับ !
ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายและน่าตื่นเต้นมาก เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครกล้าทำอย่างนี้เลย
แต่ด้วยเพราะการแถมแผ่นเพลงนี้ทำให้ราคาของหนังสือพุ่งสูงถึง 125 บาทเลยทีเดียว
จัดว่าทางสำนักพิมพ์มีความกล้าหาญเป็นอย่างมาก เพราะมีความเสี่ยงที่ยอดขายจะน้อยลงพอสมควร
แต่ในขณะเดียวกัน มันอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของหนังสือการ์ตูนแปลไทยในอนาคตก็เป็นได้
ผลลัพธ์คือ นักอ่านชาวไทยมีสิทธิได้เข้าถึงของแถมอันล้ำค่าดังเช่นชาวญี่ปุ่นผู้ถือต้นฉบับนั่นเอง
ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้แก่คนกล้าผู้หาญท้าบุกเบิกเส้นทางใหม่สู่อนาคตด้วยนะครับ ^ ^)/

ปล.ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใด อย่าเข้าใจผิด (ฮา)








อธิบายเพิ่มเติม+จุดที่น่าสนใจ

- เกี่ยวกับ "จันทร์"
พระจันทร์ : ภาพของดวงจันทร์ที่เห็นอยู่บนท้องฟ้า
ดวงจันทร์ : ดาวบริวารของโลกที่ลอยอยู่ในอวกาศ
ดวงจันทร์เบื้องหน้า : ผิวของดวงจันทร์ที่มนุษย์ทั่วไปสังเกตเห็น ไม่เหมาะสมต่อการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิต
ดวงจันทร์เบื้องหลัง : ผิวของดวงจันทร์ที่ซ่อนอยู่ในเขตแดน มีความเหมาะสมต่อการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิต
นครจันทรา : เมืองที่ตั้งอยู่ ณ ดวงจันทร์เบื้องหลัง

- ยูคาริสามารถส่งภูตรับใช้เข้าไปสิงสู่ในตัวสัตว์(อีกา)ได้ และเมื่อสัตว์ตัวนั้นตาย ภูตรับใช้ก็กลับมาหาเจ้าของอย่างปลอดภัยได้ด้วย

- อามาโนะอิวาโตะวาเคะโนะมิโคโตะ
ชื่อของเทพองค์หนึ่ง แปลได้ว่า เทพผู้แยกประตูหินสวรรค์
เป็นหนึ่งในเทพที่นำไตรเทวภัณฑ์ลงมาจุติยังโลกมนุษย์ เป็นเทพแห่งหิน ประตู และเขตแดน

- ท่านไดโคคุ เป็นอีกชื่อหนึ่งคือ โอโอนามุจิ ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณของกระต่ายขาวแห่งอินาบะ
รายละเอียดสามารถอ่านได้ใน Spell Card No.213 ของภาค 8

- โดยทั่วไป กระต่ายในเรื่องนี้มีอยู่ 2 ประเภทคือ กระต่ายโลกา และ กระต่ายจันทรา (เรียกอีกอย่างว่า กระต่ายมณี)

- ขยะอวกาศขนาดสามหุน (10 cm) จะมีความเร็วประมาณ 7 กิโลเมตรต่อวินาที ซึ่งเร็วกว่าเสียงประมาณ 20 เท่า
การชนกับมันจึงไม่ใช่เรื่องเล่นเลยแม้แต่น้อย พูดให้ถูกคือไม่น่าจะรอดมาได้ด้วยซ้ำ = _=)"

- ธงชาติสหรัฐอเมริกา ปรากฏครั้งแรกในภาคสามภูตจันทรา ภาคแรก โดยลูน่าไชลด์เป็นคนเก็บได้ และเธอบอกว่ามันตกลงมาจากพระจันทร์

- นอนแต่หัววันแบบนี้เดี๋ยวก็กลายเป็นโยวไคหรอก
เพราะว่าปกติแล้วโยวไคจะออกหากินตอนกลางคืน และนอนตอนกลางวัน

- XX หมายถึง เสียงไม่สามารถสื่อออกมาเป็นภาษามนุษย์ได้
ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะในเรื่องนี้จัดว่าชาวจันทรานั้นเป็นมนุษย์ต่างดาว (ฮา)

