FS - 01


東方鈴奈庵 ~ Forbidden Scrollery.
โทวโฮวสุซุนะอัน(ร้านสุซุนะอันแห่งตะวันออก) ~ ม้วนบันทึกต้องห้าม


.........................................................................................................................................................................................

เล่ม 1

วางจำหน่ายในวันที่ 26 เดือน 3 ปี 2013
ภายในเล่มประกอบด้วยเนื้อหาตอนที่ 1-5 และมีตอนพิเศษแถมมาด้วยอีกหนึ่งตอน รวมเป็น 5 ตอน
นอกจากนี้ยังมีช่วงรวมภาพต้นแบบตัวละครอยู่ท้ายเล่ม ทำให้ได้เห็นรายละเอียดในการออกแบบอย่างชัดเจน
อนึ่ง ฉบับนี้ยังไม่มีการแถมแผ่นเพลง



ISBN : 978-4-04-120619-5

สำนักพิมพ์ : คาโดคาวะโชะเทน

เรื่อง : ZUN

ภาพ : ฮารุคาวะ โมเอะ



ฉบับภาษาไทย



วางจำหน่ายในวันที่ 20 มกราคม 2015

ด้วยข้อจำกัดด้านเนื้อที่ในแต่ละหน้า ทำให้ผู้แปล (ข้าพเจ้า) ไม่สามารถเขียนอธิบายมุขเพิ่มเติมในบางจุดได้
ในบางจุดก็จำเป็นจะต้องแปลงมุขให้เป็นแบบไทย เพื่อจะได้ไม่ต้องอธิบายยืดยาวเกี่ยวกับการเล่นคำในภาษาญี่ปุ่น
หากแต่แฟนโทโฮบางส่วนก็ต้องการที่จะทราบถึงมุขต้นฉบับเหล่านั้น
ข้าพเจ้าจึงขอทำการอธิบายมุขต้นฉบับต่างๆลงในบล็อกแห่งนี้แทน








แก้ไขคำผิด-คำหาย

ปีกปกหน้า
  ทาง สนพ.ตัดทิ้งไป จึงขอลงไว้ ณ ที่นี้

     ZUN
     สงสัยแค่เรื่องเดียวว่า
     โคสุซุกับคุณโมเอะจะดื่มเหล้า
     ได้เยอะขนาดไหน
     
     
     ฮารุคาวะ โมเอะ
     ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
     นามปากกานี้ตั้งขึ้นในร้านเหล้าตอนนัดคุยงานครั้งที่ 1
     ฉันเองก็ตกใจเหมือนกันค่ะ
     ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ


ภูตผี
  เนื่องจากไม่สามารถทับศัพท์ว่า โยวไค ได้เหมือนกับที่แปลลงในบล็อก จึงต้องใช้คำว่า ภูตผี แทน
  อนึ่ง คำว่าภูตผี(妖怪)ในที่นี้ เป็นคนละคำกับคำว่า ภูตพราย(妖魔)

เก็นโซเคียว ฮาคุเร เรมุ
  ทาง สนพ.ไม่อนุญาตให้ใช้ -ว และ -ย์ ในการกำกับคำ ทำให้การระบุชื่อต่างๆ ไม่เหมือนกับที่เขียนไว้ในบล็อกนี้
  ดังนั้นทาง สนพ.จึงแก้ไขให้กลายเป็น เก็นโซเคียว
  ส่วนชื่อของเรย์มุ ตัด -ย์ ออกไปจึงเหลือเพียง ฮาคุเร เรมุ
  เพราะงั้นหากพบเจอชื่ออื่นในอนาคตที่เขียนไม่เหมือนกับในบล็อกก็ไม่ต้องแปลกใจครับ ' w')/

หน้า 10
  มีนกร้องจิ๊บจิ๊บแค่จุดเดียวตรงช่องกลางช่องเดียวเท่านั้น นอกนั้นเป็นมาริสะที่ร้อง "เฮ้―" ถึง 3 จุดด้วยกัน

หน้า 10 และหน้าอื่นๆ
  คำว่า เวทมนตร์ และ เวท(มนตร์) ไม่ต้องมี -ย์ (ซึ่งจุดนี้ผมไม่เคยพลาด แต่ สนพ.ใส่เพิ่มลงไปเอง)
  "เวทย์" แปลว่า พึงรู้ ควรรู้ จึงต่างจากคำว่า "เวท" อย่างสิ้นเชิง

