ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของโทโฮ


สวัสดีครับ เซเบอร์ครับผม ' w')/

พอเป็นช่วงที่ไม่มีข่าวสาร มันก็ไม่มีข่าวสาร
แต่พอถึงช่วงที่ข่าวทะลักทลาย มันก็มาแบบทะลักทลายเลยจริงๆ

คราวนี้เป็นทีของหนังสือฉลองครบรอบ 40 ปีงาน Comike ครับ
โดยเป็นที่ทราบกันมาล่วงหน้าระยะหนึ่งแล้วว่า หนังสือเล่มนี้มีบทสัมภาษณ์ของท่าน ZUN อยู่ด้วย
แม้ตอนแรกทุกคนไม่ได้คาดหวังว่าจะมีอะไรเป็นพิเศษ แต่สุดท้ายแล้วมันก็มีอะไรที่พิเศษมาให้อ่านจนได้

ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยบทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม
แต่ขอยกเนื้อหาส่วนสำคัญที่มีการเผยแพร่มาแปลคร่าวๆให้อ่านกันก่อนละกันครับ ' w')~

http://yaraon-blog.com/archives/68001



1.ท่าน ZUN คิดว่าโทโฮยังไม่จัดว่ามีชื่อเสียงโด่งดัง เพราะบุคคลทั่วไปแทบไม่มีใครรู้จักเลย
2.ท่าน ZUN รู้สึกเหมือนโทโฮเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น และรู้สึกอย่างนี้มาตั้งแต่ 12 ปีก่อนแล้ว (ช่วงที่วางขายภาค 7)
3.ท่าน ZUN คิดว่าก้าวแรกของคำว่าโด่งดังคือ ขึ้นรถไฟแล้วต้องเจอคนที่รู้จักโทโฮอย่างน้อย 1 คนในโบกี้เดียวกัน
4.ท่าน ZUN คิดว่าโทโฮยังไม่โด่งดังเลยสักนิด เลยอยากทำให้โด่งดังไว้ก่อน
5.ผู้สัมภาษณ์บอกว่า ช่วงนี้ต่อให้ได้เป็นอนิเมะ สุดท้ายก็ไปจบที่เครื่องปาจิงโกะ เหมือนเป็นเส้นทางแห่งการ "เสียของ" เลย
6.ท่าน ZUN คิดว่า การถูกทำให้เสียของนั้นเป็นเรื่องน่าเศร้า มีแค่ผู้สร้างเท่านั้นที่มีสิทธิทำให้มันเสียของ คนอื่นไม่ควรทำ
7.ท่าน ZUN คิดว่า ทุกคนคงดีใจที่ผลงานของตนได้เป็นอนิเมะ แต่มันเป็นแค่ความดีใจที่จบลงใน 1 ซีซั่นเท่านั้น
8.ท่าน ZUN คิดว่า ไม่ควรทำอนิเมะออกมาแบบมักง่าย
9.ท่าน ZUN บอกว่า สาเหตุที่เคยปฏิเสธการทำอนิเมะก็คือ ถ้าต้องทำจริงๆก็อยากทำด้วยตัวเอง ซึ่งไม่ใช่ว่าเพิ่งมาพูดเอาตอนนี้ เพราะเคยพูดแบบนี้มานานแล้ว
  ไม่มีทางที่จะไม่อยากทำเรื่องน่าสนุกแบบนั้นอยู่แล้ว แต่ตอนนี้กำลังทำงานอื่นอยู่ แถมไม่รู้วิธีทำอนิเมะด้วย
  ดังนั้นเลยปฏิเสธทุกคนไปว่า "ตอนนี้ไม่ว่างเลยไม่ทำอนิเมะ" เพราะไม่อยากให้คนอื่นทำเสียของตามอำเภอใจ
10.ท่าน ZUN บอกว่า ถ้าต้องทำอนิเมะก็อยากจะเขียนบทเองทั้งหมด อยากแต่งเพลง อยากออกแบบตัวละครด้วย แต่คงไม่วาดเอง
11.ท่าน ZUN บอกว่าจะปล่อยตัวละครที่มีบทเฉพาะในอนิเมะ รวมถึงปล่อยเนื้อเรื่องเฉพาะสำหรับอนิเมะด้วย
12.ท่าน ZUN ไม่อยากให้เป็นอนิเมะที่เอวังในซีซั่นเดียว
13.ท่าน ZUN บอกว่าอยากทำเป็นภาพยนตร์มากกว่าอนิเมะ เพราะอนิเมะต้องพึ่งพาสปอนเซอร์เยอะ แถมกลัวเดินเนื้อเรื่องได้ชักช้ายืดยาดด้วย
14.ผู้สัมภาษณ์บอกว่า ทำเป็น Live Action เลยก็ได้นี่นา ? แต่ท่าน ZUN บอกว่าไม่อยากทำแบบนั้น
15.ท่าน ZUN ยืนยันตามเดิมว่าอยากสร้างร้านบาร์เหล้าของตัวเองขึ้นมา