- ฉางเอ๋อ (ภาษาญี่ปุ่น = โจวกะ) มาจากตำนานจีนเรื่อง ฉางเอ๋อสู่พระจันทร์ และเป็นชื่อโครงการอวกาศของประเทศจีน
เรื่องราวของ ฉางเอ๋อ กับสามีที่ชื่อว่า โฮวอี้
โดยโฮวอี้เป็นผู้ยิงธนูดับตะวัน 9 ดวงจนเหลือเพียง 1 ดวง จึงถูกเง็กเซียนฮ่องเต้เนรเทศทั้งคู่ให้มาอยู่บนโลก
โฮวอี้ได้ยาอมตะมาจากเจ้าแม่หวางมู่ จากนั้นฉางเอ๋อได้ทานยานี้แต่เพียงผู้เดียว แล้วโบยบินไปยังดวงจันทร์
ทว่าตำนานนี้เล่าขานกันมาหลายรูปแบบ อาทิเช่น
บ้างก็ว่าเป็นนางฟ้าแห่งดวงจันทร์กับพลธนูสวรรค์ บ้างก็ว่าเป็นสตรีธรรมดากับพลธนูสวรรค์ บ้างก็ว่าเป็นคนธรรมดาทั้งคู่
บ้างก็ว่าโฮวอี้ถูกลอบสังหารก่อนถึงบ้าน ฉางเอ๋อเลยได้ทานยาแต่เพียงผู้เดียว
บ้างก็ว่าตัวยาพอทานแค่คนเดียว โฮวอี้ไม่อยากทอดทิ้งภรรยาจึงไม่ทาน แต่ฉางเอ๋อทนไม่ไหวเลยแอบทานเข้าไป

- อพอลโล่ หมายถึง ชื่อโครงการและชื่อยานอวกาศ อพอลโล่ ของประเทศสหรัฐอเมริกา

- อาภรณ์เทวาแห่งดวงจันทร์เป็นสีชมพูใส ?

- อาภรณ์เทวาแห่งดวงจันทร์ใช้เข้าออกระหว่างเกนโซวเคียวกับนครจันทราได้
ในขณะเดียวกัน จากคำพูดนี้อาจบ่งชี้ได้ว่า มีวิธีอื่นที่ใช้เดินทางจากดวงจันทร์มายังพื้นพิภพได้เช่นกัน
ซึ่งในภายหลังจะพบว่ามีอยู่มากมายหลายวิธีเลยทีเดียว

- คนญี่ปุ่นโบราณเชื่อว่า หากปลาโค่ย (คาร์พ) ไต่น้ำตกจนพ้นได้ มันจะกลายเป็นมังกร
(ซึ่งก็คือที่มาว่าทำไม โค่ยคิง ในเกมโปเกม่อนถึงวิวัฒนาการแล้วกลายเป็น แกลลาดอส (ฮา))

- Montagne Bleue มองทาญ บลู (ภ.ฝรั่งเศส) หมายถึง น้ำชาผสมลาเวนเดอร์ แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นสีฟ้าหรอกนะ

- กลไกของเกนโซวเคียว
เมื่อวัตถุใดๆที่อยู่ในโลกภายนอกถูกหลงลืม จะกลายเป็นวัตถุมายา แล้วหลุดหลงเข้ามาสู่เกนโซวเคียว

- เป็นหนึ่งก้าวเล็กๆสำหรับการรุกรานดวงจันทร์ แต่เป็นหนึ่งก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับฉัน"
แพชูลี่ล้อบทพูดของ Neil Alden Armstrong

- วันเพ็ญเก็บเกี่ยว (Harvest Moon) = ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8
ซึ่งก็คือวันไหว้พระจันทร์ ตรงตามตำนานฉางเอ๋อเช่นกัน

- คนสมัยก่อนเชื่อว่า รูปทรงที่จัดว่าเป็นรูปร่างขั้นสูงสุดนั้นก็คือ วงกลม

- ซาคุยะใส่เสื้อกันฝน

- เผ่าพันธุ์ราตรี หมายถึง พวกโยวไค

- พวกเรมิเลียเคยพยายามจะไปดวงจันทร์กันมาแล้วอย่างน้อย 2 ครั้ง รายละเอียดตาม link และ link

- เทพเจ้าที่จะมายึดอำนาจ
หมายถึงความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นจนเเป็นเหตุให้เกิดเรื่องในภาค 10