หน้า 36
  คำว่า ปุ๋ยคอก จริงๆแล้วต้องเป็น ปุ๋ยหมัก
  ในพจนานุกรมระบุคำแปลไว้แบบเดียวว่าปุ๋ยคอก ผมเลยพลาดไปหน่อย
  ตอนนั้นลืมไปเลยว่าปุ๋ยคอกคือผลิตจากมูลสัตว์ ส่วนที่ผลิตจากซากพืชคือปุ๋ยหมักต่างหาก

หน้า 71
  ช่องซ้าย เรย์มุไม่ได้หัวเราะเยาะ "ฮึฮึ" ตรงนั้นเป็นแค่เสียงประกอบฉาก "ฟุ่บ" เพราะเรย์มุหลับตาเฉยๆ

หน้า 77
  "นะค่ะ"... แน่นอนว่าตรงนี้ควรจะเป็น "นะคะ" (ซึ่งจุดนี้ผมไม่เคยพลาดอยู่แล้ว) บางทีคนใส่อักษรคงอ่านลายมือผมพลาดไปกระมัง...

หน้า 80
  ทาง สนพ.ตัดเว้นบรรทัดพลาดนิดหน่อย ทำให้ขาดช่วงเป็น "แต่โคสุซุป-ลุกมันขึ้นมา..." แต่ทุกท่านน่าจะดูออกกันอยู่แล้วว่าเป็นคำว่า "ปลุก"

หน้า 130
  "วิธีรับมือของภูตผี"... ตรงนี้ผมพิมพ์ผิดเองครับ ตามจริงแล้วต้องเป็น "วิธีรับมือภูตผี"

หน้า 131
  ความจริงแล้วไม่มีเสียงประกอบฉาก "แง้" ตรงเหนือศีรษะเรย์มุ

เกี่ยวกับ "ภูเขาเข็ม" และ "รูปถ่ายกับแม่พิมพ์อักษร" และ "การใช้ม้วนภาพ"
  จุดแรกกับจุดที่สาม ผมอ่านอักษรพลาดไปตัวหนึ่ง ทำให้รูปประโยคเพี้ยนไป ส่วนจุดที่สองผมพิมพ์ตกคำว่ารูปถ่ายไป
  กระผมขอยอมรับความผิดพลาดทุกประการและขออภัยทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
  และต้องขอขอบคุณทาง สนพ.ที่ช่วยแก้ไขให้ถูกต้องตามที่ควรจะเป็นครับ m(_ _)m



อธิบายเพิ่มเติม

ปก

- ท่าน ZUN เคยกล่าวในทวิตเตอร์ว่าอยากไปดื่มเหล้ากับนักวาดท่านนี้สักครั้ง แต่ทำไม่ได้ จึงเกิดการคาดเดากันว่า
 1. เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ (20 ปี) แปลว่ายังเป็นนักเรียน/นักศึกษาอยู่เลย
 2. เธอไม่ชอบดื่มเหล้า
 3. เธอแพ้เหล้า
 4. เธอถูกสั่งให้ปกปิดตัวตน
- เรื่องการเลือกนักวาด
 ข่าวว่าทาง สนพ.ทำการเลือกนักวาดหลายคนและให้ทดลองวาดภาพอิลลัสต์ แล้วส่งมาให้ท่าน ZUN เลือก
 ท่าน ZUN กล่าวว่า "ภาพอิลลัสต์ที่ได้รับมาในครั้งแรกสุด ร่างครึ่งผีของโยวมุดูแล้วรู้สึกหนักเหมือนก้อนหินเลยรู้สึกว่าน่าสนุกดี"
 จึงเลือกนักวาดท่านนี้มาเป็นผู้วาดโทโฮภาคใหม่
- ปัจจุบันเป็นที่กระจ่างชัดแล้วว่า นักวาดท่านนี้เริ่มวาดผลงานเรื่องนี้เป็นชิ้นแรก โดยเริ่มวาดเรื่องนี้ตอนอายุได้เพียง 15 ปีเท่านั้น !


