SoP - Miko


東方求聞口授 ~ Symposium of Post-mysticism.
โทวโฮวกุมอนคุจุ (ใคร่รู้คำสอนแห่งตะวันออก) ~ งานประชุมสัมมนาแห่งยุคหลังความเชื่อทางศาสนา


.........................................................................................................................................................................................



นักพรตเต๋าผู้ทรงธรรม
{โทโยซาโตะมิมิ โนะ มิโกะ Toyosatomimi no Miko }


ความสามารถ : ฟังเรื่องราวของสิบคนได้ในเวลาเดียวกัน
ความอันตราย : ต่ำ
ความเป็นมิตรต่อมนุษย์ : สูงมาก
สถานที่หลักในการทำกิจกรรม : ผลุบๆโผล่ๆ



นักบุญที่ตื่นขึ้นจากการหลับใหลอันยาวนาน
เธอมีพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดามาตั้งแต่เกิด เป็นบุคคลที่สมควรแก่การเรียกขานว่าเหนือมนุษย์

เธอสามารถเข้าใจเรื่องราวและตอบคำถามของคนสิบคนได้อย่างฉะฉานในเวลาเดียวกัน
ว่ากันว่าในตอนที่ยังเป็นเด็ก เธอสร้างเทวรูปของจตุมหาราชา(四天王)และสร้างวัดจตุมหาราชาขึ้นจากไม้นุรุเดะ
มีเกร็ดเล็กน้อยที่เล่าว่าเธอถือกำเนิดขึ้นในคอกม้า แต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องล้อเล่นขำขันมากกว่า
(เจ้าตัวบอกว่า "ผู้สูงศักดิ์อย่างฉันไม่มีทางถูกคลอดในที่เหม็นอับแบบนั้นได้หรอกค่ะ")(*1)
*1 [เชื่อว่าเป็นเพราะได้รับอิทธิพลมาจากเรื่องของพระเยซู คริสต์]

ปัจจุบันเธอกลายเป็นเซียนที่เหนือล้ำกว่ามนุษย์ไปแล้ว
แต่ยังไม่อาจตัดขาดความผูกพันธ์ที่มีต่อทางโลกได้ จึงมักจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับสังคมมนุษย์อยู่บ่อยครั้ง
คงเป็นความอาลัยอาวรณ์ในสมัยที่ตนยังเป็นนักปกครองอยู่กระมัง

ลักษณะนิสัยจัดว่าผิดคาด เพราะเธอเป็นคนสบายๆ ไม่เคร่งขรึม
แต่เมื่อได้เผชิญหน้ากันโดยตรง กลับรู้สึกว่าไม่มีช่องว่างให้เห็นเลย หรือจะเรียกว่าถูกมองออกอย่างทะลุปรุโปร่งดีก็ไม่รู้ จึงรู้สึกยำเกรงขึ้นมา



{ความสามารถ}

เป็นความสามารถที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน
แต่เชื่อว่านี่เป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิด และจริงๆแล้วเธอยังมีความสามารถเหนือมนุษย์อย่างอื่นอยู่อีก
จะเรียกว่าเป็นยอดมนุษย์มาตั้งแต่เกิดก็คงได้ล่ะมั้ง

การทำความเข้าใจเรื่องราวหลากหลายในเวลาเดียวกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ข้าพเจ้ามีความสามารถในการไม่ลืมเรื่องที่เคยได้ยินก็จริง แต่ก็สามารถจดจำได้ทีละเรื่องตามลำดับเท่านั้น
หากมีคนสองคนมาพูดให้ฟังในเวลาเดียวกัน ส่วนมากจะจำได้เพียงว่าใครเป็นคนพูดเท่านั้น

และต่อให้จำได้ว่าใครพูดก็ไม่สามารถเข้าใจและตอบกลับไปได้
จึงไม่คิดว่าจะมีมนุษย์คนใดที่สามารถทำได้

แต่การที่หูดีเกินไปก็เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตตามปกติ
เธอจึงสวมที่ครอบหูเอาไว้ มันเป็นไอเทมสำหรับตัดเสียงของผู้คนเพื่อทำให้จิตใจสงบ
นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อีกแบบ คือได้ยินเฉพาะเสียงที่เบาบางราวกับจะเลือนหายไปเพราะมีระดับเสียงตรงข้ามกับเสียงผู้คนเหล่านั้น
เรียกว่ามี หู เป็นเครื่องมือทำมาหากินก็ยังได้เลยล่ะมั้ง