......ซึ่งก็......
หลายๆอย่างตรงกับที่ผมเคยกล่าวไว้ใน ความเห็นที่ 6 ของกระทู้นี้
สิ่งที่เพิ่มเติมจากเดิมก็คือ ประเด็นที่ว่าอยากทำเป็นภาพยนตร์ ซึ่งผมคิดว่ายากกว่าอนิเมะอีกนะ (ฮา)


สำหรับแฟนโทโฮชาวญี่ปุ่นเองก็เกิดความกังวลขึ้นมาพอสมควร อาทิเช่น

- เกรงว่าไม่ทำเป็น Official อนิเมะออกมาเลย จะเป็นการดีต่อโทโฮมากกว่า
- เกรงว่าจะมีเนื้อหาขัดแย้งกับโดจินอนิเมะที่เคยทำกันมา
- เกรงว่าเสียงพากย์จะไม่ตรงกับที่เคยอวยไว้ในโดจินอนิเมะ
- เกรงว่าจะซ้ำรอยเรือรบที่ทำอนิเมะออกมาได้ไม่ถูกใจแฟนๆเอาเสียเลย
- เกรงว่าท่าน ZUN จะแต่งเนื้อเรื่องได้จืดชืดจนทำเสียของซะเอง
- เกรงว่าจะทำให้ชาวโดจินแต่งเรื่องลงโดจินได้ยากขึ้น
- ฯลฯ

โดยประเด็นที่น่าสนใจก็คือ
- เกรงว่าท่าน ZUN จะเปลี่ยนแปลงไป
จากเดิมที่อนุรักษ์นิยมโดจินแบบขวาจัด กลายเป็นทำเพื่อการค้ามากขึ้น ทำเพื่อชื่อเสียงมากขึ้น

ในขณะที่แฟนโทโฮส่วนหนึ่งกล่าวไว้ว่า
- แม้การพูดแบบนี้ในตอนนี้อาจฟังดูเหมือนข้อแก้ตัว แต่คุณ ZUN อาจคิดแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้วก็ได้
- การพบปะพูดคุยกับคนมากมาย โดยเฉพาะในงานสัมนาเกมอินดี้ คงทำให้คุณ ZUN เปลี่ยนแนวคิดไป
- ไม่ว่าความคิดจะเหมือนเดิมหรือเปลี่ยนไปยังไง สเกลของโทโฮใหญ่โตเกินกว่าจะเป็นโดจินมาตั้งนานแล้วนี่นา




ชาวญี่ปุ่นจึงสรุปความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโทโฮในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ดังนี้

เริ่มต้นโครงการ Play Doujin (อนุญาตให้เอาเกมโดจินที่ล้อเลียนโทโฮไปวางขายบนเครื่อง PlayStaion ได้)
ยอมส่งตัวละครโทโฮไปเป็นแขกรับเชิญในเกมเชิงพาณิชย์ต่างๆ เช่น Lord of Vermilion
ยอมส่งเพลงโทโฮและอนุญาตให้เพลงโดจินของโทโฮไปลงในเกมแนวดนตรีของค่ายเกมพาณิชย์
การพูดถึงการ "ฆ่า" อย่างเป็นเรื่องเป็นราวในโคสุซุตอนที่ 25 และในเกมภาค 15
การเชื่อมโยงเนื้อเรื่องแบบชัดเจนจากภาค 14.5 ไปยังภาค 15
การเชื่อมโยงโลกภายนอกกับเกนโซวเคียวอย่างเป็นรูปธรรมในภาค 14.5
ระบบแปลกใหม่ของตัวเกมภาค 15 ที่เน้น เกิด ตาย เวียนวน
การทำนิตยสารโทโฮอย่างเป็นการทาง (ข่าว) พร้อมด้วยซีรี่ส์ใหม่ในนิตยสาร
การพูดถึงอนิเมะในครั้งนี้


ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้แฟนโทโฮชาวญี่ปุ่นเรียกช่วงเวลานี้ว่า
"ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง"


นอกจากนี้ยังมีบทสัมภาษณ์ในหนังสือต่างประเทศที่เพิ่งได้รับอนุญาตให้เปิดเผยเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
โดยบทสัมภาษณ์ดังกล่าวมีสาระสำคัญอยู่ประการหนึ่งคือ

เนื่องจากผม(ZUN)ไม่สามารถแปลภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาอื่นได้อย่างถูกต้อง
จึงไม่คิดมากกับการที่มีคนนำโทโฮไปแปลเป็นภาษาอื่นแล้วทำเป็นแพทช์ภาษาต่างประเทศออกมา

กับบทพูดในคอลัมน์กินดื่มเมื่อหลายเดือนก่อนที่บอกว่า

เมล็ดพันธุ์ที่หว่านไปเมื่อ 2 ปีก่อนกำลังผลิดอกออกผลแล้ว


...ยิ่งไปกว่านั้น ในฉากจบหมายเลข 3 ของภาค 15 นั้น...
( !! SPOILER ALERT !! )
(เขียนด้วยตัวอักษรสีขาว ท่านใดยังไม่อยากอ่าน กรุณาอย่าลาก Crop ตัวหนังสือเหล่านี้)

พาวเวอร์สโตนแห่งนครจันทราที่สามารถเปลี่ยนตำนานเมืองให้เป็นรูปธรรมได้ ยังอยู่กับมาริสะ
แล้วยูคาริก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน มาริสะคิดว่าเธอคงมายึดสิ่งนี้ไปทำลายแน่ เพราะมันเป็นอันตรายแก่เกนโซวเคียว
แต่เปล่าเลย ยูคาริบอกว่าไม่ได้คิดแบบนั้น ของแค่นี้ไม่ก่อให้เกิดความวุ่นวายเหมือนที่มาริสะคิด
นอกจากนี้ยังทำให้ เกนโซวเคียวสามารถเปลี่ยนแปลงไปมากกว่าเดิม ได้อีกด้วย
มาริสะแปลกใจเพราะเคยคิดมาตลอดว่ายูคาริเป็นคนที่ปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงเพื่อปกป้องเกนโซวเคียว
สุดท้ายยูคาริก็หายตัวไปโดยไม่ทำอะไรกับพาวเวอร์สโตน แล้วมาริสะก็คิดว่า จุดประสงค์ของยูคาริคือการปกป้องเกนโซวเคียว
และเพื่อการนั้น ต่อให้ต้องรุกรานโลกภายนอกหรือนครจันทรา ยูคาริคงไม่เกี่ยงแน่นอน
พอคิดได้แบบนั้น มาริสะก็หนาวสันหลังขึ้นมา เอวัง


แน่นอนว่าด้วยการเดินเครื่องทั้งในเกมและนอกเกมที่เข้มข้นขึ้นอย่างกะทันหันแบบนี้ ยิ่งทำให้เป็นที่น่าสังเกตว่า
ท่าน ZUN เริ่มเอาจริงแล้ว


ไม่ว่าแฟนโทโฮแต่ละท่านจะมีความคิดเห็นอย่างไรต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าหลังจากนี้โทโฮจะสนุกสนานและน่าติดตามขึ้นอีกมากแน่นอนครับ ^ ^)