ตอนที่ 1

- ถ้าว่ากันตามเนื้อเรื่องโทโฮ ตอนนี้อาคิวอายุ 18 ปีแล้ว ^ ^) เปิดไหล่แล้วดูเป็นสาวขึ้นเยอะเลย
- แล้วเรย์มุกับมาริสะล่ะ ? อายุเท่าไหร่กันแล้วหว่า......
- อาคิวรู้ว่ามาริสะเป็นหัวขโมย พอเห็นว่าคนที่เดินชนคือมาริสะจึงรีบระวังตัวทันที
- ภาคนี้ฉายาของตัวละครจะเน้นผสมผสานระหว่างภาษาตะวันตกกับภาษาญี่ปุ่น
- Biblophilia = Biblo(หนังสือ) + Philia(รักชอบ) = คนรักหนังสือ
- Savant เป็นภาษาฝรั่งเศส อ่านว่า ซาแวงต์ แปลว่า นักปราชญ์
- อาคิวมีความสามารถในการไม่ลืมสิ่งที่เคยเห็น ดังนั้นแม้อ่านไม่ออก แต่เธอก็จำภาพและอักษรในหนังสือได้อยู่ดี
- โคสุซุพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับอาคิว ดูเหมือนทั้งสองจะสนิทกันในระดับหนึ่ง
- ในบรรดา "หนังสือจากภายนอกที่ธรรมดาสุดๆ" ของเธอ มีนิตยสาร CompACE ปนอยู่ด้วย (อยู่ตรงช่องกลาง ด้านล่างสุด) (ฮา)
- หนังสือขอขมาของเทนกุ มาจากตำนานของวัด บุทสึเกนจิ
 ว่ากันว่าเคยมีเทนกุคอยกลั่นแกล้งนักเดินทาง ชาวบ้านจึงขอให้พระสงฆ์รูปหนึ่งไปกำราบ
 เมื่อพระสงฆ์ตำหนิติเตียนเทนกุก็มีกระดาษแผ่นหนึ่งตกมา กระดาษแผ่นนั้นมีแต่ตัวอักษรที่ไม่มีใครรู้จัก จึงไม่รู้ว่ามันเขียนอะไรเอาไว้บ้าง
 แต่หลังจากนั้นเทนกุก็หายตัวไปอย่างถาวร ทุกคนจึงเชื่อว่ามันเป็นหนังสือขอขมาของเทนกุ
- อาจกล่าวได้ว่ามาริสะเป็นคนรักสัตว์ ถึงกับเตรียมขนมไว้เลี้ยงนกเลยทีเดียว
 ก่อนหน้านี้ก็เคยเล่นกับแมว อีกา และ(แกล้ง)โยวไคกระต่ายในศาลเจ้าด้วย
- วิธีเรียก "ร้านของบ้านโคสุซุ" ของเรย์มุนั้น ในภาษาญี่ปุ่นถือว่าเป็นวิธีเรียกแบบรู้จักคุ้นเคยกันพอสมควร
 อาจจะรู้จักกันมาก่อนหน้านี้ก็เป็นได้ หรืออาจจะแค่พิมพ์ผิดก็ได้ (ฮา)
- คอผ้ากันเปื้อนเขียนว่า KOSUZU ส่วนชายผ้ากันเปื้อนมีชื่อร้านปักเอาไว้
- แว่น ! และเครื่องเสียงแบบเดียวกับที่อาคิวชอบใช้
 (แต่ใส่แว่นเฉพาะเวลาอ่านหนังสือแบบนี้คงเรียกว่า สาวแว่น ได้ไม่เต็มปากเท่าไหร่)
- หนังสือของอาคิวตีพิมพ์ที่นี่ ? แปลว่ามีเครื่องพิมพ์ด้วย ?
- ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าคนที่มาเรียกเธอไปกินข้าว และ "คนในบ้าน" ที่เธอพูดถึงคือใคร พ่อแม่พี่น้อง ? หรือสามี ?
- โคสุซุเรียกเรย์มุและมาริสะด้วยคำว่า "คุณ-" นำหน้า หรือว่าเธอจะมีอายุน้อยกว่า ? หรือแค่เพราะเป็นลูกค้า
- ภูตสถิตหนังสือ คำใบ้ตัวละครใหม่ ?
- ตำราเวทที่จอมมหาเวทเหลือทิ้งไว้ให้ลูกศิษย์.... ใครกันหนอ
- ภาษาเทนกุยุคโบราณ จัดว่าเป็นข้อมูลใหม่ บางทีอาจเป็นคำบอกใบ้ถึงตัวละครใหม่
- เรย์มุบอกว่าเกนโซวเคียวมีแต่พวกแบบนี้ ? แปลว่าในหมู่บ้านอาจมีมนุษย์คนอื่นที่มีความสามารถพิเศษอยู่ด้วย
- เนโครโนมิคอน แต่คัดลอกด้วยอักษรคันจิ ? ไม่รู้ว่าเป็นภาษาใด เพราะบางทีอาจเป็นภาษาจีน ?
- เรย์มุเรียกเธอว่า "โคสุซุจัง" ......เป็นครั้งแรกที่เรย์มุเรียกคนอื่นโดยลงท้ายด้วย -จัง หรือว่าโคสุซุจะอายุน้อยกว่าเรย์มุจริงๆ ?
- นามสกุลโมโตโอริ ทำให้เชื่อกันว่าเธอมีต้นแบบมาจาก โมโตโอริ โนรินากะ
 นักวิชาการในยุคเอโดะผู้มีชื่อเสียงและอิทธิพลที่สุดในญี่ปุ่น ผลงานสำคัญคือการเขียนบทวิจารณ์ตำนานเทพญี่ปุ่น และบันทึกตำนานเกนจิ
 ซึ่งผู้เขียนบันทึกตำนานเทพญี่ปุ่นก็คือ ฮิเอดะ โนะ อาเระ ผู้เป็นต้นแบบของตัวละคร อาคิว นั่นเอง