- เรย์มุบอกว่าเธอสามารถขอยืมพลังจากคานาโกะและสุวะโกะได้เช่นกัน

- จะเห็นได้ว่าศาลเจ้าสาขาย่อยที่ถูกสร้างขึ้นตอนจบภาค 10 ยังอยู่ดีมีสุข

- ฤดูใบไม้ร่วงแห่ง Tirol
Tirol เป็นชื่อละครที่แต่งโดย คิชิดะ คุนิโอะ และนัยถึง Tirol ที่เป็นชื่อบริษัทผลิตขนมหวาน

- การสะกดของพื้นพิภพ หมายถึง แรงโน้มถ่วงของโลก

- ก่อนหน้านี้ก็เคยยืมพลังจากโยวไคเพื่อโค่นมนุษย์ต่างดาวนี่นา
นัยถึงเหตุการณ์ในภาค 8 ซึ่งเรย์มุร่วมมือกับยูคาริเข้าต่อสู้กับพวกคางุยะและเอย์ริน

- วิญญาณสถิตธรณี
เป็นคำใบ้ถึงตัวเกมภาค 11 ที่กำลังจะวางแผงในอนาคต

- ในที่นี้จึงเปรียบได้ว่า คบไฟ = ศาลเจ้า = สมองมนุษย์
ในขณะที่ ไฟ = เทพเจ้า = ความเชื่อ

- จะเห็นได้ว่าพลังการฟื้นตัวของเรมิเลียสูงมากจริงๆ

- เหล้าองุ่นที่ทำขึ้น "ในระยะเวลาสั้นๆ"
ซาคุยะมีความสามารถในการควบคุมความเร็วในการไหลของกระแสเวลา
เธอจึงสามารถเร่งเวลาให้องุ่นถูกหมักเป็นเหล้าได้ในเวลาอันสั้นได้

- มีทางใกล้ให้เดินทาง กลับแสวงหาหนทางที่ยาวไกล ... ... วลีดังของเมิ่งจื่อ

- นครจันทราที่ตั้งอยู่บนดวงจันทร์ มีลักษณะเหมือนกับเกนโซวเคียวที่ตั้งอยู่บนพื้นพิภพ
เกนโซวเคียวตัดขาดจากโลกภายนอกด้วยเขตแดน = นครจันทราตัดขาดจากดวงจันทร์เบื้องหน้าด้วยเขตแดน

- จะสังเกตได้ว่า ประชากรในเมืองของนครจันทราเป็นกระต่ายเสียส่วนใหญ่

- อักษรที่เห็นในป้ายตามบ้านเรือนร้านค้า ไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่น

- แถมยังมีประตูอัตโนมัติอีกต่างหาก

- แม้ไม่เอ่ยถึงต้นท้อต้นพลัม มันก็จะสร้างเส้นทางขึ้นใต้ตัวมันเอง
สำนวนจากบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์ฮั่น โดยต้นท้อต้นพลัมนั้นหมายถึง ผู้มีความสามารถ

- ทหารยามใช้ดาบเลเซอร์

- นกน้อยอยู่หนใด ก็ไม่เคยเข้าใจความคิดของห่านหงส์
สำนวนจากบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์ฮั่น

- ชื่อของสัตว์เลี้ยงที่เคยหนีไปยังพื้นพิภพเมื่อนานมาแล้ว
นัยถึง เรย์เซน อุดองเกอิน อินาบะ ซึ่งหนีมายังโลกเมื่อนานมาแล้ว

- ผนึกที่จดหมาย ไม่แน่ใจว่าเป็นเวทมนตร์หรือวิทยาศาสตร์อันล้ำหน้าของนครจันทรา

- รถไฟเตาผิงสายอาโอโมริกำลังเสี่ยงต่อการถูกสั่งระงับกิจการ ... ... ที่มาของท่าไม้ตายของยูคาริในภาคต่อสู้

- เลมูเรีย (Lemuria) เป็นชื่อของเกาะลับแลในตำนานที่ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร

- เสียงประกอบฉากตอนที่เจ้าหญิงโทโยฮิเมะกระโดดลงมาเหยียบกระต่ายน้อย
ที่จริงเป็นเสียงร้อง "มุกิ๊ว" ของกระต่ายน้อย แต่เพื่อความเข้าใจง่าย ทางสำนักพิมพ์จึงแก้ไข

- ภาพ Guest Illust ท้ายเล่ม อักษรที่อยู่ข้างเส้นผมของคางุยะคือชื่อของเธอ (輝夜)



.........................................................................................................................................................................................

กลับไปที่หน้าหลักของหนังสือภาคนี้