ปกติแล้วต่อให้ไม่พูดออกมาโดยตรง มนุษย์เราก็สามารถรู้สิ่งที่ผู้อื่นต้องการได้จากวิธีการพูด สีหน้า และท่าทาง
แต่เชื่อกันว่าเธอมีความสามารถในด้านนี้สูงล้ำกว่ามนุษย์ธรรมดาเป็นอย่างมาก
เธอสามารถรู้ว่าต้องการอะไร และรู้ว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้ความต้องการดังกล่าวก่อตัวเป็นคนผู้นั้นขึ้น
ความสามารถของเธอเป็นความสามารถที่ใกล้เคียงกับการอ่านใจ
แต่ต่างกันตรงที่ การอ่านใจคือการอ่านอดีตและความคิดในปัจจุบัน ส่วนตัวเธอจะอ่านจากนิสัยใจคอและอนาคตของบุคคลนั้น



{ศาสนาพุทธกับลัทธิเต๋า}

ผู้คนเคยเชื่อกันว่าเธอมีศรัทธาอย่างแรงกล้าในศาสนาพุทธ แต่จริงๆแล้วศาสนาพุทธเป็นแค่เครื่องมือทางการเมืองเท่านั้น

เป้าหมายของศาสนาพุทธคือการหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง
จึงเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งต่อโลกแห่งการเมืองที่จำเป็นต้องมุ่งหวังความสงบสุข
เธอคิดว่าเมื่อประชาชนเลื่อมใสในศาสนาพุทธ ก็จะไม่ต่อต้านผู้มีอิทธิพลเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน

ความเชื่อที่ถูกเผยแผ่ในเวลาเดียวกับศาสนาพุทธก็คือ ลัทธิเต๋า
แนวคิดพื้นฐานของลัทธิเต๋าคือการทำความเข้าใจในธรรมชาติและจักรวาล แล้วทำให้มันกลายเป็นสมบัติส่วนตน
จึงเป็นความเชื่อที่น่าหลงใหลสำหรับมนุษย์ที่หมายปองความเป็นใหญ่
ความต่างจากศาสนาพุทธเช่นนี้เอง ทำให้จินตนาการได้ง่ายว่าหากแพร่หลายออกไปแล้วจะทำให้สังคมยุ่งเหยิงปั่นป่วน
เพราะว่าการโค่นล้มผู้มีอิทธิพลซึ่งมีพลังติดตัว จำเป็นต้องมีพลังที่เหนือกว่า

ตัวเธอหมายปองพลังเหนือธรรมชาติ ในขณะที่ใช้ศาสนาพุทธเป็นเครื่องมือทางการเมือง
พลังที่เธอต้องการมากที่สุดในบรรดาพลังทั้งหมด ก็ไม่ได้แตกต่างจากความต้องการของผู้มีอิทธิพลคนอื่น นั่นคือความไม่แก่ไม่ตาย
ดูเหมือนเธอจะเลื่อมใสในลัทธิเต๋าเพราะเหตุผลดังกล่าว เพราะจริงๆแล้วเป้าหมายสูงสุดของลัทธิเต๋าก็คือ ความไม่แก่ไม่ตาย นั่นเอง



{มาตรการรับมือ}

ได้ยินมาว่ามีมนุษย์ในหมู่บ้านจำนวนมากต้องการเป็นลูกศิษย์ของเธอ
มันก็จริงที่ว่าถ้าได้วิชาเซียนมาติดตัวคงทำให้ชีวิตประจำวันเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือ

แต่เธอคงคิดว่าลูกศิษย์พวกนั้นเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น
คงเพราะแบบนั้นล่ะมั้ง ลูกศิษย์ของเซียนจึงเป็นเพียงเด็กวิ่งส่งของเท่านั้น(*2)
*2 [เซียนจะใช้พลังเพื่อตัวเองเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องสอนให้ผู้อื่นเลย]

ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อกันว่า ถ้าแค่อยากได้พลังเหนือมนุษย์มาประดับกายล่ะก็
เลิกคิดจะเป็นลูกศิษย์ของเซียนด้วยความคิดตื้นๆแบบนั้นจะดีกว่า

อีกอย่าง หากได้พลังแบบเซียนมาติดตัว อาจทำให้ถูกยมทูตจ้องเอาชีวิตก็เป็นได้
และนั่นต้องไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ๆ

จะว่าไปแล้วตัวเธอเองก็ให้ความร่วมมือกับมนุษย์เป็นอย่างดี จึงไม่น่าจะต้องหวาดกลัวอะไร
ถ้าเกิดเรื่องไม่ดี เช่น โดนโยวไคไล่ตาม ลองหนีไปหาเธอก็น่าจะได้รับความช่วยเหลือ
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าทางเข้าบ้านของเธอถูกซ่อนไว้ที่ไหนก็เถอะ......(*3)
*3 [ถ้าตะโกนว่า "ช่วยด้วย--- มิโกะเอม่อน---" เธออาจจะได้ยินเพราะหูดีก็เป็นได้]
(ล้อโนบิตะตอนวิ่งมาขอให้โดราเอม่อนช่วยเหลือ......ว่าแต่เธอเคยอ่านด้วยเหรอ อาคิว = _=)"......)



.........................................................................................................................................................................................

กลับไปที่สารบัญของหนังสือเล่มนี้