ตอนที่ 2

- ตัวละครที่ปรากฏในช่วงพรรณนา ได้แก่ โคมาจิ ฮินะ เชน ซุยกะ มิโนริโกะ ชิซึฮะ
- มิโนริโกะไม่ใส่รองเท้า แต่ชิซึฮะใส่รองเท้าและถุงเท้า ชายกระโปรงของชิซึฮะยังคงสวยเว่อร์แบบอธิบายรูปลักษณ์ที่แท้จริงได้ยากตามเคย
- ศัพท์ญี่ปุ่นไม่อาจบ่งชี้ได้ว่าเป็นปู่หรือตา แต่ปกติแล้วญี่ปุ่นโบราณจะแต่งเข้าบ้านชาย ดังนั้นจึงน่าจะเป็นปู่
- คำว่า แมลง ใช้เรียกพวกที่มี 6 ขา ส่วนคำว่า แมง ใช้เรียกพวกที่มี 8 หรือ 10 ขา ตอนนี้ขอแปลรวมๆว่า แมลง ไปก่อน
- รินโนะสุเกะรู้เรื่องของโลกภายนอก "ในยุคปัจจุบัน" ตามเคย ไม่แน่ชัดว่าเขารู้ได้อย่างไร อาจรู้จากหนังสือหรือนิตยสารที่หลุดหลงเข้ามาก็เป็นได้
- รองเท้าของเรย์มุสวยมาก > <)/
- เล่นคำพ้องเสียง ยูวคิ ระหว่างคำว่า 有機 (อินทรีย์) กับ 幽鬼 (ภูตผี)
- ตอนอยู่ที่โลกภายนอกก็ปล่อยเงินกู้ พอมาอยู่ในเกนโซวเคียวก็เริ่มกิจการซื้อขายใบไม้ มามิโซวนี่ปรับตัวเก่งจนน่ากลัวจริงๆ
- ฉากหมู่บ้านในตอนที่ 2 นี้แทบไม่มีผู้คนเลย อาจเป็นเพราะอากาศหนาวเลยอยู่แต่ในบ้านกันก็เป็นได้
- ไม้ปัดรังควานของเรย์มุเป็นแบบด้ามสั้น ซึ่งผิดจากภาพลักษณ์ปกติที่ท่าน ZUN นิยมวาดไว้ในเกมให้เป็นด้ามยาวมาก (เกือบเท่าความสูงของเรย์มุ)
- อาหารของเรย์มุ ได้แก่ ข้าวสวย ปลาย่าง และน้ำชา
- ในถังน้ำมีคิสึเมะอยู่ด้วย ? คาดว่าเป็นมุขล้อเลียนเฉยๆ
- ไม่แน่ชัดว่าเรย์มุซัดมาริสะกระเด็นออกมานอกบ้านด้วยอะไร
- เรย์มุปล่อยผมเพื่อเช็ดผมให้แห้ง > <)/
- เรย์มุโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ (ฮา)
- นับว่าเป็นโชคดีของสามภูตที่พวกเรย์มุไม่ได้คิดว่าพวกเธอแกล้งสร้างภาพลวงตามาหลอกพวกเรย์มุ ไม่งั้นคง......
- เกือบเห็นใต้กระโปรงของโคสุซุในจังหวะที่เธอวิ่งขึ้นบันไดศาลเจ้าแล้ว > ////<) แต่คาดว่าคงเป็น Drawers ตามเคย