ปล.
เกี่ยวกับเรื่อง "ฆ่า" ในโคสุซุตอนที่ 25
เป็นที่กล่าวขานกันมากมายว่านั่นเป็นการ "ฆ่า" ครั้งแรกในเนื้อเรื่องโทโฮ
แถมยังเกิดขึ้นด้วยน้ำมือของตัวเอกอย่างเรย์มุด้วย
ซึ่งผมมองว่าเป็นการแปลและตีความที่ผิดพลาดมากกว่า
เพราะแม้ก่อนการต่อสู้จะคุยกันเรื่องการ "ฆ่า(殺)โดยเปล่าประโยชน์"
แต่สุดท้ายเรย์มุก็ยังคงพูดเหมือนเดิมว่า "ถ้าเป็นโยวไคก็ต้องกำราบ(退治)"
ซึ่งคำว่า "退治" นี้ ถ้าแปลเป็นภาษาอังกฤษโดยตรงจะได้คำว่า Extermination (ทำลายล้าง กำจัด)
? หมายความว่าเรย์มุกำจัดโยวไคจนพินาศสิ้นไปเลย ?
คำตอบคือ ไม่เลยครับ คำนี้ควรแปลเป็นไทยว่า กำราบ เสียมากกว่า
เพราะไม่ว่าจะใช้ "คำนี้" ในการสู้กับโยวไคมากี่ภาคก็ไม่เคยมีโยวไคตนไหน "ถึงตาย" เลย
หากบอกว่าคำนี้หมายถึงการฆ่า ป่านนี้ตัวละครในโทโฮคงเหลือแค่เรย์มุกับมาริสะแล้ว (ฮา)
อ้อ ไม่สิ โมโคว คางุยะ เอย์ริน ไม่มีวันตายนี่นะ XD

แม้ว่าในภาพการ์ตูนจะดูเหมือนโยวไคถูกเล่นงานจนพินาศ
แต่หากไม่ลืมกันก็น่าจะจำได้ว่า สารานุกรม เคยกล่าวถึงลักษณะของโยวไคเอาไว้ดังนี้
・โยวไค มีร่างเนื้อที่แข็งแกร่งกว่ามนุษย์, แม้ถูกเล่นงานจนกระจุยเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ชั่วประเดี๋ยวก็หายดีดังเดิม
・โยวไค ได้รับผลกระทบจากความเชื่อต่างๆง่ายกว่ามนุษย์, Damage ทางจิตใจอาจเป็นผลให้ถึงแก่ชีวิตได้
และอีกวิธีคือ การเลิกเชื่อว่าโยวไคดังกล่าวมีตัวตน (เช่น การอธิบายว่าไม่ใช่โยวไค แต่เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ)

ดังนั้นในประเด็นนี้ผมจึงปักธงอยู่ฝั่ง "เรย์มุแค่กำราบ ไม่ได้ฆ่า" ครับ
ส่วนแฟนโทโฮท่านอื่นมีความเห็นอย่างไรก็สุดแล้วแต่พิจารณาของแต่ละท่านล่ะครับ
ผมคงไม่เข้าไปก้าวก่ายในจุดนั้น เนื่องจากมีหน้าที่แปลเพียงอย่างเดียว = w=)a



วันนี้คงต้องขอลาไปก่อนแต่เพียงเท่านี้
ขอให้ทุกท่านสนุกสนาน(?)กับภาค 15 นะครับ ^ 0^)

.....
....
...
..
.

4 ความคิดเห็น:

  1. ถ้า"ฆ่า"จริงๆคงไม่ได้ออกมาพูดโต้ตอบหลังแพ้แล้วล่ะ

    ตอบลบ
  2. อ่านแล้วขนลุกดี แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีใครตายเลยนี่นะ?

    ตอบลบ
  3. อ่านตรง spoil แล้วขนลุกจริงๆนะ

    แต่ยังไงก็เชื่อ และเชียร์ท่าน ZUN ต่อไปครับ

    ตอบลบ
  4. ถ้าเค้าจะเอาไปทำกำไรบ้าง มันก็สิทธิของเค้านะ lol ไหนๆก็ทำให้พวกเราได้มีวันนี้ ที่enjoy touhou นี่

    ตอบลบ