ตอนที่ 3

- โคสุซุมาถึงศาลเจ้าได้ด้วยตัวคนเดียว
- ในลิ้นชักของเรย์มุ มีเสื้อตัวในสีขาว(แขนกุด)ลักษณะแบบชุดตะวันตก ริบบิ้น กิ่งไม้หอมสำหรับทำพิธี ไม้ปัดรังควานแบบสั้น เข็ม ยันต์
 (ส่วนทางขวาสุด ถัดจากยันต์ ดูไม่ออกจริงๆว่าเป็นอะไร)
- อุปกรณ์ที่เรย์มุหยิบออกมาคือ ยันต์และเข็ม ในฉากต่อสู้จะเห็นว่ามีลูกแก้วหยินหยาง 2 ลูกเป็นออพชั่นแบบในเกมด้วย
- การกำราบโยวไคอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรมพร้อมฉากต่อสู้[ในมังกะ]ครั้งแรกของโทโฮ ดูเหมือนเรย์มุจะใช้ยันต์กางเขตแดนด้วย
- ฉากบ้านมาริสะ ภาพที่สอง จะเห็นว่ามีสัตว์เล็กสัตว์น้อย เช่น ค้างคาว หนู กระรอก วิ่งพล่านหนีออกมา
- เรย์มุในฉากต่อสู้โคตรเท่เลย ^ 0^) สีหน้าจริงจังดีซะด้วย
- หนังสือรวมภาพของตระกูลฮิเอดะ ? ผนึกโยวไค ?
- กลไกของเอนเอนระคือ สิงคน > ตามไปบ้าน > พยายามเผาบ้าน > (ถ้าพลาด) สิงคนที่อยู่ใกล้ > ตามไปบ้าน >......
- สิ่งที่โยวไครังเกียจ ตัวอย่างที่โคสุซุยกมาได้แก่ กิ่งไม้ศักดิ์สิทธิ์ ยันต์ ไม้หอม
- เรย์มุเองก็ไม่ได้รู้ไปซะทุกเรื่อง ถ้าไม่มีให้ศึกษาก็ไม่รู้เหมือนกัน
- ซาคุยะรัดแถบเก็บมีดไว้ที่ต้นขาเหมือนในภาพต้นฉบับของตัวเกมภาค 6
- คฤหาสน์มารแดงมีผู้อาศัยอยู่มากมาย ทำให้ยากแก่การคาดเดาว่าเอนเอนระจะไปสิงใครต่อ
 (แต่ที่จริงก็อาจจะเดาง่ายเกินคาด เพราะปกติที่คฤหาสน์มารแดงเองก็มีแต่คนที่อาศัยอยู่ในนั้น ไม่ค่อยมีแขกจากที่อื่นเช่นกัน)
- ฉากเดินทาง มีตัวละครมากมายปรากฏตัว ดังนี้
 เรย์มุ มาริสะ โคสุซุ เรมิเลีย แพชูลี่ ฟลังดร์ (โผล่แค่ปลายปีก) ฮอบก๊อบลิน (จากภาคอิบาระคาเซน) (กำลังเสิร์ฟน้ำชา)
 อิคุ นุเอะ ฟุโตะ เซย์กะ โยชิกะ อิจิริน อุนซัน นาซูริน เทอิ (โผล่มาแค่ศีรษะด้านหลัง)
- ร้านโซบะในฉากดังกล่าว คาดว่าเป็นร้านเดียวกับที่ปรากฏในภาคอิบาระคาเซน
- มีฉากสรุปคะแนนตอนจบด่านแบบในเกมด้วย (ฮา)
- อาคิวรู้เห็นเป็นใจกับการชุบชีวิตโยวไคที่ถูกผนึก ?
- ไม่มีทีท่าว่าโคสุซุจะสำนึกผิดเลยแฮะ ท่าทางเด็กคนนี้จะน่ากลัวกว่าที่คิดซะแล้ว (ฮา)


ตอนที่ 4

- ในสารานุกรม บทของเลตตี้กล่าวไว้ว่า
 "เธอมิได้ทำให้ลมพัดหรือหิมะตกโดยตรง แต่สามารถเสริมพลังให้กับฤดูหนาวตามธรรมชาติได้"
- ในฉากหิมะตก ตัวละครที่ปรากฏตัวได้แก่ เคียวโกะ มิสเทีย (วงดนตรีของทั้งสอง ตั้งขึ้นตั้งแต่ประมาณปีที่แล้ว) โยวมุ และยูคาริ
- ร้านสุซุนะอันมีขนาดเล็กน่าดู เมื่อเทียบกับบ้านเรือนใกล้เคียง หรือบางทีนี่อาจเป็นแค่ร้าน แต่ตัวบ้านสำหรับอาศัยคือหลังข้างๆ ?
- เรย์มุและมาริสะสวมถุงมือกันความเย็น และดูเหมือนชุดของเรย์มุจะถูกเสริมความหนาเป็นพิเศษเพื่อกันหนาว
- ภาพเกนโซวเคียวที่มองเห็นจากศาลเจ้ายังคงคล้ายกับตอนก่อนหน้านี้ มองเห็นทั้งหมู่บ้านมนุษย์ ทะเลสาบ และคฤหาสน์มารแดง
- Disguise แปลว่า ปลอมแปลง ปลอมตัว
- ฉายาของเธอมาจากสำนวน "คิดเงินค่าหนังของทานุกิที่ยังไม่ถูกจับตัว" หมายถึงการด่วนทำอะไรล่วงหน้าทั้งที่ยังไม่มีความแน่นอน


ตอนที่ 5

- มามิโซวใช้คำว่า "กลับไปแล้ว" ในตอนที่ทสึคุโมะงามิ(ภูตสถิตสิ่งของ)กลับไปเป็นเครื่องครัวธรรมดา แปลว่าพวกมันแค่สิงอาศัยเฉยๆ ?
- มามิโซวแปลงร่างเป็นกองไฟได้ด้วยแฮะ
- มามิโซวหางใหญ่มากจนนั่งบนหางของตัวเองได้ ตามเนื้อหาบอกว่ายิ่งหางใหญ่ยิ่งพลังเยอะเสียด้วยสิ
- มามิโซวสายตาไม่ค่อยดี ?
- ตามเนื้อหาในสารานุกรมบอกว่าหมู่บ้านมนุษย์มีกิจการร้านค้าที่เปิดยามค่ำคืนเพื่อบริการโยวไคด้วย


ตอนพิเศษ+ภาพร่างต้นแบบ

- แก๊งก่อเสียงดังมากันครบเลย ทั้งสามพี่น้องปริซึมริเวอร์ และ มิสเทียกับเคียวโกะ
- เคียวโกะพยายามล่อลวงเบียคุเรนเข้าวงซะงั้น แถมคานาโกะยกนิ้วให้ซะด้วย (ฮา)
- ยูกิ ในเวอร์ชั่นนี้ช่างมีหน้าอกน้อยเหลือเกิน ผิดจากภาพลักษณ์ที่คนส่วนใหญ่ชอบวาดกัน (ฮา)
- ชื่อนิทานที่แปลลงในหนังสือ เป็นชื่อที่มีคนเคยแปลไว้ เลยไม่อยากขัดศรัทธา ขอใช้ไปตามนั้น
 แต่ชื่อจริงของนิทานคือ หม้อน้ำชาปันสุข เป็นเรื่องของทานุกิที่ปลอมตัวเป็นหม้อน้ำชาเพื่อทดแทนบุญคุณมนุษย์ที่ช่วยชีวิตมันจากกับดัก
- บนเตียงของมาริสะมีข้าวของอยู่เต็มไป
 แว่นก็อกเกิ้ล ค้างคาว กรงนก คางคก เตาแปดวิถีมินิ แมงมุม หนังสือ แมวดำ หนู อุปกรณ์เย็บผ้า ม้วนไหม กรรไกร ขวด กิ้งก่ามีปีก



.........................................................................................................................................................................................

กลับไปที่หน้าหลักของหนังสือภาคนี้